คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : sToRY oF mEmorY 5 => เหตุเกิดเมื่อเราได้เจอกัน (อีกครั้ง)
sToRY oF mEmorY 5 => เหตุเกิดเมื่อเราได้เจอกัน (อีกครั้ง)
เช้าวันนี้ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูอึมครึมเป็นพิเศษเพราะทั้งฉันและพวกพี่ๆต่างไม่ค่อยได้พูดอะไรเลย ถึงแม้พ่อกับแม่จะชวนคุยแล้วบ้างก็ตาม ฉันไม่รู้ว่าพวกพี่ๆแต่ละคนคิดอะไรกันอยู่ แต่ฉัน กำลังคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ......
......รูปนั้นเป็นรูปของใคร.....ทำไมถึงมายืนถ้ารูปคู่กับนายธันได้
..ผู้หญิงคนนั้นใส่ชุดเครื่องแบบโรงเรียนเอกสตรีฯ ม.4 ดูจากวันที่หลังรูป....เวลาที่ถ่ายคือปีที่แล้ว งั้นตอนนี้เค้าต้องอยู่ม.5เท่ากับเจ๊โม ท่าทางจะรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ทำไม ฉันถึงไม่เคยได้ยินพี่คนไหนพูดถึงเค้าเลย
......ทำไมเจ๊โมเห็นรูปแล้วต้องร้องไห้
คำถามมากมายนี้วนเวียนอยู่ในหัว เมื่อคืนนี้ ฉันกับขมิ้นไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก ต่างคนต่างก็สะเทือนใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะน้อยคนนักที่จะเห็นเจ๊โมร้องไห้หนักขนาดนี้ เจ๊โมที่แสนเข้มแข็ง......อะไรที่ทำให้เธอเป็นได้ถึงขนาดนี้
พ่อแม่พยายามที่จะชวนพวกเราพูดคุยกัน จากที่ไม่เคยได้พูดมากนักบนโต๊ะอาหาร ฉันก็ไม่ได้ทำท่าซึมเศร้ามากนัก ตอบรับและพูดคุยกับท่าน ต่างจากพี่ทั้ง 2คน เฮียโควที่เงียบอยู่แล้วชนิดที่ว่าพูดนับคำได้ กลายเป็นไม่พูดเลยหลังจากลงมากินข้าว วันนี้ฉันได้ยินเฮียพูดแค่ว่า
"สวัสดีครับคุณพ่อ/คุณแม่" ส่วนเจ๊โม ทั้งที่เคยกัดกับฉันประจำเวลากินข้าว เพราะส่วนใหญ่เรามักจะใจตรงกัน (ชอบกินของอย่างเดียวกัน) แย่งอาหารกับเสมอ แต่วันนี้ เจ๊โมเอาแต่เขี่ยข้าวในจานไปมา พอแม่ทักว่าทำไมถึงไม่กิน ก็ตักแต่ข้าวเปล่าเข้าปาก 2-3คำ ฉันไม่อยากให้พ่อแม่เครียดและรับรู้ถึงเหตุการณ์เมื่อคืนจึงชวนทุกคนไปเที่ยวห้าง
"วันนี้โรงเรียนหยุด เราไม่ต้องเรียนกัน พ่อกับเเม่ก็ไม่ได้เข้าบริษัท งั้นวันนี้เราไปเที่ยวห้างกันดีมั้ย"
"ก็ดีนะ หมู่นี้เราไม่ค่อยได้ไปไหนเป็นครอบครัวกันมานานแล้ว ไปนะ โคว โม" เฮียโ คว พยักหน้าหงึกหงัก รวบช้อนส้อมพลางบอกว่าจะไปเปลี่ยนชุด แต่ยังไม่มีเสียงตอบรับมาจากเจ๊โม แม่จึงถามย้ำอีกที
"ได้ยินที่พ่อพูดมั้ยโม จะไปเที่ยวด้วยกันมั้ย" เจ๊โมหลุดจากภวังค์ ยิ้มเศร้าๆพลางขานรับ
"ค่ะ แม่" แล้วรวบช้อนส้อมทำทีจะขึ้นไปแต่งตัวทั้งๆที่กินได้แค่ไม่กี่คำ แม่จึงขมวดคื้ว ถามว่า
"อิ่มแล้วเหรอลูก ทำไมวันนี้กินน้อยจัง เป็นอะไรรึป่าว"
"ไม่ค่ะ โมไม่เป็นไร ไปเปลี่ยนชุดก่อนนะค่ะ" ถึงพวกพี่ๆจะไปกันหมดแล้วแต่ฉันก็ยังกินข้าวต่อไป ไม่ใช่ว่าฉันไม่กลุ้มหรอกนะ แต่ปากท้องต้องมาก่อน 555+
"โจ๋ละลูก ไม่ไปเปลี่ยนชุดหรอ"
"เอี๋ยว-อ่อน-อิ-แอ่-อัง-อิน-อั้ย-อิ่ม-เอย" (เดี๋ยวก่อนดิแม่ยังกินไม่อิ่มเลย) แม่ยิ้มๆปล่อยให้ฉันกินข้าวต่อไป จนเหลือแค่ฉันคนสุดท้าย เมื่อกับข้าวเรียบวุธหมดแล้วฉันจึงขึ้นไปเปลี่ยนชุด ระหว่างทางสวนกับเจ๊โมพอดี เห็นเจ๊ทำปากขมุบขมิบเหมือนจะพูดอะไรกับฉัน แต่ฉันไม่ได้ยิน จึงหันไปถามใหม่อีกครั้ง
"อะไรนะ"
"ออ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร เรื่องเมื่อคืนขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ เจ๊ไม่เป็นไรหรอก"ร้องไห้ขนาดนั้นจะให้ฉันเชื่อว่าไม่มีอะไร เจ๊นี้เพื้ยนรึป่าวว่ ะ แต่ถึงยังไง ฉันก็ไม่ได้เซ้าซี้ พยักหน้าทำนองว่าเข้าใจแล้วขึ้นไปเปลี่ยนชุด
พอลงมาถึงก็ไม่เห็นใคร พี่มะนาว คนรับใช้ในบ้านบอกว่าทุกคนไปนั่งรอในรถเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงเดินไปที่รถ MU7 แม่จะบอกลุงช้างไว้แล้วว่าให้ขับไปที่ห้างชื่อดังเเห่งหนึ่ง ระหว่างทางเจ๊โมคุยกับเฮียโควไปเรื่อยๆ ท่าทางซึมเศร้าหายไปจากใบหน้าแล้วดวงตา ฉันละตามอารมณ์พี่แกไม่ทันจริงๆเลย
พอถึงห้าง แม่ก็บอกให้พวกเรายืนรอกันตรงหน้าห้างกันก่อน เอ.....แม่จะให้รออะไรกันนะ ซักพักนึงฉันก็เห็นบุคคล 3คนที่ฉันคุ้นตาเป็นอย่างดี
น้าอิง อาชัย และยัยขมิ้น แม่โทรไปนัดมาเมื่อไหร่นะ ไม่เห็นจะรู้เลย แล้วที่ให้รอนี่คงรอครอบครัวนี้ใช่มั้ยเนี่ย
"อ้าว ขมิ้นมาด้วยหรอ สวัสดีครับน้าอิง อาชัย"
เฮียโควไหว้น้ากับอา พวกเราก็เลยยกมือไหว้กันตาม ทักทายกันพอเป็นพิธีแล้วก็แยกกลุ่มกันไปเที่ยว แม่ๆก็ไปดูเครื่องสำอางค์ด้วยกัน พ่อๆก็ไปดูโชว์รูมรถ ส่วนพวกเราตอนแรกก็กะจะไปดูเสื้อผ้าด้วยกัน แต่เฮียโควขอแยกออกไปซื้ออุปกรณ์กีฬา ฉันไปดูด้วยดีกว่า ขืนไปกับเจ๊กะยัยหนู มีหวังโดนจับให้ใส่ชุดอะไรแปลกๆอีกแน่เลย ฉันชอบมุม Sport มากกว่า Beauty เป็นไหนๆ
"เฮียโคว โจ๋ไปด้วยนะ จะไปหาซื้อลูกบาสกะเสื้อวอร์มใหม่หน่อย"
"โจเป็นผู้หญิง ไปดูของสวยๆงามๆกะโมดีกว่า ลูกบาสกับเสื้อเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้ก็ได้"
"ไม่เอา เดี๋ยวเฮียเลือกไม่ถูกใจ คราวที่แล้วให้ไปซื้อเสื้อกีฬาสีกรม ดันไปซื้อสีชมพูแป๋นมา ใครจะใส่ เลยต้องยกให้เจ๊โมแทน แล้วอีกอย่างของที่เจ๊โมกะขมิ้นไปดู โจเคยใช้ที่ไหนละ"
"เอา จะไปก็ไปแล้วแต่ละกัน"
555+ว่าแล้วฉันก็ได้เดินไปกับเฮียโคว พอไปถึงมุมกีฬา ฉันก็เดินไปที่มุมเสื้อผ้าเลือกเสื้อวอร์มมา 4-5ตัวแล้วก็เดินไปดูลูกบาสลูกบอล ฉันได้ลูกบาสใหม่ของตัวเองมา 1ลูก แล้วก็ซื้ออีก 3ลูกไปให้ชมรมบาสของฉัน ส่วนเฮียโควก็เลือกเสื้อยืดคอปกมา 2ตัวแล้วก็ซื้อลูกบอลไปให้ชมรมของเฮีย 5ลูก (เฮียอยู่ชมรมบอล เป็นหัวหน้าชมรมด้วย เวลาแข่งบอลกะโรงเรียนอื่นเฮียก็เป็นกัปตันนำไปแข่ง ส่วนฉันอยู่ชมรมบาส เป็นรองหัวหน้าชมรม เลยต้องซื้ออุปกรณ์ไปหนับหนุนหน่อย) พอได้ของทั้งหมดเป็นที่จุใจเราก็ไปจ่ายตังค์กัน โอ้ลันล้า มาห้างทีนึงเสียไปเยอะเหมือนกันนะเนี่ย จ่ายตังค์เสร็จเฮียโควก็ชวนไปร้านหนังสือ เฮียได้หนังสือเตรียมสอบเอ็นฯมา 4เล่ม ส่วนฉันหนะหรอ กิกิ ได้หนังสือการ์ตูนมา 2เล่ม โอย ไม่ไหวแฮะ หิ้วเต็มไปหมดเลย ฉันเลยโทรเรียกลุงช้างให้เอาของไปไว้ที่รถ เมื่อฉันกับเฮียปลดสำภาระกันหมดก็กะจะไปเล่นเกมต่อที่ร้านเน็ต แต่แม่โทรมาเรียกพวกเราให้ขึ้นไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นข้างบน แม่เลือกโต๊ะริมหน้าต่าง มองออกไปจะเห็นร้านอาหารเกาหลีฝั่งตรงข้าม ทุกๆคนพากันสั่งอาหารจานเดี่ยวของตัวเองระหว่างที่ฉันกำลังเพลิดเพลินกับการชิมไปบ่นไปอยู่ก็มีข้อความส่งเข้ามา
-ยัยตะกละ กินซะมูมมามเลยนะ ไม่กลัวลงพุงเหรอ ดูอย่างน้องขมิ้นที่นั่งตรงข้ามกับเธอสิ มองกุลสตรีคนนี้ไว้เป็นตัวอย่างบ้างก็ดี ทำตัวให้เหมือนผู้หญิงหน่อยสิ ยัยกุน-สตรี-
เฮ้ย ใครบังอาจส่งมาฟะ เฮียโควอ่ะ ไม่ใช่แน่นอน เพราะกำลังกินข้าวอยู่ คำพูดชวนกวนPop teen นี้ทำให้ฉันนึกถึงนายมังกือหัวแดง ...ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้น นายนั่นก็ไม่ติดต่อมาอีก ฉันโล่งใจและนึกว่าเหตุการณ์มันจะจบเพียงเท่านี้ ฉันทำเป็นไม่สนใจและกินบะหมี่ในชามต่อไป แต่แล้ว ก็มีข้อความจากเบอร์เดิมส่งเข้ามาอีก
-หันมามองตรงร้านอาหารเกาหลีตรงข้ามร้านที่เธอกินอยู่สิ-
ฉันอดไม่ได้และอยากลุกขึ้นไปจารึกรอยหมัดบนหน้าคนพูด จึงหันไปหาต้นเหตุของการรบกวนการกินของฉัน
O-O อึ้งเจ้าค่าเอ้ย นั่นมัน โอ้ T-T ฝันร้ายชัดๆ ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมเนี่ย นั้นมันไอ ดิว มังกือหัวแดงนี่หว่า
ดูท่าทางยัยหนูจะมองเห็นความผิดปกติของหน้าฉันเป็นคนแรก จึงหันไปมองทางที่ฉันเพิ่งมองไป ฉันอยากจะตะโกนเหลือเกินว่าอย่ามอง แต่ถ้าฉันทำ จะมีบุคคลที่ 2 3 4 และ5 ตามมา จึงเงียบๆก้มหน้ากินต่อไป ยัยกุลสตรีที่ไอ ดิวเพิ่งชมไปหมาดๆเอาเท้ามาเขี่ยฉันยิกๆ แล้วพยักเพยิดไปทางด้านที่มีปีศาจร้ายนั่งอยู่ ฉันส่งซิกไปว่าเงียบๆ ยัยหนูก็เลยกินข้าวต่อไป
พอเราออกมาจากร้าน พวกผู้ใหญ่ก็บอกว่าจะให้อยู่ถึงกินข้าวเย็นแล้วค่อยกลับ พวกเราจึงแยกกลุ่มกันเดินเล่นเหมือนเคย แต่คราวนี้ ฉันลากยัยหนูไปเดินด้วยกัน และปล่อยเฮียโควไว้กับเจ๊โม เราเดินไปที่ร้านขายรองเท้ากีฬา สอดส่องไปรอบๆ ไม่มีร่องรอยของนายตัวร้าย ฉันเลยเลือกรองเท้าไปพลางคุยไป
"เห็นใช่ไหม เมื่อตะกี้นี้นะ"
"เห็นสิเจ๊โจ๋ ตัวก็ไม่ใช่น้อยๆ ดีนะที่เฮียโควกับเจ๊โมไม่เห็น"
"นั่นดิ ช่างเหอะ อย่าไปคิดถึงเลย เออนี้ ไม่คิดจะเลือกรองเท้ากีฬาบ้างหรอ มีแต่คู่เท่ห์ๆทั้งนั้นเลย"
"ไม่อ่ะ ซื้อไปก็ไม่ได้ใช้ เจ๊ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเค้าไม่ชอบเล่นกีฬา"
"งั้นป่ะ ไปจ่ายตังค์กัน แล้วนี้จะไปร้านไหนต่อรึป่าว"
"ไปสิ เดี๋ยวไปดูร้านกิฟท์ช้อปกัน ยางรัดผมเจ๊จะเปื่อยแล้วนะ ไม่คิดจะเปลี่ยนบ้างหรอ"
ฉันเอามือไปลูบๆ มันยังไม่เปื่อยซะหน่อย แค่เก่าๆไปเท่านั้นเอง เอาว่ ะซื้อไปก็ไม่เสียหลาย ยางที่บ้านก็หายเกลี้ยงแล้ว ฉันจ่ายเงินแล้วเดินออกมาจากร้าน เอ๋....มีดารามาซื้อรองเท้าเหรอไงนะ เค้ามุงอะไรกันหน้าร้านเนี่ย
ฉันจูงมือยัยหนูแหวกฝูงชนเข้าไปดู ภาพที่เห็นทำให้ฉันใจหายวูบ ชายผมแดงกำลังถูกชายหนุ่มตัวสูงกว่ากระชากคอเสื้อขึ้นมา ใบหน้ามีรอยช้ำที่ตา และเลือดไหลซิบๆตรงมุมปาก มีหญิงสาวอีกคนนึงยืนอยู่ใกล้ๆ
"เฮีย เจ๊!!"
>>To Be Continue
ความคิดเห็น