ตอนที่ 17 : 16
หลังจากพวกเรามาถึงที่โรงแรมก็พบว่ามาเรียกำลังยืนรออยู่ พวกเราจึงเดินเข้าไปหาเธอ
“ว่าไงมาเรีย มารอนานหรือยัง”ชั้นเดินเข้าไปทักเธอ
“ข้าพึ่งมาถึงค่ะ”
“แล้วธุระที่ไปทำเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“มาเรียมาพอดีเลย พวกเรากำลังหิวพอดีเจ้ามีร้านในเมืองที่จะแนะนำพวกเรามั้ย”แอนหันไปถามมาเรีย
“จริงๆไป ที่ร้านข้าก็ได้นะคะ”
“เอาไว้วันหลังดีกว่านะพอดีพวกเราอยากลองรสชาติอาหารหลายๆร้านน่ะ”
“อืม งั้นข้ามีร้านแนะนำค่ะเป็นร้านเล็กๆแต่รับรองว่ารสชาติดีไม่แพ้ร้านใหญ่”จากนั้นมาเรียก็เดินนำพวกเราไปยังร้านที่เธอบอก ร้านที่เธอบอกอยู่ห่างจากโรงแรมไม่มากนักเพียงแต่ต้องเข้าไปในซอยทำให้หายากพอสมควร พอมาถึงบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่งมาเรียก็หยุดอยู่ที่น่าบ้าน
“ถึงแล้วค่ะ“
“เอ๊ะ ที่นี่มันบ้านไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ ที่นี่เป็นทั้งบ้าน เป็นทั้งร้านอาหาร”จากนั้นเธอก็เดินนำเราไปยังหลังบ้าน พอเดินมาถึงหลังบ้านพวกเราพากันตะลึงกับความนงดงามของมันสวนหลังบ้านไม่ใหญ่มากนัก แต่ปลูกต้นไม้ที่มีดอกบานอยู่เต็มต้น มีโต๊ะและเก้าอี้ประมาณสี่ห้าตัวที่ทำจากไม้วางอยู่ใต้ต้นไม้ นอกจากจะมีต้นไม้ที่ดอกไม้กำลังบานสะพรั่งแล้ว รอบๆสวนยังปลูกไม้ดอกต่างๆที่กำลังบานอย่างงดงามทำให้บรรยากาศสดชื่น ถึงสวนจะไม่ใหญ่เท่าสวนที่บ้านของชั้นหรือในพระราชวัง แต่การจัดสวนของที่นี่ดูสวยงามลงตัวกว่าทั้งสองที่มากนัก ทำให้ราวกับอยู่ในสวนสวรรค์
“ว้าว สวยจังเลย”เสียงแอนริต้าอุทานขึ้น
“ใช่ พี่ยังไม่เคยเห็นสวนที่ไหนงดงามเท่าที่นี่มาก่อนเลย”
“มาเรียมาทำอะไรที่นี่”มีเสียงผู้หญิงดังมาจากข้างหลังขณะที่พวกเรากำลังชมสวนอยู่
“อ๊ะ คุณน้า ข้าพาเพื่อนๆมากินอาหารฝีมือน้าค่ะ”
“อ๊ะ งั้นก็เชิญนั่งเลยจ๊ะ จะสั่งอาหารเองหรือจะให้น้าเลือกให้จ๊ะ”
“งั้นคุณน้าเลือกให้ดีกว่าค่ะพวกเราจะไปนั่งรอนะคะ”จากนั้นพวกเราก็ไปเลือกที่นั่งใต้ต้นไม้เพื่อนั่งรออาหาร
“ที่นี่ บรรยากาศก็ดี อากาศก็สดชื่น แถมดอกไม้ก็สวย เหมาะที่จะมานั่งพักผ่อนจริงๆ”
“นอกจากอาหารแล้วที่นี่ยังมีชากับของว่างด้วยนะคะ เราสามารถมานั่งที่นี่แล้วจิบชายามบ่ายได้”
หลังจากที่เรานั่งไปได้สักพัก พนักงานก็นำน้ำมาเสริฟ
“นี่ค่ะ น้ำกุหลาบผสมมะนาว”
หลังจากที่พวกเราลองดื่มน้ำเข้าไป
“น้ำนี่อร่อยมากเลย มีทั้งรสหวานอมเปรี้ยวแถมยังมีกลิ่นหอมของกุหลาบด้วย”
“อาหารมาแล้วค่ะ นี่คือ ดอกไม้ชุบแป้งทอด สลัดดอกไม้ ดอกไม้ผัดกุ้ง ซุบผักใส่ดอกไม้ แล้วก็ข้าวผัดดอกไม้ค่ะ”
“เอ๋ ทีเมืองนี้มีข้าวด้วยเหรอ”
“ข้าวนี่ทางร้านเราปลูกขึ้นเองค่ะ เพราะฉะนั้นจึงมีขายเฉพาะที่ร้านเท่านั้นค่ะ”
ชั้นลองตักข้าวผัดแบ่งใส่จานมาลองกินดู ข้าวผัดผัดมาจนเม็ดข้าวร่วนกำลังดี ข้าวผัดยังมีกลิ่หอมของกะทะไหม้แถมดอกไม้ก็รสชาติกรุบกรอบเข้ากับข้าวผัดเป็นอย่างดี
ดอกไม้ชุบแป้งทอด ก็มีดอกไม้หลายชนิด โดยทางร้านให้น้ำจิ้มมาสามแบบ ทั้งซอสมะเขือเทศ ซอสพริก แล้วน้ำจิ้มอีกอย่างที่คล้ายกับน้ำจิ้มบ๊วย ไม่ว่าจะกินเปล่าๆ หรือจิ้มกับน้ำจิ้มชนิดไหนก็ให้รสชาติของความอร่อยที่แตกต่างกัน
ส่วนสลัดดอกไม้ มีดอกไม้หลายชนิดอยู่ในจานสลัด สลัดที่ให้มาก็เป็นสลัดน้ำใส พอกินดูก็ได้รสหวานอมเปรี้ยวของดอกไม้ที่พอผสมกับน้ำสลัดแล้วดูลงตัวอย่างมาก
ดอกไม้ผัดกุ้งนี่รสชาติไม่ต่างกับผัดผักกับกุ้งเท่าไหร่แต่มีกลิ่นหอมของดอกไม้รวมกับรสชาติที่ปรุงมาอย่างดีทำให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
สุดท้ายคือซุบผักที่ใส่ดอกไม้เข้าไปด้วย ซุบผักที่ต้มจนน้ำซุบมีรสหวานของผัก รวมถึงผักที่ต้มจนนุ่ม พอกินคู่กับดอกไม้ที่กรุบกรอบเป็นความอร่อยที่ต่างจากซุบผักที่เคยกิน
ขณะที่เรากำลังกินอาหารกันอยู่นั้นมาเรียก็พูดขึ้น
“เอ่อที่จริงข้ามีบางเรื่องที่ยังไม่ได้บอกพวกเจ้า”
“เรื่องอะไรเหรอมาเรีย”
“ข้าเป็นคนของโบสถ์ การออกเดินทางครั้งนี้บางครั้งข้าอาจจะต้องรับภารกิจของโบสถ์ด้วย”
“ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่ ยังไงพวกเราก็ไม่ได้รีบเดินทางอยู่แล้ว บางทีการทำภารกิจของโบสถ์อาจจะช่วยแก้เบื่อในการเดินทางได้นะ”
“ใช่ข้าก็คิดอย่างเดียวกับพี่เบลล่านะ ว่าแต่โบสถ์มอบตำแหน่งอะไรให้เจ้าล่ะ”
“สตรีศักดิสิทธิ์”
“โห ตำแหน่งใหญ่โตเลยนี่ ได้ข่าวว่าตำแหน่งนี้ของโบสถ์มีแค่รุ่นละคนไม่ใช่เหรอ”
“ถ้ามีแค่คนเดียว งั้นคงจะมีอำนาจมากเลยสินะ”
“ไม่หรอกค่ะ ตำแหน่งนี้เป็นแค่สัญลักษณ์เท่านั้น ทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากโบสถ์ แล้วก็ขอให้พวกพาลาดินมาช่วยทำภารกิจเท่านั้นแหละค่ะ”
“เอาน่า ก็ถือว่าตำแหน่งใหญ่โตใช้ได้แหละ”
“นั่นสิ ถึงยังไงก็เป็นตำแหน่งที่มีได้คนเดียวนี่นา ทางโบสถ์ยังไงก็ต้องให้ความสำคัญแหละ”
“ว่าแต่พวกเบลล่าตั้งใจจะออกเดินทางกันเมื่อไหร่คะ”
“อาพวกเรา ตั้งใจว่าเมื่อเลื่อนระดับนักผจญภัยเป็นแรงค์Dเสร็จ พวกเราก็จะออกเดินทางต่อแหละ”
“จุดหมายต่อไปคือประเทศฟรานซีเนียสินะคะ แต่”
“ใช่แล้ว ประเทศแรกสำหรับการเดินทางท่องโลกของพวกเราคือ ฟรานซีเนีย”
“ว่าแต่ ตอนบ่ายมาเรียจะออกไปทำเควสพร้อมกับพวกข้าด้วยหรือเปล่า”
“ค่ะ ข้าจะไปด้วย”
“ดีเลย ทีนี้พวกเราจะได้ฝึกซ้อมการต่อสู้เป็นปาร์ตี้ได้”แอนที่เงียบมานานพูดขึ้น
“งั้นเรามาวางตำแหน่งกันมั้ยคะ”แอนริต้าหันไปถามความเห็นคนอื่น
“งั้นพี่จะเป็นแนวหน้าเอง ส่วนริต้าคอยยืนยิงเวทย์อยู่ตรงกลาง มาเรียคอยร่ายเวทย์สนับสนุน”แอนกำหนดตำแหน่งในปาร์ตี้ให้ทุกคนฟัง
“เอ่อ แล้วข้าล่ะ ทำหน้าที่อะไร”ชั้นยกมือถามหลังจากเห็นว่าตัวเองไม่ได้มีหน้าที่อะไรในปาร์ตี้
“อ๊ะ”เสียงทั้งสามคนอุทานขึ้นพร้อมกันแล้วหันมามองหน้าชั้น
“เอ่อ เบลล่ามายืนอยู่กับข้าดีมั้ยคะ”มาเรียหันมาพูดกับชั้น
“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าเห็นข้าใช้เวทย์ไม่ได้เลยลืมข้าไปแล้วหรอกนะ”ชั้นแกล้งทำเสียงน้อยใจ
แอนริต้าได้ยินดังนั้นก็รีบเข้ามากอดแขนข้างขวาของชั้นแล้วออดอ้อน
“พวกเราจะลืมพี่เบลล่าไปได้ยังไงล่ะคะ ก็พี่เบลล่าเป็นคนสำคัญของพวกเรานี่”
“แต่ในปาร์ตี้นี่พี่ก็แทบจะไร้ประโยชน์เลยนะ”
“ไม่จริงหรอกค่ะ แค่พี่เบลล่ายืนอยู่เฉยๆพวกเราก็มีกำลังใจสู้แล้ว”
“แหม ตกลงพี่ทำหน้าที่เป็นกองเชียร์สิเนี่ย”
“ไม่หรอกค่ะ ที่พวกเรามารวมตัวกันนี่ก็เพราะเบลล่านะคะ”
“ใช่ค่ะ พวกเรารักพี่เบลล่านะคะ”
ชั้นหันไปมองหน้าทุกคน ทั้ง แอน มาเรีย และแอนริต้าต่างส่งยิ้มมาให้ชั้นด้วยความจริงใจ ชั้นจึงส่งยิ้มกลับไปให้ทุกคน
“ขอบคุณมากนะ ทุกคน”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

บรรยากาศดีจัง ร้านอาหารแบบนี้ ทำคล้ายอยู่บ้าน