ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fanfic] หัวขโมยแห่งบารามอส เรื่องราว หลังจากนั้น

    ลำดับตอนที่ #51 : short fic แก้ขัด มิติที่ทับซ้อน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.88K
      4
      4 ธ.ค. 48

    ชอร์ตฟิคแก้ขัดอเกนฮะ ตันอย่างแรง



    ไอเดียนี้มาจากการนั่งโม้กับเพื่อนถึงปัญหาโลกแตกว่า



    ตายแล้วไปไหน



    เกี่ยวกับบารามสฮะ จะพยายามให้มันชอร์ตแล้วกันฮะ



    เอ่อ.... แล้วอย่าสงสัยเรื่องชื่อตัวละครฮะ เราคิดไม่ออก



    อ่านให้สนุกฮะ



    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



        คุณเคยคิดอยากรู้บ้างไหมว่า ตายแล้วไปไหน



        แล้วเคยคิดบ้างไหมว่า บางที ความตายก็อาจหมายถึงการเปลี่ยนสถานที่เฉยๆก็เป็นได้








        บางที ความตายอาจไม่ได้แย่อย่างที่ใครๆคิด บางที คนเราก็กลัวอะไรไปเองซะทุกอย่าง เพียงแค่ไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัส จึงคิดกลัวไปก่อน ทั้งที่ความจริง มันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไรเลย















        เช้าวันสำคัญวันหนึ่งของโรงเรียรพระราชาเอดินเบิร์ก ผู้คนคับคั่ง ท้องฟ้าสดใส เช่นเดียวกับนักเรียนหลายๆคนที่สามารถสอบติดที่โรเงรียนแห่งนี้ โรเงรียนแห่งความใฝ่ฝันของเด็กทุกคน



        เสียงประกาศชื่อเพื่อบ่งบอกถึงหอพักที่อยู่ เสียงเฮลั่นเมื่อหอของตนได้รุ่นน้องคนใหม่ บรรยากาศรับน้องอันแสนน่าสนุกดำเนินไปได้ด้วยดี จนกระทั่ง มาถึงทำเนียมใหม่ ของเด็กปีหนึ่ง ที่จะเข้ามาทำความรู้จักกัน ในห้องนั่งเล่นรวมของชั้นปีหนึ่ง



    “นี่ เขาว่ากันว่า ที่นี่น่ะมี.....” เด็กหนุ่มคนหนึ่งขึ้นหัวข้อในการสนทนาใหม่ด้วยน้ำเสียงเนิบๆ ก่อนที่จะโดนขัดด้วยเสียงของเด็กอีกคนหนึ่ง



    “แกอย่าพูดเรื่องนั้น ไอ้นิกซ์ ต่อให้เป็นแก แต่ถ้ายังไม่เลิก มีเรื่อง” นัยน์ตาสีน้ำตาลประกายแดงทอแสงกล้า ผิดกับนัยน์ตาสีน้ำตาลทอง ของนิกซ์ ที่ฉายแววระริก



    “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะพูดเรื่องอะไรฮึ เร้ด” เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกว่านิกซ์ถามกลับอย่างกวนประสาท



    “แล้วทำไมฉันจะไม่รู้ ไอ้คนอย่างแกน่ะมัน......” เร้ดเตรียมตัวจะตอกกลับ แต่ถูกเพื่อนร่วมห้องอีกคนขัดไว้ซะก่อน



    “เงียบ เพิ่งเข้ามาใหม่ก็หัดเปลี่ยนนิสัยตัวเองซะใหม่ด้วย”



    “น่า เราก็รู้จักกันมาจะปีกว่าแล้ว อย่าเครียดไปหน่อยเลยน่า กรีน” นิกซ์หันไปปรามบุคคลที่สามด้วยน้ำเสียงประจบ ดวงหน้าหวานจนติดจะสวยของเด็กหนุ่มผมสีชาแย้มรอยยิ้มประจบคนคิดมาก



    “หืม พวกนายรู้จักกันมาก่อนจะเข้าโรงเรียนด้วยเหรอ” เพื่อนร่วมชั้นปีอีกคนถามขึ้น สายตาฉายความงุนงงในคำพูดของนิกซ์เมื่อครู่ นี่หัวหน้าชั้นปีของรุ่นนี้รู้จักกันหมดเลยรึ



    “ก็นิดหน่อยน่ะ” ทั้งสามตอบพร้อมกัน



    “นี่จะเที่ยงคืนแล้ว ถ้าไม่รีบไปนอนพรุ่งนี้จะตื่นสาย” กรีนเอ่ยเตือนทุกคน แล้วทำท่าจะลุกออกไป



    “ฮื้อ อย่าเพิ่งไปสิ รอดูอะไรสนุกๆก่อน” นิกซ์คว้าแขนของเด็กหนุ่มเพื่อนร่วมห้องไว้แล้วฉุดให้นั่งลง



    “เค้าว่ากันว่า คนเราตายแล้วก็ยังอยู่ที่โลกเดิม แต่เปลี่ยนมิติ แล้วที่นี่ก็เป็นที่พิเศษ ที่นี่น่ะ ป้อมอัศวินน่ะสามารถเชื่อมสองมิติเข้าด้วยกันได้” นิกซ์สาธยายรายละเอียดของเรื่อง ‘สนุกๆ’ ที่ว่า



    “อีกแปปเดียวน่า กรีน อีก.....” นิกซ์เว้นช่วงชั่วครู่เพื่อหันลงไปมองนาฬิกา



    “สามสิบเจ็ดวินาที” เมื่อได้ยินเวลาที่เขาต้องรอ ก็จนใจที่จะทำตาม เพราะมันไม่นานนัก และถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจะคว้าตัวพวกมันสองคนกลับห้องทันที



    “อีก 5... 4... 3... 2... 1...” เสียงนับถอยหลังดังขึ้นเบาๆอย่างลุ้นระทึกว่า จะเกิดอะไรขึ้น แต่ทว่า....



    “ไม่เห็นมีอะไรเลยนิกซ์ รอบนี้นายผิดซะแล้ว” กรีนพูดขึ้น ก่อนจะไล่ทุกคนในชั้นปีกลับไปนอน



    “ไปนอนได้แล้วทุกคน นี่ดึกมากแล้ว นายสองคนก็ด้วย เร้ด นิกซ์” ไม่ว่าเปล่า มือลากเพื่อนร่วมห้องสองคนไปด้วย



    “ราตรีสวัสดิ์ทุกคน” เร้ดกับนิกซ์เอ่ยราตรีสวัสดิ์ขึ้นพร้อมกันอย่างจนใจ



    “ราตรีสวัสดิ์ เร้ด กรีน นิกซ์”



    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    “โธ่ กรีน ไม่เห็นต้องลากเลย” นิกซ์โอดครวญ



    “ฉันรู้นิสัยนายสองคนดี อย่างพวกนายขืนปล่อยตัวสิ ได้วิ่งแจ้นขึ้นไปสำรวจป้อมแหงแซะ แล้วตำแหน่งหัวหน้าชั้นปีก็จะได้กระเด็นออกจากตัวนายทั้งที่เพิ่งได้มายังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงดี” กรีนเอ็ดเข้าให้



        นิกซ์เบ้หน้าที่ถูกดุ เร้ดยิ้มเฝื่อนๆให้กับเพื่อนรักที่รักหน้าที่ยิ่งกว่าสิ่งใด ก่อนที่เสียงคนเดินจะเข้ามาใกล้ ทั้งสามหยุดเดินทันที สายตากวาดไปทั่ว ด้วยว่า ทำเนียมพูดคุยทำความรู้จักกัของเด็กใหม่นี่ไม่ได้อนุโลมให้นักเรียนปีหนึ่งกลับห้องพักหลังเที่ยงคืนเสียด้วย



        เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นมาตามทาง เสียงที่พวกเขาไม่สามารถจะจับความได้ และไม่หวังจะจับความได้ เพราะนั่นหมายความว่า คนนั้นได้เข้ามาใกล้พวกเขาแล้ว แต่ดูเหมือนว่า พวกเขาจะภาวนาไม่ได้ผล



    “เงียบหน่อยสิวะ แกชวนฉันออกมาเดินเล่นที่นี่แล้วก็กรุณาอย่าส่งเสียงดังจะได้ไหม” เสียงแรกกระซิบดุอีกคนที่มาด้วยกัน



    “โธ่ คิล ก็มันน่ากลัวนี่นา” เสียงที่สองกระซิบตอบเสียงเบา น้ำหวานที่ฟังหวานกว่าบ่งบอกว่าคนที่สองนั้นเป็นผู้หญิง



    “ถ้ามันน่ากลัวนักวันหลังก็ไม่ต้องออกมาสิวะ เฟริน หรือไม่ก็พาไอ้คาโลออกมาแทน” เสียงแรก หรือคิลอย่างที่เสียงที่สองเรียก เอ่ยเสนอทางเลือก



    “แกอย่าบ้า วันนี้มันวันพิเศษ ปีหนึ่งฉันออกมาเดินเพ่นพ่านที่นี่ตอนกลางคืนไม่กี่วันนักหรอกน่า แล้วอย่างพูดถึงหมอนั่น มันไม่มีทางอนุญาตให้พวกเราออกมาเดินแบบนี้แน่นอน” เสียงที่สอง หรือ เฟริน อย่างที่คิลเรียกเอ่ยปฏิเสธทันควัน



    “ทำไงดีวะกรีน พวกรุ่นพี่ชัวร์เลย” เร้ดกระซิบถามเพื่อรักเสียงเบา



    “ชี่.... เงียบไว้สิ อยากโดนจับนักรึไง” นิกซ์เอ็ดเร้ดเข้าให้



    “นั่น ตรงนั้น ใครน่ะ” เฟรินหันมาถามพวกเขาที่หลบในมุมมืด ราวกับรู้ว่าพวกเขาอยู่ตรงนั้น



    “ฉันได้ยินเสียงกระซิบนะ เด็กใหม่ใช่ไหม” เฟรินถามพวกเขาอย่างรู้ทัน จนพวกเขาทั้งสามคนต้องเดินออกมาจากที่ซ่อน



    “ขอโทษฮะ รุ่นพี่” นิกซ์เอ่ยขัดตาทัพพร้อมรอยยิ้มหวาน เฟรินมุ่นคิ้วลงข้างนึง พร้อมมองรุ่นน้องที่กำลังยิ้มหวานอย่างพินิจ ก่อนจะดีดนิ้วเป๊าะ เมื่อดูเหมือนจะเริ่มเข้าใจอะไรบางสิ่ง ก่อนจะเอ่ยชวนเด็กใหม่ให้ไปด้วยกัน



    “พวกเธอสนใจจะไปเดินเล่นกันมั้ย”



    “ไปสิฮะ” เร้ดและนิกซ์รับคำพร้อมกันในทันใด แต่กรีนกลับส่ายหน้าช้าๆ เหมือนจะปฏิเสธ



    “ไม่ต้องห่วง พวกเราก็ไม่อยากให้ใครมาเจอเหมือนกัน เพราะงั้น ไปด้วยกันเลย ไอ้หนู” เฟรินพูดตัดบท ก่อนจะต้อนรุ่นน้องทั้งสามคนให้ไปด้วยกัน โดยไม่มีช่องว่างให้โต้แย้ง



    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    “เอ่อ แล้วพวกรุ่นพี่ชื่ออะไรกันฮะ” นิกซ์ถามปนหอบ เพราะเหนื่อยจากการวิ่งไปๆมาๆเพื่อขึ้นมายังดาดฟ้า ไหนจะหลบพวกผู้คุมกฎ และสิบสองผู้พิทักษ์อีก



    “พี่ เฟริน เดอเบอโรว์” รุ่นพี่คนที่เป็นผู้หญิงบอกชื่อก่อน



    “อย่าไปเชื่อมัน เฟลิโอน่า เกรเดเวล ส่วนพี่ คิล ฟีลมัส” รุ่นพี่คนผมดำแก้ชื่อให้ทีหลัง แล้วจึงแนะนำตัวเองบ้าง



    “เรียกเฟรินแหละดีแล้ว ชื่อหลังอย่าไปเรียกเลย แล้วพวกเธอล่ะ” รุ่นพี่เฟรินเบ้หน้า ก่อนจะหันมาถามชื่อพวกเขาบ้าง



    “นิกซ์ฮะ นิกซ์ เอลโทริค” นิกซ์แนะนำตัวเป็นคนแรก ก่อนจะสะกิดเพื่อนอีกสองคนให้แนะนำตัวบ้าง



    “กรีน เรอัส” กรีนแนะนำตัวอย่างห้วนๆ



    “เร้ด เฟรัส ครับผม”



    “นิกซ์ เร้ด แล้วก็กรีนงั้นเหรอ หัวหน้าชั้นปีงั้นสิ พวกเธอน่ะ” เฟรินถามขึ้นอย่างสนใจ



    “ก็ใช่ฮะ พวกรุ่นพี่รู้ได้ไงอ่ะ” นิกซ์เอ่ยอย่างไม่เข้าใจ



        เฟรินขำกลิ้ง เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะสามคนนี้น่ะ คล้ายกับพวกเขาตอนปีหนึ่งเลยน่ะสิ คนหนึ่งก็เงียบ อีกคนก็รักสนุก ส่วนอีกคนก็....



    “เอาเป็นว่าพี่เดาเอา แต่ ว่าไง สนุกมั้ย ป้อมจญภัย” เฟรินตัดบท พร้อมคำถามใหม่



    “สนุกครับป้อมผจญภัย สนุกจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นป้อมสยองขวัญ” เร้ดตอบแทนนิกซ์ ก็ไอ้การที่ต้องมาหลบเหล่ารุ่นพี่นี่มันทำให้เขาขวัญหนีดีฝ่อชะมัดยาด



    “หืม ป้อมสยองขวัญ ชื่อนี้ก็ไม่เลวนะ ว่าไง น่าเอาไปเสนอโรเวน บอกว่าเอาไปเป็นชื่อเล่นของป้อมเรา” คิลทวนชื่ออย่างนึกสนุก



    “อย่าแม้แต่จะคิด คิล ชื่อไม่เป็นมงคลห้ามเอาไปเสนอเด็ดขาด” เฟรินขัดขึ้นทันใด เหล่าเด็กใหม่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง



    “แล้วโรเวนที่ว่านี่ใครกันครับ”



    “เสนาธิการฝ่ายซ้ายของป้อมเราน่ะ อ๊ะ นี่กี่โมงแล้ว นิกซ์” เฟรินตอบ ก่อนจะหันไปถามเวลากับรุ่นน้องที่มีนาฬิกา



    “ตีสองสี่สิบห้าฮะ มีอะไรรึเปล่า”



    “แย่เป็นบ้า เวลาเจอรุ่นน้องดีๆทีไรเป็นแบบนี้ทุกที” เฟรินบ่นเบา



    “แล้วนายก็แอบหนีออกมาอย่างนี้ทุกปีด้วย เฟริน” น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้นมาจากข้างหลัง ทั้งห้าคนสะดุ้งโหยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฟริน



    “ค... คาโล ไง” เฟรินทักเสียงแห้งๆ



    “หนีออกมาทำไม” คาโลถามน้ำเสียงแข็ง



    “ก... ก็ มาเดินเล่น” เฟรินตอบเสียงเฝื่อนๆ พร้อมรอยยิ้มขัดตาทัพ



    “มาเดินเล่น ตอนกลางดึกเนี่ยนะ รีบกลับเลยเฟริน เดี๋ยวจะเช้าซะก่อน” ไม่พูดเปล่า มือคว้าร่างเล็กมาอุ้มลงไปด้วย เฟรินโวยลั่น ไม่อายสายตาประชาชี เล่นเอาบุคคลภายนอกถึงกับอึ้ง ก่อนที่คิลจะรีบตามลงไปจากดาดฟ้า



    “เฮ้ย ทิ้งกันเลยนะ”



    “ด... เดี๋ยวฮะ ผมยังไม่รู้เลยว่าพวกพี่อยู่ปีอะไร” รุ่นน้องผู้ได้สติก่อน รีบเอ่ยถาม เฟรินแย้มรอยยิ้มหวานอย่างประจบให้คาโล เพื่อบอกให้ปล่อยตัวเธอลงก่อน ซึ่งคาโลก็ทำตามแต่โดยดี เฟรินเดินเข้าไปใกล้นิกซ์ แล้วพูดเสียงเบา



    “ไปค้นดูเอาเองนะ ในห้องสมุด หาหนังสือรุ่น เล่มที่ยี่สิบ แล้วเธอจะรู้เอง ไนเซลวารีน เซวาเรส หรือจะให้เรียก โบแด็งก็ได้นะ ท่านหญิงแห่งตระกูลใหญ่” พูดจบ ก่อนเดินกอดแขนคาโลที่หันมามองหน้าเหล่ารุ่นน้อง แล้วขยับรอยยิ้มละไมนิดๆ ก่อนจะเดินลงไปจากดาดฟ้า ปล่อยให้นิกซ์นิ่งค้างกับคนที่รู้ความลับของฐานะของเธอ



    “เฮ้ย เมื่อกี้รุ่นพี่เขามาพูดอะไรกับนายวะนิกซ์”เร้ดถามอย่างสนใจ



    “พรุ่งนี้ไปห้องสมุดกัน” นิกซ์ตัดบท แล้วเดินนำลงไปจากดาดฟ้าบ้าง



    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    “หนังสือรุ่น หนังสือรุ่น อยู่ไหนเนี่ย” นิกซ์เดินไล่หาชั้นวางหนังสือรุ่นในห้องสมุดอันใหญ่โตโอ่โถง



    “นิกซ์ นี่รึเปล่า หนังสือรุ่นเล่มที่นายหา” กรีนโยนหนังสือรุ่นเล่มหนึ่งที่ดูเก่าๆให้เธอ



    “หนังสือรุ่น เล่มที่ยี่สิบ ใช่แล้วกรีน ขอบใจ” นิกซ์เอ่ยขอบคุณ พร้อมทั้งเปิดดูทันที



    “พระเจ้า” นิกซ์อุทานเสียงเบา



    “มีอะไรเหรอ นิกซ์” เร้ดเอ่ยถาม



    “นายดูวันที่สิ”



    “สวรรค์ทรงโปรด นี่มันเล่มเมื่อห้าร้อยปีก่อนนี่”



    “งั้นหมายความว่า....” นิกซ์พลิกหน้าหาอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งภาวนาในใจว่ามันจะไม่ใช่



    “พระเจ้า” นิกซ์อุทานรอบสอง เมื่อเห็นรูปรุ่นพี่สามคนที่พบเมื่อวานกลางดึกเด่นหราอยู่ในหน้าหน้าหนึ่งของหนังสือรุ่น



    “งั้นที่พวกเราเห็นเมื่อวานนั่นมันก็.....” เร้ดพูดเสียงแห้ง พร้อมด้วยใบหน้าซีดเมื่อนึกถึง



    ‘เดี๋ยวก่อนสิ’ นิกซ์ไล่ดูรายชื่อของบุคคลร่วมชั้น ก็ไปสะดุดกับนามสกุลของคนผมม้าสีชา โร เซวาเรส



    ‘นี่บรรพบุรุษของเธอเคยอยู่ป้อมอัศวินด้วยเหรอเนี่ย แถมยังเป็นรุ่นเดียวกับพี่เฟรินด้วย ไม่อยากเชื่อ’



    “นิกซ์ ดูเหมือนว่า เรื่อง ‘สนุกๆ’ ของนายจะเป็นเรื่องจริงซะแล้ว” กรีนเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเครียด



    “ฉันก็ว่างั้นเหมือนกัน” รับคำกระเซ้าเครียดของกรีนด้วยเสียงเครียดไม่แพ้กัน



    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



    “เฮ้ย โร ดีใจด้วย ลูกหลานนายได้อยู่ป้อมอัศวิน” เสียงหวานบอกข่าวที่เพิ่งนึกขึ้นได้ให้กับอีกคน



    “งั้นเหรอ นายหนีออกไปอีกแล้วงั้นสิ” บุรุษที่เพิ่งได้รับข่าวตอบกลับ



    “ไอ้บ้า คนอุตส่าห์มาบอกข่าวดี แกก็เสือกเอาเรื่องนี้มาพูด” เฟรินแยกเขี้ยว



    “อย่าไปบ่อยนักล่ะ เคลื่อนย้ายมิติบ่อยๆมันไม่ดีหรอกนะ จริงไหมคาโล” โรเตือน ก่อนจะหันไปบอกอีกคนอย่างทีเลศนัย



    “อย่าพูดเหมือนรู้ดีไปหน่อยเลย โร เซวาเรส”



    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    จบฮะ งานนี้สิ ชอร์ตฟิคของจริง



    งงตรงไหนขอให้บอก



    พล็อตนี้ได้มาจากการโม้ไร้สาระกับเพื่อน



    แล้วเราก็เอามาบ้าต่อเอาเอง



    เม้นด้วยนะฮะ ชอบกันรึเปล่า



    ส่วนภาคพิเศษ กับภาคปกติขออนุญาตดองต่อไปฮะ



    มีคนจับได้ซะแล้วว่าคุ้นๆเคยอ่านที่ไหน



    เรื่องจริงฮะที่บอกว่าเราเอาเรื่องที่โม้ไร้สาระกับเพื่อนมาแต่ง



    แต่ตอนแรกโม้เสร็จก็จบ แล้วเผอิญว่า เราได้ไปอ่านฟิคของพี่จินนี่น่ะฮะ



    เลยได้แรงบันดาลใจมาแต่งมั่ง อาจจะคล้ายๆกันนะฮะ



    ถ้าไม่ชอบยังไงเราก็ต้องขอโทษมากๆด้วยฮะ



    (โค้งขอโทษงามๆ)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×