ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของNin_norN

    ลำดับตอนที่ #13 : แบบฟอร์มรับสมัคร Poppy Love

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 52


    G]p***ตอบเป็นสีแดงนะค่ะ***
    คำถามมากมาย
    ชื่อเล่นจริงๆ
    หนอน
    อายุ
    18
    นามแฝงในเด็กดี
    Nin_norN
    ชื่อในฟิค
     จี จรินทร์ญา พิทักษ์สมุทร  <เกาหลี ปาร์ค จี ยง (ฉลากและกล้าหาญ) >
    อายุในฟิค
    20
    สัญชาติ
    ไทย-เกาหลี
    นิสัย หน้าตายเป็นที่นิ่ง ใจเย็น สุขุมรอบคอบ
    เชื่อมั่นในตัวเอง รักอิสระ ไม่ชอบเหมือนใคร กล้าพูดกล้าทำ กล้าแสดงออก ไม่ยอมคน ดื้อหัวชนฝา ชอบคิดว่าตัวเองแน่ ตัวเองเก่ง ทำให้มีหลายคนค่อนข้างเหม็นขี้หน้าเธอ แต่เธอก็ไม่เคยสนใจ มีความเป็นผู้นำสูงจนกล้าเป็นฮิตเลอร์ย่อมๆในกลุ่มทีเดียว เป็นคนจริงจังทำอะไรทำจริง พึ่งพาได้ และเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ ถึงจะดูเป็นคนจริงจังเกินไป แต่เมื่ออยู่กับแม่ เธอจะอ่อนโยน ขี้อ้อน เป็นที่สุด

    รูปร่างหน้าตา ตากลมโต หน้าเรียวยาว จมูกโด่งรับกับริมฝีปากบางสีพีซ ผมซอยสั้นทำให้ดูเป็นผู้ชายหน้าหวาน แต่ถ้าเธอแต่งหญิงหล่ะก็ น่ารักไม่แพ้ใครเลยหล่ะ
    ความสามารถพิเศษ(มากกว่า2อย่าง)

    ทำอาหาร และขนม ได้ทั้งไทยและเทศ เพราะแม่เปิดร้านอาหารเล็กๆอยู่ เธอจึงไปเป็นลูกมือช่วยแม่เป็นประจำ

    เตะ ต่อย ทั้งมวยไทย มวยจีน คาราเต้ กังฟู ไม่ว่าอะไรเธอก็เชี่ยวหมด หรือแม้แต่การใช้อาวุธ มีดสั้น ดาบ กระบี่ ปืน ขอให้บอก ได้ทั้งนั้น

    เกลียด การกดขี่ทางเพศที่ชอบดูถูกว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ
    ชอบ
    การทำอาหาร และเรียนการต่อสู้
    อยากคู่กะใครในเอสเจ
    โจว คยู ฮยอน
    ทำไม
    หล่อได้อีก...ก็นะ ก็ชอบเป็นพิเศษ แต่จริงๆก็รักทุกคนนะ เลือกยากจริงๆจะเอาใครเป็นพระเอกเนี่ย อีกเหตุผลก็คือ ดูเท่ห์ๆ นิ่งๆ เหมาะกะบทดีด้วย
    ประวัติครอบครัว2+
    เบื้องหน้า ใครๆก็คิดว่าเธอกับแม่ อยู่กันแค่ 2 คนในบ้านหลังเล็กๆ ที่ติดกับร้านอาหารที่แม่ของเธอเป็นเจ้าของ แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ว่า

    ตระกูลของพ่อเธอเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลโจวมาตั้งแต่รุ่นทวดของทวดของทวด..... เรียกได้ว่านานมากๆ จนกระทั่ง รุ่นของเธอ ซึ่งสร้างความอัปยศให้แม่ของเธอเป็นอย่างมาก ที่ไม่สามารถมีบุตรชายได้ ยังไม่รวมกับการที่แม่เธอเป็นคนไทยที่แสนจะธรรมดา ทำให้เลือดข้นของตระกูลต้องมัวหมอง ถึงแม้ว่าพ่อจะรักแม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ต้องทำตามหน้าที่ สืบทอดทายาทรุ่นถัดไป คนในตระกูลจึงบังคับพ่อให้มีภรรยาอีกคน จนได้ลูกชายสมใจ โดยทั้งเธอและแม่ต่างก็เป็นที่รังเกียจของในตระกูล แถมยังถูกขับไล่กลับมาอยู่เมืองไทย โดยที่พ่อก็ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้

            เมื่อโตขึ้น เธอได้รู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เธอและแม่เป็นที่รังเกียจของตระกูล เธอจึงเกลียดความเป็นหญิงของตัวเองมากๆ เธอจึงตัดผมสั้น ทำตัวทุกอย่างให้เหมือนผู้ชาย แม้แต่การต่อสู้ ที่คนในตระกูลไม่คิดจะถ่ายทอดวิชาให้เธอ แต่เธอก็ไปไขว่คว้าหาเรียนเอง โดยที่แม่ไม่รู้แม้แต่น้อย จนมีความสามารถด้านการต่อสู้ไม่แพ้ใคร แต่ก็นั้นแหละถึงตามศักดิ์ เธอมีสิทธิ์ที่จะได้เป็นบอดี้การ์ดให้พระเอก แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิง ลูกชายที่เกิดจากผู้หญิงอีกคนเลยได้ไปแทน

    ประวัตความรัก2+ เพราะชอบทำตัวเหมือนทอมบอย รอบตัวเธอจีงมีแต่ผู้หญิงมารุมล้อม แต่เธอก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว เพราะทั้งชีวิตเธอ มีแค่แม่เท่านั้น และเธอต้องหาทางที่จะทำให้คนในตระกูล ยอมรับเธอและแม่ให้ได้
    ประวัติการศึกษา2+
    ตอนนี้กำลังเรียนบริหารธุรกิจ ปี 4 ที่มหาวิทยาลัยปิดแห่งหนึ่ง แต่ทว่า ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งได้รับปริญญาตรี ด้านกฎหมายของมหาลัยเปิดที่เธอเรียนควบระหว่างอยู่ม.ปลาย และตอนนี้เธอก็กำลังเรียนบัญชีควบคู่ไปอีกด้วย
    ฐานะของนางเอก
    ปานกลาง ถ้าไม่นับกับฐานะของตระกูลฝ่ายพ่อ ที่ถือว่าร่ำรวยมากทีเดียว
    ฐานะของพระเอก
    ไม่บอกก็รู้ว่ารวยมากๆ ไม่งั้นจะต้องมีตระกูลปาร์คของพ่อ ปฏิญาณตนเป็นทาสรับใช้ชั่วลูกชั่วหลานอย่างนี้หรือ
    ความฝันสูงสุดของนางเอก
    คนในตระกูลปาร์คยอมรับแม่เธอในฐานะ นายหญิงอันดับหนึ่ง และตัวเธอ ในฐานะผู้สืบทอดตระกูล อย่างแท้จริง
    ฉายาของนางเอก
    ยัยถึก
    ตอนจบลงเอยแบบไหนดี
    คนในตระกูลปาร์คยอมรับนางเอกและแม่ และทั้งคู่ก็ย้ายไปอยู่เกาหลี แต่แทนที่จะได้ฐานะผู้สืบทอดตระกูลปาร์คอันดับหนึ่ง กลายเป็นว่า เธอ กลายเป็น สะใภ้หมายเลขหนึ่งของตระกูลโจวแทน โดยกว่าจะผ่านกฎเหล็กของตระกูลโจวแต่ละข้อไปได้แทบขาดใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอหลวมตัวรัก เจ้านาย...โจวคยูฮยอนคนนี้ เธอไม่มีวันยอมใครแบบนี้แน่ๆ
    คำพูดที่คิดว่าเด็ดที่สุด
    “อยากตายเหรอ” น้ำเสียงที่แสนจะเย็นชา กับใบหน้านิ่งๆสุดแสนจะกวนโอ้ย
    คำพูดที่เอาไว้ใช้ปราบพระเอก
    “มีปัญหานัก ก็ไล่ฉันออกซิ”
    นิยามความรัก
    รัก คือ สิ่งที่ไร้เหตุผลที่สุดและไม่มีข้อแม้ จากที่เธอเห็นจากแม่ของเธอเอง ทั้งๆที่รู้ว่าเจ็บปวด มีแต่ความเศร้าใจ แต่ก็ไม่อาจตัดใจ และยังทำดีกับคนที่เรารักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนหรือข้อแม้ใดๆ ซึ่งนั่นก็รวมถึงตัวเธอด้วยเช่นกัน
    อิมเมจคุณ 2+ 








    อิมเอจคู่ของคุณ 2+





    ขนมที่ชอบกิน
    ขนมไทย โดยเฉพาะ ฝอยทอง ของโปรดเลย
    พฤติกรรมที่คิดว่าเด็ดสุดยอดสำหรับนางเอกคือ
    หน้าตายชนิดไร้เทียมทาน ถ้าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เธอไม่คิดจะแยแสแม้แต่น้อย
    คิดว่าพระเอกนิสัยเป็นไงอะ
    เพลย์บอย เจ้าชู้ ขี้เล่น รักสนุกไปวันๆ สร้างความปวดหัวให้กับที่บ้านเป็นอย่างมาก ที่ลูกชายคนเดียวของตระกูลไม่คิดจะทำอะไรเป็นแก่นสารกับเค้าบ้างเลย แถมยังบอดี้การ์ดประจำตัว(ลูกคนละแม่กับนางเอก...ปาร์คกังยู) ก็เป็นใจกับการเที่ยวเล่นจริงๆ แต่จริงๆเค้าก็ไม่ได้ไร้สาระอย่างที่เห็น เพียงแค่เค้ารักอิสระ ไม่ชอบอยู่ในกฎเกณฑ์ และเค้าก็หัวดีไม่แพ้ใคร

    คำถามชิงบท
    1. การเจอกันของคุณกะพระเอก

            ในบรรยากาศผับที่วุ่นวาย เสียงเพลงอึกทึก แสงสีสลัวๆ ทำให้ผู้คนแทบจะไม่ได้สนใจใคร

            แต่ทว่า กลับมีผู้มาใหม่ที่แต่งตัวรึก็ดูจะธรรมดา เป็นเพียงเสื้อสเวตเตอร์มีฮู๊ตสีทาตัวใหญ่ กางเกงลายทหารพลาง รองเท้าผ้าใบสีเข้ม ใบหน้าหวานราวคล้ายผู้หญิง แต่นัยน์ตานั้นก็ดุดันคมเข้ม จนไม่กล้าปักใจเชื่อ ผมสั้นซอยให้เข้ารูปกับใบหน้า ส่วนสูง 177 ดูสูงโปร่ง เรียกสายตาจากสาวๆได้เป็นกอง ถึงแม้ว่าตอนนี้ใบหน้าหวานจะดูนิ่งขรึมน่ากลัว แต่ก็ดูมีเสน่ห์ให้หน้าค้นหา

            “กว่าจะมาได้นะไอ้จี” รักคุณ เพื่อนสนิทฉันทัก เมื่อฉันเดินเข้ามาถึงโต๊ะ

            “มาก็บุญแล้ว ไม่ได้บ้านรวย จะได้ว่างมานั่งดื่มน้ำเมาอย่างนายนี่” ฉันตอบกลับก่อนจะแทรกตัวนั่งไป

            วันนี้เป็นวันเกิดรักคุณ มันเลยจัดปาร์ตี้ฉลองที่ผับใหญ่ใจกลางกรุงเทพ

            “ใจร้ายว่ะ ปีนี้ก็ใกล้จบต้องแยกย้าย นายก็มาฉลองกับเพื่อนบ้างเหอะ วันๆเอาแต่เรียน ไม่ก็คลุกแต่ฝึกต่อสู้ แล้วก็ช่วยแม่จัน ไม่คิดมีเวลาให้เพื่อนฝูงเลย” รักคุณ บ่น ก่อนจะยื่นน้ำสีแดงใสๆมาให้

            “ไม่มีแอลกอฮอล์หรอกน้า รู้ครับ ว่าคุณชายจีไม่นิยมของมึนเมา” เพื่อนซี้รีบแถลงไข

            ไม่ต้องงงนะ ว่าทำไมหมอนี่เรียกฉันว่าคุณชาย หรือแม้แต่คำบรรยายช่วงแรกที่ผ่านมา ขอบอกว่านั้นน่ะ ฉันเอง (นางเอกของเรื่อง)

            ฮะฮ่าๆๆ น่าภูมิใจจริงๆที่ทั้งหล่อ เท่ห์ จนสาวๆต้องเหลียวหลังคอแทบเคล็ด ยังไม่รวมความสามารถรอบด้าน ที่ฉันแน่ใจว่าไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอกที่ไหนแน่

            เมื่อมาสนุกทั้งๆที ก็ต้องเอาให้เต็มที่ ลงไปเต้นสุดเหวี่ยง ปล่อยตัวเองให้สนุกกับชีวิต แทนที่จะต้องมานั่งเครียดเรื่องต่างๆ

            “จะไปไหนว่ะจี” รักคุณถาม เมื่อฉันลุกขึ้น

            “ไปห้องน้ำ” รักคุณพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปแดนซ์กระจายกับสาวๆในคณะ

           

            “เฮ้ย มึงกล้าดีไงมายุ่งกับแฟนกู” ระหว่างทางไปห้องน้ำ ฉันก็เจอคนหาเรื่องกัน

            “เฮ้อ ไร้สาระกันซะจริง” ฉันส่ายหน้าระอา ก่อนจะเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจ

            โครม!

            จู่ๆก็มีผู้ชายร่างสูงโปร่งก็เซล้มทับฉัน แถมมือสองข้างของหมอนั่นยังอยู่ที่...หน้าอกของฉันอีก

            “อยากตายเหรอ” ฉันรีบดันหมอนั่นออกจากตัว ก่อนจะคว้าคอเสื้อ

            “พูดบ้าไรเนี่ย แต่บอกไว้ก่อน คนอย่างโจวคยูฮยอนไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว” ภาษาเกาหลีถูกพ่นเป็นชุดออกมา

            แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำหรับลูกครึ่งไทยเกาหลีอย่างฉันอยู่แล้ว ประเด็นคือชื่อ โจวคยูฮยอนนั่นต่างหาก ใช่ผู้สืบทอดตระกูลโจวรุ่นที่ 99 รึเปล่า

            “พูดภาษาไรว่ะ ฟังไม่รู้เรื่อง เล่นมันเลยดีกว่า ไอ้น้องถ้าอยากร่วมวงก็เอาเลย” ผู้ชายหัวโล้นกระชากคยูฮยอนไปทางด้านหลัง ก่อนจะเหวี่ยงหมัดเข้าใบหน้าใสๆนั่นเต็มๆ

            คราวนี้เพื่อนๆอีก 3-4 คนก็เข้ามาช่วยกันจัดการคยูฮยอน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ที่จู่ๆก็สาวเท้าเข้าไปอยู่กลางวงต่อสู้ แถมยังเอาตัวเข้าปกป้องคยูฮยอนอย่างไม่เคยทำมาก่อน

            “นี่มึงยุ่งไรเนี่ย” ไอ้โล้นซ่าถาม หลังจากฉันเอาหน้าไปรับหมัดมันเต็มๆ แทนคยูฮยอน

            “รังแกนักท่องเที่ยว เสียดุลการค้าเว้ย” ฉันตอบพร้อมกับเตะฟาดไปที่ก้านคอจนสลบในทีเดียว

            คราวนี้ฉันเริ่มโมโหอย่างจริงจัง จัดการไอ้พวกหมาหมู่จนกองลงไปกับพื้น

            “เฮ้ย! มีคนทำร้ายลูกพี่ว่ะ จัดการ” เสียงชายคนหนึ่งตะโกนมา พร้อมกับกลุ่มชายฉกรรจ์อีกนับสิบคนที่วิ่งกรูมา

            อ้าว...ซวยแล้วไงหล่ะ ไอ้พวกนี้มันเป็นเจ้าพ่อรึไงฟ่ะ มีพวกเป็นพรวนขนาดนี้

            “เราจะไปไหนเหรอ” คยูฮยอนถาม เมื่อถูกฉันลากไปทางหลังร้าน

            “ถ้าอยากดับอนาค จะอยู่รอตรงนี้ก็ได้นะ” ฉันหันไปตอบ แต่ก็ยังไม่หยุดวิ่ง จนกระทั่งเราเข้าไปแอบในซอกแคบๆระหว่างตึก

            ซอกนี้ก็แค่จนหน้าของฉันกับคยูฮยอนใกล้กันมาก ฉันจึงหันหน้าไปคนละทางกับคยูฮยอน แต่ทั้งตัวของฉันและเค้าก็เบียดกันจนแทบจะเป็นร่างๆเดียว

            “ขอบคุณนะที่ช่วยฉัน” คยูฮยอนเอ่ยขึ้นเบาๆ

            “ไม่เป็นไร วันหลังจะม่อใครก็หัดดูตาม้าตาเรือซะบ้าง”

            ติ๊ด ติ๊ด (เสียงมือถือคยูฮยอน)

            (ตอนนี้นายอยู่ไหน) กังยู บอดี้การ์ดคนสนิทถาม

            “มีเรื่องนิดหน่อย อยู่ตรงซอกตึก ถ้าออกมาจากหลังร้านด้านซ้าย”

            (โอเค เดี๋ยวฉันไปหา)

            “เฮ้ย เมื่อกี้พวกแกได้ยินเสียงไรป่ะว่ะ” คนที่ตามพวกฉันมาคนนึงพูดขึ้น

            “อืม ได้ยินเหมือนกัน มาจากแถวซอกตึกด้านนั่นว่ะ” อีกคนตอบมา

            ซวยแล้ว ไมไม่เปิดระบบสั่นว่ะ แล้วนี่ฉันเป็นบ้าไรว่ะเนี่ยถึงมาช่วยคนแปลกหน้าแบบนี้ ร้อยวันพันปีไม่เคยมีน้ำใจกับใครมาก่อน

            “ฉันว่า...อุ๊บ” เมื่อหันหน้ามา ก็พอดีกับที่หมอนั่นก้มหน้าลงมาเหมือนกัน ทำให้ปากฉันประกบติดกับคยูฮยอนอย่างง่ายดาย

            แต่นั่นยังไม่ได้รวมกับการที่คยูฮยอนบดขยี้ริมฝีปากลงมา และพยายามใช้ลิ้นเค้ามาสำรวจความหวานภายใน

            สมองของฉันหยุดทำงานไปชั่วขณะ ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น มีเพียงความวาบหวามที่เกิดขึ้นภายในแทน

            “เป็นไงตรงนั้นมีไรม่ะ”

            “มีคนยืนจู๋จี๋จูบกันอยู่ว่ะ”

            “ฮ่าๆๆ งั้นเราไปหาที่อื่นเหอะว่ะ กวนเค้าเปล่าๆ”

            “เฮ้อ...รอดตัวไปที” คยูฮยอนถอนริมฝีปากช้าๆ ก่อนจะหันไปมองพวกนั้น

            “หึ...นายรอดจากพวกนั้นได้ แต่อย่าหวังเลยว่าฉันจะปล่อยนายไป” ฉันเหวี่ยงหมัดไปใส่หน้าคยูฮยอน แต่ทว่ากลับมีอีกมือรั้งหมัดฉันไว้

            กังยูฉันเอ่ยชื่อเค้าในใจ

            ถ้าปาร์คกังยูอยู่นี่ งั้นไอ้คนตรงหน้าฉัน ก็ผู้สืบทอดตระกูลโจวรุ่นที่ 99 ซินะ

            “นายเป็นอะไรรึเปล่า” กังยูสะบัดฉันให้ห่างจากคยูฮยอน

            “ไม่หล่ะ แต่ก็เกือบไปเหมือนกัน”
            "แล้วหมอนี่เอาไง ให้จัดการเลยมั้ย" กังยูหันมามองฉัน
            "ไม่ต้อง ยัยนี่ช่วยฉันไว้ไปกันดีกว่า ดึกมากแล้ว เดี๋ยวพ่อบ้านรู้ว่าเราหนีมาเที่ยวเสร็จแน่ๆ"

            “ตามใจ วันหลังจะไปไหนก็หัดเรียกด้วยหล่ะ ถ้านายเป็นไรไป ตระกูลฉันจบแน่” กังยูว่า

            “อืมๆ งั้นฉันไปก่อนนะยัยทอม จูบเธอเนี่ยหวานชะมัดเลย ไว้เจอกันใหม่นะ” คยูฮยอนพูดต่อพร้อมกับจากไป

            กังยูหันมามองฉันด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเดินไปพร้อมกับนายคยูฮยอน

            แล้วนี่สองคนนี่มาทำอะไรกันนะ ถ้าคยูฮยอนอยู่ใกล้แค่นี้ งั้นฉันก็มีวิธีจะได้เข้าใกล้ตระกูลโจวแล้วน่ะซิ

            ดี...ฉันจะต้องหาทางทวงตำแหน่งอันชอบธรรมของแม่ฉันคืนมาให้ได้ ส่วนเรื่องจูบแรกที่นายเอาฉันไป รับรองฉันเอาคืน 10 เท่าแน่

     

    2. ถ้าคุณติดอยู่บนชิงช้าสวรรค์ที่ทรุดโทรมแล้วลงไม่ได้คุณจะเรียกพระเอกมาช่วยยังไงในขณะที่ยังไม่ถูกกัน2+

            โธ่เว้ย! ดันซวยมาติดแหง๊กอยู่บนชิงช้าสวรรค์เก่าๆเสียได้ แถมยังอยู่บนสุดอีก จะปีนลงก็กะไรอยู่

            จะโทรเรียกไอ้รักคุณ ก็ไม่ได้เอามือถือมาซะด้วย เอาไงดีอ่ะ

            นั่นมันไอ้คุณชายคยูฮยอนนี่ฟ่า ขอความช่วยเหลือดีป่ะเนี่ย

            “เฮ้ๆ คุณชายคยู สนใจหน่อย” ฉันรีบตะโกนเรียกคยูฮยอน ก่อนที่เค้าจะเดินผ่านไป

            คยูฮยอนแหงนหน้าขึ้นมอง ฉันที่โบกไม้โบกมือจากข้างบน

            “อ้าว ยัยถึก เธอไปทำไรบนนั่นน่ะ วันนี้เค้าจะทุบทิ้งแล้วไม่รู้รึไง”

            เงอะ ติดแหง๊กไม่ว่า ไอ้ชิงช้าเวรนี่จะโดนทุบอีกเหรอ

            “ถ้ารู้แล้วจะขึ้นมารึไง คุณชายรีบเอาฉันลงไปที” ฉันเผลอตวาดไปหน่อย ก่อนจะเสียงอ่อยขอให้เค้าช่วย

            “นี่เธอกำลังขอร้องฉันงั้นเหรอ”

            “เออ รู้แล้วก็รีบตามคนมาช่วยให้หน่อยสิ”

            “อืม...แต่เสียงมันเหมือนข่มขู่ไงไม่รู้นะ” คยูฮยอนทำท่าลังเล

            “ไอ้บ้า อยากตายเหรอ” ฉันเผลอหลุดตะคอกไปอีกรอบ

            “ปากดีแบบนี้ก็หาทางลงเองแล้วกัน” คยูฮยอนทำท่าเดินหนีไป

            “เดี๋ยวๆ คุณชายคยูฮยอนครับ ช่วยพาฉันลงไปทีเถอะนะ” ฉันพยายามบังคับเสียงตัวเองให้นิ่งที่สุด

            “อืม...เท่าที่รู้เธอเป็นผู้หญิงไม่ใช่รึไง ขอแบบหวานๆแบบที่ผู้หญิงเท่าไปเค้าพูดกันน่ะ ได้มั้ย”

            เฮ้ย จะให้ฉันพูดแบบผู้หญิงเนี่ยนะ ไม่ไหวอ่ะ กระดากปาก

            “จะให้ช่วยวันนี้ หรือช่วยชาติหน้า ถ้าเป็นอย่างหลังฉันจะกลับบ้านก่อน” คยูฮยอนว่า เมื่อเห็นฉันลังเลอยู่นาน

            “เออๆ พูดก็ได้” ฉันรีบรับคำ ก่อนจะสูดหายใจลึกๆ นึกถึงเวลาสาวๆมาออดอ้อนฉันให้ช่วย

            “คุณชายคยูฮยอนขา ช่วยพาจีไปหน่อยนะค่ะ จีขอร้อง” ฉันทำเสียงหวานที่สุดแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน แถมยังส่งสายตาวิ้งๆอีก

            “ก็แค่นี้ งั้นรอแป๊ปหล่ะ ไปตามคนมาช่วยก่อน” คยูฮยอนกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะไปตามคนมาช่วย

            แหวะๆๆๆ ปากฉันจะขึ้นผื่นมั้ยเนี่ย พูดไปได้ คยูฮยอนขา เสียเชิงชายชะมัด (ได้ข่าวว่าเป็นผู้หญิง)
    3. ถ้าพระเอกมีแฟนแล้วแต่คุณชอบพระเอกมากๆๆๆคุณจะแย่งเค้าเพื่อมาเป็นของคุณยังไง2+

            “วันนี้ไม่ต้องไปดูแลไอ้คุณชายนั่นรึไง” รักคุณถาม

            “ถ้าไปจะมานั่งอยู่นี่รึไง ป่านนี้เค้าคงสวีทกับคู่หมั้นหน้าสวย นายจะให้ฉันไปอยู่เป็นกขค ทำไมว่ะ” ฉันตอบอย่างเซ็งๆ

            “อ๋อ...ที่มานั่งเป็นหมาเหงานี่ เพราะกลายเป็นหมาหัวเน่านี่เอง”

            “อยากตายเหรอ” ฉันพูดพร้อมกับลุกขึ้นคว้าคอเสื้อมัน

            “โหไอ้จี ใจคอจะทำเพื่อนได้ลงเหรอว่ะ”

            “วันหลังจะพูดไรก็ใช้สมองซะ สมองไม่ได้มีไว้แค่คั่นหูจำไว้” ฉันปล่อยมัน ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งเหมือนเดิม

            “แหม...ไอ้เราก็อยากจะช่วย ชอบเค้าก็แย่งเค้ามาดิไม่เห็นยาก”

            “พูดน่ะมันง่าย แต่ใครมันจะไปชอบผู้ชายฟ่ะ”

            “อ้าว! นี่นายลืมเพศที่แม่ให้มารึไงฟ่ะ นายเองก็เป็นผู้หญิงไม่ใช่รึไง” รักคุณทำหน้าอึ้ง

            “เออ...จริงด้วย ลืมได้ไงเนี่ย แต่ฉันห่างจากความเป็นผู้หญิงนานแล้วนะเว้ย จะไปสู้อะไร คุณหนูที่เพียบพร้อมอย่างนั้นได้เหล่า”

            “โธ่! นายอยู่กับใครจี ลูกเจ้าแม่คอสเมติกของเมืองไทย ไปช้อปกันเลยดีกว่า วันนี้คุณชายรักคุณ จะแปลงร่างทอมถึกเป็นเจ้าหญิงให้ได้เลยคอยดู” รักคุณคว้ามือฉันให้ลุกขึ้น

            “นะ...นายแน่ใจเหรอ ฉันว่าให้ฉันตัดใจ ยังง่ายกว่าให้ไปสู้คู่หมั่นคยูอีกนะเว้ย” ฉันสบตารักคุณอย่างไม่แน่ใจ

            “เชื่อมือฉันเหอะน่า ปกติมีแต่ฉันคอยพึ่งนาย คราวนี้แหละ ฉันจะเป็นพ่อสื่อให้นายสมหวังเอง” แล้วรักคุณก็ลากฉันไปด้วยความมุ่งมั่น

            ขอบคุณนะรักคุณ...นายเป็นเพื่อนที่ดีของฉันจริงๆ

            ฉันมองรักคุณด้วยสายตาชื่นชมโดยไม่รู้เลยว่า ไอ้คนที่ช่วยน่ะมันหวังผล เพราะแอบไปตกหลุมรักคู่หมั้นคยูฮยอนตั้งแต่แรกพบเหมือนกัน

            เมื่อนางเอกเรากลายเป็นหญิงอย่างสมบูรณ์ ก็ทำให้คยูฮยอนหวั่นไหวอย่างง่ายดาย (จริงๆก็หวั่นไหวอยู่แล้ว แต่พยายามเตือนตัวเองว่านั่นน่ะทอม แต่พอกลายเป็นผู้หญิงอย่างนี้ เค้าก็ไม่ลังเลที่จะรักอีก)
    4. ฉากในตอนจบถ้าพระเอกตายคุณจะพูดว่าอะไร2+

            “นายไม่มีสิทธิ์ตายรู้มั้ย ฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ สวรรค์ได้โปรด แลกชีวิตเค้ากับฉันด้วย” ฉันร้องไห้ฟูมฟายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

            ทั้งๆที่แต่ก่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันมักจะข่มอารมณ์ให้ใจเย็นได้เสมอ แต่ครั้งนี้ทำไมฉันไม่อาจข่มความรู้สึกใดๆได้

            “คยูฮยอน ฉันรักนายนะ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้ นะฉันขอร้อง ต่อไปนี้นายจะให้ฉันทำอะไร ฉันจะไม่เกี่ยงอีกแล้ว ฉันยอมนายทุกอย่าง นายห้ามตายรู้มั้ย ถ้านายตายไป ฉันจะฆ่าตัวตายไปอาละวาดนายถึงในนรกเลยคอยดู”                                                                                                       
    5. ถ้าถึงวันเกิดพระเอกสิ่งที่คุณจะมอบให้เค้าคืออะไร1+

            “วันเกิดฉันทั้งที เธอไม่คิดจะให้อะไรฉันบ้างรึไง” เสียงคยูฮยอนที่ดังจากด้านหลังทำให้ฉันต้องหันไป

            “แล้วนายยังอยากได้อะไรอีกหล่ะ ฉันว่าของขวัญทั้งงาน กับเงินที่นายมี นายอยากได้อะไร ก็น่าจะได้หมดแล้วนะ” ฉันตอบไปอย่างหมดอาลัยตายอยาก

            วันนี้ไม่ใช่แค่วันฉลองวันคล้ายวันเกิดของเค้า แต่ยังเป็นวันที่เค้าประกาศหมั้นกับคู่หมั้นของเค้าอย่างเป็นทางการ จะให้ฉันสะเออะเข้าไปทำพระแสงอะไร

            แค่เปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้หญิงเพื่อเค้าก็เสียศักดิ์ศรีจะตาย จะให้หน้าด้านอยู่งานให้ได้อะไร

            “ใครว่า มีของขวัญอย่างนึงที่ฉันอยากได้ และเธอต้องเป็นคนให้คนเดียวด้วย”

            “ได้ค่ะ งั้นคุณชายอยากได้อะไรจากดิฉันหล่ะค่ะ”

            “ฉันอยากได้หัวใจเธอ ให้ฉันได้รึเปล่าหล่ะ”

            OoO นายจะหมายถึงอะไรกันแน่

            “ฉันรักเธอนะ จียง เธอรักฉันบ้างมั้ย” คยูฮยอนค่อยๆก้มหน้าลงประทับจูบฉันช้าๆ ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นจูบอันดูดดื่ม

            ท่ามกลางแสงไฟที่ประดับประดาสวยงาม ท้องฟ้าเปิดโล่งมีดวงดาวนับร้อยนับพันเป็นพยาน

            “นายไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้” ฉันรีบผลักคยูฮยอนออก เมื่อเค้าถอนริมฝีปากออก

            “ทำไมหล่ะ จียง เธอไม่รักฉันบ้างเลยเหรอ”

            “มันไม่เกี่ยวกันคยูฮยอน นายมีคู่หมั้นอยู่แล้ว นายไม่สมควรทำแบบนี้”

            “แล้วถ้าฉันไม่มีหล่ะ เธอจะรักฉันบ้างมั้ย” คยูฮยอนกุมมือฉันทั้งสองข้าง สบตามองด้วยสายตาหวานฉ่ำที่ทำให้ใจสะท้าน

            “อย่าพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้”

            “แต่มันก็เป็นไปแล้ว ฉันยกเลิกงานหมั้นไปแล้ว เพราะฉันรู้ว่าหัวใจฉันอยู่ที่เธอ แล้วเธอหล่ะ ให้หัวใจฉันกลับมาได้มั้ย”

            ฉันค่อยๆถอดสร้อยเงินที่มีแหวนของพ่อที่มอบให้แม่ไว้ตอนขอแม่แต่งงานออกมา

            “สร้อยเส้นนี้เป็นยิ่งกว่าชีวิต ยิ่งกว่าหัวใจของฉัน มันคงพอที่จะแลกกับหัวใจของนาย” ฉันยิ้มให้เค้า ก่อนจะสวมสร้อยให้เค้า

            “แต่นี่มันเป็นของสำคัญของเธอนะ”

            “เพราะมันเป็นของสำคัญไง ถึงต้องอยู่กับคนสำคัญ คยูฮยอน ฉันรักนาย” ฉันโน้มหน้าเค้าลงมา ก่อนจะเขย่งตัวเองให้สูงขึ้นมอบจูบหวานให้เค้าได้รับรู้ถึงความรู้สึกภายใน


    6. ถ้าพระเอกหนีไปอยู่ที่ไกลๆแล้วเค้าไม่บอกคุณคุณคิดจะตามมั้ย เพราะอะไร2+

            ตามครับ เพราะ รักเค้าไปแล้ว ต้องไปคาดคั้นเอาความจริงว่าเค้าไปเพราะอะไร ถ้าเค้าหนีไปเพราะรำคาญ และไม่รักฉันแล้ว ฉันคงจะปล่อยเค้าไป แต่ถ้าในใจเค้าก็ยังพอมีที่ว่างให้ฉันบ้าง ต่อให้หนีไปสุดล้าฟ้าเขียว ยังไงก็หนีฉันไม่พ้นหรอก
    7. ถ้าพระเอกจะจูบคุณบรรยากาศรอบๆข้างอยากให้เป็นยังไง1+
           
    ฮ่าๆๆ ถ้าเป็นจูบแรกก็ไปอ่านข้อหนึ่งเลยนะจ้ะ ว่าบรรยากาศเป็นยังไง ตอบข้อเดียวใช้ได้ 2 ข้อเลย ก็บรรยากาศรอบๆ เป็นซอกแคบๆระหว่างตึก เหม็นๆ มืด มีพวกเจ้าพ่อที่มีเรื่องกันมาตามล่าเดินป้วนเปี้ยนอยู่ข้างนอก โรแมนติกจริงๆ
    คำถามจากไหมจัง
    1. ถ้าได้เป็นนางเอกจะพูดว่าอะไร
    ขอบคุณมากๆ ที่ให้โอกาสนางเอกของเรา
    2. ถ้าไม่ได้เป็นจะติดตามฟิคของเรามั้ย
    อืม...ก็จะติดตามเรื่อยๆนะค่ะ
    3. ไหมขออวยพรให้ได้เป็นนางเอกนะ
    ขอบคุณนะค่ะ Happy New Year ค่ะ
    4. เข้าใจกติกาแล้วใช่ปะ
    จ้ะ
    5. ส่งใบสมัครเป็นลิ้งนะค่ะ
    ครับผม
    อย่าลืม เม้น โหวต ด้วยๆๆๆๆๆๆ
    ขอบคุณที่รับฟังเรามาตลอดโชคดีนะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×