คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Hamartia
.
.
.
.
??? EVA […..กำลังเปิดบันทึก…โปรดรอสักครู่. . . .]
.
.
[เริ่มการรุกราน]
ฝ่ายพันธมิตรเลือกพื้นที่ลงจอดเริ่มต้นเป็นทะเลเวดเดลล์ ในช่วงคลื่นแรกของการหยุดเวลา ผู้นำจู่โจมโดยซิกฟรีดได้ทำลายหน่วยยามชายฝั่งของสำนักงานใหญ่เอปซิลอนและตั้งฐานทัพของตน จากนั้นทันย่าและทหารอีกจำนวนมากก็ถูกส่งตัวและเทเลพอร์ตเข้าสู่สนามรบ หลังจากการเผชิญหน้ากันครั้งใหญ่,ฝ่ายสัมพันธมิตรได้จัดตั้งด่านหน้าขึ้นอีกแห่งในพื้นที่ภายในที่มากขึ้นและค้นพบถ้ำแปลก ๆ ที่เรียกว่า Dybbuk Hive ซึ่งเป็นฐานปล่อยยานขับไล่ไร้คนขับสร้างเครื่องบินข้าศึกมาที่พวกเขาอย่างต่อเนื่อง หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดไม่กี่นาที ในที่สุดยาน Paradox Engine ก็มาถึง โดยมีโนริโอะ และยานเกราะลอยฟ้า Thor คอยคุ้มกันเพื่อช่วยต่อสู้กับกองกำลัง Epsilon จากนั้นยาน Paradox Engine ก็เปิดใช้งานการหยุดเวลาครั้งที่สอง ทำลายอาคารและยูนิตจำนวนมากระหว่างทางอย่างรวดเร็ว ก่อนหยุดเวลา Epsilon ได้ส่งป้อมปราการทางอากาศ Irkalla(อรคัลลา) เพื่อตอบโต้กลับนี้ ด้วยการตอบสนองอย่างรวดเร็วของฝ่ายสัมพันธมิตร มันถูกสอยล่วงอย่างรวดเร็ว พันธมิตรยังสามารถทำลาย Psychic Dominators นั้นได้คุกคามต่อยาน Paradox Engine ในช่วงที่หยุดเวลาและทำลาย Radar Spiers และ Mind Readers ทั้งหมดที่เป็นตัวชี้ส่งสัญญาณชี้เป้าให้ Dybbuk Hives เมื่อการป้องกันหลักของ Epsilon พังทลาย ฝ่ายสัมพันธมิตรใช้เวลาไม่นานในการกวาดล้างกองกำลัง Epsilon ที่เหลืออยู่ในทะเล Weddell เพียงเพื่อรับข่าวร้าย: Yuri ได้เรียกกองกำลังทั้งหมดของเขากลับมาที่ขั้วโลกใต้เพื่อช่วยในการป้องกัน แอนตาร์กติกา โนริโอนำแนวรบด้านแปซิฟิกเพื่อสกัดกำลังเสริมต่างๆ ที่ส่งโดยกองทัพเอปไซลอนจากด้านหลัง ขณะที่พันธมิตรยุโรปนำโดยยาน Paradox Engine และซิกฟรีดยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อไปถึงสำนักงานใหญ่เอปซิลอนในขั้วโลกใต้
[เตรียมการฉุกเฉิน]
ด้วยการทำลายแนวป้องกัน Weddell Sea ยูริตระหนักว่าเวลากำลังหมดลง เขาตัดสินใจสร้างเทคโนโลยีไฮบริดที่ยังไม่เสร็จให้เสร็จทันที และเทเลพอร์ตตัวเองไปยังมอสโก ผ่านโครโนสเฟียร์รุ่นเก่าที่เก็บไว้ที่ฐานของเทือกเขาเพนซาโคลา เพื่อที่เขาจะได้หลอกล่อโซเวียตซึ่งขณะนี้อยู่บนดวงจันทร์ ในขณะเดียวกันกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรได้ใช้ทีมจู่โจมขนาดเล็กเพื่อปิดการใช้งาน Dybbuk Hive ทั้งหมดที่อยู่นอกแนวป้องกันที่ 2 ของ Epsilon HQ ดังนั้นถึงเวลาแล้วสำหรับกองบัญชาการ Epsilon ในการป้องกันฝ่ายพันธมิตรได้เปิดใช้งานความสามารถในการหยุดเวลาอีกครั้ง ทำลายการป้องกันชั้นนอกสุดของ Epsilon HQ อย่างง่ายดาย และสร้างฐานของพวกเขาเอง ในขณะที่การเสริมกำลังอย่างต่อเนื่องที่ต่อเนื่องมาจากยาน Paradox Engine ได้เปิดการโจมตีแบบสายฟ้าแลบ แซงหน้าผู้พิทักษ์ Epsilon อย่างไร้ความปราณี ไม่นานหลังจากนั้น แนวป้องกันของ PsiCorps ในอีกด้านหนึ่งก็พังทลายลงทันที บังคับให้กองกำลัง PsiCorps ถอนกำลังการป้องกันภายในองค์กรของตน และกองบัญชาการเอปซิลอน ซึ่งสร้างแนวป้องกันส่วนใหญ่ ได้เปิดการโจมตีตอบโต้กับรถถัง เครื่องบิน และเรือรบของฝ่ายพันธมิตรจำนวนมากขณะที่การต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้นและมีผู้บาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นสำหรับทั้งสองฝ่าย ยาน Paradox Engine ได้บุกเข้าไปในเทือกเขาเพนซาโคลาภายใต้กองกำลังทางอากาศขนาดใหญ่และกองทัพเรือ เอปไซลอนกองบัญชาการเอากองกำลังต่อต้านอากาศออกให้หมด พยายามยิง Paradox Engine ที่พวกเขากลัวลง อย่างไรก็ตาม มันไร้ผล เนื่องจากกองกำลัง Epsilon ทั้งหมดถูกสังหารในระลอกคลื่นแห่งกาลเวลาที่เปิดใช้งานโดย Paradox Engine ในขณะที่ Yuri ได้สำเร็จในการเทเลพอร์ตไปยังมอสโกก่อนที่ Chronosphere ดั้งเดิมจะถูกค้นพบและยึดครองโดยฝ่ายสัมพันธมิตรสำนักงานใหญ่ของ Epsilon ประสบความสูญเสียอย่างน่าสยดสยองที่เทือกเขาเพนซาโคลา แต่พวกเขาได้นำ Libra(ลิบร้า) กลับมา ซึ่งก่อนหน้านี้เคยต่อสู้ในทะเลเวดเดลล์ และวางแผนที่จะพาเธอไปที่รถ Driller มุ่งหน้าไปยังส่วนกลางของขั้วโลกใต้และปล่อยให้เธอเข้าไปในหอคอยของยูริ ขณะที่ Paradox Engine ใกล้เข้ามาและใกล้กับขั้วโลกใต้มากขึ้น ระหว่างทาง Libra ได้ทำลายกองกำลังพันธมิตรอย่างรุนแรง เคลียร์เส้นทาง และหลบหนีการไล่ล่าของ Allied Charon Tanks - พวกมันยังสามารถต่อต้าน Libra อันทรงพลังได้อย่างง่ายดาย เมื่อพบกับ Rahn เขาและ Libra เข้าร่วมกองกำลัง เข้าไปใน Driller ที่รอคอยมานาน และมุ่งหน้าไปยังฐานหลัก
[การค้นพบที่ไม่คาดคิด]
ขณะที่ยูริเตรียมการของเขาอย่างเร่งด่วนและกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรยอมให้กลุ่มพันธมิตรยูโรโจมตีแนวป้องกันของเทือกเขาเพนซาโคลาต่อไป พวกเขาก็ปล่อยให้กองกำลังผสมที่ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกาและแนวรบด้านแปซิฟิกออกสำรวจพื้นที่ลึกลงไปพร้อม ๆ กัน . พวกเขาค้นพบถังชีวภาพจำนวนมากที่เก็บร่างโคลนที่ไม่รู้จัก และตัดสินใจจับกุมโคลนทั้งหมดเพื่อศึกษาพวกมัน
เมื่อกองเรือฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ามาในพื้นที่นี้ พวกเขาพบและยิงป้อมปราการทางอากาศ Irkalla ซึ่งโผล่ออกมาจากใต้ทะเลฝ่ายสัมพันธมิตรกำจัดกองกำลังป้องกันชายฝั่งของเอปซิลอนได้อย่างง่ายดาย และสร้างฐานทัพหน้าสองฐาน หลังจากการก่อสร้างพื้นฐานของฐานทั้งสองเสร็จสิ้น กองกำลังพันธมิตรในท้องถิ่นได้รับต้นแบบเรือนจำเคลื่อนที่ Chrono Prison หลายตัวเพื่อจับกุมร่างโคลนที่จะหลบหนีเมื่อโผล่ออกมาจากถังชีวภาพ เพื่อความปลอดภัย ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงตัดสินใจกำจัดกองกำลังป้องกันทั้งหมดของ Epsilon HQ และเมื่อพื้นที่ปลอดภัย พวกเขาจะทำลายรถถังทีละคันและนำร่างโคลนออกมาเพื่อจับกุม
หลังจากการเผชิญหน้ากันเป็นเวลานาน ในที่สุด ฝ่ายสัมพันธมิตรก็กำจัดกองบัญชาการเอปไซลอนทั้งหมดในภูมิภาคนี้ และใช้เรือนจำโครโนอย่างระมัดระวังเพื่อจับกุมร่างโคลนทุกคนที่หลบหนีออกจากถังชีวภาพ ในที่สุด โนริโอะก็มาคุ้มกันเรือนจำ Chrono พร้อมกับร่างโคลนที่ถูกจับกุมทั้ง 24 ตัว และส่งพวกเขาไปยังพื้นที่ใหม่เพื่อทำการวิจัย ในขณะที่กองทหารที่เหลือจะเดินหน้ารุกลึกเข้าไปในทวีปหรือตั้งตำแหน่งกองหลังเพื่อปกปิดกองกำลังกำลังหลักที่จะโจมตีเอปไซลอน ฐานขั้วโลกใต้.
สิ่งที่ฝ่ายสัมพันธมิตรไม่ทราบก็คือ ปฏิบัติการนี้เป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบการต่อสู้ - สำหรับการกระทำของพวกเขา ในไม่ช้าพวกเขาจะรู้จักสิ่งที่เรียกว่า "สิ่งประดิษฐ์" ของเอปไซลอน...
[การจุ่โจมบุกขั้วโลกใต้ของกลุ่มสัมพันธมิตร]
พลังอันแท้จริงของ Paradox Engine นำกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรเคลื่อนตัวไปยังขั้วโลกใต้ ขณะที่กองกำลังพันธมิตรที่เหลือกำลังสำรวจความลับของเอปซิลอนจากฐานทัพต่างๆ ทั่วทั้งทวีป กองทัพของผู้บัญชาการสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตร กองทหารกางเขนใต้ และกองทหารบูมเมอร์แรงได้รวมตัวกันรอบๆ ฐานบัญชาการขั้วโลกใต้ โดยมีเป้าหมายที่จะทำลายแนวป้องกันของเอปซิลอนหลายวงรอบหอคอย กองทัพทั้งสามที่เข้ามาในฐานบัญชาการเอปซิลอนได้ทำลายแนวรับชั้นนอกสุดอย่างรวดเร็วและจัดวางตำแหน่งของตน จากนั้นจึงยืนยันการวางแนวป้อมปราการรอบหอคอยที่เรียกว่า Mental Omega Device และหลังจากนั้นไม่นานก็ส่งกองกำลังทางอากาศลึกเข้าไปในพื้นที่แกนกลาง เพื่อการสอดแนมต่อไป อย่างไรก็ตาม ฝ่ายพันธมิตรก็ตัดสินใจรอ Paradox Engine และกำลังเสริมที่เหลือเพื่อเข้าสู่สนามรบก่อนจะโจมตีต่อ สามกองทัพเลือกที่จะยันและป้องกันตำแหน่งของตนก่อนด้วยอุปกรณ์ล่าสุดของฝ่ายพันธมิตรและจัดการปิดการใช้งาน Dybbuk Hive ซึ่งเป็นฐานปล่อยยานขับไล่ไร้คนขับอยู่ใกล้กับพวกเขา หลังจากได้ป้องกันตำแหน่งได้นานพอ Paradox Engine ก็เข้าสู่ฐานบัญชาการที่ขั้วโลกใต้ โดยมีกองกำลังพันธมิตรยุโรปคอยคุ้มกัน การปรากฏตัวของมันทำให้ฝ่ายพันธมิตรสามารถเดินหน้าต่อไปยังโซนกลางได้ ฝ่ายสัมพันธมิตรค้นพบว่าโครงสร้างทั้งหมดภายในฐานหลักของ Epsilon HQ ได้รับการคุ้มครองโดยบาเรียพลังจิตที่จัดเตรียมโดยอุปกรณ์เก้าชิ้นภายในฐานที่เรียกว่า Mental Dynamo เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงเล็งเป็นเป้าหมายหลักในทันที และใช้ chronoshift ต่อไปเพื่อเคลื่อนย้ายกองกำลังเฉพาะกิจที่เตรียมไว้ไปยังพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Mental Dynamos ด้วยการใช้ chronoshift ได้อย่างยืดหยุ่นและการใช้อาวุธสนับสนุนระยะไกลอย่างกว้างขวาง ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ทำลาย Mental Dynamos ทั้งหมดในที่สุด อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าพันธมิตรก็ได้ค้นพบว่าการทำลาย Mental Dynamos ทั้งหมดไม่ได้ทำให้บาเรียพลังจิตนั้นปิดไปการป้องกันฐานแกนกลางซึ่งเป็นที่ตั้งของหอคอย และสรุปได้ว่าเอปไซลอนควรมีอุปกรณ์อื่นอยู่ใต้ฐานแกนหลัก หลังจากเคลียร์กองกำลังเอปไซลอนทั้งหมดบนพื้นดินนอกฐานหลักแล้ว ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ปรับการวางตำแหน่งปิดล้อมทันที และจอด Paradox Engine ที่ฐานผู้บัญชาการทหารสูงสุดเพื่อชาร์จแบตเตอร์รี่เพิ่ม Tanya และ Siegfried ไปยังพื้นที่ใต้ดินเพื่อสำรวจอุปกรณ์ป้องกันขั้นสุดท้าย แม้ว่าพันธมิตรจะล้อมหอคอยไว้ แต่ก็ไร้ประโยชน์ที่จะถืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดไว้จนกว่า Mental Dynamo ตัวสุดท้ายจะถูกทำลาย
[โจมตีหอคอยมหึมาของยูริ…อยู่ระหว่างการบันทึก]
เนื่องจากผลของ Mental Dynamo ตัวสุดท้าย กองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรบนพื้นดินจึงทำอะไรไม่ได้หลังจากจัดวางตำแหน่งใหม่ โดยรอให้ทั้งคู่กลับมาจากฐานใต้ดินลึก การเสียเวลานี้มาพร้อมกับผลที่ตามมาอันร้ายแรง: ตำแหน่งของ กองกำลังกางเกขใต้ ถูกกองหนุนที่ส่งมาจาก Epsilon อย่างท่วมท้น และฝ่ายพันธมิตรก็ล้มเหลวในการป้องกันไม่ให้ทหารระดับสูงของ Epsilon กลับมาที่หอคอยของฐานหลัก แม้ว่าทั้งคู่ที่อยู่ใต้ดินลึกจะทำลาย Dybbuk Hives สองตัวสุดท้ายที่ปกป้องฐานแกนกลาง แผนของฝ่ายสัมพันธมิตรที่จะใช้ Paradox Engine เพื่อทำลายหอคอย แต่ก็ล้มเหลวอีกครั้ง เนื่องจากการกลับมาของซุปเปอร์โซลเจอร์ เมื่อฝ่ายพันธมิตรพยายามอย่างเต็มที่เพื่อโจมตีฐานหลักของ Epsilon ศัตรูก็พร้อมที่จะเปิดใช้งานหอคอยและเปิดใช้งานทันที ซึ่งบังคับให้พันธมิตรใช้พลังงานที่สำรองไว้โดย Paradox Engine เพื่อเปิดใช้ Time Freeze ล่วงหน้า การปล่อยพลังจิตที่ไม่สมบูรณ์ส่งผลให้มีเพียงกองกำลังพันธมิตรที่เหลืออยู่ในสนามรบแอนตาร์กติกเท่านั้นที่รอดพ้นจากภัยพิบัติ ฝ่ายพันธมิตรทำได้เพียงย้าย Paradox Engine ให้อยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยสำหรับการชาร์จใหม่
การสูญเสียตำแหน่งเกือบครึ่งทำให้ฝ่ายพันธมิตรและเอปซิลอนเข้าสู่ภาวะทางตัน ฝ่ายพันธมิตรวางแผนที่จะปรับโหมดการทำงานของ Weather Controllers เครื่องควบคุมสภาพอากาศที่เหลืออยู่ในขณะที่ต่อต้านการโจมตีต่อเนื่องของ Epsilon โดยรับการชาร์จระยะยาวเพื่อแลกกับการโจมตีถาวรเกือบทั้งหมดบนหอคอย อย่างไรก็ตาม เอปซิลอนขัดขวางทุกวิถีทางที่ฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถยึดครองได้ ซุปเปอร์โซลเยอร์ของพวกเขา ลิบร้า ด้วยความช่วยเหลือจากกระเป๋าเป้โครโนที่ถูกขโมยไป ได้เทเลพอร์ตไปยังบริเวณใกล้เคียงฐานทัพพันธมิตรหลายแห่งอย่างรวดเร็ว และทำลายเครื่องควบคุมสภาพอากาศที่อัดพลังงานเข้มข้นสูงทั้งหมดที่ยังคงทำงานอยู่ทันที กองกำลังโซเวียตที่ควบคุมโดยจิตใจและสัมพันธมิตรที่ได้รับผลกระทบจากชีพจรพลังจิตครั้งก่อนได้พุ่งเข้าไปในสนามและทำลายตำแหน่งพันธมิตรที่เหลือทั้งหมด โชคร้ายไม่ได้มาโดยลำพัง หน่วย Rocketeers ที่เหลือนั้นได้เข้าไปในสนามเพื่อรายงานการเสียชีวิตของ Norio ที่พลาดท่าให้กับลิบร้าระหว่างต่อสู้แบบตัวต่อตัว
ฝ่ายพันธมิตรที่สิ้นหวังไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องย้ายกองกำลังที่เหลือรอดทั้งหมดไปยังพื้นที่ปิดของฐานทัพอากาศเอปไซลอนเดิม เมื่อเห็นสิ่งนี้ เอปไซลอนก็ได้ติดตั้งเครื่องกระจายพลังจิตสองตัวทันทีเพื่อบังคับให้ฝ่ายพันธมิตรริเริ่ม ทำให้พันธมิตรต้องเผชิญการต่อสู้เชิงรับโดยสมบูรณ์อีกครั้ง หลังจากที่ Paradox Engine ถูกชาร์จจนเต็มแล้ว ฝ่ายพันธมิตรสามารถออกกำลังเต็มที่ ส่งทรัพยากรสำรองและพลังการต่อสู้หลักทั้งหมดไปยังจัตุรัสด้านหน้า และบุกไปยังหอคอยอีกครั้ง….
ณ ขั้วโลกใต้ แอนตาติการ์
.
.
.
.
ผู้บัญชาการกางเขนใต้ “เราจะกำจัดด่านป้องกันด้านนอกของพวกมันรอบๆหอคอยให้”
ผู้บัญชาการบูมเมอร์แรง “ลงมือเลย นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว!”
ผู้บัญชาการสูงสุด “ยานพาราด็อกพร้อมแล้วที่จะปิดฉากสงครามครั้งนี้แล้วตอนนี้ดูว่าภัยคุกคามที่แท้จริงอยู่ที่ไหน ลิบร้านั้นไม่ได้แข็งแกร่งขนาดที่ว่าเป็นอมตะ หลังจากเปิดใช้งานเตาปฏิกรเวลาพวกเราจะจัดการนางด้วยอาวุธปริซึมทันที”
ยานพาราด็อกเอ็นจิ้นทำการบินขึ้นฟ้าอีกครั้งผู้บัญชาการกางเขนใต้และบูมเมอร์แรงได้ส่งรถ MCV ไปยังจัตุรัส 2 คันพร้อมหน่วยรบรถหุ้มเกราะคุ้มกันเพื่อซื้อเวลาให้ MCV ได้ขยายฐานด่านป้องกันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และถ่วงเวลาการโจมตีของพวก Epsilon แต่ขยายฐานได้ไม่นานนัก ลิบร้าที่หลังจากคุ้มกันหอคอยมาพักใหญ่เริ่มเคลื่อนตัวมายังแนวจัตุรัสทันทีพร้อมได้นำปราการลอยฟ้าอรคัลลาและราห์นก็มาคุ้มกันด้วย หน่วยคุ้มกันเห็นท่าทีไม่ดีนักก็ได้เข้าจู่โจมลิบร้าทันทีโดยไม่สนว่านางจะแข็งแกร่งแค่ไหน
ลิบร้า “เปล่าประโยชน์น่าไอพวกแมลงเม่า!!”
นางได้ตะโกนสุดเสียงพร้อมปลดปล่อยพายุพลังจิตได้โห่มกระหน่ำใส่กองกำลังที่เข้าโจมตีเธอพวกเค้าไม่มีเวลาตอบโต้เลยแม้แต่น้อยแม้แต่การโจมตีต่างๆที่เข้าตัวเธอจะถูกพายุพลังจิตหักล้างจนหมด พร้อมโดนลูกดอกหัวระเบิดของนางทำลายในพริบตา
ผู้บัญชาการสูงสุด “เลี่ยงการปะทะโดยตรงมีอะไรที่ป้องกันได้ก็เอามาป้องกันยานเลย พวกเราจะเข้าตำแหน่งโจมตีรอบสุดท้ายแล้ว เตรียมเทเลพอร์ตกองกำลังจู่โจมทั้งหมด”
ผู้บัญชาการเห็นท่าทีไม่ดีด้านความสามารถของนาง เลยสั่งการยานพาราด็อกเคลื่อนตัวไปยังแนวจัตุรัสพร้อมเรียกหน่วยป้องกันรวมถึงกองกำลังจู่โจมภาคพื้นออกมาเท่าที่มีเหลืออยู่ในตอนนี้ทั้งหมด และสิ่งที่ไม่มีใครที่อยากจะได้ยินในสถานการณ์เวลานี้ก็ดังขึ้น
Allied EVA [คำเตือน!! ปืนใหญ่ปริซึ่มถูกปิดการใช้งานทั้งหมด พวกเราโดนแฮกระบบจากภายในยาน!]
เสียงคำเตือนของ EVA นี้ได้กระจายไปทั้วทั้งยานพาราด็อกและฐานฝั่งบัญชาการที่ราบสูงแบบปิดของสัมพันธมิตรทั้ง 3 ความตื่นตระหนกของหน่วยรบได้ส่งออกไปยังแนวจัตุรัส
ซิกฟรีด “กบฎหรอ!?..ไม่สินี่มันฝีมือของไอสาวกนั้นแน่ๆ มันส่งคนเข้ามาในยานตอนไหนกัน”
เค้าพูดในท่ามกลางฐานที่ราบสูงแบบปิด ทันย่ากับหน่วยที่เหลือของพวกเธอก็มีสีหน้าที่เคร่งเครียดเป็นอย่างมาก แผนการทุกอย่างล้มเหลวไม่เป็นท่าตั้งแต่เริ่มต่อให้เปิดระบบปืนใหญ่ปริซึมใหม่ก็ใช้เวลานานเกินไปหอคอยนั้นจะถูกเปิดใช้งานอีกครั้งตอนไหนก็ไม่มีใครรู้
ซิกฟรีด “แสดงว่าไอยูรินั่นน่าจะรู้เกี่ยวกับมิติกระเป๋าของพวกเราแล้ว ยานตอนนี้ก็มีพลังงานเต็มที่แล้ว แต่ว่าเรายังขาดพลังโจมตีที่จะทำลายหอคอยเวรนั้น!”
ซิกฟรีดได้ตะโกนออกมาเพราะจนมุมกับสถานการณ์แบบนี้ แต่แล้วเสียงของผู้บัญชาการสูงสุดก็ได้ดังออกมาผ่านหูฟังของทันย่าและซีกฟรีดรวมถึงทุกคนที่อยู่ภายในยานพาราด็อก
ผู้บัญชาการสูงสุด “เรายังเหลือทางออกอยู่นะ”
ทันย่า “ทฤษฎีนั้นนะหรอ พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นไปได้ไหม”
นางได้พูดแทรกเข้ามา พลางยิงพวกหน่วยของพวก Epsilon ที่ลอบเข้ามาได้ ซีกฟรีดที่อยู่ข้างๆได้พูดขึ้นมา
ซิกฟรีด “ไม่รู้ แต่…พวกเราไม่เหลือตัวเลือกอื่นแล้วละ”
ผู้บัญชาการได้มองไปยังลูกเรือของตนเอง ทุกคนในยานก็ได้เข้าใจในสิ่งที่เขาได้สื่อออกมาพร้อมลุกขึ้นทำความเคารพทุกคน เค้าก็ได้ทำความเคารพทุกคนภายในยานก่อนจะพูดกลับไปในสาย
ผู้บัญชาการสูงสุด “พวกเธอยังต้องลงไปที่สนามรบ…นี่คือคำสั่ง”
.
.
.
ผู้บัญชาการสูงสุด “สละยานพาราด็อกไปสะ”
กองยานคุ้มกันก็ได้เคลื่อนนำหน้ายานพาราด็อกทันทีและเบี่ยงไปทางฐานกางเขนใต้ด่านหน้าจัตุรัส หลังจากนั้นก็ทำการใช้โครโนสเฟียเรียกหน่วยยานยนต์ที่พร้อมภายในยานทั้งหมดลงสนามรบเข้าจู่โจมฐานรอบๆของพวกมันที่คอยป้องกันหอคอย หน่วยเวหา
.
กองทัพของทางฝั่งกองกำลัง Epsilon เองก็เริ่มรู้สึกแหม่งๆกับการกระทำของผู้บัญชาการฝั่งสัมพันธมิตรเลยระดมพลทหารทุกหน่วยและทุกนายไปยังแนวจัตุรัสอย่างเร่งด่วน สาวกพอเซอร์ไลท์ก็ได้สั่งให้หน่วยอากาศยานทดลองซลามันเดอร์ทั้ง 4 ลำเข้าป้องกันหอคอยไว้
ลิบร้า “เด่วสิเห้ย!! ปิดระบบปืนใหญ่ปริซึมได้แล้วไม่ใช่หรอ ไหงมันยังมุ่งหน้าเข้าหาหอคอยนี่กัน!”
ราห์น “ยังไงก็เถอะชักจะเริ่มรู้สึกไม่ดีกับแผนของพวกมันแล้ว อย่าให้มันไปถึงหอคอยเป็นอันขาด!!”
ลิบร้าได้มุ่งเทเลพอร์ตเข้าโจมตียานพาราด็อกด้วยกระเป๋าโครโน่ที่ได้รับมาตั้งแต่แรก แต่ว่าทางฝั่งพันธมิตรเองก็ได้เทเลพอร์ตกองกำลังมายังตำแหน่งของลิบร้าเพื่อถ่วงเวลาไม่ให้นางเข้าใกล้ยานพาราด็อกได้
เธอเองก็ไม่ได้ปล่อยให้เป็นฝ่ายถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว ลิบร้าก็ปล่อยระเบิดพลังจิตปิดการใช้งานยานเกราะทันทีและฝ่าดงศัตรูไปหายานพาราด็อกที่กำลังมุ่งหน้าไปยังด่านหน้าของฐานกางเขนใต้ พลางหลบการโจมตีทางอากาศของฝูงเครื่องบินรบที่ทิ้งระเบิดใส่นางอย่างกับห่าฝน
พอเซอร์ไลท์ “ทันย่ากับซิกฟรีดลงมาที่สนามรบแล้ว ระวังละซิกฟรีดมันเอาปืนนิวตรอนมาด้วย”
ลิบร้า “รู้แล้วน่าๆ ฉันไวพอที่จะหลบได้สบายมาก”
พอเซอร์ไลท์ “เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นกองกำลังของพวกเราที่มีอยู่ตอนนี้ไม่พอที่จะช่วยเธอป้องกันแน่ บอกราห์นด้วยละรักษากองกำลังที่เหลืออยู่และใช้ให้คุ้มที่สุดเข้าใจนะ!”
ลิบร้า “ค้า ค้า เข้าใจแล้ว ที่นี้หุบปากไปและคอยดูฉันจะดีกว่านะ”
นางพูดตัดบทการสนทนาไปตอนนี้เธอโฟกัสพวกที่เข้าโจมตีหอคอยมากกว่าพวกที่ถ่วงเวลาพวกเค้า ราห์นได้สั่งการโจมตีพวกที่เข้ามาถ่วงเวลา
กองกำลังระดับสูงที่น้อยกว่าของพวกเขาตอนนี้ได้ประจันหน้าสู้กับยานเกราะของสัมพันธมิตรที่เทเลพอร์ตลงสนามมาเรื่อยๆอย่างดุเดือด ปล่อยให้ลิบร้าไปจัดการฝูงยานบินคุ้มกันและยานพาราด็อกไปด้วยตัวเอง
ลิบร้า “ต้องรีบแล้-”
นางรับรู้ได้ถึงอันตรายมาจากฝั่งซ้ายพร้อมหลบลำแสงปืนนิ้วตรอนที่ซีกฟรีดยิงมาทางเธอพร้อมใช้พลังจิตโยนซากรถถังเข้ามาปัดป้องเลเซอร์ของทันย่าที่ยิงเข้ามาเรื่อยๆ
ทันย่า “อย่าหวังได้ไปกันหอคอยเชียว”
ซิกฟรีด “อย่าปล่อยให้นางได้จังหวะ!”
ทันย่าเควี้ยง C4 ใส่ลิบร้าและนางยิงเลเซอร์ใส่ C4 ระเบิดกลางอากาศ ลิบร้าที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยเสียการควบคุมพลังจิตของเธอไปชั่วครู่ก่อนจะหลบปืนเลเซอร์ที่ยิงมาไม่หยุด ซิกฟรีดเองไม่ปล่อยให้ลิบร้าได้จังหวะสวนกลับก็ยิงปืนนิวตรอนเข้มข้นสูงใส่นางและคอยวาปหลบฝุ่นพลังจิตและลูกดอกระเบิดของเธอ
ทันย่า “ชิ ถ้าไม่ติดที่ว่าที่นี่มันหนาวนะ”
ลิบร้า “ไวเป็นแมลงสาบจริงๆ หน่วยรบพิเศษกับนักวิจัยภาคสนาม พวกแกชื่ออะไร”
ทันย่ายิงจนตัวปืนโอเวอร์ฮีททำให้ปืนร้อนเกินไปที่จะยิงต่อ แต่นางยังเหลือปืนพก 2 กระบอกป้องกันตัวอยู่ระหว่างนี้เลยเล่นไปตามน้ำของลิบร้า
ทันย่า “เธอน่าจะรู้ชื่อฉันแล้วนะ”
ลิบร้า “คิคิ งั้น…อืม..ว่าแต่จะพูดอะไรนะลืม”
ลิบร้าได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงขี้เล่นปนซาดิสที่คาดเดาไม่ได้ของเธอ ทันย่าไม่ปล่อยโอกาสนี้รีบชักปืนพกคู่ประจำตัวของเธอออกมายิงใส่ลิบร้าเข้าจุดตายอย่างแม่นยำแต่นั้นเป็นสิ่งที่นางได้คาดการไว้แล้ว เธอใช้พลังจิตสร้างพายุฝุ่นที่รุนแรงพอที่จะทำลายรถถังเกราะหนาๆอย่างรถถัง Apocalype ได้เพียงไม่กี่วินาทีปัดป้องกระสุนที่ทันย่ายิงมาทั้งหมด
ลิบร้าเองก็เริ่มรู้ว่าตนเองเสียเวลาไปเยอะพอแล้วเลยจะรีบมุ่งหน้าไปยังหอคอยให้เร็วที่สุดด้วยกระเป๋าโครโน่ นางเลยปาลูกดอกระเบิดแรงสูงใส่ซีกฟรีดและทันย่าเพื่อเปิดทางอย่างรวดเร็ว ทันย่าเองก็ได้รับบาดเจ็บที่แขนของเธอเพราะหลบลูกดอกระเบิดไม่พ้น
ทันย่า “อั๊ก!!! ซีกฟรีดอย่าปล่อยให้ยัยนั้นไปถึงยาน!!”
ซิกฟรีด “เปิดเลย เด่วนี้!!”
ซิกฟรีดตะโกนออกมาใส่หูฟัง จู่ๆมีการแจ้งเตือนเข้ามาในหูฟังของลิบร้า
Epsilon EVA [คำเตือน - ตรวจพบความผิดปกติของคลื่นเวลา! พวกเราอยู่ในระยะของยา-]
อีวาของพวกเอปไซลอนไม่ทันได้เตือนจบคลื่นกาลเวลาก็ได้แพร่กระจายไปทั่วบริเวณหอคอยและจัตุรัส กองกำลังเอปไซล่อนทั้งหมดถูกแช่แข็งในคลื่นเวลายกเว้นลิบร้าคนเดียวที่มีกระเป๋าโครโน่ ทันย่าเองก็พึ่งสังเกตุเห็นว่าเธอมีกระเป๋าโครโน่ที่ไม่ควรจะไปอยู่ในมือของเธอ
ทันย่า “ยัยนั้นมีกระเป๋าอยู่!”
ซิกฟรีด “ระวั-”
ซิกฟรีดกับทันย่าเองไม่ทันได้ตั้งตัว ลิบร้าได้ใช้ระเบิดพลังจิตใส่พวกเค้าจนได้รับบาดเจ็บบังคับให้พวกเค้าวาปกลับไปยังฐานที่ราบสูงและใช้กระเป๋าโครโน่เทเลพอร์ตตนเองไปยังใต้หอคอยทันที
ลิบร้า “ปล่อยให้ฉันจัดการเอง พอเซอร์ไลท์, นี่เป็นสิ่งที่คุณได้แสดงให้ฉันได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวฉันเอง”
.
ทางฝั่งของทางยานพาราด็อกเองก็ได้เคลื่อนตัวมาใกล้หอคอยเรื่อยๆ แต่ว่ายานซลามันเดอร์ที่ทางพวกเค้าไม่เคยเห็นมาก่อนได้กระหน่ำอาวุธ ARO ที่ติดอยู่ใต้ยานของมันโจมตียานคุ้มกันรอบๆ อย่างรวดเร็ว
ฮอ.วอร์ฮ็อคกับฮอ.ไคโร ที่ไม่มีขีดความสามารถต่อสู้อากาศยานก็รีบถอยกลับอย่างรวดเร็วปล่อยให้ยานเกราะลอยฟ้าธอร์รุมกำจัดยานซลามันเดอร์ ระหว่างนี้ยานพาราด็อกเองก็ถือโอกาศเข้าไปใกล้หอคอย
ซิกฟรีด “เตรียมระบบและอุปกรณ์ทุกอย่างทำการโอเวอร์โหลดอุปกรณ์เลย เร็ว!!”
ผู้บัญชาการสูงสุด “ลูกเรือกำลังโอเวอร์โหลดอุปกรณ์อยู่ แล้วลิบร้าอยู่ไหน!”
ซีกฟรีด “ยัยนั้นมันวาปไปอยู่ใต้หอคอยนั้-”
ซิกฟรีดเองยังพูดไม่ทันจบมีสายฟ้ายิงมาจากด้านใต้ของหอคอยใส่ตัวเครื่องยนต์ไอพ่นของยาน ในตอนนี้ตัวยานเองมีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
พลขับยาน “สายฟ้านั้นรุนแรงมาก! ระบบควบคุมการบินได้รับความเสียหาย!!”
ลิบร้าได้ปล่อยสายฟ้าพลังจิตเข้าสู่เครื่องยนต์ไอพ่นของยานพาราด็อกอย่างบ้าคลั่งด้วยพลังทั้งหมดที่เธอมีในตอนนี้
ลิบร้า “จะทำลายหอคอย ก็ข้ามศพฉันไปก่อนสะ!!!!!!”
เครื่องยนต์ไอพ่นของยานตอนนี้ก็เริ่มเกิดประกายไฟขึ้นด้วยความร้อนของสายฟ้าที่นางปล่อยออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง นางเริ่มรู้สึกได้ถึงความอันตรายจากด้านหลังของเธอแบบเดียวกับก่อนหน้านี้บังคับให้นางวาปหลบ
ซิกฟรีดที่ฝืนวาปกลับมายิงลำแสงนิวตรอนเองก่อนที่จะรีบวาปกลับไปยังฐานที่ราบสูงแบบปิดเพื่อหลบหนีจากเงื่อมมือของลิบร้า
สายฟ้าพลังจิตที่ปล่อยขาดช่วงของนางก็ได้เฉียงขึ้นพ้นเครื่องยนแต่ว่าไปทำให้ไอพ่นด้านขวาของยานระเบิดไปแค่จุดเดียว
.
ระบบการโอเวอร์โหลดภายในยานก็ล้มเหลวเพราะตัวของยานบังคับปิดระบบป้องกันการระเบิดทั้งตัวยาน แต่ด้วยไอพ่นด้านขวาของยานได้ระเบิดเสียทำให้ระบบการบินรวนขึ้นมา
พลขับยานเองก็บังคับยานไม่อยู่ทำให้ตัวของยานพาราด็อกมุ่งไปยังหอคอยอย่างเลี่ยงไม่ได้
ผู้บัญชาการสูงสุด “ทุกคนหาที่เกาะให้แน่น!!!”
พลขับยาน “จะปะทะแล้ว!!!”
||บรึ้มมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!||
แรงปะทะของยานพาราด็อกกับหอคอยทำให้เกิดคลื่นระเบิดมหาศาล สิ่งมีชีวิต ยานเกราะและอากาศยานที่อยู่ในรัศมี 400 เมตรได้รับผลกระทบจากคลื่นระเบิดอย่างรุนแรง ลิบร้าที่อยู่ในระยะเองก็ได้รับบาดเจ็บจากคลื่นระเบิดนี้
ข่าวร้ายของฝ่ายสัมพันธมิตรตอนนี้ได้เป็นข่าวที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว การพุ่งชนของยานพาราด็อกนั้นไม่สามารถทำลายหอคอยที่สูงตระหง่านได้เลยอย่างมากทำให้ตัวของหอคอยได้รับความเสียหายจนเสียรูปเพราะไม่ได้ชนเข้าแบบเต็มๆ
ลิบร้าตอนนี้นางได้โห่ร้องออกมาด้วยความโล่งใจที่สุดของเธอที่สามารถป้องกันไม่ให้หอคอยที่เป็นกุญแจสำคัญสำหรับเธอถูกทำลาย ส่วนสัมพันธมิตรตอนนี้ก็อยู่ในภาวะสิ้นหวังที่สุดแล้วการทำลายหอคอยของพวกเค้านั้นล้มเหลวไม่เป็นท่าและยานพาราด็อกตอนนี้ก็เสียหายหนักจนต้องจอดฉุกเฉินบนภูเขาสูงที่อยู่ใกล้ส่วนกลางจัตุรัส
กองทัพเอปไซล่อนตอนนี้ได้ส่งหน่วยไล่ล่ากองกำลังของสัมพันธมิตรที่เหลือรอดทั้งหมดภายในขั้วโลกใต้ โดยมีราห์นเป็นคนนำกองทัพ ทางด้านฐานทัพที่ราบสูงแบบปิดพยายามป้องกันพวกเค้าเองแบบสุดชีวิตถึงแม้พวกเค้าเองก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าตนเองหมดหวังที่จะรอดกลับไปได้
การติดต่อไปยังผู้บัญชาการสูงสุดบนยานพาราด็อกในตอนนี้ถูกตัดขาดสมบูรณ์และสัญญาณการสื่อสารตอนนี้ก็วุ่นวายสุดๆ ซิกฟรีดและทันย่าได้ยอมฝ่าวงล้อมของกองทัพเอปไซล่อนที่คอยไล่ล่าพวกเค้าไปยังจุดตกของยานพาราด็อกเพื่อหาผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่ในตอนนี้
ณ ภูเขาสูงใกล้ส่วนกลางของจัตุรัส 3 ชั่วโมงหลังจากยานชนเข้ากับหอคอย
เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งที่ขับฝ่าวงล้อมมาจนถึงภูเขาสูง และได้เห็นผู้รอดชีวิตกำลังป้องกันตำแหน่งของพวกเค้าด้วยอาวุธคลังแสงกับยานเกราะที่หลงเหลืออยู่
ทันย่า “เวรเอ้ย! ยัยนั้นดันสอยยานล่วงด้วยตัวคนเดียวง่ายๆเลยหรอ!”
ซิกฟรีด “มันจบแล้วละ ยานชนหอคอยแบบเฉียดเกินไป พลขับจอดตรงลานกว้างตรงนั้นที”
พลขับฮอ. “ทราบครับ”
ซิกฟรีดสั่งให้ ฮอ. ลงจอดลงตำแหน่งใกล้ๆยานทันที ทันย่าได้ส่งทีมช่วยเหลือและทีมแพทย์ที่นำมาด้วยลงไปรักษาคนบาดเจ็บที่อยู่รอบๆยานพาราด็อกทันที ข่าวดีคือหลังจากฮอ.ได้จอดลง ทันย่าได้เห็นผู้บัญชาการยังไม่ตายแต่อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสสุดๆ ทันย่ารีบเข้าไปดูอาการและเรียกคนหน่วยแพทย์มาทางเธออย่างด่วนที่สุด
แพทย์ “อยู่นิ่งๆนะครับ”
ทีมแพทย์ส่วนหนึ่งก็เริ่มทำการปฐมพยาบาลทันที
ผู้บัญชาการสูงสุด “แค๊กๆ!……ข้าคงฝืนมากไปสินะ”
ทันย่า “ไม่เลยค่ะท่าน ผบ. ท่านทำดีที่สุดแล้ว…แต่พวกเราจะทำยังไงกันดีละ หน่วยกองพันโครโน่และโนริโอะตายหมดแล้ว”
ผู้บัญชาการสูงสุดได้นึกถึงช่วงที่มีการติดต่อแปลกๆที่ทันย่าแจ้งมาคราวนั้น
ผู้บัญชาการสูงสุด “คงเป็นการเสี่ยงสุด แค๊ก!…. พวกเธอลองเชื่อสัญญาณขอความช่วยเหลือนั้นดูละกัน ซีกฟรีดสัญ- แค๊กๆ! ญาณนั้นได้ให้ข้อมูลอะไรบ้าง”
ซิกฟรีด “พวกเค้าบอกว่า ฐานที่มั่นสุดท้ายชาวอเมริกันในอลาสก้าเป็นอิสระแล้ว”
ซิกฟรีดได้ติดต่อไปยังฐานที่ราบสูงแบบปิดตอนนี้กำลังปะทะกับกองทัพเอปไซล่อนอยู่ให้เตรียมโครโน่สเพียร์รุ่นเก่าทันที
ซิกฟรีด “โครโน่สเฟียรุ่นเก่าที่ได้คืนมาจากยูริตอนนี้พร้อมใช้งานแล้ว แต่ว่ามันใช้ขนส่งได้เพียง1อย่างเท่านั้นแค่นี้ก็โล่งใจละ ปัญหาคือจะใส่เข้าไปในยานได้หมดไหมเนี่ยสิแต่ยังไงก็ช่างต้องอย่าให้พวกมันได้ยานนี่ไป”
ซีกฟรีดได้พล่ามยาวไปตามภาษานักวิจัย ผู้บัญชาการเองก็ได้ลองคำนวนผลคาดคะเนทั้งหมดที่คุ้มที่สุดและอาจพลิกสถานการเลวร้ายให้ลดลงสักนิดก็ยังดี
ผู้บัญชาการสูงสุด “นี่ซีกฟรีด..ทันย่า จุดความหวังมันอยู่ไกลจากที่นี่มากๆ ถ้าพวกเราวาปไปที่นั้นแล้วเป็นกับดัก..พวกเธอต้องระเบิดเจ้ายานลำนี้สะอย่าให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียวให้พวกมันศึกษา”
ซิกฟรีด “ครับท่าน”
ทันย่า “รับทราบค่ะท่าน ผบ.”
การต่อสู้ป้องกันของทหารตามขอบพื้นที่ภูเขานี้ยังดำเนินต่อไปอย่างสิ้นหวัง ขณะที่มีการสนธนาระหว่างทั้ง3 ก็มีทีมช่างเฉพาะกิจได้เดินออกมาจากตัวยานพาราด็อกและได้เปิดวอร์ไปยังหน่วยที่ใกล้ที่สุด
ทหารช่าง “ข่าวดี! มิติกระเป๋ายังใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาและอุปกรณ์โครโน่สเฟียตอนนี้ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์อยู่พลังงานตอนนี้มากพอที่จะพาทุกคนออกไปจากที่นี่ได้2เที่ยว!!”
ทหารช่าง “แต่ข่าวร้ายคือ เตาปฏิกรณ์เวลาเสียหายไปบางส่วนเราไม่สามารถซื้อเวลามากกว่านี้ได้แล้ว!”
ตอนนี้เหมือนเป็นแสงสว่างที่ส่องลงมาให้กับผู้บัญชาการ เค้านึกแผนที่จะออกไปจากที่นี่โดยที่ไม่ทิ้งทุกคนไว้ความคิดที่โครตบ้านี้มันทำให้ตัวของเค้าฝืนยืนขึ้นหลังจากทีมแพทย์ปฐมพยาบาลเค้าเสร็จพอดี
ทันย่ากำลังจะห้ามให้เค้าขยับตัวแต่ว่าผู้บัญชาการก็พูดก่อน
ผู้บัญชาการสูงสุด “ซีกฟรีดนี่อาจเป็นการกระทำที่โครตบ้าที่สุดของเรา แต่ว่าข้าเชื่อว่ามันได้ผลดีที่สุดแน่!”
ซิกฟรีด “ว่ามาเลยครับพวกเรากำลังรอคำสั่งจากท่าน!”
ผู้บัญชาการสูงสุด “แจ้งเตือนไปยังฐานที่ราบสูงให้รวบคนที่รอดชีวิตเข้าไปใน MCV และรีบพับกลับมาให้ไวที่สุด เราจะใช้โครโน่สเฟียที่อยู่ในวาปกลับมาในมิติกระเป๋าให้เร็วที่สุด กางม่านป้องกันให้กับโครโน่สเฟียรุ่นเก่าที่นั่นและใช้มันกับยานพาราด็อกวาปไปที่อลาสก้าทันทีตามตำแหน่งที่สัญญาณขอความช่วยเหลือนั้นบอกมา”
ซิกฟรีดที่ทำตามที่ผู้บัญชาการบอกทันที
ฐานที่ราบสูงแบบปิดตอนนี้ก็คนที่รอดชีวิตรอบๆฐานก็สละยานเกราะรถถังทั้งหมดวิ่งกลับไปใน MCV พร้อมพับและวาปกลับมาในยานม่านป้องกันก็กางใส่โครโน่สเฟียรุ่นเก่าก่อนจะวาป MCV ทั้ง 3 คันกลับเข้าไปในมิติกระเป๋า
ขณะเดียวกันทันย่าเองก็ได้เรียกทุกคนที่อยู่รอบๆกลับเข้ามาในยานให้ไวที่สุด เพราะพวกกองทัพเอปไซล่อนได้ส่งหน่วยโดดร่มขึ้นมาบนเขาแห่งนี้แล้ว
ผู้บัญชาการสูงสุด “เอาละทุกคนเข้าไปเลยเร็วๆๆๆๆ!!!”
ซิกฟรีดเค้าได้ขึ้นเครื่องไซท์ไกสต์ประจำตัว แต่ว่ามีทหารคนหนึ่งได้วิ่งมาหาเค้าด้วยความรีบรน
G.I. 1 “ซิกฟรีดครับ ผมจะทำหน้าที่นี้ให้แทนครับ!”
ซิกฟรีด “ไม่ นายไปขึ้นยานสะ พวกเราไม่มีเวลาแล้-”
ซีกฟรีดยังพูดไม่จบทหาร G.I. คนนั้นได้ตะโกนแทรกเข้ามา
G.I. 1 “ไม่!!! คุณคือคนที่ต้องรอดไปจากที่นี่ผมนะต่อให้ตายยังไงก็ช่างก็สามารถหานายทหารแบบผมใหม่ได้เรื่อยๆ! แต่ว่าคุณนะไม่ ผบ.ยังต้องการคุณอยู่!!”
ซิกฟรีด “….ชื่ออะไรพลทหาร”
ซิกฟรีดลงมาจากยานไซต์ไกสต์ ทหาร G.I. ก็ขึ้นมาขับแทนก่อนจะโยน dog tage ให้ซิกฟรีดก่อนจะเปิด Chrono Freeze แช่ตนเองและทำให้ยานพาราด็อกตอนนี้มีม่านเวลาป้องกันและเป็นการการันตีว่าการเทเลพอร์ตครั้งสุดท้ายนี้จะปลอดภัย
จอห์น “จอห์น วิลสัน”
ซิกฟรีดรับ dog tage มาก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในยานพร้อมกับทันย่า ตอนนี้โครโน่สเฟียรุ่นเก่าได้รับพิกัศแล้วเรียบร้อยแลพกำลังจะส่งตัวยานพาราด็อกไปยังอลาสก้าในไม่ช้า
ซิกฟรีด “ถ้าพวกเราทำสำเร็จ ชื่อของนายจะถูกจารึกไว้ จอห์น วิลสัน ทุกคนจะจดจำนาย”
ซีกฟรีดพูดเป็นคำสุดท้ายก่อนเสียงของเค้าจะหายไปพร้อมกับยานพาราด็อก เวลาเดียวกับที่ราห์นเองก็ได้โดดร่มลงมายังตำแหน่งของจอห์น
ราห์น “เปล่าประโยชน์สำหรับทหารกล้าอย่างแก ตายสะ!”
ราห์นได้สังหารจอห์นด้วยปืนลำแสงอนุภาคของเค้าเข้มข้นสูงทะลุเครื่องไซต์ไกสต์เข้ากลางหน้าอกและกระเด็นออกไปไกลหลายเมตร เค้าได้นอนหอบหายใจอยู่ท่ามกลางความหนาวรอบๆตัวได้แต่หวังว่าสิ่งที่เค้าได้ทำนั้นมันจะออกมาได้ดีที่สุดก่อนที่เค้าจะสิ้นใจในเวลาต่อมา
#เวลาในการลงแต่ละตอนไม่แน่นอนนะครับ เพราะมีงานและโครงการของทางวิทยาลัย#
ความคิดเห็น