ตอนที่ 9 : ออกเดินทาง
เมื่อชั้นออกมาจากงานเลี้ยงและเดินทางมาถึงบ้าน ชั้นก็พบ ท่านพ่อ ท่านแม่ และ พี่แอนโทนีโอ ยืนรออยู่หน้าบ้าน เมื่อชั้นเดินมาถึงหน้าพวกท่าน ท่านแม่ก็ดึงชั้นเข้าไปกอด
“ลูกคิดที่จะออกเดินทางแล้วใช่มั้ยลูก”
ชั้นมีสีหน้าตกใจกับคำพูดของท่านแม่ ท่านพ่อเดินเข้ามาหาเราสองคนและเอามือลูบผมชั้น
“ลูกเป็นลูกสาวของพวกเรา ลูกคิดอะไรคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือ”
“ใช่ อิซาเบลล่า การที่น้องคิดจะออกไปท่องเที่ยวให้ทั่วโลกน่ะ พวกเรารู้หมดแล้ว”
“แต่หนูก็เสียใจอยู่ดีที่ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลเสียหาย”
“อย่าว่าแต่นั่นไม่ใช่เรื่องจริงเลย ต่อให้เป็นเรื่องจริงคิดเหรอว่าไอ้เจ้าชายนั่นจะทำอะไรได้”ท่านพ่อกล่าวพลางเข้ามาปลอบชั้น
“ลูกคิดที่จะออกเดินทางตอนนี้เลยหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะท่านแม่ หนูจะออกเดินทางเลย”
“พ่อไม่ว่าหรอกนะที่ลูกจะออกเดินทาง แต่ลูกใช้เวทมนตร์ไม่ได้คงจะมีอันตรายเวลาเดินทางฉะนั้นพ่อจะให้แอนไปกับลูกด้วย“
“แล้วยังมีองครักษ์อีกคนที่รอลูกอยู่ในรถม้านะจ๊ะ”
ชั้นมองไปยังรถม้าที่ท่านแม่ว่า มันเป็นรถม้าขนาดกลางมีคนขับหนึ่งคน และม้าเทียมรถสองตัว
“งั้นหนูคงต้องลาทุกคนแล้วล่ะค่ะ”ชั้นกล่าวลาพร้อมทั้งมองหาแอนริต้า
“หาน้องอยู่เหรอลูกน้องยังไม่กลับมาเลยแต่ยังไงก็ได้เจอกันอยู่ดี”
“เที่ยวให้สนุกนะลูก”ท่านพ่อโบกมือลาชั้น
“แล้วอย่าลืมกลับมาเยี่ยมบ้านบ้างนะจ๊ะ”
“อิซาเบลล่า ดูแลตัวเองด้วย แล้วอย่าให้ผู้ชายคนไหนมาเข้าใกล้น้องนะ”เสียงบอกลาของท่านพี่แอนโทนีโอทำเอาชั้นขมวดคิ้ว ชั้นหันไปโบกมือลาทุกคนแล้วก็เดินตามแอนไปขึ้นรถม้า เมื่อเห็นข้างในรถม้าชั้นถึงกับตกตะลึง
“คุณหนู ขึ้นรถม้ากันเถอะค่ะ”
เมื่อแอนพาชั้นขึ้นมานั่งบนรถแล้วชั้นก็หันไปมองรอบรถม้า รถม้าคันนี้มีขนาดใหญ่พอๆกับบ้านหลังใหญ่ แถมยังมีสองชั้น ขณะที่ชั้นกำลังมองสำรวจรถม้าอยู่นั้นก็มีเสียงเรียกชื่อชั้น
“พี่เบลล่า ชอบรถม้าคันนี้มั้ยคะ”
พอหันไปมองชั้นก็เห็นแอนริต้ากำลังยืนยิ้มให้ชั้นอยู่
“แอนริต้า น้องมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วท่านพ่อท่านแม่รู้เรื่องหรือเปล่า”แอนริต้าเดินเข้ามานั่งข้างๆชั้นพร้อมกอดแขนข้วหนึ่งของชั้นไว้
“พี่เบลล่า หนูคือองครักษ์ที่ท่านพ่อท่านแม่ส่งมาไงคะ”ชั้นหันไปมองเธอที่กำลังทำท่าออดอ้อนชั้นอยู่
“แอนริต้าถึงน้องจะมีพรสวรรค์ทางเวทย์สูงแต่น้องไม่เคยสู้กับใครไม่ใช่หรือ”
“พี่เบลล่า หนูให้แอนฝึกซ้อมต่อสู้กับหนูบ่อยๆ”ชั้นหันไปทางแอน เห็นเธอผงกศรีษะรับ ชั้นจึงหันไปมองแอนริต้า
“ว่าแต่รถม้าคันนี้มันคืออะไรน่ะ”
“รถม้าคันนี้ท่านพ่อมอบให้พวกเราใช้ในการเดินทางค่ะ รถม้าคันนี้ใช้เวทย์มิติในการสร้างถึงรูปร่างภายนอกจะดูเหมือนรถม้าทั่วไปแต่ภายในมีขนาดพอๆกับบ้านสองชั้นขนาดใหญ่เลยนะคะ ชั้นล่างมีทั้งห้องรับแขก ห้องเก็บของ ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องซาวน่า ชั้นบนมีสามห้องนอน”
“โอ้โห ใช้เวทมนตร์มิติในการสร้างมิน่าข้างในถึงกว้างขนาดนี้”
“ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ ความเร็วสูงสุดของรถคันนี้พอๆกับเสือเขี้ยวดาบที่เป็นสัตว์อสูรแรงค์เอสที่วิ่งเร็วที่สุด แถมการป้องกันของรถคันนี้ยังพอๆกับ เต่าสีทองที่จัดเป็นอสูรแรงค์เอสที่มีการป้องกันแข็งแกร่งที่สุด นอกจากนี้รถคันนี้มีแต่คนในครอบครัวเราและแอนเท่านั้นที่ขึ้นมาได้ถ้าคนอื่นที่พวกเราไม่ได้อนุญาตจะไม่สามารถขึ้นรถได้ แถมรถคันนี้ยังทำงานด้วยพลังงานเวทมนตร์ ถ้าพวกเรามีหินเวทย์พอเราก็สามารถนั่งรถคันนี้ไปที่ไหนก็ได้”
“ถ้าใช้พลังงานเวทมนตร์แล้วม้ากับคนขับล่ะ”
“อ๋อ พวกนั้นไม่ใช่คนจริงๆหรอกค่ะแต่เป็นหุ่น ทำไว้เพื่อไม่ให้สะดุดตา”
“ว่าแต่น้องรู้เรื่องรถคันนี้ดีจังนะ”
“แน่นอนค่ะ เพราะหนูเป็นคนออกแบบภายในรถคันนี้เอง”
“ท่าทางคงจะแพงน่าดูนะ”
“พี่เบลล่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะแค่นี้ขนหน้าแข้งท่านพ่อร่วงไปไม่กี่เส้นหรอกค่ะ อีกอย่างรถม้ามิติแบบนี้ในประเทศมีแค่สองคันเองนะคะ อีกคันเป็นของพระราชา”อา ชั้นรู้สึกสงสารท่านพ่อตอนจ่ายเงินค่ารถม้าคันนี้จัง
“พี่เบลล่าหนูยังมีของขวัญอีกอย่างมาให้พี่ด้วยนะคะ”
“อะไรเหรอ”พูดจบเธอก็ส่งกรอบรูปอันนึงมาให้ชั้น พอชั้นรับมาดูชั้นก็รู้สึกตกใจ
“ประกาศนียบัตรจบการศึกษาจากโรงเรียนหลวงวินเชียร์ ไม่ใช่ว่าพี่โดนไล่ออกมาแล้วเหรอ”
“พี่เบลอล่าคะ พี่ให้ค่าไอ้เจ้าชายโง่นั่นสูงเกินไป แล้วก็ดูถูกตระกูลเราเกินไปแล้วค่ะ แค่คำพูดของเจ้าชายนั่นไม่สามาถสั่งให้พวกเราทำตามเค้าได้หรอกนะคะ “
“เอ๊ะอย่างนี้ไม่เป็นการขัดคำสั่งของราชวงศ์หรือ”
“ท่านพี่คะต่อให้เป็นคำสั่งของราชาถ้าเป็นคำสั่งที่ผิด ขุนนางยังทักท้วงได้เลยนะคะ อย่าว่าแต่เจ้านั่นเป็นแค่รัชทายาท”
“แถมตอนนี้ไม่รู้ว่ายังรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้หรือเปล่า”แอนริต้าพึมพำออกมาเบาๆ
“น้องพูดอะไรรึเปล่าริต้า”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ น้องจะพาพวกเราไปดูห้องบังคับรถม้านะคะ“
พวกเราเดินตามแอนริต้าไปที่ด้านหน้าของรถม้า ในห้องบังคับรถ เป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก สามารถบรรจุคนได้สี่ห้าคน มีที่นั่งอยู่กลางห้อง ข้างหน้าที่นั่งมีแท่นตั้งอยู่บนแท่นมีลูกแก้วกลมใสวางอยู่ ผนังด้านหน้าเป็นผนังเรียบเหมือนกระจกใส สามารถเห็นทิวทัศน์ข้างนอกได้
“พี่เบลล่าตอนนี้รถม้าตั้งระบบเดินทางอัตโนมัติอยู่ ข้าตั้งเป้าหมายไปที่เมืองถัดไปแต่ถ้าเราต้องการบังคับรถม้าเอง พวกเราสามารถนั่งตรงที่นั่งนั่นและบังคับ รถผ่านลูกแก้วนั่นได้”
“แล้วภาพที่เห็นอยู่นั่นละ ผนังนั่นเป็นกระจกหรือ”
“ไม่ใช่ค่ะ รถคันนี้สามารถส่งภาพข้างนอกเข้ามาให้พวกเราเห็นผ่านทางกล้องถ่ายภาพเวทมนตร์ได้ค่ะ”
โอ้โห ชั้นคิดในใจ นี่มันไฮเทคโนโลยีมากเลยนะไอ้รถม้านี่ไม่ต่างจากรถถังเคลื่อนที่ได้ แถมข้างในยังบรรจุบ้านไว้ทั้งหลัง อย่างนี้ชั้นก็ไม่ต้องเสียเงินค่าโรงแรมเลยสิเนี่ย
“เอาล่ะ ข้าว่าพวกคุณหนูน่าจะหิวกันแล้วนะคะ ข้าว่าเราไปทานน้ำชากันดีมั้ยคะ”
“อ๊ะงั้นพวกเราไปดื่มชากันเถอะ ริต้า”พูดจบชั้นก็จูงมือริต้าไปที่ห้องรับแขก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รถม้าแบบนี้สุดยอดจริงๆให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเลยค่ะ
Let's go.