[TWICE] Virtual Reality (MiChaeng)
ผู้เข้าชมรวม
1,202
ผู้เข้าชมเดือนนี้
13
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
‘ไม่รู้ว่าคุณจะกำลังอ่านมันอยู่หรือเปล่า
และไม่รู้ว่าคุณจะรู้ตัวหรือเปล่า ว่าฉันกำลังหมายถึงคุณ’
ตัวอักษรทั้งหมด 96 ตัว ถูกฉันพิมพ์ขึ้นมาอย่างตั้งใจให้เต็มไปด้วยนัยยะ
ฉันไม่ได้บอกว่าฉันกำลังหมายถึงใคร เพราะฉันคิดว่าเขาคงรู้ตัวเองดี หรืออาจจะไม่รู้อะไรเลย...
นี่เป็นอีกโลกหนึ่งที่ฉันมีตัวตนอยู่
ทว่าตัวตนของฉันในโลกใบนี้จับต้องไม่ได้ ไม่มีสสาร ไม่มีสถานะ ไม่มีอะไรเลย... นอกจากชื่อที่ฉันตั้ง
@Mina_Sharon0324 แค่นั้น...
ในโลกใบนี้
ฉันมีตัวตนอยู่แค่นั้น
.................
“จะยาวไปไหมนะ?” เมียวอิ มินะ สาววัย 22 ปี ชาวญี่ปุ่น ตั้งคำถามกับตัวเอง ก่อนจะรัวนิ้วยาวลงบนแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าหล่อน พลางมองกระดาษ Reuse ขนาด A4 ที่วางอยู่ข้างๆ ที่เต็มไปด้วยร่องรอยการขีดเขียนมากมาย แต่ก็มีลำดับรายการอย่างเป็นระเบียบ สลับกับรัวนิ้วลงไปเรื่อยๆ
หล่อนไม่ใช่นักเขียน ที่กำลังแต่งนิยายหรือกำลังเขียนบทความ
หล่อนไม่ใช่นักศึกษาที่กำลังพิมพ์รายงานส่งอาจารย์
หล่อนไม่ใช่ใครเลย ที่มีความจำเป็นจะต้องพิมพ์อะไรทั้งนั้น
หล่อนเป็นผู้หญิงธรรมดา ที่เพิ่งเรียนจบ ยังไม่มีงานทำ และอยู่ในช่วงค้นหาตัวตน...
นี่เป็นครั้งแรกที่ เมียวอิ มินะ จะได้ก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ โลกนั้นมีชื่อว่า ทวิตเตอร์
โลกนั้นไม่ได้มีแผ่นดิน ผืนน้ำ หรืออากาศที่เป็นองค์ประกอบสำคัญเหมือนกับโลกที่มนุษย์ทุกคนกำลังใช้ชีวิตอยู่
โลกนั้นมีเพียงพื้นที่เล็กๆ เล็กมากจนไม่อาจจะนำสิ่งมีชีวิตใดๆไปอาศัยอยู่ได้
เว้นเสียแต่ความรู้สึก ความคิด หรือความรู้ต่างๆ ที่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร ภาพ และวีดิโอสั้นๆเท่านั้น
ที่จะมีสิทธิ์ถูกบรรจุลงไปในโลกใบนี้
“อืมมมมม เอาชื่อนี้ละกัน” เมียวอิ มินะ รัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์อีกครั้งพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า
หล่อนใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงแล้ว ในการนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ไม่ไปไหน
กว่า 300 นาทีที่สูญไปกับการเลือกชื่อบัญชีที่ เมียวอิ มินะ
คิดแต่ว่ามันจะต้องเป็นชื่อที่เหมาะสมกับเธอที่สุด
และเป็นชื่อที่เธอพอใจที่สุด
ทั้งๆที่ชื่อบัญชีนั้น สามารถปรับเปลี่ยนกันได้ทีหลัง ไม่ได้กะเกณฑ์ว่าจะต้องใช้ได้แค่ชื่อเดียวตลอดไปเสียหน่อย
ทันทีที่หล่อนเลือก Mina_Sharon0324 ให้เป็นชื่อบัญชีของหล่อนแล้ว
สิ่งแรกที่หล่อนทำคือกดติดตามแทบจะทุกบัญชีที่เกี่ยวข้องกับดาราศาสตร์ อวกาศ วิทยาศาสตร์ หรืออะไรเทือกนั้น
ทั้งๆที่หล่อนไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้มาโดยตรง เรียกได้ว่าแทบจะไม่ได้มีความรู้เรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ
นี่แหละคือความชอบล้วนๆ สงสัยจะได้ยีนส์ฉลาดมาจาก เมียวอิ อากิระ ผู้พ่อ
“มินะจัง ออกมาจากห้องได้แล้วลูก ลงไปทานข้าวกัน” เอ่ยถึงไม่ทันขาดคำ เสียงเคาะประตูจาก เมียวอิ อากิระ ก็ดังขึ้นพร้อมเสียงเรียก
“ค่า” มินะตอบกลับสั้นๆแต่เสียงยานคาง หล่อนยืนขึ้นแล้วบิดขี้เกียจไปมา 2 – 3 ครั้ง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องแล้วเผชิญหน้ากับโลกแห่งความจริง โลกที่เธอกำลังหนีอยู่...
“ดูงานไปถึงไหนแล้วมินะจัง เจอที่ไหนที่ถูกใจบ้างไหม” อากิระ เอ่ยถามประโยคนี้กับลูกสาวมาไม่ต่ำกว่า 6 ครั้งแล้วในรอบสัปดาห์นี้
“ก็ยังไม่เจออันไหนที่น่าสนใจเลยค่ะ” มินะตอบอ้อมแอ้มไปมา ที่จริงแล้ว หล่อนไม่ได้หางานจากในอินเทอร์เน็ตตามที่อ้างกับบิดามารดาเลยด้วยซ้ำ
“พ่อว่ามินะลองไปทำงานที่มหาลัยกับพ่อดีไหม ฝ่ายทะเบียนกำลังหาคนอยู่ ลองไปทำดู มินะอาจจะชอบก็ได้นะ มันดีกว่าการที่ลูกเอาแต่อยู่ในบ้านไม่ทำอะไรเลยแบบนี้” ประโยคของผู้พ่ออาจจะติดตำหนิอยู่หน่อยๆ แต่ในน้ำเสียงนั้น กลับเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและความหวังดี
แต่ความหวังดีนี้ ช่างน่ากลัวเหลือเกิน คล้ายกับมีพลังงานบางอย่าง ที่ไม่ใช่ทั้งพลังงานในด้านบวกหรือพลังงานในด้านลบ แต่เป็นพลังงานที่มีทั้งสองขั้วอยู่ด้วยกัน การทำงานของมันจึงคล้ายกับแม่เหล็ก ที่ทั้งผลักออกและทั้งดึงดูด เป็นความรู้สึกที่ทำให้มินะลำบากใจ และพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่การต้องเจอะเจอกับความหวังดีเช่นนี้
“อิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ” มินะลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร พร้อมนำจานข้าวตรงหน้าไปเก็บ แต่ข้าวในจานไม่ได้พร่องลงไปเลยสักนิด
ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ มีหรือที่ เมียวอิ ซาจิโกะ ผู้ที่คลอดมินะออกมาเองกับตัวจะดูไม่ออก ว่าลูกสาวคนเล็กนั้นกำลังกังวลใจอยู่ แต่ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ ผู้ที่เลี้ยงมินะจนเติบโตมาเองกับมืออีกเช่นกัน ที่รู้ดีว่า ลูกสาวสุดที่รักนั้น มีวิธีเยียวยาตนเองอย่างไร เรื่องนี้เธอจึงจำเป็นต้องให้ลูกสาวได้ใช้เวลากับตัวเองบ้าง เพราะที่ผ่านมาก็เป็นความผิดของเธอส่วนหนึ่งเช่นกัน ที่คอยยัดเยียดความสมบูรณ์แบบให้กับมินะตั้งแต่เจ้าหล่อนยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยจนโตเป็นสาวเต็มวัย ซาจิโกะเสียใจที่ลืมมองไปว่า มินะอยากจะเป็นแค่คนไม่สมบูรณ์แบบที่มีความสุขเท่านั้นเอง...
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกอีกเช่นกัน ที่ความคิดจะวิ่งหนีปัญหาด้วยวิธีอันแสนสั้นนั้นผุดขึ้นมาในสมองของมินะ หล่อนรู้ดีอยู่เต็มอกว่ามันเป็นความคิดที่งี่เง่าและไม่ใช่ทางออกของปัญหาต่างๆ รังแต่จะเพิ่มความเจ็บปวดให้กับทุกคนที่อยู่ข้างหลัง แต่เวลาหล่อนตกอยู่ในสภาวะกดดันมากๆและไร้ซึ่งการระบายออกเช่นนี้ ความคิดที่ว่านี้ก็คอยจะตามมาหลอกหลอนอยู่เรื่อย หรือว่าจริงๆแล้วนี่จะเป็นเส้นทางที่ได้ถูกกำหนดไว้โดยพระผู้เป็นเจ้า
ตั้งแต่ขึ้นมาบนห้องส่วนตัว มินะทิ้งตัวนอนมองเพดานว่างเปล่าอยู่อย่างนั้นเป็นเวลานานหลายชั่วโมง แสงสว่างจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ยังคงไหวอยู่ที่ปลายเตียง หล่อนยันตัวเองขึ้นมาแล้วพิมพ์ทุกอย่างที่อยู่ในใจลงไปในโลกที่ไม่มีใครรู้จักเธอ ในโลกที่เธอไม่รู้จักใคร ในโลกที่จำกัดเธอไว้เพียง 140 ตัวอักษร ทุกๆตัวอักษรนั้นแม้จะจับโทนเสียงหรือคาดเดาอารมณ์ของผู้บรรยายได้ยาก แต่หากใครได้ผ่านมาเห็นข้อความเหล่านั้น คงสัมผัสได้ลึกๆว่า มันคือ การล่ำลาที่ไม่มีเสียง
ผลงานอื่นๆ ของ Synapses ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Synapses
ความคิดเห็น