ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter เด็กสาวผู้รอดชีวิต

    ลำดับตอนที่ #22 : ตอนที่ 20 : ห้องแห่งความลับ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.57K
      514
      14 ธ.ค. 61

    ห้องแห่งความลับ



    “...เขาเมาปะ?” เสียงกระซิบของใครสักคนจากสลิธีรินดังแทนใจของพวกเขาแทบทุกคน แม้สำหรับคนอื่นก็ยังคงเห็นเป็นศาสตราจารย์สเนปที่ดุและสุดแสนจะลำเอียงเช่นเคย


    แต่อย่างน้อยถ้าเป็นเขาคนเดิมเดรโกคงไม่ถลึงตาจนแทบถลนออกมาขณะที่สเนปจับมือแฮร์รี่หั่นดอกวูล์ฟเบนอย่างสนิทสนม


    คือยังไงทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าทั้งคู่สนิทกันเพียงไหน แต่ศาสตราจารย์ก็ไม่เคยแสดงออกมาชัดขนาดนี้


    “เมาใช่ปะ?” ใครสักคนถามย้ำอย่างไม่ค่อยแน่ใจ


    สเนปละมือจากสาวน้อยของเขาแล้วไปเดินป้วนเปี้ยนแถวหม้อยาตรงที่ๆมีเสียงออกมาแทน จนพวกเขาจ้องน้ำยาในหม้อตาเขม็ง ในขณะเดียวกันเดรโกก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมือแฮร์รี่ให้สะอาดเท่าที่เขาจะทำได้


    “...แทนที่เธอจะมาสันนิษฐานว่าศาสตราจารย์ของเธอเมาหรือไม่เมา เธอควรจะสันนิษฐานว่าทำไมน้ำย่ของเธอจึงยังเป็นสีเหลืองอยู่จะดีกว่านะมิสเดวิส” สเนปพูดเหน็บแนม “หักกริฟฟินดอร์ห้าคะแนน เธอไม่ควรละสายตาจากหม้อปรุงยาในตอนนี้”


    รอนไม่พอใจอย่างมาก สลิธีรินละสายตาจากหม้อไปตั้งนานและกระซิบกระซาบกันกลับไปเสียคะแนนแม้แต่น้อย แค่พวกเขาหันไปดูยังไม่ถึงสามวิก็เสียไปแล้วห้าคะแนน


    สเนปมันยอดยี้งี่เง่า สกปรกกันทั้งอาจารย์ทั้งนักเรียน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงมีบ้านที่สกปรกอย่างนี้เหลืออยู่ในฮอกวอตส์ทั้งๆที่ซัลลาซาร์ก็หนีไปจากฮอกวอตส์อย่างขี้ขลาดแล้วแท้ๆ


    “หัก 10 คะแนนจากกริฟฟินดอร์ คุณวิสลีย์ ช่วยบอกผมทีว่าสมองของคุณมีขณะเท่าเม็ดถั่วเขียวถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าจ้องหม้อยาแต่ไม่ใส่ส่วนผสมก็ไม่ทำให้น้ำยาสะอาดหมดจดของคุณประสบความสำเร็จได้รึเปล่า”


    เมื่อสเนปลงไปขัดการกับพวกกริฟฟินดอร์ สลิธีรินก็รีบหันกลับไปกระซิบกระซาบกันอีกครั้ง


    “เห็นเขาเดินเซเมื่อกี้ปะ”


    “ดูหน้าเขาสิ ฉันนึกว่าเขาจะอ้วกใส่วิสลีย์แล้ว”


    สำหรับบ้านอื่นๆคงไม่มีใครสังเกตุเห็นอาการดังกล่าวแน่ๆ แต่ไม่ใช่กับลูกงูอย่างพวกเขา พวกเขาคุ้นชินกับศาสตราจารย์มากกว่าบ้านอื่นๆอาการเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ไม่อาจเล็ดรอดสายตาพวกเขาไปได้


    “ได้ยินว่าพวกผีคุยกันว่าเขาออกจากห้องศาสตราจารย์เบอร์เบจมาตอนเกือบเช้า คงดวดกันทั้งคืน”


    แฮร์รี่หันไปเมื่อได้ยินประโยคนี้


    ศาสตราจารย์ แชริตี้ เบอร์เบจ สอนวิชามักเกิ้ลศึกษา เธอลงเรียนวิชานี้เป็นเพื่อนเฮอร์ไมโอนี่ เธอได้ยินมาว่าเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของศาสตราจารย์สเนปภายในโรงเรียนนี้….แต่ไม่เห็นรู้ว่าสนิทกันถึงขนาดจะค้างคืนในห้องเดียวกันได้


    “แฮร์รี่ ฉันว่าใส่ผงลาเวนเดอร์ได้แล้วล่ะ” เดรโกเอ่ยขึ้น เขาชะโงกดูหม้อของแฮร์รี่ เด็กสาวที่ได้ยินก็โรยผงลาเวนเดอร์ลงไปทันที เธอคนอย่างรีบๆ จนกระทั่งมันมีฟองสบู่ลอยขึ้นมาและส่งกลิ่นหอม


    แฮร์รี่ตักน้ำยาใส่หลอดแก้วที่ถูกเตรียมเอาไว้ เธอปิดไฟและสะพายย่ามหนังสือเดินลงไปหาศาสตราจารย์ประจำวิชาที่โต๊ะทำงาน


    ปึง!


    “หนูทำเสร็จแล้วค่ะ หลังตรวจและให้คะแนนแล้วลองใช้มันแปรงฟันดูนะคะ คุณเหม็นเหล้ามาก”


    ทั้งห้องอ้าปากค้าง


    สเนปก็ด้วย


    แฮร์รี่สะบัดตัวเดินกระแทกเท้าออกจากประตูไปเสียงดังสนั่น รวดเร็วและน่าตกใจจนสเนปเองก็ไม่ทันตั้งตัวที่จะดุหรือว่าอะไร


    “มองอะไร ทำน้ำยาของเธอให้เสร็จ! ฉันต้องไม่เห็นพวกเธอคนไหนอยู่ในห้องหลังจากห้านาทีนี้!!” คำสั่งของสเนปทำให้พวกเขางานล้นมือขึ้นในทันที เดวิส สลิธีรินที่ช้ากว่าเพื่อน เธอต้องบดผงลาเวนเดอร์ไปและคนหม้อไปพร้อมกัน


    สเนปมองประตูด้วยความรู้สึกประหลาดในอก เขาไม่รู้ว่าทำไมแฮร์รี่ถึงมีท่าทีโกรธเคืองเขาขนาดนั้น เธอไม่เคยทำมาก่อน


    เขายกมือขึ้นอังปากแล้วลองหายใจดู


    มันเหม็นขนาดนั้นจริงๆหรอ?






    พวกเขาเจอแฮร์รี่อีกครั้งในคาบการบิน และฝีไม้กวาดของเธอในวันนี้ดุดันมาก ดุดันจนเดรโกต้องขับตามไปไหว้วานให้เบาลงหน่อย ไม่อย่างนั้นนอกจากเขาจะตามไม่ทันแล้ว อีกฝ่ายจะประสบอุบัติเหตุอีกด้วย


    “ขับช้าๆลงหน่อยแฮร์รี่ เร็วแบบนี้มันอันตรายนะ”


    ผลคือแฮร์รี่เชิดหน้าแทบแหงนแล้วดึงไม้กวาดดริฟหนีไป


    “เธอหนีไปแล้ว เบลสดักไว้!!!!”


    “เธอจะขี่ไม้กวาดเทพไปแล้วนะแฮร์รี่!!! น๊อต!!!”


    “ แค่ช้าลง ช้าลงไม่ใช่เร็วขึ้น!!! แพนซี่ เธอไปทางนั้นแล้ว”


    “กรี๊ดดดดด”


    “อย่ากรี๊ดสิ ดักเธอไว้!!!!”


    “กรีนกราส!! จับเธอ!!!”


    “มิลลิเซนต์ ขนาบเธอเอาไว้!!!”


    “พระเจ้า เธอขี่ไม้กวาดตีลังกาแบบนั้นได้ยังไง!!!”


    “แฮร์รี่ค้าบ ป๊ะป๊าขอ ลงไปนั่งพักเถอะนะ เดี๋ยวป๊ะป๊าให้พายฟักทองเลยเอา!”


    จากนั้นคาบเรียนไม้กวาด สลิธีรินจึงต้องขี่ตามง้องอนให้แฮร์รี่ลงจอดไปนั่งกินขนมตลอดคาบ ซึ่งนั่นไม่สำเร็จ แฮร์รี่ลงจอดตอนที่มาดามฮูซเป่านกหวีดหมดคาบ และเดรโกมีรอยโดนหางไม้กวาดฟาดเด่นหราคู่กับน๊อต


    แฮร์รี่ดูได้ปลดปล่อยออกไปบ้าง แต่เธอก็ยังดูหงุดหงิดอยู่ดี พวกเขาไม่เข้าใจว่าแฮร์รี่หงุดหงิดอะไร เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แต่สัญชาติญาณของพวกเขาบอกว่าต้องประกบเธอเอาไว้ตลอดเวลา


    แฮร์รี่ดูหงุดหงิดเป็นสองเท่าตอนที่จะถึงวิชาเลือกที่เธอต้องไปเรียนมักเกิ้ลศึกษาิส่วนพวกเขาต้องไปเรียนตัสเลขมหัศจรรย์


    เฮอร์ไมโอนี่ที่ไม่ได้เห็นแฮร์รี่ในคาบการบินนั้นมีสีฟน้างุนงงเมื่อจู่ๆเหล่าเด็กบ้านงูก็กรูกันเอานางฟ้าตัวน้อยของพวกเขามาส่ง โดยที่ตัวเองยับเยิน-ในหลายๆความหมาย- พร้อมยังฝากฝังให้เธอดูแลอีกต่างหาก


    “แฮร์รี่?” เฮอร์ไมโอนี่จิ้มเพื่อนสาวตัวน้อย แก้มนิ่มๆของเธอพองออกเล็กน้อยชวนให้ฟัดเสียเหลือเกิน


    “ เธอหึงศาสตราจารย์สเนปหรอ? “เฮอร์ไมโอนี่ลองโยนหินถามทาง….ไม่สิ โยนหินใส่หัวเลยต่างหาก


    “....” แฮร์รี่ยังมีสีหน้าบูดบึ้ง เธอไม่ตอบอะไร ก่อนที่จะมีสีหน้าที่ผ่อนคลายลง และแปรเปลี่ยนเป็นสับสน และตกใจเป็นลำดับขั้น เธอหันมาหาเฮอร์ไมโอนี่ด้วยสีหน้าเหรอหรา


    “ไม่ใช่นะ!” แฮร์รี่รีบปฏิเสธ


    “ ทำไมไม่ใช่ล่ะ?”


    “ทำไมต้องใช่ล่ะ” แฮร์รี่ตอบคำถามด้วยคำถาม เฮอร์ไมฌอนี่ยิ้ม เธอมักเป็นแบบนี้เสมอเมื่อเธอประหม่า


    “ เธอสนิทกับศาสตราจารย์สเนปที่สุด การที่เขาดูจะไม่ได้สนิทกับเธอที่สุด มันไม่แปลกไม่ใช่หรอที่จะหึง”เฮอร์ไมโอนี่อธิบาย


    แฮร์รี่เอียงคอเล็กน้อย เธอเม้มปาก มีสีหน้าคล้ายจะตระหนัก


    “มันไม่แปลกหรอ?”


    “อือ..มันไม่แปลกเลย”


    เมื่อได้รับคำปลอบโยนแฮร์รี่ก็กลับไปทำหน้าตาบูดบึ้งอกครั้ง


    “ใช่ ฉันหึง!”


    เฮอร์ไมโอนี่ยกมือขึ้นปิดปาก ตัวสั่นเทา


    น่ารัก


    น่ารักเหลือเกิน


    เคราเมอร์ลิน กำเดาจะไหล


    “เธอควรจะไปถามศาสตราจารย์ตรงๆนะ มันต้องดีกว่าคิดไปเองแน่นอน” หลังจากสงบจิตสงบใจได้แล้ว เฮอร์ไมโอนี่ก็ให้คำแนะนำกับเด็กสาวผู้รอดชีวิต ที่ดูท่าทางคงจะไม่รอดชีวิตถ้าไม่ได้รับการชี้นำที่ถูกต้อง


    “...ตกลง” แฮร์รี่พยักหน้าหงึกหงัก  เธอจะไปถามศาสตราจารย์สเนปเย็นนี้







    เหล่าสลิธีรินเฮกันดังลั่นเมื่อได้นางฟ้าแสนน่ารักของพวกเขาคืน และดูทำท่าเทิดทูนขอบคุณเฮอร์ไมโอนี่กันเกินเบอร์มาก จนเฮอร์ไมโอนี่เกือบลืมไปแล้วว่าเธอเกิดมาจากมักเกิ้ล ไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์อย่างพวกเขา


    จริงพวกเขารู้อยู่แล้วว่ามินิแฮร์รี่อารมณ์เสียมาตั้งแต่เมื่อเช้า เพราะเธอหาสมุดของเธอไม่เจอ แพนซี่ตกใจแทบสิ้นสติตอนที่สะลึมสะลือตื่นมาตอนกลางคืนแล้วเจอแฮร์รี่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง


    ‘ ฆ่า…’


    แฮร์รี่ที่กำลังเดินไปทะเลสาปเนื่องจากหมดชั่วโมงเรียนในวันนี้ชะงัก เหมือนเธอได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง


    “แฮร์รี่?” เดรโกเอ่ยเรียกเมื่อจู่ๆเธอก็หยุดเดิน


    “ชู่ว” แฮร์รี่เอามือแตะที่ริมฝีปากพร้อมส่งเสียงให้พวกเขาเงียบลง


    เดรโกรูดซิบปากตัวเองแน่นยิ่งกว่าแน่น ถ้าแฮร์รี่สั่งให้คลาน เขาก็คงจะหมอบราบ เลียเท้าแถมให้ด้วย


    ‘ ฆ่า...ต้องฆ่า…’


    แฮร์รี่เดินไปตามเสียง เธอเดินเลียบไปตามกำแพง แนบหูฟังเสียงอย่างตั้งใจ


    เหล่าสี่เกลอองครักษ์พิทักษ์นางฟ้าพร้อมใจกันยกส้นเท้าย่องตามอย่างไม่ให้เป็นการรบกวนนายหญิงของพวกเขา


    “เสียงสะท้อนไปหมดเลย ฉันไม่รู้ว่ามันไปทางไหน” แฮร์รี่ หมุนรอบตัว แล้วเธอก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก


    “เสียงอะไร?” แพนซี่เอ่ยถาม พวกเขาไม่มีใครได้ยินเสียงอะไรเลย


    “ เสียงนั่นไง ในกำแพง”แฮร์รี่พยายามอธิบาย แต่พวกเขาได้แต่ส่ายหัว


    “พวกเราไม่ได้ยินอะไรเลยแฮร์รี่” สีหน้าของพอตเตอร์ดูสับสน ก่อนที่เธอจะรีบสับเท้ากลับหอนอนจนพวกเขาเองก็ต้องวิ่งตามกันอุตลุด สภาพไม่ต่างจากเหาฉลามกับฉลาม หรือลูกเป็ดกับแม่เป็ด


    “หมาสามหัว”


    แฮร์รี่ผลักประตูหอสลิธีรินเสร็จก็วิ่งฉิวขึ้นไปบนห้องนอนแพนซี่วิ่งตามไป แต่พวกเด็กผู้ชายได้แต่นั่งหอบอยู่ที่ตีนบันได แฮร์รี่เหมาะจะเป็นซีกเกอร์จริงๆ ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่บนไม้กวาด เธอก็วิ่งเร็วมาก เร็วจนพวกเขาตามกันแทบไม่ทัน


    “แฮร์รี่ ช้าหน่อย” เสียงหอบของแพนซี่ทำให้พวกเขาเงยหน้าขึ้นเห็นแฮร์รี่หอบสมุดทำมือมาโยนโครมลงบนโต๊ะอ่านหนังสือ


    “เดรโก นายเคยบอกว่ามีนักเรียนตายตอนเปิดห้องแห่งความลับครั้งที่แล้วใช่ไหม?” แฮร์รี่สวมแว่นและมีสีหน้าจริงจัง เดรโกพยักหน้า พลางมองไปยังหนังสืออย่างใครรู้


    “ใคร?”


    “ฉันไม่รู้ บางทีพ่อเองก็คงไม่รู้”เดรโกยักไหล่ มันแค่พูดต่อๆกันมา เกือบๆจะเป็นตำนานแล้วด้วยซ้ำ ไม่มีใครพูดอย่างแน่ชัดว่าลูกมักเกิ้ลที่ตายไปคือใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็กบ้านไหน ตายยังไง หรือแม้แต่วิญญาณไปสู่สุขคติรึเปล่า


    “ถ้าเขาหรือเธอ ตายในโรงเรียน มีความเป็นไปได้รึเปล่าที่จะกลายเป็นผี...อย่างบารอนเลือด หรือเฮเลน่า โรเวนคลอ” เบลสตั้งคำถาม “ถ้าเป็นไปได้เขาหรือเธอก็ต้องอยู่ในชุดนักเรียนฮอกวอตส์ใช่ไหม?”


    “เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ!!” แพนซี่กับแฮร์รี่ร้องออกมาพร้อมกัน


    “เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ?” เด็กผู้ชายงงเป็นไก่ตาแตก


    “พวกนายจะไม่รู้จักก็ไม่แปลกหรอก เธอเป็นผีที่อยู่ในห้องน้ำหญิงน่ะ ไม่ค่อยมีคนเข้ากันนักหรอก”แพนซี่อธิบาย


    “ถ้าเราถามเธอว่าเธอตายยังไงได้ เราอาจจะรู้ก็ได้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ทีโอดอร์ตั้งข้อเสนอ


    “พวกผู้หญิงไม่มีหวังเลย เธอจะกรี๊ดดังมากถ้าผู้หญิงเข้าไป..แต่ถ้าผู้ชายล่ะก็…”แพนซี่เบนสายตาไปทางเดรโกอย่างสื่อความหมาย


    “ไม่มีทาง”เดรโกปฏิเสธทันที


    “ก่อนอื่น เมื่อกี้ฉันได้ยินเสียง...และฉันคิดว่าคืนนี้คงมีเหยื่ออีกราย”แฮร์รี่เปิดหนังสือไปหมวดสัตว์เลื้อยคลาน


    “เธอคิดว่าจะหามันเจอ...จากหนังสือสัตว์วิเศษนี่น่ะหรอ มันเป็นสัตว์ประเภทไหนกันที่เที่ยวสาปคนทั่วโรงเรียนโดยไม่มีคนเห็น...ฉันคิดว่าแบล๊คสาปเองน่าจะเข้าเค้ากว่า”


    “ฉันว่าแบล๊คคงจะเสกคำสาปพิฆาตใส่เลยมากกว่า เขาเป็นนักโทษอัซคาบันแหกคุกนะ ฆ่าคนไปอีกเท่าไหร่โทษก็ไม่ได้มากขึ้นกว่านี้หรอก”แพนซี่ออกความเห็น


    “คำตอบมันอยู่ตรงนี้เอง” แฮร์รี่ทาบมือลงแผ่นอกของเดรโก….เขาอยู่ใกล้มือสุดนั่นคือเหตุผล เดรโก มัลฟอยหน้าแดงขึ้นอย่างลนลาน เขาตัวแข็งทำอะไรแทบไม่ถูกจนกระทั่งก้มลงไปมองฝ่ามือนุ่มนิ่มนั่น จึงรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังทาบลงที่ตราประจำบ้าน”


    “งู?”


    “ฉันเป็นพาเซลเมาท์ นั่นเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของคำถามที่ว่าทำไมฉันถึงได้ยินเสียงนั้นแล้วพวกเธอไม่ได้ยิน” แฮร์รี่เปิดไปเจอหน้านึงในหนังสือ และก่อนที่เธอจะได้พูดถึงอะไรที่เกี่ยวกับสัตว์วิเศษในหน้านั้น เสียงโวยวายก็ดังขึ้นที่หน้าประตู


    “พอตเตอร์ พาร์กินสัน!!” มิสบัลสโตรควิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก  ไล่หลังมาเป็นเสียงของภาพวาดหน้าประตูกร่นด่าถึงความไม่สำรวมของเธอ วันนีมีคนผลักเขามาสองคนแล้ว ไม่แปลดเลยที่เขาจะเดือดดาล


    มิลลิเซนต์หอบหายใจ เธอโกยลมหายใจเข้าปอดให้เร็วที่สุดเพื่อที่เธอจะสามารถส่งข่าวสำคัญนี้ได้




    “เกรนเจอร์...เกรนเจอร์เธอถูกทำร้าย อยู่ที่ห้องพยาบาล”




    พวกเขารู้สึกตัวเย็นวาบ แฮร์รี่เป็นคนแรกที่ออกตัว เธอวิ่งออกประตูไปสุดฝีเท้า ผ่านสเนปที่ตั้งใจจะมาคุยกับเธอให้รู้เรื่องไปอย่างรวดเร็วจนไม่ทันได้ทักสักคำ  แพนซี่เองก็วิ่งสุดฝีเท้าเหมือนกัน มีสองสามครั้งที่ภาพวาดและพูดผีตะโกนติเตียนไม่ให้พวกเธอวิ่งบนทางเดิน น๊อตต้องหยุดขอโทษพวกเขาแทนพวกเธอมาตลอดทาง


    ไฟของห้องพยาบาลยังเปิดอยู่ เสียงของอาจารย์กระซิบกันอย่างเคร่งเครียด


    แฮร์รี่ดันประตูเข้าไปอย่างแรง มาดามพรอมพรีย์ที่เตรียมปากจะด่าก็เปลี่ยนเป็นเงียบลงเมื่อเห็นว่าเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์...ที่หน้าตาดูเหมือนจะร้องไห้ในวินาทีใดวินาทีนึง


    “เฮอร์ไมโอนี่อยู่ไหนคะ?” แฮร์รี่มองเตียงห้องพยาบาลที่ถูกม่านกั้นเอาไว้


    “ทางนี้..พอตเตอร์...พาร์กินสัน”ศาสตราจารย์มักกอนนากัลมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก แฮร์รี่และแพนซี่เดินเข้าไปในม่านบล๊อกนึง


    แฮร์รี่รู้สึกถึงความร้อนที่เอ่อขึ้นที่ดวงตา


    นี่คือสิ่งที่เธอกลัว


    สลิธีรินไม่มีใครที่กลัวเรื่องห้องแห่งความลับ แทบจะไม่จำเป็นต้องสนใจด้วยซ้ำ แต่เธอกลับสนใจ และเป็นกังวลเป็นอย่างมาก เพราะเพื่อนสนิทของเธอ….ของเรา


    เฮอร์ไมโอนี่เป็นมักเกิ้ลบอร์น


    แพนซี่เข้าไปลูบผมเพื่อนรักของเธอด้วยมือที่สั่นเทา เฮอร์ไมโอนี่ที่น่าสงสาร


    “รักษาได้ใช่ไหมคะ” แฮร์รี่เงยหน้ามองมาดามพรอมพรีย์


    “มาดามสเปร้าส์เลี้ยงเมนเดรกจนใกล้จะเติบโตได้ที่แล้ว อีกไม่นานเราจะทำยาแก้ได้”


    “รักษาได้ใช่ไหมคะ” แฮร์รี่เอ่ยถามคำเดิม เธอไม่ต้องการรู้วิธีการอะไรทั้งนั้น เธอต้องการผลลัพท์


    “...จ้ะ...รักษาได้”


    แฮร์รี่หันกลับไปเมื่อเพื่อนสาว...เด็กสาวที่สดใสแสนชาญฉลาด เธอลบคำสบประสาทถึงสายเลือดด้วยตำแหน่งที่สองของชั้นปีสูสีกับเดรโก แก้มที่เคยฝาดสีเลือดซีดเผือก ผิวที่นุ่มนิ่มแข็งกระด้าง อ้อมกอดที่อบอุ่นก็เย็นเฉียบ ฝ่ามือที่เคยกุมมือเธอเอาไว้อย่างมั่นคงก็ไม่สามารถที่ส่งผ่านความรู้สึกใดๆมาให้ได้อีกแล้ว


    แกรบ


    แฮร์รี่ชะงัก เธอรับเศษกระดาษมาจากร่างที่แข็งเป็นหินของเพื่อนด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ


    นี่ขนาดแข็งเป็นหินเธอยังไม่หยุดฉลาดเลย!!


    “อันนี้ ของมิสเกรนเจอร์” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลยื่นกระจกพกพาให้กับแพนซี่ นั่นทำให้เธอทั้งสองมองหน้ากันอย่างงุนงง เฮอร์ไมโอนี่ไม่แต่งหน้า ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เธอจะต้องพกกระจก


    “ตอนนี้ใกล้จะเคอร์ฟิวแล้ว พวกเธอไปพักผ่อนเถอะนะ” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลดันหลังพวกเธอเบาๆ แพนซี่ดูขืนเล็กน้อยแต่เมื่อแฮร์รี่ดึงออกมาเธอก็ตามไปอย่างว่าง่าย เด็กผู้ชายที่ยืนรออยู่ก็เปิดประตูให้


    “วันนี้กลับไปนอนกันก่อนเถอะ” แฮร์รี่ออกความเห็น และท่าทางของเธอดูล้าเอามากๆ พวกเขาเองก็เห็นด้วย


    สเนปยืนรอพวกเขายู่ที่พูดประตู ไม่ดุด่าอะไรทั้งนั้น เขารั้งแฮร์รี่เอาไว้ หวังจะปลอบใจ แต่สาวน้อยของเขาก็เพียงแค่แกะมือเขาออกอย่างสุภาพ แล้วหายไปหลังประตู


    เธอเหนื่อยมากจริงๆ









    ซะเมื่อไหร่ล่ะ!!


    แฮร์รี่สวมผ้าคลุมล่องหน เธอค่อยๆย่องออกจากหอนอนให้เบาที่สุด ในมือมีไม้กายสิทธิ์และกระดาษยับยู่ยี่ของเฮอร์ไมโอนี่ เป็นเศษกระดาษที่ฉีกมาจากหน้าหนังสือถึงสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ แถมด้วยคำตอบของคำถามที่ว่ามันเคลื่อนไหวยังไงให้ไม่มีใครเห็น


    ท่อน้ำ


    ท่อน้ำของฮอกวอตส์เป็นท่อน้ำปราสาทแบบเก่า หรือก็คือมันเป็นโพรงใหญ่ๆที่เชื่อมต่อกันยาวต่อๆไปใต้ปราสาท ทางออกอยู่ในห้องลับที่ไม่มีใครเคยเจอ มากกว่าหนึ่งห้อง และนอกปราสาท ที่ไม่มีใครยืนยันได้กว่าจะหาทางออกเจอหากลงไป


    “ลูมอส”


    แฮร์รี่เสกไฟขึ้นมาเพื่อส่องทาง เธอต้องเดินเบามากผ่านเซอร์คาดิแกน เขาเป็นอัศวิน เป็นทหาร ดังนั้นเขาจึงไวต่อเสียงเล็กๆน้อยๆเป็นอย่างมากแฮร์รี่จึงใช้ความเงียบชนิดที่ลมหายใจก็ต้องช้าและเบา


    กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้แฮร์รี่เกือบหมดลม บางทีเธอต้องออกกำลังกายมากกว่านี้


    แฮร์รี่เดินไปจนถึงห้องน้ำของเมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ ห้องน้ำเป็นจุดที่ใช้น้ำเยอะที่สุดรองจากห้องอาบน้ำ มันไม่แปลกเลยที่จะมีท่อระบายน้ำอยู่ใต้ห้องนั้น ถ้าหาเจอแฮร์รี่ก็อาจจะสามารถลงไปได้


    ห้องแห่งความลับ


    คนอื่นที่มารู้ทีหลังคงจะเข้าใจผิด


    แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กสาวผู้กล้าหาญลงไปสังหารงูยักษ์ด้วยตัวคนเดียว


    แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กสาวผู้กล้าหาญเป็นฮีโร่ปกป้องลูกมักเกิ้ล


    แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กสาวผู้ทระนงตนไปสู้กับสัตว์ประหลาดเพื่อชื่อเสียง


    อะไรก็ตาม


    นั่นไม่ใช่เรื่องของเธอ ที่เธอต้องการคือหาห้องแห่งความลับให้เจอ ปิดมันซะ หรือไม่ก็


    หาห้องแห่งความลับให้เจอ...แล้วยึดมันซะ


    และให้ตาย เธออยากได้สมุดของเธอคืน








    “มิสพอตเตอร์” เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นข้างหลัง แฮร์รี่ขนลุกเกรียวขณะที่เธอกำลังพับผ้าคลุมล่องหนซ่อนเอาไว้อย่างดี เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญที่กำลังจะหวีดร้องเสียงแหลมเปลี่ยนเป็นร้อง อุ๊ย แล้วลอยมองหน้าศาสตราจารย์ล๊อกฮาร์ตตาเยิ้มๆแทน


    “ศาสตราจารย์ล๊อกฮาร์ต คุณมาทำอะไรที่นี่” แฮร์รี่เลื่อนมือไปในผ้าคลุม กำไม้กายสิทธิ์แน่น


    “เช่นเดียวกับเธอ...สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง” ใบหน้าที่แสนทรงเสน่ห์ของเขาบิดเบี้ยวเป็นรอยยิ้มที่แสนละโมบ “ เปิดห้องแห่งความลับซะ”


    “หนูไม่รู้ว่ามันเปิดยังไง”


    “โกหก!! เขาพูดกันทั้งฮอกวอตส์แล้วพอตเตอร์ว่าเธอเป็นคนเปิดห้องแห่งความลับ มาทำไขสือตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์” แฮร์รี่อยากจะกลอกตาใส่


    “ถ้าคุณฟังดีๆจะรู้ว่านั่นมันเป็นข่าวลื-”


    “ดิฟฟินโด!!”


    “กรี๊ด!!” แฮร์รี่รีบกอดตัวเองในทันที ทำไมจู่ศาสตราจารย์ตรงหน้าถึงได้เสกคาถาฉีกเสื้อผ้าใส่เธอหน้าตาเฉยขนาดนี้ได้!!


    “คิดให้ดีก่อนตอบพอตเตอร์...ไม่งั้นเธอคงจะไม่ว่าอะไรถ้าจากคาถาฉีกเสื้อผ้าจะกลายเป็นคาถาอื่น” ล๊อกฮาร์ต “สาวน้อยพอตเตอร์ล่อลวงอาจารย์หนุ่มมาพลอดรักยามค่ำคืน ไม่มีใครสงสัยแน่ถ้าดูจากข่าวลือที่เธอได้รับ”


    แฮร์รี่เม้มปากแน่น กล้ำกลืนความรู้สึกบางอย่างสุดความสามารถ


    “หนูจะดูว่าทำอะไรได้” แฮร์รี่ตอบเสียงแผ่วเบา ล๊อกฮาร์ตไหวศีรษะให้เธอทำตามที่บอก


    “เมอร์เทิล คุณตายยังไง?” แฮร์รี่หันไปถามวิญญาณสาวด้วยเสียงที่สั่นเครือ


    เมอร์เทิลส่งเสียงในลำคอโหยหวนก่อนที่เธอจะกล่าวขึ้น


    “มันน่ากลัวมาก..มันเกิดขึ้นตรงนี้เลย..ในห้องนี้” เธอบอก “ฉันมาซ่อนเพราะ โอลีฟ ฮอร์นบี้มาล้อฉันเรื่องแว่นตา ฉันกำลังร้องไห้ ตอนที่มีคนเข้ามา”


    “ใคร?”


    “ฉันไม่รู้ ฉันกำลังแตกสลายนะ!! เธอสวยเธอไม่เข้าใจหรอกว่าคนโดนล้อเรื่องแว่นตามันเป็นยังไง!!!” เมอร์เทิลตวาด


    “...หนูก็ใส่แว่นนะคะ”


    “อ่าวงั้นหรอ...ยังไงก็เถอะ เขาพูดอะไรตลกดี เขาเหมือนพูดภาษาที่เขาคิดขึ้นมาเอง ตอนนั้นฉันถึงรู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย ฉันก็เลยจะออกมาไล่เขา...แล้วจากนั้น..ฉันก็….ตาย” แฮร์รี่คิดว่าเมอร์เทิลน่าจะพูดถึงภาษาพาเซลเมาท์ เพราะเธอเป็นลูกมักเกิ้ล คงไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน


    “หมายความว่ายังไง ตาย? คุณตายยังไง?”


    “ฉันจำได้แค่ว่าเห็นดวงตาคู่นึง ใหญ่เบอเร่อสีเหลือง...ตรงนั้นล่ะ ที่อ่างล้างมือ” แฮร์รี่หันไปที่อ่างล้างมือที่มีน้ำเอ่ออยู่เต็มอ่าง และตะไคร่ก็ขึ้นเต็มไปหมด แฮร์รี่ลองลูบมือไปตามปูขาว กระจก จนถึงก๊อกน้ำ  เมอร์เทิลหวีดร้องเสียงแหลมและโหยหวนเพียงลำพังต่อไปไม่ได้สนใจอะไรเธออีก เด็กสาวสััมผัสได้ถึงรอยสลักรูปงูแล้วเธอก็มั่นใจ ตรงนี้แน่ๆ


    เธอต้องพูดอะไรสักอย่าง


    เขาพูดภาษาที่เขาคิดขึ้นเอง


    แฮร์รี่เงียบไปเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะส่งเสียงอะไรที่คล้ายกับเสียงกระซิบที่จับความไม่ได้


    “เ...ฮ...ช..ฮ..า...ฮั...ช...ซ..า


    และตอนนั้นเองที่อ่างล้างหน้าบิดตัว มันค่อยๆแยกตัวออกจากกันราวกับพิมพ์เขียวที่เขาร่างเวลาจะสร้างอะไรซักอย่าง ล๊อกฮาร์ตมิงหลุมที่ลึกลงไปแล้วยกยิ้มอย่างพอใจ


    “เอาล่ะคุณพอตเตอร์ หมดหน้าที่ของเธอแล้ว จากนี้ฉันจะแจ้งแก่ศาสตราจารย์ใหญ่เรื่องห้องแห่งความลับนี้ ดังนั้นฉันคงขอให้เธอลื-”


    “คอนฟันโด!!!”


    แฮร์รี่เสกคาถางงงันใส่ทันทีที่เขาหันหลังให้เธอ แล้วตามด้วย


    “เอ็กซ์เปลลิอามัส!!”


    “อิมเปดิเมต้า!!”


    “อินคาเซอรัส!!”


    แฮร์รี่ร่ายคาถาที่เธอนึกออกรัวๆ ส่งผลให้ศาสตราจารย์ล๊อกฮาร์ตมีสภาพไม่ต่างไปจากดักเด้ ที่ตัวแข็งขยับไม่ได้อยู่บนพื้น


    “และนี่สำหรับที่ฉีกเสื้อหนู เลวิคอร์พัส” ตบท้ายด้วยคาถาห้อยหัว


    แฮร์รี่เดินไปเก็บไม้กายสิทธิ์ของล๊อกฮาร์ตมา เธอร่ายลูมอส ก่อนจะโยนมันลงไปในโพรงเพื่อดูความลึกของมัน มันไม่ได้ลึกมากขนาดที่เป็นอันตราย แต่จะบอกว่าลงไปแล้วไม่เจ็บเลยก็คงไม่ถูก แฮร์รี่หันไปหาศาสตราจารย์ของเธอที่แข็งเป็นหินแล้วละลึกได้ว่าตัวเองเสกคาถาที่แม่นยำไปเยอะมาก คงไม่ดีหากอีกฝ่ายเอาไปฟ้องดัมเบิ้ลดอร์


    “...ออบลิวิอาเต้”


    คงจะโทษว่าเป็นฝีมือแบล๊คได้อยู่มั้ง








    แฮร์รี่เดินมาถึงห้องๆนึง ทางเดินตรงกลางถูกขนาบด้วยรูปปั้นหัวงูยักษ์ราวกับเป็นขบวนต้อนรับ  แต่น้ำเจิ่งนองขึ้นมาถึงบนทางเดิน ส่งกลิ่นหืนฟุ้งไปหมด แฮร์รี่เห็นร่างใครบางคนนอนราบอยู่ที่พื้นแทบจะสุดทางเดิน


    “จินนี่?” แฮร์รี่มีสีหน้างุนงง ทำไมน้องสาวของรอนถึงมาอยู่ที่นี่ได้ “จินนี่!!”


    แฮร์รี่เขย่าตัวเด็กสาวเล็กน้อย จริงอยู่ที่เธอไม่ได้สนิทหรือเคยคุยกับไรกับเด็กสาวคนนี้มากมายนัก แต่เธอเป็นเด็กสาวที่ชาญฉลาดที่เฮอร์ไมโอนี่มักคุยด้วยบ่อยๆ และเธอด่ารอนเก่งมากนั่นทำให้แฮร์รี่ชอบเธอหน่อยๆ


    แต่ยังไงก็ตามแม้ว่าจะเขย่าและเรียกชื่อแค่ไหนเด็กสาวตัวน้อยก็ไม่ยอมขยับตัวเลย


    “เธอไม่ตื่นหรอก” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น


    ในสุดทางเดินร่างสูงโปร่งของชายคนนึงเดินมาหาเธออย่างเชื่องช้า เขาสวมชุดสลิธีริน แต่กลับไม่ใช่พี่ปีไหนที่เธอรู้จัก แฮร์รี่กำไม้กายสิทธิ์ของเธอแน่น


    “ได้เจอกันแล้วนะแฮร์รี่”แฮร์รี่ชะงักไป


    “ทอม?...ทอม ริดเดิ้ล?” ชายหนุ่มตรงหน้าส่งยิ้มมาให้เธอ เป็นยิ้มที่เธอจินตนาการว่าเขาจะมี เป็นเสียงที่เธอจินตนาการว่าเขาจะมี เป็นหน้าตา..ที่เธอจินตนาการไม่ถึงว่าเขาจะมี


    “ใช่แฮร์รี่” เขาขานรับ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนจนใจแฮร์รี่อุ่นวาบ เธอก้มลงไปสัมผัสตัวเด็กสาว


    “เธอตัวเย็นเป็นน้ำแข็งเลย เราต้องพาเธอออกไป” แฮร์รี่พยายามดึงรุ่นน้องขึ้น แต่มันแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลยในเมื่อเธอตัวสูงกว่าจินนี่แค่ไม่กี่เซนต์


    “ไม่ได้แฮร์รี่…” สิ่งที่ทอมตอบกลับมาทำให้เธอชะงัก “ ยิ่งจินนี่วิสลี่ย์อ่อนแอลงเท่าไหร่ ฉันก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น”


    แฮร์รี่มีสีหน้าไม่เข้าใจ ก่อนที่ดวงตากลมโตสีมรกตของเธอจะเบิกขึ้นด้วยความตื่นตะลึง


    “ใช่แล้วแฮร์รี่ เป็นจินนี่ที่เปิดห้องแห่งความลับ เป็นจินนี่ที่ปล่อยบาซิลิสก์ออกมาจัดการกับพวกเลือดสีโคลน เป็นจินนี่ที่เขียนข้อความบนกำแพง เป็นจินนี่ทั้งหมด”


    “...ทำไม…”


    “เพราะฉันสั่งเธอ” แฮร์รี่ถอยหนีอีกฝ่ายไปหนึ่งก้าว ทอมก็ก้าวเข้าใกล้เธออีกสองก้าว “ฉันสั่งให้เด็กสลิธีรินเอาสมุดออกมาจากห้องเธอ ฉันสั่งให้จินนี่ วิสลี่ย์ลบความทรงจำเธอ ฉันสั่งให้จินนี่ วิสลี่ย์ทำทุกอย่าง...เด็กน้อยที่น่าสงสาร ลูกสาวคนสุดท้องที่พี่ชายไม่เคยเหลียวแหล ในครอบครัวที่แสนจะวุ่นวาย”


    “...”


    “...เธอเหงามากทีเดียว”


    “นายเป็น..ผี?”


    “ความทรงจำจากสมุดที่รอคอยเวลามาถึงห้าสิบปีแล้วแฮร์รี่ มาเจอเธอ..ผู้ที่ฉันกระวนกระวายจะเจอมากที่สุด”


    “ทำไมถึงอยากเจอหนูนัก”


    “เพราะฉันรู้ว่าเธอเหมือนกับฉัน กระหายที่จะพิสูจน์พลังอำนาจในตนเอง ปราถนาจะยิ่งใหญ่เหนือใคร ต้องการจะถีบตัวเองออกจากขุมนรกให้สุดกำลัง ...เราเกิดมาคู่กันแฮร์รี่”


    “...จะให้หนูเทียบตัวเองกับวิญญาณในสมุดบันทึกเนี่ยนะ?”


    “ความทรงจำ!”


    “...วิญญา-”


    “ความทรงจำ!!!”


    แฮร์รี่กระพริบตาปริบๆเมื่ออีกฝ่ายดูจริงจังกับคำว่าวิญญาณมาก


    “ถ้าคุณเป็นความทรงจำแปลว่า ทอม ริดเดิ้ล ตัวจริงยังไม่ตาย เขาอยู่ไหน”


    “ทอม ริดเดิ้ลได้ตายไปแล้ว”


    “นั่นไง วิญญา-”


    “ความทรงจำ!!” เถียงบ้าอะไรเนี่ย วิญญา-...ความทรงจำทอมสูดหายใจเข้าอย่างสงบสติอารมณ์ ก่อนที่เขาจะคว้าไม้กายสิทธิ์อีกคนมาแล้วเขียนตัวอักษรบนอากาศ


    TOM

    MARVOLO

    RIDDLE


    เขาวาดมือหนึ่งครั้ง ก่อนที่ตัวอักษรจะแปรเปลี่ยนเป็น


    I AM

    LORD

    VOLDEMORT


    แฮร์รี่มองการแปรตัวอักษรด้วยสีหน้าทึ่งๆ เธอแทบจะเห็นเขานั่งขีดฆ่าชื่อนับหมื่นนับพันเลย


    “คุณดูว่างมาก”


    “ถ้าเธอฉลาดเธอหาเวลาว่างได้มากเลยในฮอกวอตส์” เขาตอบมาด้วยสีหน้ายิ้มๆ “ ฉันพยายามอย่างมากที่จะไม่ใช้ชื่อที่แสนโสโครกของพ่อผู้เป็นมักเกิ้ล ที่ได้มาจากแม่ผู้ไร้ยางอาย”


    “...”


    “ฉันสร้างชื่อที่วันนึงพ่อมดแม่มดทุกคนแห่งจะต้องหวาดกลัวจนไม่กล้าเอ่ย เมื่อฉันเป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”สีหน้าของเขาจริงจังและเน้นหนักในทุกประโยค


    “โวลเดอร์มอร์”  แฮร์รี่พูดขวานผ่าซากออกไปทันที


    “ยกเว้นเธอ ฉันชอบเธอเกินกว่าที่จะมาคิดเรื่องหยุมหยิบพวกนั้น”


    “...”


    “...”


    ทั้งสองคนเงียบลง แฮร์รี่หลุบตาลงมองจินนี่ เธอซีดลงกว่าเดิม และตัวตนของทอมก็ดูจับต้องได้มากยิ่งขึ้น


    “คุณกำลังฆ่าเด็กสายเลือดบริสุทธิ์” แฮร์รี่ชี้พ้อยให้เห็น ทอมมีสีหน้าไม่ใส่ใจ


    “ชีวิตของเธอได้รับเกียรติมอบร่างให้กับฉัน”


    “หยุดบาซิลิสก์ซะ”


    “ไม่”


    “....”


    “....”


    บทสนทนาของพวกเขาทั้งน่าอึดอัด และเต็มไปด้วยความกดดัน ฝ่ามือของแฮร์รี่ชื้นเหงื่อเมื่อจินนี่แทบจะไม่เหลือสีเลือดในร่างกายอีกต่อไปแล้ว


    “นายก็เป็นเลือดผสมเหมือนกัน” แฮร์รี่เงยสบกับดวงตาที่แข็งกร้าวของอีกฝ่าย “นายก็เป็นเลือดผสม และเพื่อนฉันก็เกิดมาจากมักเกิ้ล ต่างกันเพียงครึ่งเดียวนายรู้ได้ยังไงว่าเธอไม่ได้คิดเหมือนนาย”


    “...”


    “เฮอร์ไมโอนี่สอบได้ที่สองของชั้นปีรองแค่มัลฟอย เธอตะเกียกตะกายเหยียบคำครหา และเธอได้รับการยอมรับจากสลิธีรินทั้งชั้นปี….นั่นเป็นสิ่งที่นายไม่เคยได้ใช่ไหม”


    “หยุดพูดนะแฮร์รี่”


    “นายไม่รู้จักความรัก ทอม นายไม่รู้จักความรักใดๆทั้งสิ้น ไม่รู้จักที่จะมอบความรัก ไม่รู้จักที่จะให้ความรัก นายเป็นผลผลิตของยาเสน่ห์ และนายจะไม่มีวันได้รับความรักอีกตลอดไป”


    “แฮร์รี่ พอตเตอร์!!!!!!!!” เสียงของเขากัมปนาถดังทั่วห้องโถง มันก้องไปตามท่อระบายน้ำ แสดงออกถึงความเดือดดาลของเขา มือหนากำแน่น เขาแทบอยากจะตบใบหน้าเล็กๆนั่นให้หยุดพูด สีหน้าของทอมไม่ต่างจากปีศาจเขาเหมือนพร้อมจะฆ่าคนได้ทุกเมื่อ


    แต่เขาก็ไม่ฆ่าเธอ


    แฮร์รี่เข้าใจในตอนนั้น ว่าไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่ฆ่าเธอ เธอจี้ใจดำเขาด้วยเหล็กร้อน แต่เขาก็ไม่ใช้ไม้กายสิทธิ์นั้นฆ่าเธอ ไม่แม้แต่จะเรียกบาซิลิสก์มาฆ่าเธอ


    เขาจะไม่ฆ่าเธอ


    “กลับไปเป็นสมุดซะทอม...หนูรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณ...ทุกๆอย่าง วัยเด็กที่น่าสงสาร วัยเรียนที่น่าสงสาร วัยผู้ใหญ่ที่น่าสงสาร คุณไม่เคยมีความสุขในชีวิต แต่หนูจะมอบความรักให้กับคุณ”


    สีหน้าของทอมดูสับสน เขามีสีหน้างุนงงว่าเธอพูดอะไร


    “ในวันที่พรรคพวกของหนูเป็นใหญ่เหนือใคร ในวันที่ลูกน้องของคุณไม่อาจแม้แต่จะเอ่ยนามหนึ่งในพวกเรา หนูจะมอบความรักให้กับคุณ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของคุณ”


    “...”


    “ในตอนที่เราทั้งสองคนพร้อม ในยามที่พลังของเรานั้นทัดเทียมกัน ในตอนนั้นให้หนูได้แย่งชิงกับคุณอย่างสมเกียรติทอม ในร่างกายที่พร้อมกว่านี้ หนูยินยอมให้คุณสร้างร่างของตนเองแต่ต้องไม่ใช่จินนี่ วิสลี่ย์ ไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์ผู้ไร้มลทินอย่างเด็กสาวคนนี้”


    “....แฮร์รี่...พอตเตอร์” มุมปากของริดเดิ้ลเหยียดยาวและยกขึ้นอย่างตื่นเต้น ดวงตาสีมรกตนั้นแน่วแน่และเต็มไปด้วยความตั้งใจ


    ให้หนูได้แย่งชิงเก้าอี้จอมมารของคุณอย่างสมเกียรติด้วยเถอะค่ะ





    เหมือนมีคนยังสงสัยอยู่ เนื้อหาปีสองและปีสาม จะขอมารวบอยู่ในปีสองปีเดียวนะ เพราะปีสาม.....ไม่บอกดีกว่า



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×