ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter เด็กสาวผู้รอดชีวิต

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3: วิชาปรุงยา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.1K
      917
      13 ธ.ค. 61

    วิชาปรุงยา


       แฮร์รี่ตื่นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกไม่ค่อยสู้ดี เพราะห้องพักของเธออยู่ใต้น้ำมันจึงไม่แปลกเลยที่แสงยามเช้าจะส่องไม่ค่อยถึงและแฮร์รี่รู้สึกเหมือนมันยังไม่เช้าและร่างกายของเธอต้องการจะนอนต่อ...แต่พอแฮร์รี่มองไปที่นาฬิกา เธอก็ต้องลากตัวเองไปอาบน้ำอยู่ดี

      วูบนึงตอนที่กำลังจะตื่น แฮร์รี่อดคิดไม่ได้ว่าทั้งหมดที่ผ่านมานั้นคือความฝัน ใช่ ไม่มีเด็กบ้าที่ถูกลากมาเจอเรื่องแฟนตาซีแล้วเชื่อในทันทีหรอก ไม่มี!.....แต่พอเธอลืมตาขึ้นมาก็เจอแพนซี่นอนพลิกไปมาอยู่ข้างๆกับเชิงเทียนไขที่กำลังถูตัวมันเอง แฮร์รี่จึงยอมรับได้

    โอเค เธอบ้า

    แพนซี่ตื่นหลังจากเธอ เด็กสาวคนนั้นมาคลอเคลียกับเธอรอบนึงก่อนที่แฮร์รี่จะไล่อีกฝ่ายไปอาบน้ำ ขณะที่เธอกำลังแต่งตัว แฮร์รี่ไม่ชินกับชุดเครื่องแบบของฮอกวอตส์เลยตรงที่ต้องใส่กระโปรงและเนกไท โรงเรียนที่ลอนดอนที่ลุงเวอร์นอนส่งเธอไปเรียนเป็นโรงเรียนแบบเปิด นักเรียนทุกคนใส่ชุดธรรมดาไปเรียน และจากชุดของเธอแฮร์รี่ไม่คิดว่ามันจะน่าพูดถึงเท่าไหร่

      "อ่าว ทำไมเธอไม่ผูกเนกไทซะล่ะ?"แพนซี่ที่พึ่งออกจากห้องน้ำมาเอ่ยถาม แฮร์รี่ทำสีหน้าอึกอักก่อนจะทำสีหน้าลำบากใจ

      "..ฉันไม่เคยถูกสอนให้..."แพนซี่เบิกตามองก่อนจะยิ้มให้

      "ให้ฉันทำมันให้นะ"แพนซี่ย่อตัวเล็กน้อยเพื่อผูกเนกไทให้กับเพื่อนสาว ขณะที่แฮร์รี่พยายามยืดตัวให้สูงที่สุด

      "แฮร์รี่เนี่ย...คิดว่าตัวเองแปลกแยกบ้างไหม?"ดวงตาสีมรกตของแฮร์รี่กดมองแพนซี่ที่ตั้งใจพันเนกไทให้เธออย่างงุนงง ชั่วขณะนึงเธอรู้สึกอึดอัดแปลกๆกับคำพูดนั้น "เธอบอกเองใช่ไหมล่ะว่าพึ่งรู้จักโลกเวทย์มนตร์เมื่อไม่นานมานี้น่ะ กับคนที่อยู่กับมันมาแต่เกิด..."

    แพนซี่รูดเนกไทติดกับปกคอเสื้อเด็กสาว ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อมันไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ จากนั้นก็พับปกคอเสื้ออีกฝ่ายลง

    แฮร์รี่เม้มปาก หรือว่านี่เธอกำลังถูกกีดกัน? นั่นเป็นความจริงที่หลายต่อหลายครั้งแฮร์รี่ฟังสิ่งที่เพื่อนๆคุยกันไปรู้เรื่อง เพราะมันเป็นคำศัพท์เฉพาะและแฮร์รี่ไม่รู้ความหมาย ทั้งหมดที่เธอทำได้คือนั่งเงียบๆไม่มีปากมีเสียงอะไรแล้วหาอะไรทำซะ...แน่นอนว่ามันคือการกีดกันโดยไม่เจตนาอย่างแท้จริง

      "อย่าคิดแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะ"

    เอ๊ะ?!

      "ถ้าไม่เข้าใจอะไรก็ถามฉันซะ หรือถามแทรกเข้าไปกลางวงเลยก็ได้ น่ารักๆอย่างเธอไม่มีใครปฏิเสธหรอก"แฮร์รี่ถูกจับหมุนตัวเข้าหากระจก เพื่อนสาวของเธอลูบเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่กระเซอะกระเซิงนั้นเบาๆก่อนจะปล่อยให้มันสยายอยู่บนแผ่นหลังเล็ก "เดรโกถูกใจเธอ นั่นหมายถึงเธอคือเพื่อนของเราแล้ว นั่นคือทั้งหมด ไม่ต้องเกรงใจกันเลยนะ!"

    ".....แพนซี่..."แฮร์รี่แทบซ่อนแก้มแดงๆของเธอเอาไว้ไม่หมดก่อนจะมองนาฬิกาด้วยใบหน้าที่ซีดลง "เราสายแล้ว"

       "อ่ะ"






    ตอนนี้สายตาสเนปกำลังมองไปที่เด็กสาวคนนึงอย่างตึงเครียดหลังจากการข่มขวัญด้วยการสร้างเสียงดังจากการเปิดประตูแล้วเขาก็ต้องมาหยุดยืนมอง 'ลิลลี่วัยเด็ก' ที่อดคิดไม่ได้จริงๆว่าเป็นลิลลี่ข้ามเวลามารึเปล่า นั่งหมุนปากกาขนนกเล่น ดวงตาสีถ่านกวาดมองตั้งแต่เส้นผมลากขึ้นไปยังดวงตา เขาหรี่ตาลง

       เธอได้ดวงตาของลิลลี่

    "มิสพอตเตอร์ ฉันจะได้อะไรจากการนำผงจากราดของต้นอัลโฟเบตผสมกับน้ำกระสายที่ได้จากต้นเวิร์มวู้ด?"แฮร์รี่ทำหน้าตื่น เธออ้ำอึ้งแล้วหันไปหาเดรโกอย่างขอความช่วยเหลือ แต่เพื่อนเธอทุกคนกลับเบือนหน้าหนีอย่างไม่น่าให้อภัย

    "ไม่ทราบค่ะ"สายตาแฮร์รี่หลุบลงไปเจอเด็กสาวผมหยักศกคนนึงที่พยายามอย่างยิ่งที่จะยกมือให้สูงที่สุดเพื่อตอบ เธอคิดว่าอีกฝ่ายคงอยู่บ้านกริฟฟินดอร์

    "หืม..."สเนปกอดอก เขาเชิดหน้าขึ้นมองปฏิกิริยาของแฮร์รี่อย่างถี่ถ้วน พบว่าเด็กสาวมีสีหน้าลำบากใจ และรู้สึกอับอายมากกว่าที่จะรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม "เราจะได้น้ำยาตายทั้งเป็น ซึ่งเป็นยานอนหลับชนิดที่รุนแรงที่สุด เอาล่ะ มิสพอตเตอร์"

    "มองส์ฮู้ด กับ วูล์ฟเบน ต่างกันยังไง?"แฮร์รี่กดใบหน้าของเธอลงต่ำและเม้มปาก และแฮร์รี่รู้สึกว่าต่อให้แหวกกระโหลกเธอออกเธอก็ตอบมันไม่ได้ "ไม่ทราบ? ไม่ทราบไม่ใช่คำตอบครอบจักรวาลนะมิสพอตเตอร์!"

    สเนปมองเด็กสาวที่ทำท่าจะร้องไห้อยู่มะรอมมะร่อด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ในใจ เขาเชิดหน้าขึ้นอีกครั้ง ท่าทางราวกับแก้วที่กำลังจะแหลกสลายนั้นทำให้เขารู้สึกบางอย่างขึ้นมา....อย่างเช่น อยากลองทุบมันดูอีกที

       "ถ้าฉันให้เธอไปหาบิซัวร์ เธอจะไปนำมันมาจากที่ไหน?"แฮร์รี่มีหน้าตาที่ดูเหมือนจะแตกสลายไปจริงๆ เธอดูเหมือนจะร้องไห้เข้าไปทุกที และก่อนที่เขาจะได้ถามคำถามต่อไป สเนปเริ่มหงุดหงิดกับมือเล็กๆที่ยกขึ้นมาบดบังทัศนียภาพของเด็กสาวที่น่ารักของเขา เขาจึงถอนหายใจแล้วทำสัญญาณ เป็นเชิงให้เธอตอบ

    "บิซัวร์เป็นหินในกระเพาะแพะค่ะ!"

    แฮร์รี่แทบจะถไลไปกับโต๊ะเมื่อสเนปกลับไปสอนอีกครั้งโดยไม่สนใจเธออีกแล้ว แพนซี่ยิ้มแห้งๆแล้วลูบหัวเธอ แฮร์รี่ตวัดตาไปมองอย่างไม่พอใจ เมื่อกี้เธอเกือบจะร้องไห้แล้วก็ไม่เห็นจะมีใครช่วยเธอเลย!! นี่มันแย่มาก!!

       


      "วันนี้พอแค่นี้ หวังว่าพวกเธอจะฉลาดพอที่จะรู้ด้วยตัวเองว่าควรจะทบทวนตรงไหนเพื่อสอบปฏิบัติในคาบหน้า แยกย้ายได้"สิ้นเสียงศาสตราจารย์เซเวอรัส ปีหนึ่งทุกคนก็ทยอยเก็บของและลุกออกไปจากที่นั่ง แฮร์รี่รีบที่สุดเธออยากออกจากคุกที่มีบรรยากาศเหมือนงานศพกับศาสตราจารย์ที่สวมชุดดำเหมือนร่วมงานศพนี่เต็มที

      "มิสพอตเตอร์อยู่ก่อน" แฮร์รี่อยากจะโยนหนังสือทุ่มลงพื้นด้วยความเกรี้ยวกราด...แต่ทั้งหมดที่เธอทำได้คือเดินไปหาศาสตราจารย์ปรุงยาอย่างสงบเสงี่ยม และเคียดแค้นเพื่อนๆที่หายตัวไปเร็วยิ่งกว่าผี!

      "เงยหน้าขึ้น"แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เธอโฟกัสไปที่กระดุมเสื้อเขา...มันมีความจำเป็นอะไรให้เขาต้องใส่เสื้อหลายชั้นจนมันรัดขนาดนั้นไหม?

      "เงยอีก"แฮร์รี่กระพริบตาก่อนจะมองไต่กระดุมขึ้นไปอีก เธอได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกฝ่ายก่อนที่ปลายคางเธอจะถูกเชิดขึ้นจนแทบจะเป็นแหงนมอง แฮร์รี่มีสีหน้าตื่นตระหนก แต่สเนปกลับมีสีหน้าราวกับเจ็บปวด แฮร์รี่เริ่มคิดทันทีว่าเธอเหยียบเท้าเขาอยู่รึเปล่า

    "เธอมีดวงตาของแม่เธอ"แฮร์รี่ชะงักไป

    "ศาสตราจารย์รู้จักแม่ของหนูด้วยหรอคะ?"สเนปเงียบลง เขาชี้ที่เนกไทของแฮร์รี่เป็นเชิงขออนุญาติแล้วปลดมันออก แฮร์รี่ผงะถอยหลัง แต่ร่างสูงหมุนตัวเธอให้หันไปทางเดียวกันก่อนที่เนดไทจะทาบลงมาอีกครั้ง

       เขากำลังผูกเนกไทให้เธอ

       "ลิลลี่...เราเคยเป็นเพื่อนสนิทกัน...เธอเหมือนเขามาก..โดยเฉพาะดวงตา"แฮร์รี่รับรู้ถึงฝ่ามือใหญ่ที่กำลังผูกเนกไทให้เธออย่างรวดเร็ว..มือเขาใหญ่พอที่จะบีบหัวเธอแหลกได้...หรือไม่หัวเธอก็เล็กเอง "ลิลลี่ไม่เคยถูกหักคะแนนพฤติกรรมหรือถูกกักบริเวณ และฉันหวังว่าเธอจะทำตามแม่ของเธอมากกว่าพ่อผู้งี่เง่าของเธอ"

    "พ่อ..เป็นคนยังไงหรอคะ?"แฮร์รี่เลิกคิ้ว ก่อนจะจั๊กจี้ที่หัวหน่อยๆเมื่อศาสตราจารย์ถอนหายใจลมร้อนๆลงกลางหัวเธอพอดี

      "เขาไม่เคยเรียนรู้ที่จะผูกเนกไทให้เรียบร้อยหรือยัดชายเสื้อของเขาลงในกกางเกง และจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้หาเรื่องใครสักคนก่อนกินข้าว นั่นล่ะพ่อเธอ"แฮร์รี่หลุดหัวเราะ เป็นจังหวะเดียวกับที่สเนปพับคอเสื้อของเธอลง

      "หวังว่าฉันจะไม่เห็นนักเรียนบ้านสลิธีริน แต่งตัวไม่เรียบร้อยนอกหอนอนนะมิสพอตเตอร์ ไปได้แล้ว เพื่อนเธอคงรออยู่"แฮร์รี่มองศาสตราจารย์ของเธอก่อนจะส่งยิ้มให้เมื่อเขาไม่ได้ดูเลวร้ายเหมือนในตอนแรก

      "ขอบคุณค่ะศาสตราจารย์!"แฮร์รี่หมุนตัวออกจากห้องใต้ดินไปส่วนสเนปยืนอยู่ตรงนั้น เขาเท้าเอวมองบานประตูที่ปิดลงอย่างเงียบๆ ก่อนที่มันจะค่อยๆเปิดขึ้นอีกครั้ง

      "อย่าชักช้าปีสอง! หยิบหม้อตั้งไฟซะ เราจะสอบกันแล้ว!!"





      "แฮร์รี่~ ฉันขอโทษ แต่ฉันทำอะไรไม่ได้นี่น่า~"แฮร์รี่พองแก้ม แพนซี่กำลังคลอเคลียเธอและแฮร์รี่ไม่มีทีท่าว่าจะยอมลง แต่แพนซี่กลับชอบที่จะกอดแฮร์รี่แล้วเอาหน้าถูไถไปกับแขน หลัง หรือกระทั่งอกของแฮร์รี่มากกว่าง้อเธอแบบจริงจัง

    ส่วนเดรโกกำลังกุมขมับ ไม่ใช่แค่แพนซี่ที่แฮร์รี่งอน นั่นรวมถึงเขา เบลส และธีโอดอร์ด้วย แครบกับกอยล์ไม่โดน อาจจะเพราะหน้าตาดูงี่เง่าเกินไป แต่ยังไงก็ตาม การที่ถูกแฮร์รี่งอนไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่

    "...ฮ..แฮร์รี่ คือว่านะ...เค้กไหม?"เอาอาหารล่อไปก่อนล่ะกัน

    "ฉันกินไปแล้วค่ะ"แฮร์รี่ตอบกลับอย่างเย็นชา แล้วตักไอศกรีมเข้าปาก และเมินแพนซี่ที่กำลังน้วยเธออยู่อย่างสมบูรณ์

      "...แฮร์รี่รู้จัก บัวลอย ไหม?"เบลสเอ่ยขึ้นแฮร์รี่เลิกคิ้ว "มันเป็นของหวานของเอเชียนะ ไม่นานมานี้พ่อของฉันได้มาจากการไปสัมนา พอได้ลองกินแล้วมันอร่อยมากเลย หวานๆมันๆแล้วก็มีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย ไม่ใช่แค่อย่างเดียวนะ มันมีอีกตั้งหลายอย่างแหน่ะ....เอางี้ วันเกิดน๊อตตอนวันหยุดหน้านี้ ฉันจะให้พ่อจ้างเชฟขนมหวานของไทยมาทำในงาน เราจะเชิญเธอด้วย!"

      "..."แฮร์รี่นิ่งมองคล้ายกำลังจะประมวลผลก่อนจะแย้มยิ้มกว้าง "จริงนะ!!"

      'อ่ะ สำเร็จล่ะ x2'

       "นี่ๆ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนแต่งชุดสวยๆให้แฮร์รี่เองล่ะนะ แล้วก็จะให้ยืมชุดที่น่ารักที่สุดของฉันเลย อย่างอนกันเลยน้า~"แฮร์รี่ทำปากยู่เล็กน้อยก่อนจะเชิดหน้าขึ้น

      "หึ....ไม่ได้เห็นแก่กินหรอกนะ"

       อา...น่ารักวุ้ย

    "คาบต่อไปประวัติศาสตร์ใช่ไหม? ฉันได้ยินพี่บอกว่าผีสอนวิชานี้ล่ะ!"ใครบางคนกล่าวขึ้น แฮร์รี่หน้าซีดลง

      "ผ..ผี?" เดรโกมองท่าทางตื่นๆแบบนั้นด้วยสายตาขำขัน อดคิดไม่ได้ว่ามันเหมือนกระต่ายเลย

      "เขาสอนมาหลายสมัยแล้ว ไม่น่ากลัวหรอก ก็คล้ายๆบารอนเลือด หรือสุภาพสตรีสีเทานั่นล่ะ"เดรโกปลอบแต่กลับเจอดวงตาสีเขียวตวัดมองอย่างไม่พอใจจนแข็งค้างไป

      เอ๊ะ...นี่ยังไม่หายงอนฉันคนเดียวเรอะ?





      "..แฮร์รี่"เดรโกทิ้งตัวนั่งลงข้างๆเพื่อนสาวของเขา แฮร์รี่ปิดหนังสือของเธอลงและทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกเดรโกดึงลงมาให้นั่งเหมือนเดิม

    "แฮร์รี่ เธอโกรธอะไรฉันนักหนาล่ะ ก็ฉันไม่รู้จริงๆนี่นา"เดรโกถามเสียงอ่อน ถึงแม้เขาจะคิดว่าท่าทางพองแก้มหน่อยๆนั้นน่ารักไม่หยอกแต่มันก็ไม่ได้น่าสบายใจเท่าไหร่

    "..."

    "...ครั้งหน้า...ฉันสัญญา ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น..ฉันจะไม่ทิ้งเธอ"เดรโกขยับไปใกล้ๆแฮร์รี่แล้วยื่นมือให้คล้ายจะทำสัญญาจริงๆ แฮร์รี่เหลือบมองแล้วพ่นลม

    "เดรโกน่ะ..ไม่ได้โกรธหรอก"แฮร์รี่พูดออกมาเสียงเบา เธอวางหนังสือไว้บนตักแล้วลูบมันเบาๆ "..มันเผลอไปต่างหาก"

    "..หืม?"

    แฮร์รี่เงยมองเพื่อนของเธอก่อนจะกลายเป็นฝังหน้าลงกับปกหนังสือ "ตอนแรกก็งอนจริงๆนั่นล่ะ แต่หายแล้ว.....แต่จู่ๆจะให้กลับไปเล่นกับเดรโกเหมือนเดิม มันไม่ได้อ่ะ..ก็เลย..."

    ".......เงยหน้าขึ้นสิ"เดรโกว่า ตอนนี้เขาเห็นแค่หูแดงๆของแฮร์รี่เท่านั้นเอง

    "ไม่เอา!"

    "แฮร์รี่ เงยหน้าขึ้น"เดรโกขมวดคิ้ว เขามั่นใจว่าตอนนี้หน้าของแฮร์รี่ต้องแดงอย่างน่ารักมากแน่ๆ แต่เพราะถูกบังด้วยหนังสือเขาเลยมองมันไม่เห็น

    "ไม่เอา!!"

    "แฮร์รีน่า เงยหน้าขึ้นหน่อยเร็วสิ"

    "คนนิสัยไม่ดีมัลฟอย!!! ฉันจะไม่คุยกับนายแล้ว!!"แฮร์รี่ลุกขึ้นมาตวาดด้วยใบหน้าแดงก่ำแล้ววิ่งเข้าห้องพักไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เดรโกยังนั้งอยู่ที่เดิม เขาเอนหลังพิงโซฟาแล้วยกมือสองข้างปิดหน้าตัวเองเอาไว้

       น่ารักแหะ


    :27/08/60 แก้คำผิดครั้งที่ 1



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×