คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13 : บ้านใหม่
แฮร์รี่ไม่เคยฟังนิทานก่อนนอนมาก่อน อย่างน้อยก็โดยตรง เธอเคยได้ฟังอยู่บ้าง เวลาที่ป้าลุงเวอร์นอนเล่านิทานให้ดัดลีย์ฟัง และขอบคุณที่ลุงเวอร์นอนมีเสียงที่ดัง กับสถาปัตยกรรมที่กระหยัดวัสดุ เธอที่นอนอยู่ห้องข้างๆจึงได้ยินด้วย แม้ส่วนนึงของเธอจะยังคงคิดว่าดัดลีย์โตเกินจะฟังนิทานก่อนนอนแล้วก็ตาม
"เธออยากฟังเรื่องไหนล่ะ"
และตอนนี้ลุงลูเซียสกำลังพยายามจะยัดเยียดนิทานก่อนนอนให้เธอ และในที่นี้-ขอบคุณสวรรค์-ต้องบอกก่อนว่าลุงลูเซียสไม่ได้นอนห้องเดียวกับเธอ เขานอนห้องข้างๆที่มีประตูเชื่อม แม้ว่ามันจะถูกกว่าเกือบครึ่งถ้าไม่มีก็ตาม แต่ลุงลูเซียสบอกว่ามันปลอดภัยกับเธอมากกว่า และแฮร์รี่ไม่รู้ว่าทำไมแต่หน้าตาของเขาดูจริงจังมากทีเดียว
"....อะไรก็ได้ที่..ไม่ใช่หนูน้อยหมวกแดง หรือลูกหมูสามตัวได้ไหมคะ" ลูเซียสทำหน้าประหลาดๆเมื่อได้ยินที่เธอพูด
"แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องพวกนั้นแน่ มันไร้สาระแฮร์รี่ หมูหรือหมาที่ไหนจะพูดได้กัน" ลูเซียสลากเก้าอี้ของเขามาข้างๆเตียงของเด็กสาว
"ฉันจะเล่าเรื่อง..การนัดพบที่ซะมัรรา" แฮร์รี่เอียงคอเล็กน้อย เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
" มีพ่อค้าคนนึง เดินทางมาค้าของที่กรุงแบกแดดในเช้าของวันที่อากาศดีที่สุด ที่ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนคับคั่ง" ลูเซียสเริ่มเล่า "และในฝูงคนเหล่านั้น พ่อค้าได้สบตากับชายผู้นึง ซึ่งมองมายังเขาด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก และวินาทีนั้น เขาก็รู้ได้ ว่าชายคนนั้นคือความตายของเขา"
"..."แฮร์รี่เงียบฟังอย่างผู้ฟังที่ดี...ถ้าจะให้พูดอย่างชัดเจนคือแฮร์รี่เพลิดเพลินไปกับน้ำเสียงที่ทุ้มนุ่มทรงพลังของอีกฝ่ายอย่างมาก
"พ่อค้าจึงเร่งออกเดินทาง ละทิ้งทุกอย่าง และหนีไปให้ไกลที่สุด เขาหนีความตาย ไปจนถึงซะมัรรา ที่ๆเขาคิดว่าความตายจะตามหาเขาไม่ถึง แต่ในยามค่ำคืน ก้าวแรกที่เขาเหยียบเข้าซะมัรรา ความตาย ในรูปร่างที่น่าหวั่นประพรึง ยืนจ้องมองเขาด้วยดวงตาสีแดงฉานที่น่ากลัว"
" 'ฉันยอมแล้ว' พ่อค้าพูด 'แต่ตอบฉันหน่อยได้ไหม เมื่อเช้านี้ที่แบกแดด เมื่อท่านเห็นฉัน ทำไมจึงดูประหลาดใจนัก'"
"ความตายจ้องมองพ่อค้าอย่างเงียบสงบ ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากตอบด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น 'นั่นเป็นเพราะ ข้ามีนัดกับท่านยามมืด' ความตายพูด 'ที่ซะมัรรา'"
"...."แฮร์รี่เงียบ เธอกระพริบตาปริบๆ ก่อนที่จะขมวดคิ้ว " ซะมัรราอยู่ไกลจากแบกแดดหรอคะ?"
"ถ้าตามระยะทางของมักเกิ้ล ใช่ ไกลอยู่" ลูเซียสตอบ
"งั้นถ้าพ่อค้าอยู่ที่กรุงแบกแดด ก็จะไม่ตายหรอคะ?"
"ไม่มีใครรู้ แฮร์รี่" เขาว่า "เธอไม่รู้หรอก นิทานของมักเกิ้ลเรื่องนี้จะสอนว่า เธอไม่สามารถหนีความตายไปได้พ้น"
ลูเซียสลูบเส้นผมฟูๆของเธออย่างแผ่วเบา ลูเซียสไม่เคยเล่านิทานก่อนนอนให้เดรโกฟัง เดรโกมักจะบอกว่าเขาโตเกินกว่าที่จะฟังนิทานก่อนนอน และยิ่งหนักขึ้นเมื่อเขาเข้าปีหนึ่ง บางครั้งลูเซียสรู้สึกว่าเดรโกโตเร็วเกินไปสำหรับเขา
"แต่นิโคลัสเฟรมเมลหนีความตายได้นะคะ..หลายร้อยปีเลย" แฮร์รี่พูดด้วยตาใสแจ๋ว และนั่นทำให้ลูเซียสพึงพอใจ
"ดูสิ มีสาวน้อยแถวนี้เรียนรู้นอกบทเรียนซะด้วย" เขายิ้ม "มักเกิ้ลส์ ไม่สามารถหนีความตายได้ แฮร์รี่...แต่เราไม่ใช่..เราคือผู้วิเศษ...ในทางที่ถูกต้อง กับบุคคลที่ถูกต้อง...ความตาย...เป็นปัญหาที่เล็กพอๆกับสิวขึ้นที่หน้าผากนั่นล่ะ"
"...หนูยังไม่เคยมีสิวขึ้นเลย" แฮร์รี่ขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจว่านั่นแปลกรึเปล่า
"เธอควรคุยเรื่องนี้กับสาวๆมากกว่านะ" ลูเซียสหัวเราะ "ถึงฉันจะไว้ผมยาว แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะสาวน้อย"
"ศาสตราจารย์สเนปบอกว่า หนูจะสูงขึ้น และน้าซิสซ่าบอกว่าหนูจะสวยขึ้น...มันจริงไหมคะ?" แฮร์รี่ถาม "หนูกลัวว่ามันจะเป็นแค่คำปลอบใจ"
"แน่นอนที่รัก เธอสูงกว่าครั้งล่าสุดที่เราเจอกันเกือบฝ่ามือนึงเลยนะ ฉันตกใจมากเลย" เขาว่า "อีกไม่กี่ปีฉันก็คงอุ้มเธอไม่ได้แล้วล่ะมั้ง"
"..แล้วเรื่อง..สวยขึ้นล่ะคะ...แพนซี่สวยมาก และน้าซิสซ่าก็สวยมาก หลายๆคนในโรงเรียนสวยมาก...แต่หนูเป็นแค่ยัยเด็กแว่นผมฟู..แถมตัวเตี้ยด้วย...หนูไม่อยากให้คนมองแพนซี่ไม่ดีเวลาอยู่กับหนู"
"ใครยัดเรื่องนี้ใส่หูเธอ?" ลูเซียสขมวดคิ้ว หน้าตาเขาเหมือนอยากจะสาปใครเข้าจริงๆ
"...ป้ามาร์ช..พี่สาวของลุงเวอร์นอน ที่-ในที่นี้-รับหนูมาเลี้ยง เรียกหนูว่ายัยผ้าขี้ริ้ว...เพราะหนูขี้เหร่ใช่ไหมคะ?" แฮร์รี่ขดตัวลง เธอซ่อนใบหน้าครึ่งนึงไว้ใต้ผ้าห่ม และตอนนี้เธอระลึกได้อีกด้วยว่าเธอลืมแว่นไว้ที่บ้านเดอสลี่ย์ ทำไมเธอถึงลืมของสำคัญแบบนั้นได้ ไม่แปลกใจเลยที่โลกของเธอเบลอได้ขนาดนี้
"ไม่มีทางอยู่แล้วแฮร์รี่ เธอสวยมาก" ลูเซียสพูดออกมาในทันที ก่อนที่เขาจะกระแอมเล็กน้อยเมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรที่อยู่ในใจออกไป "มักเกิ้ลพวกนั้นอิจฉาเธอต่างหากสาวน้อย"
ลูเซียสมองใบหน้าของเด็กสาวอย่างเงียบๆ เธอมีดวงตาที่กลมโต ตีด้วยกรอบรูปอัลมอนด์ขนตาที่งอนยาวธรรมชาตินั้นเสริมประกายของดวงตาสีมรกตให้สดใส ราวกับความสดใสของทั้งโลกรวมอยู่ในดวงตาของเธอ จมูกทรงหยดน้ำเล็กๆแสนน่ารัก ผิวที่เนียนละเอียดอย่างน่าเหลือเชื่อ ริมฝีปากเป็นกระจับสีระเรื่อ ที่คล้ายจะเชิญชวนใครก็ตามที่จ้องมองมัน โน้มตัวลงไปครอบครองอย่างถนุถนอม และช่วงชิงความหอมหวานในโพรงปากนั้นออกมาจนหมดทุกหยดหยาด
ลูเซียสกลืนน้ำลาย
" เธอสวยมาก สวยกว่าใครก็ตามที่ฉันเคยเจอ"
แฮร์รี่คิดว่ามันคงเป็นคำปลอบใจ...แต่มันก็เป็นคำปลอบใจที่ทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำ แฮร์รี่มุดเข้าไปในผ้าห่ม พลางพยักหน้าหงึกหงัก แม้ที่ลูเซียสเห็นจะเป็นเพียงผ้านูนๆที่เสียดสีไปมา แต่เขาก็คิดว่าอีกฝ่ายคงจะเข้าใจแล้ว
"นี่ดึกมากแล้ว ฉันให้เธอนอนดีกว่า" ลูเซียสโน้มตัวลง-ส่วนที่คิดว่าเป็น-หน้าปากของแฮร์รี่อย่างแผ่วเบาผ่านผ้าห่มผืนหนา "ราตรีสวัสดิ์แฮร์รี่"
แฮร์รี่โผล่ออกมาจากผ้าห่มแค่ครึ่งตา "ราตรีสวัสดิ์ค่ะ คุณลุงลูเซียส"
ลูเซียสยิ้มให้ ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปที่ห้องพักของตนเอง..และไม่ลืมที่จะร่ายคาถาคุ้มกัน และปิดไฟให้เธอก่อนด้วย
ลูเซียสตื่นขึ้นมาในตอนเช้า...ด้วยความอ่อนล้าถึงที่สุด เขาใช้เวลาทั้งคืนนึกถึงนาซิสซ่า เดรโก และบอกตัวเองว่าเด็กผู้หญิงที่อยู่หลังประตูสีขาวบานนั้นอายุสิบสองปี รวมถุงกร่นด่าตัวเองที่ไม่หยิบหนังสือกฏหมายพรากผู้เยาว์ที่เซเวอรัสไม่ได้เอากลับไปมาด้วย กว่าเขาจะได้หลับดีๆก็ต้องพึ่งบรั่นดีสองแก้ว และคาถาผ่อนคลายอีกเล็กน้อย และนั่นก็เข้าช่วงเวลาที่เกือบเช้าเข้าไปแล้ว
ลูเซียสมีสมมุติฐาน....ความสงสัย..การคาดเดา..อะไรก็ตาม แต่เขากำลังคิดว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหนที่แฮร์รี่ พอตเตอร์จะมีเชื้อสายของวีล่าอยู่ในตัว เพราะนั่นจะช่วยอธิบายได้เป็นอย่างดีถึงสเน่ห์อันล้นเหลือของเด็กสาวคนนี้
จากทางฝั่งแม่ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยเพราะเท่าที่ลูเซียสรู้มา และเกือบทุกคนในโลกเวทย์มนตร์ก็รู้กันคือ ลิลี่ พอตเตอร์เป็นเพียงเลือดสีโคลน ผลผลิตที่ผิดพลาด อะไรก็ตาม แต่ก็เป็นลูกมักเกิ้ล ผู้ซึ่งไม่เคยรู้จักโลกเวทย์มนตร์มาก่อน อย่างไม่น่าให้อภัย
ถ้าพูดถึงฝั่งพ่อ ลูเซียสก็ไม่เคยได้ยินว่ามีวีล่าอยู่ในแผนผังส่วนไหนของตระกูล นอกเสียจากที่ว่าเป็นตระกูลเก่าแก่ที่แสนศักดิ์สิทธิ์...ยังไง...ก็หมายถึงก่อนที่เจมส์ พอตเตอร์จะทรยศไปแต่งงานกับเลือดสีโคลน....
...มันน่าหงุดหงิดแต่พอนึกถึงว่าเพราะเรื่องนั้นจึงกำเนิดแฮร์รี่ผู้น่ารักคนนี้ขึ้นมา ความไม่พอใจของลูเซียสก็หายไปเกือบหมดแล้ว
"ลุงลูเซียสตื่นรึยังคะ?" เสียงเคาะประตู ตามมาด้วยเสียงใสแจ๋วของสาวน้อยที่ทำสมองเขาปั่นป่วนนั้นดังขึ้นที่ประตู
ฉันอยากได้ยินเสียงเธอแบบนี้ทุกเช้าจัง
"ฉันตื่นแล้ว แต่งตัวซะแฮร์รี่ อีกสิบนาทีเราจะออกเดินทางกัน" เขาตอบกลับไป ในใจเบิกบานอย่างที่สุด เขาคงจะคิดถึงแฮร์รี่ ตลอดเวลาที่อาบน้ำเลย
แฮร์รี่ได้ยินเสียงตอบกลับมา เธอก็นั่งรอเงียบๆอยู่บนเตียง...เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว..อาจจะเป็นเพราะแปลกที่ หรือเตียงที่นุ่มเกินไป ทำให้แฮร์รี่ตื่นเช้ามาก มากพอที่เธอจะอาบน้ำ แต่งตัว ยืนมองวิวจากหน้าต่าง และเมื่อเธอเห็นแสงแดดที่เริ่มจ้าขึ้นเรื่อยๆจึงตัดสินใจปลุกผู้ปกครอง-หมายถึงตอนนี้-ของเธอ
แน่นอนว่าผู้ปกครองตามกฏหมายของเธอก็ยังคงเป็นครอบครัวเดอสลี่ย์ แน่นอนว่ามันเป็นอย่างนั้นในเมื่อศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ทิ้งเธอไว้หน้าบ้านของเดอร์สลี่ย์ แฮร์รี่ไม่แน่ใจว่ามันจะดีกว่านี้ไหมถ้าดัดลี่ย์ไม่ได้เกิดก่อนเธอและครอบครองสิทธิ์ในการกรีดร้องลั่นบ้านอยู่ก่อนแล้ว
หลังๆมานี้แฮร์รี่สงสัย ว่าทำไมถึงต้องเป็นบ้านเดอร์สลี่ย์ ทำไมถึงต้องเป็นครอบครัวที่แย่ที่สุดที่แฮร์รี่เคยรู้จักอย่างบ้านเดอร์สลี่ย์ ทำไมไม่เป็นบ้านของตระกูลพอตเตอร์สักคน
คิดมาถึงตรงนี้แฮร์รี่ก็เริ่มสงสัย แล้วญาติฝั่งพ่อของเธอมีใครบ้าง เธอมีคุณลุง หรือคุณอาไหม..แล้วคุณปู่คุณย่าล่ะ...ถ้ามี...ทำไมถึงไม่เคยมาหาเธอเลย..ไม่เคยช่วยอะไรเธอ....หรือคุณพ่อของเธอจะมีปัญหากับครอบครัว...
แฮร์รี่คิดว่ามันมีความเป็นไปได้อยู่สูงเลย
"แฮร์รี่" แฮร์รี่ได้ยินเสียงเคาะประตูสองครั้ง ก่อนที่ลุงลูเซียสจะเปิดประตูเข้ามา "พร้อมรึยัง?"
"..."แฮร์รี่เงียบ เธอเดินไปที่กระเป๋า ด้วยสีหน้าที่ยังคงครุ่นคิด "ลุง..รู้จักตระกูลพอตเตอร์ไหมคะ?"
"..โอ้..." เขามีสีหน้าประหลาด "ฉันก็เล่าได้ไม่ละเอียดนักแต่ก็พอเล่าได้คร่าวๆ"
แฮร์รี่มีสีหน้าสนใจมาก เธอนั่งอย่างเรียบร้อยบนกระเป๋าของเธอ
"พอตเตอร์...ตระกูลของเธอเคย..เคยนะ อยู่ในยี่สิบแปดสกุลศักดิ์สิทธิ์-...หมายถึงตระกูลของเลือดบริสุทธิ์น่ะ...อย่าง มัลฟอย พาร์กินสัน ...หรือแม้กระทั่งวิสลี่ย์"
"...ที่ไม่อยู่...เป็นเพราะพ่อแต่งงานกับแม่รึเปล่าคะ..."
"อ้อ ไม่ใช่หรอกเด็กน้อย ตระกูลพอตเตอร์ถูกตัดออกจากยี่สิบแปดตระกูลศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยทวดของเธอแล้ว...เฮนรี่ พอตเตอร์ เขาเป็นคนที่สองในตระกูลพอตเตอร์ที่ได้ที่นั่งในศาลสูงวินเซนต์กามอนท์ เขาถูกถอดออกเพราะต่อต้านคำสั่งที่ผู้วิเศษจะไม่ยื่นมือไปช่วยมักเกิ้ลในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง....ก็แค่แรงสนับสนุนหลักล่ะนะ เพราะด้วยอะไรหลายๆอย่าง เขาก็จ้องจะถอดกันอยู่แล้ว"
"...."
"จริงๆแล้ว เธอจะได้เรียนมันในปีนี้ น่าจะมีข้อมูลพวกนี้อยู่ในห้องสมุดของโรงเรียนนะ เธอควรจะลองไปหาดู"
"ทำไม...คุณปู่คุณย่าถึงไม่เคยมาหาหนูเลยคะ...เขาไม่ชอบหนูรึเปล่า"
"โอ้ ที่รัก ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน" ลูเซียสกางแขนตามสัญชาติญาณ และนั่นดูดให้แฮร์รี่เข้าไปอยู่ในอ้อมอกเข้าอย่างเป็นธรรมชาติ "เสียใจที่จะต้องบอกเธอ แต่ทั้งสองพ่ายแพ้ให้กับโรคฝีมังกร..และจากไปก่อนที่เธอจะเกิดเสียอีก"
"...ความตายคืออะไรหรอคะ" แฮร์รี่ซบแก้มของเธอกับไหล่ของลูเซียส เธอไม่เคยมีใครที่คอยมาตอบคำถามให้เธออย่างนี้มาก่อน และนั่นทำให้เธอสบายใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยเป็นมา
"ไม่คิดว่ามันเร็วไปที่จะถามเรื่องนี้หรอ?" ลูเซียสลอบเลิกคิ้ว " เธอยังมีชีวิตอีกยืนยาวสาวน้อย"
"บางทีความตายของหนู อาจจะกำลังเดินทางมาก็ได้นะคะ" แฮร์รี่พูดอย่างแผ่วเบา
"...เอางี้....เธอต้องไปหาคำตอบมาให้ฉันก่อน..ว่าชีวิตคืออะไร..แล้วฉันจะตอบคำถามให้ ว่าความตายคืออะไร ตกลงไหม?" เขาเสนอ แฮร์รี่ดูงุนงง แต่เธอก็พยักหน้ารับ
ตอนนั้นเองที่ลูเซียสระลึกได้ว่า เด็กสาวที่เขานั่งจ้องประตูทั้งคืนเพื่อที่จะไม่ข้ามมาหอมแก้ม จูบ หรืออะไรก็ตามนั้นกำลังอยู่ในอ้อมกอดของเขา ยิ่งกอดก็ยิ่งรับรู้ได้ว่าตัวของเธอเล็กมาก และนุ่มนิ่ม ไม่ว่าจะเป็นแขน หรือเอว จับเพียงเบาๆก็รู้สึกราวกับว่ากระดูกจะแหลกสลายคามือ กลิ่นหอมๆของสบู่โรงแรมราคาถูก เย้ายวนยิ่งกว่าน้ำหอมราคาแพงเมื่ออยู่บนเรือนร่างเล็กๆของแฮร์รี่ และเส้นผมของเธอ
"ทำไมผมเธอถึงได้ฟูขนาดนี้ทั้งที่บรรพบุรุษเธอเป็นคนคิดค้นน้ำยายืดผมเงางามเนี่ย" ลูเซียสเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง
".....เมื่อคืน นายพาสาวน้อยของฉันไปอยู่ไหนนะ?" แฮร์รี่คิดว่าศาสตราจารย์สเนปกำลังจะเขมือบคุณลุงลูเซียสเข้าปากแล้ว เธอถูกสั่งให้นั่งอยู่ที่เก้าอี้ มีคุกกี้และช๊อกโกแลตร้อนตั้งอยู่ให้เธอเพลิดเพลิน...แต่แฮร์รี่เพลิดเพลินกับการที่ศาสตราจารย์สเนปยืนต้อนลุงลูเซียสติดกำแพงมากกว่า
"..ใกล้ไปแล้ว" ลูเซียสเอนหัวติดกำแพงเพื่อดึงตัวเองให้ออกห่างจากจมูกงองุ้มนั้น
" นายได้นอนห้องเดียวกับแฮร์รี่รึเปล่า...ตอบดีๆไม่งั้นฉันจะควักไส้นายออกมาทางปาก" สเนปมีสีหน้าที่พร้อมจะฆ่าคนไปพร้อมกับจะร้องไห้
" ไม่มีทาง...ถึงฉันจะหวังว่ามันอาจจะได้ก็ตาม..แต่ไม่!..เรานอนคนละห้อง" ลูเซียสพูดเสียงเบา ให้แน่ใจว่าแฮร์รี่จะไม่ได้ยินบทสนทนานี้
" นายให้แฮร์รี่ของฉันนอนในโรงแรมของมักเกิ้ลคนเดียว?! "
" นายต้องการคำตอบแบบไหนเซเวอรัส " ลูเซียสขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเขาตอบอะไรก็ดูจะไม่เป็นที่พอใจของอีกฝ่ายซักอย่างเดียว
" ไว้จะมาคิดบัญชีทีหลัง " สเนปคาดโทษ เขาถอนหายใจก่อนจะเดินมานั่งตรงข้ามกับเด็กน้อยผมฟูฟ่องที่มีดวงตาสีเดียวกับใบอ่อนของต้นไม้
"หนู..."
"เธอสัญญากับฉันแล้วว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น...ใช่ไหม?"สเนปกอดอก แฮร์รี่ก้มหน้าลงเล็กน้อย " เธอวู่วาม ไม่ยั้งคิดถึงสิ่งที่ตามมา ไม่คิดถึงความปลอดภัยของตัวเอง"
แฮร์รี่เงยหน้า เธอหันไปหาลูเซียสอย่างต้องการความช่วยเหลือ แต่กลับได้รับเป็นสีหน้าที่ดูจะไม่ได้อยู่ข้างเธอ
"อย่ามองฉันแฮร์รี่ เรื่องนี้ฉันอยู่ข้างเซเวอรัส"
"เล่ามา มันเกิดอะไรขึ้น" สเนปจ้องมองไปยังแฮร์รี่อย่างดุดัน..และนั่นทำให้แฮร์รี่กลัวเป็นบ้า เขามักเป็นคนที่ใจดีกับเธอมาก เคยแอบเอาขนมมาให้เธอในตอนกลางคืนด้วย แต่พอตอนที่เขาดุ...เขาน่ากลัวมาจริงๆ
"...เมื่อวาน..เป็นวันที่ป้ามาร์ชจะมาเยี่ยมบ้านค่ะ...มันเป็นวันที่ดีมาก ถ้าไม่นับที่หนูต้องขัดห้องน้ำทุกห้องด้วยแปรงสีฟัน และทำความสะอาดบ้านทุกซอกทุกมุม... และทันทีที่ป้ามาร์ชมาถึงก็เริ่มที่ด่าว่าแม่หนู" แฮร์รี่ก้มลงมองพื้น เธอเกร็งและพันนิ้วของตัวเองไปมา " บอกว่าพ่อแม่หนูไม่เอาไหน ไม่ได้เรื่อง และถ้าเขาไม่ตาย หนูก็คงจะไม่ได้เรื่องตาม"
" ไอ้..." ลูเซียสที่เพิ่งจะได้ยินเหตุผลเผลอสบถขึ้นเบาๆ
"และป้าเพ็ตทูเนียก็พูดอีกว่า ที่ยอมให้หนูอยู่ในบ้าน เพราะหนูทำงานบ้านและทำอาหารเก่ง และไม่อยากเสียตังในการทำเรื่องส่งหนูไปอยู่บ้านกำพร้า...หนูเหนื่อยมาก หนูเริ่มทำงานบ้านตั้งแต่ห้าขวบ คอยเลี้ยงดัดลีย์ ที่เป็นพี่ชายหนูตั้งแต่เจ็ดขวบ ทำงานบ้านทุกอย่าง เหมือนหนูเป็นคนใช้ หนูไม่เคยบ่น..แต่หนูเหนื่อย...และหนูก็ไม่คิดว่าจะได้รับความรักจากบ้านหลังนั้นเลย" แฮร์รี่เริ่มบ่นขึ้น " ยกเว้นดัดลีย์นะคะ เขาเอาแต่ใจมากก็จริง แต่เขาก็เป็นแบบนั้นเพราะถูกสปอยล์...เขาบอกให้หนูส่งจดหมายให้เขาด้วย..เขาคงจะรักหนูอยู่บ้าง...อย่างที่ลูกพี่ลูกน้องจะรักกัน"
"และเพราะแบบนั้น เธอจึงหนีออกมา" สเนปสรุปให้ แฮร์รี่ผงกหัวของเธอ "ทำไมเธอถึงไม่ส่งจดหมายมาหาฉัน ฉันก็จะไปรับเธอในตอนเช้า..หรือทันทีที่ได้รับจดหมาย แทนที่เธอจะหิ้วกระเป๋ายักษ์นั่นเดินไปบนทางมืดๆที่อันตรายกับพวกมักเกิ้ล...ที่มีความคิดสกปรกอยู่ตลอดเวลา"
"...." แฮร์รี่ตัวลีบลงกว่าเดิม และเธอมีทีท่าว่าจะร้องไห้อีกครั้ง
" เธอผิดสัญญา และคนผิดสัญญาต้องถูกลงโทษ...หนักกว่าครั้งแรก เห็นได้ชัดอยู่แล้ว" สเนปปัดมือลูเซียสที่สะกิดเขาออกในทันที
"...หนูขอโทษ"
"เธอรู้ใช่ไหมว่าที่มันเป็นแบบนี้เพราะพวกเราเป็นห่วงเธอ" ลูเซียสพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ ที่ทำให้สเนปหันขวับมามองด้วยสีหน้าเหมือนเห็นม้าสามเขากำลังถักไหมพรม
"รู้ค่ะ..."
"เธอคิดน้อยเกินไป หุนหันพลันแล่นเกินไป...หลังจากนี้เวลาที่มีเรื่องใหญ่ๆแบบนี้เกิดขึ้นฉันอยากให้เธอคิดอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะลงมือทำ หรือมาหาฉันในทันทีจะดีมาก เข้าใจไหม?" สเนปกล่าว
"เข้าใจค่ะศาสตราจารย์...หนูจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก...แน่ๆค่ะ" แฮร์รี่พูดอย่างมุ่งมั่น
"ดี...ทีนี้ หนังสือเกี่ยวกับศาสตร์การปรุงยาในตู้ขวามือนั้น เธอต้องอ่านให้หมด ฉันจะสุ่มถามวันละสิบคำถาม และเธอต้องตอบได้ ไม่งั้นเธอจะต้องคัดลายมือคำว่า 'หนูจะไม่กระทำเรื่องโง่ๆอย่างพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่อันตราย' เพิ่มอีกข้อละสิบจบต่อวันจากห้าสิบจบ"
"ศาสตราจารย์" แฮร์รี่มีสีหน้าจะร้องไห้อีกครั้ง ทำไมพักนี้ศาสตราจารย์ถึงเข้มงวดกับเธอขนาดนี้
"ไม่มีเวลาให้ร้องไห้แฮร์รี่ เริ่มอ่านซะ ขณะที่ฉันเตรียมห้องนอนให้เธอ"
"ไม่โหดไปหน่อยหรอ?"ลูเซียสเอ่ยถามเบาๆ
"ทำไมยังไม่กลับอีก ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว" และแน่นอน สเนปไล่เขาเป็นครั้งที่สาม ในขณะที่เขากำลังทำความสะอาดห้องนอนเล็กที่ไม่เคยใช้อย่างละเอียดละออ " เนื้อหาพวกนั้นเธอจะได้เรียนในปีสอง พอเปิดเทอมเธอจะเป็นนักเรียนที่เก่งวิชาปรุงยาที่สุดในชั้นปี ฉันไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหน"
" เด็กๆควรได้ออกไปเล่นนะ"
"นายไม่เห็นพูดแบบนี้ตอนเดรโกขอออกไปเที่ยวกับซาบินี่ในวันหยุดที่ผ่านมา"
"เขาถูกกักบริเวณ" ลูเซียสพูด "และเขาไม่ใช่แฮร์รี่"
"เอาเวลาไปใส่ใจลูกตัวเองก่อนจะมาใส่ใจลูกคนอื่นเถอะ"
"เอาเวลาไปหาลูกให้ตัวเอง ดีกว่ามานั่งใส่ใจลูกคนอื่นรึเปล่า"
บรรยากาศของทั้งสองคนมาคุ ดวงตาสองสีประสานกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ชนิดที่ว่าถ้าข้างนอกนั่นไม่มีเด็กสาวอายุสิบสองนั่งอ่านหนังสืออย่างขมักเขม่นพวกเขาคงควักไม้กายสิทธิ์ออกมาฟาดฟันกันให้รู้แพ้รู้ชนะไปแล้ว
"ท่านยังไม่ตาย" สเนปเปลี่ยนไปประเด็นจริงจัง หลังจากที่เขารู้สึกว่ามันไร้สาระมากที่เขาจะทะเลาะกัน
"..."ลูเซียสขมวดคิ้ว
"เขากำลังจะกลับมาลูเซียส...ตาแก่นั่นพูดถูก เขาไม่ได้ตาย..เขาแค่อ่อนแรง" สเนปนั่งลงบนเก้าอี้ขณะที่ไม้กวาดกำลังทำหน้าที่ของมัน "ควีเรลล์ใช้เวทย์มนตร์โบราณ ให้ท่านสิงสู่ชั่วขณะ...แค่เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่แลกกับทั้งชีวิต และเขาอ่อนแอลงกว่าเดิม"
"...ทำไม?"
"ตอนแรกฉันคิดว่ามันเป็นเพราะเขาต้องการศิลาอาถรรพ์" สเนปดึงแขนเสื้อเขาเล็กน้อย ไม่ค่อยคุ้นชินเมื่อไม่ได้สวมเสื้อคลุมต่อหน้าคนอื่น "แต่ฉันเห็นเขาสัมผัสแฮร์รี่...ในร่างควีเรลล์นะยังไงก็ตาม "
" แปลว่า...เขาอยากฆ่าแฮร์รี่มากกว่าจะคืนชีพ? "
" ฉันไม่คิดว่างั้น " สเนปมีสีหน้าเคร่งเครียด " ลิลี่ร่ายเวทย์มนตร์โบราณเพื่อปกป้องแฮร์รี่ แน่นอนว่าเธอต้องร่ายมัน ลิลี่เป็นคนแบบนั้น และเธอก็ได้คาถานั้นไปจากฉัน ไม่มีทางที่เธอจะทิ้งแฮร์รี่ไว้คนเดียวโดยที่ไม่มีคาถานั้นปกป้องเธอจากอันตราย "
" นายหมายความว่ายังไง "
" เขาไม่มีทางสัมผัสแฮร์รี่ได้ถ้ามีเจตนามุ่งร้าย...แต่เขาสัมผัสเธอ....ฉันไม่รู้ลูเซียส " เขาดูสับสน " ฉันไม่รู้ว่านั่นคือเขาจริงๆรึเปล่า ไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่รู้อะไรเลย"
" แต่นายก็จะยังปกป้องแฮร์รี่ อย่างนั้นใช่ไหม? "
" แน่นอน และไม่มีวันเปลี่ยนแปลง " ศาสตราจารย์ประจำบ้านให้คำมั่น
"ถ้าเขากลับมา ฉันอาจจะเป็นศัตรูกับนาย หรือเป็นมิตรก็ไม่อาจรู้ได้" ผู้นำตระกูลมัลฟอยพูดด้วยเสียงที่ราบเรียบ " แต่ถ้ามันมาถึง นายจะปกป้องแฮร์รี่จากฉันใช่ไหม "
" สุดความสามารถ ลูเซียส "
" ดี "
สองอดีตผู้เสพความตายมองหน้ากัน ก่อนที่จะปล่อยให้ความเงียบโรยตัวคืบคลายจนได้ยินเสียงของไม้ขนไก่ที่กำลังปัดฝุ่นที่บานหน้าต่าง
และสเนปไล่ลูเซียสกลับบ้านเป็นครั้งที่สี่
" ศาสตราจารย์ ในนี้มันเขียนว่าให้หั่นครึ่ง แต่ไม่บอกว่าหั่นครึ่งแนวขวางหรือแนวยาว ควรหั่นแบบไหนหรอคะ? " แฮร์รี่ดันแว่นของเธอ ช่วงนี้เธอกำลังบ้าเห่อ 'สมุดโน๊ต' เล่มใหม่เป็นอย่างมาก ศาสตราจารย์สเนปพาเธอไปซื้อของใช้สำหรับปีสองเมื่อสองวันก่อน และแฮร์รี่ได้ของแถมเป็นสมุดโน๊ตที่บรรจุข้อมูลได้มากกว่าขนาดของมัน กับปากกาขนนกสีสันสดใส ที่แฮร์รี่คลั่งมันมาก เธอจดโน๊ตทุกวัน และมั่นใจว่าตัวเองรู้เรื่องยาดีที่สุดในปีสองเลย
"หั่นแนวยาวแล้วบี้ด้วยสันมีดจะให้น้ำเยอะกว่า " สเนปตอบขณะที่เพลิดเพลินไปกับน้ำสมุนไพรและคุกกี้ยามเช้าของเขา แฮร์รี่พนักหน้าหงึกหงักแล้วเขียนมันลงไปในสมุด
" อะไรคือ 'หญ้าปม' คะ? "
" เป็นหญ้าชนิดนึง เธอดูได้ในเรือนกระจกที่ฮอกวอตส์ แต่ตอนนี้วางปากกา แล้วลุกมากินข้าวเช้าแฮร์รี่ ก่อนที่มันจะเย็นหมด"
"คุณก็ไม่ยอมกิน คุกกี้ไม่ใช้ข้าวเช้านะคะ" แฮร์รี่วางปากกา เธอปัดกางเกงขาสั้นก่อนจะปีนขึ้นนั่งบนเก้าอี้และลงมือกิน
" ฮื่อ " เซเวอรัสส่งเสียงในลำคอ เขายังไม่ละสายตาจากเดลี่ย์พรอเฟตในมือ
" อย่าวางศอกบนโต๊ะกินข้าวนะคะ! " สเนปสะดุ้งและเก็บศอกแทบจะในทันที
" โทษที " สเนปมองไปยังเด็กน้อยของเขาที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวด้วยความรู้สึกที่ยอมรับว่ามีความสุข
ใต้หลังคาเดียวกัน กินข้าวด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้วสำหรับเขา นี่มันชีวิตในฝันเขาชัดๆ
ให้ตาย ไม่อยากเปิดเทอมเลย
แกว๊ก
"เฮดวิก!" แฮร์รี่รีบไปหยิบเนื้อสดชิ้นเล็กๆมาให้มันเป็นอาหารในทันที มันคงบินมาดหนื่อย สังเกตุได้จากจดหมายทั้งปึกที่มันเอามาด้วย
" กินข้าวให้เสร็จก่อนแฮร์รี่ "
" หนูอิ่มแล้วค่ะ!!!"พูดจบ เธอคว้าจานไปแช่ไว้ในอ่าง ก่อนจะพุ่งเข้าห้องนอนไป
สเนปมองตาม แฮร์รี่มักเป็นแบบนี้เวลาที่มีจดหมายมาส่ง คงจะเป็นของเพื่อนๆเธอ แฮร์รี่ควจะคิดถึงเพื่อนมาก และนั่นย้ำเขา ว่าอีกไม่นานก็ตะเปิดเทอมแล้ว เขายังไม่อยากให้มันหยุดลงเลย
ถึง . แฮร์รี่ที่รัก
ให้ตายเธอต้องไม่เชื่อแน่ว่าพ่อกัก
บริเวณฉันตลอดวันหยุดเลย นี่มันบ้าไปแล้ว
ฉันไปทำอะไรให้พ่อโกรธขนาดนี้ฉันก็นึกไม่
ออก ฉันอดออกไปบินเล่นลูกสนิชด้วย อ้อเรื่-
องควิดดิช พ่อบอกว่าจะซื้อไม้ใหม่ให้ยกทีมเลยเพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าสลิธีรินจะได้รับ
ชัยชนะจากอุปกรณ์ที่สมบูรณ์พร้อม
ให้ตายฉันคิดถึงเธอเป็นบ้า แต่ฉันต้องไปแล้ว ฉันให้พ่อเห็นว่าส่งจดหมายหาเธอไม่ได้ เขามัน
พญางูเห่าตัวเอ้เลย
ด้วยรักและคิดถึง
เดรโก
ถึง. แฮร์รี่
ที่เธอบอกนี่จริงหรอ หนีออกจากบ้าน และตอนนี้อยู่กับเซเวอรัสอีก นี่มัน...บ้าไปแล้วยัยบ้า เปิดเทอมมาเรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยนะ!!!
ยังไงก็ตามแม่ใากบอกคิดถึง และฉันมีของฝากให้เธอตอนเปิดเทอม ต้องมีชีวิตริดมาเรียนต่อนะยะ
ด้วยรัก
แพนซี่
แฮร์รี่ยิ้มกรุ่มกริ่มกับจดหมายทั้งหลาย ก่อนที่เธอจะบรรจงเขียนตอบทีละใบอย่างปราณีติและมห้เฮดวิด ที่ท้องอิ่มและพักผ่อนเพียงพอ นำมันไปส่งให้กับเพื่อนๆของเธอ
อีกไม่นาน ก็จะได้กลับมาเจอกันแล้ว แฮร์รี่คิดถึงแพนซี่ เฮอร์ไมโอนี่ เดรโก ไปจนถึงแครบกับกอยล์
และให้ตาย เธอคืดถึงพายฟักทองหวานๆนั่นจะแย่แล้ว!!!!!
,____________________________TBC
ความคิดเห็น