ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของNin_norN

    ลำดับตอนที่ #1 : ใบสมัครนางเอกฮันเกิง (Flowers Boys & GirlS)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 218
      0
      25 พ.ย. 51

                                       ใบสมัคร [ ฮันเกิง ]

                            ขอคำตอบเป็นสีดำนะคะ ^------------^
    [ 1. ข้อมูลผู้สมัคร ]

     
    ชื่อ :: หนอน
    อายุ ::18 ปี
     
    ----------------------------------------------------------
     
    [ 2. ข้อมูลตัวละคร (สามารถสมมุติได้) ]
     
    ชื่อ (ภาษาไทย) :: ปาร์ค จี วอน
    อายุ (ขอ 15-18 คะ ,, ดูอายุพระเอกด้วยนะ) :: 17
    นิสัย :: โดยรวมดูเป็นคุณหนูหัวอ่อน รักเพื่อนมากๆ ตามใจเพื่อนทุกอย่าง เพื่อนมาที่หนึ่งเสมอ จากมุมมองคนที่ไม่รู้จักเธอ ก็ชอบคิดว่าเธอเป็นคุณหนู เงียบๆ ติ๋ม ที่ชอบเสนอหน้าทำกิจกรรมทุกชนิด ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากเท่าไหร่ แต่เพราะอาจารย์ขอร้องบวกลูกยุของเพื่อน เธอก็เลยจำใจรับทำงานทุกชนิดที่มีผู้มอบให้เธอ โดยส่วนตัวเธอค่อนข้างชอบมีโลกส่วนตัวนิดๆ โกรธง่าย แต่ก็หายเร็ว สร้างเสียงหัวเราะให้เพื่อนได้ เพราะยังไม่ทันง้อก็หายโกรธซะแล้ว แต่ถึงจะดูเป็นคนหัวอ่อน ยอมคนไปเรื่อย แต่เธอก็เป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรีมากๆ อารมณ์ยอมหักไม่ยอมงอ
    รูปร่างลักษณะ (ขอให้ตรงกับอิมเมจที่คุณใช้) :: ตากลมโต ริมฝีปากแดงระเรื่อ หน้าเรียวสีขาว พวงแก้มมีเลือดฝาดดูเป็นสีขาวอมชมพูนิดๆ รูปร่างสูงโปร่ง แต่ติดดูจะบอบบางไปนิดนึง ผมยาวดำสลวย ตัดหน้ามานิดๆดูเข้ากับใบหน้าเล็กๆเป็นอย่างดี
    น้ำหนักกับส่วนสูง :: 40 / 168
    ประวัติครอบครัว :: บ้านมีพี่น้อง 3 คน อยู่กับพ่อและพี่น้อง แม่เสียไปตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เป็นลูกผู้หญิงคนเดียวและเป็นลูกคนกลาง ฐานะทางบ้านจัดได้ว่ารวย ทั้งพี่ชาย (เฮียวมุน) และน้องชาย (แจวา) ต่างเป็นศิลปินแนวหน้าของเกาหลี แต่เธอกลับมีความสามารถด้านเบื้องหลังมากกว่า แต่ที่มาอยู่โรงเรียนที่สอนเบื้องหน้าล้วนๆนี้ก็เพราะทั้งพี่ชายและน้องชายต่างก็เรียนอยู่ที่นี่ และทั้งคู่ก็หวงเกินกว่าที่จะให้ไปไกลหูไกลตาได้ แม้ว่าตอนนี้พี่เฮียวมุนของเธอจะเรียนจบไปแล้ว แต่เค้าก็ยังเลือกเรียนมหาวิทยาลัยที่ไม่ใกล้ไกลจะมาดูแลเธอได้
    สิ่งที่ชอบและสิ่งที่เกลียด :: ชอบมากๆก็คือการทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จสมบูรณประสบความสำเร็จดีเยี่ยม ในหัวสมองมีแต่เรื่องงานๆๆ และการเรียนเท่านั้น
    สิ่งที่เกลียดมากๆคือ สุนัข กลัวขึ้นสมอง แม้แต่ลูกหมาตัวเล็กๆ ก็ขออย่าให้อยู่ในรัศมี 100 ม.
    ความสามารถพิเศษ :: ถึงจะไม่ชอบงานเบื้องหน้า แต่เสียงหวานของเธอก็แปรเปลี่ยนมาเป็นเสียงเพลงที่ไพเราะจับใจได้ แต่เครื่องดนตรีโปรดของเธอ คือ ฟลุ๊ต โดยจะมีฟลุ๊ตเงินที่คุณแม่เธอมอบไว้ให้ ก่อนจะจากโลกนี้ไป เธอจึงมักพกติดตัวเสมอ และจะเป่ามัน เมื่อมีเรื่องไม่สบายใจ เหมือนจะเป็นสื่อเพลงไปให้ถึงคุณแม่บนสรวงสวรรค์
    ของที่ชอบพกติดตัว (ถ้ามี) :: เครื่องดนตรีโปรดของเธอ คือ ฟลุ๊ต (ฮ่าๆๆ ไม่ได้อ่านโจทย์ถัดไป เลยมีเหตุผลข้างบนแทนนะ)
    อื่นๆ (เช่น โรคประจำตัว) :: โรคกล้ามเนื้อหัวใจล้า เหตุเกิดจากปกติไม่ได้เล่นกีฬา แต่เพิ่งมาหักโหมโดยไม่ได้เตรียมพร้อมร่างกาย จึงทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานได้ไม่ค่อยปกติ หากเล่นกีฬาหนักๆโดยไม่ได้ดูแลร่างกายให้ดี อาจจะทำให้กลายเป็นโรคเส้นเลือดในหัวใจตีบแทนได้ โดยโรคกล้ามเนื้อหัวใจล้ายังไม่ถือว่าเป็นโรคที่อันตรายจนทำให้เสียชีวิตได้ แต่ถ้าเป็นเส้นเลือดตีบเมื่อไหร่ เมื่อนั้นขีวิตเธออาจจะหาไม่ได้ (อันนี้เป็นเอง ก็ไม่ค่อยร้ายแรงเท่าไหร่ ถ้าไม่เล่นกีฬาหนักอ่ะนะ ไม่ต้องกลัวนางเอกตาย)
     
    ----------------------------------------------------------
    [ 3. Image ]
     
    ชื่ออิมเมจ :: จำได้แค่ว่า ชื่อ ยูโกะอ่ะ เป็นคนญี่ปุ่น ดูๆไปแล้วอิมเมจตรงก็เอาเลย ดูเด็กใสๆดี เข้ากับฮันเกิงเวอร์ชั่นนีัดี
    รูปภาพ (3 รูป) :: 
      

      ไม่แต่งอะไร ก็น่ารักใสๆ
     ยามแต่งตัวก็ไม่แพ้ใคร

    ----------------------------------------------------------
    [ 4. คำถามทั่วๆไป ]
     
    คุณคิดยังไงกับพล็อตเรื่องนี้ ??
    :: อืม...ก็น่าสนใจดีนะ แต่ว่าบอกมาสั้นไปหน่อย เลยยังบอกอะไรไม่ถูก แต่ว่าแอ๊บชอบฮันเกิงเลยขอมาเป็นนางเอกอ่ะ แล้วพออ่านคำถามก็เข้าใจเรื่องมาขึ้น
    ทำไมถึงมาออเป็นนางเอกของฮันเกิงละคะ??
    :: ฮ่าๆๆ เป็นคนที่ไม่ชอบอ่านก่อนจริงๆ ดันตอบไปข้างบนแล้วอ่ะ ว่ามาสมัครเป็นนางเอกของฮันเกิงเพราะชอบความเท่ห์ คมเข้มของป๋า
    ถ้าคุณติดหรือไม่ติดเรื่องนี้ คุณจะมาอ่าน+เม้นท์+โหวตให้มั้ย ??
    :: แหม...นางเอกเราได้ออกโรง จะพลาดได้ไงเหล่า
    สมมุติว่าไม่ติด อยากจะรับบทเป็นใครคะ (เช่น เพื่อนนางเอก)
    :: ขอเป็นคนที่ฮันเกิงแอบชอบแทนแล้วกัน ฮ่าๆๆ แอบแย่งนางเอกตัวจริง อิอิ แต่ไงก็อยากเป็นนางเอกเองนะ
    เราถามเยอะไปรึเปล่า ??
    :: ไม่อ่ะ ชอบตอบ รู้สึกสนุกดี มีคนมาสานฝันเราต่อ (ถ้าติด) แต่เราอ่ะดิ ตอบเยอะไปม่ะ
    มีอะไรอยากจะบอกกับเรามั้ยจ้ะ ??
    :: ก็ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้ได้ออสนองความนี้ดของตัวเองแล้วกัน ติดไม่ติดก็ได้สนุกแล้วหล่ะ
     
    ----------------------------------------------------------
    [ 5. คำถามตัดสิน ] (ถ้าตอบเป็นบทพูด จะพิจารณาเป็นพิเศษ ^-------^)
    1. คุณรู้สึกชอบฮันเกิงตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า แล้วคุณก็รู้ว่าฮันเกิงอยู่ชมรมบาส คุณจึงขอสมัครอยู่ชมรมบาสด้วย คุณจะไปขอฮันเกิงอย่างไรให้ฮันเกิงรับคุณเข้าชมรมด้วย
    ::  เพราะถูกเพื่อนรักยุ ไอ้คนบ้ายุก็ต้องรับคำท้า เดินหน้าด้านมาสมัครชมรมบาสทั้งๆที่เล่นไม่เป็นเลย แล้วเค้าจะรับเราเข้าชมรมมั้ยเนี่ย
           อ่า...แล้วฉันจะไปสมัครยังไงอ่ะ มีแต่ผู้หญิงรุมล้อมโต๊ะสมัครเต็มไปหมดขนาดนั้นอ่ะ
          ชีวิตนี้ คนอย่างปาร์คจีวอน ไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลย ว่าจะต้องมาเบียดเสียดกับคนมากมายเพียงเพื่ออยากใกล้ชิดกับผู้ชายแค่คนเดียว
          ‘ปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้วนะ ที่เธอจะได้เจอพี่เค้าน่ะ ถ้าไม่รีบกับความรู้จักตอนนี้ ชาติหน้านั้นแหละ ถึงจะได้เจอกันอีก’ เพื่อนรักตัวดีขู่ไว้ ก่อนที่เธอจะมา
          แต่เป็นเพราะแค่ได้สบตากับรุ่นพี่ฮันเกิงเท่านั้น ใจที่สงบนิ่งดังสายน้ำกลับเต้นรัวดัง แววตาดุจมังกรกลับตราตรึงอยู่ในความทรงจำมิรู้ลืม จิตใจเพ้อหาคร่ำครวญคิดถึงแววตาคมเข้มนั่นอยู่มิรู้หาย
          ร้อนก็ร้อน นี่ถ้าอาจารย์ หรือเพื่อนร่วมชั้น มาเห็นว่าเธอมาเบียดเสียดแย่งใบสมัครเพื่อใกล้ชิดผู้ชายอย่างนี้หล่ะก็ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น แต่จะมาล้มเลิกเพราะห่วงศักดิ์ศรีตอนนี้ก็ดูจะสายเกินไปเสียแล้ว เพราะวงล้อมที่ตีรอบเธอนั้นอัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่พื้นที่ให้หายใจ เธอเองก็เกรงว่าจะไม่มีเสียด้วยซ้ำ
          แต่โชคชะตาก็ไม่ได้ร้ายกับเธอจนเกินไป ในที่สุดเธอก็มาอยู่หน้าโต๊ะสมัครเสียที แม้ตอนนี้จะไม่เห็นวี่แววของรุ่นพี่ฮันเกิง แต่ถ้าพรหมลิขิตมีจริง ก็ขอให้เธอฟลุ๊ตติดเข้าชมรมนี้ทีเถอะ
         “ขอใบสมัครเข้าชมรมค่ะ” จีวอนฉีกยิ้มอย่างอ่อนแรง พลางยื่นมือไปรับใบสมัครสีขาว
         แต่เอ๊ะ ทำไมมีหลายใบจัง อ้าว แล้วรุ่นพี่ที่รับสมัครไหงมีแฝดเป็นสิบเลยอ่ะ อ้าวๆ แล้วใครมาปิดไฟหล่ะเนี่ย
          มาถึงตรงนี้ร่างบางของจีวอนจะค่อยๆทรุดลงตรงหน้าโต๊ะสมัครรับคนเข้าชมรม ดีว่าชายหนุ่มชายเลือกมังกรที่สังเกตเห็นนักเรียนดีเด่นมาจ่อคิวเข้าแถวเข้าชมรมเค้ารีบปราดร่างเข้ามารับร่างบางก่อนจะเป็นลมล้มกับพื้นไป
          ก่อนจะอุ้มร่างบางขึ้นและพาไปที่ห้องพยาบาล ท่ามกลางความงุนงงของเพื่อนร่วมชมรมและผู้คนโดยรอบที่ดูฮันเกิงจะสนใจผู้หญิงคนนี้เป็นพิเศษ
     
         “ขอใบสมัครชมรมบาสค่ะ” จีวอนร้องลั่น ลุกพรวดขึ้นจากเตียง เมื่อนึกถึงภารกิจสำคัญของเธอ
         อ่า...ปวดหัวจัง นี่มันห้องพยาบาลไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ฉันสมัครเข้าชมรมได้รึยังนะ
         “ฟื้นมาก็โวยวายเลยนะ” รุ่นพี่ฮันเกิงที่นั่งอยู่ปลายเตียงเปรยขึ้นมา ทำเอาจีวอนถึงกลับตะลึงนิ่งเงียบไปเลย
         “เออ...รุ่นพี่พาฉันมาส่งเหรอค่ะ” จีวอนค่อยๆเงยหน้ามองคู่สนทนาที่กำลังเดินมานั่งบนข้างเตียง
         “ไม่ใช่มั้ง ก็เห็นกันแค่สองคน ว่าแต่เธอนึกไงมาเข้าชมรมบาส” ฮันเกิงถามเสียงดุๆ
         ฮือๆๆ ขอเปลี่ยนใจเลิกชอบได้มั้ยอ่ะ น่ากลัวจัง
        “คะ...คือฉันอยากลองเล่นดูน่ะค่ะ แต่ก็ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่” จีวอนโกหกนิดๆ ขืนบอกว่าเล่นไม่เป็นเลย ใครเค้าจะรับเหล่า
          “งั้นเหรอ แต่ชมรมเราต้องการสร้างทีมบาสหญิงที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อเป็นนักกีฬาโรงเรียน งั้นมือใหม่อยากเธอก็คงหมดสิทธิ์” ฮันเกิงแกล้งขู่ ลอบสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังทำหน้าประหลาดขมวดคิ้วไปมาจนจะผูกกันเป็นโบว์ได้อยู่แล้ว
          “แต่ฉันตั้งใจจริงนะค่ะ คนเราถ้าหมั่นฝึกฝนเดี๋ยวก็เก่งเอง” จีวอนพยายามโน้มน้าวใจชายหนุ่ม
          “แต่ถ้าเราได้คนที่เก่งอยู่แล้ว มาขัดเกลาอีกนิดเดียวก็จะได้ยอดฝีมือ ทีนี้เราจะเสียเวลากับพวกแมงเม่าทำไม” ฮันเกิงกล่าวตามจริงผสมกับขู่ตามเรื่องตามราว
          เพราะโควตาสำหรับนักกีฬา กับสมาชิกที่เพิ่งหัดเล่นน่ะ มันคนละส่วนกัน แต่เพราะพวกนักเรียนหญิงที่อยากเข้ามาชมรมนี้ก็เพื่อใกล้ชิดเค้าทั้งนั้น แม้แต่สาวน้อยข้างหน้านี้ก็เถอะ วันๆเห็นคลุกอยู่กับเรื่องเรียน ไม่คิดว่าแค่มองตาแวบเดียวก็ตกบ่วงเสน่ห์เค้าได้ง่ายขนาดนี้
           “เหรอค่ะ งั้นขอบคุณนะค่ะที่มาส่ง” จีวอนกลั้นน้ำตาที่กำลังก่อตัวอย่างยากลำบาก
          ถ้าคำพูดนี้ไม่ได้ออกมาจากปากคนที่เธอแอบชอบ เธอคงจะไม่แยแสเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอเองก็ยังมีดีอีกมากที่จะไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยนี่
           จีวอนรีบลุกอย่างรวดเร็ว เลยทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เซเข้าหาอ้อมอกฮันเกิงอีกครั้ง
           “ยัยบ๊อง ยังไม่หายก็อย่ารีบลุกซิ” ฮันเกิงพยุงให้ไปนั่งบนเตียงอย่างเดิม
            “แค่ลุกเร็วเฉยๆค่ะ ไม่เป็นอะไรมาก ไปก่อนนะค่ะ” จีวอนสะบัดการเกาะกุมอย่างมีมารยาท แล้วลุกเดินออกไป
           “เฮ้ แล้วจะไม่สมัครเข้าชมรมแล้วเหรอ” ฮันเกิงโบกใบสมัครสีขาวที่เก็บไว้ให้เธอ
          “แล้วรุ่นพี่จะเอาแมงเม่าเข้าชมรมทำไมหล่ะค่ะ ฉันไม่สมัครให้ชมรมรุ่นพี่เสื่อมเสียหรอกค่ะ” จีวอนพูดอย่างน้อยใจ
          “เพิ่งจะรู้นะเนี่ย ว่านักเรียนดีเด่นของโรงเรียนจะถอดใจง่ายๆแบบนี้” ฮันเกิงแกล้งยุ เพื่อหญิงสาวจะมีไฟขึ้นมาบ้าง
          และก็ตรงจุดพอดี ถึงจะดูหัวอ่อน แต่เธอก็เคยยอมให้ใครดูถูกเธอง่ายๆ
           ว่าแต่...รุ่นพี่รู้ได้ไงว่าฉันเป็นนักเรียนดีเด่นอ่ะ หรือว่ารุ่นพี่ก็แอบชอบฉันอิอิ แต่คงไม่หรอก รูปฉันขึ้นวารสารโรงเรียนแทบทุกฉบับเวลาไปกวาดรางวัลวิชาการต่างๆมาให้โรงเรียน จะเห็นหน้าบ้างก็คงไม่แปลกหรอกม้้ง
           “แล้วรุ่นพี่กล้าให้โอกาสฉันพิสูจน์มั้ยหล่ะค่ะ” จีวอนเปลี่ยยนท่าทีเป็นดุดันทันที เมื่อมีคนกล้ามายุเธอ
            “ก็ถ้าเธอคิดว่ามีความสามารถพอก็เอาเลย เจอกันพรุ่งนี้นะ” ฮันเกิงยัดกระดาษสีขาวลงบนมือของจีวอน ก่อนจะเดินยิ้มออกจากห้องอย่างสบายใจ
           ทั้งๆที่เค้าเองก็มีหญิงสาวให้เลือกอยู่มากมาย คนที่สวยน่ารักแบบจีวอนก็มีไม่น้อย แต่ทำไมเค้าถึงได้ติดใจหน้าอึดฮัดเอาจริงเวลาไม่ยอมแพ้ของหญิงสาวอยู่ได้นะ แต่ช่างเหอะ มาอยู่ชมรมเดียวกันแบบนี้ เธอคงสร้างเรื่องแปลกๆให้เค้าได้อีกเยอะ
          จีวอนก้มมองกระดาษในมือตรงหน้า ก่อนจะแอบร้องกรี๊ดในใจ ก็ในช่องใบเซ็นอนุมัติให้เข้าชมรมบาสมีชื่อพี่ฮันเกิงแผ่หลาเป็นตัวเข้มบนกระดาษเธอน่ะซิ
          คอยดูเถอะ ฉันจะแสดงให้รุ่นพี่เห็น ว่าคนอย่างฉันก็เล่นบาสได้ดีไม่แพ้ใคร
         เฮ้ย...ฉันเล่นบาสไม่เป็นนี่หน่า!!!

    2. พอคุณได้เข้าชมรมบาส คุณก็เพิ่งนึกได้ว่าคุณเล่นบาสไม่เป็นเลย คุณจึงได้แต่นั่งเงียบอยู่เฉยๆตลอดเวลา แต่ฮันเกิงได้บอกให้คุณลงมาเล่นด้วย คุณจะทำอย่างไร
    ::
     “คือว่า...คนมันครบแล้ว ฉันไปขนน้ำเอามาช่วยเสิร์ฟดีกว่านะค่ะ” จีวอนใช้ข้ออ้างเดิมเป็นครั้งที่ร้อยเมื่อมีคนช่วยเธอไปเล่นบาส
         “เลิกใช้ข้ออ้างเดิมๆซะที ปาร์คจีวอน เธอโอดครวญแทบตายเพื่อเข้าชมรมนี้ แต่ดันไม่คิดจะเล่นเลยนี่นะ แล้ววันนี้เธอก็ขนน้ำมาห้ารอบแล้วด้วย จะขุนให้คนในชมรมเป็นโรคบวมน้ำรึไง” ฮันเกิงเสียงแข็งคว้าข้อมือลากเธอลงสนามมาด้วย
         ตาย ตายของแท้แน่ๆ แค่วิ่งแข่งธรรมดาฉันยังแทบตาย แล้วนี่ต้องมาเลี้ยงลูกลมๆหนักๆนี่อีก ชีวิตมีอะไรแย่กว่านี้อีกมั้ย
         “เดี๋ยวเธออยู่ฝั่งฉัน กับหมอนั่น แล้วก็ผู้หญิง 2 คนนี้” ฮันเกิงชี้เพื่อนร่วมทีมหัวเกรียน กับสองสาวร่างบอบบาง
         ขนาดผู้หญิง 2 คนนั้นยังเล่นได้ ฉันก็ต้องเล่นได้ สู้ๆ
         จีวอนให้กำลังใจตัวเอง แต่แล้วหัวใจเธอก็แทบตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ก็ฝั่งตรงข้ามเป็นหญิงเหล็ก รูปร่างบึกบึน 3 คน ส่วนชายร่วมทีมก็ตัวใหญ่ไม่น้อยหน้า นี่มันรวมทีมยักษ์รึไงนะ
        ปรี๊ด
        เสียงเป่านกหวีดสัญญาณการแข่งขันเริ่มเป่าขึ้น ฮันเกิงกระโดดปัดแย่งลูกมาที่จีวอน จีวอนรีบรับอย่างรวดเร็ว แต่ก็รีบผละลูกโยนไปให้เพื่อนร่วมทีมแทบจะทันทีที่ได้ลูก
          จีวอนพยายามวิ่งตามลูกไปวิ่งตามลูกมา แต่เมื่อเพื่อนร่วมทีมคิดจะส่งลูกให้เธอ เธอก็จะวิ่งไปหาคู่ต่อสู้บ้าง หรือไม่รับปุ๊ป ก็โยนกลับปั๊ป ไม่กล้าประคองลูกกับตัวเองนาน เดี๋ยวจะเสียลูกเปล่าๆ
         “ยัยบ้า เธอคิดจะเข้าชมรมบาส หรือชมรมหนีลูกบาสห๊า คนเค้าส่งให้ ก็รับแล้วไปชู๊ตซิ” ฮันเกิงดุ เมื่อเห็นจีวอน โยนลูกคืนไปมากับเพื่อนร่วมทีมราวกับลูกบาสเป็นไส้เดือนกิ้งกือ
          เงอะ ฉันก็เล่นไม่เป็นนี่ฟ่า แค่วิ่งไปมาตามพวกรุ่นพี่ก็บุญแล้ว
          ระหว่างที่เกมกำลังดุเดือด สำหรับทุกคน ยกเว้นจีวอนที่พยายามวิ่งไปมาเป็นเพียงแค่ตัวประกอบ เลี่ยงลูกบาสเท่าที่เลี่ยงได้ แต่คนเล่นสี่คนจะไปสู้ห้าคนได้อย่างไรเหล่า จะให้เธอไปบล็อกหญิงเหล็กหรือชายถึกเธอก็ไม่มีปัญญา ได้แต่วิ่งถ่วงทีมไปเรื่อยๆ
          “จีวอน ถ้าเธอส่งลูกคืนให้ใครอีกหล่ะก็ เธอตายแน่ๆ” ฮันเกิงคาดโทษแล้วส่งลูกมาให้จีวอนอย่างแรง จนร่างบางถึงกับเซไปนิดนึง
          เมื่อคู่แข่งเห็นลูกบาสตกมาอยู่กับคนที่ดูท่าจะเล่นไม่เป็นเลย (ก็ไม่เป็นจริงๆอ่ะ) ต่างจะพยายามวิ่งโผเข้ามา แต่คนในทีมของเธอก็พยายามป้องกันอย่างเต็มที่ และส่งสายตาคาดหวังมาที่ฉัน ว่าจะสามารถทำแต้มสุดท้ายให้กับทีมได้ เพราะตอนนี้คะแนนเสมอกันที่ 11 – 11
           เมื่อไม่มีทางเลือก จีวอนก็ต้องพยายามทำท่าเลี้ยงบอลจากที่เธอเคยเห็นคนอื่นๆทำ ค่อยๆเตาะแตะไปยังแป้นบาส ท่ามกลางการุล้นทั้งของคนในสนามและนอกสนาม แต่จู่ๆลูกทีมหญิงเหล็กอีกคนที่ไม่ได้ถูกบล๊อคก็วิ่งจะอีกฟากของสนามเตรียมเข้ามาแย่งลูกบาสน้อยๆในมือเธอ
          ไม่นะ...แค่เลี้ยงให้ไปถึงแป้นฉันก็จะตายแล้ว ให้ฉันเลี้ยงหลบยัยนี่ เอาบาสปาหัวฉันดีกว่า
          แม้ว่าจีวอนจะรู้ตัวดีกว่าเธอคงประคองลูกเลี้ยงหลบหญิงเหล็กร่างใหญ่ไม่ได้แน่ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ พยายามเอาตัวบังลูกประคองลูกเท่าที่มีปัญญา จนทำให้ลูกทีมฝั่งตรงข้ามหลุดการป้องกัน วิ่งเข้ามาช่วยหญิงเหล็กทันที แต่คนในฝ่ายเธอก็ไม่ได้ปล่อยให้เธอเผชิญศึกคนเดียว
          ตอนนี้หน้าแป้นบาสทำแต้มของฝั่งเธอ กำลังเป็นจุดนัดรวมของผู้เล่นทั้งสองฝากที่พยายามจะตรงเข้ามาเอาลูกไปทำแต้ม แต่ตอนนี้ลูกยังอยู่ในมือฉันที่ถูกบีบล้อมจนอยู่กลางวง มีมือถึกๆของยัยยักษ์ใหญ่พยายามจะมากระชากลูกไป แม้ว่าจะกั๊กลูกแบบนี้จะผิดกติกา แต่ดูท่าคงจะไม่มีใครเห็น หรือไม่ก็เพราะจีวอนไม่แคร์อะไร เธอจึงยึดลูกบาสเอาไว้ในอ้อมอก ในสมองมีเพียงอย่างเดียวคืออย่าให้ใครแย่งลูกเธอไปได้
          แฮ่กๆๆ ทำไมเหนื่อยขนาดนี้เนี่ย แล้วมารุมกันแบบนี้ฉันชักจะเริ่มหายใจไม่ออกนะ
     แต่หญิงสาวร่างบอบบางหรือจะสู้ยัยยักษ์ถึกทน ในที่สุดอีกฝ่ายก็สามารถแย่งลูกไปจากเธอ และรีบวิ่งเข้าไปชู๊ตเพื่อทำแต้มในวินาทีสุดท้าย เพื่อนร่วมทีมเองก็คงจะเห็นความสำคัญของกีฬา จนไม่ได้หันมามองคนที่ทำให้ลูกหลุดมือที่กำลังนอนกุมหัวใจแน่น หายใจอย่างแรงเพื่อให้อากาศเข้าปอดมากที่สุด
         ปรี๊ด
          เสียงนกหวีดบอกหมดเวลา การแข่งขันสิ้นสุด ทีมยักษ์ไม่สามารถทำแต้มได้ในวินาทีสุดท้าย จึงกลายเป็นเกมนี้เสมอกันไป
         ดีจัง ถึงจะไม่ชนะ แต่ก็ไม่แพ้น่ะ จีวอนว่าในใจ พลางรู้สึกอ่อนล้า เมื่อจะสิ้นแรงเสียให้ได้
         โอ้ย ไอ้หัวใจบ้า จะบีบตัวแรงหาพระแสงอะไร ปวดเป็นนะเนี่ย ยิ่งหายใจไม่ออกอยู่
         “จีวอน เธอเป็นอะไรน่ะ” ฮันเกิงปราดเข้ามาถทันทีที่เห็นคนที่เอาแต่ผลักไสลูกบาส นอนกุมหน้าอกสีหน้าเจ็บปวดกลางสนามบาส
         “มะ..ไม่ แฮ่กๆ รู้ค่ะ เหนื่อย แฮ่กๆ ไปมั้ง แฮก ค่ะ” จีวอนตอบอย่างยากเย็น
          ใบหน้าขาวที่ปกติก็ดูซีดอยู่ตอน ตอนนี้ยิ่งดูแย่เข้าไปใหญ่ เหงื่อที่ออกมาทั้งตอนเล่นกีฬา และเหงื่อความเครียดของร่างกายที่ไม่สามารถหายใจได้ ปะปนกัน ดูน่ากลัวว่าหญิงสาวตรงหน้าจะช๊อคไปง่ายๆ
          “นี่เธอมีโรคประจำตัวอะไรรึเปล่า” ฮันเกิงอุ้มคนตัวเล็กมานั่งข้างสนาม ทำเอาคนทั้งชมรมมาล้อมหน้าล้อมหลังด้วยความอยากรู้ เอ้ย เป็นห่วง
          “คะ...ค่ะ แต่ยาหมดพอดี ขะ..ขอแค่น้ำเปล่าพอค่ะ” จีวอนหายใจอย่างแรงและเร็ว เพื่อให้อากาศเข้าปอดให้มาที่สุด แต่ดูเหมือนยิ่งทำ เธอจะยิ่งเหนื่อยเข้าไปใหญ่
          “ยัยบ้า หายใจถี่แบบนั้น เดี๋ยวก็ได้ตายเร็วขึ้นหรอก ค่อยๆหายใจตามฉัน ช้าๆ หายใจเข้า.....หายใจออก.....”ฮันเกิงนำท่าทางสูดหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ พร้อมกับจับมือจีวอนที่เกร็งจิกมือเข้าจนแน่น
           “นั่นแหละ ช้าๆ ใจเย็นๆ แล้วพวกน้องก็ถอยไปหน่อย มุงกันแบบนี้อากาศก็ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่” ฮันเกิงดูแลจีวอน ก่อนจะหันไปไล่คนที่เข้ามาตีกรอบล้อมพวกเค้า
           “เป็นไง ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย” ฮันเกิงถาม เมื่อเสียงลมหายใจของหญิงสาวเริ่มเป็นปกติ และมือที่บีบแน่นเค้าก็เริ่มคลายออก
            “ค่ะ ขอโทษนะค่ะที่ทำให้วุ่นวาย” จีวอนยิ้มแห้งๆ พลางชักมือกลับ
            “ถ้าวันหลังไม่ไหว ก็บอก อย่าฝืน และเวลาเล่นบาสน่ะ ไม่ต้องทุ่มสุดตัวขนาดนั้นก็ได้” ฮันเกิงส่งน้ำอุ่นให้หญิงสาวดื่ม
            “ค่ะ ก็ฉันไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ก็เลยต้องเล่นสุดตัวแบบนั้น แต่รับรองว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแน่ค่ะ” จีวอนว่า
             เพราะวันนี้เธอไม่คิดว่าตัวเองจะโดนจับเล่นกีฬาแบบไม่ทันตั้งตัว เธอจึงไม่รีบร้อนที่จะไปหาหมอรับยาคลายกล้ามเนื้อหัวใจมา
            สงสัยแผนทำงานอย่างอื่นแทนการเล่นบาสคงไม่ได้ผล เธอคงต้องเล่นบาสจริงๆจังแน่เลยอ่ะ
           “แล้วนี่เธอเป็นโรคอะไรหล่ะ” ฮันเกิงถาม
            “ก็ไม่เป็นอะไรมากค่ะ แค่เหนื่อยง่ายเฉยๆ” จีวอนเลี่ยงไม่ตอบ เพราะแค่บอกว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจล้า ทุกคนก็ชอบเอาแต่ประคบประหงมเธอยังกะเป็นโรคร้ายแรง ทั้งๆที่มันก็ไม่ได้มีอะไรซะหน่อย (ได้ข่าวเมื่อกี้เกือบตาย)
            “แล้วอย่างนี้เธอจะอยู่ชมรมนี้ไหวเหรอ”
            “แน่นอนค่ะ ก็บอกแล้วว่าจะพิสูจน๋ให้รุ่นพี่เห็น แค่ไม่ทันตั้งตัว ต่อไปไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ” จีวอนยืนยันหนักแน่น
            เธอเองก็รู้ดีว่าการอยู่ชมรมนี้ต่อให้เธอจะไม่เคยเล่นบาสมาก่อน แต่ถ้าไม่อยากโดนไล่ออกก็คงต้องพอเล่นได้
            เอาเป็นว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ จะลองไปหาวิธีการเล่นที่ห้องสมุดดูแล้วกัน สู้กันสักตั้งกับกีฬาชนิดนี้แล้วกันนะ ก็หลวมตัวหลวมใจเพราะชอบกัปตันทีมบาสไปซะแล้ว ชีวิตนี้คงหนีลูกกลมๆสีส้มๆนี่ไม่พ้นแน่ๆ

    3. วันนี้เป็นวันเกิดของฮันเกิง คุณจึงได้หาของขวัญชิ้นนึงให้เขา แต่พอถึงเวลาที่คุณมอบของขวัญให้ ฮันเกิงกลับไม่รับของขวัญจากคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร แล้วคุณเอาอะไรให้ฮันเกิง
    ::
    อันนี้ไม่รู้จะบรรยายเป็นฉากพูดยังไง เพราะไม่รู้ว่าทำไมฮันเกิงไม่รับอ่ะ ก็เอาเท่าที่รู้สึกแล้วกันนะ
     ของขวัญที่ให้ก็คือ เค้กไอศกรีม ที่เธอไปสืบทราบมาว่าเป็นของโปรดของฮันเกิง แต่พอฮันเกิงปฏิเสธ ก็รู้สึกเสียใจ และรู้สึกไม่ดีกับตัวเองมากๆ ทั้งๆที่ยอมเสียศักดิ์ศรียอมทำอะไรหลายอย่างให้ฮันเกิง แต่เค้าก็ไม่เคยสนใจหรือเห็นคุณค่าเธอเลยแม้แต่น้อย เธอจึงไปร้องไห้ปลดปล่อยกับนางเอกของคิบอม(โยงกับข้อ 4) สัญญากับตัวเองว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเจ็บเพราะฮันเกิง และพรุ่งนี้จะไปลาออกจากชนรมบาสและขอลาขาดจากนายฮันเกิงคนนี้ซะที

    4. คุณเริ่มรู้สึกว่าฮันเกิงไม่เคยสนใจคุณเลย คุณจึงไปขอความปรึกษาจากนางเอกของคิบอม แล้วคุณก็ได้ตัดสินใจลาออกจากชมรมบาสแห่งนี้ แต่ฮันเกิงไม่ยอมให้คุณออก เพราะว่าฮันเกิงรักคุณ แต่คุณไม่รู้ คุณจึงด่าฮันเกิงและระบายความอัดอั้นในใจออกมา และก็วิ่งหนีออกไป ในตอนนั้นคุณด่าและระบายความในใจของคุณให้ฮันเกิงฟังอย่างไร แล้วตอนนั้นฮันเกิงเกิดอาการยังไง
    ::
     “ฉันขอลาออกค่ะ” จีวอนยืนตรงหน้าฮันเกิงสบตาเค้าอย่างไม่หวั่นไหว
        “นี่มันหมายความว่ายังไง” ฮันเกิงงุนงงกับท่าทีแข็งกร้าวของจีวอน
        “ก็อย่างที่พูดแหละค่ะ นี่ใบลาออก ฉันคงไม่มีคุณสมบัติพอจะอยู่ชมรมนี้” จีวอนยัดกระดาษยื่นคำร้องลาออก ก่อนจะหันหลังเดินออกจากโรงยิม
        “เดี๋ยว ฉันไม่ให้เธอออก” ฮันเกิงฉีกกระดาษของเธอ ก่อนจะคว้ามือเธอเอาไว้
        “รุ่นพี่ไม่มีสิทธิ์ทำกับฉันแบบนี้ ฉันมันงี่เง่า เล่นบาสไม่ได้เรื่อง เป็นได้แค่ตัวถ่วงของทีม จะรั้งให้ได้อะไรขึ้นมาหล่ะค่ะ” จีวอนพูดเสียงเครือ
         ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้แล้วนะ ทำไมยังต้องมาแสดงความอ่อนแอให้เค้าเห็นอีก
         “ฉันมีสิทธิ์ ฉันเป็นประธานชมรมนี้ คำสั่งฉันเป็นสิทธิ์ขาด ในเมื่อฉันไม่ให้เธอออก เธอก็ห้ามออก” ฮันเกิงกอดร่างบางแน่น ราวกับจะให้ภาษากายถ่ายทอดความรู้สึกในใจทั้งหมดที่เค้ามี
         “เลิกทำเหมือนว่ามีเยื่อใยกับฉันซะที” จีวอนออกแรงผลักฮันเกิงอย่างแรง ก่อนจะพูดต่อทั้งน้ำตาว่า  
          “ไอ้ท่าทางเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายนั้น ฉันเองก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ถ้ารุ่นพี่ยังสงสารฉันบ้าง ในเมื่อไม่ได้รักฉัน ก็อยากทำร้ายกันอีกเลย ถือว่าฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะนะค่ะ” จีวอนมองฮันเกิงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะวิ่งออกไปให้พ้นกับความเจ็บปวดนี้
           ส่วนตัวฮันเกิงเอง เมื่อได้รับรู้ความรู้สึกในใจของหญิงสาว ก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
     จริงซินะ เดี๋ยวก็ทำดีด้วย บางทีก็ร้ายใส่อย่างไม่มีเหตุผล ผู้หญิงดีๆที่ไหนเค้าจะทนนายได้ ฮันเกิง
           แต่ในเมื่อเธอมาทำให้เค้ารักแล้ว จะหนีความรับผิดชอบขโมยหัวใจเค้าไปแล้วไม่เอามาแลกอย่างนี้ เค้าเองก็ไม่ยอมหรอกนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×