ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิษภัยของโทรศัพท์มือถือ

    ลำดับตอนที่ #8 : มือถือกับมะเร็งสมอง

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 54


     สุขภาพน่ารู้

    เตือนภัยมัจจุราชไร้สายต่อเด็ก ใช้มือถือเสี่ยงมะเร็งสมอง 5 เท่า

    http://blog.eduzones.com/images/blog/snowytest/20080925232739.jpg


    เด็กที่ใช้โทรศัพท์มือถือมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นห้าเท่าที่จะเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรง 

    อินดิเพนเดนท์ - ผลวิจัยใหม่จากสวีเดนเตือน
    เด็กและวัยรุ่นเสี่ยงเพิ่ม 5 เท่าที่จะเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรงจากการใช้โทรศัพท์มือถือ

    นักวิจัย ระบุว่า เด็กมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ใหญ่เนื่องจาก
    สมองและระบบประสาทยังพัฒนาไม่เต็มที่ นอกจากนี้ ความที่ศรีษะมีขนาดเล็กกว่าและกะโหลกบางกว่า ยังทำให้คลื่นพลังงานจากโทรศัพท์มือถือสามารถทะลุทะลวงเข้าสู่สมองเด็กได้มากกว่า

    งานวิจัยจากสวีเดนที่เผยแพร่ต่อที่ประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยโทรศัพท์มือถือและสุขภาพของผู้ใช้ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่อังกฤษเมื่อเร็วๆ นี้ มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งว่าด้วยความเสี่ยงจากการแพร่กระจายคลื่นพลังงานที่เป็นต้นเหตุของมะเร็ง

    ศาสตราจารย์เลนนาร์ต ฮาร์เดลล์ จากยูนิเวอร์ซิตี้ ฮอสปิตอลในโอเรโบร สวีเดน ผู้นำการวิจัย แถลงต่อที่ประชุมที่จัดโดยเรดิเอชัน รีเสิร์ช ทรัสต์ว่า 
    ผู้ที่เริ่มใช้โทรศัพท์มือถือก่อนอายุ 20 ปีมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 5 เท่าที่จะเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรง (glioma) หรือมะเร็งที่เกิดที่เซลล์ค้ำจุนระบบประสาท (glial cells) ขณะที่ความเสี่ยงของโรคนี้ต่อเด็กจากการใช้โทรศัพท์ไร้สายในบ้านสูงถึงเกือบ 4 เท่า

    สำหรับ
    ผู้ที่เริ่มใช้โทรศัพท์ในช่วงเด็กหรือวัยรุ่นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 5 เท่าที่จะเป็นมะเร็งบริเวณส่วนต่อของหูกับสมอง (acoustic neuromas) ซึ่งแม้ไม่เป็นอันตราย แต่การตัดเนื้องอกนี้จากเส้นประสาทรับเสียงอาจทำให้เกิดอาการหูตึงได้

    ในทางกลับกัน 
    คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือหลังอายุ 20 ปีมีโอกาสเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรง เพียง 50% เท่านั้น และแค่ 2 เท่าสำหรับมะเร็งบริเวณส่วนต่อของหูกับสมอง

    ศาสตราจารย์ฮาร์เดลล์ กล่าวว่า ผลศึกษานี้ถือเป็นสัญญาณอันตราย และว่า
    เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือ ยกเว้นเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน ส่วนวัยรุ่นควรใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีหรือชุดหูฟัง และควรใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อพิมพ์ข้อความเป็นหลัก

    สำหรับคนอายุ 20 ปีขึ้นไป ความเสี่ยงจะลดลงเนื่องจากสมองมีการพัฒนาเต็มที่แล้ว ศาสตราจารย์ฮาร์เดลล์ยังยอมรับว่า อันตรายต่อเด็กและวัยรุ่นอาจมีมากกว่าที่พบในการศึกษานี้ เนื่องจากการศึกษานี้ไม่ได้แสดงผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือระยะยาว ขณะที่มะเร็งส่วนใหญ่ใช้เวลานานเป็น 10 ปีในการก่อตัว หรือยาวนานกว่าช่วงเวลาที่โทรศัพท์มือถือเริ่มวางขายในตลาด

    งานวิจัยนี้ยังแสดงให้เห็นว่า 
    ผู้ใหญ่ที่ใช้อุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้นานกว่า 10 ปีมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรงและมะเร็งบริเวณส่วนต่อของหูกับสมอง อย่างไรก็ดี ศาสตราจารย์ฮาร์เดลล์ยอมรับว่า ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่แสดงให้เห็นว่าการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นระยะเวลายาวนานเพิ่มความเสี่ยงสำหรับคนที่เริ่มต้นใช้ในวัยรุ่นอย่างไร จึงควรทำการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป

    เดวิด คาร์เพนเตอร์ คณบดีคณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยรัฐนิวยอร์ก ที่เข้าร่วมประชุมด้วย เห็นพ้องว่า เด็กสมัยนี้ใช้โทรศัพท์มือถือกันเกร่อไปหมด ทำให้ในอนาคตสังคมอาจเผชิญวิกฤตสุขภาพจากโรคมะเร็งสมองอันเป็นผลจากการใช้โทรศัพท์มือถือ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×