ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter เด็กสาวผู้รอดชีวิต

    ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่ 22 : คาถาผู้พิทักษ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.73K
      470
      17 มี.ค. 62

    คาถาผู้พิทักษ์


    แน่นอนว่าเดรโก มัลฟอย


    ยอดยี้ขี้ขลาดประจำแก๊งหกเกลอผจญภัย หากเป็นเรื่องเวทย์มนตร์คาถาการประลองฝีมือ เขามั่นใจว่าเขาชนะได้แม้จะเป็นพี่ปีสี่


    แต่เรื่องจีบสาว เดรโกของสารภาพอย่างอับอายว่าเขาไร้ซึ่งชั้นเชิงและวิธีการอย่างสิ้นเชิง


    เขาเกิดมาด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่พระเจ้าบรรจงสร้าง ในชาติตระกูลที่สูงส่ง เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรสาวๆก็พร้อมจะพลีกายถวายลูกอมทั้งถาดให้เขาตั้งแต่ห้าขวบ


    พูดอย่างมั่นหน้าได้เลยว่าเขาหล่อ และ(พ่อ)รวยมาก ไม่คิดไม่ฝันว่าพออายุสิบสองแล้วจะมาเจอความจริงที่ว่าสาวๆไม่ได้ชอบคนหล่อไปซะหมด พวกเธอชอบคนมีเสน่ห์


    แล้วคนหล่อกับคนมีเสน่ห์ต่างกันตรงไหนฟะ!


    เดรโกคิดอย่างเคียดแค้นที่ตัวเองไม่เข้าใจในสิ่งที่สาวๆพูด เขาหล่อก็ต้องแปลว่าเขามีสเน่ห์อยู่แล้วรึเปล่า แล้วเสน่ห์บ้านั่นคืออะไร ยาเสน่ห์?!!! อิหยังวะ


    เสียงกระซิบที่ฟังดูโรแมนติกในห้องนั่นทำให้เดรโกอย่างระเบิดตัวตาย เขาอยากพุ่งเข้าไปทำลายบรรยากาศงี่เง่าข้างในนั้นมาก แต่เขาก็ให้เกียรติแฮร์รี่ และพ่อของตัวเองมากพอ ที่จะไม่เข้าไปขัดขวางในตอนที่สถานการณ์ไปได้ดีแบบนี้


    ยิ่งเป็นตอนที่แม่ตัดสินใจแบบนี้อีก….


    จริงๆในใจสาปพ่อไปหลายบทแล้ว


    ดวงตาสีเงินวาวโรจน์ เพราะพ่ออายุ 38 ถึงได้มีประสบการณ์ในการจีบหญิงมากกว่า…


    คิดได้ถึงตรงนี้เดรโกก็ชะงักไป ลูเซียส มัลฟอยแต่งงานกับนาร์ซิสซ่า แบล๊ค ที่เป็นรุ่นน้องในบ้านเดียวกัน แต่งงานกันตั้งแต่อายุยังน้อย บางทีประสบการณ์ก็ไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น วนเวียนอยู่ในฮอกวอตส์นั่นคงไม่มีอะไรมาก


    ส่วนสเนปอายุสามสิบกว่าจะสามสิบสามอยู่แล้วยังไม่เห็นมีแฟนสักคนนี่ก็ไม่ต้องไปกังวลเลย สกิลจีบสาวกากกว่าเขาแน่นอน


    พอคิดได้แบบนี้เดรโกก็ใจชื้นขึ้น เกือบๆจะรู้สึกเหนือกว่าและมองตาเฒ่าสองคนนั้นอย่างนึกสมเพซเวทนา เขายังเด็ก ยังมีเวลาอีกมากฝึกปรือสกิลจีบสาวและจีบแฮร์รี่ ไม่ยากอะไรเลย


    อะไรนะ?


    ขาดอีกคนหรอ?


    ไอ้วิญญาณไบโพล่าร์ที่เป็นตาแก่โลลิค่อนนั่นวันๆไม่ทำอย่างอื่นนอกจากโอตาคุศาสตร์มืด จะไปกลัวทำไม


    “ฮัด-..”


    เสียงจามเบาๆในห้องทำเดรโกสะดุ้ง


    อุ้ย เหมือนเขาจะนินทาในใจดังไปหน่อย


    และเมื่อสบโอกาส เดรโกจึงเปิดประตูผ่างเข้าไปทำลายบรรยากาศในทันที!!


    “แฮร์รี่! ดึกแล้วไปนอนกัน!”


    “นี่เพิ่งสองทุ่มเองนะเดรก?” แฮร์รี่เอียงคอ หรือว่าเดรโกยังปรับเวลาจากนิวยอร์คไม่ได้ เพราะเท่าที่เธอรู้ที่นู่นเวลาต่างจากวิลต์เชียร์ตั้งห้าชั่วโมง


    “สองทุ่มก็ดึกแล้ว ไปนอนกัน!!” เดรโกคว้าแขนสาวน้อยแล้วลากเธอไปส่งที่ห้อง แต่ยังเดินได้ไม่ถึงก้าวเขาต้องสะดุดจนเกือบล้มเมื่อแฮร์รี่ไม่ได้เดินตามมา


    เดรโกหันไปมองก็พบว่าตัวของเธอถูกรั้งเอาไว้ในอ้อมแขนข้างนึงของลูเซียส


    พ๊อโว๊ย


    ลูเซียสยิ้มเยาะสายตาที่โวยวายใส่เขา อย่างที่เขาบอก เขาจะไม่ยอมปล่อยแฮร์รี่ให้เดรโกแล้ว


    “ถ้าลูกง่วงก็ไปนอนก่อนก็ได้นะเดรโก อเมริกาเร็วกว่าอังกฤษ ลูกคงยังปรับเวลาไม่ได้ แต่แฮร์รี่ยังไม่ง่วง พ่อว่าจะหาหนังสือให้เธออ่าน”


    รอยยิ้มแบบนั้นเดรโกรู้จัก!!! มันคือรอยยิ้มเย้ยหยัน แต่ไม่คิดว่ามันจะถูกส่งมาให้เขา!!


    “นอนดึกจะทำให้ผิวเสียนะแฮร์รี่”


    “ตามเวลาปกตินอนตอนสี่ทุ่มก็ดีต่อร่างกายพอแล้ว”


    แฮร์รี่กระพริบตาปริบๆ เดรโกกุมมือเธอแน่น พอๆกับที่ลุงลูเซียสโอบเธอเอาไว้ เธออยู่ตรงกลางระหว่างงูจงอางโตเต็มไว กับลูกงูเขียวหางไหม้ใช่รึเปล่า?


    “ทำไมไม่เราไม่ไปนอนพร้อมกันหมดเลยล่ะ” แฮร์รี่พยายามสงบศึก จริงอยู่ที่เธอยังไม่ง่วง แต่มันคงจะดีกว่าถ้าไม่ถูกยื้อยุดเป็นตุ๊กตาแบบนี้


    “มีแต่คนโง่เท่านั้นล่ะแฮร์รี่ ที่นอนทั้งๆที่ยังไม่ถึงเวลานอนทั้งที่ร่างกายปกติดี”ลูเซียสทำสีหน้าเดียดฉันท์


    ลุงคะ มีคนหน้าสั่นกันครึ่งประเทศแล้วค่ะ


    “งั้น ทำไมเดรโกกับลุงไม่คุยกันล่ะคะ แบบพ่อลูก เดี๋ยวหนูจะไปอยู่กับน้าซิสซ่า” แฮร์รี่ลองเสนออีกทาง ครั้งนี้เธอเห็นทั้งคู่ทำหน้าตาเหมือนกลืนมะนาวไปทั้งลูก


    “งั้น ทำไมเราไม่นั่งอยู่ตรงนี้ จนกว่าจะแยกกันไปนอนล่ะคะ” แฮร์รี่เสนอทางที่สาม เดรโกดูมีหน้าตาไม่ยอม แต่เขาก็ขัดอะไรไม่ได้ เธอถูกปล่อยให้เป็นอิสระตอนนั้น


    แฮร์รี่คิดว่าเธอโตมากแล้ว ไม่คิดเหมือนกันว่าจะถูกหิ้วเหมือนเธอมีน้ำหนักแค่กรัมเดียว


    “ตอนนี้ที่โรงเรียนมีผู้คุมวิญญาณบินว่อนไปหมดเพราะเรื่องแบล๊ค พวกหนูมีคาถาที่ใช้ป้องกันตัวได้ไหมคะ?” แฮร์รี่ลองถามดู เดรโกหายฟัดเฟียดแล้วรอฟังคำตอบ เขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน


    “มันก็มี...แต่ฉันคิดว่ามันอาจจะยากเกินไปสำหรับปีสอง” ลูเซียสมีสีหน้าครุ่นคิด “งั้นวันนี้เราลองเรียนรู้ทฤษฎีกันก่อน แล้วค่อยมาลองปฏิบัติกันพรุ่งนี้ ดีไหม?”


    “นั่นดีเลยค่ะ” แฮร์รี่โล่งอก ในที่สุดเธอก็พาพวกเขาออกจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนั้นได้ ลูเซียสนั่งลงบนเก้าอี้ของเขา ส่วนแฮร์รี่นั่งกอดเข่าข้างๆเดรโก


    “เราต้องทำความเข้าใจผู้คุมวิญญาณกันก่อน พวกมันไม่ใช่คน ไม่ใช่วิญญาณ ไม่มีความเมตตา มันไม่สนว่าใครจะเป็นคนดีหรือคนเลว ขอเพียงมีอาหารของมัน มันก็พร้อมที่จะเข้าโจมตีได้ทันที”


    “อาหาร?”แฮร์รี่เอียงคอ เธอได้ยินล๊อกฮาร์ตพูดเกี่ยวกับพวกมันในคาบป้องกันตัวจากศาสตร์มืด แต่เธอหมดความเชื่อถือเขาไปนานแล้วจึงไม่ได้ฟัง


    “ความสุขแฮร์รี่...ความสุข ความหวัง ความรัก ทุกอย่างที่เป็นพลังด้านบวกแก่เรา จะถูกมันกลืนกิน” ลูเซียสกล่าว “ไม่ใช่ธรรมชาติของผู้คุมวิญญาณที่จะให้อภัย ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือไม่ควรเข้าไปใกล้หรือตอแยมัน ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม”


    เจ้าบ้านเงียบเล็กน้อย เพื่อสังเกตุว่าเด็กทั้งสองเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดจริงๆ


    “ทีนี้ หากว่าถูกทำร้ายโดยบังเอิญ หรือพบเจอผู้คุมวิญญาณโดยไม่ได้ตั้งใจ หรืออยู่ในความจำเป็นที่จะต้องต่อสู้” เขาย้ำอีกครั้ง เขาไม่อยากจะให้เด็กพวกนี้ไปวอแวกับผู้คุมวิญญาณไม่ว่าทางไหนก็ตาม แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ...โดยเฉพาะที่ที่มีแฮร์รี่ พอตเตอร์ “คาถาที่เธอจะต้องใช้ต่อสู้ คือคาถาผู้พิทักษ์”


    “คาถาผู้พิทักษ์?”


    “เป็นหนึ่งในคาถาชั้นสูง แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ยังไม่สามารถเสกได้ มันเป็นคาถาป้องกันที่มีชื่อเสียงที่สุด เป็นที่รู้กันมันเสกได้ยากมาก จุดมุ่งหมายของมันคือการสร้างผู้พิทักษ์ขึ้นมาเพื่อคุ้มครองเรา ผู้พิทักษ์ที่ปรากฏออกมาจะเป็นสัตว์สีขาว แตกต่างกันไปแต่ละคน และขอย้ำอีกครั้งว่ามีพ่อมดน้อยคนมากที่จะเสกได้ถึงขั้นนี้ ถือได้ว่ามันเป็นคาถาป้องการที่มีพลังอำนาจมากที่สุด”


    “แล้วแบบนั้นพวกหนูจะเสกได้ยังไงล่ะคะ” แฮร์รี่มีสีหน้าห่อเหี่ยว


    “เธอไม่จำเป็นต้องถึงขั้นสร้างผู้พิทักษ์หรอก ขอแค่เสกคาถา สร้างเป็นเกราะกำบังเพื่อกันไม่ให้ผู้คุมวิญญาณเข้ามาโจมตีจนกว่าจะมีผู้ใหญ่มาช่วยก็ได้” ลูเซียสปลอบใจ เขาหันไปมองเดรโกที่เงียบผิดปกติ แล้วก็เจอกับสายตาอาฆาตแค้น...หากเป็นลูเซียสเมื่อก่อนเขาคงจะรู้สึกแย่จนเดินกลับไปนอนเงียบๆที่ห้อง แต่ไม่ใช่กับตอนนี้ เขาหันกลับไปหาแฮร์รี่อย่างเป็นธรรมชาติแล้วอธิบายต่อ


    “เธอต้องจินตนาการถึงความทรงจำที่ดีที่สุด ที่มีความสุขมากที่สุดของเธอ เลือกมาเพียงหนึ่งและตั้งสมาธิไว้ที่มัน ยิ่งความทรงจำที่หยิบมานั้นมีความสุขมากเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งเสกคาถาผู้พิทักษ์ออกมาได้แข็งแกร่งมากเท่านั้น” เด็กสองคนนั่งตาแป๋ว ในหัวคิดถึงเรื่องที่มีความสุขมากๆไม่ผิดแน่


    แล้วจู่ๆเดรโกก็หน้าแดง และเอามืออุดกำเดา


    ลูเซียสไม่อยากรู้เลยว่าอีกฝ่ายนึกถึงอะไรขึ้นมา...แม้จะเดาได้ไม่ยากว่ามันเกี่ยวกับสาวน้อยที่ทำหน้าเหม่อลอยข้างๆนี่ก็ตาม


    “เราจะลองเสกมันดูในวันพรุ่งนี้ ฉันไม่ได้ติดงานอะไรในช่วงเช้าและช่วงบ่าย” ลูเซียสนัดหมาย แฮร์รี่พยักหน้าหงึกหงักอย่างตื่นเต้น ส่วนเดรโก…..ช่างมัน


    “ ลุงลูเซียสคะ! มังกร! มีจริงๆหรอคะ!” แฮร์รี่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น เธอเพิ่งได้ยินมา ถึงแม้จะเคยเห็นนอร์เบิร์ตของแฮกริดแล้วแต่เธอคิดว่ามันเหมือนกิ้งก่าผสมค้างคาวมากกว่ามังกร


    “มีจริงๆ ที่โรมาเนียเขาเลี้ยงเป็นฟาร์มเลย อยากไปดูไหมล่ะ?” ลูเซียสส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้กับเด็กสาว เดรโกอ้าปากค้าง เขาเป็นลูกชายพ่อมาสิบกว่าปี เขายังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย


    “ปิดเทอมนี้เราพาไปดูก็ได้นะ!! วันเกิดเธอ!” เดรโกรีบเอาใจว่าที่นายหญิงของเขา แฮร์รี่หันมาด้วยดวงตาเป็นประกาย เธอยิ้มกว้างอย่างดีใจจนห้องสว่างสไวขึ้นสิบระดับ


    ฮึบ!


    เดรโก ฮึบไว้ นาย-ต้อง-สร้าง-ภูมิ-ต้าน-ทาน


    นายเป็นตัวโจ๊กหรอเดรโก ลูเซียสถามผ่านทางสายตาเมื่อเห็นว่าลูกชายมีท่าทางอดกลั้นจนน่าขัน


    “จริงด้วยสิ! เดรกจะไว้ผมยาวแบบลุงลูเซียสไหม?!” แฮร์รี่หันกลับมาหาเพื่อนของเธอ


    “หา?! แล้วฉันบอกให้เรียกเขาว่าพ่อไง!” เดรโกทำหน้างง


    “นายจะไว้ผมยาวแบบพ่อไหม แพนซี่ไว้ผมสั้นส่วนเฮอร์ไมโอนี่ก็ผมฟู ฉันอยากมีคนไว้เล่นผมบ้าง”แฮร์รี่ทำหน้าจริงจัง ส่วนลูเซียสนั่งขำเป็นแบคกราวน์


    “...นั่นเป็นคำสั่งรึเปล่า?” เดรโกทำหน้าเหมือนถูกสั่งให้อมคางคกเอาไว้ในปาก


    “ก็ไม่อยากให้เป็นคำสั่งอ่ะ” แฮร์รี่ทำหน้าใสซื่อ ดวงตาสีมรกตกลมโตจ้องเดรโกตาแป๋ว


    “ทำไมไม่เล่นผมพ่อล่ะ พ่อฉันผมยาวคนเดียวก็น่าจะพอแล้วนะ” เดรโกฌยนไปให้ผู้ใหญ่จัดการ ถึงเขาจะรักแฮร์รี่แค่ไหน ขอแค่เรื่องไว้ผมยาวนี่ล่ะ ยังไงก็ไม่ได้จริงๆ


    หรือจริงๆแฮร์รี่ชอบคนผมยาว


    เดรโกครุ่นคิดหลังจากนึกสภาพผมของพ่อเขาและพ่อทูนหัวเขาแล้ว มีความเป็นไปได้


    “จะเล่นผมฉันก็ได้นะ” ลูเซียสยิ้มอ่อน เขาตามใจเด็กสาวแน่นอนอยู่แล้ว เดรโกเบิกตากว้าง


    พวกเขาคือมัลฟอย คือเลือดบริสุทธิ์ คือผู้สูงส่ง คือผู้ที่ช่วยเหลือพระเจ้าวิลเลี่ยมที่หนึ่งรุกรานนอร์แมน เขาที่เป็นลูกชายขี่คอยังไม่เคย แต่นี่ให้แฮร์รี่เล่นหัว!!!


    พ๊อ!!


    มันจะเกินไปแล้วนะ!!!!


    เดรโกรู้สึกเหมือนโดนบิดาตบหน้าด้วยจดหมายท้าดวล ในขณะที่แฮร์รี่กำลังยิ้มร่าอย่างดีใจ สองพ่อลูกก็ส่งประกายไฟในตาใส่กันอย่างดุเดือด


    นี่คือการประกาศสงคราม!!!!!









    คฤหาสน์มัลฟอย , 30 ธันวาคม 1992


    “ดูเหมือนเราจะมีช่างทำผมส่วนตัวแล้วล่ะที่รัก” ลูเซียสยิ้ม เขาก้มลงไปจุมพิตเบาๆรับอรุณภรรยาที่น่ารักของเขา ผมสีบลอนด์ของเขาถูกหวีอย่างบรรจงและรวบเอาไว้ด้วยโบว์สีน้ำเงินเข้มเข้าจะชุดที่ใส่ในวันนี้


    ใกล้ๆกันนั้นเป็นแฮร์รี่ที่ถือหวีด้วยสีหน้าภูมิใจขั้นสุด


    นางมัลฟอยหัวเราะเมื่อเห็นสามีของเธอมัดผมของเขาเอาไว้ด้วยโบว์ที่หูกว้างขนาดนั้น มันเกือบจะเหมือนโบว์ของหญิงสาวแล้วด้วยซ้ำ


    “ฮึ่ม!!” แฮร์รี่มีสีหน้ามุ่งมั่นและภูมิใจ แม้ทั้งหมดที่เธอทำคือรวบผมสีบลอนด์สวยอันนั้นเอาไว้ด้วยกันและผูกโบว์ก็ตาม...แต่เธอผูกโบว์ได้สวยมาก!!!


    “เดรโกไปไหนซะล่ะแฮร์รี่?” นาร์ซิสซ่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา


    “ห้องนอนค่ะ น่าจะยังไม่ตื่น!! หนูไปปลุกให้นะคะ!!!” พูดจบก็รีบวิ่งปร๋อออกจากห้องไปด้วยความกระตือรือร้น


    “รีบร้อนจริงเชียว” นาร์ซิสซ่าอดห่วงไม่ได้


    “วันนี่ผมจะสอนเขาเสกคาถาผู้พิทักษ์น่ะ ก็เลยตื่นเต้นกัน”ลูเซียสให้คำตอบท่าทางที่ตื่นเต้นนั้น นาร์ซิสซ่ามีสีหน้าเข้าใจ


    “อย่าอยู่คนเดียวนานนักนะคะ คุณยังหนุ่มรู้ไหม” มือที่ผอมแห้งไม่ต่างจากหนังหุ้มกระดูกยกขึ้นสัมผัสแก้มสากของสามีอย่างแผ่วเบา เธอไล้นิ้วโป้งไปตามโหนกแก้ม และลากฝ่ามือไปตามสันกราม ลูเซียสหลุดยิ้มเล็กน้อย


    “คุณสอนเธอใช่ไหม” ผู้นำตระกูลมัลฟอยมองภรรยาของเขาอย่างรู้ทัน


    “ก็มันเป็นการปลอบที่ทำให้คุณรู้สึกดีนี่คะ” นาร์ซิสซ่ายิ้มอย่างอ่อนโยน เธอดูไม่สะทกสะท้านแม้จะถูกจับได้ก็ตาม


    “...มันได้ผลดีมากเลยล่ะ” เขาจับมือของภรรยามาบรรจงจูบอย่างแผ่วเบา ถนอมราวกับบุพผา มิอาจจะให้บอบช้ำแม้แต่นิดเดียว


    “เดรโกมาแล้วค่า!!!!” ร่างของแฮร์รี่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเดรโกที่ยังง่วงอยู่กับการติดกระดุมเสื้อกั๊ก


    “ดูเหมือนผมต้องไปสอนลูกลิงร่ายมนตร์ซะแล้วล่ะ” ลูเซียสยิ้ม เขาจูบหน้าผากภรรยาอย่างแผ่วเบาเป็นการอำลา พลางช่วยเธอเอนตัวลงนอนเพื่อพักผ่อน


    “ระวังกันด้วยนะจ๊ะ”


    “ค่า~!/ครับแม่”


    “เอาล่ะเด็กๆ ไปคุกใต้ดิน!”














    ถึง กระต่ายสีเขียว


    ฉันเจอซูหวู่แล้ว มันไม่ได้น่ารักอย่างที่คิด นั่นทำลายหัวใจที่บอบบางของฉันมาก มันตัวใหญ่มาก ฉันอยากกลับไปมห้เธอเยียวยาใจจะแย่แล้ว

    เธอเป็นอย่างไรบ้างที่บ้านของอสรพิษสีเงิน เธอไม่ได้ถูกทำอะไรแปลกๆหรือพาไปในที่แปลกๆใช่รึเปล่า ฉันหวังว่าไม่นะ ไม่งั้นฉันคิดว่าแม่อาจจะต้องกรีดร้องที่กุญแจเดินทางของเธอถูกฉันใช้กลับอังกฤษแล้ว

    ส่งจดหมายกลับมาบ้าง


    ด้วยรักและคิดถึง


    จิ้งจอกเก้าหาง



    แฮร์รี่อ่านทวนอยู่สองครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรตกหล่นแล้วเธอก็รีบเขียนจดหมายตอบแพนซี่ในทันที


    ถึง จิ้งจอกเก้าหาง


    ฉันรับรู้แล้วเรื่องซูหวู่ เราต่างก็รู้กันไม่ใช่หรอว่าในหนังสือบอกว่ามันตัวใหญ่และยาวมาก แต่ฉันสงสัยว่ามันจะมีหน้าเหมือนแมวหรือเหมือนสิงโตมากกว่ากัน

    ฉันปลอดภัยดี ไม่ได้ถูกทำอะไรแปลกๆ หรือพาไปที่แปลกๆ ตอนนี้เรากำลังฝึกคาถาผู้พิทักษ์กันอยู่ที่คุกใต้ดิน ฉันกับอสรพิษสีเงินทำได้ไม่ดีนัก แต่เราก็ยังพอมีละอองสีเงินออกมาบ้าง ฉันคิดว่ามันช่วยได้หากเราบังเอิญเจอผู้คุมวิญญาณในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

    อีกไม่กี่วันก็กลับโรงเรียนแล้ว เจอกันที่ฮอกวอตส์


    ด้วยรักและคิดถึง


    กระต่ายสีเขียว


    แฮร์รี่พับมันอย่างปราณีหยดเทียนผนึงมันแทนกาวที่เธอหาไม่ได้ในคฤหาสน์หลังนี้ ก่อนที่จะฝากให้กับเจ้าเดวิด นกฮูกอีสต์เทิร์น สครีชของแพนซี่ให้มันบินกลับไปโรมาเนียหลังการทานข้าวและพักผ่อนแล้ว


    ผลจากการฝึกวันนี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก เดรโกทำได้ดีกว่าเธอ อาจจะเพราะเขามีความทรงจำที่มีความสุขมากกว่าเธอ แฮร์รี่พยายามคิด แต่เธอไม่สามารถโฟกัสไปยังความทรงจำที่มีความสุขเพียงความทรงจำเดียวได้เลย เธอลังเลในจังหวะใดจังหวะนึงว่ามีความทรงจำอื่นที่มีความสุขกว่านี้รึเปล่า


    แฮร์รี่เท้าคาง เธอเกาไปตามไรขนของเฮดวิกเบาๆมันดูเพลิดเพลิน เธออมยิ้มในความน่ารักของสัตว์โลกก่อนที่จะเบิกตากว้าง


    “ทอม!!”


    ให้ตายเธอลืมเรื่องสมุดบ้านั่นอีกแล้ว!!


    แฮร์รี่ลุกขึ้น เธอเริ่มหาในทันที เริ่มจากในหีบข้าวของที่พับเป็นระเบียบมาที่โต๊ะหนังสือ ในย่าใที่สะพาย จนถึงกรงเฮดวิก


    “ไอสมุดงี่เง่า” แฮร์รี่เข็ดฟัน เธอน่าจะฉีดทิ้งไปซะจะได้จบๆถ้าจะรู้ว่ามันจะน่ารำคาญขนาดนี้ เหมือนแฮร์รี่ถูกมันควบคุมในบางครั้ง ไม่ใช่ควบคุมให้ทำอะไร แต่เหมือนเธอจะถูกทำให้ลืมนึกถึงมันในชั่วขณะนึง แฮร์รี่ไม่เข้าใจเลยว่ามันทำได้ยังไงโดยที่โดนมัดเป็นแหนมตุ้มขนาดนั้น


    ก๊อก ก๊อก


    เสียงเคาะประตูดังขึ้น แฮร์รี่วางมือจากการขยี้หมอนระบายอารมณ์ แล้วเดินไปเปิดประตู ถ้าเป็นที่อื่นเธอคงจะระแวงที่จะเปิดประตูยามค่ำคืน แต่เพราะนี่เป็นคฤหาสน์มัลฟอย ไม่มีทางที่จะมีคนนอกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นคนที่เคาะประตู หากไม่ใช่เดรโกจอมจุ้นจ้านก็ต้องเป็น


    “ฉันได้ยินเสียงดัง มีอะไรรึเปล่า?” เจ้าบ้านมัลฟอยนั่นเอง


    “เสียงดังรบกวนหรอคะ ขอโทษจริงๆค่ะ พอดีหนูหาของอยู่” แฮร์รี่เอ่ยขอโทษด้วยใบหน้าสลด เธอไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนั้น


    “เมื่อกี้ฉันทำงานอยู่ห้องข้างๆนี้น่ะ เลยได้ยิน นอนไม่หลับรึเปล่า? นี่ก็ใกล้เวลานอนแล้วนะ” ลูเซียสดูนาฬิกา ห้องทำงานของเขาอยู่ติดกับห้องพักของแฮร์รี่พอดี ดังนั้นแค่เสียงดังนิดหน่อยเขาก็ได้ยินแล้ว และเสียงโครมครามเมื่อกี้ ก็ไม่น่าจะใช้คำว่าหน่อยได้เลย


    “หนูว่าจะไปหานมอุ่นๆกินน่ะค่ะ” แฮร์รี่บอก จริงๆเธอเองก็นอนไม่หลับอยากที่อีกฝ่ายว่า อาจจะเพราะเครียดเกี่ยวกับคาถาที่ฝึกกันวันนี้


    “ด๊อบบี้!”


    ป๊อป


    “ไปหานมอุ่นๆมาให้แฮร์รี่กินหน่อย ใส่น้ำผึ้งแค่นิดเดียวพอ” ลูเซียสหันไปสั่งกับเอลฟ์ ก่อนที่มันจะหายไป แฮร์รี่มองไปที่เอลฟ์ตนนั้น


    “ด๊อบบี้เป็นเอลฟ์ของคุณจริงๆด้วย หนูถึงว่าหน้าคุ้นๆ” แฮร์รี่กระพริบตา


    “มีอะไรรึ?”


    “คุณลุงแกล้งด๊อบบี้หรอคะ?! ห้ามแกล้งด๊อบบี้นะคะ ด๊อบบี้เป็นเพื่อนของหนู” แฮร์รี่พยายามทำหน้าดุๆเพื่อช่วยเพื่อนของเธอ อย่างน้อยเธอก็เป็นว่าที่จอมมาร(ถึงอีกฝ่ายจะไม่รู้) คงจะน่ากลัวอยู่บ้างล่ะ


    “...นี่คือกำลังดุลุงหรอ?” ลูเซียสอมยิ้ม เขามองดวงตาที่พยายามจ้องเขาเขม็งกับแก้มที่อมลมไว้อย่างเอ็นดู น่ารักจนไม่ดีต่อหัวใจเลย


    “ใช่ค่ะ!!” แฮร์รี่กอดอกยืดตัวขึ้น เสริมสร้างคาร์แรคเตอร์ให้น่าเกรงขาม


    “แล้ว...ถ้าลุงไม่ฟังล่ะครับ?” ลูเซียสยกยิ้ม เขากลั้นหัวเราะเอาไว้เมื่อแฮร์รี่มีสีหน้าเหรอหรา เหมือนเธอจะไม่ได้คิดเอาไว้


    “หนูจะ...หนูจะ…” เด็กสาวผู้รอดชีวิตอ้ำอึ้ง ก่อนจะตัดสินใจเลือกสิ่งที่เธอทำได้ขึ้นมา “หนูจะไม่ทำผมให้ลุง ไม่ชงชาให้ ไม่คุยด้วยด้วย!!”


    น่ากลัวชิบเป๋ง


    หมายถึงความน่ารักเนี่ย อันตรายเป็นบ้าเลย


    “แบบนั้นก็แย่เลย กลัวแล้วครับ” ลูเซียสย่อตัวลง ให้แฮร์รี่ได้สัมผัสถึงการเชิดหน้ามองต่ำอย่างที่พยายามจะทำบ้าง


    “งั้นห้ามแกล้งด๊อบบี้นะคะ ห้ามทุบตีด้วย เขาตัวเล็กนิดเดียวเอง” แฮร์รี่ย้ำ


    “ด๊อบบี้มันเพี้ยนโดยกำเนิด เวลามันทำพลาดเราก็แค่ให้มันทำขึ้นสองเท่า และเวลาที่มันสร้างปัญหา งงฉันก็แค่ให้มันนั่งเฉยๆในห้องพักของมันห้ามขยับจนกว่าจะถึงเวลาอาหารเย็น แค่นั้นล่ะ” ลูเซียสอธิบาย


    “....จริงหรอคะ” แฮร์รี่ปล่อยแขนลง จะว่าไปเธอก็ไม่เห็นว่าด๊อบบี้จะมีร่องรอยการถูกทำร้ายตรงไหนเลย


    “จริง” ลูเซียสยืนยัน “แล้วแบบนี้ลุงจะยังโดนดุอยู่ไหมครับ?”


    แฮร์รี่ส่ายหน้า “ไม่แล้วค่ะ”


    “ว้า แย่จัง ลุงอยากโดนดุอีกเยอะๆเลย”


    “ลูเซียส!!” แฮร์รี่งัดไม้ตายที่น้าซิสซ่าสอนเธอให้ใช้ยามที่รู้สึกว่ากำลังโดนแกล้ง ผลคือลูเซียสผงะไปเล็กน้อย ลืมที่จะแกล้งเด็กสาว


    ส่วนแฮร์รี่หน้าแดงเป็นปลาหมึก


    “ไปนอนได้แล้วค่ะ หนูง่วงแล้ว” แฮร์รี่แสร้งหาวจนน้ำตาเล็ด


    “เดี๋ยวลุงทำงานก่อนนะ แล้วจะไปนอน” ลูเซียสลูบผมเด็กสาวก่อนที่เขายืดตัวขึ้น มองแฮร์รี่ที่วิ่งกระไปกระโจนขึ้นเตียงในห้องรับรองก่อนที่จะปิดไฟและประตูให้ ส่วนตัวเขากลับไปที่ห้องทำงาน


    ชายร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้ประจำตัว ตามตรงเขาอยากมห้มันเป็นเก้าอี้ทำงานแบบที่ซัพพอร์ตหลังมากกว่านี้ แต่เพราะเขาไม่นิยมของมักเกิ้ลทำให้ต้องนั่งบนเก้าอี้ไม่บุนวมฉลุลายอสรพิษอย่างสวยงาม


    แต่ปวดหลัง


    สายตาคมกริบดังเก๊ะข้างขวาออกมาเล็กน้อย สมุดสีดำที่ถูกพันด้วยเถาวัลย์นอนแอบอยู่ใต้เอกสารของเขาปึกนึง พักหลังๆมาคาถาเริ่มเสื่อมลงง่ายขึ้นทุกที เขาหวังว่ามันจะไม่คลายจนกว่าที่เขาจะจัดการกับสมุดเล่มนี้จนเรียบร้อย


    หากแฮร์รี่มาค้นเจอเข้าเมื่อไหร่ ลูเซียสสัมผัสได้ว่าเขามีปัญหาแน่ๆ





















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×