ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห้องเก็บของNin_norN

    ลำดับตอนที่ #4 : ใบสมัครนางเอกเท็ดดี้

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 51


    ใบสมัครนางเอกเท็ดดี้ (ตาเทม) [ สีดำเท่านั้น! คำตอบขอเป็นตัวบาง ]
     
    ส่วนที่ 1 ประวัติผู้สมัคร
    ชื่อ : หนอน
    อายุ : 18
     
     
    ส่วนที่ 2 ประวัติตัวละคร
    ชื่อจริง-นามสกุล//ชื่อเล่น(ภาษาไทย) :
    มล.สุดที่รัก เศวตราพิมุก // ลูกรัก
    ชื่อจริง-นามสกุล//ชื่อเล่น(ภาษาอังกฤษ) : Sudteeruk Sawatetrapimook // Look-ruk
    อายุ(ดูในคำใบ้) : 19
    ฉายา : แม่หญิงแห่งกรุงศรี
    วันเกิด : 14 ก.พ.
    เชื้อชาติ(เป็นลูกครึ่ง ลูกเสี้ยวได้หมด ไทยแท้หรือชาติเดียวแท้ๆได้หมด) : หญิงไทยแท้ๆ
    บุคลิก ลักษณะภายนอก(ละเอียดนิดนึง) : เชื้อชาติคุณหญิงสืบเชื้อสายมาทางคุณแม่ และการอบรมแบบหัวสมัยเก่า ทำให้ลักษณะภายนอกเธอดูเหมือนหญิงยุคอดีต ผมดำขลับมักจะถูกมัดเอียงเป๋ไปทางขวาอย่างเรียบร้อย ใบหน้าสวยราวกับนางในวรรณคดี ท่าทางกระเดินกระมิดกระเมี้ยนดูเรียบร้อย กิริยามารยาทก็ดูดีไม่มีใครเกิน สมกับฉายา แม่หญิงแห่งกรุงศรี
    ส่วนสูง//น้ำหนัก : 164 // 44
    นิสัย(ขอละเอียดยิบ ไม่ต่ำกว่า 5 บรรทัด) : เป็นคนมองโลกในแง่ดี อดทนใจเย็นไม่มีใครเกิน หัวอ่อน เชื่อคนง่าย ทำให้พ่อแม่และเพื่อนรักอย่างซันนี่เป็นห่วงอย่างมาก ไม่ค่อยปล่อยให้รู้จักมักจี่กับใครง่ายๆ เรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้ ถึงจะเป็นลูกสาวคนเดียว แต่คุณพ่อและคุณแม่ก็ไม่เคยตามใจเธอจนเป็นคนเอาแต่ใจเหมือนลูกคนมีอันจะกินทั่วไป แต่ถึงภายนอกลูกรักจะดูเงียบๆ ติ๋มๆ แต่เธอก็มีอีกหนึ่งนิสัยที่น่าสนใจ คือความร่าเริงสดใสแบบซื่อที่น้อยคนจะได้เห็นนัก เพราะทั้งคนในครอบครัวของเธอรวมทั้งซันนี่หวงนักหนา เธอมักจะส่งยิ้มหวานเรียบๆตามมารยาท แทนจะส่งยิ้มสดใสจนทำให้ใครใจละลายตามแบบที่ยิ้มในคนสนิท ทำให้เธอปฏิเสธคนมาจีบได้อย่างเงียบๆ กับการวางตัวอย่างดี แต่อีกอย่างที่ดูจะขัดกับนิสัยเธอก็คือ ความรักศักดิ์ศรีที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หากสิ่งใดที่เธอทำแล้วเสียเกียรติหล่ะก็ เธอไม่มีวันยอมทำเด็ดขาด แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม ถึงเธอจะดูยอมคนไปเรื่อย ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมเสียหมด บทเธอจะแข็งขืนขึ้นมา ก็เลยเอาคนรอบข้างตกใจเลยทีเดียว เรียกได้ว่า อย่าคิดเป็นศัตรูกับหญิงไทยคนนี้เลยดีกว่า เพราะเธอก็มีวิธีการต่อสู้ที่เงียบสงบจนหนาวสะท้านไปทั้งใจได้เช่นกัน
    ครอบครัว(แนะนำแบบละเอียดยิบ บอกมาให้หมด!) : คุณพ่อเป็นเอกคัครราชทูตของไทยที่ประจำการที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ส่วนคุณแม่ก็เป็นลูกสาวตระกูลดังในสมัยอดีตแถมยังมีเชื้อเจ้าปนอยู่ในสายเลือดอีกต่างหาก ทำให้เธอทั้งฐานะดี มีชาติตระกูล อดีตเธอมักต้องติดตามคุณพ่อและคุณแม่ที่ต้องย้ายไปทำงานอย่างไม่มีหลักแหล่งแน่นอน เมื่อถึงเวลาเข้ามหาวิทยาลัยเธอจึงขอเลือกหนทางชีวิต ปักหลักเรียนที่คณะศีกษาศาสตร์ที่เมืองไทย แทนที่จะย้ายที่เรียนไปเรื่อยๆ โดยเธออาศัยอยู่กับคุณปู่ คุณย่า และคุณยายในบ้านหลังใหญ่ของตระกูลคุณพ่อ แต่คุณยายจะมีเรือนไทยแยกออกมาบ้านหลังใหญ่เพื่อเป็นพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งเธอก็ชอบไปนั่งเลยที่นั่นบ่อยๆเพราะบรรยากาศเรือนไทยมันสวยน่าพิศมัยจริงๆ
    การศึกษา(ดูในคำใบ้) : คณะศึกษาศาตร์ เอกภาษาอังกฤษ ชั้นปีที่ 2
    ความสามารถพิเศษ : เธอสามารถเลยเครื่องดนตรีสากลได้ทุกประเภท แต่ที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษก็คงจะเป็นเปียโนที่สามารถถ่ายทอดโน้ตดนตรีได้ทุกอารมณ์ตามต้องการ
    ชอบ : ตามฉบับกุลสตรีไทยเรื่องงานบ้านงานเรือนไม่ขาดตกบกพร่อง ส่วนเรื่องทำครัวเธอก็ไม่แพ้ใคร เธอมักจะให้คุณยายสอนอาหารไทยแบบโบราณอยู่บ่อยครั้ง และให้คุณย่าสอนทำอาหารต่างชาติ และไม่ใช่แค่เรื่องทำเท่านั้นที่เธอชอบ เรื่องกินเธอเองก็ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน
    เกลียด : เธอไม่เคยถูกสอนให้เกลียด เพราะคำว่าเกลียดถือเป็นคำที่รุนแรงเป็นอย่างมาก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีข้อดีที่ควรได้รับการให้อภัย แม้แต่แมลงสาบ ถึงมันจะสกปรกไม่น่ารัก แต่มันก็ช่วยสร้างสมดุลให้โลก เมื่อถามว่าเธอเกลียดอะไร เธอนึกไม่ออกทีเดียว
    งานอดิเรก : อ่านหนังสือ
    อื่นๆ :

    เพลงประจำคู่ของคุณ(พร้อมความหมายด้วยนะ) : You’re Miracle ของ TVfXQ

    세상에 하나뿐인 마음(You're My Miracle) คนเดียวในใจเท่านั้นในโลก


    [Micky] ฉันลองเปิดใจดู ข้างในนั้นมีเธออยู่ มีแค่เธอเท่านั้น
    ลองมองดูสิ

    [Hero] ในชีวิตที่มืดมิดของฉัน มีเธอมาอยู่ในนั้นทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างสดใสดังหมู่ดวงดาว
    เธอให้ความหวังกับฉัน

    [U-know] ตั้งแต่โตมา โลกของฉันช่างมืดบอด มีแต่การโกหกและ
    ความล้มเหลว ฉันทิ้งความหวังในอนาคตไปหมดแล้ว

    [Xiah] มีเธอที่เหมือนนางฟ้ามาอยู่ข้างกายฉันอย่างนี้ มีเธอลึกในใจที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์

    [Max] Cause you’re my miracle แค่มีเธอ โลกก็กลายเป็นความฝันสีขาว
    ต้องขอโทษที่ฉันแสดงออกถึงความรักต่อเธอที่มากมายเหลือเกินไม่เป็น

    [Max] ในชีวิตที่ต้องลำบาก ฉันเหนื่อยที่ต้องทะเลาะกับเธออย่างรุนแรง เหมือนเธอจะจากไป
    มันทำให้ฉันกลัวเล็กน้อย (I won't let you go)

    [U-know] มีแต่ให้บาดแผลอย่างนั้นกับฉัน แต่ฉันจะให้รอยยิ้มที่สวยงามที่สุดเพื่อเธอ
    แล้ววันนี้ฉันจะอยู่(กับเธอ)

    [Micky] หวังให้ชีวิตที่อยู่ในช่วงหนึ่งที่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนกับสิ่งที่จะอยู่ตลอดไป

    [Max] ผู้คนที่ผิดหวังและมีบาดแผลก็มาจากกันไป

    [Hero] Wuh~เธอคนเดียวเท่านั้น (เธอคนเดียวเท่านั้น) ถ้าหากเธอคนเดียวในโลกนี้อยู่กับฉัน
    สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิต ก็ไม่ยากอีกต่อไป

    [Xiah] Cause you’re my miracle แค่มีเธอ โลกก็กลายเป็นความฝันสีขาว
    ต้องขอโทษที่ฉันแสดงออกถึงความรักต่อเธอที่มากมายเหลือเกินไม่เป็น

    [Micky] ในที่ๆมีผู้คนมากมายบนโลก ฉันได้พบเธอ It’s destiny

    [Max] จะมีความสุขด้วยกันตลอดไป บนโลกใบนี้

    [Xiah] เพื่อเธอแล้วฉันจะไม่ทิ้งเธอไว้คนเดียวนานๆ ฉันจะค้นหาความฝันอีกครั้ง

    [Hero] Cause you’re my miracle แค่มีเธอ โลกก็กลายเป็นความฝันสีขาว
    ต้องขอโทษที่ฉันแสดงออกถึงความรักต่อเธอที่มากมายเหลือเกินไม่เป็น

    แต่ฉันจะให้คำสัญญากับเธอ ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

     

    อิมเมจตัวละคร(ขอชื่ออิมเมจด้วยจ๊ะ 3-4 รูป) : เต้ย จรินทร์พร นิยมของไทยกันบ้าง



    อิมเมจคู่(2 รูปพอ) :

     

     

    ส่วนที่ 3 คำถามทั่วไป

    1.อยากให้เวลาที่อัพขอให้มาเม้นทุกครั้งนะคะ เพราะว่าเจ้กะไนซ์ขี้น้อยใจ = = แล้วก็อยากให้มาตามจิกๆทวงๆด้วยเพราะไม่อย่างงั้นไรเตอร์ก็ห่อเหี่ยว แต่งไม่ออกเหมือนกัน

    : อ่ะครับ

     

    2.ถ้าติดธุระอะไรขอให้มาบอกด้วย อย่าหายไปเฉยๆ ไม่งั้นเจ้ก็ตัดชิ๊บแบบไม่มีเหตุผลเหมือนกัน = =

    :จ้า

     

    3.เรื่องนี้เปิดออฯนานเพราะอย่างงั้นรอได้นะ ประมาณ 2 อาทิตย์ ถ้าติดแล้วต้องรีบมารายงานตัวภายในเวลาที่กำหนดด้วยนะจ๊ะ

    : ครับผม

     

    4.ถ้าไม่ติดอยากได้บทสำรองมั้ย? (อันนี้ถ้าที่ขอมาผ่านอาจจะให้แต่ถ้าไม่ผ่านก็อดนะ = =)

    : อืม...ขอเป็นเพื่อนนางเอกเทมป์อีกคนแล้วกัน รู้สึกนางเอกคนอื่นจะมีเพื่อนกันเยอะ มีนางเอกเทมป์คนเดียว มีแต่ซันนี่

     

    5.คาแรคเตอร์พระเอกเป็นไงมั่ง?

    : ก็น่ารักดีค่ะ เป็นพระเอกห่ามๆแต่แอบหน้ารัก ชอบคนแข็งนอกนุ่มในอ่ะ ก็เป็นอีกคาแรกเตอร์ที่แตกต่างดี

     

     

    ส่วนที่ 4 คำถามชิงบท

     

    1.คุณคือว่าที่ครูสาวแสนที่จะเรียบร้อย มีความอดทนสูงแต่แล้ววันหนึ่งในขณะที่คุณกำลังดูเด็กนร.ของคุณอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงเบรกรถที่ดังแสบแก้วหูทำเอาบรรดานร.ของคุณตกใจจนร้องไห้กันยกใหญ่=[]=!~ คุณจึงรีบวิ่งออกไปดูทันทีและสิ่งที่คุณพบคือชายหนุ่มผู้ที่มีหน้าตาหล่อแบบน่ากลัว =_= และกวนโอ๊ย เขายักคิ้วให้คุณอย่างกวนๆหนึ่งทีก่อนที่จะเปิดประตูรถและก็ปรากฏร่างเด็กสาวตัวน้อยน่ารักเดินลงมาจากรถพร้อมกับไหว้คุณอย่างนอบน้อมคุณจะทำอย่างไรต่อ? จะจัดการยังไงกับเท็ดดี้หนูเล็กและบรรดาเด็กนร.ของคุณที่กำลังร้องไห้กันระงม =_= (อธิบาย&บทพูด ไม่ต่ำกว่า 10 บรรทัด เอาตั้งแต่ได้ยินเสียงรถของเทมเลยน้า> <)

    :               เอี๊ยด

                    เสียงเหมือนล้อยางเสียดสีกับพื้นถนนอย่างแรง ทำเอาทั้งเธอและเหล่านักเรียนตัวน้อยถึงกับตกใจ เด็กเล็กหลายคนถึงกับร้องไห้จ้าทีเดียว

                    “เดี๋ยว ครูจุ๋มดูนักเรียนในห้องก่อนนะค่ะ ลูกรักจะออกไปดูข้างนอกเอง” ลูกรักบอกคุณครูที่ร่วมดูแลนักเรียนในห้องเธอ ก่อนจะวิ่งออกไปดูเหตุการณ์ข้างนอก

                    สิ่งที่เธอได้พบก็คือ ผู้ชายหน้าตาดี...รึเปล่า ก็ไม่ใช่ว่าไม่หล่ออ่ะนะ แต่ดูน่ากลัวไงก็ไม่รู้ แถมยังยักคิ้วกวนโอ้ย ราวกับจงใจกวนประสาทเธอ ยืนพิงรถจาร์กัวคันโก้

                    “เสียงดังเมื่อกี้คุณเป็นคนทำใช่มั้ยค่ะ” ลูกรักถามทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก

                    เพราะมีแต่รถแต่งซิ่งเท่านั้นแหละที่จะสร้างเสียงดังขนาดนั้นได้

                    “อืม...เสียงอะไรเหรอครับ ไม่เห็นได้ยินเลย” ชายหนุ่มตอบพลางเดินอ้อมมาฝั่งข้างคนขับแล้วเปิดประตูรถ

                    “หนูเล็กได้ยินเสียงอะไรรึเปล่าค่ะ” ชายหนุ่มถามเด็กผู้หญิงตัวเล็กน่ารักที่กำลังเดินก้าวออกจากรถ

                    “ก็ได้ยินแต่เสียงเพลงที่พี่เท็ดดี้เปิดอ่ะค่ะ ดังจนขี้หูหนูเล็กเต้นได้แล้ว” หนูเล็กว่าพลางใช้นิ้วไชหูเล็กๆ

                    “เวอร์ไปและ ยัยตัวเล็ก” คนที่ถูกเรียกว่าพี่อุ้มเด็กคนนั้นมาเหวี่ยงไปรอบๆอย่างสนุกสนาน

                    “อ่ะแฮ่ม...นี่มันโรงเรียน และก็ได้เวลาเรียนแล้วค่ะ ดิฉันขอตัวพาหนูเล็กเข้าห้องเรียนนะค่ะ” ลูกรักกระแอมเสียงดังเพื่อให้ทั้งสองหยุดเล่น

                    “งั้นหนูเล็กไปก่อนนะค่ะ” หนูเล็กประนมมือไว้พี่ชาย ก่อนจะวิ่งนำคนเป็นครูอย่างรวดเร็ว

                    “เดี๋ยวก่อนซิครับ เจอหน้ากันแล้วจะไม่พูดจากันหน่อยเหรอ” เท็ดดี้คว้ามือหญิงสาวตรงหน้าไว้

                    “ถ้าเจอหน้าใครก็ต้องคุยกัน ฉันว่าคนเราคงไม่ต้องทำมาหากินกันแล้วหล่ะค่ะ” ลูกรักรีบดึงมือกลับอย่างรังเกียจ ทำเอาคนที่มีแต่คนสนใจถึงกับหงุดหงิด

                    “ครูลูกรักค่ะ ตอนนี้เพื่อนๆร้องไห้ไม่หยุดเลยค่ะ ครูจุ๋มท่าจะเป็นลมแล้วด้วย” หนูเล็กที่วิ่งหายไปเมื่อกี้วิ่งออกมาหน้าตาตื่น ดึงมือครูคนสวยไปทันที

                    ทำเอาคนที่กำลังจะอ้าปากต่อคำกับหญิงสาวถึงกับชะงัก รีบสาวเท้าตามทั้งสองไป

                    แงงงงง

                    เสียงร้องระงมทำเอาลูกรักถึงกับปวดหัวจี๊ดเลยทีเดียว เพราะคนบ้ากวนประสาทแท้ๆ ทำเอานักเรียนเธอตกอกตกใจไปหมด เสร็จงานนี้แม่จะเทศน์ให้หูชาเลย

                    “เด็กๆจ้ะ มีใครอยากฟังครูลูกรักเล่านิทานบ้างเอ่ย” ลูกรักเล่นเปียโนเพลงง่ายๆ เรียกความสนใจจากนักเรียน

                    “อยากค่ะๆ หนูเล้กขอเรื่องเจ้าหญิงหนูเล็กคนสวยนะค่ะ” หนูเล็กที่เพิ่งมาใหม่ยกมือ

                    นิทานของเธอเป็นนิทานในจินตนการซึ่งจะเอาตัวละครในห้องเรียนมาเริงร่าในห้องแห่งความฝัน แต่งตามที่นักเรียนใฝ่ฝันอยากเป็น โดยมีเปียโนคลอประกอบ

                    “ได้จ้ะ แล้วใครอาสาเป็นเจ้าชายมั้ยค่ะ” ลูกรักถามลูกศิษย์อีกครั้ง เมื่อนักเรียนหลายคนเริ่มนิ่งจ้องมองเธอ

                    “ผะ..ผมครับ” เด็กชายคนหนึ่งอาสาอย่างกล้าๆกลัวๆ

                    “หนูเล็กไม่เอา บอสซุ่มซ่ามไม่เท่ห์เลย” เจ้าหญิงตัวน้อยค้าน

                    “โธ่หนูเล็ก รู้มั้ย เจ้าชายซุ่มซ่ามน่ะ ทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง” ลุกรักแกล้งทำเสียงผิดหวังที่หนูเล็กมองเพียงข้อเสีย

                    “ทำอะไรได้เหรอค่ะ” เด็กผู้หญิงอีกคนถามมาแทน

                    “อ่า...งั้นก็เริ่มเรื่องเจ้าหญิงหนูเล็กกับเจ้าชายซุ่มซ่ามนะจ้ะ ณ ดินแดนอันไกลโพ้น...” ลูกรักเล่าเรื่องพร้อมกับเสียงเปียโนทำให้ฟังสบายรื่นหูขึ้น

                    เนื้อเรื่องถ้าผู้ใหญ่มาฟังก็คงจะดูไม่สมเหตุสมผลอยู่ไม่น้อย เพราะเจ้าชายของเราเริ่มเรื่องก็ซุ่มซ่ามสะดุดขาตัวเองไปชนกับดาบวิเศษ ป่ำๆเป๋อๆชนะเจ้ามังกรร้าย เพราะดาบกระเด็นไปปักต้นไม้ แล้วเจ้ามังกรก็ซุ่มซ่ามไปแพ้กัน สะดุดก้อนหินโดนดายปักอกเข้าเต็มรัก และยังมีอีกหลายอย่างที่นักเรียนหลายคนช่วยกันเสนอเอาใจช่วยเจ้าชายของเรา จนไปพบรักกับเจ้าหญิงจนได้

                    เพราะเมื่อใดที่เธอคิดเรื่องไม่ออก เหล่านักเรียนช่างฝันก็รีบเสนอจินตนาการของตนให้ได้มีช่วยร่วมในนิทาน เหลือเชื่อบ้าง ไม่เข้าเรื่องบ้าง แต่ก็สร้างความบันเทิงจนลืมเสียงดังที่ทำให้ตกใจสิ้น

                    “เอาหล่ะจ้ะนักเรียน ได้เวลาทานของว่างแล้ว หญิงรักพักก่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวครูทำที่เหลือเอง” ครูจุ๋มแทรกขึ้นมา หลังนิทานแสนสนุกจบลง

                    “ไม่เป็นไรค่ะ ลูกรักทำได้” ลูกรักยิ้มให้ด้วยความเต็มใจ ก่อนจะนำเด็กออกไปตั้งแถวเตรียมรับของว่าง

                    “ผมช่วยนะครับ” ชายหนุ่มที่ควรจะกลับไปนานแล้ว กลับโผล่มาช่วยเธอหยิบขนมแจกนักเรียน

                    “ไม่ต้องค่ะ ดิฉันทำได้” ลูกรักแย้ง

                    “เหอะน่า สองแรงดีกว่าแรงเดียวนะครับ” เท็ดดี้ส่งยิ้มกวนๆให้ แล้วช่วยแจกขนมให้อย่างไม่ใส่ใจสายตาขุ่นๆของหญิงสาว

                    “คุณครูลูกรักเล่านิทานเก่งจังเลยนะครับ” เท็ดดี้ชมจากใจจริง

                    ใบหน้าหวานกับน้ำเสียงหวานๆชวนให้หลุดไปในโลกแห่งความฝัน นิทานที่ไหลลื่นไปด้วยจินตนาการของเด็กๆ โดยมีครูสาวช่วยเริ่มเรื่อง เสียงเปียโนที่คลอไปตลอด อาจจะสร้างจังหวะเร้าใจเมื่อถึงนาทีระทึก หยุดชะงักสร้างความตื่นเต้น ทำให้แม้แต่เค้าเองก็อดจะยืนฟังจนจบไม่ได้

                    “ขอบคุณค่ะ แต่ดิฉันอยากเล่าแค่ช่วงก่อนนอนของเด็กๆเท่านั้น” ลูกรักทำเสียงตำหนิ ต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องรีบแก้ปัญหาพาะหน้าจนทำให้กินเวลาเรียนของเด็กๆไป

                    “โธ่...คุณครูครับ ผมขอโทษก็ได้ คราวหน้าผมจะไม่ทำเสียงดังแล้วครับ(เฉพาะต่อหน้าคุณครู)” เท็ดดี้กล่าวขอโทษจนตัวเค้าเองก็ตกใจ ที่ทำไมเค้าหลุดคำคำนี้ง่ายดายจัง

                    เพียงแค่เห็นหน้าบึ้งๆของเธอ เค้าก็รู้เพียงอย่างเดียว ว่าให้เค้าทำอย่างไรก็ได้ แค่เรียกรอยยิ้มสดใสของเธอให้กลับมา

                    “งั้นฉันก็ขอบคุณล่วงหน้านะค่ะ ถ้าคุณจะทำจริงๆ” ลูกรักยิ้มประชด ก่อนจะเดินเข้าไปสอนนักเรียน

                    หึ...วันนี้เค้ายอมให้เธอเดินหนีไปก่อนก็ได้ แต่รับรองเจอกันคราวหน้า เค้าก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ติดหนึบคุณครูยิ่งกว่าปลิงอีกครับ

     

                   

    2.หนูเล็กน้องสาวอีตากวนโอ๊ยที่คุณหมันไส้ก็ได้มาเป็นนักเรียนของคุณอย่างเต็มตัวแถมยังตีสนิทกับคุณอีกต่างหากและยังชอบนำเรื่องของพี่ชายและพี่สาวมาเผาให้คุณฟังบ่อยๆจนกลายเป็นเรื่องคลายเครียดสำหรับคุณไปแล้วคุณรู้สึกยังไงกับหนูเล็ก?และทำอย่างไรกับเธอ? (อธิบาย&บทพูด ไม่ต่ำกว่า 10 บรรทัดเริ่มตั้งแต่หนูเล็กเม้าท์เลยนะ^^)

    :               “คุณครูลูกรักขา วันนี้หนูเล็กมีเรื่องมาเม้าท์ด้วยค่ะ”  เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้ามาหาเธอ ระหว่างที่เธอกำลังรดน้ำดอกไม้ในแปลงเพาะชำของโรงเรียน

                    เฮ้อ...ไม่รู้ว่าครอบครัวนี้เค้าดูแลกันยังไงนะ ปล่อยให้เด็กตัวเล็กๆต้องมารับรู้เรื่องราวไม่สมควรตั้งแต่ยังเด็ก

                    ก็คิดดูซิ คำว่า เม้าท์เด็กอนุบาลที่ไหนพูดกัน ครั้งแรกที่เธอได้ยินจากเด็กคนนี้ก็ตกใจอยู่ไม่น้อย ยิ่งเจ้าตัวบอกว่าพี่สาวของหล่อนสอนเวลากลุ่มเพื่อนๆหล่อนมานั่งเม้าท์เผาขนคนอื่นกันที่บ้านเธอ

                    “หนูเล็กจ้ะ เรื่องบางเรื่องไม่ต้องบอกครูทุกเรื่องก็ได้นะ” ครูสาวบอกนักเรียนตัวน้อย

                    เรื่องที่มาเล่ามันก็คลายเครียดดีอ่ะนะ แต่ทว่าแต่ละเรื่องที่หนูเล็กเล่าเนี่ย มันสุดจะบรรยายจริงๆ ก็อย่างพี่ชายคนโตนั่น เวลาเมาเหล้ากับกลุ่มเพื่อนๆ จะชอบเล่นแก้ผ้าเหลือกางเกงในตัวเดียว แล้วก็ออกไปวิ่งแข่งรอบหมู่บ้าน หรือไม่ก็พี่สาวคนรองพยายามหาวิธีเสริมอึ๋มแบบแปลกๆ โดยมีหนูเล็กร่วมวงทดลอง

                    โอ้ย...แต่ละเรื่องเกิดมา 19 ปีไม่เคยเจออะไรแปลกขนาดนี้มาก่อน

                    “คุณครูรำคาญหนูเล็กใช่มั้ยค่ะ” หนูเล็กก้มหน้างุดเสียงสั่นราวกับจะร้องไห้

                    “เปล่าจ้ะหนูเล็ก ครูไม่ได้รำคาญเลย แต่ครูกลัวหนูจะโดนดุ ถ้าพี่ๆของหนูรู้ว่ารู้มาเล่าให้ครูฟังต่างหาก” และอีกอย่างคือครูกลัวมองหน้าพวกเค้าไม่ติดอ่ะจ้ะ

                    “โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร พี่เค้าไม่ดุหนูเล็กหรอกค่ะ พี่เค้ารักหนูเล็กจะตาย ในเมื่อครูไม่รำคาญ หนูเล็กก็จะขอเริ่มเม้าท์เผาขนนะค่ะ” เด็กน้อยเปลี่ยนท่าทางเป็นร่าเริงอย่างฉับไหว

                    ทำเอาครูสาวถึงกับตกใจกับท่าทางของเธอ เชื่อแล้วว่าบ้านนี้เค้าแปลกจริง แม้แต่เด็กตัวเล็กๆที่ไม่น่าจะมีอะไร บางทีก็ทำให้เธอปวดหัวได้เหมือนกัน

                    “เริ่มจากพี่เท็ดดี้เลยนะค่ะ เมื่อวานค่ะ พี่เท็ดดี้ไปซ่อมบลาๆๆๆ” แล้วเด็กสาวตัวน้อยก็กลายร่างเป็นนักพูดมือฉมัง นำเรื่องนู่นเรื่องนี่มาเล่าให้เธอฟังอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย

                    สงสัยว่าเธอคงจะต้องทำใจรับฟัง และเปลี่ยนเป็นไปฝึกทำหน้าตายเวลาเจอบรรดาพี่ๆที่หนูเล็กเผาให้ฟังก็แล้วกันนะ คงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

     

     3.เท็ดดี้ชอบมาหาคุณบ่อยๆหรือว่าง่ายๆก็คือมาคอยกวนประสาทและแกล้งคุณนั่นแหละ = = เขามักอ้างว่ามาหาหนูเล็กแต่เวลาเขามาทีไรก็มักจะมานั่งแกล้งและแหย่คุณตลอดคุณจะทำยังไง =O=? (อธิบาย&บทพูด ไม่ต่ำกว่า 10 บรรทัดเอาตั้งแต่ที่เทมแกล้งคุณนะ)

    :               “ซาหวัดดีครับ คุณครูลูกรัก ทำไมวันนี้ทำหน้าเครียดจังเลยครับ เดี๋ยวเหี๋ยวขึ้นคานมา จะหาว่าหมีเท็ดดี้ไม่เตือนนะ” ตุ๊กตาหมีสีขาวกำลังพูดกับเธอราวกับมีชีวิตระหว่างที่เธอกำลังตรวจการบ้านของเด็กๆ

                    “คุณเท็ดดี้ค่ะ ถ้าเหตุผลของการมาที่นี่คือมาหาหนูเล็ก เชิญชั้น 1 ห้อง A ค่ะ” ลูกรักตอบทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้ามามองคู่สนทนา

                    “ก็ตอนนี้หนูเล็กเรียนอยู่จะให้ผมเข้าไปได้ไงหล่ะครับ” เท็ดดี้วางตุ๊กตาไว้ข้างโต๊ะ แล้วลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับหญิงสาวแทน

                    “งั้นคุณก็ควรจะรู้เพิ่มว่านี่มันเวลางานของดิฉัน กรุณาหยุดก่อกวนซะที” ลูกรักหยุดตรวจการบ้าน ส่งสายตาจริงจังว่าเรื่องนี้ซีเรียสมาก

                    “ไม่ได้ก่อกวนซะหน่อย ใช้คำพูดยังกับผมเป็นผู้ก่อการร้าย” เท็ดดี้ก้มหน้างุดเหมือนยามที่หนูเล็กกำลังเสียใจ

                    ชิ...คิดว่าฉันจะสงสารเหรอ กับหนูเล็กถึงจะรู้ว่าแกล้งทำ แต่นั่นก็ยังเป็นเด็กไร้เดียงสา แต่กับนายต่อให้บีบน้ำตาอ้อนวอนฉันก็ไม่สนย่ะ

                    “ดิฉันไม่ได้พูดนะค่ะ แต่โดนใจมากๆเลย ถ้าทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว เชิญคุณออกไปได้แล้วค่ะ นี่มันเขตส่วนตัว”  ลูกรักผายมือไปยังประตูทางออกแล้วก้มหน้าตรวจการบ้านต่อไป

                    “ผู้หญิงอะไรเนี่ย ไม่มีความอ่อนหวานเลย” เท็ดดี้บ่นเมื่อแผนเรียกความสงสารไม่ได้ผล

                    “ฉันนึกว่าฝันกลางวันทันทีที่เห็นเธอ ฉันนึกว่าเจอนางฟ้า” เสียงนุ่มที่นั่งบนโซฟาร้องขึ้นมาหวังเรียกความสนใจจากครูคนสวย

                    “ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไม่อาจหยุดสายตา มองตาเธอไม่หยุด เพ้อสุดๆ เกือบลืมหายใจ” ลูกรักเหล่มองคนตรงหน้าอย่างไม่วาง

                    นี่เค้าจะมาไม้ไหนกันแน่นะ

                    “นี่เธอดูดีไปรึเปล่า หรือเธอหลุดมาจากฝันของใครอย่างเธอน่ะมองไม่ได้หรอก ให้มองอย่างเดียวไม่ได้หรอก พบคนโดนใจอย่างเธอ ถ้าไม่คุยกับเธอ ฉันเสียดายของ” จู่ๆใบหน้าหล่อกวนๆของเท็ดดี้ก็โผล่มาแทบประชิดหน้าหวานโดยไม่ทันระวังด้วย

                    “ปล่อยเธอผ่านไปไม่ได้หรอก ไม่รู้จักเธอไม่ได้หรอก แม้เราเพิ่งเคย..พบกัน แต่เธอได้ใจฉันไปครอบครอง” สายตาหวานซึ้งสบตาเธอนิ่ง ทำเอาเธอเป็นฝ่ายเขินหลบหน้าไปมองทางอื่นก่อน

                    “นี่คุณ ก็บอกว่าอย่ากวนไง” ลูกรักเสียงดังข่มความเขิน

                    “ก็ผมเบื่อนี่หน่า...รักคุณเข้าแล้วเป็นไง รักจนคลั่งไคล้จริงจัง คุณรักใครรึยังฉันใต” เท็ดดี้ไม่ยอมหยุดง่ายๆ เมื่อรู้ว่าเพลงรักหวานซึ้งทำให้หญิงสาวสนใจ แถมยังเขินซะน่ารักน่าแกล้งอีก

                    “ขอร้องหล่ะ จะต้องให้ดิฉันทำยังไง คุณถึงจะเลิกกวนดิฉันซะที”

                    “อืม...ให้ผมไปส่งคุณที่บ้านทุกวันเป็นไง” เท็ดดี้ทำท่าคิดพร้อมให้ข้อเสนอที่เป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย

                    “จะบ้าเหรอ แค่นี่ยังแกล้งดิฉันไม่พอรึไงนะ”

                    ขนาดซันนี่ที่เป็นเพื่อนสนิทเธอตั้งแต่ชั้นมัธยม กว่าจะฝ่าด่านการทดสอบจากทั้งครอบครัวเธอได้ ก็เล่นเอาลุ้นกันเหงื่อตก แล้วนี่ผู้ชายกะล่อนจอมกวน แม้แต่เธอเองยังไม่ไว้ใจ ขืนให้ไปส่ง เธอคงอดมาสอนที่นี่แน่ๆ ดีไม่ดีถูกกักบริเวณให้เรียนที่บ้านเพื่อหนีหนุ่มๆมาจีบแบบสมัยเด็ก เธอคงอกแตกตาย

                    “งั้นผมก็ร้องต่อ...ก็คนมันรอเธอมาตั้งนาน ข้างเดียว แค่อยากจะเกี่ยวเธอมาไว้กอด ทั้งตัวและใจ” คราวนี้ไม่ใช่แค่ร้องเพลง แต่เค้ายังทำท่าประกอบแถมเดินอ้อมโต๊ะมาคว้าเธอไปกอดเสียดื้อๆ

                    “เธอไม่รักฉันไม่รู้ ที่เธอไม่รักฉันไม่รู้ ก็เป็นเหตุผลของใจ”

                    “อ๊าก...ปล่อยนะ ตาบ้า” ลูกรักดิ้นอย่างแรงเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ยิ่งดิ้นเค้าก็ยิ่งรัดแน่น

                    “เอาไงครับ ยอมให้ไปส่งที่บ้านได้ยัง”

                    “บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ซิ ปล่อยนะ ดิฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะ” ลูกรักเริ่มทำเสียงจริงจัง อย่างสุดทน

                    “เงอะ...โกรธเหรอ แค่ไปส่งเองไม่ได้รึไง” เท็ดดี้รีบคลายอ้อมกอด เมื่อเห็นหญิงสาวหน้านิ่ง

                    “ไม่ได้ และก็เลิกกวนฉันได้มั้ย ฉันเป็นครูเด็กอนุบาล ไม่ใช่อาจารย์ดูแลคนแก่อย่างคุณ”

                    “ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี้ก็ไม่ดี งั้น...ต่อไปนี้เธอพูดกับฉันดีๆได้มั้ย”

                    “เท่าที่รู้ ดิฉันพูดดีกับคุณเสมอค่ะ” ลูกรักทำหน้างง เพราะเธอก็ไม่เคยพูดหยาบคายกับเค้าเลย อย่าว่าแต่เค้าลเย ทั้งขีวิตนี้เธอไม่เคยพูดไม่ดีกับใครด้วยซ้ำ อาจจะละเค้าไว้คน ถ้าเธอเหลืออดจริงๆ

                    “ไม่ใช่แบบนั้น พูดเหมือนกับที่เธอพูดกับเพื่อน ฉันว่าเธอคงไม่ได้พูดคุณ ดิฉัน แบบนี้ใช่ม้า” เท็ดดี้เฉลย เมื่อเห็นหญิงสาวไม่เข้าใจจริง

                    “คุณอยากเป็นเพื่อนกับดิฉันงั้นเหรอ” ลูกรักทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ

                    อยากเป็นมากกว่าเพื่อน เธอจะยอมฉันมั้ยหล่ะ เท็ดดี้คิดในใจ

                    “ก็ถ้าเป็นเพื่อนกัน ฉันอาจจะไม่แกล้งเธอแบบนี้ก็ได้” เท็ดดี้ยื่นข้อเสนอใหม่

                    “งั้นก็ตกลงตามนี้ค่ะ” ลูกรักยิ้มอย่างเป็นมิตร

                    มีมิตรย่อมดีกว่ามีศัตรูกวนโอ้ยแบบนายนี่อยู่แล้ว

                    “อ๊ะ...เวลาพูดกับเพื่อนทางการขนาดนั้นเลยเหรอลูกรัก” เท็ดดี้รีบฉวยโอกาสตีสนิทเรียกชื่อเล่นจริงๆของหญิงสาว

                    “ก็บางครั้ง ถ้าคุณ เอ้ย นายจะเลิกแกล้งฉันแล้ว ก็เชิญออกจากห้องได้แล้ว ฉันจะทำงาน” ลูกรักว่า ก่อนจะหยินงานมาทำอีกครั้ง

                    แต่ชายหนุ่มก็ทำหูทวนลม แทนที่จะเดินออกจากห้องตามที่หญิงสาวต้องการ กลับเดินไปนั่งอ่านนิตรสารที่โซฟาแทน

                    “อ้าว ไหนว่าจะไม่กวนไง” ลูกรักเอ่ย

                    “ก็บอกว่าจะไม่กวน แต่ไม่ได้บอกว่าจะออกไปซะหน่อย” เท็ดดี้ยิ้มเจ้าเล่ห์ อ่านนิตรสารไม่รู้ร้อนรู้หนาว

                    ลูกรักจึงได้แต่ส่ายหน้าระอากับความดื้อด้านของชายหนุ่ม

    4.วันหนึ่งในขณะที่คุณจะไปหาซันนี่(มิกกี้)เพื่อนรักแต่อีตาเท็ดดี้ก็ทู่ซี้จะมาตามมาด้วยเขาเลยมาส่งคุณและรออยู่หน้าร้านในขณะที่คุณกำลังคุยกับซันนี่อยู่ถึงเรื่องบางอย่างแล้วซันนี่ก็ดึงคุณเข้ามากอดแล้วทันใดนั้นคุณก็เห็นเท็ดดี้พุ่งเข้ามากระชากคุณให้ออกจากซันนี่พร้อมกับต่อยซันนี่จนคว่ำและเข้าไปซ้ำอีกหลายๆรอบทำเอาคนในร้านแตกตื่นวิ่งหนีออกไปหมด คุณตกใจมากเมื่อตั้งสติได้จึงรีบเข้าไปขวางแต่ก็ถูกเท็ดดี้ผลักจนกระเด็นไปชนกับขอบโต๊ะทำให้คุณจุกและล้มลงไปกองกับพื้นทั้งเท็ดดี้และซันนี่ตกใจมากจึงรีบวิ่งมาประคองคุณแต่พอซันนี่มาถึงพอเขามากำลังจะประคองคุณก็มีเด็กสาวอายุราวๆ15-16ปีมาเรียกซันนี่ไปคุยด้วยเท็ดดี้จึงเข้ามาอุ้มคุณขึ้นคุณจะทำอย่างไรพูดยังไงกับเท็ดดี้และจะทำอย่างไร(อธิบาย&บทพูด ไม่ต่ำกว่า 10 บรรทัด เริ่มตั้งแต่ที่เท็ดดี้ตื้อจะมาส่งคุณให้ได้นะคะ)

                  “กว่าจะรัก เท่าวันนี้ กว่าจะมีคนมาเข้าใจต้องใช้เวลา”

                    เสียงเรียกเข้าเฉพาะตัวของเพื่อนรักดังจากมือถือเครื่องบางของเธอ ที่ไม่ต้องมองชื่อก็รู้ว่าใครโทรมา

                    “ว่าไงค่ะคุณชาย มีอะไรให้ดิฉันรับใช้” ลูกรักกวนใส่เพื่อนรักตั้งแต่ยังไม่เริ่มเรื่อง

                    “มากไปยัยลูกรัก เราไปใช้อะไรเธอตอนไหน” ซันนี่ร้อนตัวรีบให้ชี้แจง

                    “ก็ตั้งแต่มัธยม ที่ให้ส่งการบ้าน ทำงานให้ ให้ช่วยจีบสาวยังมีเลย ยังไม่รวมกับที่นายชอบลากฉันไปไหนมาไหนตามใจชอบอีกนะ” คงมีแต่เค้าหล่ะมั้ง ที่เธอมักจะพูดเล่นด้วยอย่างสนิทใจ

                    “โห...แต่ตอนนี้เราไม่ได้ทำแบบนั้นแล้วนะ”

                    “ก็ขืนลองใช้ให้ทำการบ้านวิศวะดูซิ แม่จะร่ายยาวกฎความเป็นครูให้หูชาเลย”

                    “โอ้ย ดุอย่างเนี่ย นักเรียนไม่กลัวแย่รึไงลูกรัก”

                    “ฉันดุกับนายคนเดียวเท่านั้นแหละ แล้วโทรตอนเพื่อนทำงานมีอะไรจ้ะ”

                    “คือ...เรามีเรื่องจะปรึกษา สำคัญมากๆเลย มาหาเราที่ Vamila Love ได้มั้ย”

                    “อืม...ไปดีมั้ยน้า” ฉันแกล้งเล่นตัว ทั้งๆที่ปกติก็ไม่เคยปฏิเสธเพื่อนอยู่แล้ว

                    “โธ่ อย่าแกล้งซิ สำคัญจริงๆ มาตอน 4 โมงนะ” นัดเวลาเสร็จก็ตัดสายไปเลยเป็นการมัดมือชกเพื่อน

                    ตาบ้า นัดมาอ่ะดูเวลาบ้างมั้ย ถึงฉันจะเลิกงานตอนสามโมงครึ่งก็ใช่ว่าฉันจะเหาะไปหานายได้เลยนะลูกรักบ่นในใจ แต่ก็รีบเก็บข้าวของ เตรียมไปให้ทันนัด

                    แต่เมื่อออกมาจากห้องพักครู มารผจญตัวเอ้ที่คอยรังควานเธอเช้า เย็น และถ้ากลางวันว่าง ก็จะตามมาคอยกวนใจเธอไม่หยุดหย่อน

                    “เท็ดดี้วันนี้ฉันไม่มีเวลาเล่นกับนายหรอกนะ” ลูกรักรีบสาวเท้าเดินไปเรียกแท็กซี่หน้าโรงเรียน

                    “ไม มีเดทรึไง” เท็ดดี้แหย่

                    “เพ้อเจ้อ ฉันมีนัดกับเพื่อนย่ะ แล้วก็ใกล้เวลานัดแล้วหลีก” ลูกรักก้มมองนาฬิกาในข้อมืออีกครั้ง

                    “ผู้ชายผู้หญิง” เท็ดดี้ยังไม่วายทำตัวสงสัย

                    “เท็ดดี้ นายไม่ใช่พ่อหรือแฟนฉันนะ จะได้มาถามซอกแซกเนี่ย” ลูกรักเริ่มมีน้ำโหกับเค้าบ้าง

                    “งั้นฉันไปด้วย”

                    “จะบ้าเหรอ ก็บอกว่ามีนัดไง ฉันไม่เคยขออะไรนายเลยนะ งั้นครั้งนี้ฉันขอแล้วกัน” ลูกรักโบกเรียกแท็กซี่สีเขียวให้มาจอดเทียบข้างถนน

                    “งั้นฉันก็ขอเธอเหมือนกัน ให้ฉันไปส่งนะ” เท็ดดี้จับมือลูกรักที่กำลังจะเปิดประตูรถ ก่อนจะหันไปบอกให้แท๊กซี่ไปได้เลย

                    “ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไปเอง” ลูกรักโวยวาย เมื่อโดนเท็ดดี้ฉุดกระชากลากถูให้ขึ้นรถเค้า

                    “ทำไม กะอีแค่ฉันไปส่งจะเป็นอะไรนักหนา หยุดโวยวายได้แล้ว ไม่งั้นฉันจูบเธอโชว์นักเรียนตอนนี้แน่” เท็ดดี้หันมาตวาด สายตาเหล่ไปยังบรรดานักเรียนตัวน้อยที่กำลังดูภาพครูสาวถูกชายหนุ่มกวนโอ้ยลากไปมา

                    “แค่ไปส่งนะ ส่งเสร็จก็กลับเลยหล่ะ” ลูกรักว่าอย่างจำยอม เพราะดูจากท่าทางนายนี่เอาจริงแน่ ถ้าเธอยังขืนดื้อกับเค้ามากไปกว่านี้

                    ที่เธอไม่อยากให้นายนี่ไปส่ง ก็ไม่ใช่ว่าจะมีอะไรปิดบัง แต่ไอ้นิสัยกวนโอ้ย หาเรื่องเธอตลอดเวลานี่ซิ ที่เธอห่วง กลัวเค้าจะไปป่วนเธอกับเพื่อนรักมากกว่า

                    Vanila Love

                    “ขอบคุณที่มาส่งนะ งั้นฉันไปก่อนหล่ะ” ลูกรักรีบขอบคุณ เตรียมเปิดประตูรถออกไป

                    “เดี๋ยว ฉันจะรอรับกลับนะ” เท็ดดี้รั้งข้อมือไว้

                    “ไม่ ก็บอกแค่ให้มาส่งไง”

                    “ไม่สน ฉันจะยืนเฝ้าเธอยู่หน้าร้านเนี่ยแหละ และถ้าเธอคิดชิ่งหล่ะก็ ฉันจะอุ้มเธอยัดใส่รถแน่ๆ” เท็ดดี้ขู่ ก่อนจะเคลื่อนรถไปหาที่จอด

                    ทำเอาลูกรักส่ายหน้าระอากับความดื้อของเพื่อนใหม่คนนี้เสียจริง

                    ระหว่างที่ลูกรักเดินเข้าไปคุยกับซันนี่ เท็ดดี้ที่เพิ่งจอดรถเสร็จถึงกับตะลึง เมื่อนัดสำคัญของหญิงสาวคือการมาเจอซันนี่เพื่อนรักเค้า และดูจากท่าทางของทั้งสองคนแล้ว ดูจะสนิทสนมกันเป็นพิเศษด้วย

                    เฮ้ย...ทำไมยัยลูกรักถึงได้ยิ้มหน้าบานเป็นจานกระด้งอย่างนั้นหล่ะ แล้วแกไอ้ซันนี่เอามือของแกออกจากมือลูกรักนะเฟ้ย ยัยบ้ารู้มั้ยว่านั่นน่ะเพลย์บอยตัวฉกาจเลย อ้าว เตือนไม่ฟังรึไง ยังจะไปจับซ้อนมือมันอีก มีความสุขกันจังนะ ทีกับฉันหล่ะหน้าบึ้งยังกะตูดหมา

                    สองคนนี้เป็นไรกันแน่ฟ่ะ ข้องใจ

                    เฮ้ย ไอ้ซันนี้แกขยับไปใกล้ลูกรักทำไม ยัยบ๊องกระเถิบหนีดิ อ้าว ไอ้ซันนี่คว้ายัยนั่นไปกอดแล้ว แล้วเธอก็กอดตอบด้วยเหรอ ทีกับฉันแค่จับมือด่าสามวันไม่เลิก ไม่ไหวแล้วโว้ย ทนดูไม่ได้

                    หลังจากอดกลั้นมองเพื่อนรักกับครูน้องสาวจู๋จี๋กันอยู่นาน เท็ดดี้ก็รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งทั้งสองกอดกันกลมท่ามกลางร้านมีผู้คนมากมายอย่างไม่อายฟ้าอายดินยิ่งทำให้เค้าหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

                    “ปล่อยยัยนี่นะเว้ย” เท็ดดี้กระชากซันนี้ออกจากลูกรัก ก่อนจะเสยหมัดเข้าไปที่คางเต็มๆ ตามด้วยทั้งหมัดทั้งเท้าไม่ยั้ง

                    “หยุดเดี๋ยวนี้นะ เท็ดดี้ ทำบ้าอะไรเนี่ย” ลูกรักพยายามร้องห้าม แต่ก็ดูไม่เป็นผล ซันนี่ยังคงถูกเท็ดดี้เสนอแม่ไม้มวยไทยไม่ยั้ง

                    “บอกให้พอได้แล้ว หยุดนะ” เมื่อใช้เสียงไม่ได้ผล ลูกรักจึงเข้าไปคว้าหมัดเท็ดดี้เอาไว้ ไม่ให้เค้าทำร้ายเพื่อนรักเธอได้อีก

                    แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ยิ่งปกป้องก็ยิ่งโมโห เท็ดดี้สะบัดลูกรักอย่างแรงด้วยความลืมตัว ทำเอาหญิงสาวถึงกับปลิวไปตามแรงกระแทกกับขอบโต๊ะจนตัวงอ

                    “ลูกรัก” ทั้งสองหนุ่มผสานเสียงพร้อมกันด้วยความตกใจ

                    เท็ดดี้รีบถลาเข้าไปหวังจะช่วยหญิงสาว แต่ก็ดูเหมือนจะช้ากว่าผู้ชายอีกคนที่เค้าเพิ่งล้มคว่ำไป

                    “เป็นไรมากมั้ย ลูกรัก” ซันนี่จับหญิงสาวอย่างเบามือ เกรงว่าทำรุนแรงไปเธอจะช้ำมากไปกว่าเก่า

                    แต่ทว่าระหว่างที่ซันนี่กำลังดูแลลูกรัก ก็มีหญิงสาวท่าทางน่ารักคนหนึ่งเรียกเค้าไปคุยด้วย ซันนี่ก็ลังเลสองจิตสองใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร ห่วงเพื่อนก็ห่วง แต่กับผู้หญิงคนนั้นเค้าก็ปล่อยไว้ไม่ได้

                    “ไม่เป็นไรหรอกซันนี่ ไปเถอะ ลูกรักไม่เป็นไรแล้ว” ลูกรักตอบ ทั้งๆที่เธอยังรู้สึกจุกไม่หาย

                    “งั้น...เท็ดดี้นายดูแลลูกรักก่อนนะ เรื่องเราค่อยเคลียร์กันวันอื่น” ซันนี่หันไปฝากเพื่อนรัก กับเพื่อนที่เพิ่งต่อยเค้าคว่ำไป

                    ทั้งๆที่สมควรจะโกรธ แต่เค้ากลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลยซักนิด ตรงข้าม ไอ้ท่าทางเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนเค้าเกินหน้าเกินตาแบบนี้ ไม่บอกก็รู้ว่าเรียกว่าอะไร

                    “มา เดี๋ยวฉันช่วย” เท็ดดี้รีบปราดเข้ามาช่วยประคองหญิงสาวที่พยายามจะลุกขึ้น

                    “ไม่ต้อง ฉันลุกเองได้ อ๊ะ” ลูกรักร้อง เมื่อร่างทั้งร่างถูกช้อนขึ้นด้วยผู้ชายข้างๆตัว

                    “ปล่อยฉันลงนะ” ถึงจะจุก แต่เธอก็ไม่ยอมญาติดีกับอันตพาลแน่

                    “......” เท็ดดี้ไม่พูด อุ้มฉันออกจากร้านไปขึ้นรถของเค้า แม้ว่าตลอดทางฉันทั้งบ่นทั้งด่า แถมทุบตีเค้าตลอดทางด้วย

                    เมื่อถูกจับยัดขึ้นรถ ลูกรักก็หมดทางหนี เธอเลยนั่งหน้าเชิดมองไปนอกหน้าต่างราวกับคนข้างๆไม่มีตัวตน

                    “ลูกรักๆ ถึงบ้านแล้ว” เท็ดดี้ปลุกหญิงสาวที่เผลอหลับระหว่างนั่งเชิดอยู่ตั้งนาน

                    “......” ลูกรักไม่ตอบ และไม่ถามว่าเค้ารู้ทางมาบ้านเธอได้อย่างไร เธอรีบปลดล๊อคสายนิรภัย เตรียมหนีชายเจ้าอารมณ์คนนี้

                    “เดี๋ยว ใจเย็นแล้วก็ฟังฉันพูดก่อน” เท็ดดี้เอื้อมมือมาจับประตูไว้ไม่ให้เธอลงไป

                    ลูกรักไม่ได้พูดอะไร แต่หันไปมองเค้าด้วยสีหน้าเย็นชา เหมือนจะประกาศว่าต่อให้เค้าพูดว่าอะไร เธอก็ไม่ให้อภัยเค้าแน่

                    “ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอต้องเจ็บตัว เธอจะทุบฉันตีฉัน หรือจะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าเงียบแบบนี้ได้มั้ย” เท็ดดี้กุมมือทั้งสองข้างของเธอด้วยสีหน้าเว้าวอน

                    “ถ้าเธอโกรธฉัน เรื่องที่ฉันโกรธไอ้ซัน พรุ่งนี้ฉันไปขมามันก็ได้ แต่เธอพูดกับฉันซักนิดได้มั้ย” นัยย์ตาคมเข้มสบตาเธอส่งความจริงใจอ้อนวอนให้เธอให้อภัย

                    “ซันนี่มันเป็นเพลย์บอย ม่อไม่เลือก ฉันแค่เป็นห่วงเธอมากเกินไป มันผิดด้วยเหรอ”

                    ห่วง? คำพูดที่ทำให้ทิฐิในใจหายวับไปในพริบตา สายตาจริงใจ กับการกระทำที่ดูเปลี่ยนไปจากทุกวัน ทำให้เธอเริ่มไขว้เขว

                    “ตกลง ฉันยกโทษให้นายก็ได้ แต่ต่อไปนายต้องสัญญานะ ว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก” สุดท้ายลูกรักก็ใจอ่อนกับเค้าอีกจนได้

                    “สาบานเลยก็ได้ เธอหายโกรธฉันแล้วใช่มั้ย” เท็ดดี้ยิ้มอย่างดีใจ

                    “ก็ต้องดูก่อนว่าซันนี่เค้าจะยกโทษให้นายรึเปล่าที่นายไปทำเค้าทั้งๆที่เค้าไม่ได้ทำอะไร”

                    “แล้วเธอกับมันเป็นอะไรกันเหรอ” เท็ดดี้ถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นเพื่อนรักดูจะมีอิทธิพลต่อหญิงสาวเหลือเกิน

                    “เพื่อนสนิทตั้งแต่มัธยมน่ะ เอาเป็นว่าฉันจะหายโกรธนายอย่างสมบูรณ์ เมื่อซันนี่โทรมาบอกว่าเค้าให้อภัยนายนะ”

                    “ตกลง เดี๋ยวฉันจะบึ่งรถไปขอโทษมันเดี๋ยวนี้เลย”

                    “แล้วอย่าขับรถเร็วนะมันอันตราย อ๋อ แล้วอยากทำเสียงดังให้เดือดร้อนชาวบ้านชาวช่องด้วย” ลูกรักว่าพลางลงจากรถ

                    “ครับ คุณครูคนสวย เจอกันพรุ่งนี้นะ” เท็ดดี้ยิ้มหวานให้อีกรอบ ก่อนจะขับรถหายไปในความมืด

    5.วันหนึ่งคุณได้พบว่าคุณได้ตกหลุมรักเจ้าหมีใหญ่คนนี้เข้าให้แล้ว >///<~ คุณชอบในความใจดีและติงต๊องของเขา ^^~ แต่แล้วหนูเล็กตัวแสบก็ไปบอกเท็ดดี้ว่าคุณชอบเขา O_O!!  ทั้งๆที่หนูเล็กพูดเล่นๆเพราะเชียร์ทั้งสองคนอยู่แต่มันดันตรงกับความเป็นจริง! เท็ดดี้จึงนัดคุณไปที่สวยสนุกพร้อมกับถามคุณว่าที่หนูเล็กพูดนั้นจริงหรือไม่ คุณกลัวว่าเขาจะรู้ว่าคุณชอบคุณจริงบอกปัดไปว่าไม่ชอบๆๆไม่ใช่ๆๆ เท็ดดี้ก็ทำหน้าเรียบเฉยทำให้คุณอ่านความคิดเขาไม่ออกจากนั้นเขาก็ขอตัวกลับบ้านไปคุณห่วงเขาจึงโทรไปหาแต่ว่าเขากลับไม่รับสายปิดเครื่องและพยายามหลบหน้าหลบตาคุณ คุณก็กังวลว่าเขาอาจจะจับได้ว่าคุณชอบเขา เขาเลยหลบหน้าหลบตาคุณจะทำอย่างไร? (อธิบาย&บทพูด ไม่ต่ำกว่า 10 บรรทัดเอาตั้งแต่ที่เท็ดดี้นัดคุณไปสวนสนุกเลยน้า^^~)

                    “ลูกรัก เสาร์นี้ไปสวนสนุกกันนะ” เท็ดดี้บอกระหว่างที่ลูกรักกำลังวุ่นกับการจัดโต๊ะในห้องเรียน

                    “หื้ม? นายว่าอะไรนะ” ลูกรักถามอย่างไม่เชื่อหูหัวเอง

                     “ก็หมายความอย่างที่พูดแหละ ไปสวนสนุกด้วยกันนะ ห้ามปฏิเสธด้วย”

                    “ถ้าวันหลังจะชวนแล้วไม่มีทางเลือก ก็ไปดักฉุดฉันที่บ้านเลยแล้วกัน”

                    “อืม...เป็นความคิดที่ดีนี่ งั้นวันหลังฉันจะฉุดเธอเลยแล้วกัน” เท็ดดี้ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้

                    “ตาบ้า ประชดย่ะ” ลูกรักแลบลิ้นให้ ก่อนจะหนีความเขินหันไปจัดโต๊ะที่มุมอื่นแทน

     

                    บนกระเช้าสวย

                    “ข้างบนนี้สวยดีเนอะ” ลูกรักมองไปรอบๆด้วยความตื่นเต้น

                    “......” เท็ดดี้ไม่ได้ตอบรับ เอาแต่จ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา

                    “มีอะไรรึเปล่า วันนี้ดูนายมีเรื่องในใจ” ลูกรักถามคนนั่งร่วมกระเช้าที่จะไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับบรรยากาศเสียเลย

                    “หนูเล็กบอกว่าเธอชอบฉัน หนูเล็กพูดจริงรึเปล่า” เท็ดดี้โพล่งมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาหญิงสาวถึงกับตะลึงพูดไม่ออก

                    อ๊ะ...นึกว่าจะชอบเม้าท์แค่พี่ๆ กับครูตัวเองก็ไม่เว้นเหรอหนูเล็ก แล้วนี่ฉันจะทำไงดีเนี่ย

                    “จริงรึเปล่า ลูกรัก” เท็ดดี้เค้นถาม

                    “จะบ้าเหรอ นายไปเชื่อที่หนูเล็กพูดได้ยังไง เด็กก็เพ้อฝันไปเอง จะเอามาคิดเป็นจริงเป็นจังได้ไง” ลูกรักรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน

                    ลูกรักรีบจ้องหน้าสังเกตปฏิกิริยาตอบรับ แต่ใบหน้าเท็ดดี้กลับเรียบเฉย ยากเกินกว่าจะคาดเดาว่าเค้าคิดยังไง

                    เมื่อไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก กระเช้าแสนสวยนี้ก็กลายเป็นกรงเหล็กกักขังความอึดอัดของทั้งคู่ไว้

                    นี่ฉันทำอะไรผิดไปนะ แล้วเค้าจะเชื่อรึเปล่า ว่าฉันไม่ได้ชอบเค้าน่ะ แล้วถ้าเค้ารู้ว่าฉันชอบเค้า ฉันจะทำไงดีเนี่ย

                    “ฉันกลับบ้านก่อนนะ เธอกลับเองได้ใช่มั้ย” ทันทีที่เท้าแตะพื้น เท็ดดี้ก็รีบตีตัวออกห่าง เดินไปโดยไม่รอคำตอบของเธอเสียด้วยซ้ำ

                    เท็ดดี้สาวเท้ากลืนไปกับฝูงชนอย่างรวดเร็ว จนลูกรักไม่สามารถตามตัวเค้าได้อีก จึงปล่อยเลยตามเลยโทรเรียกคนขับรถให้มารับที่สวนสนุก

                    ระหว่างรอรถมารับ เธอก็เพียรโทรหาเค้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ได้ยินเสียงข้อความตอบรับแบบเดิมๆ ทำเอาเธอใจเสีย หรือว่าเค้าจะรู้แล้วกันแน่ว่าเธอชอบเค้า ถึงได้ตั้งแง่รังเกียจขนาดนี้

                    ครั้นผ่านพ้นข้ามวัน จากเดิมที่เค้าพยายามหาเรื่องมาส่งหนูเล็กก็กลายเป็นคนขับรถหน้าเข้มมาส่งนักเรียนตัวน้อย พอโทรไปหาอีกรอบ ไม่รับสายไม่ว่า แต่ยังมีการตัดสายเธอทิ้งอีก เป็นบ้าอะไรกันแน่นะ

                    “หนูเล็กจ้ะ ช่วงนี้ไม่มีอะไรมาเม้าท์ให้ครูฟังหน่อยเหรอ” ลูกรักถามเด็กน้อยระหว่างรอคนขับรถมารับ

                    ก็ตั้งแต่ไปเที่ยวสวนสนุกกับนายเท็ดดี้ นอกจากติดต่อพี่ไม่ได้ นักเรียนตัวน้อยของเธอก็ดูจะหลบเลี่ยงไม่วิ่งเข้ามาพูดคุยกับเธอเหมือนอย่างเดิม บางครั้งก็แอบมานั่งหน้าเศร้าคนเดียวเหมือนอย่างตอนนี้

                    “ฮึกๆๆ แงงงงง” จู่ๆหนูเล็กคนเก่งก็ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

                    “หนูเล็กเป็นอะไรจ้ะ ครูขอโทษนะ” ลูกรักรีบโอบปลอบหวังจะให้เด็กน้อยสงบลง

                    “ไหนค่อยๆบอกครูซิจ้ะ ว่าหนูไม่สบายใจอะไร” เมื่อหนูเล็กเงียบลง เธอจึงค่อยๆซักถาม

                    “กะ..ก็วันที่พี่เท็ดดี้ไปเที่ยวกะคุณครู” หนูเล็กว่าพลางสะอึกสะอื้นเล็กๆ

                    “พี่ก็..อารมณ์เสีย ไม่ยอมพูดกับหนูเล็ก แถมยังบอกว่าเพราะหนูเล็กชอบพูดไร้สาระ ถ้า...หนูเล็กยัง แงๆๆๆ” จู่ๆหนูเล็กก็ร้องไห้อีกครั้ง

                    “ยังชอบเม้าท์อีก พี่เท็ดดี้จะไม่รักหนูเล็กแล้ว แงๆๆๆ”

                    เด็กก็ย่อมเป็นเด็ก เมื่อคนที่ตัวเองรักอย่างพี่ชายแท้ๆ คาดโทษเช่นนี้เป็นใคร ใครก็ต้องเสียใจ

                    อะไรกัน แค่หนูเล็กบอกว่าฉันชอบนาย นายถึงกับโกรธเด็กตัวเล็กแค่นี้ได้ลงคอเชียวหรือ

     

                    คนอย่างลูกรักบทจะดื้อก็เล่นเอาคนรอบข้างหัวปั่น วันนี้เธอจะขอเคลียร์กับนายเท็ดดี้หมีใหญ่ให้รู้เรื่อง เป็นไงเป็นกัน ต่อให้ต้องบอกว่าชอบเค้าต่อนายคนทั้งมหาวิทยาลัยเธอก็ไม่สน

                    สมัยช่วงปีหนึ่ง ซันนี่เคยพาเธอไปยังโต๊ะประจำเค้าที่ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ จึงไม่ยากนักที่เธอจะตรงดิ่งไปหากลุ่มเค้าโดยไม่ต้องโทรบอกให้เจ้าตัวรู้

                    เมื่อเห็นเข้าไปใกล้ เธอก็เห็นนายเท็ดดี้จอมกวนนั่งหน้านิ่งท่ามกลางกลุ่มเพื่อนที่หยอกล้อกันสนุกเฮฮา

                    “ทะ..เท็ด...” ไม่ทันที่เธอจะเอ่ยชื่อเค้าจนจบ เท็ดดี้ก็ใฝ่เกียร์หมา เผ่นแนบตั้งแต่เธอเริ่มอ้าปาก

                    ลูกรักเองก็ตกใจไม่น้อยกับการหนีซึ่งหน้าของเค้า ทำให้เธอถึงกับรู้สีกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูกวิ่งไล่ตามเค้าไป ท่ามกลางความงุนงงของเพื่อนในกลุ่ม

                    “หยุดเดี๋ยวนี้นะเท็ดดี้” ลูกรักตะโกนไล่หลัง พร้อมกับวิ่งตามเค้าสุดฝีเท้า

                    ชีวิตนี้เธอไม่เคยต้องทำอะไรไร้ยางอายอย่างนี้มาก่อน ต้องมาวิ่งไล่ผู้ชายอย่างนี้เนี่ยนะ เธอต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ

                    “ถ้านายไม่หยุด ชาติทั้งชาติก็ไม่ต้องคุยกันอีกเลย” ลูกรักหยุดหอบ จ้องมองแผ่นหลังที่ตอนนี้หยุดชะงักเหมือนกำลังชั่งใจ

                    แต่แล้วจากที่เคยใจชื้นว่าเค้าจะกลับมาปรับความเข้าใจกลับเธอ กลายเป็นว่าใจเธอหล่นหายไปที่ตาตุ่มอีกครั้งเมื่อเค้าค่อยๆเริ่มเดินอย่างช้าๆ ก่อนจะเร่งฝีเท้าจากไป ทำเอาเธอยืนตะลึง ท่ามกลางสายตานับสิบของผู้คนโดยรอบที่ร่วมลุ้นไปกับเธอว่าชายหนุ่มจะหยุดหรือไม่

                    “ไม่เป็นไรนะ ลูกรัก” ซันนี่ที่เพิ่งวิ่งตามมาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด บีบไหล่ปลอบใจเพื่อนรัก

                    “ฮือๆๆ ฉันไม่เข้าใจ ทำไมเหรอซันนี่ แค่เค้ารู้ว่าฉันชอบเค้า เค้าต้องรังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” ฉันร้องไห้ซบอ้อมกอดเพื่อนอย่างไม่อายใคร

                    “ไม่หรอกลูกรัก ใครจะรังเกียจผู้หญิงน่ารักอย่างเธอได้” ซันนี่กอดเพื่อนไว้ให้คลายเศร้า

                    เธอไม่เคยยอมใครขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยคิดจะทำเรื่องเสื่อมเสียเพราะผู้ชาย แต่เพราะคำว่ารักคำเดียว เธอถึงกลับหน้าด้าน เดินมาง้อเค้าก่อนแบบนี้

                    นี่สินะ ผลตอบแทนความไร้ยางอายของเธอ ที่วิ่งเร่มาหาผู้ชายก่อน

                    “ช่างเถอะซันนี่ ในเมื่อเค้าไม่ได้รักเราก็ช่าง เอาเวลาไปทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ดีกว่าเนอะ” ลูกรักตัดสินใจหักดิบ ปราดน้ำตาที่มีให้มันหายไปทั้งจากหน้าและใจของเธอ

                    “ลูกรัก เราว่าเธอน่าจะให้โอกาสเท็ดดี้ทำใจก่อนนะ” ซันนี่ปรามไว้

                    ถึงภายนอกลูกรักจะดูเป็นคนอ่อนแอ อ่อนต่อโลก แต่ในความจริงแล้วเธอมีความเด็ดเดี่ยว มั่นคง และถ้าเธอยื่นคำขาดว่าจะไม่ให้โอกาสเท็ดดี้แล้ว เค้าเกรงว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ

                    “เราให้โอกาสเค้าไปแล้วซันนี่ ไม่ต้องไปส่งหรอกนะ เราให้รถที่บ้านจอดรอหน้ามหาลัยน่ะ” ลูกรักพยายามส่งยิ้มฝืนๆให้เพื่อนรัก

                    ในเมื่อง้อขนาดนี้แล้วยังไม่สนใจ เธอเองก็จะไม่สนใจเค้าเหมือนกัน

     

    6.ฉากจบของคู่คุณอยากให้เป็นแบบไหน? (อธิบาย&บทพูด ไม่ต่ำกว่า 10 บรรทัด)

                    “กว่าจะมานะ ลูกรัก” ซันนี่เรียกเพื่อนรักที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้าน

                    ตอนนี้ลูกรักเปลี่ยนโฉมใหม่จากเดิมทำเอาเท็ดดี้เกือบลืมภาพคุณครูผู้อ่อนหวานไปเสียสิ้น วันนี้เธอมาในชุดแซกสีขาวเนื้อบาง ผมที่เคยดำสลวยกลับถูกยอมเป็นสีน้ำตาลอ่อนแถมดัดเป็นลอนสวยตามแฟชั่นสมัยนี้ หน้าตาใสๆที่ไม่เคยแต่งแต้มสีสัน กลับมีสีของเครื่องสำอางทาทับบางๆให้ดูใสๆ

                    “อ่ะเพื่อนๆ เราขอแนะนำอย่างเป็นทางการนะ นี่ลูกรัก เพื่อนสนิทสนิทตั้งแต่สมัยมัธยม” ซันนี่ดันลูกรักเข้ามากลางวงของเพื่อนๆที่มองเพื่อนเค้าตาค้างกันเป็นแถบ โดยเฉพาะไอ้หมีใหญ่เท็ดดี้

                    “รู้สึกจะแนะนำไม่ครบนะค่ะ ต้องต่อท้ายว่า อดีตคนรักเก่าด้วยถึงจะถูก” พลูโตแกล้งแหย่พี่ชาย

                    “เฮ้ย ยัยพลูโต อยากเห็นพี่ตายก่อนแก่รึไง เลิฟลี่จ๋า ตอนนี้พี่ซันนี่มีแต่น้องเลิฟลี่คนเดียวนะจ้ะ” ซันนี่รีบอธิบายให้แฟนสาวฟังก่อนจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต

                    ลูกรักส่งยิ้มให้ทุกคนสร้างบรรยากาศกันเอง ก่อนจะถูกพรรคพวกของซันนี่ให้นั่งข้างเท็ดดี้ที่ยังไม่มีใครข้างกายอยู่คนเดียว

                    “ดูเธอเปลี่ยนไปเยอะนะ” เท็ดดี้พยายามหยิบยกหัวข้อสนทนา

                    เพราะงานนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อให้เค้าได้มีโอกาสง้อหญิงสาวเท่านั้นเอง หลังจากที่รู้แล้วว่าเธอก็มีใจให้กับเค้าตามที่ซันนี่บอก เค้าก็พยายามไปง้องอนเธออยู่หลายครั้ง ทั้งที่โรงเรียน ที่มหาวิทยาลัย แต่ดูเธอไม่สนใจเลยซักครั้ง จะไปไหนแต่ละที่ก็มีบอดี้การ์ดร่างยักษ์สองคนตามติดเพื่อมากันเค้าให้ห่างเธอนั้นเอง

                    ลูกรักไม่ตอบ นั่งกินเค้กสลับกับน้ำหวานอย่างสบายใจ แม้ว่าตอนนี้ใจเธอจะไม่เคยเปลี่ยนไปจากผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็คำพูดเป็นคำพูดมากพอที่จะห้ามใจหัวเองไม่กลับไปคุยกับเค้าไว้อีก

                    “ลูกรัก เธอจะไม่พูดกับฉันทั้งชาติจริงๆเหรอ” เท็ดดี้ไม่ว่าเปล่า แต่คว้ามือบางไปกุมไว้

                    “.......” ลูกรักยังดื้อแพ่ง ดึงมือกลับแล้วลุกไปนั่งที่อื่น

                    “ฉันขอโทษ ขอร้องหล่ะ เธอช่วยฟังฉันหน่อยได้มั้ย” เท็ดดี้ร้องเรียกเสียงดัง ทำเอาคนทั้งร้านหันมามองเธอและเค้าเป็นตาเดียว

                    ลูกรักหันไปมองเท็ดดี้ด้วยความจำยอม สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา ราวกับจะบอกว่าจะพูดอะไรก็พูด แต่ยังไงเธอก็ไม่สนใจ

                    “ฉันรู้ตัวว่าฉันผิดที่วันนั้น ฉันไม่ยอมฟังเธอพูด แต่...ฉันสับสน ขอร้องหล่ะให้โอกาสฉันอีกครั้งนะ” นัยน์ตาสั่นเครือไปด้วยความเสียใจตามคำพูด ทำเอาใจที่เคยเข้มแข็งกลับอ่อนยวบลงทันที

                    “ฉันรักเธอนะลูกรัก ให้อภัยฉันเถอะนะ” เท็ดดี้โอบกอดหญิงสาวหวังว่าภาษากายจะสื่อความรู้สึกที่มีมากล้นในใจเค้าได้หมด

                    ทำยังไงดี...ถ้าเธอยอมใจอ่อนกับเค้าตอนนี้ นั่นก็หมายถึงว่าเธอเป็นคนไม่มีสัจจะ ไม่รักษาคำพูด ยังไม่รวมกับการที่เธอยอมกลับไปหาเค้าที่จะแสดงให้เห็นความเค้ามีอิทธิพลกับใจเธอมากแค่ไหน เธอจะทำยังไงดี

                    “ซันนี่ ฉันขอตัวนะ” ลูกรักกล่าวเสียงเรียบผละตัวเองออกจากอ้อมกอดอบอุ่นอย่างสับสน

                    “ลูกรัก เท็ดดี้มันรักเธอจริงๆ แล้วฉันก็รู้ใจเธอมากพอๆกับที่เธอรู้ใจตัวเอง ปล่อยทิฐิเถอะนะ” ซันนี่ลุกขึ้นมาช่วยรั้งเธอเอาไว้ ยังไม่รวมกับสายตานับสิบคู่ที่กำลังลุ้นให้กำลังใจ

                    “ถ้านายรู้ใจฉันขนาดนั้น ก็คงรู้ดีพอว่าศักดิ์ศรีมันสำคัญกับฉันมากแค่ไหน” ลูกรักจ้องตาซันนี่อย่างเด็ดเดี่ยว ก่อนจะออกไปจากร้านโดยไม่หันกลับมามองคนใจสลายเลยซักนิด

                    เพียงแค่เค้าพลาด สับสนเพียงเสี้ยววิ มันทำให้เค้าสูญเสียโอกาสในชีวิตได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ

                    “อ๊ะ” ลูกรักร้องตกใจ เมื่อจู่ๆร่างเธอก็ลอยสูงจากพื้น

                    “เท็ดดี้” ลูกรักเรียกชื่อเค้าอย่างลืมตัว

                    เท็ดดี้ไม่คิดจะตอบคำถามทางสายตาว่าจะอุ้มเธอไปไหน เพราะกว่าลูกรักจะตั้งสติได้ ร่างเธอก็ถูกยัดใส่ที่นั่งข้างคนขับเรียบร้อยแล้ว

                    “นายจะพาฉันไปไหน”

                    “พูดกับฉันได้แล้วเหรอ” เท็ดดี้ทิ้งคราบความเศร้า กลายเป็นนายกวนโอ้ย

                    “จอดเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะลง”

                    “เสียใจด้วยคนสวย แล้วอย่าคิดโดดลงไปหล่ะ เพราะล๊อคควบคุมโดยคนขับ ยังไงเธอก็ลงไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” เท็ดดี้ขู่ ก่อนจะเหยียบคนเร่ง ทำเอาคนนั่งข้างๆลืมเรื่องให้จอดขอให้ใจให้เค้าลดความเร็วให้ได้ก็เป็นพอ

                   

                    สะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง

                    เท็ดดี้พาเธอมายังสะพานข้ามแม่น้ำสายใหญ่สายหนึ่งในกรุงเทพ ตอนนี้ลูกรักไม่ได้คิดหนีเพราะเธอรู้ดีว่าหนีไปก็ไม่พ้นอยู่ดี สู้อยู่ประจันหน้ากันไปเลยดีกว่า ว่าจะเอายังไงกับเธอกันแน่

                    “ฉันไม่รู้จะทำยังไงให้เธอยกโทษให้ฉัน ฉันก็พอจะรู้ตัวดีว่า มีค่าไม่มากเท่าศักดิ์ศรีของเธอ รู้มั้ยลูกรัก ฉันไม่เคยวิ่งเต้น บ้าไปตามผู้หญิงคนไหนมาก่อน” เท็ดดี้บอกพลางปีนไปอยู่ที่ขอบสะพาน ทำเอาเธอเริ่มใจเสีย

                    “แต่ถ้าจะรอให้ถึงชาติหน้ากว่าเราจะเข้าใจกัน เวลามันคงฆ่าให้ตายทั้งเป็น ในเมื่อชาตินี้เธอก็ไม่คิดจะยกโทษให้ฉันอยู่แล้ว งั้นถ้าฉันเกิดชาติหน้า เธออย่าลืมรักฉันนะ” เท็ดดี้โดดลงไปกลางแม่น้ำอย่างไม่ลังเล

                    “ม่ายยย” ลูกรักร้องเสียงหลง เมื่อร่างเค้าหายจมลงไปในแม่น่ำสายใหญ่นี่

                    เค้าทำบ้าอะไรกันแน่ กะอีกแค่เธอไม่รับรัก ไม่คุยกับเค้า ทำไมต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงตายแบบนี้ด้วย ถ้านายตายฉันจะไม่ให้อภัยนายเลย

                    ตอนนี้สมองลูกรักขอเพียงได้เห็นหน้าชายหนุ่มที่กวนโอ้ยเธอทั้งตัวและหัวใจอีกครั้ง เธอก้าวปีนแล้วโดดลงไปในแม่น้ำอย่างไม่คิดชีวิต

                    ขอเพียงแค่นายปลอดภัย ไอ้ศักดิ์ศรีบ้าๆของฉันมันก็ไม่สำคัญแล้ว ลูกรักคิดกับตัวเองในใจ ก่อนสติจะค่อยๆหายไป

                    “ลูกรัก ลูกรัก ฟื้นซิ ขอร้องหล่ะ” เท็ดดี้พยามปั๊มหัวใจ ผายปากให้หญิงสาวที่โดดน้ำตามลงมาอย่างเหนือความคาดหมาย

                    สำหรับเค้า เค้าพร้อมที่จะตายหากเค้าไม่อาจรอดไปจากแม่น้ำสายนี้ได้ แต่ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง เค้าจะกลับไปแย่งชิงหัวใจเธอไม่ว่าเธอจะเย็นชากับเค้าแค่ไหนก็ตาม แต่นี่เธอกลับโดดน้ำตามเค้ามา ร่างบางที่ค่อยๆจมดิ่งลงไปทำเอาเค้าใจหายยิ่งกว่าเก่า เรียกสติตัวเอง ให้ทำอย่างไรก็ได้ให้เธอปลอดภัย

                    “แค่กๆๆ” ลูกรักสำลักน้ำออกมา ระบบทางเดินหายใจเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง

                    “ขอบคุณชีวิต ลูกรักเป็นไงบ้าง” เท็ดดี้ยิ้มทั้งน้ำตา แค่คิดว่าจะเสียเธอไป น้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมาอย่างอดไม่ไหว

                    “ขะ..ขอโทษนะเท็ดดี้” ลูกรักยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างอ่อนแรง

                    “ฉันต่างหาที่ต้องขอโทษเธอ เธอจะบ้าโดดตามฉันมาทำไม”

                    “ฉันคงบ้าไปแล้วมั้ง รักคนบ้าหมดใจแล้วนี่” ลูกรักแหย่ เมื่อเห็นเค้าว่าทั้งน้ำตา

                    “รัก? ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย” เท็ดดี้ยิ้มด้วยความดีใจที่นอกจากเธอรอดชีวิต เธอยังรับรักเค้าอีก

                    “ฉันรักนาย เท็ดดี้ ความเป็นความตายมันสอนให้ฉันรู้ ว่าศักดิ์ศรีไม่มีค่าเลย ถ้าต้องสูญเสียเธอไป”

                    “ฉันก็จะบ้าตายเหมือนกัน ถ้าเธอจากฉันไปจริงๆ ต่อไปนี้เธอก็อย่าทำบ้าอะไรแบบนี้นะ”

                    “ถ้านายไม่ทำก่อน ฉันก็คงทำหรอกตาบ้า”

                    “บ้าก็บ้ารักเธอหล่ะน้า รีบไปโรงบาลที่ก่อน เพื่อมีอะไรบุสลาย” เท็ดดี้ค่อยๆอุ้มร่างบางเหมือนไม่เหน็ดเหนื่อย ทั้งๆที่ตอนลากเธอขึ้นฝั่งเค้ารู้สึกเหมือนจะหมดแรงตาย แต่เพียงแค่คิดว่าเธอจะจากไป เค้าก็มีแรงฮึดจนมาถึงฝั่งจนได้

                    “ฉันเดินเองได้น่า” ลูกรักว่าเมื่อเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของเค้า ไม่บอกก็รู้ว่าเค้าต้องใช้แรงมากขนาดไหนที่พาทั้งเธอและเค้าขึ้นฝั่งได้ทั้งๆที่น้ำเชี่ยวกราด

                    “รู้ว่าได้ แต่อยากดูแลนี่ ต่อไปนี้ฉันจะดูแลเธอทั้งชีวิตเลย” เท็ดดี้ยิ้มอย่างมีความสุข

                    ลูกรักเองก็ไม่ได้พูดอะไร พิงสบอกเค้าอย่างมั่นใจ ว่าชายตรงหน้าคงจะรักและดูแลเธอได้อย่างที่พูดจริงๆ

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    คำถามนางเอกเทมยาวมากเลย= =ขอโทษด้วยนะคะT^T~ยังไงก็โชคดีนะค้า> <!~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×