ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter เด็กสาวผู้รอดชีวิต

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11 : นี่มันลวนลาม!!

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 61



    "ไอ้โง่ บอกแล้วไงให้แกว่งไม้แบบ ฟืบ ไม่ใช่ ฟึบ "แฮร์รี่เอนหลังพิงพนักโซฟาอย่างหมดแรงอยู่ในห้องพักสลิธีริน ข้างๆกันนั้นมีเบลสที่มีท่าทางพร้อมจะเขมือบหัวน๊อตอยู่ตลอดเวลา กับเดรโก ที่กำลังคุยบางอย่างกับแพนซี่อย่างขมักเขม่น ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคงเป็นเรื่องบอร์ดเกมมรณะที่แพนซี่แอบได้ยินว่ามีรุ่นพี่เล่นแล้วเกิดเป็นความวุ่นวายในตอนอาหารค่ำ


    ส่วนแฮร์รี่ เธอยอมรับเลยว่าเธอไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นนอกจากนอนนิ่งอยู่ตรงนี้ และไม่ว่าใครก็ห้ามมาขยับตัวเธอแม้แต่เซนต์เดียว


    "อ๊ะ....แหวนฉันหายอ่ะ "จู่ๆเสียงงุนงงของน๊อตก็ทำให้แฮร์รี่ตื่นจากภวังค์ เด็กหนุ่มมีท่าทางลนลาน ขณะที่เพื่อนๆมองเขาด้วยหน้าซีดๆ คล้ายกับเขาได้ทำเรื่องใหญ่มากๆลงไป


    ...และมันก็ใหญ่มากจริงๆ





    "แฮร์รี่ ขอร้องล่ะ ขอฉันยืมผ้าคลุมล่องหนหน่อยนะ "


    "ไม่มีทางน๊อต" แฮร์รี่แยกเขี้ยว เธอไม่มีทางให้ผ้าคลุมของพ่อเธอกับน๊อตแน่ๆ ไม่งั้นมันคงจะพังหรือหายไปตามแหวนประจำตระกูลที่น๊อตทำหายนั่นล่ะ


    "พอเลยน๊อต นายทำตัวนายเอง รับผิดชอบเองสิ อย่าไปรบกวนคนอื่นๆ" เบลสติเพื่อนชายของเขา ธีโอดอร์ทำท่าจะร้องไห้เต็มที ยิ่งตอนที่เพื่อนๆเรียกนามสกุลเขา เด็กชายผอมแห้งตรงหน้าก็ดูตัวเล็กลงไปทุกที


    "พ่อต้องฆ่าฉันแน่ถ้าฉันทำมันหาย"


    "ฆ่านาย ไม่ได้ฆ่าฉันนี่"เดรโกแย้งขึ้น เรื่องความเห็นแก่ตัว แฮร์รี่มั่นใจว่าเดรโกชนะขาดรอย แต่ทั้งเบลสและเดรโกพูดถูกทั้งคู่ ธีโอดอร์เป็นคนที่สะเพร่าทำหาย และมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเธอเลยแม้แต่น้อย


    แต่พอมองหน้าตาที่ดูจะร้องไห้ของน๊อตแล้ว แฮร์รี่ยอมรับว่าเธออดสงสารเพื่อนไม่ได้จริงๆ


    "เรามาหาในห้องนั่งเล่นกันก่อนเถอะ" แฮร์รี่เสนอ


    แม้จะดูไม่ค่อยชอบใจ แต่เดรโกก็ช่วยด้วย พวกเขาเดินหาตามพื้นและซอกมุมของห้องนั่งเล่น รวมถึงถามรูปภาพต่างๆ แต่ก็พบว่ามันไม่ได้อยู่ในหอสลิธีรินแต่อย่างใด ยังไงก็ตาม แฮร์รี่ได้ยินรูปภาพปรึกษากันว่า พวกเขาเห็นบางอย่างที่แวววาวตกอยู่ที่ระเบียงชั้นสาม แต่บอกไม่ได้ว่าใช่หรือไม่


    "นายไปทำบ้าอะไรระเบียงชั้นสาม?" เดรโกร้องใส่น๊อตแทบจะทันทีที่รู้ข้อมูล


    "ฉันเปล่าไปนะ ฉันเปล่า"น๊อตดูจะร้องไห้เต็มที ไม่ก็เหมือนจะร้องออกมาแล้วด้วย


    "เราต้องรอพรุ่งนี้เช้าแล้วค่อยบอกศาสตราจารย์ ตอนนี้ระเบียงชั้นสามเป็นเขตหวงห้าม"แพนซี่พูด เธอดูโมโหและหงุดหงิดหลายต่อหลายเท่าจากที่หงุดหงิดอยู่แล้ว อาจจะเป็นเพราะเธอได้นอนสายกว่าทุกที แพนซี่เป็นห่วงสุขภาพผิวมาก แฮร์รี่มั่นใจในข้อนี้


    "ฉันต้องส่งจดหมายให้พ่อทุกคืน ถ้าไม่มีแหวนฉันประทับตราปิดซองไม่ได้"


    "ธีโอดอร์ น๊อต!!" แพนซี่ดูราวกับพร้อมจะแปลงร่างแล้วฉีกน๊อตเป็นชิ้นๆ และใช่ คนที่จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆนั่งร้องไห้ไปเรียบร้อยแล้ว


    "...ฉันจะไปหยิบผ้าคลุม" แฮร์รี่ถอนหายใจอย่างปลงๆ เธอใจอ่อนจริงๆนั่นล่ะ


    "แฮร์รี่ เธอจะถูกไล่ออกถ้าศาสตราจารย์จับได้"เบลสรีบห้ามเด็กสาว


    "แค่ไปแปปเดียว...ถ้าไม่มีก็รีบกลับเลย"แฮร์รี่ยืนยัน "ถึงตอนนั้นนายต้องยืดอกรับผลลัพท์มันนะธีโอดอร์ "


    "ฉันไปด้วย" เดรโกว่า เขาขยับไปยืนข้างๆแฮร์รี่ "ฉันไม่ให้เธอไปคนเดียวเด็ดขาด "


    "...เฮ้อ"เบลสถอนหายใจ "ฉันไปด้วย"


    "เบลส.."


    "ไปแทนน๊อตน่ะ ฉันรู้ว่าแหวนหน้าตาเป็นยังไง...และถ้าให้น๊อตไป ฉันว่ามีสิทธิ์ถูกจับได้" และให้ตาย เบลสพูดถูก แฮร์รี่เผลอพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับเรื่องที่ว่าธีโอดอร์จะทำให้เราทุกคนถูกจับได้ แม้จะเถียงกันอีกเล็กน้อย แต่แฮร์รี่ก็สวมผ้าคลุมออกจากหอไปพร้อมกับเดรโกและเบลส




    "...นี่มัน..ใกล้ไปหน่อยไหมเนี่ย"เดรโกกลืนน้ำลาย เขาพึมพำเบาๆคล้ายบ่นคนเดียวมากกว่าจะชวนคุย ผ้าคลุมไม่ได้ผืนใหญ่มากมายอะไรเลยนั่นทำให้เขาทั้งสามคนต้องเดินชิดกันขนาดที่ไม่เคยชิดขนาดนี้มาก่อน เด็กชายมัลฟอยกลั้นใจสุดฤทธิ์ที่จะไม่ฝังใบหน้าตัวเองลงกับเรือนผมนุ่มที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆของแฮร์รี่แม้เขาจะอยู่ในระยะที่ทำได้ก็ตามที


    "ชู่ว...เงียบน่าเดรก "แฮร์รี่ดุเบาๆ เธอไม่อยากเสียงดังให้รูปคนใดคนนึงตื่นขึ้นแล้วไปแจ้งศาสตราจารย์ใหญ่หรอกนะ


    "ข้างบนก็ระเบียงชั้นสามแล้ว " เบลสบอก แฮร์รี่หันกลับไปมองทางอีกครั้งก่อนที่เธอจะเห็นวัตถุแวววาวสะท้อนกับแสงจันทร์อยู่บนพื้นหน้าประตูไม้บานนึง


    "อ่ะ นั่นรึเปล่า" แฮร์รี่รีบรุดขึ้นบันไดไปอย่างห้ามไม่ทัน จนทั้งเบลสและเดรโกต้องรีบสาวเท้าตามอย่างรวดเร็ว


    "ยัยบ้า เดียวก็ล้มหรอก" เดรโกพยายามทำเสียงดุที่สุดเท่าที่สถานการณ์จะอำนวย


    "น่า อันนี้รึเปล่า?"แฮร์รี่ยื่นแหวนวงหนาให้กับเบลส ได้คำตอบเป็นการพยักหน้า ทั้งสามคนถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยก็ไม่ได้แหกกฏเสียเที่ยวล่ะนะ


    "กลับกันเถอะ" เดรโกพูด เขารู้สึกขนลุกยังไงชอบกล อีกนัยนึงถ้าเขาอยู่ใกล้แฮร์รี่นานกว่านี้ เขาอาจจะสติแตกจับเธอมาฟัดเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ทั้งนั้น


    "นั่นใครน่ะ!!"


    ไม่ทันที่จะได้ก้าวเท้าไปไหน เสียงของภารโรงฟิลซฺก็ทำเด็กทั้งสามสะดุ้งสุดตัว ในหัวแฮร์รี่มีแต่ภาพที่เธอถูกไล่ออกแล้วถูกส่งกลับไปรับใช้บ้านเดอสลี่ย์ ถูกตราหน้าว่าถูกไล่ออกจากโรงเรียน ตกงาน และไปอยู่ข้างถนน สารพัดที่มันจะเป็นไปได้ 


    แฮร์รี่รู้ตัวอีกทีตอนที่เธอถูกผลักอย่างแรงจนหลุดเข้าไปในห้องๆนึง


    เด็กทั้งสามคนกลั้นหายใจจนหน้าแทบเขียว หวังอย่างยิ่งว่าภารโรงฟิลช์จะไม่เปิดเข้ามาดูในห้องนี้ พวกเขาได้ยินเสียงหงุดหงิดของฟิลช์ ก่อนที่จะมันจะห่างออกไปเรื่อยๆ ขอบคุณไหวพริบของเบลสที่พาพวกเขาเข้ามาหลบก่อน


    "โชคดีที่เรามาถึงก่อนฟิลช์ "เดรโกพูดออกมาอย่างโล่งใจ "มันจบไม่สวยแน่ถ้าเราต้องไปขโมยมันคืนมาจากห้องฟิลช์"


    "..เฮ้...เฮ้ พวก"


    "เราต้องรีบเอามันกลับหอ นี่ใกล้จะเวลาเคอร์ฟิวแล้ว ศาสตราจารย์สเนปอาจจะเดินตรวจ" แฮร์รี่บอก เธอเก็บแหวนไว้ในกระเป๋ากางเกงให้มิดชิด


    " ชู่ว พวก ชู่ว"


    "อะไรเบล- " เด็กทั้งสามคนชะงัก เมื่อหันไปตามเสียงของเบลส แล้วเจอกับเงาอันยิ่งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตปริศนาที่กำลังนอนหลับ


    "...holy...crap"


    " เคราเมอลิน...พวกนายเห็นแบบที่ฉันเห็นไหม" เดรโกหน้าซีดเผือก เขารีบกันแฮร์รี่ไปอยู่หลังเขา และในขณะเดียวกันเขาก็สั่นเป็นเจ้าเข้า


    "ถ้านายเห็นแบบเดียวกับที่ฉันเห็น ฉันก็คงเห็นแบบที่นายเห็น"


    "ห๊ะ? "


    " พวกนายเห็นหมายักษ์สามหัวแบบที่ฉันเห็นรึเปล่า"


    " อย่าพูด/อย่าเจาะจงสิเบลส!"


    ฟู่ว


    "...เราออกไปกันเถอะ" เบลสลดเสียงลงเบายิ่งกว่ากระซิบ เขาจับลูกบิดประตู และใจของเขาอยู่ที่เตียงนอนแล้ว เด็กหนุ่มทั้งสองตั้งท่าจะกระโจนออกจากห้องก่อนที่เจ้าสิ่งมีชีวิตสุดโหดด้านหลังจะตื่นมาขย้ำพวกเขา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเด็กสาวคนเดียวในกลุ่มคว้าแขนพวกเขาเอาไว้


    "บาดแผลของศาสตราจารย์สเนป" แฮร์รี่เกริ่นขึ้น ทำเอาเบลสชะงักด้วยความงุนงงซึ่งต่างจากเดรโกที่เงียบลง แฮร์รี่เห็นทั้งสองคนเงียบลงแล้วเธอจึงพูดต่อ "นี่คือปุกปุย ตราบใดที่พิณนั่นเล่นอยู่มันก็ไม่ตื่นหรอก ฉันรู้มาจากแฮกริด "


    "นี่เธอไปคุยกับไอยักษ์โง่นั่นอีกแล้วหรอ!"


    "นี่จบไม่สวยแน่ถ้านายเสียงดังแล้วเจ้าหมายักษ์นั่นตื่น"เบลสกระซิบเสียงเบา ก่อนที่เขาจะหันไปหาแฮร์รี่ "ตอนนี้เราต้องกลับหอแฮร์รี่ เราค่อยไปคิดต่อที่นั่นก็ได้"


    "ถึงตอนนั้นก็อาจจะสายเกินไปแล้ว ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ไม่มีทางเอาพิณมาวางเพื่อให้ปุกปุยหลับระหว่างที่มันเฝ้ายามหรอก"แฮร์รี่ดึงผ้าคลุมล่องหนขณะที่เบลสทำท่าจะออกจากห้องในหนึ่งวินาทีจากนี้ " ฉันอยากไปดูให้แน่ใจว่าไม่ใช่ศาสตราจารย์สเนป และไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร เขาจะไม่ได้ศิลาอาถรรพ์ไปเพื่อให้ดาร์คลอร์ดคืนชีพ ไม่มีวันที่มันจะเกิดขึ้น"


    "เคราเมอลินท้องฉันกำลังปั่นป่วน"


    "ฉันเห็นด้วยกับแฮร์รี่" เดรโกเอ่ยขึ้น นั่นทำให้แฮร์รี่เองแปลกใจไม่น้อย ที่คุณชายผอมบางร่างน้อยขี้ขลาดคนนี้จะออกไปผจญภัยกับเธอ


    "เดรก!" ดูเหมือนเบลสเองก็คิดแบบเดียวกัน


    "สเนปเป็นพ่อทูนหัวฉันนะ" เขาพูด "ฉันอยากสบายใจว่าคนที่กำลังแหกกฏโรงเรียนไม่ใช่เขา"


    "พ่อฆ่าฉันแน่ถ้าฉันถูกไล่ออกจากโรงเรียน" เบลสรำพัน ดูเหมือนเขาจะยอมแพ้ในการดึงผ้าคลุมล่องหนเพื่อตรงกลับหอนอนแล้ว


    "ในทางที่ดี นายก็ไม่ได้ไปคนเดียว " แฮร์รี่ปลอบใจ เธอหันไปหาปุกปุยที่หลับสนิทก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆมัน "ช่วยยกขามันหน่อยได้ไหม?"


    "เบลส งานนายเลย"


    "นายเป็นผู้ชายเหมือนกันนะเดรโก" เบลสรีบเถียงทันที


    "ฉันเป็นผู้ชายแจ๊ส"เดรโกตอบ


    "นายรู้หรอว่าผู้ชายแจ๊สเป็นยังไง?" แฮร์รี่ชะงักจากสิ่งที่เธอโฟกัสแล้วหันไปหาเดรโก


    "...มันเหมือนเพลงแจ๊สไหม?"เดรโกเลิกคิ้ว


    "ยกขามันออกที"









    "นายท่าน ผมต้องรออะไรหรอครับ?"ควีเรลล์ยืนจ้องมองกระจกด้วยความงุนงง เพราะด้วยคำสั่งทำให้เขาเดินมาถึงตรงนี้ และด้วยคำสั่งเช่นกันทำให้เขายืนอยู่ตรงนี้มาเป็นชั่วโมงแล้ว


    "เด็กผู้หญิง....เด็กผู้หญิงคนนั้น" ควีเรลล์เงียบลง และแน่นอนว่าเขารู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นคือใคร คงไม่พ้นเด็กผู้รอดชีวิตอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ผู้โด่งดัง 


    "สาวกที่รัก" เสียงที่แหบพร่าเอ่ยขึ้นอย่างเปี่ยมด้วยอำนาจ "เจ้ายินดี ที่จะตาย เพื่อฉันไหม?"


    และไม่ต้องการคำตอบใดๆ ควีเรลล์ก็เริ่มร่ายคาถา ที่ยาวราวบทเพลง







    แฮร์รี่ปาดเลือดออกจากปากของเธอ แน่นอนมันไม่ใช่เลือดจากบาดแผล แต่อาจจะเป็นเพราะอะไรที่เธอเพิ่งดื่มเข้าไป เด็กสาวยืนอยู่เหนือบันได จ้องมองไปยังร่างของชายผู้หนึ่งที่ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ที่แฮร์รี่จำได้ว่ามันคือกระจกแอริแซด ที่ดัมเบิ้ลดอร์บอกกับเธอว่าได้ย้ายมันแล้ว


    แวบแรกเธอดีใจที่มันไม่ใช่ชายหัวมันเยิ้มอย่างที่เธอคิด ก่อนที่เธอจะรู้สึกเสียใจที่ไม่ใช่เขา เพราะชายตรงหน้ากำลังทำให้เธอกลัวอย่างหาที่สุดไม่ได้


    "สวัสดี เด็กน้อย"เสียงที่ทุ้มต่ำนั้นคุ้นหู ราวกับว่าเธอเคยได้ยินมาก่อน แม้จะตะกุกตะกักกว่านี้มากก็ตาม


    "ศาสตราจรย์...ควีเรลล์?" สิ้นคำของเธอ เด็กสาวก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอ


    "ใช่" เขาตอบกลับมา แฮร์รี่เจ็บแผลของเธอยิ่งกว่าครั้งไหนๆ "และไม่ใช่"


    เสียงทุ้มเข้มนั้นแปลเปลี่ยนเป็นแหบพร่า ใบหน้าของศาสตราจารย์ควีเรลล์ถูกซ่อนไว้ในความมืด ที่ขาของแฮร์รี่เดินตรงไปหาอย่างน่าประหลาด ในใจของเธอรู้ดีแล้ว ว่าเธอกำลังพูดอยู่กับใคร


    "โวลเดอร์มอร์"ในเสียงที่หนักแน่นนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แฮร์รี่ยืนนิ่งอยู่กับที่ และไม่สามารถขยับไปที่ไหนได้เลยแม้แต่น้อย ราวกับมีเถาวัลย์มัดขาเธอติดไว้กับพื้น และเธอก็หวาดกลัวเกินกว่าจะก้มลงไปมอง


    "แฮร์รี่...พอตเตอร์...ทารกน้อยคนนั้น"ร่างสูงใหญ่ของศาสตราจารย์ควีเรลล์ย่างเข้ามาหาเธออย่างเชื่องช้า มันมืดเกินกว่าที่เธอจะเห็นอย่างแน่ชัดว่าเป็นศาสตราจารย์ควีเรลล์จริงๆหรือไม่ แต่ดวงตาสีแดงก่ำนั้นส่องสว่างกว่าสิ่งใด นั่นทวีความหวาดกลัวของเธอขึ้นอีก "เติบโต อย่างงดงาม"


    "คุณต้องการอะไร ศิลาอาถรรพ์ไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่นี่ ศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ฉลาดพอที่จะใช้ที่นี่เพื่อล่อคุณ ศาสตราจารย์สเนปจะตามหาหนูแน่ เพราะเลยเคอร์ฟิวเรามานานแล้ว และเขาจะเจอคุณ " แฮร์รี่ทำใจดีสู้เสือก่อนที่เธอจะสั่นเทาไปทั้งตัวเมื่อมือที่หนาที่ร้อนระอุวางลงบนเรือนผมของเธอ


    " ฉันรู้ว่ามันอยู่ที่นี่..แต่ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันได้มันไป เธอต้องมีข้อแลกเปลี่ยน แฮร์รี่ พอตเตอร์" แฮร์รี่ขมวดคิ้ว เธองุนงงเล็กน้อย เธอเชื่อสุดใจว่าดาร์คลอร์ดปราถนามันเพื่อคืนชีพตนเองอย่างมาก แต่นี่กลับตัดใจจากมันได้ เพียงเพราะต้องการบางสิ่งจากเธอ


    "ต้องการอะไร"


    "เธอ" ชายตรงหน้าตอบกลับมาแทบจะในทันที "เธอ ยืนนิ่งๆอยู่ตรงนี้"


    มือหนาลูบไปตามไรผมอย่างแผ่วเบา เขาสัมผัสข้อนิ้วเกลี่ยไปตามแก้มนิ่มอย่างถนุถนอม


    "คุณจะฆ่าหนูหรอ"แฮร์รี่เอ่ยถามด้วยความกล้าเฮือกสุดท้ายที่เธอมี และเธอคิดว่าเธอกำลังจะฉี่ราด


    "ไม่...ไม่ที่รัก..ฉันจะไม่ทำร้ายเธอ" แฮร์รี่ยิ่งรู้สึกว่ามันแปลกมากขึ้น เมื่อจ้าวแห่งศาสตร์มืดคนนั้นกล่าวออกมาว่าจะไม่ฆ่าเธอ ทั้งๆที่เธอ 'เกือบ' จะฆ่าเขา "ให้ฉันดูหน้าของเธอชัดๆ"


    ปลายคางของเด็กสาวถูกเชิดขึ้นอย่างอุกอาจ ดวงตาสีเขียวสดของเธอสั่นระริกเมื่อสบเข้ากับดวงตาที่แสนดุดันทรงอำนาจของอีกฝ่าย และแฮร์รี่เริ่มรู้สึกเสียใจแล้วที่เธอไม่นอนกินคุกกี้ก่อนนอนกับแพนซี่อยู่ในตอนนี้


    "เติบโตมาได้...อย่างงดงามเหลือเกิน" แฮร์รี่สูดหายใจเข้า และเธอเริ่มจะขนลุกกับชายตรงหน้าที่ทำตัวประหลาดๆจนเธอเองก็ทำใจไม่ทันแล้ว มือหนายังคงสัมผัสเธออย่างอุกอาจ แฮร์รี่รู้สึกว่ากำลังถูกให้เกียรติ และถูกหมิ่นเกียรติพร้อมๆกัน "ตัวเล็ก ... บอบบาง...เป็นสิ่งมีชีวิตที่ช่างอ่อนแอ แฮร์รี่ พอตเตอร์..."


    "..."


    "เธอคิดว่า...ทำไมเขาถึงนำกระจกเงาแห่งแอริแซดมาไว้ที่นี่แฮร์รี่...ทำไมถึงมีเพียงเธอที่สามารถนำมันออกมาให้ฉันได้..." เสียงของอีกฝ่ายทุ้มนุ่ม "ทำไม จึงนำมันมาไว้ที่โรงเรียน ที่เต็มไปด้วยผู้วิเศษรุ่นเยาว์..ที่ที่เธออยู่...ทำไมระบบความปลอดภัยถึงต่ำขนาดที่ฉันเข้ามาได้ พอตเตอร์ ทั้งๆที่ดัมเบิ้ลดอร์คือพ่อมดที่เก่งกาจพอจะกำราบกรินเดลวัลได้...ทำไม แฮร์รี่"


    "...."แฮร์รี่เงียบลง ไม่ใช่ความหวาดกลัวอีกต่อไป มันเต็มไปด้วยความสงสัย


    "ทำไมถึงทิ้งเธอไว้กับครอบครัวที่ข่มเหงเธอมาตลอดสิบปี โดยที่ไม่เคยยื่นมือไปช่วยใดๆกับเธอ ทำไมแฮร์รี่ ทำไมเขาถึงพาเธอไปทิ้งไว้กับ..มักเกิ้ลที่สืบเชื้อสายมาจากหมูแบบนั้น หืม?"


    "...." แฮร์รี่เม้มปาก


    "เพราะเขาต้องการเธอไง...ต้องการจะเป็นฮีโร่ ที่พาเธอออกมาจากขุมนรกนั้น..ให้เธอเชื่อใจ ให้เธอไว้ใจ...ให้เธอให้ความภักดี" มือหนาวางลงบนสะโพกของเด็กสาว แต่แฮร์รี่สับสนเกินกว่าที่จะสนใจในเรื่องนั้น


    "แฮร์รี่ที่น่าสงสาร...วันนึง...ฉันจะมารับเธอ...วันที่ฉันแข็งแรงพอ..ทรงพลังพอ..ฉันจะมาพาเธอไป " ดาร์คลอร์ดพูด "เร็วที่สุด...ฉันจะให้ความรู้กับเธอ และเมื่อเธอแข็งแกร่งมากพอ...ฉันจะให้อิสระกับเธอ"


    "....ทำไมล่ะคะ " แฮร์รี่กลืนน้ำลาย และเธอกลับมาหวาดกลัวอีกครั้ง เมื่อมือหนาที่สากกร้านสัมผัสข้อเท้าของเธอ เขาลูบขึ้นอย่างแผ่วเบาจนมาถึงเข่าอย่างเชื่องช้า แฮร์รี่มีสติพอที่จะดันข้อมืออีกฝ่ายไว้ให้อยู่กับที่ 


    นี่มันลวนลาม ลวนลามชัดๆ


    "...เพราะเธอสดใส...ส่องสว่างจนดวงตาของฉันแทบมืดบอด" เขาว่า " ตั้งแต่เธอยังเป็นทารก...ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้พบกัน"


    นี่เขากำลังพูดบ้าอะไร


    แฮร์รี่อยากร้องไห้ เธอกลัว เธอสับสน เธอกังวล และแฮร์รี่คิดว่าอีกฝ่ายสมเป็นดาร์คลอร์ด แม้จะต่างจากที่ได้ยินมาก็ตาม


    "เพราะฉั-"


    "เซกตรัมเซมปร้า!!!!!!!!!" เสียงตวาดกร้าวอันคุ้นเคย ทำให้แฮร์รี่โล่งใจว่าได้รับการช่วยเหลือแล้ว เธอเห็นร่างสีดำวิ่งเข้ามาหาเธอ ในตอนที่ชายตรงหน้ากระเด็นออกไปห่าง ก่อนที่ร่างเล็กหมดสติจากการที่ร่างกายไม่สามารถรับความกดดันทั้งหมดนั้นได้ไหวอีกต่อไป


    "แฮร์รี่!!!"


    ---------------------------------------TBC 


    ตอนแรกอยากให้ดาร์คลอร์ดคุกคามกว่านี้...แต่เอาแค่นี้ดีกว่า เด็กอ่านเยอะ อิอิ ถ้าอยากอ่านหนักๆก็ต้องรอรีไรท์นะ เวอร์ชั่นนั้น ดาร์คกว่านี้เยอะ....แฮ่ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×