ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter and the Secrets of the Hidden Legends (แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับความลับของตำนานที่ซ่อนอยู่)

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 เดินทางสู่ฮอกวอตส์

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 67




           "นี่มัน" ดวงตาของเฮนริกเบิกโพลงด้วยความตะลึงเมื่อเห็นเนื้อความข้างในจดหมาย


           _______________________


           เรียน คุณไรลีย์,


           ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้คุณทราบว่า ทางโรงเรียนฮอกวอตส์ได้พิจารณาแต่งตั้งให้คุณดำรงตำแหน่งอาจารย์ผู้ช่วยสอนสำหรับวิชาการแปลงร่างในปีการศึกษานี้ เราเชื่อมั่นว่าความรู้และความเชี่ยวชาญของคุณจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อนักเรียนของเรา 

           การเริ่มต้นปฏิบัติหน้าที่ของคุณจะเป็นวันที่ 1 กันยายนนี้


           ขอแสดงความนับถือ

           มิเนอวา มักกอนนากัล 

              รองอาจารย์ใหญ่ 

           _______________________


           ในตอนนี้เฮนริกนั้นเขาไม่สามารถที่จะซ่อนรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขาได้เลย มันรู้สึกเหมือนกับว่านี่เป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับเขาในปีนี้เลย 

           "ขอบคุณ ขอบคุณมากๆเลยครับศาสตราจารย์" เฮนริกพูด

           "เรื่องเล็กน้อยน่ะเฮนริก แล้วก็อย่างที่บอก ฉันน่ะงานยุ่งมาก เลยต้องการผู้ช่วยอยู่พอดี"มักกอลนากัลตอบกลับ

           "ส่วนเรื่องหนังสือเรียน หรือข้าวของต่างๆที่จำเป็นต้องใช้ในการสอน เธอสามารถส่งรายละเอียดผ่านทางจดหมายมาได้เลยนะ ตอนนี้ฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน  ไว้พบกันใหม่วันเปิดภาคเรียนนะ   'ศาสตราจารย์ไรลีย์' "

           "ไว้พบกันใหม่ครับ ศาสตราจารย์"

           .

           .

           .

           วันที่ 1 กันยายน 1991

           [ชานชาลา 9¾  สถานีคิงส์ครอส]


           บรรยากาศของชานชาลา 9¾ ที่สถานีคิงส์ครอสเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา มีเสียงพูดคุยดังไปทั่วบริเวณ บ้างหัวเราะยิ้มแย้ม บ้างร้องไห้ร่ำลา  

           เหล่านักเรียนเก่าและนักเรียนใหม่ รวมไปถึงผู้ปกครองของนักเรียนหลายๆคนต่างก็ตื่นเต้นและกระตือรือร้นกับการเปิดภาคเรียนในวันนี้

           "ว้าว ที่นี่ยังคึกคักเหมือนเดิมเลยแฮะ" เฮนริกพูดขึ้น

           ถึงแม้ว่าวันนี้เฮนริกจะไม่ได้มาในฐานะนักเรียนเหมือนเมื่อก่อนก็ตาม แต่เมื่อมองไปยังภาพสถานการณ์อันแสนวุ่นวายตรงหน้า เขาก็รู้สึกตื่นเต้นไม่ต่างกัน ภาพของนักเรียนกำลังเข็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่  ภาพของเพื่อนใหม่ที่ได้พบปะกันครั้งแรก รวมไปถึงภาพของผู้ปกครองหลายคนที่โอบกอดลูกๆของพวกเขา ก่อนที่จะปล่อยให้ขึ้นรถไฟไป

           'รถไฟฮอกวอตส์เอ็กซ์เพรส' หัวรถจักรรุ่น GWR 4900 Class 5972 Olton Hall รถไฟขบวนสีแดงสดที่มีสัญลักษณ์หมายเลข 5972 ติดอยู่ด้านหน้า มันจอดรออยู่ที่ชานชาลา ราวกับพร้อมเสมอจะพานักเรียนทุกคนออกเดินทางสู่โรงเรียนเวทมนตร์ฮอกวอตส์

           "ทำเอาคิดถึงเมื่อก่อนเลยจริงๆ"  เฮนริกพูดพลางเดินแหวกฝูงชนมาขึ้นรถไฟ

           ใช้เวลาไม่นานนัก เฮนริกก็ได้เดินข้ามาในห้องโดยสารที่ยังว่างอยู่ เขานั่งลงบนเบาะที่อยู่ติดหน้าต่างแล้วหยิบหนังสือที่เขาซื้อมาจากตรอกไดอากอนก่อนที่จะมาที่นี่ขึ้นมาอ่าน ระหว่างที่รถไฟกำลังออกตัว ซึ่งหนังสือที่เขาเอามาอ่านนั่นก็คือ 'หนังสือนิทาน'

           '???'

           'ได้ยินผิดหรือเปล่า?'

           'หนังสือนิทาน?'

           'ไม่หรอก'

           'ไม่ได้ได้ยินผิดหรอก'

           'มันคือ 'หนังสือนิทาน''

           ถ้าถามว่าทำไมเป็นหนังสือนิทาน แทนที่จะเป็นหนังสือการเตรียมสอน หรือหนังสือศาสตร์ต่างๆอย่างที่เด็กเรเวนคลอทั่วไปมักจะอ่านกันเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม 

           คำตอบนั้นก็ธรรมดามาก คุณลองคิดดูสิ ถ้าคุณเป็นคนนึงที่เคยเสพติดการดูภาพยนตร์มาทั้งชีวิตต้องเข้ามาอยู่ในโลกเวทมนตร์ที่ไม่มีเทคโนโลยีคุณจะทำอะไรแก้เบื่อได้ 

           ถึงในโลกมักเกิ้ลจะมีของพวกนี้อยู่ก็จริงแต่ตอนนี้เขากำลังไปที่ฮอกวอตส์ ที่ซึ่งไม่สามารถนำเทคโนโลยีเข้าไปได้ ดังนั้นการอ่านนิทานและนิยายก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเหมือนกัน



           'ก็อกๆ' 


           เสียงเคาะประตูตู้โดยสารดังขึ้น เฮนริกเบนสายตาออกจากหนังสือ เงยหน้าขึ้นมองลอดผ่านเลนส์แว่นตาสำหรับอ่านหนังสือไปยังประตูตู้โดยสาร มีเด็กชายตัวเล็กผอมบางคนหนึ่ง ผมยุ่งสีดำสนิทไม่เรียบเป็นทรง มีแว่นตากลมหนาๆ ที่ดูเหมือนจะใหญ่เกินใบหน้าของเขา และมีดวงตาสีเขียวสดใสที่เด่นชัด แต่ที่โดดเด่นยิ่งกว่าก็คงจะเป็นแผลเป็นรูปสายฟ้าบนหน้าผาก ซึ่งโผล่ออกมาให้เห็นเล็กน้อยผ่านเส้นผม  'แฮร์รี่ พอตเตอร์'

           'แต่เขามาที่นี่ทำไมกัน?'

           "เอ่อ ผมขออนุญาตนั่งด้วยได้ไหมครับ พอดีตู้อื่นเต็มหมดแล้วน่ะครับ" เด็กชายเอ่ยถาม

           'อ่า นี่เขามาแย่งตู้ตัวเอกนั่งเองหรือนี่'  เฮนริกคิดขึ้นในใจอย่างเงียบๆ

           "โอ้ ได้สิ เชิญเลยครับ" เฮนริกตอบพลางหันกลับไปก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ

           "ขอบคุณครับ" ว่าจบเด็กชายก็เดินเข้ามานั่งลงที่เบาะฝั่งตรงข้าม

           หลังจากนั่งได้พักหนึ่ง เฮนริกก็สังเกตเด็กชายก็ดูเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็กลับลังเลที่จะพูด แต่เมื่อเขากำลังจะอ้าปากพูดแต่ทันใดนั้นก็มีเด็กอีกคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาก่อน

           "โทษที ขอนั่งด้วยได้ไหม ตู้อื่นเต็มหมดแล้ว"  

           ด้วยเส้นผมสีแดงเป็นเอกลักษณ์อันยุ่งเหยิง สวมชุดเสื้อผ้าเก่าๆ ที่ดูเหมือนตกทอดกันมา และนอกจากนี้ในมือยังถือหนูที่เป็นสัตว์เลี้ยงมาอีกตั้งหาก และใช่เด็กคนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลยนอกจาก 'โรนัลด์ บิลิอัส วีสลีย์' หรือที่มักจะรู้จักกันในชื่อ 'รอน วีสลีย์'

           "เอ่อ..." แฮร์รี่อ้ำอึ้งไปเล็กน้อย พลางส่งสายตาเป็นเชิงขอความเห็นจากเฮนริก แต่เมื่อเห็นว่าเฮนริกไม่ได้สนใจ เขาก็ตอบเด็กคนนั้นไปว่า

           "ได้สิ เชิญเลย"

           "ขอบใจ" เด็กคนนั้นเอ่ยก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างแฮร์รี่และแนะนำตัวต่อ

           "สวัสดี ฉันรอน รอน วีสลีย์"

           "ฉันแฮร์รี่ แฮร์รี่ พอตเตอร์"

           เมื่อได้ยินชื่อ รอนก็แสดงสีหน้าตกใจ และถามต่อด้วยคำถามที่ออกจะดูไร้มารยาทตามเนื้อเรื่องเดิม

           "งั้น...ก็จริงสิ แบบว่า...นายมีไอ้นั่น จริงๆเหรอ? แผลเป็น"

           "มีสิ" แฮร์รี่ก็ตอบกลับด้วยใบหน้าที่ภาคภูมิใจ พลางเปิดแผลเป็นให้เห็นชัดยิ่งขึ้น

           "ร้ายกาจ" 


           ทั้งสองพูดคุยกันได้สักพัก รอนก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้

           "ว่าแต่นะแฮร์รี่ คนคนนี้คือใครเหรอ?" รอนกระซิบถามแฮร์รี่พลางแอบมองมาที่เฮนริก ซึ่งเฮนริกที่ได้ยินดังนั้นก็สะดุ้งในใจเล็กน้อย เพราะเขามัวแต่นั่งฟังตัวละครทั้งสองคุยกัเพลินไปหน่อย

           "อยากได้อะไรจากรถเข็นไหม" ก่อนที่แฮร์รี่จะทันได้ตอบ ป้าที่เข็นรถขายของก็ถามขึ้นมาก่อน ทำเอาเฮนริกที่แอบฟังอยู่อดไม่ได้ที่จะขำอยู่ในใจ เพราะวันนี้ตั้งแต่เขาเจอกับแฮร์รี่ เด็กคนนี้ก็ดูเหมือนจะถูกขัดเวลาที่จะพูดอะไรก่อนเสมอ

           "ไม่ล่ะ ผมมีไอ้นี่แล้ว" แล้วก็เป็นรอนอีกเช่นเดิมที่มักจะทำตัวเสียมารยาท

           "…" และดูเหมือนว่ารอนจะรู้ตัวว่าเขาได้พูดอะไรไร้มารยาทออกไป

           "…" พวกเด็กๆ มองหน้ากันอย่างอ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งพูดขึ้นทำลายบรรยากาศนั้น

           "เอาให้ผมทั้งคันรถเลยครับ"  แต่แทนที่จะเป็นแฮร์รี่ที่พูดขึ้นตามเนื้อเรื่องเดิม กลับเป็นเฮนริกที่นั่งเงียบมาตลอดทางพูดขึ้น

            'มันคงดูไม่ดีเท่าไหร่หากจะให้เด็กอายุ11 เหมาของหมดรถเข็นคนเดียวโดยที่มีผู้ใหญ่อย่างเขานั่งดูอยู่เฉยๆ' เฮนริกคิดขึ้น

           .

           .

           .

           รถไฟยังคงแล่นไปเรื่อยๆ

           "ขอบคุณครับ ว่าแต่ให้พวกเราหมดเลยเหรอ" รอนถามขึ้นขณะที่ในปากยังเต็มไปด้วยขนม

           เฮนริกพยักหน้า

           คราวนี้เป็นแฮร์รี่ที่พูด

           "ขอบคุณนะครับ คุณ…"

           "เฮนริก เฮนริก ไรลีย์ ฉันเป็นศาสตราจารย์คนใหม่ของฮอกวอตส์ เรียกฉันศาสตราจารย์ก็ได้นะ"

           "ศาสตราจารย์?"

           "ศาสตราจารย์?"

           "ศาสตราจารย์?"

           ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกันกับเด็กผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ด้านนอกตรงทางเดินรถไฟ?


           "เธอใครเนี่ย?" รอนถามขึ้น

           "คุณคือศาสตราจารย์เฮนริก ไรลีย์?" รอนโดนเมิน

           "เสียมารยาทจริง!" รอนพูด

           แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นก็ยังไม่สนใจเขา พร้อมกับเดินเข้ามานั่งในตู้โดยสาร

           "โอ๊ะ เธอคือแฮร์รี่ พอตเตอร์" เธอพูดเมื่อเห็นแฮร์รี่

           "ฉันเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ " เด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลหยักศกหนาและชี้ฟูเป็นลอนๆ เธอใส่เสื้อคลุมแบบแม่มดสีดำตามแบบของโรงเรียนฮอกวอตส์กล่าวแนะนำตัว

           "ฉันรอน วีสลีย์" รอนพูด

           "ยินดี" เฮอรไมโอนี่ตอบด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ

           "ว่าแต่คุณคือศาสตราจารย์เฮนริกใช่…" เฮอร์ไมโอนี่ที่พูดยังไม่ทันจบก็โดนรอนพูดแทรกขึ้นมา

           "คุณเป็นศาสตราจารย์คนใหม่จริงๆเหรอ คุณยังดูเด็กอยู่เลยเด็กกว่าชาร์ลีอีกมั้ง" รอนพูดกับเฮนริก

           "เสียมารยาทน่ะรอน!" แฮร์รี่พูด

           "เขาคือศาสตราจารย์คนใหม่จริงๆ และเขาสอนเราด้วย เธอไม่เห็นชื่อเขาหรือไงในหนังสือศิลป์และศาสตร์การแปลงร่างในรายการของที่ต้องซื้อ" เฮอร์ไมโอนี่พูดพลางกรอกตา

           "แต่เขาดูเด็กมากเลยนะ!" รอนไม่ยอม

           "ฉันเป็นศาสตราจารย์จริงๆ แล้วชาร์ลีน่ะ เป็นรุ่นน้องฉันสองปีนะคุณวีสลีย์" เฮนริกยิ้มตอบรอน เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหนื่อยหน่ายกับความรั้นของรอน

           "แล้วฉันก็ยังรู้จักคุณด้วยนะ คุณพอตเตอร์" เฮนริกพูด หันไปมองที่แฮร์รี่

           "ศาสตราจารย์คะ" เฮอร์ไมโอนี่เรียกเฮนริก

           "หนูชื่นชมคุณมากเลยค่ะ หนูอ่านหนังสือของคุณจบไป 2 รอบได้แล้ว แต่มีบางส่วนที่หนูอ่านแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ…"

           "เอ่อ ขอบคุณนะคุณเกรนเจอร์ที่ชื่นชม สำหรับเรื่องที่คุณอ่านไม่เข้าใจฉันจะเอาไว้สอนในคาบให้นะ แต่ฉันคิดว่าก่อนหน้านี้น่าจะมีอีกเรื่องที่เป็นสาเหตุที่คุณมาที่นี่นะ" เฮนริกรีบพูดตัดบทเฮอร์ไมโอนี่ เพราะเขาคิดว่าถ้าปล่อยให้เธอพูดพล่ามต่อไปคงไม่จบแน่

           "จริงด้วย! ขอบคุณค่ะศาสตราจารย์" เฮอรไมโอนี่พูดขอบคุณ พร้อมกับหันไปถามอีกสองคนข้างๆ

           "มีใครเห็นคางคกบ้างไหม คนที่ชื่อเนวิลทำหาย"

           "ไม่เห็นนะ" ทั้งคู่ตอบพร้อมส่ายหัว

           "ฉันคิดว่าคุณน่าจะลองไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รถไฟนะคุณเกรนเจอร์ เผื่อว่าพวกเขาจะช่วยหาได้" เฮนริกพูดขึ้น

           หลักจากกล่าวขอบคุณเฮนริกอีกครั้ง เฮอร์ไมโอนีก็เดินออกไปจากตู้โดยสารไปยังทางเดิน

           "ส่วนพวกเธอสองคนรีบสวมเสื้อคลุมได้แล้วล่ะรถไฟใกล้ถึงแล้ว" เฮนริกพูดขึ้นอีกครั้ง เมื่อหันกลับมาหารอนและแฮร์รี่

           .

           .

           .

           [ณ ห้องโถงของฮอกวอตส์]


           ห้องโถงใหญ่ของฮอกวอตส์ส่องสว่างด้วยแสงเทียนลอยเหนือหัว เพดานถูกเสกให้เหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดาว นักเรียนทั้งสี่บ้านนั่งเรียงกันที่โต๊ะยาว คุยกันอย่างตื่นเต้น ส่วนโต๊ะอาจารย์มีศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์นั่งอยู่ตรงกลาง

           พิธีคัดสรรบ้านดำเนินไปได้ด้วยดี หลังจากที่ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์แนะนำตัวเฮนริกในฐานะศาสตราจารย์ผู้ช่วยคนใหม่ของมักกอลนากัลเสร็จเรียบร้อย ก็ไม่มีอะไรผิดแปลก หรือเปลี่ยนแปลงไปจากภาพยนตร์ที่เฮนริกเคยดู

           แต่ถ้าจะมีอะไรที่แตกต่างออกไปจากเนื้อเรื่องเดิม ก็คงจะเป็นการที่เฮนริกถูกศาสตราจารย์ฟลิตวิกที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือชวนคุยเกี่ยวกับเวทมนตร์ไม่เลิก มิหนำซ้ำทางด้านขวามือของเขายังเป็นศาสตราจารย์สเนปที่นั่งทำหน้าเหม็นบูดทุกครั้งเมื่อมองมายังเฮนริกด้วยหางตา

           "หึ ดูสินี่ใครกัน ฉันยังจำได้ขึ้นใจอยู่เลยว่าเมื่อ 4 ปีก่อนมีนักเรียนเรเวนคลออวดดีคนหนึ่งบอกกับฉันว่าเขาจะไม่มีวันกลับมาที่นี่อีก" สเนปพูดขึ้น

           "ก็แหม ศาสตราจารย์ กาลเวลาผ่านไปอะไรๆก็เปลี่ยนกันได้นะครับศาสตราจารย์"เฮนริกพูดขึ้นอย่างหน้าด้านๆ 

           "แต่โอ๊ะ จริงสิตอนนี้ผมเป็นศาสตราจารย์เหมือนกันแล้วนี่นา ต่อจากนี้ไปผมคงไม่จำเป็นต้องเรียกคุณว่าศาสตราจารย์อีกแล้วใช่ไหม? เซเวอรัส"

           "นายนี่มันเหมาะจะอยู่กับพวกบ้านกริฟฟินดอร์ซะจริงๆ" สเนปพูดประชด

           "แต่เสียใจด้วยที่ผมอยู่เรเวนคลอ แต่แค่การที่ผมชอบการเรียนรู้มากกว่า มันไม่ได้แปลว่าผมต้องขี้ขลาดนี่จริงไหม? เซเวอรัส" 

           "หยุดเรียกชื่อฉันห้วนๆได้แล้ว เฮนริก ไรลีย์"

           "อ้อ หรืออยากให้ผมเรียกคุณหินเซเวอรัสดีล่ะ?"

           "ไรลีย์!"


           ตึง!


           สเนปที่โกรธจัดจนหน้าแดงควันออกหู ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารแล้วสะบัดผ้าคลุมเดินออกไปจากห้องโถงโดยไม่ได้สนใจเลยว่ามีสายตาของเหล่าอาจารย์และนักเรียนนับร้อยกำลังจับจ้องมา ซึ่งเฮนริกที่นั่งอยู่ที่เดิมก็ทำเพียงยักไหล่เบาๆเป็นเชิงว่าไม่รู้เรื่อง

           แต่แน่นอนว่าเฮนริกรู้เรื่องดีที่สุดว่าทำไมสเนปถึงโกรธขนาดนี้ เขายังจำวันนั้นได้ดี เมื่อ 4 ปีก่อนวันที่เขาเรียนจบจากฮอกวอตส์ เขาเดินเข้าไปในห้องทำงาน ขอดวลกับสเนป เพื่อระบายความอัดอั้นตลอดเวลาที่เรียนมาและสุดท้ายเขาก็ได้เสกคาถาที่ทำให้สเนปแข็งเป็นหินชั่วคราว แล้วเขาก็พูดว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก

           ทั้งที่จริงๆ แล้วสเนปนั้นเป็นหนึ่งในตัวละครสุดโปรดของเขาในชีวิตที่แล้วเลยด้วยซ้ำ แต่ว่านะพอมาเจอกับนิสัยลำเอียงและชอบเหยียดของสเนปในชีวิตจริงแล้วมันก็ทำให้เขาอารมณ์เสียได้เหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ถึงกับเกลียดแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะญาติดีกันได้

           ส่วนที่เขาพูดว่าจะไม่กลับมาอีกนั่นก็เพราะว่าทีแรกเขากะจะพาครอบครัวไปใช้ชีวิตไกลๆ โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง แต่ในตอนนี้มันต่างกัน เพราะตอนนี้เขาจำเป็นต้องกลับมาเพื่อรับมรดกของปู่


           หลังจากสเนปเดินออกไป บรรยากาศในห้องโถงก็กลับมาคึกคักเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีก็เพียงแต่หัวข้อการสนทนาของนักเรียนที่เปลี่ยนไป

           เด็กนักเรียนหลายคนเริ่มหันมาคุยกันถึงเรื่องสเนป และ เฮนริก อย่างเช่น ฝาแฝดวีสลีย์

           "ฉันว่าฉันชักจะถูกใจศาสตราจารย์คนใหม่แล้วล่ะ นายคิดงั้นไหมเฟร็ด"

           "ฉันก็คิดงั้นจอร์จ"

           "แจ๋ว" เฟร็ดและจอร์จพูดพร้อมกัน

           หรือแม้แต่ แฮร์รี่และรอนก็ไม่พลาด

           "นายคิดว่าศาสตราจารย์ไรลีย์กับสเนปไม่ถูกกันหรือเปล่าแฮร์รี่?" รอนถาม

           "ไม่รู้สิ ตอนอยู่บนรถไฟเขาก็ดูใจดีนะ" แฮร์รี่ตอบ

           .

           .

           .

           หลังจากทานอาหารเสร็จสิ้น เหล่านักเรียนต่างพากันเริ่มทยอยจัดแถวเพื่อไปยังหอพัก

           "ส ส สวัส ด ดีครับ คุณเฮน ร ร ริกใช่ ม ไหมครับ" เสียงพูดติดอ่างของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น เขาเดินเข้ามาหาเฮนริก

           'ศาสตราจารย์ควีเรล' สมุนของลอร์ดโวลเดอมอร์ เขาเป็นชายที่มีรูปร่างผอมบาง ท่าทางขี้อายและดูประหม่า เขาสวมผ้าโพกศีรษะสีม่วงอยู่บนหัวตลอดเวลา ตัวของเขามีกลิ่นอับ และกลิ่นกระเทียมผสมกันอยู่จนเหม็นอบอวนไปหมด ภายใต้รูปลักษณ์อันน่าสงสาร และน่าสมเพชนี้ใครจะไปคิดว่าเขาจะใจกล้าซ่อนโวลเดอมอร์ไว้ที่หลังหัวกัน

           "เอ่อใช่ครับ" เฮนริกตอบ

           "ค ค ค คือผม ด ได้ยินมาว่า ค ค คุณ ส สมัคร ม มา ป ป เป็น…"

           "เป็นศาสตราจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด" เฮนริกพูดคำที่เหลือแทน

           "ใช่ครับ ผมเคยสมัครมา แต่ถูกปฏิเสธเพราะพวกเขาได้คนสอนแล้ว ดังนั้นผมเลยมาเป็นศาสตราจารย์วิชาการแปลงร่างแทน  คุณคงจะคือศาสตราจารย์ควีเรลสินะครับ ศาสตราจารย์สอนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืด" เฮนริกพูดพลางหรี่ตามองไปยังควีเรล

           "ช ช ใช่ค ครั…" ควีเรลตอบอย่างเลิ่กลั่ก

           "งั้นผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ พอดีผมแพ้กลิ่นกระเทียม" ยังไม่ทันได้พูดจบ เขาก็ถูกเฮนริกชิงพูดตัดบทเสียก่อน เพราะกลิ่นที่เหม็นออกมาจากตัวควีเรลทำเอาเฮนริกแสบจมูกขึ้นมา และอีกอย่างถ้าเลือกได้ เขาก็ไม่อยากจะไปตัวสนิทสนมกับลูกสมุนของโวลเดอมอร์สักเท่าไหร่หรอกนะ 

           ว่าจบเฮนริกก็ลุกออกจากที่นั่ง แล้วเดินออกจากห้องโถงไป โดยปล่อยให้ควีเรลยืนอ้าปากเหวอยู่อย่างนั้นคนเดียว…







      







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×