ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความจริงที่ต้องเจอ

    ลำดับตอนที่ #2 : อยากเข้าห้องน้ำ~(- -")

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 50


    (เอาแล้วไง)ทันใดนั้นพยาบาลเดินมาบอกว่าคุณหมอเรียก   พ่อมองฉันด้วยสายตาซึมเศร้า  แต่ฉันก็ไม่สนเพราะตัวเองมึนมากๆ      

                ฉันเดินไปเจอคุณหมอผู้หญิงหน้าตาธรรมดา

    หมอถามว่าเป็นอะไรถึงมาโรงพยาบาล(กุจะตอบว่าไงฟร๊ะ)  ก็ตอบไปตรงๆบอกว่ากินยาพารา หมอทำหน้าเหมือนรู้แล้วแต่ก็ยังถาม แล้วถามต่อว่า กินกี่เม็ด (อึดอัดน๊ะย๊ะ)

    ฉันก้มหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าตาลอยๆ บอกว่า 1กำมือ20กว่าเม็ดมั้งคะ

    เค้าเริ่มมีสีหน้าตกจัย(ดูเหมือนจะไม่รู้ว่ากี่เม็ดมั้ง?) เค้าบอกว่า  ลูกลูกรู้ไหม ว่ายาตัวนั้นมันอันตรายแค่ไหน การที่เราทานยานั้นปกติ1-2มากสุดก็3นะลูกนะ   เราทานเข้าไปตั้งกำเลย      แล้วลูกก็มาช้าไปแล้ว สารในตัวยาจะทำให้ตับลูกเป็นโรคตับอักเสบและจะลดอายุลูกไป4-5ปีเลยนะ   ฉันในตอนนั้นมันมึนไปหมด ไม่รับรู้อะไร แล้วรู้สึกเฉยๆด้วยซ้ำ เมื่อรู้ว่าตนมีอายุน้อยลงถึงส่วนหนึ่งของชีวิตทั้งชีวิต

     

    อืม.. หมอพาไปที่เตียงแล้วเจาะเข็มฝังลงที่หลังมือ(ม๊ายยยก๊อดดด!!) เจ็บโครตๆ~

    ระหว่างรอเครื่องน้ำเกลือ ฉันนั้นมึนอยู่คนเดียว  ทันใดนั้น พ่อก็มานั่งข้างๆ มองหน้าฉันพร้อมเอามือกุมไว้ที่เข่า   เห็นน้ำตาของพ่อเริ่มคลอ (**ครั้งแรกที่เคยเห็น)

    บอกไม่พูดอะไร ฉันก็นั่งเงียบ  บรรยากาศเริ่มเงียบครึม  ทันใดนั้นหมอก็มาเอาเครื่องน้ำเกลือมาให้  เอ้า มาได้จังหวะ(ดีมากหมอ)  หมอบอกว่า คงต้องพักซักพักนึง ประมาณ2-3อาทิตย์    (โอ๊วว!!ไม่ต้องไป รร)     ((ยังจาคิดมาได้)) 

           ทั้งคืนพ่อฉันเฝ้าฉันทั้งคืน    ฉันนอนบนเตียง ส่วนพ่อ?? นอนที่เฝ้าไข้ซึ่งแข็งมาก

    ฉันเริ่มรู้สึกตัวเองว่าทำอะไรลงไป ฉันทำไปแบบนี้ดีแล้วหรือ   ครุ่นคิดกับตัวเองได้ซักพัก

    *รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ(-_-*)เอาแล้วไง เครื่องให้น้ำเกลือมันไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เพราะว่ามันระบบอัตโนมัติและเครื่องก็ใหญ่มักๆ (เวนระกุ  ปวดก็ปวด)  มองไปทางขวาก็เห็นพ่อ นอนอยู่(เรียกดีไหมฟ่ะ(- -)  เอ้า..ไม่เรียกดีก่า~   กลั้นใจหลับตา

    (โอ๊ยยย~ม่ะไหวแล้วเว๊ย) เรียกเลย พ่อๆ   พ่อๆพ่อลุกขึ้นมาดู  ฉันตอบแบบไม่อายละ

    (ศักดิ์สงศักดิ์ศรีกุไม่สนไม่ไหวละวู๊~)  บอกพ่อว่าอยากเข้าห้องน้ำ  พ่อก็จนปัญญา

    ไปหาพยาบาล  บอกว่าลูกสาวผมจะเข้าห้องน้ำ (รู้ไหมพยาบาลว่าไง!!)

                อ๋อ..ขออภัยนะคะ เครื่องนี้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ แต่เรามีกระโถนสำหรับคนไข้(*0*)(จ๊ากกกกกกก!!!จาเป็นลมมมม~)  พ่อ ยก กระโถนอย่างว่ามา  ฉันมองมันได้ซัก5-7นาที

    มองแล้วดูรูปร่างหน้าตาอันทุเรศของมัน (กุจานั่งดีไหมวะเนี่ย) มันเป็นแบบว่าแบนๆทำด้วยสแตนเลด (นึกดูแล้วยังจาอ้วก!) เอาว่ะ!! ไม่ไหวแล้ววุ๊ย  นั่งก็นั่งฟ๊ะ  เอ้า..นั่งเส็ด (โล่งเลย~)

    เอ้าเวนละ!!!! แล้วกุจาเอาไปทิ้งไงวะเนี่ย  ติดอยู่กับไอ้เครื่องให้น้ำเกลือ  ตะโกนบอกพ่อว่า

    พ่อ  จาเอาไปทิ้งยังไงอ่ะ ลุกไม่ได้คิดเครื่องให้น้ำเกลือ  พ่อเดินเข้ามาในห้องแล้วก็มองหน้าฉันแล้วถามว่า  กระโถนอยู่ไหน  พ่อไปทิ้งให้!!!!!!!!!!!!!!!!!!

    (ม๊ายก๊อดดดดด~) รู้สึกผิดสุดๆ แล้วก็อายโครตๆ เลย(..- -..) ฉันรอพ่อ ก็ไม่ทันไรหลับซะงั้นzzZ(นึกแล้วทุเรศตัวเอง)  กลางดึกตี2-3กว่าๆ ฉันเริ่มมึนแล้วก็อาเจียนอย่างหนัก  พ่อวิ่งมากุมมือฉันเอาไว้  พ่อทำสีหน้าไม่สบายใจ   มือของท่านอุ่นมาก เหตุการณ์นั้นทำให้ฉันรู้สึกผิดกับตัวเองที่ทำให้พ่อได้เดือดร้อน..

    มันซึ้งมากบรรยายกาศนั้น ฉันปวดหัวและ เบลอไปหมด  แต่ในใจมันเหมือนมีน้ำตาท่วมเต็มไปหมด  ความทรมานที่ฉันทานยาเข้า ไป  รู้เลยว่ามันทรมานแค่ไหน ไม่ใช่เหมือนอย่างในละครที่แปปเดียวก็หาย แต่มันทรมานเกินบรรยาย เหมือนกับว่า *ตายยังดีกว่าอีก

     

    เช้ารุ่งขึ้น..

     

                เพื่อนสนิท มากันเต็มไปหมด ฉันอึ้งมากๆเพราะคิดว่าคงไม่มีใครสนใจอะไรมาก

    และได้รู้จักมิตรภาพที่แสนดีในตอนนั้น  ทุกคนมาเยี่ยมฉันแล้วพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

     

    เพื่อนไม่แปลกใจด้วยซ้ำว่าทำไมฉันถึงทำอย่างนี้!!

    พวกเค้ารู้สิ่งที่ฉันเจอแล้วมันกดดันแค่ไหน มันปวดร้าวแค่ไหน       พอเที่ยง  เพื่อนๆก็เริ่มกลับ

    พอลาจากกัน .. ฉันเห็นหนังสืออยู่เล่มนึงวางอยู่บนโต๊ะ เปิดดูหน้าแรกเป็นรูปการ์ตูนที่ฉันชอบวาด คือ รูปการ์ตูนแบบ สไตล์ญี่ปุ่นที่ตาโตๆ อ่ะนะ   เปิดเรื่อยๆ  ก็ไปที่หน้ากลางซึ่งมีปากกาคันไว้   พ่อทิ้งข้อความเอาไว้!!!

     

    …..นุ่น   นุ่นทำอย่างนี้เพื่ออะไร บอกพ่อได้ไหมพ่อไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกทำ

    ลูกทำอย่างนี้ มันเป็นบทเรียนของลูกแล้วนะ  รู้คงรู้สึกว่ามันทรมานแค่ไหน………………….(2หน้าผ่านไป)  เมื่ออ่านจบ น้ำตาฉันไหล ไหล

    ไหลไม่หยุด ฉันเข้าใจอะไรไปเองที่พ่อ ทำ มันยังไงกันแน่??ไม่เข้าใจสับสนไปหมด?

    รู้สึกสำนึกในตนเอง..

     

     

    ตอนเย็น….

    ฉันต้องกินน้ำหวานเพราะมันบำรุงตับ *ห้ามกินข้าว (อ๊ากก!หิว)  ปวดท้องหิวข้าวมากๆ

    มองไปซ้ายขวาไม่มีอะไรเลย มีแต่นมกล่อง  ดอกไม้  ขนม? ไอ้น้องตัวแซบมันเอาไปเจี๊ยหมดเกลี้ยง   (@_@)ตาลาย โทรหาพ่อบอกให้เอากับข้าวมาให้ด่วน  หมอสั่งไม่สนละวุ๊ย กุกินอย่างเดียว     หมอมาเห็นก็ประหลาดใจที่ฉันฟื้นตัวเร็วมากกินข้าวไปตั้ง3-4จาน

    (ขอร้องอย่าว่าฉันกินจุเลย…3วันแล้วกินแต่ไอ้น้ำหวาน) หมอบอกว่าพรุ่งนี้ หมออยากให้ไปคุยกับฝ่ายจิตแพทย์หน่อย??  มันคืออะไรหว๋า?  คุ้นๆ เฮ้ยยย!!!!ผู้ป่วยทางจิต เวนละ

     

    (=_=)~ง่า   เค้าเหงเราบ้ารึไงว๋า~  

     

     

     

     

     

     

     

    ตอนเช้าอย่างว่ามีรถเข็นมารับถึงที่ ลงไปชั้นล่างสุด และเข้าไปในห้องนั้น

     

    มันมียาบ้าแปะเป็นตัวอย่างอยู่เต็มห้อง????(เอ๊ะ ยังไง!!)

     

    หมอตรวจดูว่าฉันเคยมีพฤติกรรมเกี่ยวกับการทำร้ายตัวเอง และใช้ยาเสพติด  แล้วยังคิดฆ่าตัวตาย!! ( ปวดหัว )

    หมอถามทำไมถึงทำอย่างนี้  ฉันก็เล่าตามความจริงทั้งหมดที่ให้ฟัง

    หมอทำหน้าอย่างเข้าใจในสิ่งที่ฉันเล่าไป   ต้นเหตุคือครอบครัว!  แต่ฉันก็คิดอยู่ว่าตัวเองก็ทำตัวเราเองเหมือนกันนั้นแหละนะ  หมอนัดพ่อมาคุย แต่พ่อไม่ว่าง ปรากฏว่า พ่อไม่ไปหาหมอจิตแพทย์ เพราะไม่ว่างติดงานธุระ  (ง่ายๆ ไม่ได้ปรับความเข้าใจ) 

    วันเวลาผ่านไป……ฉันเบื่อมาก หมอเดินมาบอกว่าฉันสามารถเปลี่ยนเครื่องน้ำเกลือได้แล้วจากที่ เป็นแบบเครื่องใหญ่  เปลี่ยนเป็นเครื่องที่พกพาลากไปเข้าห้องน้ำได้แล้ว!!(YES!!)     แต่!! ต้องเจาะเข็มใหม่ (เวนนน~กามมมม~)   

    หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันออกจาก โรงพยาบาลได้แล้ว..(เย้  ดีจัง)

     

     

    แต่ว่า!!!!!!น้ำหนักขึ้นนนนนนนน(น้ำเกลือทำให้อ้วน)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×