One Piece The New Sorcerer Supreme รีไรท์ (Marvel & One Piece Crossover)

ตอนที่ 23 : ตอนที่ 16 : ธอร์ แร็คนาร็อค ตอนที่ 1

     ตอนนี้การเดินทางกำลังจะเริ่มขึ้น โดยเรือของพวกเขาก็แล่นข้ามแม่น้ำซันโดรามาและที่พวกเขาอยู่ก็คือเอลูมาลูเมืองสีเขียว ซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยทะเลทรายและเศษซากต่างๆที่จมอยู่ในกองทราย ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาคือยูบาและต้องเดินจากจุดของพวกเขาขึ้นไปทางเหนืออีกครึ่งวัน ขณะที่กำลังจะเริ่มเดินทางมีเสียงคลื่นติดต่อมาจากข้อมือของมอร์แกน เมื่อเธอเปิดดูก็ปรากฏเป็นโฮโลแกรมหน้าของมาเรียนั้นเองสีหน้าของเธอดูจริงจังแบบสุดๆ

     ทุกคน : มาเรีย!!!/คุณมาเรีย!!!

     วีวี่ : ใครเหรอ?

     มาเรีย : อา...ดีใจที่ได้เจอพวกนายอีกนะลูฟี่และขอโทษที่ไม่ได้ไปด้วยน่ะ...

     ลูฟี่ : อืม...ไม่เป็นไรหรอกน่า....

     มอร์แกน : ว่าแต่พี่มาเรียติดต่อมาได้ไงค่ะ แล้วเกิดอะไรขึ้น!?

     มาเรีย : เกิดเรื่องใหญ่น่ะ อเวนเจอร์เรียกรวมพลทุกหน่วยไม่ว่าจะรุ่นสองหรือรุ่นแรก เราพบสัญญาเกี่ยวกับ infinity stone ที่ตกมาบนโลก

     รินดา : infinity stone?

     มาเรีย : แค่นั้นยังไม่พอ ยังพบสิ่งมีชีวิตที่กำลังมุ่งมาจากอวกาศ...เฮ้อ....มาเป็นกองทัพเลยล่ะ ฉันกับสตีฟเชื่อแน่นอนว่ามันต้องมาตามหา infinity stone และเรายังไม่รู้เลยว่ามันคืออัญมณีอะไร ฉันต้องขอรบกวนพวกเธอให้หยุดการผจญภัยและกลับมารวมพลกันด่วนที่สุดเลย มาเรียเลิกกัน.....

     มอร์แกน : ดูเหมือนว่าเราต้องรีบแล้วล่ะ....

     นามิ : ที่นี่ก็แย่ มิติของพวกเธอก็แย่อีก...

     รินดา : เอาล่ะเราจะเสียเวลาไม่ได้แล้ว....วีวี่ เราจะรีบไปและรีบกลับมาช่วยให้เร็วที่สุดนะ เอางี้.... มอร์แกน เอ็ดดี้ วินแคนไปกับฉัน ธอร์เธออยู่ช่วยพวกเขาไปไว้เราจัดการเรื่องที่นั่นเสร็จเมื่อไรจะรีบกลับมาเข้าในมั้ย?

     ธอร์ : เดี๋ยวสิทำไมให้ข้าอยู่คนเดียวล่ะ?

     รินดา : น่า...อย่าเพิ่งหนีกลับแอสการ์ตก็แล้วกัน...

     จากนั้นรินดาได้เริ่มร่ายเวทย์ของ Time Stone เปิดประตูวาร์ป จากนั้นเอ็ดดี้ วินแคนและมอร์แกนก็วิ่งเข้าไปก่อนและก่อนที่รินดาจะไปเธอได้หยิบบางอย่างและโยนให้ธอร์

     ธอร์ : Power Stone? แล้วไหนพี่บอกว่า-

     รินดา : พี่รู้ว่าเธอยังไม่พร้อม...แต่จงพิสูจน์ให้พี่เห็นและปลุกพลังของ Odin Force ให้ได้แล้วพี่จะกลับมาดูสิ่งที่เธอกำลังพยายาม....จงใช้สมองบังคับมันอย่าใช้กำลังบังคับพลังของมัน....โชดดีเทพเจ้าสายฟ้า...

     หลังจากนั้นรินดาก็วิ่งเข้าไปในประตูวาร์ปทันที ก่อนที่ประตูวาร์ปจะปิดตัวลง สร้างความเงียบให้กับทั้งกลุ่มอย่างมาก โดยเฉพาะธอร์ที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้พี่สาวเห็น

     ซันจิ : อ๊าาา....นางฟ้าไปหมดแล้วเหลือนางฟ้าแค่สามคนเอง!!!

     อุซป : นี่นายจะโวยวายทำไมเนี่ย?

     นามิ : ยังไม่ได้บอกลากันเลย....การเดินทางของเราลำบากขึ้นแน่...

     โซโล : ยังไงก็ช่างเถอะเราจำเป็นต้องเดินทางต่อนะ ว่าแต่ธอร์เธอไม่ร้อนหรือไง?

     ธอร์ : อ๋อ....ไม่เลยสบายมาก

     ลูฟี่ : ยังไงซะพวกรินดาก็ต้องกลับมา ว่าแต่เราอยู่ตรงไหนแล้วเนี่ย?

     วีวี่ : ดูแผนที่สิ เราแล่นข้ามแม่น้ำซันโดรามาและที่พวกเราอยู่ก็คือเอลูมาลูเมืองสีเขียว

     ธอร์ : ข้าไม่เห็นสีเขียวเลย....

     หลังจากนั้นทุกคนก็เดินทางกันต่อ โดยที่ผ่านซากปรักหักพังของเมืองแห่งนี้และวีวี่ก็เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้ว่ามันเคยอุดมสมบูรณ์มาก่อน แต่ช่วง 3 ปีที่ผ่านกลับไม่มีฝนตกมาเลย ซึ่งมันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมากและยังมีเรื่องของสงครามต่างๆนาๆ ซึ่งตอนนี้ทั้งหมดได้เดินออกมาจากซากเมืองและพบกับที่แขวนคอ วีวี่ก็เดินไปหยิบหัวกระโหลกนั่นขึ้นมาและเล่าว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของครอคโคไดล์ซึ่งเธอก็เล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำตา

     วีวี่ : ฉันจะ....ไม่มีวันยกโทษให้คนแบบนี้เด็ดขาด!!!!

     หลังจากที่พูดเสร็จธอร์ก็เดินกลับไปทางซากเมืองที่ผ่านมาก เธอรู้ดีว่าการเกิดภัยร้ายต่างๆมันสร้างความเสียหายให้กับอาณาจักรแค่ไหน จากนั้นเธอก็ใช้ค้อนทุบลงพื้นทรายทันทีจากนั้นพื้นทรายก็ระเบิดออกทั้งหมดทำให้พวกซากปรักหักพักสลายไปทันทีก่อนที่เธอจะเดินกลับมาด้วยสีหน้าที่เข้มขืม

     นามิ : สุดยอดไปเลย....

     ธอร์ : รีบเดินทางกันต่อเถอะ มันจะได้รู้ถึงพลังของเทพเจ้าสายฟ้า....

     หลังจากที่ธอร์ถล่มซากเมืองไปเรียบร้อย ทั้งกลุ่มก็ออกเดินทางต่อ ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ท่ามกลางทะเลทรายซึ่งก็มีแต่ทรายๆๆ โดยเฉพาะลูฟี่ที่เอาแต่บ่นเยอะสุดแล้ว

     ลูฟี่ : โอย...ร้อนจะตายอยู่แล้ว!

     นามิ : อย่าเอาแต่ร้องโอยๆ มากนักได้มั้ยลูฟี่ มันจะเสียพลังงานโดยใช้เหตุนะ!

     ช็อปเปอร์ : ฉันไม่ไหวแล้ว....เพราะแพ้อากาศร้อน ถ้าหนาวไม่เกี่ยงอยู่แล้ว

     ซันจิ : ดูท่าทางจะมีแค่บีบีจังและคุณธอร์ที่ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเลยนะ

     วีวี่ : ฉันเติบโตที่นี่เลยรู้สึกชินแล้ว

     ธอร์ : ดูท่าลูฟี่จะร้อนมากเลยนะ เดี๋ยวข้าจะช่วยเบื้องต้นก็แล้วกัน

     นามิ : เธอจะทำอะไรธอร์?

     นามิเริ่มสงสัยว่าธอร์จะทำอะไร เพราะเธอเพิ่งจะรู้จักกับธอร์ได้ไม่นานมากก็แค่ 5 วันเลยไม่ไว้ใจเท่ารินดา จากนั้นทางด้านของธอร์ก็ยกค้อนขึ้นฟ้าและขณะนั้นท้องฟ้าก็มืดครึมทันทีก่อนจะมีฟ้าผ่าลงมาพร้อมลมพัดที่แรงมาก

     อุซป : ฉันว่าวิธีนี่มันไม่ดีเท่าไรเลยนะ!!!

     ธอร์ : รอแปปหนึ่ง!!!

     จากนั้นธอร์ก็เริ่มหยุด ท้องฟ้าก็เริ่มค่อยๆกลับมาสว่างเหมือนเดิม แต่ก็ช่วยให้อากาศเย็นขึ้นมาได้นิดหนึ่งทำให้ทุกคนเริ่มเดินกันได้สะดวกมากขึ้น

     ลูฟี่ : ว้าว! เย็นขึ้นเยอะเลยแฮะ!

     วีวี่ : อย่างนี้จะได้มีกำลังใจมากขึ้น

     ลูฟี่ : เฮ้! ซันจิขอกินข้าวกล่องโจรสลัดหน่อยสิ

     ซันจิ : เสียใจรอจนกว่าวีวี่จังจะอนุญาตก่อน

     ลูฟี่ : วีวี่ขอกินข้าวหน่อยนะฉันไม่มีแรงเลย...

     วีวี่ : แต่พวกเราเพิ่งเดินทางมาได้ 1 ใน 4 ของระยะทางที่จะไปยูบาเองนะคุณลูฟี่

     ลูฟี่ : เธอบ้ารึเปล่า? ไม่เคยได้ยินสุภาษิตเหรอ? ว่าเมื่อท้องเราหิวต้องกินน่ะ...

     ธอร์ : ทำไมเจ้าถึงหิวง่ายแบบนี้นะ?

     อุซป : อย่าไปสนใจเลยหมอนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ

     วีวี่ : ฉันเข้าใจเอาเป็นว่าไว้เจอแง่งหินข้างหน้าค่อยพักเป็นไง?

     หลังจากที่บีบีพูดไปได้สักพักทั้งกลุ่มก็เจอแง่งหินที่จะพอให้หลบแดดได้ ลูฟี่ที่เป็นคนลากของก็วิ่งไปด้วยความเร็วเป็นคนแรก ทำเอาทุกคนอึ่งไปเลยว่าเขาอยากอาหารขนาดไหน แต่สักพักก็เกิดเรื่องเพราะลูฟี่โดนนกจอมขโมยเอาสัมภาระไปหมดเลย เมื่อลูฟี่เห็นนกพวกนั้นกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานเขาจึงวิ่งไปหาด้วยความโมโหทันที

     นามิ : อย่าไล่ตามไปนะลูฟี่ ตามไปแล้วนายจะกลับมาถูกเหรอ!?

     อุซป : จริงด้วย! ขืนเป็นแบบนั้นยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่แน่ กลับมานี่!!!

     แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขาจะเตือนช้าไปเพราะลูฟี่วิ่งไปไกลแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานลูฟี่ก็วิ่งกลับมาเหมือนจะหนีอะไรบางอย่างมาแถมมีอูฐวิ่งมาข้างๆด้วย แต่ข้างหลังของลูฟี่และอูฐนั่นคือกิ้งก่าขนาดยักษ์ที่ไล่ตามอยู่

     วีวี่ : ตุ๊กแกยักษ์ซันโดรา!!!

     ซันจิ : ที่วิ่งตามมาข้างๆนั่นมันอูฐไม่ใช่รึไปเอามาเก็บไว้ก็ดีนะ!

     โซโล : เฮ้อ! ให้ตายสิหมอนั้นเกิดฤกษ์ดาวตกร้อยชั้นรึเปล่านะ ถึงพาแต่ปัญหามาให้ไม่หยุด!!

     ธอร์ : ต้องช่วยสินะ....

     ลูฟี่ : ฮึ่ม! แกกล้าไล่ตามฉันรึ!? ลูกเตะ!!

     โซโล : ดาบ....

     ซันจิ : ลูกเตะ!!

     ธอร์ : สายฟ้า....

     ธอร์/ลูฟี่/ซันจิ/โซโล : อัศนีบาต/ยางยืด/ตัดหัวไหล่/ปราบมังกร!!!!

     ทั้งสี่คนโจมตีเข้าใส่ซันโดราพร้อมกัน จากนั้นก็เกิดแรงระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นจากนั้นเจ้าตุ๊กแกนั่นก็กลายเป็นศพพร้อมกับโดนย่างไปเต็มๆ ทางด้านของพวกนามิก็สตั้นกันไปตามๆกัน

     อุซป : อะไรจะขนาดนั้น!!

     นามิ : สี่คนนั้นรวมกันเท่ากับอสุรกายเลย....

     ลูฟี่ : ซันจิเจ้านี่กินได้มั้ย?

     ซันจิ : น่าจะกินได้นะ

     ธอร์ : ปกติเคยเห็นแต่มังกร...ไม่คิดเลยว่าจะเห็นตุ๊กแกตัวขนาดนี้

     โซโล : โชดดีจริงๆ

     จากนั้นก็ไม่นานซันจิก็จัดการเอาเนื้อของเจ้าตุ๊กแกยักษ์นี่มาทำอาหารให้กับทุกคน แต่สิ่งที่ทุกคนกำลังคิออยู่คืออูฐปริศนาที่วิ่งมากับลูฟี่ด้วยน่ะสิ

     โซโล : แล้วอูฐนี่เอาไง!?

     ลูฟี่ : เมื้อกี้ไล่ตามนกพวกนั้นไปปุ๊ปก็บินหนีเลย หลังจากนั้นฉันก็เห็นเจ้าอูฐนี่โดนตุ๊กแกไล่ตามมาฉันเลยวิ่งเป็นเพื่อนกับมันด้วยน่ะ

     ธอร์ : ดูท่าจะไม่ใช่อูฐเรร่อนนะ เพราะมีอานติดอยู่ด้วย ข้าว่าเจ้าของคงจะอยู่ในท้องของเจ้าตุ๊กแกยักษ์แล้วล่ะมั้ง?

     อุซป : งั้นถ้าขี่เจ้านี่ได้ก็สบายเลยนะ

     นามิ : จริงด้วยท่าทางจะขี่ได้สองคนนะ

     แต่ขณะที่ลูฟี่กำลังวิ่งมาจะกระโดดขี่ เจ้าอูฐก็งับหัวของลูฟี่ทันทีทำให้งงเลยว่าเกิดอะไรขึ้นจนช็อปเปอร์ต้องเดินมาบอกอะไรบางอย่าง

     ช็อปเปอร์ : มันบอกว่าขอบคุณที่ช่วยชีวิตมันไว้จากตุ๊กแกยักษ์ จะยอมให้ขี่ก็ได้...แต่มันไม่ยอมให้ผู้ชายขี่....

     จากนั้นทั้งโซโล ซันจิและลูฟี่ก็ระดมเตะอูฐตัวนั่นด้วยความโมโหทันที แน่นอนเพราะพวกเขาเป็นผู้ชายซึ่งหมดสิทธ์ขึ้นขี่มัน จากนั้นนามิก็รีบมาห้ามไว้

     นามิ : ขอโทษนะที่เพื่อนๆฉันรุนแรงกับแก...เด็กดี จะให้ชื่อว่าอะไรล่ะ?

     ลูฟี่ : ไอ้โง่!!

     ซันจิ : ไอ้บื้อ!!

     อุซป : ไอ้กวนโอ๊ย!!

     นามิ : งั้นเรียกแกว่าซึมาเงะก็แล้วกัน

     โซโล : ตั้งชื่อได้แปลกสุดๆไปเลย...

     นามิ : ผู้ชายต้องเสียสละให้ผู้หญิงสิ แต่ว่าวีวี่กับธอร์....

     ธอร์ : เอาล่ะองค์หญิงวีวี่ เจ้าขึ้นไปเถอะข้าเดินได้สบายอยู่แล้ว

     วีวี่ : ไม่เป็นไรหรอก...ฉันยังเดินไหวน่ะ

     ธอร์ : เหอะน่า....แบบนี้จะถึงที่หมายเร็วขึ้นแน่

     นามิ : งั้นไปเลยซึมาเงะ!!!!

     ลูฟี่ : เฮ้ย! รอด้วยเซ่!!!

     จากนั้นการเดินทางทะเลทรายอันร้อนระอุก็ดำเนินต่อไป โดยมีนามิและวีวี่ขี่อูฐนำหน้า ส่วนพวกลูฟี่กำลังเดินด้วยสภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไรโดยเฉพาะลูฟี่ที่ต้องให้โซโลลากไปแทน ส่วนธอร์ก็ยังเดินได้เรื่อยๆ แถมระหว่างทางยังทำฟ้าผ่าใส่กบยักษ์ตายอีกด้วย จนกระทั่งถึงเวลากลางคืน ซึ่งอากาศก็ผิดกับตอนกลางวันทันทีเพราะมันหนาวมาก ในที่สุดพวกเขาก็เห็นเมืองข้างหน้าแต่เมืองนั่นเพิ่งจะถูกเล่นงานไปและพวกเขาก็มาถึงโอเอซิสยูบาอาณาจักรอลาบาสต้า

     วีวี่ : อะไรกันเนี่ย?

     ธอร์ : โดนทรายเล่นงานหมดเลย....

     โซโล : โหดร้ายจริงๆ บรรยากาศคนล่ะเรื่องกับเมืองเอลูมาลูเลยแฮะ!

     ลูฟี่ : น้ำล่ะ!?

     ซันจิ : ที่นี่โอเอซิสแน่เหรอบีบีจัง?

     วีวี่ : ชั้นทรายขึ้นมาแทนที่....โอเอซิสคงถูกกลืนลงไปหมดแล้วล่ะ....

     จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปสักพัก ก็พบกับใครบางคนกำลังใช้พลั่วขุดทรายอยู่ พวกเขาจึงรีบเดินไปหาทันทีดูแล้วน่าจะเป็นคนแก่

     ??? : พวกนักเดินทางรึเดินทางในทะเลทรายคงลำบากน่าดูใช่มั้ย! โทษทีนะที่เมืองนี้ออกจะแห้งแล้งไปหน่อย พวกเธอควรพักก่อนดีกว่านะส่วนเรื่องที่พักไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องที่พักมากอยู่แล้ว....

     วีวี่ : เอ่อ...ได้ยินว่าพวกคณะปฏิวัติอาศัยอยู่ที่เมืองนี้-

     ??? : มีอะไรกับคณะปฏิวัติ!?

     หลังจากได้ยินที่บีบีพูดคนแก่คนนั่นก็ปาข้าวของใส่เธอแล้วบอกว่าพวกคณะกลุ่มต่อต้านได้ย้ายไปกันหมดแล้วเพราะถูกทะเลทรายเล่นงานและพวกเขาก็ย้ายไปที่คาโตเรอา แต่แล้วเมื่อลูฟี่ดันไปเรียกชื่อวีวี่เขาก็สะดุ้งทันทีทำให้รู้ว่าเป็นคนรู้จักชื่อของคือโตโต้คนในเมืองยูบาและศึกครั้งสุดท้ายที่พวกคณะปฏิวัติกำลังจะทำก็จะเป็นศึกตัดสินครั้งสุดท้ายแล้วด้วย ในที่สุดทุกคนก็มาอยู่ในห้องพัก

     อุซป : เอาล่ะทุกคนวันนี้ก็เหนื่อยกันมามากแล้ว! ตอนนี้นอนพักเอาแรงกันดีกว่าเนอะเพื่อเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้ ราตรีสวัสดิ์!!!

     โซโล : ที่ผ่านมาแกยังนอนไม่พออีกเรอะ!?

     โซโลพูดด้วยความหงุดหงิดพร้อมปาหมอนใส่ ทางอุซปก็ลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยความโมโหก่อนจะปาหมอนใส่โซโลคืน

     อุซป : เจ้าบ้าเอ๊ย! มันก็แหงสิ ฉันฟุบสลบไปเพราะไม่แข็งแรงทนทานนี่หว่า อย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบกับปีศาจอย่างพวกนายสิ!!!

     โซโล : อยากมีเรื่องใช่มั้ย!?

     อุซป : อีกอย่างคนที่ฟุบสลบเยอะกว่าฉันก็แกนั่นแหละเจ้าจมูกน้ำเงิน!!!

     ช็อปเปอร์ : ก็ฉันแพ้อากาศร้อนนี่น่า!!!

     วีวี่ : คุณซันจินั่นมันที่ของฉันนะ

     ซันจิ : ใช่...คิดว่าถ้านอนคนเดียวแล้วจะเหงาเลย-

     นามิ : นายไปทำบ้าอะไรตรงนั้นซันจิ!!! ธอร์แล้วเธอจะไปไหนน่ะ?

     ธอร์ : จะออกไปทำอะไรข้างนอกสักหน่อย....ได้ยินเสียงอะไรดังก็อย่าตกใจล่ะมันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

     ธอร์ได้บอกกับสมาชิกก่อนจะเดินออกมาข้างนอก จากนั้นเธอก็กระโดดขึ้นอาคารที่สูงสุดของเมืองนี้ จากนั้นเธอก็หยิบ Power Stone ขึ้นมาจากนั้นเธอก็ถอนหายใจและบีบมันทันทีจากนั้นก็เกิดมีออร่าสีม่วงระเบิดใส่เธอ

     ธอร์ : ฮึก.....ย้าาาาา!!!!!!

     เธอกำลังฝึกสิ่งที่เธอยังไม่เคยทำสำเร็จ นั่นคือการใช้พลังของ Power Stone และการใช้พลังของ Odin Force ซึ่งเธอยังไม่เคยทำสำเร็จเพราะเธอจะหมดแรงไปซะก่อนและเธอจะฝึกใช้พลังโดยไม่ใช้ค้อน จากนั้นเธอก็พยายามควบคุมพลังของอัญมณีจากนั้นเธอก็เร่งพลังสายฟ้าในตัวขึ้นโดยใช้พลังของ Power Stone ซึ่งมันจะเกินขีดจำกัดของร่างกายเธอ

     ธอร์ : ย้ากกกกก!!!!!

     เธอได้ยิงสายฟ้าขนาดใหญ่ออกไปนอกเมือง จากนั้นก็เกิดแรงระเบิดขนาดใหญ่ขนาดที่ว่าได้ยินกันทั้งเมืองแน่นอนว่าพวกลูฟี่ต้องได้ยิน จากนั้นเธอก็กระโดดลงมาจากอาคารและมีคนวิ่งมาหาเธอนั่นคือลุงโตโต้และลูฟี่นั่นเอง

     ลูฟี่ : เฮ้ยธอร์เกิดอะไรขึ้นน่ะ

     โตโต้ : ยัยหนูเป็นอะไรหรือเปล่า-

     ตัวของธอร์นั่นเต็มไปด้วยออร่าของสายฟ้าและดวงตาของเธอก็ส่องสว่างสีน้ำเงินออกมา ซึ่งตอนนี้เธอสามารถผสานพลังสายฟ้าของเธอหรือที่เรียกว่า Odin Force เข้ากับพลังของ Power Stone ซึ่งมันจะทำให้เธอใช้พลังอย่างไร้ขีดจำกัด

     โตโต้ : ย-ยัยหนูเป็นอะไร!?

     ธอร์ : ข้าคือธอร์....เทพเจ้าแห่งสายฟ้า.....

To Be Continue...