ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fanfic] หัวขโมยแห่งบารามอส เรื่องราว หลังจากนั้น

    ลำดับตอนที่ #57 : อาการป่วยเล็กน้อยก่อนสอบ (100%)สำคัญมากขอความร่วมมือให้อ่านข้างท้ายทุกคนฮะขอร้อง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.96K
      17
      6 มี.ค. 49

    คิดไปคิดมา เอามาใส่ข้างบนกันท่าไว้ดีกว่า

     เอาล่ะ 100%แล้วฮะ สำหรับตอนนี้

    ไม่อยากจะบอกเลยฮะ ว่าตอนหน้าก็จะเป็นตอนสุดท้ายแล้ว

    สำหรับฟิคภาคนี้ ใช้คำว่าภาคเพราะว่า

    ถ้ามีอารมณ์อาจจะมาปั่นภาคสี่ให้อ่านเล่นกันต่อฮะ

    เอาล่ะฮะ คำถามต่อไปก็คือ ถ้าเราไม่ปั่นฟิคRxFที่สัญญาไว้จะว่าอะไรมั้ยฮะ

    คือว่า มันปั่นไม่ออกอ่ะ เฟลจริงๆสำหรับเรื่องนี้ ปั่นไม่ไหว

    มีตัวเลือกให้ทุกคนอยู่สองข้อฮะ

    1. จะเอาฟิค ถ้าจะเอาก็ต้องรอนะฮะ..... รอจนกว่าเราจะมีปัญญามาปั่นมัน เพราะตอนนี้ตันสุดๆ

    2. ไม่เอาฟิคก็ได้ไม่เป็นไร ถ้าเลือกข้อนี้จะได้ออริทันทีเลยฮะ

    เราจะลงออริให้แทนฟิคที่ไม่สามารถลงได้ทันทีที่ฟิคเรื่องนี้จบ

    เพราะตอนนี้ออริของเราค่อนข้างที่จะพร้อมแล้ว ประมาณ70%แล้วฮะ

    ขอให้ทุกท่านที่อ่านฟิคของเรา และสนใจที่จะติดตามผลงานต่อไปกรุณามาเลือกไว้ด้วย

    ขอบอกว่าทุกคนฮะ เพราะถ้าไม่มีคนเลือกอะไรเลย

    เราจะไม่ลงทั้งคู่ แล้วหนีไปอ่านฟิค+ออริ+หนังสือเรียนเข้าเตรียมซักพักนะฮะ

    เราพูดจริงๆ เพราะเหนื่อยมาก ปั่นฟิคแต่ละตอนนี้แทบขาดใจ

    กำลังใจที่มีคือคอมเม้นและคนอ่านเท่านั้นฮะ ถ้าไม่มีคนสนใจ เราจะไม่ลงให้รกหูรกตาฮะ

    แล้วปิดเทอมนี้เราเรียนทุกวันฮะ ทุกวันคือไม่มีวันหยุดเลย เราอยากจะบ้าฮะ

    จะขอบคุณมากฮะถ้าทุกคนให้ความร่วมมือ

    เพราะถ้าคนส่วนใหญ่ที่เป็นนักอ่านเงา ที่เราไม่ว่าอะไรหรอกฮะถ้าคุณจะเป็นนักอ่านเงา

    แค่ยังอ่านก็พอ แต่ตอนนี้กรุณาใช้สิทธ์ใช้เสียงของท่านด้วย ถ้าไม่อ่านประกาศตรงนี้ ก็ไร้ความหมายฮะ

    เพราะไม่อ่าน คือไม่มีคนลงคะแนน คือไม่มีเรื่องถัดไปของเราแน่นอนฮะ

    ขอบคุณล่วงหน้าฮะ ทุกท่าน อ่านให้สนุกนะฮะ

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    "ไง เฟริน ไหงวันนี้ตื่นเองได้วะ" เสียงทักยามเช้าแทนคำว่าอรุณสวัสดิ์จากเพื่อนรัก เรียกสายตาขุ่นๆปนกับมึนๆได้จากคนถูกทักตอนเช้าในช่วงที่สมองยังไม่ปรับรับอะไรทั้งนั้น

    "แล้วทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นด้วยวะ เครียดจัดรึไง" คิลตบบ่าของเพื่อรักเบาๆ

                    แน่ล่ะสิ เมื่อคืนเธอโดนโรเวนเรียกไปฝึกเวทย์มายาภาพ แล้วต้องมาทำรายงานต่อจนดึก ดึก จนเธอได้นอนน้อยกว่าทุกวัน แต่ถึงแม้จะเหนื่อย งานก็ยังเสร็จทันกำหนดที่บอกไว้กับกัส เพื่อนร่วมงาน

    "เอาน่า ทนๆไปหน่อย เดี๋ยวปีหน้าฉันว่าแกก็ต้องรับหน้าที่หนักกว่านี้" คิลพูดเสียงเบา ก่อนจะลากตัวเพื่อนรักเจ้าหญิงหัวขโมยไปยังโรงอาหารเพื่อทานอาหารเช้า

    "ไปเหอะ บางทีถ้าแกได้กินอาหารเช้าอาจจะดีขึ้น" เฟรินพยักหน้าแล้วเดินตามคิลไปอย่างงัวเงีย ถ้าถามว่าทำไมวันนี้ถึงตื่นเองได้ บอกได้เลยว่าเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาเอง แถมเธอยังรู้สึกมึนๆผิดปกติอีกต่างหาก

    "อ้าว ไงเฟริน อรุณสวัสดิ์" โรเอ่ยคำทักยามเช้ามาให้เธอ ซึ่งพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง แล้วก้มหน้าลงกับฝ่ามือ

    "เป็นอะไรรึเปล่า" เจ้าคนที่เงียบมานานทักขึ้นอย่างเป็นห่วง ในท่าทีของเธอที่ดูแปลกไปจากปกติ แม้ช่วงสามสี่วันมานี่มันจะไม่ค่อยพูดในช่วงเช้า แต่วันนี้ดูมันผิดไปจากทุกวัน

                    เฟริน สั่นหัว โดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาตอบเสียด้วยซ้ำ ท่าทีที่ทำให้โรต้องเอามือไปอังหน้าผากของสาวน้อยที่อยู่ใกล้ตัว ก่อนจะรายงานให้คนอื่นรับรู้

    "ตัวอุ่นๆนะ" เขาเว้นช่วงนิด แล้วหันมาพูดกับเธอต่อ "เฟริน เมื่อวานนายนอนกี่โมง" เฟรินชูขึ้นมาสามนิ้วแทนคำตอบ ตอนนี้สมองเธอมึนเกินกว่าที่จะเอ่ยคำพูด

    "สามทุ่ม" คิลทวนคำตอบจากการชูนิ้วของเธอ เฟรินสั่นหัว ทำให้โรตาเบิกกว้าง

    "ตีสาม!! โดยที่เพิ่งฝึกเวทย์มายาภาพเสร็จเนี่ยนะ" เขาถามเสียงลั่น พลางส่ายหน้าช้าๆแล้วเสริมเบาๆ "นายป่วยแน่ เฟริน" คาโลที่ได้ยินคำเสริมมองไปยังร่างบางที่พยักหน้ารับน้อยๆ โดยที่เอามือปิดตาไว้อย่างนั้น

    "ทำอะไรอยู่จนดึกจนดื่น" เขาถามต่อทันที เฟรินไม่ตอบ ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่า หัวชักจะหมุนๆแล้วเสียด้วย

    "วันนี้หยุดเรียน เดี๋ยวฉันจะไปบอกอาจารย์ให้" คาโลตัดบทเมื่อเห็นเฟรินไม่ยอมตอบเสียที พลางจะประคองร่างบางไปส่งยังห้องพยาบาล

    "ไม่ได้นะ" เฟรินร้องห้ามเสียงเบา คำแรกที่ได้ยินออกจากปากของเธอในวันนี้

    "วันนี้ฉันยุ่งกว่าที่นายคิด หยุดไม่ได้หรอก"

    "แต่ก็ต้องหยุด นายทำท่าจะเป็นไข้ และถ้านายเป็นไข้ไปจริงๆ มันจะลำบาก" เขายกเหตุผลขึ้นมาอ้าง และไม่ฟังคำทัดทานจากเธออีก สองแขนแกร่งก็อุ้มตัวเธอลอยขึ้นจากพื้น แล้วพาเดินไปยังห้องพยาบาลในทันที โดยไม่สนแม้แต่ว่า เช้านี้ คนทำท่าจะป่วยยังไม่ได้ทานอาหารเช้า

    "นอนซะ เย็นนี้ก็ไม่ต้องไปติวกับพวกโรเวน เดี๋ยวฉันจะไปบอกพวกเขาให้ ทำตัวดีๆ แล้วตอนเที่ยงจะมาหา" คาโลบอกสาวน้อยคู่หมั้นอย่างไม่เป็นทางการในอ้อมแขน ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับด้วยว่า ถ้าไม่รับคำ เดี๋ยวมันก็ต้องร่ายเวทย์นิทราใส่เธออีก และนั่นแหละจะเป็นปัญหา เฟรินกระตุกชายเสื้อของชายหนุ่มเบาๆ แล้วยื่นสมุดให้เล่มนึง

    "ฝากไปให้กัสทีนะ บอกว่า เนื้อหาเสร็จแล้ว" เขาเหลือบมองสมุดเล่มตรงหน้าเล็กน้อย

    "ออ อย่าบอกนะว่านายอยู่ทำนี่จนถึงตีสาม" คำถามเสียงเย็นที่เธอไม่อยากได้ยิน ดังออกมาจากปากบุรุษตรงหน้า

    "ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ไม่ทำก็ไม่เสร็จสิ" คำตอบที่ฟังดูมีความรับผิดชอบขึ้นทำให้เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรับสมุดไปจากมือเธอ

    "ขอบใจนะ" เฟรินเอ่ยคำขอบคุณเบาๆ ก่อนจะหลับตาลงสู่ห้วงนิทรา


    "หืม สมุดนี่จากเฟริน" กัสย้อนถามมือยกสมุดขึ้นดู พลางเหลือบสายตาขึ้นไปสบกับเจ้าคนที่เอามาให้ คาโลพยักหน้ารับ

    "แล้วเจ้าตัวล่ะ" เขาถามต่อเมื่อไม่เข้าใจเหตุผลที่เพื่อนร่วมงานไม่เอามาให้เขาด้วยตัวเอง แต่ฝากคนอื่นนำมาให้แทน

    "นอนอยู่ห้องพยาบาล" เสียงตอบมาจากข้างตัว โร เซวาเรส ทำให้เขาพยักหน้ารับ เมื่อหมอนี่เองก็อยู่กับโต๊ะเฟรินเมื่อเช้า ยังไงก็ต้องรู้เรื่องของเฟรินอยู่แล้ว ก่อนที่คาโลจะรีบส่งข้อความที่ได้รับฝากมาให้

    "มันฝากมาบอกว่าเนื้อหาเสร็จแล้ว" สิ้นคำ ก็หันหลังกลับไปนั่งประจำที่ ด้วยกริ่งสัญญาณเริ่มของการเรียนคาบแรกดังขึ้นมาพอดี

                    อาจารย์ประจำวิชาสอนในคาบเช้าเดินเข้ามาในห้องทันทีที่สิ้นเสียงกริ่ง และเตรียมลงมือสอน หนังสือที่จำเป็นยังคงกางอยู่บนโต๊ะ หากแต่สายตาของบุรุษผมเงินไม่ได้มุ่งไปยังหนังสือ หรือตัวอาจารย์ผู้สอนแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นสมุดในมือที่ได้รับมาเมื่อครู่ ก่อนที่มือจะค่อยๆพลิกเปิดสมุดออกดูเนื้อหาภายใน

                    เด็กหนุ่มอ่านรายละเอียดโดยย่อของเนื้อหาที่เพื่อนร่วมงานจดมาในสมุดที่เขาเอาไปให้ ก่อนจะเกิดความคิดที่ว่า อย่างเฟรินนี่สามารถทำเสร็จได้ในเวลาสองสามวันเชียวหรือ เขาล่ะแทบไม่เชื่อ ไม่ใช่ไม่เชื่อในความสามารถ แต่เพราะเธอไม่มีเวลา เช่นเดียวกับเขาในช่วงนี้ เขาโดนรุ่นพี่ไธนอสเรียกตัวไปฝึกงานบ้างแล้ว ทำให้การทำรายงานของเขาและเธอต้องแยกกันทำไปโดยปริยาย

    "อย่าทำหายล่ะ เฟรินทำทั้งคืนเลยเมื่อคืน จนวันนี้เลยทำท่าจะป่วย พวกฉันเลยให้หยุด" เพื่อนร่วมห้องกระซิบบอกเบาๆ มาจากข้างตัว เขาพยักหน้ารับน้อยๆ อย่างไม่คิดแปลกใจแม้แต่นิด เพราะฉายามันคือห้องสมุดเคลื่อนที่ และมันยังไปนั่งทานข้าวกับพวกเฟรินทุกวัน ย่อมรู้การเคลื่อนไหวของเฟรินแน่นอน ก่อนจะค่อยอ่านต่อไปด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น

                    เขาปิดสมุดลงเมื่ออ่านจนจบบรรทัดสุดท้าย นี่ขนาดบอกให้ย่อ แล้วแถมยังมีเนื้อหาส่วนเดิมอยู่แล้วประมาณหนึ่งเล่มสมุดเศษๆ เนื้อหายังมากว่าครึ่งเล่มสมุด คิดแล้วไม่ผิดที่ให้เฟรินรับผิดชอบเรื่องนี้ อย่างนี่น่าจะได้ถึงร้อยห้าสิบหน้าแน่ กัสคิดอย่างดีใจ รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก แต้มให้ดวงหน้าสวยดูดีขึ้น ก่อนจะรีบหุบฉับลงทันที เมื่อเห็นว่า สมุดเนื้อหาของเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งได้รับมากำลังถูกนำไปอ่านโดยไม่ได้รับอนุญาต จากเจ้าเพื่อนร่วมห้องนอนทั้งสอง

    "เนื้อหาที่คุณกัสกับคุณเฟรินจะเอามาทำรายงานหรือครับ" เสียงกระซิบถามอย่างสุภาพของซีบิลดังขึ้นขณะร่วมกันอ่านเนื้อหาในสมุดกับเจ้าขอทานกำมะลอรู้มาก

    "อืม" เขาตอบรับ พลางดึงสมุดกลับคืนมาจากเจ้าคนที่หยิบสมุดไปอ่านโดยไม่ได้รับอนุญาต

    "น่าสนใจดีนะครับ ทำรายงานเรื่องนี้คงจะสนุกน่าดู" ซีบิลว่าต่อ เขาแค่พยักหน้ารับ ก่อนจะกระซิบเป็นเชิงจะว่ากับเจ้าคนถือสมุด

    "เอาคืนมานี่ ฉันต้องใช้วันนี้" โรขยับรอยยิ้มบาง ก่อนจะปล่อยคืนไปแต่โดยดี กัสเก็บสมุดของเฟรินลงใส่กระเป๋าทันที ก่อนจะหยิบสมุดของตัวเองขึ้นมาดูบ้าง

                    เนื้อหาในส่วนของเขา ตอนนี้ประมาณสองเล่มสมุด แล้วก็ยังไม่เสร็จดี น่าจะได้อีกประมาณครึ่งเล่ม วันนี้ก็น่าจะเสร็จ ถ้ามีเวลาว่างมากพอ เขาเก็บสมุดส่วนของตัวเองลงไปตามเดิม แล้วเริ่มมาเอาใจใส่กับการเรียนต่อ ก่อนจะเห็น โรกำลังมุ่งกับการจดเลคเชอร์ที่ละเอียดเกินกว่าทุกวัน ซึ่งเขาก็ไม่คิดถาม ด้วยรู้อยู่แล้วว่า มันจะทำไปเพื่ออะไร

                    เสียงกริ่งหมดชั่วโมงแรกดังขึ้น หลายคนเริ่มเก็บหนังสือใส่กระเป๋า ส่วนอีกหลายคนก็หิ้วกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องเรียนไปเลย เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะพวกมันไม่คิดจะเรียนกันน่ะสิ ไม่น่าถาม

                    โรคว้ากระเป๋า แล้วรีบเดินไปคุยกับคาโลทันทีที่หมดชั่วโมง เช่นเดียวกับซีบิล ที่ขอตัวไปปรึกษากับเอ็ดเวิร์ด เรื่องรายงาน เฮ้อ ไอ้พวกนี้ พอเห็นรายงานของเขากับเฟรินแล้วก็เลยร้อนตัว เร่งไปกันใหญ่ เขาคิดขณะเดินไปยังสนาม เพื่อเรียนวิชาฟันดาบต่อไป เดี๋ยวตอนเที่ยงต้องไปหาเฟรินเรื่องนี้ซะหน่อยแล้วมั้ง


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                    น่าเบื่อ เธอถอนหายใจเป็นรอบที่น่าจะถึงห้าสิบได้แล้วตั้งแต่ตื่นขึ้นมา พอคาโลพามาถึงห้องพยาบาล เธอก็หลับไปเลย แต่ก็แค่แปบเดียว เธอตื่นขึ้นมาในอีกประมาณหนึ่งชั่วโมงให้หลัง พร้อมกับอาการมึนในช่วงเช้าที่อาการเริ่มดีขึ้น จะให้ไปเรียน ไอ้คาโลก็คงเขม่นเอา แต่ไอ้จะนอนต่อ มันก็นอนไม่หลับ เลยได้แต่นอนเซงอยู่อย่างนี้ไง เมื่อไรมันจะได้เวลาพักเที่ยงซะทีเนี่ย

                    เสียงประตูห้องพยาบาลถูกเปิดออกอย่างเบาๆ แม้จะเบาแค่ไหน แต่ก็คงไม่มีวันลอดพ้นหูของขโมยเก่าไปได้ เสียงประตูเปิด พร้อมเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามา ทำให้รู้ว่า ห้องพยาบาลมีแขกมาเยี่ยม เฟรินพลิกตัวไปอีกด้าน แล้วพยายามข่มตาหลับอีกครั้ง แต่เมื่อเปลือกตากำลังจะปิดลง เสียงทักก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

    "เฟริน หลับอยู่รึเปล่า" เสียงทักเบาๆอย่างเกรงใจดังขึ้นใกล้ๆกับเตียงของเธอ เป็นผลให้เธอลืมตาขึ้น แล้วค่อยๆยันตัวขึ้นมานั่งเพื่อพูดคุยกับคู่สนทนาคนใหม่

    "เปล่า แค่กำลังจะเท่านั้นแหละ พักแล้วเหรอ กัส" กัสพยักหน้า ก่อนจะหยิบสมุดเนื้อหาประมาณสามสี่เล่มขึ้นมาให้เธอดู แล้วเริ่มคุยงาน สาเหตุที่เขามาหาเธอที่นี่

    "นี่คือเนื้อหาทั้งหมดตอนนี้ ใช้คำว่าตอนนี้ เพราะส่วนของฉันยังไม่เสร็จดี แต่คิดว่าวันนี้ก็คงเสร็จ เราน่าจะได้รายงานที่มีความหนาประมาณร้อยห้าสิบหน้า ถ้าคำนวณไม่ผิดพลาด" กัสแจงรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนหน้าของรายงานให้เธอฟัง เธอพยักหน้าเนิบๆเป็นเชิงให้พูดต่อ

    "แล้วก็ ที่มานี่ ฉันมาถามนายว่า ร้อยห้าสิบหน้า คิดว่าพอมั้ย"กัสบอกคำถาม เฟรินพยักหน้าตอบรับ

    "น่าจะพอนะ ชามัลไม่ได้กำหนดจำนวนหน้าไม่ใช่เหรอ หรือนายว่าไง" เฟรินถามกลับ

    "ไม่รู้สิ วันนี้จะลองไปดูที่ห้องสมุดดู เผื่อจะมีเนื้อหาเพิ่ม โรกับซีบิลเมื่อเช้าดันได้อ่านเนื้อหาส่วนนึงของนายไป ฉันเลยกลัวว่ามันจะเอาไปปรับปรุงของพวกมันอีก" เฟรินกลืนน้ำลายเอือก ซีบิลเธอไม่รู้ แต่โรกับคาโล เธอเคยของแอบมองพวกมันทำรายงานที กระดาษงี้หนาเป็นตั้ง ถ้ามันยังเอาไปปรับปรุงอีก เธอมิแย่หรือ

    "งั้นเอาเลย เดี๋ยวฉันจะไปช่วย" เฟรินทำท่าจะลุกลงจากเตียง แต่ทันทีที่ขากำลังจะแตะพื้น เสียงเย็นๆของแขกคนถัดไปก็ดังขึ้นมาห้ามไว้เสียก่อน

    "ไม่ได้" เจ้าของเสียงเดินมุ่งมายังเตียงของเธอ แล้วเอามือมาอังที่บริเวณหน้าผาก

    "ยังมีไข้อยู่นิดหน่อย ห้ามไปไหนทั้งนั้น" เฟรินตวัดสายตาไปยังคนห้ามในทันที แล้วเริ่มโวยวาย

    "ไม่เกี่ยว ฉันจะไปทำงาน นายไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉันคาโล ไปเหอะ กัส อยู่นิ่งๆแบบนี้ฉันเบื่อเต็มทน ให้ไปทำรายงานยังสนุกกว่าเลย" คำที่ไม่ว่าเปล่า มือเล็กคว้ามือของเพื่อนร่วมงานแล้วเตรียมจะกระโดดลงจากเตียง แต่แขกผู้เข้ามาใหม่อีกสองคน ก็ห้ามไว้อีกรอบ

    "อย่าดีกว่าน่า เฟริน ฉันรู้ นายเบื่อ แต่ก็หัดทำตัวให้มันอยู่เฉยๆบ้าง เดี๋ยวเป็นเรื้อรังแล้วจะยุ่ง" เสียงปรามอย่างหวังดี ดังขึ้นที่หน้าประตู

    "อีกอย่าง แกยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า ต่อให้แกไปได้ก็คงเป็นลมไปตั้งแต่เห็นตัวหนังสือแหงๆ" อีกเสียงดังขึ้น เหมือนเป็นเชิงจะดูถูก มือถือถาดอาหารแล้วเดินตรงมายังเตียงคนป่วย

    "เอ้า กินซะ อุตส่าห์ไปต่อแถวซื้อมาให้แกโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย" โรจัดการกางโต๊ะสำรับอาหาร(เค้าเรียกงี้เปล่าอ่ะ ไอ้โต๊ะที่ไว้สำหรับวางอาหารบนเตียงคนป่วยอ่ะ)ไว้บนเตียง เพื่อให้คิลเอาถาดอาหารมาวางไว้ให้เธอทานได้สะดวก กัสขยับรอยยิ้มบางมุมปาก ใครๆก็โคจรรอบตัวนายทั้งนั้น นายโชคดีจริงๆ เฟริน

    "นายอยู่นี่นั่นแหละ ดีแล้ว อย่างที่โรบอก เป็นเรื้อรังไปจะลำบาก ฉันไปคนเดียวก็พอ" เฟรินส่งสายตาเป็นเชิงจะบอกว่า จะไปช่วย เขาส่ายหัวเบาๆ แล้วกล่าวเสริมกับเพื่อนร่วมงานหัวดื้อ

    "ถ้าอยากช่วย เดี๋ยวฉันจะขนหนังสืออกมาให้นายเลือกเนื้อหา เย็นนี้นายคงว่าง นายคิดว่าเนื้อหาตรงไหนน่าเอาก็บอกแล้วกัน หายเร็วๆล่ะ เฟริน" กัสเดินออกไปจากกลุ่มสี่คนนั้นเพื่อไปยังห้องสมุดในทันที เวลาเส้นตายในการส่งรายงานใกล้เข้ามา เขาต้องเตรียมเนื้อหาส่วนของเขาให้เสร็จก่อน ก่อนที่จะไม่มีงานส่ง

    "รายงานพวกนายไปถึงไหนแล้วล่ะ" เฟรินถามระหว่างกำลังจัดการกับมื้ออาหารควบเช้ากลางวัน

    "ใกล้ความจริง มาทิลด้าเคี่ยวเหลือเกิน เลยทำท่าจะเสร็จเร็วกว่าที่คิด" คิลตอบอย่างหน่ายๆ เมื่อคิดถึงสภาพของตนเองตอนไปทำรายงานที่ห้องสมุด

    "แล้วพวกนายสองคนล่ะ" เธอหันไปถามอีกสองคนที่ทำคู่กัน แล้วไม่ยอมตอบ ก่อนจะรู้ว่าตัวเองไม่ควรถาม เพราะมันสองไม่มีวันยอมตอบ

    "เออ ไม่ตอบก็ตามใจ" เธอตัดบท ก่อนจะจัดการกับมื้ออาหารตรงหน้าให้เรียบร้อย

    "ขอบใจเว้ยคิล ที่อุตส่าห์ไปซื้อมาให้" เฟรินเอ่ยขอบคุณเพื่อนรัก พลางดันถาดอาหารออกไปห่างตัวเล็กน้อย เป็นเชิงว่าอิ่มแล้ว

    "อิ่มแล้วใช่มั้ย" เสียงเย็นๆดังขึ้นถาม เด็กสาวพยักหน้าน้อยๆ บุรุษหนุ่มคว้าถาดอาหารออกไป ขณะที่ชายอีกคนจัดการเก็บโต๊ะสำรับอาหาร(?)ให้

    "งั้นนอนซะ" สามเสียงดังขึ้นพร้อมกันราวกับนัดกันมาก่อนหน้า ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่

                    เฟรินมุ่ยหน้า แล้วเริ่มยื่นเรื่องประท้วง "เฮ้ ไม่เอาน่า ฉันไม่ได้อาการแย่ขนาดนั้น ไม่ได้ปวดหัวตัวร้อนอะไรมากมายซะหน่อย"

    "อย่ามามั่วเฟริน ไอ้โรบอกว่าแกตัวร้อนเมื่อตอนเช้า เมื่อกี้ไอ้คาโลก็บอกว่าแกก็ยังมีไข้อยู่ แล้วแกยังจะมั่วมาบอกว่าไม่มีไข้อีก ไม่ไหวๆ เฟริน" คิลว่าพลางส่ายหัว เฟรินที่ได้ยิน ยิ่งหน้ามุ่ยหนัก

    "แกลองมาอยู่นิ่งๆอย่างงี้ตลอดมั่งสิวะ จะได้รู้ว่ามันน่าเบื่อขนาดไหน" เฟรินยังคงยกเหตุผลอันฟังดูไร้น้ำหนักจากเจ้าคนมีเหตุผลทั้งสองขึ้นมาอ้าง

    "เดี๋ยวนายจะได้ไปเป็นไข้ขึ้นหนักในคาบการเงินน่ะสิ" โรว่า พลางมองหาอะไรบางอย่าง

    "ทานยาซะ" คาโลเดินเอาถ้วยยาเล็กๆมายื่นตรงหน้า ถ้วยยาที่เฟรินแค่ได้กลิ่นก็ต้องหันหลบ บอกปฏิเสธทันควัน

    "ไม่เอา"

    "ทานซะเฟริน ถ้าอยากออกจากห้องพยาบาลไวๆ" โรพูดกำชับให้เด็กสาวบนเตียง ที่กำลังออกอาการดื้อการทานยาให้ยอมทานเสียแต่โดยดี

    "นายไม่ได้กลิ่นรึไงวะ กลิ่นแบบนี้ใครจะไปดื่มลง" เฟรินหันไปแหวเจ้าคนกำชับ ก่อนจะไอชุดใหญ่ เพราะใช้เสียงมากเกินขนาด

    "นั่นไง เริ่มไอแล้ว กินซะเถอะ เฟริน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนอีก" โรชี้เรียบๆ คำเตือนที่เฟรินได้แต่ทำหน้ายุ่งๆ แล้วยอมกลั้นใจดื่มยารวดเดียวหมด

    "น้ำ น้ำ ด่วนเลย" เสียงเรียกหาน้ำอย่างเร่งด่วนทันทีที่เฟรินวางถ้วยยาลง สิ้นคำขอ แก้วโลหะที่มีน้ำอยู่เต็มเปี่ยมก็ถูกส่งมาให้ตรงหน้า เฟรินรีบคว้าไปดื่มในทันที

    "ฮ้า ค่อยยังชั่ว ยาบ้ายาบออะไรของนายหา คา........โล" เด็กสาวหันไปต่อว่าแก่บุรุษที่นำยามาให้เธอทันทีที่ดื่มน้ำหมดแก้ว ก่อนที่น้ำเสียงอ่อนลงในช่วงสุดท้ายด้วยฤทธิ์ยา เช่นเดียวมือแก้วโลหะในมือที่ตกกระทบลงบนเตียง ร่างบางเซเหมือนจะล้มลงจากเตียง แต่ก็ถูกรับไว้ได้ด้วยฝีมือของบุรุษผู้ให้เธอดื่มยา ก่อนจะประคองร่างบางให้ค่อยๆนอนลงกับเตียงตามเดิม

    "เออ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่านั่นมันยาอะไร" คิลถามขึ้นหลังจากที่สาวน้อยจอมต่อรองสลบไสลไปด้วยฤทธิ์ยา

    "ยาแก้หวัด" คำตอบสั้นๆฉบับของเจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาลที่ไม่ได้ชั่วไขความสงสัยให้กระจ่างถูกงัดขึ้นมาใช้ ขณะมือกำลังจัดการเก็บถ้วยยาและแก้วน้ำ

    "ถ้าแค่ยาแก้หวัดแล้วไหงไอ้เฟรินมันดันหลับไปได้วะ" คิลยังคงซักต่อเมื่อยังไม่เห็นว่าความสงสัยของตัวเองได้ถูกไขให้กระจ่าง โรจึงเป็นผู้ตอบคำภามแทนเจ้าคนที่ไม่คิดจะพูดต่อ

    "ฉบับของคาโนวาลน่ะคิล ฤทธิ์แรงพอสมควร แต่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ยอมกินยาอย่างเฟริน เพราะได้ผลดีถึงสองต่อ คือทำให้หายชะงัด และ ทำให้เฟรินสงบปากสงบคำ ด้วยฤทธิ์ร้ายแรงของมัน เพราะจะทำให้คนไข้หลับไปจนกว่าฤทธิ์ยาจะหมดไป ซึ่งก็คือจนกว่าเชื้อจะหมดไป"

    "เออ ดีจริง มียาแบบที่ใช้ได้กับไอ้คนอย่างเฟรินด้วยเว้ย" พูดได้แค่นั้นแล้วก็ต้องรีบผละออกจากห้องพยาบาลไป ด้วยว่านึกขึ้นได้ถึงนัดที่มาทิลด้านัดไว้ที่ห้องสมุด

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

                    ข่าวการป่วยของเฟรินแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวไฟลามทุ่ง แม้ว่าเจ้าตัวเองจะถูกปล่อยมาจากการถูกควบคุมตัว(?) ให้มาเรียนได้ตามปกติแล้วก็ตามที แต่ไม่ว่าจะเดินไปไหน อ้อ อาจจะต้องเปลี่ยนคำพูดเป็น ไม่ว่าจะเจอรุ่นพี่รุ่นน้องคนไหน เสียงถามอาการป่วยก็จะมีมาให้ได้ยินเสมอ จนคำพูดติดปากของเธอได้กลายเป็น อืม’ ‘หายแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว สบายดี อะไรทำนองนี้ไปเสียหมด

     

                    และ แน่ล่ะ ว่าเมื่อเหล่ารุ่นพี่ที่รักรู้ว่าเธอหายปุ๊บ คอร์สติวพิเศษหฤโหดก็ได้ฤกษ์เริ่มอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคราวนี้ ได้เข้มข้นกว่าเดิมเยอะ ยังไงน่ะเหรอ จากทฤษฎี เริ่มกลายเป็นปฏิบัติน่ะสิ ฝันร้ายของเธอเกี่ยวกับการติวครั้งนี้เริ่มเป็นจริง เมื่อการฝึกปฏิบัติอันโหดร้ายเข้ามาแทนทฤษฎีชวนหลับ ใครที่ไม่รู้ว่า โรเวนโหด เมื่อจบคอร์สนี้ เธอสามารถไปสาธยายให้ครบสูตรได้โดยที่ไม่ต้องใช้เวลาทบทวนด้วยซ้ำไป แต่คงจะยกเว้นประวัติศาสตร์ รายวิชานี้ พี่ลอเรนซ์แกติวชนิดครบทุกหยาดอณูของเนื้อหาเลย ซึ่ง นั่นก็เป็นประโยชน์ต่อรายงานของเธอพอสมควร

     

                    พูดถึงรายงานแล้ว ต้องยกความดีความชอบให้กัสไปเลย รายงานเรื่องการล่มสลายของอาณาจักรเกรดอร์ฟ ความหนาประมาณสองร้อยห้าสิบหน้า รายงานที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากัสเสริมเนื้อหาอะไรลงไปบ้าง ด้วยการที่หลับไปจากฤทธิ์ยาแก้หวัดบ้าๆของคาโลที่เอามาให้เธอดื่ม

     

                    ตอนนี้ ถ้าไม่นับเรื่องเรียนพิเศษช่วงเย็น ก็ถือได้ว่า เธอว่างเลยล่ะ ไม่มีใครเรียกไปทำงานแล้ว เพราะต่างคนต่างยุ่งกับการเตรียมสอบ แต่ข้อนี้อาจจะยกเว้นคาโลและกัส ผู้ที่ถูกเรียกไปดูงานของหน้าที่ใหม่ในปีถัดไปจากรุ่นพี่ที่รักเสมอ

     

                    และรวมถึงการนัดสอนเพิ่มเติมก็ได้จบลงไปเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวาน ดังนั้น คาบเรียนส่วนใหญ่จึงจะปล่อยให้เด็กเตรียมสอบ แต่สำหรับเธอแล้ว เธอเรียกมันว่าเวลาว่าง ว่าง จนเรียกได้ว่า เธอมีเวลามาติวประวัติศาสตร์ให้คิล ใช่แล้ว ไม่ผิดหรอก เธอติวให้คิลจริงๆ กะอีแค่จดคำพูดของพี่ลอเรนซ์ที่ติวให้เธออยู่ประจำมาบอกต่อให้มันฟัง เรื่องแค่นี้มันจะลำบากอะไร

     

    สำหรับแอเรียส ต้องดูตรงนี้..... เธอเว้นช่วง นิ้วเรียวชี้ลงไปตรงสมุดเลคเชอร์ที่มีลายมือยุ่งๆของเธอจดไว้อย่างไม่ค่อยจะเป็นระบบเท่าไรนัก คิลชะโงกหน้าเข้ามาดู แล้วค่อยๆเริ่มวิชาโบราณคดีต่อไป นั่นคือการ แกะภาษา

     

    เอ่อ... เฟริน คือ ฉันมีคำถาม คิลเอ่ยขึ้นเบาๆอย่างกล้าๆกลัวๆ แม้สายตาจะยังไม่ยอมละจากสมุด

     

    เอ่อ..... นาย..... ฉันว่านายช่วยอธิบายให้ฉันฟังดีกว่าว่ะ คิลพูดเสียงเบาๆ ส่ายหัวเป็นเชิงยอมแพ้กับการแกะลายมือเพื่อนรัก ยื่นสมุดคืนเสร็จสรรพ แล้วเตรียมรอฟัง เฟรินโคลงหัวน้อยๆ แล้วเริ่มลงมืออธิบายตามที่มันขอมา

     

    ก็ แอเรียส น่ะนะ เมืองเกรดเอลำดับสามใช่มั้ย นายคิดว่ามันมีอะไรดีถึงได้เบียดเวนอลที่ใหญ่กว่าลงไปอยู่ลำดับสี่ได้ล่ะ เฟรินเริ่มต้นการบรรยายด้วยคำถาม ทำให้ดูเหมือนคุยเรื่องทั่วไปตามปกติ เพื่อจะได้ไม่ฟังดูเครียดจนเกินไป

     

    คิงริชาร์ดเก่งล่ะมั้ง คำตอบจากคิลทำให้เฟรินหัวเราะพรืด แล้วส่ายหัวในทันที มือพลิกหน้าสมุด แล้วเริ่มพูดต่อ

     

    อย่ามั่วเดะ เออ คิงริชาร์เก่งนั่นอาจจะเป็นเหตุผลนึง แต่ทางเศรษฐกิจไงเล่า ทำให้แอเรียสเบียดเวนอลของไอ้โรที่อ่อนแอทางการเมืองลงไปอยู่อันดับสี่ได้

     

    แอเรียสมีอะไรเป็นสินค้าออกที่มีชื่อ ไหนลองบอกมาหน่อยซิ

     

    เอ่อ..... เดี๋ยวๆ เอ.... คทา กับ...... อะไรวะ เดี๋ยวนะ อย่าเพิ่งเฉลย คิลร้องห้ามเฟรินที่เตรียมเฉลยระหว่างที่สมองกำลังประมวลความคิด

     

    คทากับไม้หอม เสียงคำตอบที่ถูกต้องดังขึ้น เฟรินพยักหน้า แต่เมื่อเตรียมจะพูดต่อก็จะสะดุด ด้วยนึกขึ้นได้ว่าเสียงเมื่อครู่ไม่ใช่เสียงของนักเรียนชั่วคราวอย่างไอ้คิล

     

    ไอ้โร เฟรินและคิลประสานเสียงดังขึ้นพร้อมกัน หากแต่แววตานั้นไม่เหมือน คนหนึ่งมีแววประหลาดใจ ส่วนอีกคน กลับมีแววตาคล้ายกับจะกินเลือดกินเนื้อด้วยแย่งคำตอบของมันไป

     

    ไม่คิดว่าคนอย่างนายจะมีวันที่จะมาติวให้คิลได้ โรทิ้งตัวลงนั่งบนเก้านวมที่ว่างอยู่ข้างๆกัน

     

    เออ ไม่ต้องถึงแกหรอก ฉันยังไม่คิดเลย

     

    แล้วแกไม่คิดจะไปอ่านหนังสือมั่งเหรอวะ คิลถามขึ้นเมื่อเห็นว่า แขกไม่ได้รับเชิญมานั่งปักหลักอยู่ใกล้ๆ

     

    ไม่ล่ะ ดูพวกนายติวกันท่าจะสนุกกว่ากันเยอะ แล้วอีกอย่าง วันนี้ฉันมีเฝ้าเวรป้อม กับพี่ลอเรนซ์ แล้วเฟรินก็มีนัดเรียนกับพี่ลอเรนซ์เย็นนี้ เพราะงั้น ฉันว่า ฉันน่าจะได้ฟังบรรยายเรื่องการเมืองในประเทศต่างๆของเอเดนจากพี่เขาพร้อมเฟรินคืนนี้ คำตอบยาวๆที่บรรยายรายละเอียดเสร็จสรรพทำให้คิลถึงกับร้องอ๋อ ส่วนเฟรินต้องกลืนน้ำลายเอือก

     

    เดี๋ยว โร แกบอกว่าพี่ลอเรนซ์เป็นเวรวันนี้เรอะ เสียงเอ่ยถามย้ำอย่างสั่นๆ เพื่อความมั่นใจดังขึ้นมาจากสาวน้อยเพียงหนึ่งเดียว

     

    อืมใช่ เฟริน คราวก่อนก็โรเวนกับเวทย์มายาภาพ วันนี้เป็นพี่ลอเรนซ์กับการบรรยายเรื่องการเมือง

     

    โว้ย ทำไมถึงซวยงี้วะเนี่ย เฟรินขยี้ผมตัวเองอย่างหงุดหงิด เมื่อรู้ว่าวันนี้ตัวเองต้องไปตากลมฟังบรรยาย เมื่อคราวก่อนที่เป็นหวัดก็เพราะไปฝึกเวทย์มายาภาพแล้วโหมงานมากไป คราวนี้เธอจะเป็นหวัดอีกรอบมั้ยเนี่ย

     

    แกเป็นไรไปวะ เฟริน คิลถามอย่างไม่เข้าใจในท่าทีของเพื่อนรัก

     

    เตรียมตัวไปดีๆล่ะ เฟริน โรบอกเตือนอย่างหวังดี พลางหยิบเลคเชอร์ของเฟรินไปนั่งอ่านดูครู่หนึ่ง ก่อนต้องโคลงหัวน้อยๆ แล้วยื่นกระดาษปึกเล็กๆปึกหนึ่งให้เธอ

     

    เลคเชอร์ของวันที่นายนอนซมอยู่ห้องพยาบาล ฉันคิดว่านายคงยังไม่ได้จากคาโล เฟรินพยักหน้า มือยื่นไปรับเลคเชอร์ ขณะที่ปากก็เอ่ยคำถาม

     

    คาโลมันให้เอามาให้? โรขยับยิ้มบาง แต่ไม่ตอบอะไร เฟรินมุ่นหัวคิ้วลง มือพลิกกระดาษออกอ่านเนื้อหา แต่ก่อนที่จะได้จมลึกไปกับเลคเชอร์ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

     

    ถ้าแกลืมไปแล้ว เฟริน ฉันจะย้ำความทรงจำอันแสนสั้นของแกให้อีกครั้งหนึ่ง แกกำลังติวให้ฉันอยู่นะโว้ย!!!!” เสียงโวยของคิลทำให้เธอรีบขอโทษขอโพยเพื่อนรักนักฆ่า แล้วเริ่มมาจัดดการติวให้มันต่อในทันที ก่อนที่มันนึกอยากจะปฏิบัติอาชีพตามฉายาของมันขึ้นมาเสียก่อน

     

                    โรขยับรอยยิ้มบาง สายตาจับจ้องกับการติวหนังสือวิชาประวัติศาสตร์ให้กับคิล การติวที่ดูไม่ค่อยดูเหมือนการติวเท่าไรนัก เมื่อคำตอบของคิลมักจะพาเขวออกนอกเรื่องอยู่เรื่อย และแม้ว่ากว่าครึ่งของการออกนอกเรื่องนั่น จะมาจากฝีมือของเฟรินที่โยนมาให้เขาอธิบายยาวๆ ซึ่งแน่นอนว่า เขาย่อมอธิบายให้ฟังด้วยความเต็มใจ

     

                    สายลมหนาวพักโบก ม่านสีลาเวนเดอร์ปลิวไสว เสียงนักเรียนติวหนังสือดังตลอดห้องนั่งเล่นรวม แม้ว่า บางที นั่นอาจจะเป็นเสียงเอะอะโวยวายตามประสาของคนที่ไม่ได้ติวอยู่ก็ตามที

     

                    นักเรียนเตรียมสอบ ก็ต้องเตรียมสอบ นักเรียนที่มีหน้าที่หนักในปีต่อไป ก็ต้องฝึกงาน เอดินเบิร์กในยามสอบไล่เช่นนี้ช่างวุ่นวายนัก

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เอาล่ะ 100%แล้วฮะ สำหรับตอนนี้

    ไม่อยากจะบอกเลยฮะ ว่าตอนหน้าก็จะเป็นตอนสุดท้ายแล้ว

    สำหรับฟิคภาคนี้ ใช้คำว่าภาคเพราะว่า

    ถ้ามีอารมณ์อาจจะมาปั่นภาคสี่ให้อ่านเล่นกันต่อฮะ

    เอาล่ะฮะ คำถามต่อไปก็คือ ถ้าเราไม่ปั่นฟิคRxFที่สัญญาไว้จะว่าอะไรมั้ยฮะ

    คือว่า มันปั่นไม่ออกอ่ะ เฟลจริงๆสำหรับเรื่องนี้ ปั่นไม่ไหว

    มีตัวเลือกให้ทุกคนอยู่สองข้อฮะ

    1. จะเอาฟิค ถ้าจะเอาก็ต้องรอนะฮะ..... รอจนกว่าเราจะมีปัญญามาปั่นมัน เพราะตอนนี้ตันสุดๆ

    2. ไม่เอาฟิคก็ได้ไม่เป็นไร ถ้าเลือกข้อนี้จะได้ออริทันทีเลยฮะ

    เราจะลงออริให้แทนฟิคที่ไม่สามารถลงได้ทันทีที่ฟิคเรื่องนี้จบ

    เพราะตอนนี้ออริของเราค่อนข้างที่จะพร้อมแล้ว ประมาณ70%แล้วฮะ

    ขอให้ทุกท่านที่อ่านฟิคของเรา และสนใจที่จะติดตามผลงานต่อไปกรุณามาเลือกไว้ด้วย

    ขอบอกว่าทุกคนฮะ เพราะถ้าไม่มีคนเลือกอะไรเลย

    เราจะไม่ลงทั้งคู่ แล้วหนีไปอ่านฟิค+ออริ+หนังสือเรียนเข้าเตรียมซักพักนะฮะ

    เราพูดจริงๆ เพราะเหนื่อยมาก ปั่นฟิคแต่ละตอนนี้แทบขาดใจ

    กำลังใจที่มีคือคอมเม้นและคนอ่านเท่านั้นฮะ ถ้าไม่มีคนสนใจ เราจะไม่ลงให้รกหูรกตาฮะ

    แล้วปิดเทอมนี้เราเรียนทุกวันฮะ ทุกวันคือไม่มีวันหยุดเลย เราอยากจะบ้าฮะ

    จะขอบคุณมากฮะถ้าทุกคนให้ความร่วมมือ

    เพราะถ้าคนส่วนใหญ่ที่เป็นนักอ่านเงา ที่เราไม่ว่าอะไรหรอกฮะถ้าคุณจะเป็นนักอ่านเงา

    แค่ยังอ่านก็พอ แต่ตอนนี้กรุณาใช้สิทธ์ใช้เสียงของท่านด้วย ถ้าไม่อ่านประกาศตรงนี้ ก็ไร้ความหมายฮะ

    เพราะไม่อ่าน คือไม่มีคนลงคะแนน คือไม่มีเรื่องถัดไปของเราแน่นอนฮะ

    ขอบคุณล่วงหน้าฮะ ทุกท่าน อ่านให้สนุกนะฮะ



    70%น่อ เอาล่ะๆ ค่อยๆลง ค่อยอ่านนะฮะ

    สำหรับออริ กรุณารอซักครู่ รีไรท์ครบเมื่อไรจะเอาให้อ่านแน่นอน

    ยังไม่ครบสิบคน ไม่ลงเผยแพร่นะฮะ

    จะส่งให้อ่านกันแค่คนที่อยากเท่านั้น มันยังไม่พร้อมเท่าไร

    หรือจะเอากันเลยฮะ จะได้ส่งบทนำกับตอนที่1ให้อ่านกันก่อน

    เรายังแต่งไปไม่ถึงไหนเลย รีไรท์เสร็จคงจะได้แค่4-5บทเองมั้ง

    ขอความคิดเห็นสำหรับคนที่อยากอ่านด้วยฮะ ว่าจะเอายังไง

    ตอนนี้เรากำลังใช้เพื่อนคอมเม้นอยู่ฮะ อยากจะบอกว่า

    คนที่จะอ่านออริเรา ขอความกรุณา อ่านจบแล้วช่วยมาทิ้งคอมเม้นด้วยนะฮะ

    ออริเรื่องแรกของเราจริงๆเลย

    อ่านให้สนุกนะฮะ ส่วนออริก็รอก่อนนะฮะ



    เอาล่ะฮะ ตอนนี้เรากำลังปั่นออริรีไรท์อยู่

    สำหรับคนที่อยากอ่าน กรุณารอสักครู่

    ถ้าครบ10คนจะเอาลงไดให้ฮะ ตอนนี้เท่าที่ดูก็4-5คนแล้ว

    ตอบคุณRowaneฮะ ออริก็คือ.... จะเรียกไงอ่ะ ออริ(ออริจินอล ; original)

    ก็คือนิยายที่ไม่ได้ยึดเอาเนื้อเรื่องของใครเป็นหลักอย่างแฟนฟิค

    คือตัวละคร และอะไรทุกอย่างล้วนแต่มาจากจินตนาการของผู้แต่งทั้งสิ้น

    เอาง่ายๆเลย คือเป็นเรื่องที่คนแต่งแต่งเองทั้งหมด ตั้งแต่พล็อตเรื่อง ตัวละคร ตำนาน ฯลฯ นั่นแหละฮะ

    ตอบคุณyumeฮะ ไดเรา เข้าไปดูผ่านทาง myidนะฮะ แล้วจะเห็นเอง

    และสุดท้าย ตอบหลายๆคนที่เข้าใจผิด เราไม่ได้จะดองเรื่องนี้ฮะ เรื่องนี้ใกล้จะจบแล้ว

    เรากะจะปั่นให้จบรวดเดียวไปเลย แต่เรื่องที่เราจะดองก็คือ เรื่องต่อไปฮะ

    ที่เป็นภาคพิเศษ6ตอนข้างบนน่ะฮะ จำได้รึเปล่า (ใครจำไม่ได้ ไปดูเอาเองตรงประมาณตอนที่30ฮะ)

    แต่มันปั่นไม่ออกอ่ะ ปั่นออริรุ่งกว่า เราเลยจะขอดอง ปั่นไม่ไหว

    อยากจะปั่นออริมากกว่า เพราะตอนนี้ออริกำลังแล่นดีเหลือเกิน

    ฮะ หวังว่าทุกคนคงจะกระจ่างแล้ว อ่านให้สนุกนะฮะ


    ง้าบ ปิดเทอม มันก็ว่างอ่ะนะ

    แต่ชักขี้เกียจปั่นแฮะ

    จะว่าอะไรมั้ยฮะ ถ้าขออนุญาติ

    ดองฟิคเรื่องถัดไปที่สัญญาจะแต่ง แล้วหันไปปั่นออริแทน

    ใครต้องการอ่านออริชิมลาง ลงชื่อไว้ในนี้

    ถ้าเยอะ จะเอาลงไดให้ แต่ถ้าน้อย

    จะส่งฉบับรีไรท์รอบสองไปให้ทางเมลล์ฮะ

    ขอให้ทุกท่านโชคดีในการสอบ(ช้าไปป่าวเนี่ย)

    และขอให้สนุกในการอ่านฮะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×