เป็นเวลาอันเงียบในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งทานอาหารและนั่งคุยเรื่องบัดซบของตัวเองรวมถึงเรื่องดีๆด้วยนะ ทั้งสองก็รู้จักมากขึ้นแต่ทางด้านของรินดาก็ยังจะถามคำถามเธอให้ได้มากที่สุด
รินดา : นี่....วันหลังสอนทำอาหารให้ฉันบ้างน่ะ
เอ็ดดี้ : จะให้ผมสอนเลยก็ได้นะครับและนี่เพิ่งจะทุ่มกว่าเองด้วย
รินดา : ฮันแน่....กะจะให้ฉันอยู่ห้องนายนานๆสินะ คิดอะไรหรือเปล่าเนี่ย?
เอ็ดดี้ : เปล่าซะหน่อยครับ! มีแต่คุณรินดานั่นแหละที่คิดแทนผม!
รินดา : ฮ่าๆ คุยกับนายนี่ตลกชะมัด....จะเป็นไรไหมถ้าฉันอยากจะมากินมื้อเย็นที่ห้องนายทุกวันน่ะ?
เอ็ดดี้ : มะ-ไม่มีปัญหาเลยครับ! เป็นสิ่งที่น่ายินดีด้วยซ้ำที่ผมจะได้ทำความรู้จักกับคุณมากขึ้น-
ตึง!!!!
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน จู่ๆก็เหมือนมีอะไรมากระแทกผาพนังข้างนอก ตอนนี้ทั้งสองอยู่ที่ชั้น 5 แต่จะมีอะไรมาชนได้ล่ะ จนกระทั่งทั้งสองสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่ร้ายกาจมาก
รินดา : ความรู้สึกแปลกๆ....
เอ็ดดี้ : ซิมไบโอต.....
ตู้มมม!!!!
จู่ๆก็มีอะไรบางอย่างระเบิดผนังเข้ามาทำให้ทั้งสองคนกระเด็นไปคนล่ะทิศทางและนอนหมอบกับพื้น จากนั้นรินดาที่ยังมีสติก็เห็นบางอย่างกระโดดเข้ามาในห้อง เธอต้องตกใจว่าสิ่งนั่นมีลักษณะคล้ายซิมไบโอตของเอ็ดดี้ แต่ตัวผอมกว่าและดูน่ากลัวกว่าตัวของมันมีสีแดงมีเส้นสีดำตามตัวมีดวงตาสีขาว
??? : หึๆๆๆ....ไงเอ็ดดี้....ดูสิว่าเจออะไร กำลังนั่งกินข้าวกับผู้หญิงงั้นเหรอ...ไม่คิดจะชวนฉันเลยหรือไงหึๆๆๆ
เอ็ดดี้ : คาเนจ!?
คาเนจ : ฮ่าๆๆ ยังจำชื่อฉันได้ดิ....ดีเลย....เพราะวันนี้ฉันจะมาเอาคืนหลังจากที่หลอกให้ฉันไปจัดการพวกทหารที่โรงงานบ้านั่นส่วนแกก็เอาตัวรอดยังไงล่ะ!!!
จากนั้นคาเนจก็ใช้หนวดของเขา พุ่งเข้ารัดคอของเอ็ดดี้ก่อนจะลากเขาเข้ามาหาแล้วก็บีบคอของเขาเอาไว้ ทางด้านรินดาก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ เธอเสกแส้ขึ้นมาแล้วกระโดดเข้าหาคาเนจทันที
รินดา : ปล่อยเขานะ!!!
คาเนจ : ฮิๆๆๆๆ......
รินดาได้ใช้แส้เวทย์ฟาดใส่คาเนจ แต่เขาสามารถจับแส้ของเธอได้ทางรินดาก็พยายามดึงกลับ จากนั้นคาเนจก็ส่งยิ้มอันสยองให้เธอก่อนจะกระชากแส้ของเธอและโยนแส้ออกข้างนอกพร้อมกับเธอ ทำให้ตอนนี้รินดากระเด็นออกไปข้างนอกทันที
เอ็ดดี้ : คุณรินดา!!!!
คาเนจ : อุ๊บ....สงสัยฉันดึงแรงไปหน่อย....แต่ตอนนี้ก็เหลือแค่แกกับฉัน!
รินดา : แน่ใจเหรอ?
ในขณะนั้นเองรินดาก็ค่อยๆลอยขึ้นมา แน่นอนว่าแฟนเกิร์ลได้บินมาช่วยเธอไว้จากนั้นรินดาก็เสกแส้และฟาดใส่คาเนจและมันก็ไปรัดแขนของเขา คาเนจเองก็พยายามกระชากให้รินดาเข้ามาหาตัวแต่ทางรินดามีผ้าคลุมคอยลากเธอออก แต่ด้วยคาเนจมีพลังมหาศาลเขากระชากเธอเข้ามาอย่างแรงจากนั้นก็บีบคอเธอไว้เช่นกัน
คาเนจ : ดูเหมือนว่าเธออยากจะปกป้องไอ้ปีศาจนี่มากสินะ ถึงกล้าลงทุนหาเรื่องตายแบบนี้น่ะ?
รินดา : เขาไม่ใช่ปีศาจ!!!!
เอ็ดดี้ : คาเนจ!!!!
ทันใดนั่นเอ็ดดี้ก็บีบคอของคาเนจ จากนั้นก็พุ่งตัวออกไปข้างนอกทำให้ตอนนี้ทั้งสามก็พุ่งออกมาจากคอนโดและอยู่กลางอากาศและแน่นอนว่าเอ็ดดี้ได้แปลกร่างเป็นซิมไบโอตและเข้าปะทะกับคาเนจกลางอากาศทันที
คาเนจ : มาแล้วสินะ....เวน่อม.....ฮิๆๆ.....แกคิดจริงๆเหรอว่าแกจะสู้ฉันได้?
เวน่อม : แน่นอนอยู่แล้ว....ฉันจะสั่งสอนแกเอง!!!
จากนั้นเวน่อมก็พุ่งเข้าใส่คาเนจ แต่คาเนจก็หลับได้และได้ถีบขาคู่ใส่วีน่อมจนเขากำลังจะกระเด็นไปชนกับตึก แต่ขณะนั้นรินดาได้เปิดวาร์ปให้เวน่อมและเปิดข้างหลังของคาเนจทำให้เวน่อมพุ่งออกมาและกระโดดเตะใส่คาเนจจนเขาล่วงไปอยู่ตรงด้านฟ้าของตึกแห่งหนึ่ง เวน่อมรีบมองไปที่รินดาก็พบว่าเธอกำลังลอยตามเขามาอยู่
คาเนจ : อย่าสนใจอย่างอื่นนอกจากศัตรูเซ่!!!!
คาเนจได้เปลี่ยนแขนเป็นเหมือนแส้ขนาดใหญ่พุ่งเข้ารัดคอของเวน่อม จากนั้นก็ดึงเขาเข้าหาตัวและใช้แขนกระแทกใส่คางจนเวน่อมกลิ้งไปกับพื้น จากนั้นมันก็เปลี่ยนแขนอีกข้างเป็นเคียวขนาดใหญ่และวิ่งเข้าใส่วีน่อมทันที
รินดา : ออกไปจากเขา!!!
ทันใดนั่นเองรินดาก็ได้ใช้แส้ขั้นสูงเข้าล็อคแขนของคาเนจที่เป็นเคียว จากนั้นเธอก็เริ่มดึงกลับทางคาเนจก็พยายามดึงสู้กลับและจังหวะนั้นเองเวน่อมก็พุ่งเข้าต่อยหน้าของคาเนจจนกระเด็นไปชนกับขอบตึก แต่ทางคาเนจก็ได้พุ่งเข้าใส่เวน่อมด้วยแขนที่เป็นกรงเล็บขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง ทางเวน่อมก็ใช้หมัดเพียวๆสู้ ทางด้านรินดาก็มองการต่อสู้อันดุเดือดและมีเลือดของทั้งสองสาดกระเด็นไปมา
รินดา : ชิ....ถ้าเป็นแบบนี้ฉันสะกดจิตไม่ได้แน่....บนด่านฟ้าก็ไม่มีเครื่องทุ่นแรงอะไรเลย คงต้องคอยคุ้มกันเขา แฟนเกิร์ลอย่าให้หมอนั่นเปลี่ยนแขนได้....
ผ้าคลุมของเธอก็ได้ปล่อยให้รินดายืนอยู่บนตึกเดียวกันกับที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กันอยู่ แฟนเกิร์ลได้บินเข้าไปรัดแขนของคาเนจทำให้เขาเสียสมาธิทันที จากนั้นรินดาก็ร่ายเวทย์ประตูวาร์ปให้เวน่อมกระโดดออกมาต่อยคาเนจได้อย่างต่อเนื่องจากนั้นคาเนจก็ใช้แขนอีกข้างเปลี่ยนเป็นดาบขนาดใหญ่และเสียบกลางตัวของเวน่อมและทุ่มเขากับพื้น
คาเนจ : อะไรของแกน่ะ!?
รินดา : เอ็ดดี้!?
จากนั้นเองคาเนจก็ได้โยนเขาใส่รินดา ทำให้เขาไปชนกับรินดาทางรินดาก็กระเด็นไปชนกับขอบตึกอีกและกรงเล็บของเขาก็ดันไปโดนท้องของเธอทำให้เธอบาดเจ็บและมีเลือดพุ่งออกจากปากทันที เมื่อเวน่อมลุกขึ้นแล้วหันมามองที่เธอและเห็นว่าเธอบาดเจ็บ เขาจึงตัดสินใจยิงใยสีดำใส่ตัวของรินดาทำให้เธอตัวติดกับขอบตึกไปเรียบร้อย
รินดา : เอ็ดดี้นายทำบ้าอะไร!?
เอ็ดดี้ : มันจะทำร้ายเธอไม่ได้!!!
รินดา : แต่เราสองคนก็ชนะมันได้นะ!!!
เวน่อมไม่ได้ฟังรินดา เขารีบวิ่งเข้าใส่คาเนจทันทีแต่ในขณะนั้นคาเนจได้ฉีกผ้าคลุมออกจากแขนและผ้าคลุมก็ลอยกลับไปหารินดาและพยายามช่วยเธอแกะใยสีดำออก ทางด้านทั้งสองก็เริ่มมองหน้ากันอีกครั้ง
คาเนจ : ไม่เอาน่าพวก....นายคงจะไม่สู้เอาตายเพื่อปกป้องยัยนั่นใช่มั้ย? มันจะแย่เอานะการที่นายมีพลังที่แข็งแกร่งแต่ต้องมาปกป้องสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ่เนี่ยนะ!?
เวน่อม : มันเป็นสิทธิ์ของฉันและแกไม่ควรจะมายุ่งและยัยนั่นที่แกพูดถึงน่ะ เธอทำให้ฉันมีความสุขมากจนอยากจะอยู่ด้วยกันเลยด้วยซ้ำ!!!
ทางรินดาที่ได้ยินเสียงของเวน่อมตะโกนเธอก็สตั้นทันที แต่ทางคาเนจที่ได้ยินก็ทำท่าเหมือนจะอ้วกและเปลี่ยนแขนเป็นเคียวทั้งสองข้างและถูไปมา
คาเนจ : ฮิๆๆๆ....ช่างน้ำเน่าจริงๆ ถ้าแกพูดแบบนั่นล่ะก็ฉันจะสงเคราะห์โดยการไปฆ่ายัยนั่นก่อนเลยล่ะกัน!!!!
เวน่อม : ใครจะยอมกันเล่า!!!!
เวน่อมพุ่งเข้าใส่คาเนจ แต่คาเนจก็กระโดดขึ้นข้างบนและใช้ขาทั้งสองข้างถีบหลังของเวน่อมจนเขากระแทกกับพื้นและคาเนจก็พุ่งไปทางรินดาที่ตัวกำลังติดใยของเขาอยู่
เวน่อม : หยุดนะเว้ย!!!!
คาเนจ : ฮ่าๆๆๆ!!!!
ในตอนนั้นรินดาเริ่มรู้สึกตกใจอย่างมาก ผ้าคลุมก็รีบพุ่งเข้าใส่คาเนจเพื่อปกป้องเธอแต่ก็ถูกคาเนจปัดจนกระเด็นออกไปและมันก็มีช่องว่างให้คาเนจฆ่าเธอได้ง่ายมาก
เวน่อม : รินดา!!!!
รินดา : กริ๊ด!!!
คาเนจ : ตายซะเถอะ!!!-
ผัวะ!!!!
แต่ขณะนั้นเองก็มีบางอย่างพุ่งเข้ามาและกระโดดเตะคาเนจจนกระเด็นกลับไป ทางด้านวีน่อมที่อยู่ข้างหลังก็จับตัวคาเนจและโยนเขาออกไป แต่....
??? : นี่ฉันมาห้ามวัยรุ่นตีกันใช่มั้ย?
เสียงปริศนาพูดขึ้น จากนั้นบุคคลปริศนาก็กระโดดลงมาจากความมืดและมาอยู่ตรงหน้าของรินดา แน่นอนว่าเขาคืออเวนเจอร์ที่รู้จักกันดีและเขาเคยต่อสู้กับธานอสมาแล้วเช่นกัน นั่นคือ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ที่มาพร้อมในชุดของไอรอน สไปดี้ แน่นอนว่าผ่านมาหลายสิบปีเขากลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
รินดา : คุณปีเตอร์!!!
คาเนจ : ชิ....มีตัวเกะกะจนได้....ฝากไว้ก่อนนะเอ็ดดี้......
ปีเตอร์ : เฮ้ย! รินดาเธอไม่เป็นไรก็โอเค แต่ฉันจะตามหมอนั่นไป ส่วนแกถ้าไม่ใช่พวกนั่นก็ฝากดูเธอด้วย
จากนั้นปีเตอร์ก็รีบกระโดดและยิงใยตามคาเนจไปทันที ในขณะที่วีน่อมวิ่งมาหาด้วยความเร็วก่อนที่จะเกะใยสีดำของเขาออกและเปลี่ยนร่างกลับมาเป็นเอ็ดดี้เหมือนเดิมและพบว่ารินดาตัวสั่นอย่างมากและก็มีเลือดออกปาก
เอ็ดดี้ : คุณรินดาผมขอโทษ เพราะผมที่ทำให้คุณเกือบตาย!
รินดา : ไม่เป็นไร.....โชดดีที่คุณปีเตอร์มาช่วยไว้ทัน-
ยังไม่ทันที่รินดาจะพูดจบ เขาก็พุ่งเข้ากอดเธออย่างรวดเร็วและเธอเองก็ได้ยินเสียงร้องไห้ออกมา ทางรินดาเองก็สตั้นไปพอสมควร
เอ็ดดี้ : แค่ผู้หญิงคนเดียวผมจะปกป้องก็ยังทำไม่ได้เลย....ผมนี่มันไม่เอาไหนจริงๆ-
รินดา : พอได้แล้วเด็กน้อย! ฉันแค่บาดเจ็บนิดเดียวเอง....อีกอย่างเท่าที่ฉันดูเพื่อนนายเป็นซิมไบโอตที่น่าจะโหดกว่าซิมไบโอตพอสมควร จะสู้ไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เพราะฉะนั้นเลิกร้องไห้ได้แล้ว โอ่ๆ....
เอ็ดดี้ : เลือดออกขนาดนี้คุณรินดายังจะอารมณ์ดีได้อีกนะ!
รินดา : นายจะมาตะคอกใส่ฉันทำไมเนี่ยและก็ปล่อยได้แล้ว.....ฉันหายใจไม่ออก!
เอ็ดดี้ : ขอโทษครับ....
รินดา : ยังไงก็ช่างเราต้องทำให้คืนนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เอ็ดดี้ : เราจะทำยังไงครับ ห้องผมโดนระเบิดเป็นรูเลย...
ทันใดนั้นรินดาก็ได้เปิดวาร์ปขึ้นมา ซึ่งมันปรากฏเป็นห้องของเธอ ทั้งสองจึงเดินเข้าไปในห้องจากนั้นรินดาก็ไปที่หน้ากระจก จากนั้นเธอก็ร่ายเวทย์บางอย่างทำให้กระจกเปิดเป็นสองฝั่งและสิ่งที่อยู่ในนั่นก็คือดวงตาแห่งอากาโมโต้ เธอเอามันมาใส่จากนั้นก็เริ่มร่ายเวทย์ของ time stone
เอ็ดดี้ : คุณรินดา...นั่นมัน!
รินดา : ถูกต้องแล้ว....ฉันได้รับหน้าที่อีกอย่างคือการปกป้อง time stone ฉันเลยต้องเก็บเอาไว้ที่ลับตลอด เอาล่ะมาทำให้ทุกอย่างกลับเป็นเหมือนเดิมกัน
รินดาเปิดวาร์ปกลับเข้าไปในห้องของเอ็ดดี้และเริ่มร่ายเวทย์ใส่รอบๆพื้นที่ เพื่อจัดการร่องรอยของการต่อสู้ ห้องของเอ็ดดี้ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมจนดูเหมือนไม่มีการต่อสู้มาก่อนข้าวของทุกอย่างก็ถูกวางเรียบร้อยหมด
เอ็ดดี้ : ว้าว...สุดยอดไปเลย....
รินดา : ใช่....แต่มันก็ช่วยฉันในตอนต่อสู้น้อยมากเพราะฉันจะใช้เป็นท่าไม้ตายซะมากกว่า ฉันเลยไม่ค่อยอยากใช้มันในการต่อสู้นอกจากฝีมือของตัวเอง
ก๊อกๆๆ!!!
เป็นเอ็ดดี้ที่รีบไปเปิดประตู จากนั้นเขาก็ตกใจเล็กน้อยว่าคนที่อยู่หน้าห้องคือผู้ดูแลของคอนโดแห่งนี้
เอ็ดดี้ : สวัสดีครับ
รินดา : โอ้ คุณผู้ดูแลมีอะไรหรือเปล่าค่ะ?
ผู้ดูแล : เอ่อ....รินดา เธออยู่ในห้องนี้ด้วยเหรอ?
รินดา : ก็แค่เขาชวนมากินข้าวน่ะค่ะ
ผู้ดูแล : อืม...พอดีฉันได้ยินเสียงเหมือนอะไรสักอย่างโดนพังดังมาก ฉันเลยรีบขึ้นมาเช็ดดูหน่อย มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?
เอ็ดดี้ : เอ่อ...ไม่มีอะไรครับ ก็แค่อุบัติเหตุของเราเล็กน้อย....
ผู้ดูแล : อ้อ.....งั้นทีหลังก็ทำกันให้เบาๆหน่อยนะจะได้ไม่รบกวนห้องข้างๆ....เนี่ยดูสิทำกันจนเลือดตกยางออกกันเลยเหรอ?
รินดา : ไอ้ผู้จัดการบ้าเดี๋ยวส่งไปอยู่ขั่วโลกเลยนิ!!!!
ผู้ดูแล : แหม....ล้อเล่นน่า....จะว่าไปก็เข้าใจเลือกนะหล่อนนะ หน้าตาส่วนสูงกำลังดีเลยนะเนี่ยพ่อหนุ่ม
รินดา : ยังอีก....
ผู้ดูแล : โอเคๆ ฉันไม่กวนพวกเธอแล้ว...ขอให้กินกันให้สนุกนะ
รินดารีบปิดประตูทันที จากนั้นเหตุการณ์ก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ทางรินดาก็ยังไม่ไว้ใจว่าปีเตอร์จะตามเจ้าคาเนจได้หรือเปล่า ตอนนี้ทั้งสองก็มานั่งที่โต๊ะเหมือนเดิม
เอ็ดดี้ : คุณรินดาสนิทกับผู้ดูแลที่นี่สินะครับ
รินดา : เรียกว่าเตะตูดได้เลยดีกว่า ทุกวันนี้ก็แทบจะเอามือลูปหัวกันอยู่แล้วแต่เรื่องจ่ายเงินนี่ยอมกันไม่ได้เลยนะ
เอ็ดดี้ : ขนาดนั้นเลยเหรอครับ?
รินดา : เอ็ดดี้.......คาเนจน่ะ เพื่อนนายงั้นเหรอ?
เอ็ดดี้ : จะว่าเคยเป็นน่ะแหละครับ....เขาเองก็คือคนที่ถูกทดลองด้วยเหมือนกันแต่ว่ามันเป็นซิมไบโอตสีแดงที่ทรงพลังกว่าของผม ตอนนี้ที่เห็นคือเขาไม่มีร่างกายมนุษย์เลยเพราะเขาโดนมันควบคุมไปทุกส่วน จนกระทั่งหมอนั่นตั้งใจที่จะหนีออกจากที่นี่ผมเลยยอมที่จะร่วมมือกับคาเนจ แต่เขาฆ่าคนมากเกินไปแม้แต่คนที่ไม่รู้เรื่องก็ไม่เว้นจนทหารและอเวนเจอร์บุกเข้ามา ผมจึงรีบหนีออกมาทันทีและตัดสินใจสร้างตัวใหม่ที่นี่....
รินดา : แล้วมันมีกี่ประเภทกันแน่ ไอ้ซิมไบโอตเนี่ย?
เอ็ดดี้ : ผมก็ไม่แน่ใจ...แต่ที่มั่นใจก็คือมีมากกว่านั่นแน่นอน ไม่ใช่แค่ผมกับคาเนจแค่สองคน ตอนนี้คนอื่นๆ ก็คงไปไกลกันหมดแล้ว
รินดา : ยกเว้นเจ้าคาเนจสินะ
เอ็ดดี้ : ครับ....เขาคงแค้นผมมากขนาดคนที่อยู่รอบข้างผมก็ยังไม่เว้นเลย
รินดา : ฉันว่ามันเหมือนกับ....พวกโรคจิตเลยนะ ทั้งการต่อสู้ที่บ้าเลือดกับการใช้อาวุธของมันน่ะ แค่ฉันคิดก็สยองแล้ว
จากนั้นรินดาก็นั่งถามเรื่องของเอ็ดดี้ไปได้สักพัก แน่นอนว่าทั้งคู่คุยกันนานมากจนแทบจะไม่มีอะไรให้หยุดคุยเลยและเวลาก็ผ่านประมาณ 3 ทุ่มที่เธออยู่ในห้องของเขาจนในที่สุดเธอคิดได้แล้วว่าควรจะกลับห้องของตัวเอง
รินดา : วันนี้....ฉัน.....ว่าเราพอแค่เนี่ยดีกว่า....ฉันรู้สึกง่วงๆนิดๆ
เอ็ดดี้ : เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ
รินดา : น่าห้องอยู่แค่นี้เอง....
จากนั้นรินดาก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะกลับห้องของตัวเอง เธอมองไปที่หน้าของเอ็ดดี้สีหน้าของเขาจากที่กำลังสนุกก็เปลี่ยนไปเป็นความช็อค
เอ็ดดี้ : คุณรินดา....ที่ท้องคุณ....
หลังจากที่เอ็ดดี้พูดเสร็จ รินดาก็ก้มลงมองที่ท้องของตัวเอง ตอนแรกเธอคิดว่ามันจะเป็นแค่แผลจากกรงเล็บเล็กๆแต่ตอนนี้เต็มไปด้วยเลือด เสื้อนักศึกษาสีขาวของเธอมีรอยกรงเล็บและเต็มไปด้วยสีแดง จากนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
รินดา : ให้ตายสิ.....ใช้ time stone กับสิ่งของรอบๆ.....แต่ดันลืมใช่กับตัว.....เอง.....
จากนั้นร่างของเธอก็ทรุดลงไปกับพื้นทันที ภาพของเธอค่อยๆดับและสิ่งที่เห็นสุดท้ายคือเอ็ดดี้วิ่งเข้ามาหาเธอพร้อมตะโกนชื่อเธอและภาพก็ดำลงไป
เป็นเวลาเท่าไรไม่ทราบ แต่ตอนนี้ดวงตาสีขาวได้ลืมขึ้นพร้อมกับค่อยๆมองไปรอบๆสิ่งที่เธอกำลังเห็นคือตอนนี้เธออยู่ในห้องของตัวเองจากนั้นเธอก็รู้สึกเจ็บที่ท้องอย่างฉับพลันเมื่อมองดูพบว่าเธออยู่ในเสื้อยืดสีขาวแต่เธอก็ยังคงใส่กระโปรงอยู่เหมือนเดิมจะมีก็แต่ถุงเท้าของเธอโดนถอดออก เธอเริ่มตะเกี่ยงตะกายเพื่อที่จะพยายามลุกนั่งแต่ขณะนั้นเอง....
เอ็ดดี้ : ใจเย็นก่อนครับคุณรินดา! ผมดีใจจริงๆที่คุณปลอดภัย!!
รินดา : เอ็ดดี้....
แน่นอนว่าเอ็ดดี้ได้เดินเข้ามาและจับตัวเธอเพื่อให้นอนลง สีหน้าของเขาดูดีใจสุดๆหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา จากนั้นเธอก็ถามคำถามแรกกับเขา
รินดา : นายทำแผลให้ฉันเหรอ? แล้วก็เปลี่ยนเสื้อด้วย....อย่าบอกนะ-
เอ็ดดี้ : ไม่ใช่ผมนะครับ ผ้าคลุมของคุณรินดาจัดการทุกอย่างหมดเลย ส่วนผมก็มาช่วยจัดการงานบ้านให้คุณก็เท่านั่นเองและสาบานด้วยว่าผมไม่ได้จับคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าแม้แต่น้อย
รินดา : ไม่ได้ว่าอะไร.....ก็แค่ประหลาดใจเฉยๆ อีกอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่าแฟนเกิร์ลจะยอมช่วยขนาดนี้
เอ็ดดี้ : ผ้าคลุมของคุณรินดามีชื่อด้วยเหรอเนี่ย?
รินดา : ใช่....เธอเป็นผู้หญิงน่ะสิ
เอ็ดดี้ : มิน่าพอผมอุ้มคุณรินดามานอนที่เตียงผ้าคลุมของคุณก็ผลักผมออกจากห้องนอนคุณทันทีเลย ช่างเป็นผ้าคลุมที่ซื่อสัตย์จริงๆเลยนะครับ
รินดา : สำหรับฉัน....เธอเป็นเหมือนพี่สาว ไม่ว่าจะทำอะไรเธอก็จะมาช่วยเหลือตลอด เวลาที่ฉันตัดสินใจอะไรไม่ได้เธอก็จะมาช่วยทำให้ฉันตัดสินใจได้เร็วขึ้น....แต่ก็ดีนะที่นายไม่ได้แจ้งโรงพยาบาลไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่....
เอ็ดดี้ : ครับ....ผมก็คิดอย่างงั้น แต่ก็คิดอีกว่าถ้าไม่พาไปโรงพยาบาลก็จะแย่เอาแต่ผมก็ไม่คิดเลยว่าผ้าคลุมของคุณรินดาจะรู้เรื่องเกี่ยวกับการทำแผลด้วย
รินดา : ก็ฉันเคยเป็นผู้ช่วยหมอนิ....ฉันเลยสามารถสอนให้เธอได้เรื่องการช่วยเหลือต่างๆ.....เอ็ดดี้นี่กี่โมงแล้ว?
เอ็ดดี้ : อ๋อ....6 โมงเช้าแล้วครับ....
รินดา : ว่าไงนะ! แล้วนายได้นอนบ้างหรือเปล่าเนี่ย!?
เอ็ดดี้ : นอนสิครับ...พอดีผมตื่นเช้ามาที่ห้องคุณพอดี-
รินดา : จะให้ฉันย้อนเวลาดูมั้ย?
หลังจากที่รินดาพูดเสียงแข็ง เอ็ดดี้ก็เหงื่อตกทันทีจากนั้นเขาก็เดินมานั่งที่เตียงข้างของรินดาและถอนหายใจและพูดสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกไปว่าจริงๆเขาไม่ได้นอนทั้งคืนเพราะว่ามัวแต่เฝ้าเธอ แถมยังอาสาทำงานบ้านให้อีกด้วยจนกระทั่งเธอฟื้นขึ้นมา
รินดา : ให้ตายเถอะนี่นายไม่หลับไม่นอนแล้วยังทำงานบ้านแทนฉันอีกเหรอเนี่ย!?
เอ็ดดี้ : คุณรินดาโกรธผมเหรอ?
รินดา : ใช่เอ็ดดี้....ฉันโกรธมาก....เพราะว่าทำไมนายถึงไม่ห่วงตัวเองเลยทั้งที่นายเองก็มีแผลนะ แถมยังมาเฝ้าฉันทำงานบ้านให้ฉัน มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีเลยนะเอ็ดดี้..... นายมัน.....
ในขณะที่รินดากำลังบ่นเอ็ดดี้ ทันใดนั้นเขาก็พุ่งมากอดตัวของเธอทันทีทำให้เธอสตั้นไป เพราะไม่รู้ว่าเขากำลังจะมามุขไหน จนเธอเงียบลงเขาก็พูดสั้นๆ
เอ็ดดี้ : ผมขอโทษ.....อย่าโกรธผมเลยนะ.....ทั้งชีวิตนอกจากพ่อที่เสียไปตอนนี้ในชีวิตผมก็เพิ่งจะมีแค่คุณเท่านั่นที่ผมอยากจะอยู่ด้วยกันอยากจะทำทุกอย่างให้คุณเลยด้วยซ้ำ....ถึงแม้ว่าเราจะรู้จักไม่นานแต่ก็มีแค่คุณที่ไม่รังเกียจผมถึงผมจะเป็นปีศาจ-
รินดา : หยุดเลยเอ็ด....ทำไมนายชอบคิดว่าตัวเองเป็นปีศาจ? เพราะร่างของตัวนายในซิมไบโอตงั้นเหรอ? เลิกพูดซะเอ็ด....แล้วก็ตอนนี้นายโดนแผลฉันนะ
เอ็ดดี้ : ขอโทษครับ....งั้นวันนี้ผมขออาสาดูแลคุณได้มั้ย?
รินดา : นายไปพักเถอะเอ็ดดี้ ตอนนี้ฉันสบายดีแล้วเชื่อเถอะ เพราะการที่นายมาทำแบบนี้กับฉันมันทำให้ฉันอึดอันมากเลยนะ....คือ...หมายถึงไม่เคยมีใครมาดูแลแบบนี้มาก่อนนอกจากยายของฉัน....
เอ็ดดี้ : งั้นเหรอครับ.....
จากนั้นเอ็ดดี้ก็ค่อยๆยืนหน้าเข้าใกล้เธอจนเธอถอยไปชนกับหัวเตียง แต่เขาก็ยืนมาไม่หยุดจนกระทั่ง
เอ็ดดี้ : ไม่ครับวันนี้ผมว่างทั้งวัน แถมผมจะช่วยคุณติวหนังสือเตรียมสอบพรุ่งนี้ด้วย
รินดา : ไม่เนี่ยนะ! อีกอย่างฉันติวหนังสือเองได้นายน่ะไปพักได้แล้ว!!!
เอ็ดดี้ : ไม่ๆๆๆ~
เอ็ดดี้ลุกขึ้นแล้วค่อยๆเดินออกไป ก่อนที่จะไปทำอะไรบางอย่าง
รินดา : อะไรของเขาเนี่ย.....ทำไมถึงต้องมาลงทุนกับฉันแบบนี้?
ยังไม่ทันที่เธอจะหายสงสัย เอ็ดดี้ก็มาพร้อมถาดอาหารเช้าทำให้เธออึ่งไปทันที เพราะเอ็ดดี้ไม่ได้ฟังที่เธอพูดเลย เขาเอาอาหารมาวางข้างๆเธอมีอาหารอยู่สองอย่างอย่างแรกก็อาหารเช้าปกติ แต่อย่างที่สองมันทำให้เธอสตั้นหนักกว่าเดิม
เอ็ดดี้ : ผมไม่เชื่อหรอกว่าคุณจะหายดี เดี๋ยวผมจะป้อนคุณเอง-
รินดา : ทำอย่างนี้ทำไมเอ็ดดี้......ฉันขอถามนายตรงๆนะ นายคิดอะไรกับฉันแน่ๆใช่มั้ย!?
เอ็ดดี้ : ในเมื่อคุณรินดาถามแบบนี้....ใช่ครับผมชอบคุณรินดาครับ....ถึงแม้ว่าเราจะรู้จักกันแค่สองวันแต่เป็นเพราะคุณเป็นคนเดียวที่ไม่รังเกียจที่ผมเป็นแบบนี้ ตลอดเวลาที่หนีออกจากที่นั่น ผมตั้งใจจะช่วยผู้คนต่างๆ แต่แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องกลัวในร่างของผมและก็วิ่งหนีกันไปหมด แต่คุณก็เป็นคนเดียวที่ยอมรับตัวตนที่แท้จริงของผมได้....เพราะฉะนั้นผมเลยอยากจะทำทุกอย่างที่ได้อยู่ใกล้คุณ มันทำให้ผมรู้เลยว่าคุณนั่นแหละคือคนที่ผมมองหามาตลอด.....คุณ...รินดา
หลังจากที่เอ็ดดี้ได้ระบายทุกอย่างออกมา มันก็ทำให้ทุกอย่างเงียบทันทีทางเอ็ดดี้ก็มัวแต่ก้มหน้าไม่กล้าที่จะมองหน้าของเธอ แต่ขณะนั้นเอง
รินดา : ก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ!
เอ็ดดี้ : หือ?
รินดา : เราพึ่งจะรู้จักแค่สองวัน เพราะฉะนั้นเราก็ดูกันไปก่อนและรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมดีกว่านะแล้วค่อยให้นายมาตัดสินใจอีกทีว่าจะยังมั่นใจอยู่กับฉันได้จริงหรือเปล่า...... เอ็ดดี้......นายอย่าคิดว่าทุกคนรังเกียจนายเลย ฉันอยากจะพานายไปทำความรู้จักกับเพื่อนของฉันจริงๆ
เอ็ดดี้ : ผมดีใจมากเลยที่คุณตอบตกลงและเพื่อนของคุณรินดาอยู่ไหนเหรอครับ!?
รินดา : เดี๋ยวๆใจเย็นฉันตอบตอนไหน ฉันแค่บอกว่าให้ดูกันไปก่อน....ส่วนเพื่อนของฉันน่ะเหรอ.....อยู่อีกมิติยังไงล่ะ!
To Be Continue...
ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายของ Special Episode นะครับเหล่าตัวละครเดินทางกลับไปที่โลกการ์ตูนวันพีชแล้วอดใจรอหน่อยนะครับ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
เป็นผู้ชายที่น่ารักมากเลยรินจับไว้ให้อยู่หมัดเลยยยยยยย
เอ็ดดี้ดูขี้เกรงใจไปหน่อยนะ มั่นใจในตัวเองกว่านี้หน่อยสิพ่อหนุ่ม