ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -๑' เส้นทางรัก '๑-

    ลำดับตอนที่ #1 : ความต่าง

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 50


    เช้าวันใหม่ที่สดใสของเมืองใหญ่ที่ตึกสูงระฟ้า เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่ของใครหลายๆคน

    และก็เป็นอีกวันของเธอ

    ผมสีน้ำตาลระต้นคอ ขนตายาว ใบหน้าขาวนวลผิวละเอียดดุจเด็กแรกรุ่น


    "งานที่ให้ไปทำเสร็จหรือยัง" สาวใหญ่ผู้นั้นกล่าว


    "เออ....คือว่าใกล้เรียบร้อยแล้วค่ะท่าน" ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวอย่างเกรงกลัว


    "ฉันสั่งนะ....เข้าใจใช่มั๊ย ฉันสั่งไปตั้งนานแล้วนะ ทำงานกันยังไงเนี๊ย" เธอกล่าวอย่างหัวเสีย

    "เออ...คือ....คือว่า....คือ ...
    "ลูกน้องกล่าวอย่างเสียขวัญ


    "คือ...คือว่า...อะไรกันคะ แหม..คุณแม่คะ อารมณ์เสียอีกแล้วหรอคะ" หญิงสาวตากลม ผมยาวสลวย

    สีน้ำตาลธรรมชาติกล่าวขึ้นขัด

     เปรียบดุลเสียงสวรรค์ที่มาช่วยชีวิตลูกน้องสาวไว้


    "คุณแม่คะ   จะเครียดอะไรนักคะเนี๊ย ระวังๆสุขภาพไว้ก็ดีนะคะ อายุมากแล้วนะคะ"

    หญิงสาวอีกคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่เอ่ย


    "ก็พวกนี้สิ ทำงานอะไรกันไม่ได้เรื่อง...." สาวใหญ่กล่าวอย่างหยุดหงิด


    "งานนะไว้ก่อนได้ไหมคะ ....คือว่าตอนนี้  ปอหิวแล้วน่ะค่ะ ไปทานข้าวกันนะคะ"


    "โถ่....ปอหิวอีกแล้วหรอ พี่เห็นเพิ่งกินไปไม่ใช่หรอ"


    "ก็มันหิวจริงๆนี่นา" หญิงสาวไม่พูดเปล่า เอามือลูบท้องเพื่อเป็นสัญญาณบอก


    "จ้าๆ งั้นแม่คะ ไปทานข้าวด้วยกันนะคะ  น้า นะคะ ไปทานด้วยกัน"

    หญิงสาวตรงไปลากแม่ผู้ให้กำเนิดเธอเพื่อไปทานอาหารด้วยกัน


    "หวาดดีคร้าบท่านพ่อ....." หญิงสาวเอ่ยขึ้น


    "ดู ดูทำเข้ายัยปอ" ชายหนุ่มผู้สูงวัยเอ่ยขึ้น


    "คิคิ ก้อจามาชวน ท่านพ่อที่เคารพของหนูไปทานข้าวด้วยกานนะคะ ไปด้วยกันนะคะ"


    "พ่องานยุ่งนะ"


    "โถ่...พ่อคะ พี่ไหมกับแม่รออยู่ที่รถแล้วนะคะ ขาดแต่พ่อคนเดียวนี้แหละค่ะ นะนะ ไปเถอะนะคะ"


    "จ้าๆ ไปก็ได้งั้นรอพ่อแป๊บนะ"


    "ค่ะ พ่อ"


    ณ ร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง กลางเมืองกรุง มีผู้คนมากหน้าหลายตา  ต่างคนต่างพูดคุย และทานอาหาร แต่ใครจะสนใจ ครอบครัวหนึ่งซึ่งนั่งหัวเราะกันอย่างมีความสุขนั้น ซึ่งมีทั้ง พ่อ แม่ และลูกๆ  ซึ่งเป็นครอบครัวที่มีความอบอุ่นซึ่งเป็นความฝันของอีกหลายๆครอบครัวฝันถึง


    "พ่อคะ  งานเป็นยังไงบ้างคะ"ลูกสาวคนโตเอ่ยขึ้น


    "อืม  ก็ดีนะ  ไม่มีปัญหาอะไรนะ ช่วงนี้"


    "ค่ะ งั้นเราไปเที่ยวกันดีไหมคะ โอกาสอย่างนี้ยิ่งหายากๆอยู่นะคะ จริงมั๊ยจ๊ะปอ" ไหมหันไปขอเสียงสนับสนุนจากน้องสาว


    "จริงๆค่ะ  จริงมากๆ ถึงจริงที่สุดเลยค่ะ" สาวน้อยรีบสนับสนุนพี่สาวเธอทันที


    "อืม งั้นเราไปเที่ยวกันนะคะ คุณ" หญิงสาวผู้ที่มีอำนาจที่สุดในบ้านเอ่ยขึ้นเหมือนคำตัดสินที่ไม่มีผู้ใดกล้าขัดใจ


    "เอ่อ......อืม เอางั้นก็ได้"


    "เย้ๆ ได้ไปเที่ยวกันแล้ว" เสียงร้องดีใจของ 2 สาวดังขึ้นพร้อมๆกัน


    "งั้นเราจะไปเที่ยวไหนกันดีล่ะคะ ปออยากไปกรุงโรมนะคะ เผื่อจะได้ฝรั่งตาน้ำข้าวหิ้วกลับบ้านเราด้วยไง"


    "แหม...ยัยปอคิดอยู่เรื่องเดียวเลยนะเรา ก็ดีนะคะ ไหมอยากไปดูวัฒนธรรมแล้วก็ประวัติศาสตร์ที่นั้นด้วย
    ค่ะ
    "เธอกล่าวสนับสนุน


    "แต่พ่อว่าเราน่าจะไปเกาะสมุยกันก็พอนะ ใกล้ๆบ้านเราดีนะ" เขาผู้เป็นชายคนเดียวของบ้านกล่าวขึ้น


    "โถ่ พ่อคะ ไหนๆจะไปเที่ยวทั้งที ไปไกลๆหน่อยนะคะ น้าๆ นะคะ ปออยากไปจริงๆนะคะ"เธอกล่าวอย่างออดอ้อน


    "งั้น OK แม่ตัดสินแล้วว่า เราจะไปเที่ยวที่กรุงโรมกัน"เธอกล่าวขึ้น โดยมี 2 สาว ยิ้มดีใจอยู่ข้างๆ


    ชายหนุ่มส่ายหน้าระอา กับบรรดาสาวๆของบ้าน แต่เขาก็รู้สึกมีความสุขกับการได้อยู่กับครอบครัวที่แสนจะอบอุ่นของเขา ที่เขากับภรรยาของเขาช่วยกันก่อร่างสร้างครอบครัวนี้มากับมือของเขาเอง  เขาอยู่กับภรรยาคนนี้ของเขานับ 10 ๆ ปี ตั้งแต่เขาเป็นคนจนๆคนหนึ่งซึ่งไม่มีฐานะร่ำรวยอะไร ไม่มีหน้าตาทางสังคม ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีใดๆทั้งสิ้น เธอก็เป็นคนเดียวที่ยืนข้างเขาเสมอ ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข เธอเป็นคนที่สร้างกำลังใจให้เขาเรื่อยมา มันคุ้มจริงๆกับการสู้ชีวิตกับการสร้างครอบครัวของเขา

    ครอบครัวหนึ่งที่มีความสุขสมบูรณ์แบบที่ครอบครัวทุกๆครอบครัวต้องอิจฉา

    เปรียบไม่ได้เลยกับครอบครัวที่ขาดไปเสียทุกอย่างของครอบครัว "อัครสกุลวงศ์"


    "คุณ นี่คุณ จะหนีฉันไปไหนกลับมาคุยกันให้รู้เรื่องนะ" สาวผู้มีความงามสง่าซึ่งเป็นท่านผู้หญิงของบ้าน เอ่ยราวมีสิ่งข้องหมองใจ


    "คุณ คุณ มานี่นะจะหนีฉันไปไหน"เธอกล่าวราวฟ้าดินลงทัณฑ์


    "นี่คุณ คุณจะเอาอะไรจากผมอีก"ชายหนุ่มซึ่งเป็นสามีของเธอเอ่ยขึ้น


    "คุณก็อย่าเดินหนีฉันสิ"


    ทั้งสองคนยืนสบตากันราวกับจะกินเลือดเนื้อของฝ่ายตรงกันข้ามราวกับทั้งคู่ไม่ได้ใช้ชีวิตกันมานานนับ 10 ปี

    ในขณะที่พวกเขาทะเลาะกันอยู่นั้นเขาไม่รู้เลยว่า มีใครกำลังมองดูพวกเขาอยู่ เขาแอบมองดูพ่อและแม่ทะเลาะ มานานนับ 10 ปีแล้วเช่นกัน ตั้งแต่เด็กๆจนมาทุกวันนี้จนเป็นความเคยชินที่พวกเขาต้องเจออยู่เป็นประจำ


    "พี่พ่อกับแม่ทะเลาะกันอีกแล้วหรอ"ชายหนุ่มซึ่งมีแววตาหมองเศร้าเอ่ย


    "อืม ประจำนั้นแหละคู่นั้นนะ"ผู้เป็นพี่เอ่ยขึ้น


    "เฮ้อ...นานเท่าไหร่แล้วนะที่บ้านเราไม่มีเสียงหัวเราะนะ"


    "โถ่ นายไนท์ นายจะคิดมากไปทำไมกัน มาๆไม่มีเสียงหัวเราะใช่ไม๊ ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า" สองพี่น้องก็หัวเราะ อย่างประสานเสียงกันอยู่ในห้องรับแขก


    ครอบครัว
    "อัครสกุลวงศ์"เป็นครอบครัวเก่าแก่ ซึ่งร่ำรวยมานาน จนเป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไป ในครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่ภายนอกดูแล้วเหมือนมีความสุขและแสนอบอุ่นอีก 1 ครอบครัวแต่ใครจะรู้เล่า ว่าครอบครัวนี้แท้จริงแล้วหาความอบอุ่นไม่ได้เลย มีแต่ความทุกข์ ซึ่งทุกคนที่อยู่ในบ้านรู้สึกเศร้าภายในใจลึกๆทุกคน


    "เฮ้อ ทำไมนะ เราถึงต้องมาเป็นท่านผู้หญิงอยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยนะ" เธอผู้อย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ในเมื่อเธอนั้น
    ถูกคุณหญิงแม่ของเธอนั้นบังคับให้แต่งงานกับเศรษฐีผู้ร่ำรวยอย่าง
    "อดิศร อัครสกุลวงศ์"  เธอจะพูดอย่างไร ทำอย่างไร สามีของเธอนั้นในสมองของเขาก็นึกทำแต่งาน ๆ ๆ และงาน ไม่เคยนึกถึงเธอเลยสักนิดเดียว

    เธอก็มีเพียงลูกชาย 2 คน เท่านั้นที่เป็นเพื่อนคลายเหงาของเธอมาตั้งนานนม แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เมื่อลูกชายทั้งสองของเธอก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พวกเขาต้องไปทำงานในบริษัท และแล้ว งานก็มาพรากลูกชายทั้ง 2 ของเขาอีกเช่นกัน เธอจึงใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวและโดดเดี่ยว

    "นี่พี่เดย์ เรามีสินค้าตัวใหม่เข้ามาพี่จะลองทำตลาดดูมั๊ยครับ" ชายหนุ่มผู้ที่มีร่างสูง ใหญ่ เอ่ยถาม


    "อะไรหรอไนท์ สินค้าน่าสนใจมั๊ย" ชายหนุ่มอีกคนผู้เป็นพี่ชายถามอย่างสนใจ


    "ก็พวก สินค้าสมุนไพรนะครับ ผมว่าน่าสนใจดีนะ"


    "แต่มีบริษัท จันทรวาณิชย์ บุกตลาดอยู่ไม่ใช่หรอ"หนุ่มใหญ่ถามอย่างฉงนใจที่น้องชายต้องการตีตลาดแข่งกับบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหนึ่งบริษัท


    "อืม ใช่ไงครับพี่เดย์ ผมว่าสินค้ามันน่าสนใจแล้วน่าจะไปได้สวยด้วย" ชายหนุ่มกล่าวอย่างมั่นใจ


    "งั้นก็ตามใจแล้วกันนะ"


    "ขอบคุณครับพี่" เขากล่าวอย่างดีใจ


    "พี่เดย์คืนนี้เราไปเที่ยวกันมั๊ยพี่ ผมไม่ได้เที่ยวมาตั้งนานแล้ว"เขาถามอย่างสุขใจเมื่อนึกถึงหน้าของผู้หญิงที่เขาจะเอาเท่าไหร่ก็ได้เมื่ออยู่ที่นั่น


    "อืม ก็ดีนะพี่ไม่ได้ไปนานแล้วนะ แต่เราไปกันแค่สองคนเองหรอ"


    "โถ่พี่เราไปกันแค่นี้แหละครับ อยากเที่ยวตามประสาหนุ่มๆหน่อย"


    "งั้นก็ตามใจเราแล้วกันนะ" เขาตามใจน้องชายเพราะก็นานมากแล้วเช่นกันที่พวกเขามุ่งทำแต่งาน ไม่ได้สนใจและหาความสุขใส่ตัวเองบ้างเลย


    ไฟ แสง สี พวกเขาไม่ได้พบเห็นมานานแล้ว และวันนี้พวกเขาได้ไปพบเจออีกครั้งทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตาเป็นอย่างมากเพราะพวกเขานั้น วันๆก็จะนั่งอยู่แต่ใน ออฟฟิศ หรือไม่ก็ไปพบลูกค้า ซึ่งเวลาของพวกเขานั้นเปรียบเสมือนทอง ซึ่งมีค่าตลอดเวลา


    " พี่ๆ เป็นไงบ้างไม่ได้ออกมานานแล้วเหมือนกันเนอะ"


    "อืม  นานแล้วนะที่เราไม่ได้ออกมา เกือบๆ 2 ปีแล้วล่ะที่เราเอาแต่ทำงาน" ชายหนุ่มนึกถึงวันเวลาครั้งสุดท้ายที่เขามาที่แบบนี้ นั้นเขามากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อ "รินดา" ผู้ที่เคยเป็นคนที่เขารัก


    "พี่เดย์เป็นไงบ้างคะ สนุกมั๊ยคะ"หญิงสาวเอ่ยถามเสียงสดใสราวไม่มีอะไรจะเกิดขึ้น


    "สนุกสิจ๊ะ แค่มีดามาด้วยพี่ก็สนุกแล้วล่ะจ๊ะ"ชายหนุ่มตอบออกไปเหมือนไม่รู้ชะตากรรมของตน


    "ดีแล้วล่ะค่ะ สนุกให้มากๆนะคะ จะได้ไม่ทุกข์มาก" หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบ


    "ดา หมายความว่าอย่างไรจ๊ะ" ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย


    "ป่าวหรอกค่ะ พี่เดย์สนุกให้มากๆนะคะ ไปค่ะไปเต้นกัน"


    "จ๊ะ"


    ทั้งคู่ก็สนุกมากๆในคืนนั้น แต่ภายในจิตใจของหญิงสาวนั้นรู้สึกร้อนรนอย่างหามิได้ เมื่อต้องบอกเรื่องบางเรื่องกับชายหนุ่มที่คบกันมานาน แต่เขาไม่ใช่คนที่เธอเลือกเพราะชายหนุ่มนั้นมาที่หลัง คนที่เธอรักอยู่แล้วโดยที่เธอไม่ได้บอกเขาเอาไว้


    เมื่อเสียงเพลงจบทั้งคู่ก็มานั่งที่โต๊ะ


    "เหนื่อยจังเลยค่ะ พี่เดย์ แต่ก้อสนุกนะคะ เฮ้อ" หญิงสาวถอนหายใจ


    "จ๊ะ สนุกมากๆ แต่ดาเป็นอะไรหรือป่าวจ๊ะ"


    "พี่เดย์คะ พี่เดย์พร้อมหรือยังคะ"หญิงสาวถามขึ้น


    "พร้อมอะไรหรอจ๊ะดา" ชายหนุ่มถามอย่างฉงนใจ


    "พี่เดย์"


    "จ๊ะ"


    "เราเลิกกันเถอะนะคะ ดาต้องไปแต่งงานกับคู่หมั้นของดาที่อเมริกาค่ะ ดาขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอกพี่ตั้งแต่
    แรก ดาขอโทษจริงๆค่ะ
    "หญิงสาวเอ่ยบอกพร้อมลุกขึ้นแล้วเดินจากไปโดยไม่กลับมาหาชายหนุ่มอีกเลย

    ชายหนุ่มนิ่งแข็งราวกับน้ำแข็ง ใยหญิงสาวที่คบหากันมานานถึงบอกเลิกกับเขาง่ายๆอย่างนี้เชียวหรือ

     

    "พี่  พี่  พี่  พี่เดย์  เฮ้ย พี่เดย์"


    "ไร มีไรเรียกทำไม ได้ยินแล้วไม่ต้องเสียงดังก็ได้"


    "เป็นอะไรพี่"ชายหนุ่มถามอย่างเป็นห่วง


    "ป่าว ไม่มีอะไร"


    "งั้นผมไปเต้นนะพี่"


    "เออ...ไปเถอะ"


    นี่มันก็เป็นเวลาที่ผ่านไปนานแล้วแต่ทำไมเขาถึงยังจำเรื่องราวได้เหมือนเพิ่งเกิดเมื่อวาน ใจของเขายังผสานไม่ได้อีกหรือ ทำไมมันช่างยากเย็นอย่างนี้ เฮ้อ ใจคนเรานั้นหยั่งยากจริงๆ เขาคงเข็ดกับความรักไปอีกนานแน่ๆ


    "พี่ พี่เดย์ไม่เต้นหรอ" ชายหนุ่มถามพร้อมผู้หญิงที่เดินโอบไหล่มา


    "ไม่ดีกว่า แล้วเราจะกลับได้หรือยัง" ชายหนุ่มถามอย่างเศร้าๆ


    "พี่เป็นอะไรหรือป่าว"ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย


    "ไม่สบายนิดหน่อยนะ"


    "งั้นกลับก็ได้พี่ ไปนะครับสาวๆ ลาก่อนนะครับ บายครับ" ชายหนุ่มบอกพรางโบกมือให้สาวๆที่เดินมาจากไป


    "พี่งั้นพรุ่งนี้เราเริ่มงานกันเลยนะ" ชายหนุ่มถามอย่างนึกสนุก


    "อืม ทำได้เลย แล้วประชุมกรรมการอาทิตย์หน้าก็เข้าห้องประชุมด้วยนะ"


    "ครับ พี่ชาย"


    เมื่อกลับถึงบ้านชายหนุ่มทั้งสองก็กลับขึ้นห้องของทั้งสอง โดยที่
    "นราธิป" หรือไนท์ คิดงานเรื่องสิค้าตลอดทั้งคืน โดยที่ "ดานุเวช"หรือเดย์นั้น คิดถึงแต่ ดา หญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขา ตลอดเช่นกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×