1304 รูมเมทรุ่นน้อง
"ผมสนิทกับพี่ยัง?"
ผู้เข้าชมรวม
86
ผู้เข้าชมเดือนนี้
12
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
“แกไม่รู้เหรอไงว่าเขาน่ะเป็นไบ”
ประโยคบอกเล่าของเพื่อนสาวดังก้องอยู่ในหัว
หลังจากที่อาติยะบอกถึงรุ่นพี่ร่วมห้องจำเป็นที่เขาเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ใบหน้ากลมฉายแววฉงนเมื่อนึกถึงสภาพครั้งแรกเจอกับน้ำเสียงแหบติดจะดุเพราะเขามาก่อกวนเวลานอนของอีกฝ่าย
คิ้วเรียวนั่นชอบขมวดเข้าหากัน ดวงตาเรียวหรี่ลงบ่งบอกถึงอารมณ์หงุดหงิดของเจ้าของ
อาติยะถอนหายใจแรงเมื่อ first
impression ระหว่างเขากับรูมเมทคนใหม่นั้นค่อนข้าง...แย่
“ใครเป็นไบ?”
เพื่อนข้างกายอีกคนของอาติยะเอ่ยถาม ใบหน้าหวานเปื้อนยิ้มหันมาสนอกสนใจเข้าร่วมบทสนทนา
“พี่ทักษ์ รูมเมทของอาร์ตไง”
เจ้าของกรรมในประโยคยิ้มแหย อาร์ต หรืออาติยะ ยู เป็นนักศึกษาปีหนึ่งสีผมเกือบจะดำสนิทเหตุเพราะความซนของมารดาที่เป็นช่างเสริมสวยร้านดังในย่านชนบททดลองผสมสีบนหัวของเขาเพื่อฉลองให้กับผลการแอดมิชชันเข้าคณะเภสัชศาสตร์ในเมืองหลวงใจกลางประเทศได้
ความลูกครึ่งญี่ปุ่น – ไทยของอาร์ตนั้นไม่มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์มากนักนอกจากขี้แมลงวันและกระที่มีอยู่ประปรายตามร่างกาย
อาร์ตเป็นเด็กชายร่างผอมสูงเพราะยีนส์คนพ่อนั้นไม่ใช่คนร่างใหญ่
ที่สำคัญนัยน์ตาสีดำมีเสน่ห์ มันกลมมันวาวเมื่อจับแสง
และแน่นอนก็ได้คนพ่อมาอีกอยู่ดี สองสิ่งที่เขาได้จากมารดามาอาจเป็นจมูกที่ไม่มีสันดั้งมากนัก
และยีนส์สีผิวแทนของคนอีสานมานิดหน่อย นิดหน่อยจริง ๆนะ
“แล้วไงอะ อาร์ตก็ไม่ได้อะไรอยู่แล้วนี่
ใช่ปะ” เพื่อนหน้าหวานหันมาถาม คนนี้ชื่อวาฬ เป็นคนใต้แต่ผิวขาว ตัวเล็ก
น่ารักน่าตี อาจจะเพราะได้แม่เป็นคนเหนือพลัดหลงมาหาปลาที่สงขลาเลยได้มันมา อาร์ตยิ้มขำเมื่อร่างเล็กหันมาทำแก้มป๋อง
เขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเกย์
ถึงจะไม่ออกแนวสาวแต่ก็มีความตุ้งติ้งจนดูออกว่าไม่มองหญิง
“กูไม่ซี
แต่พี่เค้าแม่งชอบหิ้วคนอื่นมา” เสียงทุ้มว่า อาร์ตถอนหายใจอีกรอบ
นอกจากจะแรกพบไม่น่าประทับใจแล้ว ครั้งที่สองนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เจ้าตัวเรียนถึงหมอแต่ทำตัวไม่เหมือนคนเรียนหมอ
หนังสือไม่เห็นอ่าน เจอกันทีไรทำหน้าจะตายคล้ายคนแฮงค์จากการดื่มหนัก
ครั้งล่าสุดที่ทำเขาเหวอกินไปเลยคืออีกฝ่ายหิ้วผู้ชายเข้าห้อง
ตอนแรกก็นึกว่าจะมาติวกันตามประสาคนเรียนหมอ
แต่เสียงที่เล็ดลอดออกมานั่นมันไม่ใช่ อีกอย่างถึงแม้จะเป็นห้องสูทกว้างขวาง แต่ไม่ว่าจะอยู่ตรงส่วนไหนก็ยังได้ยินอยู่ดี
ไอ้พี่ทักษ์นั่นไม่ยอมเบาความแรงลงเลย
“จะย้ายเหรอ” อาร์ตส่ายหัว
“ไม่มีตังค์”
“ขอพ่อดิ่” สาวคนเดียวในกลุ่มเอ่ย
นุ่นเป็นเพื่อนอาร์ตมาตั้งแต่ม.ต้น ติดกันแจจนแม่เขานึกว่าเป็นแฟนกัน แต่เปล่า
หญิงสาวร่างแกร่งคนนี้มีคนที่ชอบแล้ว และดูท่าก็น่าจะสมหวังอยู่อีกไม่นาน
นุ่นรู้จักอาร์ตดีและอาจจะดีกว่าเจ้าตัวด้วยซ้ำ ถึงส่งสายตาล้อเลียนมาไม่หยุด
“ก็พ่อให้ย้ายมาอยู่กับเขา จะบอกยังไงว่าไอ้พี่นั่นมันเกเร
ขอย้ายได้ไหมครับ อย่างนี้เหรอ” อาร์ตบ่นพลางเขี่ยข้าวในจาน
“ยูซังไม่รู้เหรอว่าพี่เขาเป็นคนอย่างนั้น”
วาฬถาม พ่อเขาตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นทำงานเป็นพนักงานบริษัททำสื่อและโฆษณา
โต้ซังแยกกับแม่มานานแล้วตั้งแต่เขายังอยู่ประถม แต่ยังแวะเวียนมาหาเขาอยู่อย่างน้อยก็ปีละครั้ง
เงินก็ส่งให้ไม่ขาดแต่เขาก็ทราบดีว่าโต้ซังไม่มีได้มีเงินมากมายขนาดนั้น
การที่เขาสอบติดและต้องย้ายมาอยู่เมืองหลวงห่างไกลจากบ้านนั่นก็ต้องใช้เงินจำนวนหนึ่ง
ลำพังอาชีพเสริมสวยของแม่มันไม่พอแน่ๆ โต้ซังเลยช่วยหาที่พักให้ ตอนแรกจะเข้าอยู่หอในแต่เต็มไวในห้านาทีแรกที่เปิดลงทะเบียน
เขาเลยต้องรบกวนเพื่อนโต้ซัง ซึ่งแน่นอนก็เลยได้พักอยู่กับลูกชายของเขาที่เรียนหมอ
โต้ซังเลยหายห่วงว่าจะไม่พากันเกเร
ซะที่ไหนล่ะ
พี่ทักษ์อะไรนั่นเลยเถิดไปไกลสำหรับคำว่าเกเรแล้ว!
“เอาน่ะ ถ้าคืนไหนทนไม่ไหว มานอนกับกูก็ได้นะ”
วาฬให้ความช่วยเหลือ อาร์ตผ่อนลมหายใจเพื่อเรียกความสดชื่นให้ตนเอง
เขาจัดการกับข้าวในจานแล้วชวนเปลี่ยนบทสนทนาที่ชวนเครียดให้ครื้นเครง
“ตายยากชะมัด”
นุ่นเหล่ตาไปด้านข้าง อาติยะหันไปมองสายตาปะทะร่างใหญ่ของพี่ทักษ์รูมเมทนิสัยเกเรเข้าอย่างจัง
อีกฝ่ายสวมแว่นกรอบดำอย่างที่เขาไม่เคยเห็น ในมือถือแก้วกาแฟจากร้านดังรูปครึ่งคนครึ่งเงือก
ใบหน้าไม่สบอารมณ์บึ้งตึงโดดเด่นอยู่ในกลุ่มเพื่อนวัยเดียว
พี่ทักษ์อยู่ปีสามคณะแพทย์ เขาเรียนเก่งนั่นเป็นข้อที่อาติยะไม่อยากจะนับนัก
เพราะความลำเอียงของสวรรค์ อีกฝ่ายขึ้นแท่นนักเรียนดีเด่นท็อปเท็นของคณะ
ประจวบเหมาะเจาะกับรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้ม
แน่นอนล่ะว่าต้องตกเป็นเป้าสายตาของประชาชีอยู่แล้ว
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ใส่ใจนัก
อีกคนทิ้งตัวกางหนังสือพร้อมโยนแก้วกาแฟลงถังขยะข้างกายแบบเท่จัดๆ
จากนั้นก็แหงนหน้าอ้าปากด่าเพื่อนเรียงตัว จับใจความได้คร่าวๆ
ถึงวิธีการทดลองในแล็ปกับที่เขียนมันคนละอย่างกัน เสียงนั้นดังเผื่อแผ่มาหาโต๊ะข้างเคียงอย่างมีน้ำใจ
นั่นรวมถึงโต๊ะของอาติยะด้วย ใบหน้ากลมดิ๊กวนกลับมาหาจานข้าวที่ว่างเปล่า
แล้วเลียนปากบ่นตามเสียงแว่วผ่านสายลมจนเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนข้างกายได้
“ดูท่าแกจะไม่ชอบเขาจริงๆ นะ”
“พี่เขาก็ไม่ชอบกูหรอก”
“เหรอ” นุ่นฉีกยิ้ม
เท้าแขนลงกับโต๊ะเมื่อแอบเห็นดวงตาผ่านเลนส์เหลี่ยมหันมาทางที่ตัวเองนั่งอยู่ เธอรู้ว่าเจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจจะจ้องมาหรอก
เพียงเเค่มองผ่านๆ เหมือนกำลังคัดลอกวิวไว้ในสมองก็เท่านั้น หากเพียงแต่ว่าทำไมกรอบแว่นนั่นถึงไม่ยอมเบี่ยงไปทางอื่นสักที
ตรงนี้มีวิวอะไรดี ๆ อย่างนั้นหรือ
“ช่วงนี้เรากับแพทย์เรียนรวมกันบ่อยเนอะ”
วาฬหยิบหนังสือจากกระเป๋าพร้อมส่งเสียงถาม อาติยะตอบอืมๆ ในลำคอ
เขากรอกตาเมื่อในคาบเลคเชอร์ครั้งนี้ตนเองไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่
อุตส่าห์ได้นั่งแถวหลังๆ เพื่อที่จะมองกระดานชัด ๆ กลับกลายเป็นว่าบุคคลด้านหลังนั้นทำเขาสติแตก
ไม่ได้จดจ่อในเนื้อหาตามชีทเรียนแต่เป็นเสียงเคาะจากปากกาด้ามยาวในมือเรียวของพี่ทักษ์คนข้างหลังเขาต่างหาก
อาติยะหันหลังไปมองเมื่อทนไม่ไหว แต่กลายเป็นพี่มันไม่สนใจ
ทอดมองด้วยสายตานิ่งๆ จนแล้วจนลอดเขาก็เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย
ร่างผอมหันกลับไปสนใจกระดานข้างหน้าทิ้งไว้เพียงสายตาคนพี่ที่วางไว้ตรงท้ายทอยของอาติยะ
“ตั้งใจเรียนหน่อยทักษ์”
คนเพื่อนล้อ เจ้าของชื่อครางรับในลำคอแต่ไม่ได้ทำตาม มองปลายเส้นผมที่สีผิดเพี้ยนจากธรรมชาติที่วางเรียงกันอยู่ท้ายทอย
ไล่ไปตามลาดไหล่บางผ่านเสื้อนักศึกษาถูกระเบียบสีขาวเรียบกริบเนียนไปกับสรีระของเจ้าตัว
อาติยะหุ่นดี ไม่ได้ดีในแบบที่มีกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน
เพียงแต่มันดูแข็งแรงทั้งที่ผอมบาง
ดวงตากลมของอาติยะซื่อ และยังคงเหมือนเดิมกับวันแรกที่เขาเคยเจอน้องมาก่อนหน้านี้
อาติยะ ยู
เป็นชื่อเดียวกับกับอักขระตามเส้นด้ายสีน้ำเงินบนอกผ่านเนื้อผ้าสีขาวบางของเสื้อนักเรียนตัวโคร่ง
ผลงานอื่นๆ ของ Nonnoitheseries ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Nonnoitheseries
ความคิดเห็น