ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter เด็กสาวผู้รอดชีวิต

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 10 : ส่วนสูง

    • อัปเดตล่าสุด 26 ต.ค. 61






          "ช้าๆแฮร์รี่ ชาแต่ละชนิดมีวิธีกลั่นกลิ่นหอมและรสชาติออกมาต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือเธอต้องอ่อนโยน"เสียงทุ้มนุ่มของนาร์ซิสซ่าเรียกความสนใจลูเซียสจากประตูบ้านไปยังห้องครัวห้องอาหารแทน ตอนนี้ยังเช้าอยู่และเงียบสงบ เพราะเดรโกและเด็กๆยังไม่ตื่นกัน ลูเซียสคิดว่าเขาควรไปทำงานในเวลานี้ก่อนจะมีอะไรมาทำให้เขาต้องไปสาย 

     

          "...ใครสอนคุณชงชาหรือคะ?"เสียงเล็กหวานใสเป็นเอกลักษณ์ทำให้ลูเซียสชะงักฝีเท้า แล้วเดินให้เบาลง 

     

          "แม่ของฉันสอนตั้งแต่เด็กน่ะ"เสียงเครื่องแก้วกระทบกันเล็กน้อยและแผ่วเบาเป็นสัญญาณว่าการเตรียมชาเสร็จเรียบร้อยแล้วเหลือเพียงแค่รอเวลา ลูเซียสยืนพิงประตู มองไปยังเด็กสาวในชุดโกธิคโลลิต้าสีเลือดนกที่กำลังเท้าคางจ้องกาน้ำชาด้วยความอิ่มเอิบในใจ 

     

           อาหารตาแต่เช้าเลย 

     

         "มันเป็นเรื่องที่แม่สอนลูกกันปกติสินะคะ"แฮร์รี่พึมพำเบาๆตอนที่เธอมองควันที่ลอยขึ้นมาจากปากกา เธอสงสัยว่ามันจะมีความรู้สึกยังไงหากแม่ของเธอมาสอนเธอเรื่องนี้ อย่างใกล้ชิด 

     

          "...และแม่ฉันก็นสอนว่า ชาก็เหมือนกับผู้หญิงอย่างเรา ต่างคนชื่นชอบต่างกัน เข้ากับสิ่งต่างๆได้ต่างกัน แต่ที่เหมือนกัน คือพวกเธอจะเติบโตอย่างเชื่องช้า อ่อนโยน และออกดอกผลิบานหอมหวานได้ต่างกัน"นาซิสซ่าลูบไปตามเรือนผมสีดำขลับของเธออย่างแผ่วเบา ความนุ่มลื่นและกลิ่นหอมทำให้เธออยากจะฟัดสักทีอย่างแทบห้ามไม่อยู่ 

     

          "..หนูจะสวยขึ้นหรอคะ?"แฮร์รี่เงยขึ้นมองนาซิสซ่า หญิงสาวกระชับผ้าคลุมและส่งยิ้มให้แก่เด็กน้อยที่ใกล้จะได้เวลาเติบโตเป็นสาว 

     

          "แน่นอนที่รัก สูงขึ้น สวยขึ้น สัดส่วนดีขึ้น เธอจะต้องตื่นเต้นกับมันแน่นอน" 

     

          "ไงที่รัก คุยอะไรกันอยู่หืม"ลูเซียสตัดสินใจเดินเข้าไปแทรกกลางวง ก่อนที่เขาจะได้ยินความลับของสาวๆเข้า แก้มของเด็กสาวขึ้นริ้วสีชมพูเล็กน้อย ลูเซียสได้ยินมาแล้วว่ามันเป็นความ 'ปลื้มในรูปแบบของต้นแบบหรืออะไรก็ตาม  

     

          "เรื่องของสาวๆค่ะ จะออกไปข้างนอกหรอคะ?"นาซิสซ่าเอ่ยถามแล้วรับอ้อมกอดกับจูบสัมผัสเบาๆที่แก้มและริมฝีปาก เป็นการอวยพรสามีของเธอในการทำงาน ลูเซียสพยักหน้า 

     

          "ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ จะรีบกลับมา หวังว่าจะทันพาเธอบินขึ้นไม้กวาด"ลูเซียสขยิบตาให้กับแฮร์รี่ เด็กสาวฉีกยิ้มกว้างและหัวเราะเบาๆอย่างดีใจ นาซิสซ่าอมยิ้มกับท่าทางแสนน่ารักนั่นก่อนที่เธอจะเบิกตาเล็กน้อย 

     

          "แฮร์รี่ จูบอวยพรให้อาลูเซียสหน่อยสิคะ"ลูเซียสหันขวับไปหาภรรยาอย่างตกใจส่วนแฮร์รี่มองอย่างงงๆ แล้วกระโดดลงจากเก้าอี้ตอนหลังจากที่นาซิสซ่าชี้ที่แก้ม  

     

          ลูเซียสย่อตัวลงคุกเข่า ทำให้ใบหน้าของเขาต่ำลงพอที่เด็กสาวจะจูบถึง ในใจของชายหนุ่มรุ่นพ่อเต้นกระหน่ำอย่างประหลาด ตั้งแต่สัมผัสแรกเมื่อวานยังตราตรึงมาตลอดวันจนตอนนี้...แล้วนี่จูบ... 

     

          จุ๊บ 

     

         ริมฝีปากเล็กๆนั้นสัมผัสแผ่วเบาที่ข้างแก้ม แผ่ความร้อนไปทั่วอกแกร่ง สัมผัสเดิมที่ข้างแก้มอีกข้าง ทำให้อกของเขาร้อนเป็นไฟ ลูเซียสกลืนน้ำลาย เขาแสร้งทำเป็นหัวเราะ แล้วฝังจมูกลงบนแก้มผ่องๆขาวนวลนุ่มนิ่มทั้งสองข้างหนักๆอย่างหมั่นเขี้ยว ได้ยินเสียงแฮร์รี่หัวเราะเบาๆเพราะจั๊กจี้ไรหนวดแล้วลุกขึ้น 

     

         "มานี่มาแฮร์รี่ ชาได้ที่แล้ว"นาซิสซ่ายิ้มอิ่มเอมใจกับภาพที่เห็น เธอเรียกเด็กน้อยคนโปรดไปแล้วโบกมือไล่สามีให้ออกไปจากวงสนทนาสักที ลูเซียสล่าถอยออกมาและไม่ทันที่จะพ้นประตู 

     

         ผลัก 

     

         "ฉัน จะ ฆ่า นาย" ลูเซียสไม่เคยเห็นคนอยากฆ่าใครด้วยความโกรธขนาดนี้มาก่อน นกกระสาเมื่อคืนกลายมาเป็นนกเค้าแมวในตอนนี้และกำลังแยกเขี้ยวจะตะปบคอขาอยู่มะรอมมะร่อ 

     

         "ใจเย็นน่า แค่หอมแก้มเอง"ลูเซียสพยายามปลอบเพื่อนสนิท แต่เหมือนจะไม่ได้ผลเพราะต้นเหตุคือตัวเขาเอง 

     

         "นายว่าจะเป็นยังไงถ้าฉันค้นหลักฐานในบ้านไปยื่นศาลว่านายเป็นผู้เสพความตาย ฉันจะได้ยัดเยียดข้อหาพรากผู้เยาว์เพิ่มเข้าไปด้วย"สเนปเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง 

     

         "แค่ข้อหาผู้เสพความตายก็ตลอดชีวิตแล้วไหม นี่นายเป็นเพื่อนฉันจริงไหมเนี่ย! ไปให้เธอหอมบ้างสิ จะได้เลิกอิจฉา"ลูเซียสดันเพื่อนซี้ออกห่างแล้วจัดเสื้อ ยิ่งเห็นสีหน้าบิดเบี้ยวที่เหมือนจะฆ่าเขาแล้วฆ่าตัวตายตามนั่นยิ่งมั่นใจ..อิจฉาร้อยเปอร์เซ็นต์ 

     

         "เป็นเพื่อนก็ไม่ได้แปลว่าแกจะมายุ่งกับลูกสาวของฉันได้นะ" 

     

         "นายแต่งงานมีภรรยาชื่อลิลลี่ เอฟเว่น รึไง นายต้องแยกระหว่างความฝันกับความจริงนะ เพราะจริงๆแล้วมันคนละขั้วไปด้วยกันไม่ได้เลย"ลูเซียสกัดแรงๆหนึ่งทีข้อหามาทำให้เสื้อของเขายับ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปอย่างผู้ชนะ 

     

         "ได้..ได้..ฉันจะอยู่บ้านนาย กินข้าวเช้า กับความโกรธที่ทำอะไรไม่ได้"สเนปกัดฟันพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้าเมื่อได้ยินเสียงแฮร์รี่ตะโกนเรียกอยู่ด้านใ โอ้อวดชาที่เธอชงเองกับมือ ถึงแม้จะแค่คนเพราะนาซิสซ่าตระเตรียมไว้ให้หมดแล้วก็ตาม 

     

         

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     “ฉันอยากอยู่เลี้ยงฉลองข้ามปีที่คริมสันเคาท์ตี้”เสียงโอกครวญจากสาวแว่นหนึ่งเดียวเลิกคิ้วของแพนซี่ให้สูงขึ้นอย่างแปลกใจ 

     

     “เหมือนตรงนี้จะมีคนเอาแต่ใจเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคนแล้วล่ะ”เบลสหัวเราะ เพราะหลังจากกลับมาจากการพักร้อนที่บ้าน พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของแฮร์รี่ ตรงที่จากเด็กสาวเงียบๆสีหน้าอมทุกข์ สงบเสงี่ยมเรียบร้อย กลายเป็นเด็กสาวที่กำลังคร่ำครวญไม่อยากกลับโรงเรียนไปซะได้ 

     

    “หนึ่ง คุณนายมัลฟอยตามใจเธออย่างกับอะไรดี สอง และพอไปบ้านแพนซี่หนักกว่า เธออยากได้ลูกสาวแบบแฮร์รี่ แต่พวกเขากำลังทำให้แฮร์รี่เป็นแบบแพนซี่”เฮอร์ไมโอนี่กรอกตา และทำเป็นไม่เห็นสายตาที่ค้อนขวับของสองสาว 

     

    คริมสันเคาท์ตี้มีอะไร?”เดรโกอดเอ่ยถามไม่ได้ หรือบางทีเขาอาจจะตกข่าวไปเพราะไม่ได้ไปนอนค้างบ้านพาร์กินสันเป็นอาทิตย์แบบอีกสองคน 

     

    “เป็นงานที่มักเกิ้ลวัยรุ่นไปกัน..มีพลุ ไฟ คู่รัก...คนเมาอ้วกแตก”แพนซี่ลอกคำพูดที่เฮอร์ไมโอนี่บอกกับเธอมาทั้งดุ้น เด็กสาวผมฟูหันมองก่อนจะไม่ได้กล่าวอะไรไปมากกว่านั้น 

     

     “ฮอกวอตส์ก็มี...พลุเต้นได้ ไฟเปลี่ยนรูป ... ฉันคิดว่าที่ฮอกวอตส์ตื่นเต้นกว่าที่ของมักเกิ้ลแบบนั้นแน่นอน”เดรโกหันไปหาเด็กสาวที่กำลังพองแก้มอย่างน่ารักมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับบอกคนทั้งโลกว่ากำลังงอนอยู่ฟัง แฮร์รี่หันมามอง ก่อนจะพ่นลมหายใจจนเป่าปอยผมด้านหน้าเธอให้ยกตัวขึ้นอย่างเบื่อหน่าย เดรโกมองไปยังริมฝีปากเล็กเป็นกระจับขึ้นสีชมพูระเรื่อแล้วเม้มปากตัวเอง 

     

     “สาม เดรโก”เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆ แต่ทำให้แพนซี่ขำจนสำลัก 








    "แฮร์รี่! เธอต้องไม่เชื่อแน่ว่าฉันได้อะไรมาตอนคริสมาสต์!" เสียงของโรนัลล์ตะโกนลั่นขณะวิ่งมาหาเธอกลางโถง จนศาสตราจารย์สเนปที่เพิ่งจะยอมแยกเธอไปสอนต่อได้หันมาและเอา 10 คะแนนไปจากบ้านกริฟฟินดอร์


    "อะไรหรอรอน?"รอนมีสีหน้าดีใจขึ้นเมื่อแฮร์รี่สนใจคำพูดเขา-


     "ไม้กวาด!!! พี่ชายฉันเก็บเงินซื้ออันใหม่ได้อะนเก่าเลยเป็นของฉัน ฉันลองแล้วมันพยศนิดหน่อยแต่ฉันคุมอยู่"เดรโกเบ้ปาก แล้วทำปากขมุบขมิบตามคำพูดอย่างล้อเลียน


     "ยินดีกับไม้กวาดยาจกของแกด้วย และอยากให้ย้ำอะไรไหม? นี่โต๊ะสลิธีริน กลับไปโต๊ะตัวเองไป เหม็นสาปคนจน"ไม่พูดเปล่า เด็กหนุ่มคีบนิ้วบีบจมูกใส่ไล่ส่งในทันที


     "ไอ้หัวซีด!!!"


     "มิสเตอร์วิสลีย์!!!"เสียงกระแอมดังสยบสงครามเล็กๆได้ทันก่อนที่มันจะเกิดขึ้น ศาสตราจารย์ควีเรลล์ตัวสั่นสะท้าน มองแฮร์รี่ด้วยแววตาเต็มไปด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ "ธ-ธ-ธ-เธอควรกลับ ป-ป-ป-ป-ไปน-น-นั่งที่โต๊ะ ข-ข-ของธ-ธ-เธอ"


     แฮร์รี่จำได้ว่าเขาคือ ศาสตราจารย์ควีเรลล์ ที่เธอเจอที่ร้านหม้อใหญ่รั่ว เขาดูมีท่าทางคล้ายหวาดระแวงทุกคน ช่างกูอ่อนแอและขี้ขลาดเหนือใครหลายครั้งที่เธอแอบเห็นเขาแอบคุบกับศาสตราจารย์สเนปก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเขาจะเหี่ยวตายเพราะถูกสายตาคมๆนั่นดุหรือเปล่า


    "ม..ม..มิส...พอตเตอร์หว..หวังว่าเธอจะส...ส...สนุกกับวันหยุดค..ค..คริสมาสต์"ไม่ทันที่แฮร์รี่จะได้ตอบอะไรกลับไป ศาสตราจารย์ก็เร่งก้าวเท้าหนีไปแทบจะทันที ปล่อนเด็กสาวนั่งงงอยู่กับที่


    "เขาดูสับสนแปลกๆ"แฮร์รี่เอ่ยอย่างตั้งจ้อสังเกตุ


    "เขาสับสนกับตัวเองล่ะมั้ง" เดรโกยักไหล่ ก่อนที่เขาจะยกนาฬิกาขึ้นมาดู "จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ไปกันเถอะ"








     "วันนี้ตั้งใจ และจับไม้กายสิทธิ์ของเธอให้ดีที่รัก เธอจะต้องใช้มันร่ายคาถาที่มีความแม่นยำและสมาธิอย่างสูง" ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเดินพาร่างเพรียวบางของเธอผ่านฝูงนักเรียนที่รีบนั่งไปยังหน้าห้อง แฮร์รี่ง่วนอยู่กับการแกะหมากฝรั่งออกจากไม้กายสิทธิ์ของเธอ และอดไม่ได้ที่จะอี๋ทุกครั้งที่นึกได้ว่ามันออกมาจากปากของกอยล์ เธอคงให้เฮอร์ไมโอนี่ช่วย เพียงแต่วิชาแปลงร่างของศาสตราจารย์มักกอนนากัลเป็นคาบเรียนร่วมกับเรเวนคลอ ไม่ใช่กริฟฟินดอร์


     "มิสเอเบอรอต คุณช่วยบอกได้ไหมว่าตามตารางที่ฉันได้ให้ไปเมื่อต้นเทอม ในสัปดาห์นี้เราจะเรียนเกี่ยวกับอะไร" ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเอ่ยถามนักเรียนบ้านเรเวนคลอคนนึง เป็นจังหวะเดียวกับที่แฮร์รี่ป้ายหมากฝรั่งลงกับพื้นเก้าอี้


     " เอ่อ...เป็นการสร้างมนุษย์กระดาษค่ะ"


     "เยี่ยมมาก นั่งลงได้" แฮร์รี่หูผึ่งขึ้นในทันที เธอตื่นตาตื่นใจกับตุ๊กตานางฟ้าในวันคริสมาสต์มาแล้ว ลูเซียสบอกกับเธอว่ามันเป็นคาถาเดียวกับการสร้างมนุษย์กระดาษที่จะได้เรียนในเทอมนี้ " มนุษย์กระดาษ เป็นอีกหนึ่งศาสตร์ของการสอกแนมที่พ่อมดแม่มดสมัยก่อนใช้กันอย่างแพร่หลาย หรือแม้กระทั่งพ่อมดแม่มดเก่งๆบางคนก็ทำให้มันเป็นตัวตายตัวแทนได้"


      ศาสตราจารย์มักกอนนากัลเดินไปที่โต๊ะทำงานของเธอโบกไม้กายสิทธิ์ตัดกระดาษจนกลายเป็นรูปคนจิ๋ว ก่อนจะร่ายคาถาพร้อมโบกไม้กายสิทธิ์อีกครั้ง เจ้าตุ๊กตากระดาษก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจบนโต๊ะ


     "มันจะฟังคำสั่งของเราและทำตามอย่างเคร่งครัดไม่มีข้อบกพร่อง....โดยเราจะต้องใส่คีย์เวิร์ดในการสั่ง เช่น...เจ้าตุ๊กตาที่น่าสงสาร จงมองหาต้นตอของกลิ่นพาย"เจ้าตุ๊กตาจิ๋ววิ่งแล่นไปหาแครบแทบจะในทันที ส่งให้เสียงหัวเราะดังสนั่นห้อง " และการสั่งคำสั่งต้องมีเหตุและผล อย่างเช่น เธอไม่สามารถสั่งให้มันบินไปตามหากลิ่นพายได้ ถ้าตัวเธอไม่ได้กลิ่นพาย หรือสั่งให้มันไปซื่อขนมปังที่ฝรั่งเศสมาให้เธอทานเป็นมื้อเที่ยงไม่ได้เช่นกัน"


     "การสร้างตุ๊กตาหนึ่งตัวให้เวทย์มนต์และสมาธิมาก และหามนต์คลายลง ก็จะสิ่งกลิ่นอายของเธอเอาไว้เต็มแผ่น นั่นทำให้มันหมดความนิยมไปตั้งแต่มีผู้คิดค้นคาถาตรวจจับ"


     เดรโกเงียบ และตั้งใจเรียนยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เขาเคยทำ สร้างความแปลกใจให้กับเบลสเป็นอย่างมาก แต่เขาก็เดาได้ไม่ยากว่าคงเกี่ยวกับแฮร์รี่ และแน่นอนว่าเกี่ยวกับวาเลนไทน์ในอีกไม่กี่อาทิตย์นี้อย่างแน่นอน


     แฮร์รี่เองก็ตั้งใจเรียนและฝึกทั้งท่องและร่ายคาถาเช่นกัน เธอรู้สึกว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเธอเองในอนาคตหากเธอเรียนรู้เอาไว้ 







    แฮร์รี่กลับหอนอนมาในตอนเย็นก่อนเวลาอาหารเพื่อที่จะเอาหนังสือมาเก็บ เธอไม่อยากหอบมันไปมา ด้วยขนาดตัวของเธอการถือหนังสือเล่มที่เบลสบอกว่าใหญ่กว่าตัวเธอเดินไปมาไม่ใช่เรื่องที่น่าเพิกเฉยซะเท่าไหร่ และแพนซี่ยัยเพื่อนใจดำถูกซื้อไปด้วยพุดดิ้งเค้กของหวานวันนี้ และเดรโกก็ดูหมกมุ่นกับอะไรสักอย่างจนไม่สนใจเธอ รวมทั้งหมดนั้นทำให้แฮร์รี่ที่กำลังน้อยใจเดินเอาหนังสือมาเก็บที่ห้องเพียงคนเดียว


    "มิสพอตเตอร์" อาจจะไม่คนเดียวแล้ว แฮร์รี่หันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย ศาสตราจารย์ปรุงยายืนกอดอกและส่งสายตาไม่เข้าใจอย่างมากมาให้เธอ


    "สวัสดีค่ะศาสตราจารย์สเนป"


    "ทำไมมาอยู่ที่นี่คนเดียว? นี่เป็นเวลาอาหารนะเธอควรอยู่ที่ห้องโถงสิ"


    "หนูเอาหนังสือมาเก็บค่ะ"แฮร์รี่ชูหนังสือเล่มยักษ์หลายเล่มในมือขึ้น และภาวนาให้อีกฝ่ายปล่อยเธอไปเสียทีเพราะเธอเหนื่อยมากแล้ว ระหว่างเดินเรียนเธอได้ความช่วยเหลือจากทั้งแครบ กอยล์ เบลส น๊อต หรือเดรโก ในการแบ่งหนังสือจากเธอไปถือ มันหนักมากจริงๆถ้าเธอถือเพียงคนเดียว และอดคิดไม่ได้ว่ากล้ามเธออาจจะขึ้นไปเลย


    "...." ศาสตราจารย์สเนปก้าวมาหาเธอก่อนจะแบ่งหนังสือไปถือสี่จากห้าเล่ม ทำให้แฮร์รี่เงยมองงงๆ


    "นำไปสิ ฉันไม่อยากเห็นเธอหกล้มหน้าทิ่มเป็นแผลเพราะหนังสือรุงรังนี่หรอกนะ"


    "...ค่ะ ศาสตราจารย์" แฮร์รี่หงอยลงเล็กน้อย เธอเสียใจที่เธอตัวเล็กกว่าเพื่อนในรุ่น มีความเป็นไปได้ว่าคงเป็นเพราะเธอไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอในวัยเด็ก


    "ตอนอายุเท่าเธอ แม่ของเธอสูงกว่าเธอแค่ไม่กี่เซนเอง " ศาสตราจารย์ปรุงยาเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ที่ส่งผลให้แฮร์รี่เบิกตากว้าง


    "จริงหรอคะ!!" เด็กสาวยิ้มกว้างอย่างมีหวังขึ้นมาเธอสูงขึ้นแน่ แค่ยังไม่ใช่ตอนนี้สินะ


    "พอขึ้นปีหน้า เธอจะสูงขึ้นเร็วมาก นำเด็กผู้ชายไปเลยล่ะ"


    แฮร์รี่จินตนาการภาพที่เธอก้มมองเดรโกแล้วหัวใจเธอก็รู้สึกราวกับว่าได้เติมเต็ม


     " แต่ว่าจะขี้เกียจไม่ได้นะ " สเนปว่า " ดื่มนม ออกกำลังกาย นอกจากจะสูงไวแล้ว ร่างกายก็จะแข็งแรงด้วย "


    "ศาสตราจารย์ดื่มนมไหมคะ?" แฮร์รี่เอ่ยถาม " เพราะคุณสูงมากเลย "


    " ก็ดื่ม..." เซเวอรัสชะงักไป คำว่าก็ดื่มของเขานั้นแปลว่าน้อยมากๆ เพราะเขาดื่มกาแฟซะเป็นหลักไปซะแล้ว


    "หนูอยากสูงเหมือนศาสตราจารย์จังเลยค่ะ เวลาเดินข้างๆคุณ คุณจะได้ไม่ต้องก้มมองหนูให้เมื่อยคอด้วย" แฮร์รี่ว่า เธอเอาหนังสือวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะเขย่งวัดส่วนสูงกับอีกฝ่าย แล้วมีสีหน้าเกือบช๊อคเมื่อเธอสูงกว่าหัวเข็มขัดเขามาไม่กี่ฝ่ามือ


    " เธอตัวเล็กน่ะดีแล้ว มีหลายอย่างที่เป็นข้อดีของคนตัวเล็กนะ "


    " อย่างเช่นอะไรหรอคะ?" สเนปวางกองหนังสือลง ก่อนจะก้มลงไปอุ้มอีกคนขึ้นมา


    " พกพาสะดวก "


    "หนูเป็นคนนะคะศาสตราจารย์ " แฮร์รี่ส่งสายตาว่างเปล่าไปให้กับศาสตราจารย์ปรุงยา ดวงตาของเขาดูขบขันก่อนจะปล่อยเธอลงยืนที่เดิม


    " เธอวิ่งหนีได้ไวกว่า หลบในซอกเล็กๆได้ดีกว่า เพราะตัวเล็กเลยซ่อนง่าย เผลป็นคุณสมบัติที่ดีในการหลบหนี "


    "อ๋อ" แฮร์รี่พยักหน้าหงึกหงัก เธอเอียงคอเล็กน้อย " แล้วหนูจะต้องหลบหนีจากอะไรหรอคะ?"


    " ผู้ชายทุกคนคือหมาป่าแฮร์รี่ ถ้าใครพาเธอไปไหนสองต่อสอง วิ่งซะ หลบซะ หนีซะ แล้วเรียกฉัน ถ้าไม่งั้นจำหน้ามันเอาไว้ ฉันจะทำให้มันได้รู้ว่ากิ่งต้นวิลโล่ว์มีสัมผัสยังไง "สเนปร่ายยาวในทันที แฮร์รี่ที่เงียบฟังจนจบปล่อยเสียงหัวเราะหวานใสออกมาอย่างมีความสุข


    "ศาสตราจารย์เป็นคนตลกกว่าที่คิดอีกนะคะ "


    " อยู่กันสองคน...เรียกเซเวอรัสก็ได้นะ " 


    " เอ๊ะ " แฮร์รี่ชะงัก เธอหันไปมองชายร่างสูงใหญ่ อีกฝ่ายมองทางด้านหน้า ดูไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เพิ่งพูด"ลูกสาวของลิลลี่ ยังไงก็ถือเป็นหลานฉันก็ได้ล่ะมั้ง "


    "...." แฮร์รี่ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป แต่เด็กสาวกำลังรู้สึกแปลกประหลาดในที เธอไม่เคยรู้ ว่าการที่มีคนมานับญาติกับเธอ จะทำให้หัวใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อน " อื้อ เซเวอรัส "


    แต่งงานกันเถอะ


    สเนปคิดขึ้นมาในหัวทันทีที่รอยยิ้มสว่างสดใสของเด็กสาวส่องมาถึงคนดำมืดอย่างเขาให้ตายเขาอยากแต่งงานกับเธอจริงๆนะเนี่ย


    __________________TBC


    กลับมาแล้ว หลังจากนี้สัญญาว่าจะมาอัพบ่อยๆน้า
















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×