ท่านยมฑูต
เจ้าหน้าที่จากยมโลก ผู้ซึ่งทำหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่
ผู้เข้าชมรวม
95
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องท่านยมฑูต ที่มาจากยมโลก เพื่อมารับวิญญาณที่หมดเวลาในโลกมนุษย์แล้วมาบ้าง เอาจริงๆ เด็กรุ่นใหม่อย่างเราก็ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะมันไกลตัวไปนิด และคิดว่ามันคงเป็นจินตนาการของคนสมัยก่อนที่ชอบเล่าเรื่องเกินจริง ให้เด็กๆ ฟัง เพื่อให้คุณตา คุณยาย มีเรื่องเล่ามากกว่า
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่ คุณแม่รับคุณยายมาจากต่างจังหวัด มาอยู่ด้วยเพื่อมาช่วยเลี้ยงหลานๆ และคุณแม่ก็จะได้ดูแลคุณยายไปด้วย เราซึ่งเป็นลูกคนเล็กจากพี่น้อย 5 คน ก็ถึงได้ว่าสนิทกับคุณยายที่สุด บางคืนก็นอนในมุ้งบ้านใหญ่กับคุณยาย เพราะปกติเราจะต้องไปนอนบ้านเล็กกับคุณแม่ซึ่งก็ต้องเดินจากบ้านใหญ่ไปสัก 100 เมตร
ชีวิตปกติของเราก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ไม่อยากจะเชื่อว่า คุณยายมาอยู่กับเราจนตอนนี้เราอายุ 13 ปีแล้ว แน่นอนคุณยายเราอายุมากแล้ว ปีนี้ท่านอายุ 89 ปีแล้ว แต่คุณยายเราแข็งแรงเดินขึ้นบันไดเก่งมาก คุณยายเราทำกับข้าวไม่เป็น หน้าที่อย่างเดียวที่คุณยายทำคือหุงข้าว แต่คุณยายละออ ทำขนมอร่อยมาก เราเชื่อว่าบางคนอาจจะไม่เคยทาน ขนมดอกโสน เป็นขนมที่คุณยายละออทำได้อร่อยมาก และเราไม่เคยกินที่ไหนอร่อยเท่าขนมที่คุณยายทำเลย
“เบล แม่ทำต้มจับฉ่าย เอาไปให้คุณยายด้วยนะ” แม่เรียกเราตามปกติ เราก็เลยบอกแม่ไปว่าคืนนี้จะไปนอนกับคุณยาย ตอนเย็นเราก็ตำหมากให้คุณยาย ซึ่งคุณยายชอบบอกว่าเราตำหมากได้อร่อยที่สุด ชมกันแบบนี้เราก็มาตำหมากให้คุณยายทุกวันเลย ก่อนนอนเราก็ดูโทรทัศน์กับคุณยาย ตอนนั้นจำได้ว่าดูเรื่อง ดาวพระศุกร์ ดูไปก็คุยกับไปตามประสายายกับหลาน ถึงเวลานอน เราก็กางมุ้งให้คุณยายแล้วก็เอาพัดลมมาไว้ในมุ้งด้วย
คืนนั้นอากาศเย็นสบาย ดูโทรทัศน์จบก็น่าจะสี่ทุ่มกว่าๆ เราก็หลับไป …. จากนั้น เรื่องราวที่เราไม่เคยเจอก็เกิดขึ้นกับเรา ……
เรารู้สึกกระสับกระส่าย คล้ายๆ ครึ่งหลับ ครึ่งตื่น แต่แน่ใจว่าไม่ใช่ความฝัน เพราะทุกอย่างคือความจริง บ้านใหญ่ที่คุณยายอยู่เป็นบ้านไม้สร้างเอง หากมีคนขึ้นบันไดซึ่งเป็นบันไดไม้ ก็ต้องมีเสียงไม้ดังให้เราได้ยินบ้าง … แต่ตอนนี้เรารู้สึกว่ามีคนขึ้นบันไดมา แต่เราไม่ได้ยินเสียงไม้เลย … ความรู้สึกนั้นทำให้เราหันหน้าไปมองตรงบันไดว่ามีใครขึ้นมาไหม
สิ่งที่เราเห็นคือ ผู้ชาย 2 คน ร่างกายกำยำผิวสีแทน ตัดผมสั้นคล้ายทหาร แต่เป็นทรงผมแบบโบราณ คือสั้นแบบทรงสี่เหลี่ยม ไม่ใส่เสื้อ แต่ใส่โจงกระเบนสีแดงสั้นเหนือเข่า เดินแบบลอยๆ ขึ้นบันไดมา แล้วตรงมาที่มุ้งที่เรานอนกับคุณยาย ตอนนั้นเราไม่ได้รู้สึกกลัวผู้ชาย 2 คนนี้เลย ไม่รู้ทำไมแต่ความรู้สึกคือ งง ว่าเขามาทำไม มาทำอะไร เขาเข้ามาบ้านเราได้อย่างไร พอเขามาหยุดที่มุ้ง ยืนอยู่ตรงปลายเท้าของเรา คุณยายเราก็ลุกขึ้นนั่งแล้วเปิดมุ้ง ผู้ชาย 2 คนนั้นก็ขนาบข้างคุณยายเรา โดยจับแขนคุณยายเราคนละข้าง แล้ว ทั้ง 3 คนก็ทำท่าเหมือนลอยขึ้นไป ทีละนิดๆ
เราจะปล่อยให้คุณยายไปกับเขาได้อย่างไร เราก็ตะโกนไปว่า “จะเอาคุณยายไปไหน” โดยที่มือเราก็ดึงมือข้างนึงของคุณยายไว้ แล้วผู้ชายทั้ง 2 คน ก็หันกลับมามองเรา ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกับเราสักคำ หรือว่าเขาพูดภาษาโลกมนุษย์ไม่ได้ก็ไม่รู้ แต่เขายิ้มมุมปาก ใจเราก็กลัวนะว่าเขาจะทำอะไรกับเราหรือเปล่า
จากที่เขาลอยขึ้นไป เหมือนว่าเขาจะหยุดลอยแล้วกลับมายืนที่ปลายเท้าเราเหมือนเดิม แล้วปล่อยแขนคุณยายของเรา แล้วมันเหมือนมีหมอกขาวๆ มาจากตรงประตูลอยออกมาเยอะมากจนเรามองไม่เห็นผู้ชาย 2 คนนั่นแล้ว เมื่อเรารู้สึกตัวอีกทีเราก็รีบหันไปดูคุณยาย แล้วเราก็เรียกคุณยายเสียงดังมาก แล้วก็มีเสียงตอบกลับมาว่า “เรียกยายทำไมเสียงดัง ดึกแล้วทำไมไม่หลับไม่นอน”
พอเช้าเรารีบวิ่งกลับไปบ้านหลังเล็ก เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ไม่นอนใจรีบไปหาคนทรงเจ้าที่เขารู้จักเพื่อทำพิธีต่อชะตาให้คุณยาย หลังจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณยายยังมีชีวิตอยู่กับเราไปอีก 3 ปี แต่ด้วยความชรา ท่านก็จากเราไปด้วยอายุขัย 92 ปี แต่แปลกนะ ตอนที่คุณยายไปจริงๆ ทำไมเราไม่ได้เจอผู้ชาย 2 คนนั่นอีก หรือว่าหากเจอแล้วเราขออีกครั้ง เขาจะไม่ได้ทำหน้าที่ของเขา หรือเขาให้เราเจอได้แค่ครั้งเดียว หรือเขามาแล้วแต่เราไม่เห็น หรือมีอะไรบังตาให้เราไม่เห็น แต่ทั้งนี้เราก็ขอขอบคุณท่านยมฑูตที่น่ารักทั้ง 2 ท่าน ที่ยังยื้อเวลาให้เราได้ทำใจอีกตั้ง 3 ปี ไม่รู้ว่าท่านจะโดนทำโทษจากยมโลกหรือเปล่า ขอบคุณค่ะ ท่านยมฑูตสุดหล่อ….
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ Nitcha7997 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Nitcha7997
ความคิดเห็น