ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter เด็กสาวผู้รอดชีวิต

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนที่ 18 พยากรณ์ศาสตร์

    • อัปเดตล่าสุด 8 ธ.ค. 61


    " แฮร์รี่ไม่ยอมรับรักฉันเลย " เดรโกทอดตัวแห้งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นสลิธีริน โดยมีธีโอดอร์คอยรดน้ำให้ด้วยองุ่นเขียวไร้เม็ด ปกติจะเป็นหน้าที่ของเบลส แต่ช่วงนี้เขายุ่งๆกับการที่ต้องวิ่งตามเรียกร้องความสนใจของแพนซี่จากศาสตราจารย์ล๊อกฮาร์ต ทำให้เขาดูวุ่นว่ยพอตัว ยังไงก็ตาม เขาเป็นคู่รักคู่เดียวในปีสอง ที่รุ่นพี่ลงมติว่าไม่น่ารอดเกินเทอมนี้


    'เขาคบกันเร็วเกินไป' ความเห็นจากฟลินต์


    'พวกเขายังเด็กมาก มันเหมือนเด็กเล่นกัน' by มักมิลัน


    " ใจเย็นน่า " ทีโอดอร์ลบหลังเพื่อนอย่างให้เขาหายหดหู่ พอแฮร์รี่ไม่อยู่ ห้องนั่งเล่นที่ไม่อบอุ่นนี่ก็เย็นขึ้นหลายเท่านัก


    "ใจเย็น? นายบอกให้ฉันใจเย็น?!! แฮร์รี่ปฏิเสธคำขอแต่งงานของฉันมาสิบเจ็ดครั้งแล้วทีโอดอร์!!! สิบเจ็ด!!!!" เดรโกคำราม " แต่เธอยังดูสนใจล๊อกฮาร์ตมากกว่าฉันซะอีก


    ที่น่าเจ็บใจคือแฮร์รี่ยังคง'ปลื้ม' พ่อเขา ศาสตราจารย์สเนป และให้ตาย เขาไม่อยากจะเชื่อ ล่าสุดอีกฝ่ายเริ่มหัวเราะคิกคักเวลาจะเข้าเรียนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดกับล๊อกฮาร์ตแล้ว


    "โอ๊ย เดรโก!!!" เดฟเน่เธอดูสุดจะทนหลังจากนั่งฟังมาสักพัก


    "อ...อะไร " เดรโกที่เดือดดาลเมื่อเจอเดฟเน่ที่เดือดดาลกว่าเขาทำได้แค่ตัวลีบลง ไม่มีเด็กสลิธีรินคนไหนโง่พอที่จะมีเรื่องกับสาวสลิธีริน ทุกคนรู้ดี


    "ฟังนะ ที่นายไม่มีเลยก็คือ เ-ส-น่-ห์ นายวิ่งโร่ขอแฮร์รี่แต่งงานเหมือนลูกหมาข้อข้าวมัลฟอย เป็นฉันฉันก็ไม่แต่ง!" และประโยคนี้ได้รับการสนับสนุนจากสาวๆที่พยักหน้ายืนยัน


    "...แล้วจะให้ทำไงเล่า..." เดรโกพึมพำอย่างอับจนหนทาง เขาลองทุกอย่างที่เขาทำได้แล้ว แฮร์รี่ดูไม่รักเขามากขึ้นเลย


    " ผู้หญิงอ่ะ เขามีสัญชาติญาณต้องการการปกป้องอยู่แล้ว เธอจะรับรู้และรู้สึกดีตอนที่ได้รับการปกป้อง และการดูแลที่เหมาะสมกับเธอ " รุ่นพี่ปีสี่คนนึงที่ผ่านมาฟังผ่านๆเอ่ยแนะนำ


    "..." เดรโกพยักหน้ารับด้วยสีหน้าตั้งใจ


    "ใส่ใจด้วย ผู้หญิงน่ะจะใจเต้นกับการใส่ใจเล็กๆน้อยของผู้ชาย การชมชุดของเธอ หรือการแต่งหน้าของเธอ มันมีเสน่ห์มากๆเลยล่ะ แต่แฮร์รี่ไม่แต่งหน้าอยู่แล้วล่ะนะ "เดฟเน่เสริม


    "นี่แหล่ะปัญหาของนายเดรก นายไม่ใส่ใจ นายไม่ชมด้วยซ้ำที่แฮร์รี่ดัดผมเมื่อวาน" แพนซี่ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เข้าร่วมวงด้วยในทันที


    "เมื่อวานแฮร์รี่ดัดผมด้วยหรอ?"


    "เดรโก มัลฟอย!!!!!"









    ในขณะที่เดรโกกำลังเรียนหลักสูตรเข้าใจผู้หญิงอย่างเข้มข้นจากสาวสลิธีริน และหูกางๆของพวกผู้ชายที่พร้อมจดโน๊ตนั้น ตัวต้นเหตุอย่างแฮร์รี่กลับกำลังทำตัวเหลวเป็นน้ำบนโต๊ะในห้องทำงานของศาสตราจารย์สเนป


    เธอหนีตาเฒ่าฟลินต์ที่บ้าคลั่งมาหลบอยู่ในที่ที่ฟลินต์หรือผู้ชายคนไหนจะกล้าเข้ามา คือในรังของแบล๊ค คิงสเนค(ชื่อพันธุ์งู) ที่เจ้าของรังกำลังปรุงยาที่จะเป็นตัวอย่างในชั่วโมงปรุงยาพรุ่งนี้อยู่หรอก


    ดังนั้นที่นี่จึงปลอดภัยที่สุด


    "ฟลินต์โหดมากเลยค่ะศาสตราจารย์ หนูระบมไปหมดแล้ว "แฮร์รี่บ่นอย่างมีความหวังว่าอย่างน้อยศาสตราจารย์คงจะสามารถพูดให้ฟลินต์ลดตารางซ้อมลงบ้าง


    "...."แต่ทั้งหมดที่แฮร์รี่ได้ตอบกลับมาคือเสียง 'ฟู่' ตอนที่เขาใส่ม้ามหนูลงไปในหม้อ


    "เดรโกขอหนูแต่งงาน"


    "แล้วเธอตอบว่ายังไง?"แฮร์รี่เบะปากเมื่อศาสตราจารย์คนที่เมินเธอเมื่อครู่วางมือของเขาจากหม้อแล้วหันมาหาเธอแทบจะในทันที


    " ถ้าไม่ใช่เรื่องผู้ชาย ก็จะไม่คุยกับหนูเลยหรอคะ " แฮร์รี่มีสีหน้าน้อยใจ(ปลอมๆ)


    "...เปล่า" เมื่อเห็นว่าตัวเองโดนสาวน้อยปั่นหัวเข้าแล้ว เขาก็กลับไปที่หม้อต้มยาต่อ เขาโรยหญ้าปมลงไปเล็กน้อย และแม่นยำเพราะเขาคนมันสองครั้งในทันทีและหรี่ไฟลง


    " ฟลินต์บ้าครั้งมาก เพราะพ่อเดรโกซื้อไม้กวาดใหม่ให้เราทั้งทีม เขาดูอยากเอาชนะวู้ดจนน่ากลัว เขาให้เราซ้อมอย่างบ้าระห่ำเลยล่ะค่ะ " แฮร์รี่บ่นต่อ


    "อ่อ" สเนปขานรับไม่ให้ดูไม่ใส่ใจจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจสักเท่าไหร่นัก


    " หนูหรือควิดดิช!!!!!!"


    "ควิดดิช เบาเสียงลงแฮร์รี่ " แฮร์รี่แพ้อย่างราบคาบ เธอหวังว่าคำตอบของศาสตราจารย์จะเป็นเธอ เด็กสาวหลอมตัวลงกับโต๊ะไม้อย่างหมดอาลัยตายอยาก


    " การบ้านวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนต์เป็นยังไง " สเนปดับไฟ ควันลอยกรุ่นขึ้นมาบ่งบอกว่ามันเรียบร้อยแล้ว


    " หนูนึกว่ามัลฟอยจะแต่งงานแต่กับเลือดบริสุทธิ์ซะอีก แต่เหมือนเขาจะแต่งกับเลือดผสมด้วย " แฮร์รี่พูดเรื่องที่เธอประทับใจก่อน เพราะมีหลายคนเลยที่แต่งแต่กับเลือดบริสุทธิ์ แม้ว่าน่าจะแปลว่าเขาต้องแต่งกับญาติตัวเองก็ตาม


    " การแต่งงานในสายเลือดจะทำให้ลูกผิดปกติ พิการทางสมอง อารมณ์รุนแรง หรือพิการทางกาย มัลฟอยไม่ยอมให้มีคนแบบนั้นอยู่ภายในบ้านหรอก เขายอมแต่งงานกับเลือดผสมดีกว่า " สเนปอธิบาย


    "หนูได้ ด ดีเยี่ยมในรายงานนี้" แฮร์รี่บอก เธอรู้สึกเหมือนกำลังรายงานพ่อเรื่องเกรด แม้เธอจะไม่เคยรายงานพ่อก็ตาม


    " วันพรุ่งนี้ ในวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด เหมือนฉันจะโดนเรียกให้ไปช่วยนะ ล๊อกฮาร์ตมาวอแวฉันตลอดบ่ายเลย " สเนปมีสีหน้าอยากฆ่าคนตาย ดวงตาเขาว่างเปล่ามาก แต่แฮร์รี่ไม่เห็นมัน


    "ศาสตราจารย์ล๊อกฮาร์ตกับศาสตราจารย์จะดวลกันหรอคะ งื้อออ มันต้องวิเศษมากแน่ๆ หนูต้องไปบอกแพนซี่!!!" แฮร์รี่ผุดลุก คว้าหนังสือและขอต่างๆใส่กระเป๋าอย่างรีบร้อน


    "หมายความว่ายังไงที่วิเศษน่ะ?!" สเนปตะโกนถามไล่หลังไป


    "ต้องเท่มากๆแน่เลยค่ะ!!!" แฮร์รี่ตะโกนกลับมาก่อนจะหายออกไปจากประตู ส่วนสเนปได้แต่ยืนมองด้วยความเคร่งเครียด


    หมายถึงฉันหรือหมายถึงล๊อกฮาร์ตล่ะ









    'หนูได้ ด ในวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนต์' แฮร์รี่เขียนลงในสมุดสองเล่ม เธออยากอวดมันให้เต็มที่ ตัวหนังสือของเล่มนึงซึมหายไปก่อน อย่างรวดเร็วมาก ราวกับเขารอคอยอยู่ตลอด


    ' เก่งมากสาวน้อย ' แฮร์รี่อมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ' ฉันได้ ล หรือ ท ตลอด กว่าจะแก้ได้ ลำบากมาก '


    ' แต่คุณดูฉลาดมากเลยนะคะ 'แฮร์รี่ขมวดคิ้วมุ่น


    ' ศาสตราจารย์บินส์ไม่ค่อยชอบฉัน ' และได้คำตอบที่น่าประหลาดใจขึ้นมา เธอนึกว่าศาสตราจารย์บินส์เห็นทุกคนเป็นอากาศธาตุผลิตรายงานซะอีก


    'เรื่องที่คุยกันไว้คราวที่แล้ว...' แฮร์รี่เขียนลงไป ก่อนที่จะแอบเห็นว่าตัวหนังสือของเธอซึมหายไปในอีกเล่ม ดูท่าเจ้าของจะอ่านแล้ว แต่ยังไม่ตอบมา


    ' ยังไม่ใช่ตอนนี้ที่รัก ' เขาตอบกลับมาแบบนั้นในเรื่องที่เธอถาม


    'ทำไมล่ะคะ '


    ' ฉันยังไม่พร้อม และเธอเองก็ยังมีเรื่องที่ต้องรู้ ' แฮร์รี่ขมวดคิ้ว เธอแง้มผ้าห่มเล็กน้อย เมื่อแพนซี่ขยับตัว แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวยังไม่ตื่นเธอก็กลับมาที่สมุดอย่างสบายใจขึ้น


    ' เรื่องที่หนูต้องรู้? '


    ' ดัมเบิ้ลดอร์ไม่ได้เป็นตาแก่ใจดีเพี้ยนๆอย่างที่เขาแสดงออกว่าเป็น เขาเลวร้ายอย่างน่ารังเกียจ ' แฮร์รี่เงียบไปเมื่ออ่านจบ ไม่ทันที่เธอจะได้เขียนตอบตัวหนังสือก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง


    ' ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่ฉันไม่คิดว่าเธอควรจะเชื่อคนง่ายเกินไป '


    ' ถ้าหนูเชื่อคุณ ก็แปลว่าหนูเชื่อใจคนง่ายเหมือนกันนะคะ '


    'แต่ฉันจะได้อะไรจากการหลอกเธอ ฉันเป็นแค่สมุด แฮร์รี่ ' คำที่ตอบกลับมาทำให้แฮร์รี่ครุ่นคิดหัวแทบแตก


    ' ตาแก่นั่นมีสิ่งที่ต้องการ จากเธอ ถ้าเธออยู่กับเขาต่อไป วันนึงเธอจะเป็นอันตรายจากสายฟ้า '


    สายฟ้า? คิ้วแฮร์รี่แทบเป็นปม เธอขมวดจนปวดไปหมด


    ' คุณเป็นใครกันแน่ ' แฮร์รี่เขียนถามลงไปด้วยตัวหนังสือที่หนักแน่นจากอารมณ์คุกรุ่น


    ' เธอจะรู้ในไม่ช้า ' ตัวหนังสือปรากฏขึ้น ' แต่ไม่ใช่ตอนนี้ '


    ' รอเวลาที่เหมาะสม แฮร์รี่ที่รัก แล้วเธอ จะได้รู้ทุกอย่าง เกี่ยวกับฉัน ' เขาไม่เว้นช่องว่างให้แฮร์รี่ได้เขีบนตอบเลย ' ตอนนี้ดึกมากแล้ว ราตรีสวัสดิ์ '


    พร้อมกับภาพเจ้าเพเนโลปี้ ที่นอนคลุมโปงโผล่ออกมาแค่หูที่กระดิกได้ของมัน


    ปึก


    แฮร์รี่ปิดสมุดเล่มนั้นอย่างอารมณ์เสีย ก่อนที่จะปิดอีกเล่มก็มีตัวหนังสือปรากฏขึ้นมา


    ' เก่งมาก คริสมาสต์นี้ มาบ้านฉันไหม? '


    ' หนูคิดว่าจะลงชื่ออยู่โรงเรียนค่ะ ' แฮร์รี่ตอบเขาไป


    ' น่าเสียดาย นึกว่าเธอจะมาหานาร์ซิสซ่า ' แฮร์รี่เพิ่งนึกได้ เธอกำปากกาขนนก ก่อนจะจุ่มหมึกแล้วเขียนต่อ


    ' ไปค่ะ จะไปหาน้าซิสซ่า หนูต้องขอศาสตราจารย์สเนปก่อน' ตัวหนังสือหายไป ก่อนที่จะปรากฏขึ้นมา เรียงตัวสวย อ่านง่าย เว้นวรรคละเอียด


    'ไม่ต้องฟังเขามากก็ได้ ' แฮร์รี่ชอบลายมือของเขา...ให้ตาย เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์ยันลายมือ ' แล้วเจอกันวันหยุดนี้ ราตรีสวัสดิ์แฮร์รี่ '


    ' ราตรีสวัสดิ์ค่ะ '


    แฮร์รี่เก็บหนังสือทั้งสองเล่มใส่ลังไว้ใต้หมอน เก็บขวดน้ำหมึกกับปากกาขนนกไว้หัวเตียง เธอพึมพำคาถาเบาๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลง


    " น๊อกซ์ "
















    " แฮร์รี่ " เสียงเบาๆที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นยามค่ำคืน แฮร์รี่งัวเงีย เธอปรือตาขึ้นมาด้วยความไม่เต็มใจ ก่อนที่จะหรี่ตามองเจ้าของเสียงอย่างงุนงง


    "เดรก?" แฮร์รี่หันมองรอบๆก่อนจะเบิกตากว้าง "นี่มันหอนอนหญิ-!!!!!!"


    ก่อนที่เด็กสาวจะได้กรีดร้องให้แพนซี่ที่นอนอุตุอยู่ข้างๆตื่นมาฆ่าเขา เดรโกปิดปากเด็กสาวเอาไว้ด้วยมือ และแฮร์รี่ดูเหมือนจะงัวเงียเกินกว่าที่ขัดขืนได้


    "ฉันจะเอามือออก แต่อย่าเสียงดังนะ แล้วอีกห้านาทีออกไปเจอกันที่ห้องนั่งเล่น " เดรโกกระซิบอย่างแผ่วเบา แฮร์รี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย แน่นอนว่าเธอแทบจะเชื่อฟังเดรโกในทุกเรื่องอยู่แล้ว...รองจากแพนซี่มาหน่อย


    คุณชายมัลฟอยผู้สูงศักดิ์ค่อยๆย่างเท้าย่องออกจากห้องไปเบาที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ อาจจะเพราะเธอยังไม่ได้เป็นสาวอะไรขนาดนั้น การคุ้มกันของปีสองถึงได้อ่อนมาก....มากจนเดรโกเข้าออกง่ายขนาดนี้


    แฮร์รี่สวมชุดคลุมอย่างลวกๆ และสวมถุงเท้าด้วยเทื่อเธอรู้สึกว่าอากาศเย็น อาจจะเพราะยังไม่เช้าดี ไม่กี่นาที เธอก็ออกไปหาเดรโกที่ห้องนั่งเล่น


    " ฉันยังง่วงอยู่เลยนะเดรก " เสียงของแฮร์รี่งัวเงีย ผมของเธอยังคงยุ่งเหยิง รวมกับที่เธอขยี้ตาเดินมาหาเขานั้นทำให้เดรโกกลั้นใจสุดความสามารถที่จะห้ามไม่ให้กำเดาไหลในเวลาแบบนี้


    "ฉันรู้แฮร์รี่ แต่ฉันจะพาเธอไปดูอะไรเจ๋งๆ เธอต้องชอบแน่ๆ เธอไหวไหม? " เดรโกเอามืออังแก้มนิ่มๆของแฮร์รี่อย่างแผ่วเบา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างเหลือเชื่อ


    "ไหว....มั้ง" แฮร์รี่ดูไม่แน่ใจในตัวเองนัก คุณชายมัลฟอยหัวเราะก่อนจะจูงมือนางฟ้าตัวน้อยของสลิธีรินออกจากหอนอนไป


    แฮร์รี่ผู้ง่วงงุนตื่นเอาก็ตอนที่เดรโกจับเธอขึ้นไม้กวาด พุ่งตรงมาที่สนามควิดดิช เพราะอากาศเย็นมาก แม้จะขี่ไม่สูงนัก เธอก็กอดเอวเดรโกแน่น พลางสงสัยว่าจะพาเธอมาแว้นอะไรแต่เช้า จนกระทั่งเขาให้เธอนั่งบนอัฐจรรย์ท่ามกลางความมืด


    " ฉันจะกรี๊ดแล้วนะเดรก" แฮร์รี่บอกเมื่อเธอมองบรรยากาศรอบๆข้าง


    "มานั่งเหอะน่า แปปเดียว " เดรโกปูผ้านุ่มๆบนอัฐจรรย์ให้เธอนั่ง


    "มันหนาวนะ " แฮร์รี่ยังอดบ่นไม่ได้ แต่เธอก็นั่งลงอยู่ดี


    บรรยากาศเงียบลงหลังจากนั้น แฮร์รี่ยังสับสนว่าเธอมาที่นี่ทำไม ส่วนเดรโกก็ดูจะไม่ยอมตอบเธอ ด้วยความอึดอัดแฮร์รี่จึงรู้สึกว่าเธอควรทำลายความเงียบนี้


    "ฟลินต์บอกว่านายจะเข้าร่วมทีมควิดดิช "แฮร์รี่ชวนคุยในหัวข้อที่เธอพอจะนึกออก


    "อืม ใช่" เดรโกพยักหน้า เขาเองก็เพิ่งนึกได้ "เป็นเชสเตอร์น่ะ "


    "พ่อฉันก็เป็นเชสเตอร์นะ มีถ้วยรางวัลด้วยล่ะ " แฮร์รี่ยิ้ม มันเป็นเรื่องราวไม่มีกี่อย่างที่เธอภาคภูมิใจ ในบ้านสลิธีรินที่ต่างคนต่างโอ้อวดตระกูลกันไม่เว้นวัน เธอได้แต่เงียบ ไม่มีโอกาสได้โอ้อวดกับเขาบ้าง


    เด็กสลิธีริน จะว่าไปเมื่อปีที่แล้วนอกจากกลุ่มแพนซี่แล้วเธอก็คิดว่าบรรยากาศดูอึมครึมกว่านี้มากนัก บรรยากาศอบอุ่นนอนก่ายกันที่ห้องนั่งเล่นนี่มันมาตั้งแต่ตอนไหนกันนะ?


    "เดรก เป็นเพื่อนกับพวกเบลสพวกแพนซี่ได้ยังไงหรอ? " แฮร์รี่เลิกคิ้ว เดรโกก็เลิกคิ้วกลับที่ถูกถาม


    "...ตระกูลเราทุกคนนะแฮร์รี่ มันไม่ได้ดีเด่สูงส่งเสมอไปอย่างที่ทุกคนคิดหรอกนะ" เดรโกเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย "แทบทุกคนในสลิธีรินต่างมีหน้ากากของตัวเองมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่ขีดเส้นทางของเราตั้งแต่รู้ว่าเราเป็นหญิงหรือชายแล้ว"


    "...." แฮร์รี่เงียบแล้วมองเดรโกอย่างไม่พูดอะไร


    "เราถูกฝึกให้เข้างานสังคมถี่มาก ยิ้มอย่างสุภาพ พูดจาสุภาพ นอบน้อม แต่เหนือชั้น งานเลี้ยงวันเกิด งานเลี้ยงฉลองต่างๆ ฉันไปมาหมดแล้วทุกที่ .... เบลส แพนซี่ ทีโอดอร์ พวกเราเจอกันบ่อยเลยล่ะ " เดรโกนึกย้อนความ " ต่างคนก็ต่างสงสารกันน่ะ พวกเราไม่รู้ว่าเด็กคนอื่นๆมีชีวิตแบบไหน เราแค่ต้องยิ้มให้สุภาพ พูดจาให้ฉลาด พอเหนื่อยมากๆ ก็เลยมาปรับทุกข์กันจนสนิทขึ้นมานี่ล่ะ "


    "อ๋อ " แฮร์รี่นึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นสังคมแบบไหน


    " แต่ในสี่คนนี้ แพนซี่หนักสุดเลยนะ ยัยนั่นถูกพ่อแม่จับคู่ไปทั่ว พอเห็นสนิทกับฉันก็เลยจับหมั้นกับฉันซะงั้น ถูกขังให้อ่านตำราการเมืองไร้สาระ ชงชา ทำขนมจนมือพองไปหมด ไม่มีโอกาสได้วิ่งเล่นแบบเด็กผู้หญิงทั่วไป .... เลยเข้ากันได้ดีกับเธอไง " เดรโกหันมองแฮร์รี่ เด็กสาวมีสีหน้าตั้งใจฟัง เธอตั้งใจมาก จนคนเล่าอย่างเขารู้สึกดีมาก " ดีกับยัยนั่นเยอะๆล่ะ "


    " อื้อ แพนซี่เป็นเพื่อนรัก " แฮร์รี่พยักหน้า ก่อนที่เธอจะยกมือลูบผมสีทองที่ไม่ได้ใส่เจลจนแข็งเบาๆ " เหนื่อยแย่เลยใช่ไหม เก่งมากๆเลยนะคะ "


    "....." เดรโกกลืนคำขอแต่งงานลงคออย่างยากลำบาก แฮร์รี่ยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนราวกับพระแม่มารีย์ พร้อมกับแสงสีทองอ่อนๆที่ระใบหน้ากลมมนจนส่องสว่าง


    โคตรโฮลี่


    "อ่ะ " แฮร์รี่หันไปทางทิศตะวันออกเมื่อเธอรู้สึกว่ารอบข้างสว่างขึ้น ก่อนที่ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอจะสว่างวาบเป็นประกายเมื่อเห็นพระอาทิตย์ที่เส้นขอบฟ้า


    "ตรงนี้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นชัดที่สุดแล้ว " เดรโกบอก ก้อนแสงกลมยักษ์ราวกับกำลังลอยขึ้นมาจากทะเลสาบ มันทอแสงนวลกระทบกับผิวน้ำเป็นประกาย งดงามยิ่งกว่าอะไร


    แฮร์รี่ไม่ได้คิดไปเอง เด็กสลิธีรินดูโตเกินวัยกันมาก กับเธอเองที่ก็ไม่ได้โตมาปกติทั่วไป จึงไม่ได้เอะใจอะไร แต่หากเทียบกับรอน หรือเด็กบ้านอื่นๆหลายคนแล้ว ไม่แปลกเลยที่เธอจะเห็นว่าบ้านสลิธีรินโตกว่าอย่างเห็นได้ชัด


    เธออดที่จะรู้สึกเสียใจกับชีวิตวัยเด็กของพวกเขาไม่ได้


    เดรโกตัวแข็งเป็นก้อนหินเมื่อจู่ๆนางฟ้าสลิธีรินก็เอนหัวมาพิงกับไหล่ของเขา นี่มันเหนือความคาดหมาย มันดีมากๆ แต่ไม่มีใครบอกเขาเลยว่าจะรับมือกับมันอย่างไรดี


    ท่าทีของเดรโกประดักประเดิดจนน่าขัน และเขาไม่ขยับเลยแม้แต่มิลลิเมตรเดียวและมีเหงื่อผุดพรายทั่วหน้า จวบจนพระอาทิตย์โผล่พ้นฟ้ามาทั้งดวงแล้วเดรโกก็ไม่กล้าที่จะบอกแฮร์รี่ว่า 'กลับกันเถอะ' แม้มันจะแปลว่าเขาจะต้องถูกฆ่าตายหากสเนปมาตรวจนักเรียนตอนเช้าก็ตาม


    " เดรก เรื่องแต่งงานอ่ะ ยังไงก็คิดว่าคงไม่ได้นะ " แฮร์รี่พูดขึ้นมาตามจริง


    "....อืม"


    " ฉันเพิ่งจะอายุ 12 เอง เดรกก็ด้วย มันยังเร็วไปที่จะคิดเรื่องนี้ แต่ถ้า...คบเป็นแฟนล่ะก็...ขออีกปีสองปีได้ไหม? "


    " ..... " เดรโกประมวลผลไม่ทัน เขาเงียบไปหลายนาที ก่อนที่จะทวนขึ้นมา " ปีสองปี? "


    " อือ ศาสตราจารย์สเนปบอกว่า เรายังเด็กเกินไปที่จะมีคนรัก...อีกสักปี หรือสองปี เมื่อเราคิดว่าพร้อม แล้วเราก็ยังชอบกันอยู่...มาคบกันนะ "


    'มาคบกันนะ'


    มา คบ กัน นะ


    พรวด!


    เหมือนกำเดาที่เดรโกได้กักเก็บมาตลอดตั้งแต่ตอนที่เห็นแฮร์รี่นอนบนเตียงเช้านี้ ก็ได้ล้นทะลักออกมาในตอนนั้น


    "เดรก!!!!!!!!!!"


    และเช้าวันนั้นมาดามพรอมพรีย์ก็รับอรุณกับเด็กหญิงที่ร้องห่มร้องไห้ แบกเพื่อนชายตัวซีดเปื้อนเลือดขึ้นหลังมาห้องพยาบาล



    ___________________________________


    " เยี่ยมไปเลยเดรโก " แพนซี่เหน็บแนม ตอนที่มารับเขาจากห้องพยาบาล เธอตื่นมาแล้วตกใจแทบคลั่งเมื่อรู้ว่าเดรโกลักพาตัวแฮร์รี่ไปช่วงไหนสักช่วงของตอนกลางคืน มาเจอตัวอีกทีก็นอนเลือดจางอยู่ห้องพยาบาล


    "เงียบน่า" เดรโกบ่น เขายังรู้สึกหน้ามืดจากการเสียเลือดมากอยู่


    " ฉันคิดว่านายควรดูนี่นะ " เบลสกางหนังสือพิมพ์ให้เดรโกอ่าน มันเป็นข่าวหน้าหนึ่งที่มีชายเสียสติกำลังทำท่าทางจะประทุษร้านคนอ่าน(หรือจริงๆตากล้อง)


    " แบล๊ค? " เดรโกขมวดคิ้ว


    " เขาแหกคุกออกมา " เสียงของทีโอดอร์ค่อนข้างหนักใจ เดรโกหยุดเดิน เขาอ่านเนื้อข่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนที่จะเงยขึ้นมองทาง


    " ต้องเพิ่มการคุ้มครองแฮร์รี่ "เขาพูด ก้มลงมองหนังสือพิมพ์อีกครั้ง " ฉันอยากให้เธอจบเทอมนี้ไปพร้อมกับเรื่องลูกบลัดเจอร์เส็งเคร็งนั่นพอแล้ว "


    " กระทรวงส่งผู้คุมวิญญาณออกมาตามหา" เบลสตอบ ค่อที่เริ่มเดินต่อ ไม่อย่างนั้นเขาจะเข้าเรียนคาบแรกสาย "เป็นโขยงเลย"


    "ที่ไหน? " เดรโกขมวดคิ้ว ทำไมมันฟังดูใกล้ตัวขนาดนี้


    "ที่นี่" แพนซี่หันมาหาอดีตคู่หมั้นของเธอ " ที่ฮอกวอตส์ "


    "...อย่า....อย่าปล่อยแฮร์รี่ไว้ตามลำพัง...เด็ดขาด..." เดรโกกำชับ


    " แฮร์รี่กลับไปเปลี่ยนเสื้อกับเดฟเน่ คงจะไปรอเราที่ห้องเรียนแล้ว"เบลสรายงาน


    " จะให้แฮร์รี่เป็นอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด เธอเป็นความหวังเดียวของเรา" เดรโกย้ำอีกครั้ง และทุกคนพยักหน้ารับ พวกเขารู้แก่ใจ 'สลิธีริน' รู้แก่ใจ


    เด็กกริฟฟินดอร์หลายคนมองกลุ่มเด็กสลิธีรินอย่างงุนงงเมื่อมีบรรยากาศราวกับนักธุรกิจจัยกลุ่มคุยกันเรื่องสำคัญๆ แม้มีคนนึงถูกหิ้วปีกอยู่


    ก่อนที่พวกเขาจะเลิกสนใจไปเมื่อมาถึงห้องเรียนแล้วพวกเขาสลัดคราบนักธุรกิจแล้วกระโจนไปน้วยนางฟ้าตัวน้อยของสลิธีรินด้วยท่าทางราวกับคุณป้าเห่อหลาน


    สลิธีรินมันเป็นบ้า นั่นคือข้อสรุปจากกริฟฟินดอร์วันนั้น


    "จากตารางที่เขาแจ้งมา เราจะเรียนเรื่องนี้ในเทอมที่สองไม่ใช่หรอ " แฮร์รี่กระซิบถามเพื่อนอย่างงุนงง เธอเหมือนจะจำได้คร่าวๆว่าการดวลเธอจะได้เรียนมันในเทอมที่สอง จริงๆวันนี้ต้องเรียนทฤษฏีของคาถาโจมตีต่างๆต่างหาก


    " มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ เขาคงคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเราป้องกันตัวได้ " แฮร์รี่มีสีหน้าดูยังคงงุนงง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพิ่มเติม


    วันนี้ล๊อกฮาร์ตไม่ได้มาคนเดียว เขาพาค้างคาวยักษ์แห่งสลิธีรินมาด้วย และพูดอะไรที่เหมือนจะบอกว่าไม่ต้องกังวล พวกเธอจะได้ศาสตราจารย์ปรุงยากลับไปครบสามสิบสอง พร้อมกับส่งวิ๊งให้สาวๆกรีดร้องอย่างขวยเขิน


    ในขณะเดียวกันแฮร์รี่ก็อดคิดไม่ได้ว่าคนที่ไม่ครบสามสิบสองอาจจะเป็นล๊อกฮาร์ตเอง...ประเมินจากสีหน้าแบล๊คคิงสเนคที่ยืนสงบนิ่งอยู่ตรงนั้น


    " เอ็กซ์เปลลิอามัส!!!!"


    แฮร์รี่ไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรก่อนหน้านั้น แต่ตอนที่ศาสตราจารย์สเนปร่ายคาถา สาวๆก็กรีดร้องกันอย่างบ้าคลั่ง


    ศาสตราจารย์โคตรเท่!!!


    แน่นอนเสียงแฮร์รี่ดังที่สุด


    และแน่นอน เดรโกหน้าหงิกยิ่งกว่าก๊อปลินโดนทุบ








    แฮร์รี่จำไม่ได้ว่าคาบนั้นจบไปได้ยังไง  แต่เธอเพ้อเรื่องความเท่ของศาสตราจารย์สเนปกับแพนซี่จนมาถึงพักเที่ยง และเดรโกพยายามแทบตายมนการเสกขนมปังไส้กรอกให้เป็นเต่าแก้มแดง แต่ที่ใกล้เคียงที่สุด คือขนมปังรูปเต่าที่มีรสชาติเลวร้ายมากๆแทน


    แฮร์รี่ลองเสกเค้กให้เป็นลูกกระต่าย ใกล้เคียงที่สุดที่เธอทำได้คือเค้กก้อนสี่เหลี่ยมมีหูกระต่ายกระดิกไปมา


    เหมือนเธอจะเห็น ล(เลว) ลอยมาจากเกรดวิชาแปลงร่างเลย


    แฮร์รี่โล่งอกหลังจากที่เมื่อเช้าเธอเปิดใจพูดกับเดรโกไปแล้ว เขาก็ไม่มีท่าที....วุ่นวาย กับเธอเหมือนที่เขาเป็นมาตั้งแต่เปิดเทอม เขาดูสงบขึ้น และแฮร์รี่คิดว่านั่นดีแล้ว


    พูดถึงเรื่องในช่วงนี้แล้ว เธอเองก็ได้ข่าวของแบล๊คมาเหมือนกัน ลอเรน พ่อของเธอทำงานให้หน่วยข่าวกรอง เธอบอกว่า แบล๊คหลุดออกมานานแล้ว แต่ฟัดจ์สิ่งโร่ปิดข่าวจนขาหนีบแทบไหม้เพราะไม่อยากให้เก้าอี้นายกของเขาต้องสั่นคลอน กว่าข่าวจะออกมาให้ประชาชนได้ระวังตัวอย่างถูกต้องเวลาก็ล่วงเลยไปหลายเดือนแล้ว หลายเดือนมากๆแล้ว


    ช่วงนี้เพื่อนๆดูจะติดเธอแจ แฮร์รี่รู้ว่ามันเป็นเพราะว่าแบล๊คต้องการที่จะล้างแค้นเธอ เขามาแน่ๆ เหล่าเพื่อนๆจึงล้อมหน้าล้อมหลังเธอราวกับอัศวิน แฮร์รี่หงุดหงิดเพราะนั่นทำให้เธอไม่มีจังหวะที่จะแอบไปขอขนมจากเอลฟ์ประจำบ้าน แต่เธอก็เข้าใจที่ทุกคนเป็นห่วง แฮร์รี่มั่นใจว่าถ้าเจอแบล๊คขึ้นมา เธออาจจะตายทันทีเลยก็ได้ เธอสู้ไม่ได้เลย


    " ต่อไปเป็นวิชาพยากรณ์ศาสตร์...พระเจ้าช่วย ฉันเกลียดวิชานี้...เป็นบ้าเลย " เดรโกบ่น ล่าสุดเขาต้องนั่งฟังศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ทำนายของการตายแฮร์รี่ตลอดคาบ นางฟ้าสลิธีรินฝันร้ายจนออกมานั่งร้องไห้ที่ห้องนั่งเล่น พี่ปีเจ็ดที่ผ่านมาเห็นเกือบรวมตัวกันพุ่งไปสาปหล่อนแล้ว


    ดูเหมือนศาสตราจารย์สเนปที่รู้ข่าวก็อยากทำอะไรสักอย่างเหมือนกัน แต่เพราะเขาเป็นชายจึงทำอะไรไม่ได้มากนักกับศาสตราจารย์ที่เป็นผู้หญิง นอกจากเหน็บแนมเธอด้วยทุกวิถีทาง โดยมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์เป็นศาสตราจารย์มักกอนนากัล...รายนั้นเกลียดศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ออกนอกหน้าเลย


    แต่พอมาเดือนหลังนี้แฮร์รี่ดูชินชากับเธอ เดรโกเลยไม่มีโอกาสชวนสาวน้อยโดดเรียนอย่างที่วางแผนไว้ แน่นอนว่าโดนแพนซี่หัวเราะอัดหน้าด้วยความสะใจยิ่งยวด


    "วิชานี้มันเปิดจิตโดยที่พลการ " เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทีฉุนเฉียว " ฉันจะถอนรายวิชานี้ออกทันทีที่เป็นไปได้"


    " เปิดจิต? " เบลสเลิกคิ้ว


    " ในคาบแรก ที่เธอให้ตั้งสมาธิ กับมโนภาพอะไรนั่นล่ะ ฉันไปอ่านมาแล้ว มันคือการเปิดประตูจิตของเราให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ซึ่งให้ตายเถอะ มันทำให้เราอ่อนแอต่อคาถาประเภทมนต์สะกด " เฮอร์ไมโอนี่ดูเดือดดาลมากจริงๆ " แค่พวกนายเจอเชื้อสายวีล่า พวกนายต้องลงไปเลียเท้าเธอมนมันทีแน่นอน โดยที่ไม่นึกถึงผู้หญิงคนอื่น หรือแฟนตัวเองด้วยซ้ำ "


    " แล้วมันมีวิธีปิดมันไหม? " แฮร์รี่ถาม เสียงเธอเคร่งเครียดอย่างผิดปกติจากเด็กสาวที่แสนร่าเริง และใสซื่อ เธอใช้น้ำเสียงแบบที่เพื่อนๆไม่เคยได้ยินมาก่อน


    " มันมี แต่เราต้องปรึกษาศาสตราจารย์ที่เชี่ยวชาญ....แต่ไม่ใช่ทรีลอว์นีย์แน่ๆ"


    " ดัมเบิลดอร์คุยกับเธอบ้างไหมแฮร์รี่? " คำถามของทีโอดอร์เป็นอีกหนึ่งปัญหาช่วงนี้ของเธอ


    " เขาไม่คุยกับฉันตั้งแต่จบเรื่องปีที่แล้วแล้วน่ะ " แฮร์รี่ตอบ เธอก็ไม่ได้คิดว่าแปลกอะไร มีเหตุผลอะไรให้ดัมเบิลดอร์จะต้องสนใจเธอเป็นพิเศษเสียหน่อย


    แถมยังดีกับเธอเสียอีกในทุกๆด้าน


    “เราควรปรึกษาสเนปนะ” เฮอร์ไมโอนี่เสนอขึ้น แต่แฮร์รี่กลับส่ายหัว


    “เขาจะรู้ไม่ได้” และไม่ทันที่เฮอร์ไมโอนี่จะได้ถามเหตุผลอะไร เดรโกก็เป็นคนตอบให้


    “เขาคลั่งแฮร์รี่จะตาย ถ้ารู้ว่าแฮร์รี่มีช่องว่างเพราะใคร เขาพุ่งไปฆ่ายัยแว่นโตนั่นแน่” และบ้าจริง เดรโกพูดถูก “แค่แฮร์รี่ไม่ยอมไปส่งการบ้านตามที่ตกลงกันไว้ เขาก็ลนจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว”


    “นั่นก็จริง” เฮอร์ไมโอนี่พึมพำ ก่อนที่เธอจะตกใจแล้วหันมองแฮร์รี่สลับกับเพื่อนๆของเธอ ไม่ใช่ว่าแฮร์รี่ไม่ควรรู้เรื่องที่สเนปชอบเธอจนสติแตกหรอกหรอ


    “หืม?” พอได้รอยยิ้มไร้เดียงสาของแฮร์รี่ตอบกลับมา เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจแล้วว่าเธอควรรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้


    “แฮร์รี่!!!” เสียงเข้มแอบแหบสากที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านหลัง แฮร์รี่ขนลุกเกรียวจนถึงหัวก่อนที่เธอจะออกสปีดวิ่งหายไปในเสี้ยววิ เพื่อนๆได้แต่อ้าปากค้าง พอหันกลับไปตามเสียงก็เห็นเป็นฟลินต์ที่ยืนค้างอยู่ในท่ายกมือ เขาดูช๊อคไปแล้ว


    “ว่าไงฟลินต์” เดรโกเป็นคนทักก่อน เขากลัวว่าจะไปเรียนสายด้วย


    “...ฉันแค่จะบอกว่าเย็นนี้ปีหกต้องทำโครงงาน เลยงดซ้อม…” เสียงของฟลินต์เบาหวิว นี่เขาถูกนางฟ้าสลิธีรินปฏิเสธเอาแล้วสินะ แค่คิดก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมาแล้ว



    “เดี๋ยวฉันไปบอกให้” เดรโกรับปาก อีกเรื่องที่เขายังสงสัยไม่หายก็คงไม่พ้นเรื่องศาสตราจารย์สเนปกับฟลินต์ ในขณะที่แบล๊คคิงสเนป(ตั้งโดยแฮร์รี่) ไล่กินหัวผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้แฮร์รี่ เขากลับไม่ทำอะไรเลยที่ฟลินต์ลากแฮร์รี่ออกไปฝึกยามวิกาลอยู่บ่อยครั้ง นั่นมันแปลกมากเกินกว่าที่จะมองผ่าน แต่ความสงสัยของเขาก็ยังไม่ได้รับคำตอบ


    เดรโกไม่รู้ว่าเขาจะได้รับคำตอบเร็วๆนี้ แล้วจะต้องนั่งกระดกบัตเตอร์เบียร์ปรับทุกข์กับฟลินต์ค่อนคืน


    หลังจากที่ฟลินต์จากไปเรียนต่อในวิชาต่อไป พวกเธอก็เดินไปที่ห้องพยากรณ์ศาสตร์ และระหว่างทางแพนซี่อดที่จะถามเฮอร์ไมโอนี่ที่เดินตามมาโดยตลอดไม่ได้


    “ที่บ้านกริฟเธอไม่มีเพื่อนหรอเฮิร์ม?” ได้ยินคำถามแล้วเฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้าเจื่อนๆเล็กน้อย


    “ปกติก็อยู่กับพวกลาเวนเดอร์...แต่ไม่นานมานี้หนูของรอนหายไป และเขาพยายามที่จะชักจูงทุกคนว่าครูกแชงค์กินมันเข้าไปแล้ว คนค่อนบ้านเกลียดแมวฉัน ฉันไม่สบายใจที่จะอยู่ที่นั่นเท่าไหร่” เฮอร์ไมโอนี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ และนั่นทำให้สหายบ้านสลิธีรินของเธอเบิกตากว้าง


    “ทำไมเธอไม่เล่าให้เราฟัง เราเป็นเพื่อนกันนะเฮิร์ม ให้ตายสินี่มันเกิดขึ้นนานแค่ไหนแล้ว” แพนซี่ดูหัวเสียที่สุด โชคดีที่แฮร์รี่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะเธอคงพุ่งไปสาปรอนแน่ๆ ขึ้นปีสองมาอารมณ์เธอแปรปรวณอยู่บ่อยๆ


    “ราวๆสองอาทิตย์ก่อน” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มแห้งๆเมื่อถูกดุ “ฉันกลัวว่าครูกแชงค์จะถูกทำร้ายเลยฝากไว้ที่แฮกริด...ถึงจะน่ากลัวอยู่หน่อยๆว่ามันจะถูกสัตว์เลี้ยงน่ารักของแฮกริดกินเอาก็เถอะ”


    “...เอามาฝากหอเราสิ” เดรโกเสนอ “อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าที่นั่นเยอะ แต่ถ้าเธอจะมาเยี่ยมก็คงให้เข้าหอนอนไม่ได้หรอกนะ”


    “แต่เราพอมันออกมาเจอเธอได้ที่ลานใต้ดิน โทษทีนะ หอสลิธีรินไม่มีคนนอกเข้ามาเจ็ดศตวรรษแล้ว แล้วพวกเราก็อยากให้มันเป็นแบบนั้นต่อไป” เบลสพยายามปลอบใจ


    “อื้อ ไม่เป็นไรหรอก แต่ไม่รบกวนแน่นะ...ครูกแชงก์เป็นแมวฉลาด มันไม่ทำอะไรเสียหายแน่ๆ” เฮอร์ไมโอนี่มีสีหน้าโล่งอกปนเกรงใจ


    “แน่นอน มันฉลาดเหมือนเธอ” น๊อตยืนยันเรื่องนั้น


    “นายมันทาสแมวตัวยง” เดรโกแซวเพื่อน ก่อนที่เขาจะหัวเราะสีหน้าขวยเขินของทีโอดอร์


    “ส่วนเรื่องหอนอน...ถ้าเธอไม่สบายใจ อยู่กับเราจนกว่าจะเคอร์ฟิวก็ได้ พอใกล้เคอร์ฟิวแล้วเราจะไปส่งเธอที่หอนอน เธอตื่นเช้าอยู่แล้ว ออกมารอพวกเราเลย โชคดีที่เทอมนี้ศาสตราจารย์ใหญ่ดูอยากจะให้บ้านเราสนิทกัน เราเรียกด้วยกันเกือบทุกคาบแหน่ะ” แพนซี่ควงแขนเพื่อนสาวของเธอ เฮอร์ไมโอนี่น้ำตาเอ่อ เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อกลั้นมันเอาไว้ เธอทนสายตารังเกียจจากเพื่อนๆ และเมินเธอราวกับไม่มีตัวตนมาตลอดสองอาทิตย์ เธอคิดว่าเธอเข้มแข็ง แต่มันสู้ไม่ได้เลยกับความใจดีที่เพื่อนจริงๆของเธอหยิบยื่นให้


    “โห้ววว ร้องไห้หรอยัยขี้แยยยย” เดรโกแซว และนั่นทำให้เขาต้องวิ่งหนีสันหนังสือหนาสามนิ้วเข้าห้องเรียนไป






    ในห้องเรียนแฮร์รี่นั่งหน้าตายที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ แล้วเป็นสีหน้าที่มีแต่ศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์คนเดียวที่จะได้รับ ศาสตร์การพยากรณ์ของเธอเน้นหนักไปทางสิ่งที่ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว เธอต้องรับแฮร์รี่ด้วยการบอกว่าแฮร์รี่ต้องได้รับความตายมากกว่าหนึ่งครั้ง นั่นเพียงพอแล้วให้เธอปล่อยเบลอวิชานี้


    ไม่คิดเหมือนกันว่าวิชาที่เธอปล่อยเบลอจะกลายเป็นวิชาที่ทำให้เธออับอายขายขี้หน้ามากที่สุดในตอนนี้


    “เธอไม่ควรมีความรักตั้งแต่เด็กนะแฮร์รี่” แฮร์รี่พยายามทำหน้าตายที่สุด พยายามไม่รู้สึกอะไรกับการที่ศาสตราจารย์อ่านทรายในกระบะของเธอว่าเธอจะค่อนข้าง….เชี่ยวเรื่องความรัก สาวๆดูตื่นเต้น ไม่ใช่กับแฮร์รี่ เธออับอายจนอยากจะตายคาชั่วโมงนี้ไปเลยตอนที่ศาสตราจารย์พูดด้วยน้ำเสียงไม่เบาและรอยยิ้มที่น่าเกลียดว่าเธอจะแต่งงานมากกว่าหนึ่งครั้ง และผูกสัมพันมากกว่าสองและเกินกว่านั้น


    เยี่ยม


    เธอดูเป็นเด็กสิบสองใจง่ายไปแล้วในตอนนี้


    “โอ้ๆ ที่รัก ไม่ต้องกังวลไป ไม่ต้องกังวล ทุกความสัมพันธ์ที่ถักทอนั้นมีเหตุและมีผลของมัน เป็นเส้นทางชีวิตที่เธอลิขิตเอาไว้ไม่อาจต่อต้าน แต่เธอจงจำไว้ว่า จงทำตามที่หัวใจของเธอปราถนา อย่าได้สนใจคำพูดของคนอื่นมากนัก” เธอวางมือที่สั่นเทาและแห้งกร้านบนใบหน้าเนียนนุ่มของแฮร์รี่ “หนูน้อยที่น่าสงสาร เธอช่างผ่านอะไรมามาก และจะผ่านอะไรไปมากเหลือเกิน”


    เยี่ยมยอด


    เธอดูใจง่ายกว่าเดิมอีก






    “พ่อฉันต้องรู้เรื่องนี้” เดรโกโมโหมาก ตอนนี้หนูน้อยแฮร์รี่นั่งซุกอยู่ในอ้อมอกของแพนซี่และเฮอร์ไมโอนี่ ไม่ได้ร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่ก็ดูหดหู่จนกลายเป็นก้อนกลมๆแล้ว


    “หล่อนทำให้แฮร์รี่ดูไม่ดี นี่มันถือเป็นการหมิ่นประมาทไหม ฉันว่าน่าจะฟ้องร้องได้นะ แฮร์รี่เป็นผู้หญิง เธอไม่ควรถูกพูดถึงแบบนี้” เบลสขมวดคิ้ว เขากางหนังสือกฏหมาย(เอามาจากไหนน่ะ:เฮอร์ไมโอนี่)อ่านอย่างเคร่งเครียด


    “ ฉันจะส่งเรื่องร้องเรียน” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้น


    “มันช้าเกินไป”แพนซี่ส่ายหัวแล้วลูบเรือนผมของแม่กระต่ายตัวน้อยแฮร์รี่อย่างอ่อนโยน


    “สเนปไง ไปบอกเขากัน” น๊อตเสนอขึ้นมา เดรโกตบเข่าฉาดใหญ่


    “ฉันจะไปบอกศาสตราจารย์มักกอนนากัลเรื่องนี้ เธอเป็นผู้หญิง เธอเข้าใจแน่ๆ” เดรโกกับเบลสแท๊กมือกัน


    “เดี๋ยวฉันไปบอกศาสตราจารย์สเนปเอง พาแฮร์รี่กลับไปนอนที่หอ สำหรับเขาแค่รู้ว่าแฮร์รี่ร้องไห้ ดัมเบิ้ลดอร์ต้องเก็บเสื้อผ้าหนีเขาแน่ๆ” แพนซี่พยักหน้าหงึกหงัก


    พวกเขาเก็บแฮร์รี่น่า พอตเตอร์ผู้เหลวเป็นน้ำและหดหู่ไปห่อผ้าหมกไว้บนเตียง ก่อนจะเริ่มทำตามแผน


    เฮอร์ไมโอนี่รู้มาว่าเวลานี้ศาสตราจารย์สเนปยังจะอยู่ที่เรือนกระจกของมิสซิสสเปร้าส์เพื่อเก็บสมุนไพรบางอย่าง นั่นดี มิสซิสสเปร้าส์เป็นผู้หญิงที่เป็นผู้หญิ๊งผู้หญิง เธอรับไม่ได้แน่ๆ


    เฮอร์ไมโอนี้ปรากฏตัวด้วยหน้าตาไม่ค่อยสู้ดี เธอทำใจดีสู้เสือแล้วรีบเล่าเรื่องทุกอย่างให้ศาสตราจารย์สเนปที่กำต้นกระเด้งดึ๋งฟัง โดยมีแพนซี่ค่อยเสริมไฟใส่อย่างดุเดือด จนกระทั่งมิสซิสสเปร้าส์อุทานขึ้นด้วยความสงสาร และต้นกระเด้งดึ๋งได้ตายไปแล้วในมือสเนป พวกเธอถึงได้เร่งฝีเท้าตามศาสตราจารย์ผ้าคลุมดำ และไซโออยู่เนืองๆ รวมถึงเรื่องในอดีตที่แฮร์รี่ถูกทักเรื่องความตายของเธอ


    สีหน้าสเนปยับยู่ยี่ เหมือนเขาจะมีคดีสะสางกับเธอไม่น้อยเลยทีเดียว


    ขณะที่เขากำลังเดินทะมึนทึงไปที่ห้องศาสตราจารย์ใหญ่ โดยท่องสูตรน้ำยาสรรพรสในใจเพื่อไม่ให้เบนเป้าหมายไปสาปยัยแว่นโตถึงห้องทำงาน ก็เจอกับศาสตราจารย์มักกอนนากัลที่มีสีหน้าไม่ต่างกัน และมีลูกสอยห้อยตามเป็นงูเล็กๆอีกสองสามตัว เขาก็เดาได้ไม่ยาก


    เด็กๆถูกไล่กลับไปในตอนที่ศาสตราจารย์ทั้งสองขึ้นไปเยี่ยมศาสตราจารย์ในชุดคลุมท้องฟ้าซึ่งน่าจะกำลังจิบชาเลี้ยงนกอยู่


    แน่นอน เขาไม่เห็นเด็กๆที่กระโดดแปะมือกันเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน และพร้อมใจกันวิ่งโร่ไปรายงานแฮร์รี่อย่างเด็กต้องการรางวัล...แน่นอนว่าแฮร์รี่ถูกลากออกมาเพราะเฮอร์ไมโอนี่เข้าหอนอนสลิธีรินไม่ได้







    “ศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์มีท่าทีที่อวดรู้เกินความจำเป็นอัลบัส เธอไม่ไว้หน้านักเรียนหญิงเลย เธอไม่เหมาะสมที่จะสอนโรงเรียนของเรา” ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเชิดใบหน้าของเธอขึ้น ความเดือดดาลอยู่ในทุกอณูของรอยย่นบนใบหน้าของเธอ


    ศาสตราจารย์ใหญ่อย่างดัมเบิ้ลดอร์ได้แต่นั่งฟังแล้วเหงื่อตก อยากจะบอกให้ทั้งสองใจเย็นลง แต่ดูท่าจะไม่เย็นแล้ว


    “ฉันจะไปบอกเธอให้นะมิเนอร์ว่า นั่งลง แล้วจิบชาสักหน่อยเถอะ”ดัมเบิ้ลดอร์พยายามไกล่เกลี่ย


    “ผมเคยพูดแล้วครั้งนึงเกี่ยวกับเธอ เธอใช้เวลาทั้งหมดสิบเอ็ดคาบ ในการย้ำกับแฮร์รี่ว่าเธอจะต้องตายทั้งหมด หกสิบสามครั้ง ใช่ ผมนับ ผมว่านี่เป็นการหมิ่นประมาทและข่มขู่ที่ไม่ควรเลย”สเนปมองดัมเบิ้ลดอร์เหมือนมองมดปลวกตัวนึง “เธอควรสอบจรรยาบรรณวิชาชีพครูอีกสักสิบครั้ง หรือไม่ก็ลาออกไปเปิดสำนักอยู่ไกลๆผู้คนมากกว่า”


    “ ผมว่าเธอแค่ต้องการจะย้ำให้แฮร์รี่ระวังตัวขึ้นเสียมากกว่า” อัลบัสพยายามแก้ตัวแทน ความสามารถของทรีลอว์นีย์หาได้ยากนักที่จะมาสอนนักเรียนได้ เขาก็ไม่อยากเสียบุคลากรที่มีความสามารถไป


    “ ผมคิดว่าการเตือนให้ระวังตัวคือคำว่าระวังตาย ไม่ใช่บอกว่าเธอจะต้องตาย..หกสิบสามครั้งศาสตราจารย์ใหญ่”สเนปย้ำ


    “อย่างน้อยเธอควรถูกพักงาน พักจนกว่าเธอจะสามารถทบทวนได้ว่าเธอผิดอะไร” มักกอนนากัลเสนอ แม้เธอจะยินดีมากกว่าถ้าอีกฝ่ายถูกไล่ออกไปเลย


    “....ผมเข้าใจแล้ว….เอาเป็นว่าผมจะเรียกเธอมาคุยเอง ผมอยากให้พวกคุณกลับห้องพักผ่อน และดูแลนักเรียน ตอนนี้เธอคงจะมีจิตใจที่บอบช้ำ เป็นหน้าที่ของเราที่ควรจะไปปลอบไม่ใช่หรอ” อัลบัสใช้วิธีที่อ้อมที่สุดที่จะไล่ทั้งสองคนออกจากห้อง วันนี้เขามีเรื่องปวดหัวมากเกินพอแล้ว


    และได้รับคำขู่จากค้างคาวยักษ์ว่าหากเขาไม่จัดการในเร็ววัน เกรดของนักเรียนทุกคนยกเว้นแฮร์รี่จะได้ ท(โทรล)


    แม้ดัมเบิลดอร์จะยืนยันว่าเขาจะต้องสอบจรรยาบรรณวิชาชีพแน่นอนหากทำเช่นนั้น



    --------------------------------------------------------------------------


    ขอย้ำอะไรเล็กน้อย แฮร์รี่จะได้คบกับทุกคนจริงๆ..(หมายถึงทุกคนที่เราหมายตา) อาจจะคบทีละคน หรืออาจจะควบสอง บางคนอาจจะคบแค่สามวิ บางคนอาจจะคบกันเป็นปี ดังนั้นไม่ต้องกังวล ไม่ว่าคุณจะพายเรือไหน เรือพังแน่นอน พังทุกเรือ! ไม่ต้องกลัว! เราแฟร์ๆ แต่ในตอนจบนั้นก็ต้องดูให้มันเป็นไปตามความเหมาะสม อาจจะฮาเร็มก็ได้ใครจะรู้ จริงมะ


    แฮร์รี่จะใสอย่างที่ทุกคนคิดรึเปล่านะ หรือมีอะไรในใจ


    ใครเป็นคนดี


    ใครเป็นคนชั่ว


    เด็กๆถูกสอนกันมายังไงกัน


    เรื่องราวจะค่อยๆเปิดเผยอย่างเข้มข้นในปีต่อๆไป สิ่งเดียวที่ควรลุ้นในเรื่องนี้ คือแฮร์รี่จะได้เรียนปีเจ็ดรึเปล่า หรือจะออกไปโลดแล่นกับโลกภายนอกภายใต้นามอันเกรียงไกร แบบไหนกันนะ










    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×