ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter เด็กสาวผู้รอดชีวิต

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : สลิธีริน

    • อัปเดตล่าสุด 8 ธ.ค. 61


    สลิธีริน


      "...."แฮร์รี่นั่งตัวเกร็งขณะที่เด็กชายสามคนในโบกี้เธอต่างเงียบลง คนนึงแนะนำตัวว่าชื่อ รอน วิสลี่ย์กำลังนั่งเอกขเนกสวาปามช๊อกโกแลตพลางคอยถามเด็กชายร่างท่วมที่ชื่อ เนวิลล์ ว่ากินไหม ซึ่งอีกฝ่ายก็เอาแต่ทำหน้าเซื่องซึมเพราะทำคางคกหาย คนที่ชวนอึดอัดสุดก็ไม่พ้นพ่อหนุ่มหัวทองตัวลีบที่นั่งไขว่ห้างอ่านหนังสือตามฉบับผู้ดีเวอร์ชั่น 11 ขวบอยู่ตรงข้ามเธอ ซึ่งไม่พูดอะไรตั้งแต่เดินเข้ามานั่งกับเธอนอกจาก 'ฉันนั่งด้วยได้ไหม' กับหนังสือปกหนาที่มีลายเซ็น 'แด่ลูเซียสมัลฟอย'เด่นหราอยู่มุมปก


    แฮร์รี่ขยับตัวอย่างอึดอัดและเธอพยายามจะมองไปด้านนอก และอดไม่ได้ที่จะส่งเสียง 'ว้าว'ออกมา เธอเห็นทะเลสาปที่สะท้อนแสงอาทิตย์เปล่งประกายระยับ มันเป็นทะเลสาปที่กว้างใหญ่และขนายด้วยภูเขาทั้งสองข้าง แฮร์รี่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะทะเลจริงหรือทะเลสาป ดัดลีย์แพ้อาหารทะเล ป้าเพ็ตทูเนียจึงไม่เคยพาเขาไปทะเล และเธอจึงไม่เคยไปทะเลมาก่อน ไม่เคยเห็น ยกเว้นในทีวี


    "นึกไม่ออกเลยใช่ไหมล่ะว่าต้องใช้สิ่งของมากมายขนาดไหนจึงจะถมมันได้"เสียงยานคางและเย่อหยิ่งของฝั่งตรงข้ามเอ่ยขึ้น แฮร์รี่หันไปมองเพื่อนร่วมขบวนของเธอ และพบว่าเขากำลังมองทะเลสาปอยู่เช่นกัน


    "เธอคงเป็นแฮร์รี่ พอตเตอร์... พ่อของฉันบอกว่าเธอจะเข้าเรียนในปีนี้"แฮร์รี่พยักหน้าอย่างงุนงง แต่หากเทียบกับที่ร้านหม้อใหญ่รั่วแล้ว แฮร์รี่จึงไม่คิดจะสงสัยต่อ


    "พ่อของนายเขาคงชื่อ ลูเซียส มัลฟอย"แฮร์รี่ชวนคุย เดรโกเลิกคิ้วเล็กน้อยอย่างแปลกใจ


    "เธอรู้จัก?"


    "มันเขียนอยู่บนปกหนังสือ"แฮร์รี่ชี้ อีกฝ่ายพลิกดูก่อนจะเงยขึ้นมองเด็กสาว


    "มันอาจจะเป็นชื่อฉันก็ได้"


    "มันถูกตีพิมพ์ปี 1974 มันเก่าเกินไปที่จะเป็นของนาย"ดวงตาคู่สนทนาวาววับมาครู่นึงก่อนที่เขาจะยกยิ้มที่มุมปากอย่างพึงพอใจ


    "ฉันเดรโก...เดรโก มัลฟอย"เด็กชายผมสีบลอนซ์ยื่นมือมาให้เธอ แฮร์รี่จับอย่างแผ่วเบาและปล่อยออกอย่างสุภาพ แต่นั่นกลับทำให้เดรโกทวีความสนใจต่อตัวของเธอมากขึ้น


    "เธอฉลาด ฉันคิดว่าเธอน่าจะได้อยู่เรเวนคลอ" แฮร์รี่เลิกคิ้วอย่างฉงนใจ ไม่ใช่ว่าเธอจะไปอยู่ฮอกวอตส์หรอกหรอ? และเหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจสีหน้างุนงงของเธอ


    "ในฮอกวอตส์จะถูกแบ่งออกเป็น4บ้าน กริฟฟินดอร์ เรเวนคลอ ฮัฟเฟิลพัพ และสลิธีริน มัลฟอยอยู่สลิธีรินมาทุกรุ่น ดังนั้นฉันไม่ค่อยลุ้นเท่าไหร่"แฮร์รี่ร้อง อ่อ~ ขึ้นมาเบาๆ และในขณะที่บรรยากาศการสนทนาค่อนข้างผ่อนคลายลง เด็กชายที่กำลังนั่งเขมือบขนมอยู่ข้างๆก็อยากจะร่วมวงด้วย


    "กินขนมหน่อยไหม เธอไม่กินมันเสียดายออก" ซึ่งพอแฮร์รี่เห็นคราบช๊อกโกแลตที่เปื้อนรอบปากเขาเธอก็เลยปฏิเสธไปอย่างสุภาพแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้เขา


      "อยู่เฉยๆสิ"แฮร์รี่ดุเมื่ออีกฝ่ายพยายามดันหน้าหนี และผละออกเมื่อพบว่ามันสะอาดพอแล้ว


    เพราะว่าเธอดูแลดัดลีย์มานาน เธอเลยติดนิสัยชอบดูแลมาตั้งแต่เด็ก เห็นเด็กมาทำตัวเลอะอยู่ข้างๆก็อดดูแลไม่ได้ แฮร์รี่ถอนหายใจ ดูเหมือนเธอจะมีนิสัยแปลกๆติดตัวซะแล้วสิ

     











    "สลิธีริน!!!"แฮร์รี่กระพริบตาปริบๆ อยู่ที่โต๊ะนั่งสลิธีริน เธอเอียงคอเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ และหันไปทางเด็กปีหนึ่งคนเดียวที่เธอรู้จักในบ้านสลิธีริน


      "นายบอกว่าฉันจะอยู่เรเวนคลอ?"


      "มันเป็นแค่การคาดเดาเท่านั่น"เดรโกรีบตอบดักขึ้นมาในทันที ใครจะไปคิดว่าเด็กหน้าซื่อตาใสคนดังคนนั้นจะมาอยู่สลิธีริน 'สลิธีริน' เลยนะ จอมมารคนนึงสั่งสมลูกสมุนไว้ในบ้านนี้เพียบ ส่วนอีกคนเป็นเด็กบ้านนี้เลยเชียวนะ


    "แต่ฉันดีใจที่ได้อยู่นี่นะ"แฮร์รี่พูดขึ้นเบาๆหลังจากเหตุการณ์ชุลมุนมาขอจับมือเธอเงียบลงแล้ว ขณะเดียวกันเดรโกก็เลิกคิ้ว เขาวางมือจากทาร์ตตรงหน้าแล้วกอดอกบ่งบอกว่าพอแล้วสำหรับมื้อนี้


      "เพราะว่าที่นี่มีนายอยู่.."ลมหายใจของเดรโกชะงักไปวูบนึง ก่อนที่เขาจะทำตาฉงนมองไปยังแฮร์รี่ เด็กสาวยังคงทำตาโตๆใสๆมองเขาอย่างไม่คิดอะไร


    "เธอรู้ความหมายของสิ่งที่พูดมาไหม?"เดรโกย้ำ แฮร์ลี่นิ่งคิดไปครู่นึงก่อนจะเอียงคอส่งสายตางุนงงมาให้เขา...เดรโกแทบกัดลิ้นตาย


    "ก็ถ้าฉันอยู่กริฟฟินดอร์กับรอน ก็จะไม่ค่อยได้เจอเดรโกใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าอยู่สลิธีรินกับเดรโก ก็ได้อยู่กับเดรโก แล้วรอนก็มาหาได้ด้วย....อืม....ฉันอยากเป็นเด็กที่ฉลาดมากกว่า..เอ่อ...ฉันหมายถึง ฉันอยากดูเป็นแบบนายมากกว่ารอน"แฮร์รี่เป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ทั้งชีวิตอยู่ในจุดต่ำสุดของห่วงโซ่อาหารมาโดยตลอด อย่างน้อยก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นอีกแล้ว...และเธอก็ไม่ได้อยากถูกมองรวมกับรอน....เธอไม่ได้ว่ารอนนะ


      "พอตเตอร์ ไม่หิวรึไง ฉันไม่เห็นเธอกินอะไรสักอย่าง?"เดรโกเปลี่ยนเรื่อง เมื่อเห็นว่าจานของแฮร์รี่ยังสะอาดใสกิ๊ง แฮร์รี่ดูหนักใจขณะที่เธอมองบรรดาอาหารมากมายบนโต๊ะ


      "ฉันเลือกไม่ถูก.."


      "อะไรนะ?"เดรโกถามย้ำ ส่วนแฮร์รี่แก้มแดงอย่างอับอาย เธอกำมัดแน่นแล้วหันไปหาเดรโกอีกครั้ง


       "ก็บอกว่าเลือกไม่ถูกไงเล่า!!!" แล้วแฮร์รี่ก็ต้องก้มลงปิดหน้าอย่างอับอายเมื่อทั้งโต๊ะหันมามองเธออย่างงุนงง ขณะที่เดรโกกำลังกลั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่ข้างๆ เบลส ซาบินี่ที่ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดเลยแก้ปัญหาด้วยการตักพายมาใส่จานแฮร์รี่ แฮร์รี่ถามว่ามันเป็นพายอะไร และโล่งใจที่มันเป็นพายไก่ ไม่ใช่พายไส้อะไรที่มันประหลาดๆ


      "เธอควรกินเยอะๆ เธอผอมมาก เตี้ยมากด้วย"แพนซี่ พาร์กินสันกล่าว แล้วตักไก่งวงใส่ไว้ในจานของแฮร์รี่ แฮร์รี่แย้งขึ้น เธอไม่ได้เตี้ย!! แล้วเธอก็กัดไก่ที่อีกฝ่ายวางให้อย่างเกรี้ยวกราดจนหมดจาน


      "แล้วปกติเธอกินอะไร?"ธีโอดอร์ น๊อตถาม แฮร์รี่คาบแอปเปิ้ลไว้ในปากขณะที่ฟังคำถาม เธอทำท่านึกก่อนจะค่อยๆเรียบเรียง


      "ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกขนมปัง ไข่ ถ้าโชคดีป้าเพ็ตทูเนียซื้อเนื้อหรือเบคอนมาฉันก็ทำได้...."แฮร์รี่เงียบไป "อันที่จริงฉันชอบกินแฮมเบิร์กมากนะ แต่ฉันทำไม่เป็นก็เลยไม่ค่อยได้กิน ลุงเวอร์นอนไม่อนุญาติให้ฉันใช้เตาอบ แฮมเบิร์กจะอร่อยกว่าถ้าห่อฟลอยด์แล้วอบมัน"


       "หลักการเดียวกับพิซซ่าย่างเตาหิน!"แครบพูดแทรกขึ้น และนั่นทำให้แฮร์รี่กรีดร้อง


       "ใช่!!"แฮร์รี่แท๊คมือกับแครบและเธอก็ได้เพื่อนในทันที แฮร์รี่กลายเป็นจุดสนใจขึ้น เพราะมันไม่ใช่เรื่องปกติที่เด็กอายุ 11 ปีที่มีขนาดตวสูงกว่าเอลฟ์ประจำบ้านไม่กี่เซนต์จะได้เข้าครัว ไม่ต้องพูดถึงบ้านที่มีแต่คุณหนูคุณชายอย่างสลิธีรินเลย แฮร์รี่ตื่นเต้น และเธอไม่คิดมาก่อนเลยว่า การหาเพื่อนมันจะง่ายอะไรขนาดนี้


          แต่แฮร์รี่ไม่ค่อยชอบแพนซี่เท่าไหร่


        แพนซี่เป็นเพื่อนสาวคนสนิทของเดรโก และแฮร์รี่ดูออกว่าอาการตาเป็นรูปหัวใจและทำท่าจะเข้าไปคลอเคลียตลอดเวลานั่นไม่ได้แปลว่า 'รักเพื่อน' ไม่ได้หมายถึงว่าเธอไม่ชอบตรงนั้น แต่เธอไม่ชอบที่เพื่อให้เดรโกสนใจแพนซี่จึงกรีดร้องใส่ทุกคน และพยายามเกทับด้วยทุกอย่างที่มี แฮร์รี่ไม่ชอบตรงนั้นมากๆ เพราะเธอไม่มีอะไรเลย เธอหยิบชูครีมขึ้นมากินแก้หงุดหงิด


       "ไหนเธอบอกว่ากินไม่ไหวแล้วไง?"เดรโกเอ่ยถาม แฮร์รี่รีบเคี้ยวชูครีมกลืนก่อนจะหันไปตอบเดรโกเสียงดังพร้อมๆกับแพนซี่


       "เค้กก็ส่วนเค้กสิ!! มันไม่เกี่ยวกัน!!/เค้กส่วนเค้ก! ไม่เหมือนกันนะ!!" สองสาวมองหน้ากันทันทีที่จบประโยค เดรดกที่โดนตวาดเป็นครั้งที่สองของวันทำหน้าอึ้ง


       โอเค แพนซี่คือเพื่อนรักฉัน แฮร์รี่คิด






       "วันหยุดหน้าเธอไปบ้านฉันนะแฮร์รี่!! ฉันมีชุดเยอะแยะเลยที่จะให้เธอใส่ ไม่อยากจะเชื่อเลยเขาให้เด็กผู้หญิงใส่ของแบบนั้นได้ยังไง"แพนซี่บ่นขณะที่กอดแขนเล็กๆของแฮร์รี่ไปตลอดทาง พรีเฟคนำทางไปที่หอนอน


       "ถ้าลุงเวอร์นอนอนุญาตินะ"แฮร์รี่ยิ้มแห้งๆ และนั่งลงในส่งที่พี่จัดให้เธอนั่งลง และเมื่อมองไปรอบๆเธอก็เห็นว่าปีหนึ่งทุกนอยู่ด้วยกันตรงนี้ทั้งหมด แฮร์รี่ห่อตัวเล็กน้อย เธอไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นักเมื่อไฟถูกหรี่ลง และเห็นบางอย่างแวบไปมาที่หน้าต่างที่อยู่ใต้น้ำของเธอ


       อ่ะ


      แฮร์รี่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อบางอย่างสัมผัสกับหลังเธอ พอหันไปก็พบกับเดรโก นิ้วเขาชูนิ้วชี้อยู่แล้วกำลังส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะลงมือวาดรูปลงบนหลังเธอ แฮร์รี่จั๊กจี๊เล็กน้อย ก่อนที่จะพิศวงเมื่อรู้สึกได้เลยว่ามันรู้สึกดีแปลกๆ


      "ขอแสดงความยินดี"แฮร์รี่เงยมองพรีเฟคด้านหน้า "ฉันพรีเฟ็ค เจ็มม่า ฟาร์เลย์..ยินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านสลิธีริน สัญลักษณ์ของบ้านเราคือ งู ซึ่งเป็นสัตว์ที่เฉลียวฉลาดที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งมวล สีประจำบ้านของเราคือสีเขียวมรกต....และสีเงิน ห้องนั่งเล่นรวมของเราซ่อนอย่างลึกลับอยู่ในคุกใต้ดินในปราสาท อย่างที่คุณจะได้เห็นหน้าต่างนี้คือทะเลสาปของฮอกวอตส์ ในบรรดาสี่บ้าน ถ้าไม่รวมพวกงี่เง่าที่ตกน้ำเพราะอย่างลองของอย่างกริฟฟินดอร์แล้ว เราสนิทกับปลาหมึกยักษ์ที่สุด และมีสัตว์อีกหลายชนิดที่น่าสนใจ ในห้องนั่งเล่นของเรามีกลิ่นอายของความลึกลับอยู่อย่างเต็มเปี่ยม"


       เจ็มม่าหันไปมองหน้าต่างเมื่อได้ยินเสียงเคาะ เขายักไหล่ก่อนจะหันกลับมาที่น้องๆอีกครั้ง "เอาล่ะ มีบางสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับบ้านสลิธีริน..และบางอย่างที่ควรจะลืม..


       ประการแรกเลย ควรจะลืมเรื่องที่คนมักเข้าใจผิดก่อนเลย คุณอาจจะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับบ้านสลิธีรินมากมาย ที่พวกเรานั้นเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืด และจะคบหากับคุณถ้าทวดของคุณเป็นพ่อมดที่มีชื่อเสียง...อืม...ฉันไม่ปฏิเสธที่พวกเราเด็กสลิธีรินกลายเป็นพ่อมดศาสตร์มืดจำนวนมาก...และเรื่องของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร...แต่จริงๆแล้วบ้านอื่นอีกสามบ้านก็มีเช่นกัน แต่พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมรับมัน


       และอีกความจริงที่น้อยคนนักจะรู้และหลายคนเลือกที่จะไม่พูดถึงคือ เมอร์ลินพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ก็เคยเป็นนักเรียนบ้านสลิธีรินมาก่อน เขาเรียนรู้ทุกอย่างจากบ้านนี้เลย คุณอยากเจริญรอยตามเมอร์ลินไหม? หรือคุณอยากจะนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานเก่าๆของเอ็กลันติน พัฟเฟ็ต ที่อยู่ในบ้านฮัฟเฟิลพัฟ ผู้ผลิตเครื่องฟองสบู่ล้างจาน...ฉันไม่คิดงั้นนะ


       แต่นั่นก็เพียงพอที่จะบอกว่าเราไม่ได้เ็นอย่างที่ใครๆกล่าวถึง มาพูดถึงตัวตนของเราจริงๆดีกว่า ซึ่งเป็นบ้านที่เจ๋งและแข็งแกร่งทีุ่ดในฮอกวอตส์ พวกเราเล่นเพื่อชัยชนะ เพราะพวกเราให้ความสำคัญกับเกียรติยศ และธรรมเนียมของบ้านสลิธีริน นอกจากนี้เรายังได้รับความเคารพจากเพื่อนนักเรียนมากมาย บางส่วนเคารพพวกเราเป็นเพราะความกลัว ด้วยชื่อเสียงด้านมืดของพวกเรา บางทีเขาคงคิดว่าเขาอาจจะอ้วกเป็นทากถ้าเผลอเดินเฉียดเด็กสลิธีริน หรือกลายเป็นหินถ้าเผลอจ้องตาของเรา มันฟังดูสนุกดีนะว่าไหม พวกเรามีคำแนะนำและวิธีที่คุณจะสามารถเข้าหองสมุดที่รวบรวมคาถาสาปแช่งด้ทั้งหมด และคุณก็สามารถรู้ได้ว่าใครเกิดความรู้สึกอยากขโมยกล่องดินสอของคุณ


       แต่พวกเราไม่ใช่คนเลวร้ายหรอกนะ เราก็เหมือนสัญลักษณ์ของเรา.. งู..ที่คล่องแคล่ว มีอำนาจ และมักจะโดนเข้าใจผิดบ่อยครั้ง เพราะคุณรุ้ดีว่า ซัลลาซาร์ สลิธีรินมีเกณฑ์การคัดเลือกนักเรียนของเขายังไง 'เมล็ดพันธุ์แห่งความยิ่งใหญ่' คุณถูกเลือกมาอยู่ในนี้ เพราะคุณมีศักยภาพที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ คุณมีคุณสมบัติ และคุณมีเมล็ดพันธุ์อยู่ในตัวของคุณ เชื่อได้เลยว่าถ้าคุณเดินไปทางไหนก็ตามและเจอให้ที่ผูกเนกไทสีเขียว แสดงว่าเขามีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน


       อย่าพึ่งง่วงกันสิ"เจ็มม่าหัวเราะเมื่อเด็กหลายคนทำท่าทางง่วงและต้องการจะเข้านอนเต็มที "เอาล่ะ สิ่งเล็กๆน้อยๆที่ควรจะรู้: ผีประจำบ้านของเราคือ บารอนเลือด ถ้าคุณทำดีกับเขา เขาก็จะช่วยปกป้องคุณ แต่นั่นหมายถึงเขาจะต้องทำให้คนอื่นหวาดกลัว แค่อย่าไปถามเขาว่าทำไมถึงมีเลือดเปื้อนตัว เขาไม่ชอบมาก และหวังว่าฉันจะไม่เห็นเด็กบ้านสลิธีรินคนไหนโดนพีฟฟ์แกล้ง"


       "รหัสผ่านสำหรับเข้าห้องนั่งเล่นรวมจะเปลี่ยนทุกๆสองสัปดาห์ จับตาดูที่กระดานให้ดี ไม่มีคนนอกเข้ามาในหอสลิธีรินมากกว่าเจ็ดศตวรรษแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเพราะเข้าไม่รู้รหัสผ่านหรือหาห้องนั่งเล่นเราไม่เจอก็ตาม แต่ไม่เคยมีใครเข้ามา เจ็ด ศตวรรษแล้ว รวมถึงศาสตราจารย์บ้านอื่นด้วย....เอาล่ะ พอแค่นี้ ฉันหวังว่าพวกเธอจะหลงรักสลิธีริน...อย่างที่พวกรุ่นพี่ของเธอทุกคนเป็น"

    :27/08/60 แก้คำผิดครั้งที่ 1


    เกร็ดความรู้ : เรื่องที่ไม่มีใครเข้าหอนอนของสลิธีรินนอกจาสลิธีรินมาเจ็ดศวรรษแล้วเป็นเรื่องจริง....แต่สถิติดังกล่าวโดยทำลายโดย แฮร์รี่ พอตเตอร์ และโรนัลล์ วิสลีย์ ในตอนที่เขาปลอมตัวเป็นแครบและกอยล์เพื่อหลอกถามเดรโกเรื่องคนที่ถูกเลือกในปีที่สอง



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×