คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ใบสมัครนางเอกเทมป์
/ๆ//ใบสมัครนางเอก ...Seunghyun...(สีน้ำเงิน ตอบสีดำนะ)
ส่วนประวัติผู้สมัคร
ชื่อผู้สมัคร :: หนอน
อายุ :: 18
ยินดีที่ได้รู้จักนะ :: เช่นกันค่ะ
ส่วนประวัติตัวละคร
ชื่อ (เกาหลี ขอมีความหมาย) :: โซลซาราง (ความรัก)
Name (เป็นภาษาอังกฤษ) :: Soul sa rang
อายุ (เท่าเทมป์เท่านั้น) :: 18
บุคลิก :: .ใบหน้างดงามราวกับรูปปั้นจากสวรรค์ ดวงตากลมโตเปล่งประกายสดใสไม่ว่ามองไปทางใดก็มีแต่ความงดงาม รอยยิ้มพิมพ์ใจแม้ริมฝีปากบางจะกระตุกขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ทำเอาใจชายหลายคนถึงกับละลาย เส้นผมเรียงตัวสวยนุ่มลื่นหน้าสัมผัส กิริยาท่าทางที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวได้รับการฝึกมาอย่างดี เป็นกุลสตรีแท้ที่หาตัวจับยาก ไม่ใช่แค่บุคลิกภาพนอก แต่เธอนั้นงามทั้งกาย วาจา ใจ
นิสัย (5 บรรทัด up!!) :: ร่าเริงเป็นมิตร ยิ้มง่าย มองโลกในแง่ดี อยู่แต่ในสังคมที่มีแต่ความสวยงาม ฉลาดเก่งทันคน แต่ไม่ชอบอวดเก่ง เป็นที่ไว้วางใจของอาจารย์ มีความเป็นผู้นำสูง กล้าแสดงออก มีน้ำใจ ขี้งอน แต่ง้อไม่ยาก มั่นใจในตัวเองสูง เป็นคนไม่หยุดนิ่ง ชอบหาความท้าทายไปเรื่อยๆ มีความรับผิดชอบสูง หน้าที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ทำทุกอย่างด้วยสมองไม่ชอบใช้ใจ รวมถึงเรื่องความรัก ทั้งๆที่ไม่เข้าใจ แต่ในเมื่อผู้ใหญ่เห็นดีว่ายูชอนคือคู่ครองของเธอ เธอก็ยินดีรับหน้าที่นี้ ถือว่ายูชอนคือผู้ชายคนเดียวที่เธอต้องรัก จึงไม่เคยเหลียวมองใคร รักศักดิ์ศรีของตัวเองมาก ยอมหักไม่ยอมงอ ยอมตายดีกว่าต้องทำเรื่องเสื่อมเสีย
ประวัติ (3 บรรทัด up!! บรรยายละเอียดๆ จะดีมาก คนนี้ขอแบบรวยๆ เลยนะ) :: ลูกสาวคนเดียวของเอกอัครทูตเกาหลีประจำอังกฤษโดยคุณพ่อนอกจากจะเป็นทูตแล้วท่านยังเป็นเจ้าของบริษัทจิลวารี่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ส่วนคุณแม่ก็ไม่น้อยหน้า เป็นเจ้าของบริษัทส่งออกไข่มุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากธุรกิจยักษ์ใหญ่ทั้งสองแล้ว ทั้งคุณพ่อคุณแม่ของเธอยังทำธุรกิจอื่นๆอีกมาจนบรรยายไม่หวัดไม่ไหว เรียกได้ว่า ชาติตระกูลดี ฐานะร่ำรวย
ชอบ :: เหมือนจะสองบุคลิก เพราะความสามารถรอบด้าน ทำให้เธอเป็นที่ไว้ใจของอาจารย์ มีงานโรงเรียนให้ทำมากมาย จนแทบไม่มีเวลาว่าง แต่เธอก็ชอบที่จะทำงานทุกอย่างให้สำเร็จ แต่ทว่ายามอยู่บ้าน เธอก็ชอบที่จะจิบน้ำชา พักผ่อนหามุมสงบเงียบเล่นเปียโนท่ามกลางสวนดอกไม้ในบ้านของเธอ
ไม่ชอบ / เกลียด :: ไม่ชอบคนขี้อิจา นินทาคนอื่น หน้าไหว้หลังหลอก
กลัว :: กลัวความผิดพลาด และทำให้คนที่ตัวเองรักเสียใจ (ครอบครัวและยูชอน)
ความสามารถพิเศษ :: ทำได้ทุกอย่างตามที่กุลสตรีคนนึงพึงทำได้ ทั้งงานบ้าน งานเรือน การเรียน ดนตรี ศิลปะ กีฬาเธอก็เล่นได้ดีไม่ขายหน้า โดยเฉพาะเทควันโดที่มีดีกรีชนะเลิศระดับประเทศ
อื่นๆ :: เป็นคู่หมั้นคู่หมายกับยูชอนตั้งแต่เด็ก เกิดมาก็ถูกปลูกฝังว่าคนที่จะต้องรักและเทิดทูนเป็นคู่ชีวิตของเธอนั้น มีเพียงยูชอน และเธอไม่ค่อยมีคนมาจีบ ด้วยความสามารถมากมายและมีคู่หมั้นที่เพียบพร้อมอย่างยูชอน ทำให้เธอไม่เคยหวั่นไหวแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่ง....
อิมเมจนางเอก (3 รูปพอ ไม่เล็กไม่ใหญ่ไปนะ! บอกชื่อเจ้าของอิมเมจด้วยจ้า) :: เต้ย จรินทร์พร
อิมเมจคู่ (3 รูปพอ ไม่เล็กไม่ใหญ่ไปนะ!)::
ส่วนข้อตกลงนิดหน่อย
1.ถ้าติดให้เวลารายงานตัว 1 อาทิตย์ (7 วัน) โอเคนะ
:: รับทราบ
2.ติดแล้วต้องมาเม้น+โหวตสม่ำเสมอนะ อย่างน้อยก็ทุกครั้งที่อัพ
:: ครับผม
3.ถ้าจะหายได้โปรดแจ้งด้วยนะ ถ้าหายไปเฉยๆ เจจะให้เจ๊ยิงนางเอกคุณทิ้งซะเลย 55+ ตกลงนะ
:: ใจร้ายจัง จะไม่ยอมให้นางเอกน่ารักๆโดนยิงดับแน่นอนครับ
4.อาจจะมีการปรับเปลี่ยนคาแรกเตอร์เล็กน้อยเพื่อความเหมาะสม
:: ตามสบายจ้า
5.อยากได้บทสำรองอะไรไหม
:: โอ้โห เพอเฟกซ์ซะขนาดนี้ จะเป็นอะไรได้อีกอ่า ไม่ได้ก็แล้วแต่ผู้แต่งเถอะจ้ะ
ส่วนคำถาม
1.คุณเป็นคนสวย รวย ฉลาด ชาติตระกูลดีครบสูตรเพอร์เฟ็คพอๆ กับซีวอน แถมยังพ่วงด้วยตำแหน่งดาวโรงเรียนอีก และเป็นถึงรองประธานนักเรียนอีกด้วยแน่ะ! แต่ว่าเพราะหน้าที่รองประธานนักเรียนทำให้คุณไม่ถูกกับแก๊งของซีอาห์จุนซู (แก๊งเด็กเฮ้วอ่ะนะ - -+) เพราะพวกนั้นชอบมีเรื่องวิวาทบ่อยๆ โดยเฉพาะเทมป์ที่คุณเกลียดขี้หน้าที่สุดในแก๊ง ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะเขามนุษย์สัมพันธ์แย่ที่สุดในแก๊งและดูเหมือนว่าจะมีเรื่องบ่อยสุด แถมเขายังชอบว่าคุณและต่อต้านคำสั่งด้วย ง่ายๆ คือคุณกับเทมป์ไม่ถูกกัน ...วันหนึ่ง คุณต้องเคลียร์งานเลยกลับบ้านเย็น และขณะที่ยืนรอรถส่วนตัวมารับ อยู่ดีๆ คุณก็ถูกพวกผู้หญิงมีนอที่อิจฉาคุณเพราะผู้ชายส่วนมาก(อาจรวมถึงแฟนของพวกหล่อนๆด้วย)ชอบคุณทั้งนั้นลากไปตบที่หลังโรงยิมเก่า คุณโดนเล่นงานซะเละ และขณะที่คุณกำลังจะโดนกรีดหน้าอก เทมป์ก็โผล่มา คุณคิดว่าเขาอยู่ข้างของพวกที่ตบคุณ(เพราะเคยเห็นอยู่ด้วยกัน) แต่ว่าเขากลับเล่นงานพวกที่ตบคุณและพาคุณออกมาจากที่นั่น เขาดูแลคุณอย่างอ่อนโยน ก่อนจะพาคุณซ้อนมอเตอร์ไซค์เที่ยว - -+...เป็นครั้งแรกที่คุณได้ซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ คุณรู้สึกสนุกมาก...และเป็นครั้งแรกที่คุณรู้สึกดีกับเทมป์ และพอเที่ยวเสร็จ เทมป์ก็พาคุณมาส่งที่หน้าบ้าน และไม่ยอมไปซักที เอาแต่จ้องคุณเขม็ง คุณรู้สึกเขินๆ กับสายตาของเขา =_= จึงทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย...คุณจะพูดกับเขายังไง? (แบบเขินๆ น่ารักๆ เอาให้เทมป์ประทับใจและปิ๊ง เทมป์จะเริ่มชอบคุณหลังจากวันนี้) (บทพูด + บรรยาย 15 บรรทัดอัพ ตั้งแต่คุณโดนลากไปตบเลย)
:: “ว้า กลับบ้านเย็นอีกแล้ว แย่จัง” ฉันบ่นกับตัวเองในใจ พลางเดินออกมาหน้าโรงเรียนเพื่อรอคนขับรถ
ระหว่างรอ ฉันก็ไม่ยอมปล่อยให้เวลาเสียเปล่า ว่าแล้วก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือเครื่องบางที่มีฟังก์ชันทำงานเทียบเท่าโน๊ตบุ๊คขนาดย่อม มาเช็คตารางงานว่ากลับบ้านไปต้องไปออกงาน หรือว่ามีนัดกับยูชอนรึเปล่า แล้วก็แผนงานวันถัดไป
“อ๊ะ” ฉันร้องอย่างตกใจ แต่ก็พูดมากไม่ได้เพราะถูกผ้าเช็ดหน้าสีเข้มปิดปากเข้าให้
ตอนนี้รอบตัวฉันมีนักเรียนหญิงรอบตัวเธอเกือบสิบคน ตรงเข้ามาช่วยกันฉุดกะชากลากถูฉันไปยังโรงยิมเก่าหลังโรงเรียน
“พวกเธอพาฉันมาที่นี่ทำไม” แม้สมองจะประมวลผลรู้แล้วว่าทำไม แต่ฉันก็อดที่จะถามคำถามนี้ไม่ได้อยู่ดี
นักเรียนหญิงเหล่านี้มีความประพฤติที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถูกเรียกเข้าห้องปกครองให้ฉันกรอกประวัตินับไม่ถ้วน ทำไมฉันจะจำหน้าไม่ได้ ไหนจะแววตาริษยาที่ใช้จ้องมองฉันเป็นประจำ
“หึ...ไหนว่าฉลาดนักหน่าไง รองประธาน เรื่องแค่นี้ทำโง่นะ” ผู้หญิงร่างใหญ่คนหนึ่งตรงเข้ามาตบฉันเสียหน้าหัน
“ชอบประจบประแจงอาจารย์ คิดว่าเก่งนักรึไง” คนที่อยู่ด้านข้างฉันปล่อยหมัดเข้าที่ท้องอย่างแรงจนฉันถึงกับตัวงอ
“สวยตายหล่ะหล่อน จะอ่อยผู้ชายให้หมดโรงเรียนเลยมั้ย” คราวนี้ทั้งหมดต่างเข้ามาจิกทึ้งจนฉันไม่สามารถหาทางรอดได้
แม้ว่าฉันมีดีกรีถึงนักกีฬาเทควันโด้ระดับประเทศ แต่ฉันถือคติ ถ้าเค้าตบแก้มขวา ก็ต้องยื่นแก้มซ้ายให้เค้าตบต่อ ถ้าไม่ใช่สถานแข่ง หรือคู่ต่อสู้เป็นชาย ฉันไม่มีวันโต้ตอบเด็ดขาด
ฉันถือว่าผู้หญิงเป็นเพศสูงส่ง ขืนฉันโต้ตอบก็ยิ่งเหมือนกระตุ้นอารมณ์ให้เค้าทำไม่ดี แต่ถ้าปล่อยให้เค้าทำไปเรื่อยๆ ให้ความคับแค้นมันหายไปพร้อมกับความเหนื่อย เมื่อนั้นผู้หญิงเหล่านี้คงจะสำนึกและกลับตัวได้เอง
“ชิ นึกว่าจะแน่” ผู้หญิงร่างใหญ่เหวี่ยงฉันที่ตอนนี้ร่างกายสะบักสะบอมลงไปกองกับพื้น
ซารางค่อยๆยันตัวขึ้นอย่างช้า ก่อนจะพยายามทรงตัวให้อยู่ในท่ายืนที่สง่าผ่าเผยเช่นทุกที แม้ว่าตอนนี้ฉันจะเจ็บจนไม่รู้จะพูดยังไง แต่เธอก็ไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีมากไปกว่านี้ เรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาสาวๆที่ลากเธอมารุมได้มากทีเดียว
“โดนแค่นี้มันน้อยไปรึไง” หญิงใหญ่ (ร่างใหญ่) พูดอย่างหงุดหงิด
เมื่อเห็นว่าไม่ว่าจะทำฉันเท่าไหร่ ก็ไม่ได้ทำให้ฉันสะทกสะท้าน แม้แต่เสียงร้องสักแอะยังไม่มี แถมยังจะลุกขึ้นมาจ้องหน้าพวกนั้นด้วยสายตาเรียบเฉย
“ได้ อยากวอนเอง งั้นพวกหล่อนจับนังนี่ไว้ ฉันจะเอาคัทเตอร์กรีดหน้าอกของมัน” หญิงใหญ่ว่าพร้อมกับควักคัทเตอร์ขนาดใหญ่ออกมาจากกระโปรง
แล้วนี่ฉันจะทำไงดีเนี่ย จะวิ่งหนีตอนนี้ก็ไม่ไหวแล้ว แค่แรงสะบัดหญิงถึกเหล่านี้ให้หลุดยังแทบจะไม่มี
“เฮ้ย นั่นพวกเธอทำอะไรน่ะ” เสียงผู้ชายคนหนึ่งทักขึ้นจากหน้าประตูโรงยิมที่เปิดออก
ฉันรีบหันไปทางต้นเสียง แต่แล้วก็ต้องผิดหวังอย่างแรงเมื่อชายคนนั้นคือนายซึงฮยอน หรือเทมป์ ศัตรูคู่อาฆาตของฉันนั้นเอง
เห็นทีงานนี้ฉันไม่รอดแน่ๆ เพราะฉันเคยเห็นนายนี่อยู่จู๋จี๋กับยัยผู้หญิงพวกนี้อยู่หลายครั้ง
“มาพอดีเลย เรากำลังจับยัยรองประธานจอมหยิ่งมาสั่งสอนน่ะ นายจะแจมด้วยม่ะ” ผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งตรงเข้าไปควงแขนเทมป์ แล้วพาเข้าเดินเข้ามาราวกับมาเที่ยวสวนสนุก
“พวกเธอทำอะไรกันอยู่” เทมป์ถาม
“ก็กะจะกรีดนมยัยนี่ อาจจะต่อด้วยหน้าซักหน่อยถ้ามันยังไม่ร้อง รู้มั้ยเทมป์ พวกเรารุมตบยัยนี่แทบตายยังไม่ร้องซักแอะเลย อยากจะรู้เหมือนกันโดนแบบนี้ยังจะเก๊กหน้านิ่งอยู่ได้อีกมั้ย” ผู้หญิงคนเดิมบอก พร้อมกับพยักหน้าบอกให้หญิงใหญ่ลงมือ
ฉันหลับตาอย่างจำยอม จะให้สู้ตอนนี้เธอก็มีแรงไม่มากพอ แถมนายเทมป์นั่นยังอยู่อีก เธอจะหนีไปไหนรอด ศัลยกรรมสมัยนี้ก็แนบเนียน พวกนั้นคงไม่ทำอะไรมากมายมั้ง
“เทมป์ทำบ้าอะไรน่ะ” เสียงผู้หญิงคนนั้นแหวขึ้น ทำให้ฉันลืมตาอย่างสงสัย
“ถ้าเธอยังไม่เลิกทำบ้าๆแบบนี้ เธอมีเรื่องกับฉันแน่” เทมป์พูด ขณะที่มืดอีกข้างบิดแขนหญิงใหญ่ที่ถือคัทเตอร์อยู่
นี่นายเทมป์ช่วยฉันงั้นเหรอ
“นายกล้าเหรอ” ผู้หญิงคนนั้นเดินตรงมาหาฉัน ง้างมือสุดแขน
เพี๊ยะ
เสียงฝ่ามือกระทบหน้า แต่ไม่ใช่หน้าฉัน แต่มันกลับเป็นหน้าหญิงเล็กนั่น ที่โดนเทมป์ตบจนกระเด็นไปเลย
“ถ้าใครยังอยากมีเรื่องกับยัยนี่ เคลียร์กับฉันได้เลย” เทมป์คว้าฉันไปกอด
ตอนนี้แค่แรงจะยืนก็แทบไม่มี ฉันจึงทำได้แต่ขัดขืนนิดๆเท่านั้น
ขนาดหญิงเล็กที่น่ารักที่สุดและดูจะสนิมกับเทมป์ยังโดยตบลงไปกองกับพื้น ผู้หญิงที่เหลือจึงต่างพากันวิ่งหนีอย่างหวดกลัว เพราะใครๆก็รู้กิตติศัพท์การต่อสู้ของเค้าดี
เทมป์ค่อยๆประคองฉันไปที่ห้องพยาบาลชั้นหนึ่งที่ประตูห้องล๊อคอยู่ แต่เค้าก็เอากิ๊ฟจากผมฉันไขทีสองที ก็มีเสียงกิ๊งเปิดประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย
“เธอนี่โง่หรือบ้าห๊า ไปยืนให้เค้าตบน่ะ เทควันโด้ก็เป็น ไมไม่สู้” เทมป์บ่นพลางเช็ดคราบเลือดที่หน้าฉันอย่างอ่อนโยน
“ถ้ายิ่งโต้ตอบ เค้าก็ยิ่งโมโห ให้เรื่องมันจบๆที่ฉันนี่แหละ” ฉันให้เหตุผล
“ยัยบ้า นี่ถ้าฉันไม่เข้าไปช่วย เธอก็จะปล่อยให้เค้ากรีดนมน่ะเหรอ”
“คงไม่ขนาดนั้นหรอก เอาเข้าจริงเค้าคงไม่กล้า”
“เหรอ? รู้งี้ฉันน่าจะลองดูใจพวกนั้นแบบเธอมั้งนะ”
“โธ่! มาช่วยทันก็ดีกว่าอยู่แล้ว ขอบใจนะที่ช่วยฉัน” ฉันยิ้มให้อย่างจริงใจ
“ก็...ฉันไม่ชอบพวกหมาหมู่ ถ้าตัวตัวฉันไม่ช่วยเธอแน่” เทมป์พูดตะกุกตะกักพร้อมกับหน้าขึ้นสี
ทำอย่างกับเขินฉันงั้นแหละ
“ไปกินข้าวกันเหอะ” เทมป์พูดขึ้น หลังจากทำแผลเสร็จ
“เอ๋?” นี่ฉันหูฝาดไปรึเปล่านะ
“ก็ชวนไปกินข้าวไงเหล่า แต่เธอต้องเลี้ยงฉันนะ เป็นค่าตอบแทนที่ฉันช่วยเธอ”
“ได้ซิ อยากทานอะไรตามใจเลย” ทวงบุญคุณเลยนะ
“งั้นไปกันเลย” แล้วเทมป์ก็จับมือลากฉันไป
“นายจะให้ฉันนั่งมอเตอร์ไซด์เหรอ” ฉันถามงงๆ เมื่อมาหยุดอยู่ข้างมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ หน้าตาแปลกๆ
“ใช่ บ้านฉันไม่ได้รวยจนมีรถคันละเป็นล้านๆขับเล่นมาโรงเรียนหรอกนะ” เทมป์ว่าพร้อมกับขึ้นคร่อมรถ
“ตะ...แต่ฉันไม่เคยขึ้นอ่ะ” ฉันพูดเสียงอ่อย
“งั้นก็เคยซะซิ ยากอะไร ก็แค่พาดขาข้ามมาก็หมดเรื่องแล้ว”
“แต่มันดูแปลกๆนะ” ฉันเป็นผู้หญิงจะให้มาฉีกแข้งฉีกขาได้ไง
“รีบๆขึ้นมา เรื่องมากชะมัด ยัยคุณหนู” เทมป์ลงจากรถ แล้วคว้าเอวฉันไปนั่งด้านหน้า ก่อนจะอ้อมตัวไปนั่งด้านหลัง
“นะ...นี่มันไม่ใช่ท่านั่งรถนะ”
“ทีงี้รู้ดีจริงนะ ช่วยไม่ได้อยากเรื่องมากทำไม ฉันหิวแล้วหยุดพูดมากซะที” เทมป์เอาหมวกกันน๊อคยัดใส่หัวใส่ แล้วบิดรถออกไปด้วยความเร็ว
“เทมป์ ช้ากว่านี้ไม่ได้เหรอ” ฉันโวยวาย เมื่อเค้าเหยียบด้วยความเร็วจะ 120 แล้ว
“นี่ก็ช้าแล้วไง เงียบซะทีถ้าไม่ยากรถคว่ำตาย” เทมป์ตะคอกเสียงดัง ก่อนจะลดความเร็วลงเหลือ 90
เอาฟ่ะ ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว ดีกว่าเร็วจนจะแหกโค้งตายอย่างเมื่อกี้
“ขอบคุณสำหรับวันนี้นะ ทั้งช่วยฉัน พาฉันไปเที่ยว แล้วยังพาฉันมาส่งบ้านอีก” ฉันกล่าวขอบคุณ เมื่อเค้ามาส่งถึงมาบ้าน
“ไม่เป็นไรหรอกไงก็คนโรงเรียนเดียวกัน”
“อืม..ขอบคุณจ้ะ” ฉันยิ้มให้เค้า
“งั้นฉันไปก่อนนะ”
“จ้ะ ไว้เจอกันนะ”
“ไว้เจอกัน ไปนะ”
“อืม บ๊ายบาย”
“ไปนะ” เทมป์ยังคงย้ำ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะไปไหน
“ก็ไปซิ” ฉันก็ยืนยิ้ม รอส่งให้เค้าไปก่อน ในฐานะเจ้าของบ้าน
เมื่อเถียงคำจากลาไปจบ ก็กลายเป็นว่าเรามาเล่นจ้องตากันแทน เมื่อนายเทมป์ไม่ยอมไปอย่างที่พูด ถามยังจ้องเอาจ้องเอาอีก
“หน้าฉันมีอะไรติดเหรอ จ้องนานแล้วนะ” ฉันว่าอย่างเขินๆ
“รู้มั้ย พอเธอไม่ตีหน้ายักษ์ เธอเองก็สวยใช่ย่อยนะ”
“อิ่มมากไปรึไง” ฉันว่าหันหน้าไปอีกทางเพื่อไม่ให้เค้ารู้ว่าตอนนี้หน้าฉันแดงขนาดไหน
แค่จู่ๆมาพูดดีๆกันก็แปลกๆพอแล้ว นี่ยังจะมาชมว่าสวยอีกดูแปลกเข้าไปใหญ่
“คงงั้นมั้ง งั้นฉันไปจริงๆแล้วนะ” เทมป์ลูบท้ายทอยแก้เขิน
“จ้ะ ฉันก็รอส่งนายนานแล้วเหมือนกัน” ฉันฉีกยิ้มหวานให้อีกครั้ง
“เธอก็เข้าบ้านไปก่อนซิ”
“ตามกฎแล้ว ฉันต้องเป็นคนมองส่งนายซิ”
“ก็ฉันอยากให้เธอไปก่อน แต่ถ้าเธออยากอยู่กับฉันนานๆ ไม่ต้องเข้าบ้านก็ได้นะ” เทมป์ส่งยิ้มกวนๆมาให้
“บ้า งั้นฉันไปก่อนก็ได้ เจอกันพรุ่งนี้นะ” ฉันว่าจบก็เตรียมเข้าบ้าน
“เดี๋ยว” เทมป์เรียกเอาไว้
“มีอะไรเหรอ” ฉันหันกลับมามองอย่างสงสัย
“ฝันดีนะ” เทมป์พูดเบาๆจนแทบจะไม่ได้ยิ้ม
“จ้ะ ฝันดีเหมือนกัน กลับบ้านดีๆนะ อย่าซิ่งให้มันมากนักหล่ะ” ฉันอมยิ้มกับท่าทางแปลกๆของเค้า แล้วเดินเข้าบ้านไป
ร้อยวันพันปี มีแต่หาเรื่องกัดกัน ไหงวันนี้เค้าถึงมาช่วยเรา แถมยังพาไปเที่ยวจนมืด แล้วยังจะทำตัวแปลกๆอีก เป็นอะไรมากรึเปล่านะ
แต่ก็ช่างเหอะ มีมิตรก็ดีกว่าศัตรูอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
“อ้าว พวกเรา คุณหนูกลับมาแล้ว” พ่อบ้านใหญ่ทักฉัน เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน
“ว้าย นั่นหน้าคุณหนูไปโดนอะไรมาค่ะ”สาวใช้ตาดีร้องโวยวาย ทำเอาบรรดาคนรับใช้ในบ้านแตกตื่นกันไปใหญ่
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันหกล้มหน้าไถลกับพื้น” ฉันรีบแก้ตัว
“ผมว่า คุณหนูไปเช็กที่โรงพยาบาลดีกว่านะครับ ขืนคุณท่านรู้พวกผมโดนเล่นงานแน่ อ๋อใช่ ใครก็ได้โทรหาคุณยูชอนสิ” พ่อบ้านใหญ่ว่า
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย คุณพ่อบ้านก็โทรไปบอกบรรดาบอดี้การ์ดว่าฉันกลับมาแล้วนะค่ะ ส่วนพี่ยูชอนฉันจะเป็นคนโทรเอง” ฉันสั่งเสร็จสรรพ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปห้องนอนตัวเอง
“อ๋อ...ห้ามใครบอกเรื่องฉันหกล้มกับคุณพ่อคุณแม่ แล้วก็พี่ยูชอนนะค่ะ ถ้ามีใครรู้เรื่องฉันบาดเจ็บ ฉันจะอดข้าวประท้วง 3 วันนะค่ะ แล้วข้าวเย็นฉันทานมาแล้ว ไม่ต้องขึ้นไปตามนะค่ะ ฉันอยากพักแล้ว” ฉันหันมาขู่ แล้วค่อยขึ้นไป
เพราะบรรดาคนรับใช้พวกนี้ปากสว่างจะตาย แค่เธอโดนยุงกัดเป็นรอยแดงก็โทรรายงานคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่อังกฤษจนพวกท่านต้องบินกลับมาดูอาการ ยังไม่รวมกับพี่ยูชอนที่ต้องหาบริษัทมากำจัดยุง และอยู่ดูแลจนรอยแดงหายไป
เวอร์กันจริงๆ ทั้งเจ้านายลูกน้อง แต่ต้องรีบโทรหาพี่ยูชอนซะแล้ว ป่านนี้เป็นห่วงใหญ่แล้วมั้ง
2.จากข้อ 1 หลังจากวันนั้นเทมป์ก็เข้าหาคุณเรื่อยๆ แบบเนียนๆ =_= เขาพยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคุณ คอยช่วยเหลือดูแลคุณทุกอย่าง และคุณก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณก็รู้สึกดีกับเขามากจนถึงขั้น ‘ชอบ’ แต่ไม่ถึงกับ ‘รัก’ เพราะคุณมีคู่หมั้นอยู่แล้ว...ตอนนี้พวกคุณสนิทกันมาก และใครๆ ก็ลือกันให้แซดว่าเขากำลัง ‘จีบ’ คุณอยู่ โอให้ตาย! ถึงว่าคุณจะรู้สึกชอบเทมป์ แต่ว่าคุณก็ไม่อยากให้เรื่องนี้รู้ถึงหูยูชอน คู่หมั้นของคุณ เพราะคุณรู้นิสัยยูชอนดีว่าเขาไม่มีทางอยู่เฉยแน่ถ้าได้รู้เรื่อง...และเพราะไม่อยากให้อะไรๆ เกินเลยไปมากกว่านี้ คุณจึงเริ่มทำตัวเหินห่างกับเทมป์เหมือนเมื่อก่อน บางทีก็ใจร้ายกับเขามากเพื่อสลัดเขาให้พ้น แต่ที่คุณทำไปก็เพียงเพื่อไม่อยากให้เขาเข้าใกล้คุณมากและอาจเสี่ยงต่อการถูกยูชอนหมายหัว แต่แล้ววันหนึ่ง ขณะที่คุณรอยูชอนมารับอยู่หน้าโรงเรียนเพื่อไปดินเนอร์สุดหรู อยู่ดีๆ เทมป์ก็โผล่มาฉุดกระชากลากถูขู่บังคับให้คุณขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปกับเขา เขาพาคุณมาที่สะพานริมแม่น้ำและบอกรักคุณ และถามว่าทำไมคุณต้องถอยหนีเขาด้วย คุณตกใจมาก แต่ก็พยายามบอกเขาว่ามันเป็นไปไม่ได้ คุณมีคู่หมั้นแล้ว...แต่แล้วเทมป์ก็ทำให้คุณอึ้งเมื่อเขาบอกอย่างไม่ลังเลใจเลยว่าเขายอมเป็นตัวสำรองเป็นที่สองของคุณ! แล้วคุณจะทำอย่างไร...ในเมื่อคุณก็ชอบเขาอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากให้เขาต้องเจ็บ? (จะพูดอะไรกับเทมป์ยังไงก็ได้) (บทพูด+บรรยาย 10 บรรทัดอัพ ตั้งแต่คุณรอยูชอนอยู่หน้าโรงเรียน และเทมป์ก็โผล่มา)
:: “รู้แล้วหล่ะหน่า เคลียร์งานหมดแล้ว รับรองไม่เบี้ยวแน่ๆ” ฉันยืนยันผ่านโทรศัพท์กับคู่หมั้นสุดหล่อ ที่กระเซ้าหาว่าฉันเห็นงานดีกว่าคู่หมั้น
“ก็ลองเบี้ยวดูซิ เดี๋ยวจะเลื่อนขั้นตอนเข้าหอวันนี้ซะเลย แต่งกันเมื่อไหร่พี่ไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรอกนะ” ยูชอนแหย่กลับมา แม้ต่อหน้าคนอื่นเค้าก็ดูเย็นชาโหดร้าย แต่กลับคู่หมั้นแสนดีเค้ากลับเป็นผู้ชายกระล่อน ขี้อ้อน
“ใจร้ายอ่ะ ซารางเรียนมาแทบตาย จะให้อยู่บ้านเฉยได้ไง ไม่ยอมหรอก”
“ก็ไม่ได้ให้อยู่เฉยๆ แต่ให้ทำงานเป็นภรรยาพี่อย่างเดียว แค่นี้ก็เหนื่อยแย่แล้ว”
“ทะลึ่งใหญ่แล้ว ซารางไม่พูดกับพี่แล้ว ไว้ค่อยเจอกันนะค่ะ” ฉันรีบตัดบทสนทนา ก่อนจะโดนแกล้งไปมากกว่านี้
ระหว่างนั่งรอที่ศาลาใต้ต้นไม้หน้าโรงเรียน ฉันก็อดที่จะหยิบมือถือขึ้นมาเช็คตารางงานอย่างเสียไม่ได้ แต่ทว่ากลับมีมือดีว่าคว้ามือถือของฉันไป
“เทมป์” ฉันครางชื่อผู้ชายที่พยายามไล่ให้หายไปจากชีวิต
“ไปกับฉันเดี๋ยวนี้” ไม่ใช่แค่มือถือแต่ทั้งกระเป๋าและตัวฉันกลับถูกเค้าลากราวกับสิ่งของก็ไม่ปาน
“ปล่อยนะ ฉันมีนัดแล้ว เอาของๆฉันคืนมานะ” ฉันพยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ก็ดูเหมือนจะไร้ค่า เทมป์สามารถทั้งลากเธอและแบกของทุกอย่างได้โดยไม่ยากเย็นเลยสักนิด ก่อนที่จะขืนตัวฉันให้นั่งรถมอเตอร์ไซด์ของเค้า
“ก็บอกว่าไม่ว่างไง เทมป์ มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันนะ” ฉันหันมาอ้อนวอนดีๆ
“คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ แค่นี้เธอก็หลบหน้าฉันจนฉันไม่รู้จะหาเธอยังไงแล้ว ขึ้นไปเดี๋ยวนี้” เทมป์จับฉันนั่งด้านหน้าของมอเตอร์ไซด์ ตามด้วยตัวเค้านั่งคร่อมจากด้านหลัง
“เออ...ให้ฉันซ้อนท้ายดีกว่านะ” เมื่อขอให้ปล่อยไม่ได้ ก็อย่าต้องนั่งท่าที่มันล่อแหลมเลยดีกว่า
“ทำไม ฉันมันน่ารังเกียจนักรึไง นั่งแบบนี้น่ะดีแล้ว เธอจะได้หนีไปไหนไม่ได้” เทมป์สตารท์เครื่องอย่างรวดเร็วแล้วบิดออกไป
เทมป์จอดรถ เมื่อเรามาหยุดที่ตรงกลางสะพานแม่น้ำฮัน เทมป์จูงมือฉันไปที่ขอบสะพาน ก่อนจะทอดสายตามองแม่น้ำสีใสที่ยาวสุดลูกหูลูกตาอย่างเหม่อลอย
“เอ่อ...นายพาฉันมาทำไมเหรอ” ฉันเอ่ยปากถาม เมื่อเห็นว่าเทมป์ไม่มีทีท่าจะพูดซักที
“ทุกครั้งเวลาฉันไม่สบายใจ ฉันชอบจะมานั่งที่นี่ และเธอก็เป็นคนพิเศษของฉัน ฉันก็เลยอยากพาเธอมา” เทมป์หันมายิ้มให้ฉันอย่างสดใส
คนพิเศษ...ถ้าหากคนที่ได้ฟังไม่มีคู่หมั้นอย่างฉัน ก็คงจะดีใจกับคำๆนี้มาก แต่สำหรับฉันแล้วมันเต็มไปด้วยความลำบากใจ
“ทำไมเธอต้องหลบหน้าฉันด้วย”
“ก็ไม่มีอะไรนี่ ฉันก็งานยุ่งๆตามปกติ”
“คิดว่าฉันจะเชื่อรึไง เธอเองก็พูดไม่ใช่เหรอ ว่าฉันดีกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ แล้วเธอก็ชอบฉันมากด้วย เธอจะหลบหน้าฉันทำไม ฉันทำอะไรผิด” เทมป์ท้วง
“นายไม่ผิดหรอก แต่...มันมีข่าวว่านายจีบฉันอยู่ ขืนเรายังเจอกันแบบเดิม มันจะยิ่งตอกย้ำข่าวลือ” ฉันยอมคายสาเหตุที่ทำให้เค้าหลบหน้า แต่ไม่ได้บอกเค้าทั้งหมดว่าอีกเหตุผลนึง คือเธอกลัวใจตัวเองด้วย
“กะอีกแค่ข่าวไม่เห็นต้องสน และที่สำคัญฉันก็จีบเธอจริงๆ ซาราง ฉันรักเธอ เป็นแฟนกับฉันเถอะนะ” เทมป์ยอมรับง่ายๆ พร้อมกับสบตาฉายแววจริงใจ
อึ้ง...ทำไมฉันถึงได้รู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดของเค้าน่ะ ทั้งๆที่มีคนมาบอกชอบก็เยอะ บอกรักก็แยะ ขอเป็นแฟนก็นับไม่ถ้วน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ใจเต้นแรงขนาดนี้
แม้แต่ตอนที่พี่ยูชอนบอกรัก ฉันยังไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนเลย เกิดอะไรขึ้นกับใจฉันกันแน่นะ
“ว่าไงซาราง เธอเองก็ชอบฉันไม่ใช่เหรอ คบกับฉันเถอะนะ” เทมป์ก้าวเท้าเข้ามาสวมกอดฉันที่ยังยืนนิ่งไม่พูดอะไร
ใช่ฉันชอบนายแล้วไง แต่ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อรักนายนี่ ฉันมีหน้าที่ต้องรักพี่ยูชอน คู่หมั้นและคู่ชีวิตคนเดียวของฉันเท่านั้น ยังไงฉันก็รักนายไม่ได้อยู่แล้ว
แค่คิดว่าต้องทำให้พี่ยูชอนเสียใจ แค่นั้นใจฉันก็สั่นไม่หยุดแล้ว ฉันทำไม่ได้หรอก ฉันรักใครนอกจากพี่ยูชอนไม่ได้
“ขอโทษนะเทมป์ ฉันคงรับความรู้สึกดีๆนี้ไม่ได้หรอก นายก็รู้ไม่ใช่เหรอ ว่าฉันมีคู่หมั้นแล้ว” ฉันผละออกจากอ้อมกอดอบอุ่น พยายามให้เหตุผลดีๆ เพื่อเลี่ยงไม่ให้เค้าเสียใจมากนัก
“มีคู่หมั้นแล้วไง มีได้ก็เลิกได้ เธอเองก็ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เราเองก็เข้ากันได้ดี เธอเลิกกับมัน แล้วมาคบกับฉันเถอะนะ” เทมป์ยังคงอ้อนวอน
“นายไม่เข้าใจอีกหรือไง? ฉันมีคู่หมั้นแล้ว ถึงจะชอบนายซักแค่ไหนแต่ฉันก็รักนายไม่ได้หรอกนะ!...เลิกยุ่งกับฉันซักทีเถอะ!” ฉันบอกอย่างหนักแน่น ก่อนจะเดินหันหลังให้
“ฉันรู้...มันเป็นไปไม่ได้ แต่คนมันรักไปแล้วจะให้ทำไงล่ะ!” เทมป์ว่าพร้อมกอดฉันจากด้านหลัง
“ตัดใจซะตอนนี้ดีกว่านะ ยังไงเรื่องของเรามันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี” ฉันพยายามแกะมือของเค้าอย่างยากลำบาก
“งั้นฉันขอเป็นที่สอง เป็นตัวสำรองของเธอต่อจากเค้า เวลาอยู่กับเค้า ฉันจะไม่รบกวนวุ่นวายอะไร แต่ถ้าไม่มีเค้าเมื่อไหร่ เธอหันมาสนใจฉันบ้างซักนิดได้มั้ย” เทมป์ว่าอย่างไม่ลังเล พลางกอดฉันแน่นขึ้นไปราวกับจะให้รับรู้ถึงเสียงเรียกร้องภายในใจของเค้า
“ไม่ได้หรอก มันไม่ยุติธรรมสำหรับใครเลย และมันจะทำให้ทุกคนต้องเจ็บ ปล่อยฉันไปเถอะ ให้เรื่องของเราเป็นความทรงจำที่ดีเถอะนะ”
“ไม่ เรื่องของเรามันยังไม่ทันเริ่มเลยด้วยซ้ำ ซาราง ให้โอกาสฉันบ้างได้มั้ย”
“ขอร้องหล่ะ อย่าทำให้ฉันหนักใจมากไปกว่านี้ได้มั้ย ฉันไม่อยากทำให้ใครเจ็บอีกแล้ว” ฉันหันมาจ้องสบตาเค้า
“งั้น...เธออย่าหนีฉันอีกได้มั้ย ถึงจะไม่ได้รักเธอ แค่ขอความเป็นเพื่อนก็ยังดี” เทมป์คลายอ้อมกอดเลื่อนมาจับมือฉันทั้งสองข้างแทน
“ถ้านายคิดได้แค่นั้นจริงๆ เราก็มาเป็นเพื่อนที่ดีกันนะ” ฉันบีบมือให้กำลังใจทั้งฉันและเค้าที่จะต้องผ่านพ้นความรู้สึกที่ไม่สมควรนี้ไปให้ได้
3.ในที่สุด ยูชอนก็รู้เรื่องที่คุณแอบคบกับเทมป์ด้วย เขาโกรธมาก(เวลาเขาโกรธนะน่ากลัวสุดๆ) และจะไปจัดการเทมป์ แต่คุณอ้อนวอนเขาไว้บอกกับเขาว่าจะเลิกยุ่งกับเทมป์และจะมีแค่ยูชอนคนเดียวเท่านั้น ขอแค่เขาอย่าทำร้ายเทมป์...เขายอมเชื่อคุณ แต่คุณต้องถูกกักบริเวณโดยย้ายไปอยู่บ้านของยูชอน ตอนเช้ายูชอนไปส่ง และตอนเย็นยูชอนไปรับ พร้อมทั้งส่งคนมาตามประกบคุณตลอดเวลาที่โรงเรียน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับเทมป์โดยเด็ดขาด คุณต้องยอมถูกริบอิสรภาพเพื่อความปลอดภัยของเทมป์ และนั่นทำให้คุณไม่ได้เจอเทมป์และพวกซีอาห์อีกเลย...และแล้ววันหนึ่ง ขณะที่คุณถูกขังอยู่ในห้องของยูชอน จู่ๆ พวกซีอาห์ก็บุกเข้ามา วินาทีที่คุณเห็นหน้าเทมป์น้ำตาก็ไหลพราก(-*-) แต่เทมป์ก็ไม่พูดอะไรนอกจากกอดคุณแน่นๆ ก่อนจะพาคุณหนี แต่คุณฉุดเขาไว้พร้อมกับบอกว่าไม่ และบอกทั้งน้ำตานองหน้าให้เขากับเพื่อนรีบหนีไป ก่อนที่ยูชอนจะมา และยูชอนก็ช่างตายยาก -*- เพราะเขาโผล่มาในทันทีทันใด และชักปืนออกมาหมายมั่นจะเป่าขมองเทมป์ให้กระจุย และในวินาทีแห่งความวุ่นวาย คุณก็ถูกพาหนีออกมาจากบ้านของยูชอนและได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์เทมป์ เขาบิดด้วยความเร็วนรก พวกของยูชอนตามมาติดๆ แต่แล้ว คุณกับเทมป์ก็จนมุมอยู่ในตรอกแคบๆ หมดทางหนีรอด และยูชอนก็ถือปืนลงมาจากรถ...สีหน้าเขาเรียบเฉยจนน่ากลัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีน้ำตานองหน้า...(มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งก็คือนางเอกยูชอนตามมาด้วย)ในสถานการณ์นั้น คุณจะทำอย่างไร? เพราะคุณมั่นใจว่าคุณหมดรักยูชอนแล้ว และคนที่คุณรักคือเทมป์ แต่ถ้าคุณเลือกเทมป์ ทั้งเขาทั้งคุณจะมีโอกาสดับอนาถคาที่มากกว่า 50% (ฉากไคล์แมกซ์นะ! บทพูด + บรรยาย 15 บรรทัดอัพ! จิ้นเต็มที่เลย ตั้งแต่คุณอยู่ในห้องยูชอนและพวกซีอาห์โผล่มา)
:: นี่คือทางออกที่ดีแล้วซินะ เป็นคำพูดที่ฉันใช้ปลอบใจตัวเองเรื่อยมา ว่าการที่เธอชื่อว่าชีวิตเธอถูกลิขิตมาเพื่อเค้า การที่เธอถูกริบอิสรภาพเพราะไปหวั่นไหวกับอารมณ์ชั่ววูบมันก็สมควรแล้วนี่หน่า อย่างน้อยก็ไม่มีใครต้องเจ็บปวด
“เทมป์ ซีอาห์ พวกนาย” ฉันไล่ชื่อแต่ละคนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
เทมป์จ้องมองฉันด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะโผล่กอดเสียแน่นจนแทบจะเซล้มไปด้วยกัน
“คิดถึงเธอที่สุดเลย รู้มั้ยชีวิตที่ไม่มีเธอมันน่าเบื่อแค่ไหน” เทมป์พูดเสียงสั่น ทำเอาใจฉันสะท้านไปด้วย
ทั้งๆที่คิดว่าเลือกทางถูกแล้ว แต่ทำไม แค่เห็นหน้าเค้าอีกครั้ง ใจฉันถึงได้หวั่นไหวขนาดนี้
“รีบไปกันเถอะ ซาราง อีกไม่นานพวกพวกบอดี้การ์ดคงรู้ตัวว่าเราบุกมา” เทมป์เปลี่ยนเป็นคว้ามือฉัน
“ฉันไม่ไป พวกนายแหละที่ต้องรีบไป” ฉันสะบัดมือเทมป์ แล้วดันพวกเค้าออกไป
“ยัยบ๊องเอ๊ย พวกเราเสี่ยงมาช่วยเธอขนาดนี้ยังลังเลอีกเหรอ เทมป์รีบลากแฟนนายไปก่อนแล้วกัน พวกเราจะดูต้นทางไว้ให้ก่อน” ซีอาห์บอก ก่อนจะออกไปตรงหน้าประตูห้อง
“เทมป์ นายหนีไปเถอะ ยังไงพี่ยูชอนก็ไม่ทำอะไรฉันอยู่แล้ว” ฉันพยายามไล่เค้าออกไป
สำหรับเธอนั้นเธอแน่ใจว่าพี่ยูชอนไม่มีทางทำอะไรเธออยู่แล้ว แต่กับผู้ชายข้างหน้านี้หล่ะ ฉันไม่กล้าคิดอะไรเหมือนกัน
“ฉันไม่ไป แค่เธอพูดว่ารักฉันคำเดียว ต่อให้ต้องตายวินาทีนี้ ฉันก็ยอม” เทมป์หันมาสบตามั่น
“โธ่! เทมป์ ชีวิตคนเรามันไม่ได้มีแค่เรื่องความรัก เราต่างก็มีหน้าที่ อย่าเอาเรื่องไร้สาระมาทำร้ายชีวิตนายได้มั้ย”
“การรักเธอมันเหนือหน้าที่ทุกอย่างที่ฉันมี ไปกับฉันเธอนะ” เทมป์ใช้สายตาเว้าวอนขอร้องแทน
ไม่ทันที่ฉันจะได้คิดอะไร พี่ยูชอนก็โผล่เข้ามาจากประตูห้องด้านข้างที่เป็นห้องนอนฉันกับพี่ที่มีประตูเชื่อมถึงกัน ในมือถือปืนประจำตัว
“นี่อุตส่าห์ไว้ชีวิต ยังวอนหาที่ตายอีกเหรอ” พี่ยูชอนเล็งไปที่หัวของเทมป์
“ก็คนมันรักทำไงได้ ไงก็ขอคู่หมั้นนายก็แล้วกันนะ” เทมป์คว้ามือฉัน ก่อนจะโยนอะไรซักอย่างทำให้ห้องมีแต่ควันสีขาวเต็มไปหมด เป็นจังหวะให้ฉันและเค้าหนีออกมาได้พอดี
“พี่ยูชอนกว้างขวางมาก ไม่ว่ายังไงเราก็หนีไม่พ้นหรอก” ฉันท้วง ระหว่างที่วิ่งมาบริเวณสวนข้างบ้าน
“ใครสน? ฉันรักเธอมากนะซาราง เธอเองก็ทำเพื่อหน้าที่มาทั้งชีวิต แค่ครั้งนี้เธอทำตามหัวใจตัวเองบ้างไม่ได้รึยังไง”
“เทมป์ ฉันคงทนไม่ได้ ถ้านายต้องตายเพราะฉัน”
“แต่การไม่มีเธอ ฉันก็เหมือนตายทั้งเป็นอยู่แล้ว พูดมาเถอะซาราง ถ้าเธอไม่ได้รักฉัน ฉันจะหยุดรอความตายอยู่ตรงนี้” เทมป์หันมาหยุดยืนจ้องหน้าฉัน
“นายมันบ้า และฉันต้องบ้าแน่ๆที่ไปรักคนบ้าอย่างนาย เป็นไงเป็นกัน ถ้าเราตายขึ้นมาจริงๆ อย่ามาโทษฉันนะ” ฉันไม่อาจฝืนปฏิเสธใจตัวเองได้อีก เมื่อได้สบตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักเช่นนี้
“เชื่อใจฉันได้ แค่รู้ว่าใจเราตรงกัน จะตายที่ไหนก็ยอม รีบไปกันเถอะ” เทมป์ส่งยิ้มให้ฉันอีกครั้ง ก่อนจะวิ่งนำไปที่มอเตอร์ไซด์ของเค้า
“โธ่เว้ย แล้วจะไปไหนได้ว่ะเนี่ย” เทมป์สบถ เมื่อเค้าดันโง่เลี้ยวเข้ามาในซอยดัน ทำให้รถของยูชอนที่ตามมาประกบปิดทางออก ทำให้ไม่มีทางหนีรอด
เมื่อหนีไม่ได้ เทมป์จอดรถ และก้าวมาหยุดยืนข้างฉันเหมือนรอวัดใจ แต่ตอนนี้ใจฉันสั่นแรงอย่างไม่เป็นมาก่อน พี่ยูชอนที่เคยมีแต่รอยยิ้มอบอุ่ม บัดนี้เต็มไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่มีคราบน้ำตาจงๆ กำลังย่างกรายลงมาจากรถพร้อมปืนคู่ใจที่ฉันไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก โดยมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินรถมาพร้อมกัน ก่อนที่ลูกน้องของพี่ยูชอนนับสิบคนจะรีบมายืนคุมเชิงปิดทางออกไว้สิ้น
“ซาราง ถอยออกมาจากไอ้หมอนั่นซะ” พี่ยูชอนสั่งเสียงเรียบ
“ไม่ จนกว่าพี่จะสัญญากับฉันว่าพี่จะไม่ทำอะไรเค้า” ฉันตอบกลับไปเสียงกร้าว
“จนป่านนี้เธอยังกล้าขอให้ฉันไว้ชีวิตมันอีกเหรอ” น้ำตาอีกหยดไหลลงมา ทำให้ยูชอนต้องรีบปาดมันก่อนจะมีใครเห็น
“ไปเถอะซาราง ถ้าให้ฉันอยู่โดยไม่มีเธอ สู้ฆ่าฉันให้ตายตรงนี้เลยดีกว่า” เทมป์ปล่อยมือฉันแล้วผลักไปข้างหน้าเบาๆ
“ดี อยากตายนักจะช่วยสงเคราะห์ให้” พี่ยูชอนเล็งปืนอย่างไม่รอช้า ทำให้ฉันรีบผวาเอาตัวขวางเทมป์เอาไว้
“ถอยมาซาราง พี่ยังไม่อยากทำร้ายเธอ”
“ไม่เป็นไรหรอกซาราง แค่รู้ว่าเธอรักฉันเหมือนกัน ตายก็ไม่เสียใจแล้ว” เทมป์ยิ้มให้ฉันด้วยความยินดี เบี่ยงตัวฉันให้พ้นวิธีกระสุน
ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย ทำไมฉันต้องทำให้คนที่ดีกับฉันต้องเสียใจขนาดนี้ด้วยนะ
“ไม่เทมป์ ฉันไม่ไป” ฉันร้องไห้โผกอดเค้าไว้แน่นราวกับความไม่มีสิ่งใดพรากเราสองคนได้
“พี่เกลียดมัน พอๆกับที่พี่แค้นเธอ และพี่ก็แค้นเธอ พอๆกับที่พี่รักเธอเหมือนกัน” พี่ยูชอนกดเสียงต่ำสะกดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้
“ซาราง พี่ให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย เลือกเอา ระหว่างพี่กับมัน หวังว่าเธอคงไม่ทำให้พี่ผิดหวังอีกนะ”
ฉันกลับไปมองพี่ยูชอนด้วยน้ำตานองหน้า แม้ว่าน้ำเสียงจะเต็มไปด้วยความโกรธ แต่ฉันจะยังสัมผัสถึงความรักอบอุ่นที่พี่ยังมีให้ฉันได้
น้ำตาหยดแล้วหยดเหล่าที่พี่ยูชอนต้องค่อยเช็ดให้มันหมดไปเสียที น้ำตาที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น กลับไหลออกมาจากดวงตาคมที่เธอมักสบตามองด้วยความอุ่นใจอยู่บ่อยครั้ง
“พี่ยูชอน ฉันรักพี่มากนะ รักมากจนไม่อยากทำให้พี่ต้องเจ็บปวดอีก” ฉันค่อยๆเดินไปเช็ดน้ำตาให้พี่ยูชอนอย่างเบามือ พี่ยูชอนหลับตารับสัมผัสเหมือนกำลังรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
“ในเมื่อเธอรักพี่ เธอก็กลับไปกับพี่ซิ ซาราง เรื่องมัน พี่รับรองพี่จะไม่ฆ่ามัน” ยูชอนจับมือบางมาจูบอย่างทะนุถนอม
“อย่านะซาราง ถ้าเธอกลับไปหามันเพื่อฉัน ขอบอกเลยว่าไม่มีประโยชน์ ต่อให้เธอแต่งงานเป็นเมียมัน แค่ใจเธอยังมีฉัน ต่อให้ต้องฝ่าฟันอันตรายแค่ไหน ฉันก็จะเอาเธอกลับคืนมาให้ได้” เทมป์ตะโกนแทรกขึ้นมา พร้อมกับจับมือฉันไว้อีกข้าง
“วอนหาที่ตายนักรึไงไอ้นี่นิ” ยูชอนเบี่ยงกระบอกปืนไปที่เทมป์อีกครั้ง
“อย่านะค่ะ” ฉันรีบร้องห้าม พี่ยูชอนหันทันทีมองฉันด้วยสายตาน้อยใจ
“ฉันรักพี่ก็จริง แต่ฉันรักพี่ในฐานะพี่ชายเท่านั้น ขอโทษนะค่ะ ฉันรักพี่ได้แค่นี้” ฉันดึงมือกลับด้วยความเจ็บปวด
ยูชอนเปลี่ยนจากแววตาอ่อนโยน กลายเป็นดวงตาเย็นชาไร้ความรู้สึกจ้องมองฉันและเทมป์ด้วยสายตาเครียดแค้น
“ฉันเคยคิดว่าฉันเกิดมาเพื่อพี่ ไม่ว่าตัวหรือหัวใจฉันจะอยู่ไหน สุดท้ายแล้วมันต้องกลับมาเป็นของพี่อยู่ดี แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ แม้ว่าฉันจะขังตัวไปกับพี่แลกกับความปลอดภัยของเค้า แต่มันมีอีกอย่างที่มันสำคัญกว่าตัวฉันก็คือใจ ซึ่งฉันมันก็งี่เง่าทวงมันกลับมาให้พี่ไม่ได้” ฉันสารภาพความในใจออกมาทั้งหมดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย
“ไม่แน่นะค่ะ ความตายอาจจะหยุดปัญหานี้ให้ฉันก็ได้” ฉันคว้าปืนในมือยูชอนมาจ่อที่หัวใจ
“ฉันไม่อยากเห็นพี่เจ็บปวด แต่ฉันก็รักเค้าเกินกว่าจะโกหกตัวเองว่าทำจะทนทำเพื่อหน้าที่ได้ ฉันไม่กล้าขอร้องให้พี่ไว้ชีวิตเค้า แต่ฉันอยากขอร้องให้พี่อย่าเจ็บปวดเพราะฉันอีกได้มั้ยค่ะ” พูดความในใจจนหมด ฉันจะหลับตา ยินดีรับความตายตรงนี้
“ไม่นะ ยูชอน แกอยากฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ ฆ่าฉันซิ แต่อย่าทำอะไรซารางนะ ฉันผิดเองที่ดันไปรักเค้า ทั้งๆที่รู้ว่าเค้าก็มีนายอยู่แล้ว” เทมป์ร้อง ก่อนจะรีบเดินมาหาความตายถึงที่
“ไปซะ” พี่ยูชอนผลักฉันเข้าไปในอ้อมกอดของเทมป์
ทั้งฉันและเทมป์มองหน้าพี่ยูชอนอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ฉันบอกให้พวกเธอไปซะ ต่อไปนี้ เธอกับฉัน ไม่ใช่คู่หมั้นกันอีก เราสองคนไม่ใช่คนรู้จักกันอีกต่อไป” พี่ยูชอนสะบัดตัวเดินขึ้นรถพร้อมผู้หญิงอีกคนอย่างรวดเร็ว โดยไม่เหลียวหันมามองแม้แต่นิดเดียว
ขอโทษนะค่ะพี่ยูชอน ฉันรักพี่มากไปกว่านี้ไม่ได้จริงๆ และฉันก็ไม่อยากเอาตัวไร้หัวใจกลับไปให้พี่ เพราะมันมีแต่ทำให้พี่เสียใจเองเสียเปล่า และขอบคุณที่พี่เห็นแก่ความรักของฉันนะค่ะ ฉันเองก็จะภาวนาให้พี่เจอคนที่รักพี่และดีกับพี่อย่างแท้จริงไวๆนะค่ะ
4.ขอบคุณนะค้าบที่สละเวลามาออดิชั่น ตอบคำถามอันยาวโฮกนี้จนจบ โชคดีทุกคนค้าบ!
:: ก็ขอบคุณเหมือนกันที่อ่านจนจบ (ตอบยาวเหมือนกัน อิอิ) เก็บไว้พิจาราณาบ้างนะค่ะ
ความคิดเห็น