ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rejected ถูกหักอกได้ไม่นานก็มีสาวมาปลอบซะงั้น (บางตอน18+)

    ลำดับตอนที่ #1 : Arc 1 - คาเฟ่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 47
      1
      16 พ.ค. 64

     

    1

     

    “นายโดนเธอปฏิเสธเหรอ?”

    “อ่า”

    เด็กหนุ่มคนหนึ่งทำท่าที และน้ำเสียงที่ผิดหวังตอบกลับไปหาเพื่อนๆ ของเขาที่ถามมาทั้งสองคน        

    พวกเขากำลังนั่งคุยกันอยู่ที่ร้านคาเฟ่แห่งหนึ่งที่มีคนอยู่ไม่มากนัก เครื่องดื่มและขนมอบถูกวางเรียงอยู่บนโต๊ะเล็กๆ ที่มีเก้าอีพอสำหรับสามคน แสงแดดยามบ่ายอ่อนๆ ส่องทะลุผ่านกำแพงกระจกที่เผยให้เห็นภายในตัวร้าน นับเป็นบรรยากาศที่ดีมากสำหรับร้านคาเฟ่ที่อยู่ในบริเวณตัวเมือง 

    แต่หากตัดภาพมามองดูบรรยากาศของกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ ก็จะเห็นได้ชัดเลยว่ากำลังตึงเครียดกันอยู่พอตัวเลย 

    “แล้ว.. เธอได้บอกอะไรกับนายมาอีกไหมอะ”

    “อ่า นั้นสิ คนแบบเธอไม่มีทางที่จะปฏิเสธนายไปเฉยๆ แน่”

    เพื่อนของเขา “ก้อง”เด็กหนุ่มเนิร์ดใส่แว่น เปิดปากถามก่อนใคร จากนั้น “นน” เพื่อนสนิทชายของเขาอีกคนหนึ่งที่มีท่าทีน่าเกรงขามในกลุ่มจึงพูดเสริมขึ้นมา 

    “เธอบอกว่าเธอกำลังจะมีแฟนเร็วๆ นี้น่ะ”

    “--แฟนเหรอ? เอาจริงดิ้”

    “เออ สิวะ ฉันก็พึงจะรู้นี้แหละ.. ”

    ก้องทำหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนถามให้แน่ใจ ดูจากสายตาของคนทั่วไปแล้วคงไม่จำเป็นต้องถามให้มากความ ว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ที่สำคัญ คือพูดถึงใครต่างหากละ 

    เอฟ คือคนที่ถูกสายของเพื่อนทั้งสองคนจับจ้องอยู่ ณ ตอนนี้ เขาเป็นเด็กนักเรียนที่กำลังจะได้ขึ้น ม.ปลาย ในอีกไม่นานนี้ เช่นเดียวกันกับเพื่อนของเขาทั้งสองคน 

    เอฟเป็นคนที่มีทักษาด้านภาษา ความจำ และการคาดเดาเป็นอาวุธ เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีฐานะแบบพอใช้ ซึ่งที่บริเวณข้างบ้านของเขาได้เปิดเป็นธุรกิจหอพักเล็กๆ โดยมีน้องสาวของพ่อเขาเป็นเจ้าของ

    นอกจากหน้าตาที่แสนธรรมดา ตามไสตล์พระเอกโชเน็นแล็ว ก็แทบไม่มีอะไรเลยสักอย่าง เรียกได้ว่าครบสูตรพระเอกโชเน็นที่ควรจะมีฮาเร็มซัก 6-7 คนแบบอนิเมะเรื่องอื่นจริงๆ

    แต่ก็ดูเหมือนว่าทักษะด้านการคาดเดาของเขาจะใช้กับผู้หญิงไม่ได้เลยสักนิด ชั่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้ายิ่งนัก สำหรับพวกอกหักแบบเขา ;-;

    “เห้อ..” เพื่อนของเขาทั้งสองคนที่ถูกเรียกออกมาเพื่อพูดคุยในวันหยุดแบบนี้ต่างก็ถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กันราวกับจับเวลาไว้

     

    “หมดหวังแล้ววะ ตัดใจซะเถอะ ต่อให้แกจะจีบเธอต่อไปยันม.6 ก็คงไม่ติดหรอก”

     

    ไอ้นนที่มีท่าทีชำนาญการที่สุด จู่ๆ ก็เปลี่ยนลักษณะท่านั่งขึ้นมา เขาทำหน้าราวกับโล่งใจ จากนั้นจึงยกเท้าซ้ายขึ้นว่างบนหัวเข่าขาขวาแล้วกอดอกสักพัก พูดบอกให้เอฟตัดใจพลางหลับตาลง พร้อมกับยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ 

    คำพูดแบบนั้นทำให้เอฟขมวดขิ้วลงจนต้องเอ่ยปากปฏิเสธขึ้นมาในทันที เด็กหนุ่มไม่อยากยอมรับสถานการณ์แบบนี้ที่เขาต้องเผชิญ ความรู้สึกของเขาแรงซะจนอยากร้องไห้ออกมาซะเดี้ยวนี้

     

    “ฉันก็เห็นด้วยนะ ตอนแรกก็เข้าใจว่าแค่ข่าวลือธรรมดา แต่ถ้าจู่ๆ เล่นเซอร์ไพรส์ว่าเอาจริงกันแบบนี้เห็นทีคงต้องยอมตัดใจจริงๆ และอีกอย่าง เรื่องอกหักหรืออะไรแบบนี้ใครๆ เขาก็เจอกันทั้งนั้นแหละ

    “อะ-”

    “แล้วส่วนใหญ่คนที่ออกมาจากจุดนั้นได้ ก็ได้เริ่มต้นใหม่อะไรใหม่ๆ จนเจออะไรที่ดีกว่าเดิมกันทั้งนั้น ถ้าขืนจมปลักต่อไป ระวังจะได้ไปนรกไม่รู้ตัวนะ”

     

    ก้องยกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วกอดอก เขาหลับตาลงพลางพูดความคิดของตัวเองออกมาเช่นนั้นแล้วพยักหน้าให้ 

    นนที่เห็นท่าทีของก้องก็รีบพูดเสริมประโยคให้ทันที คำพูดของเจ้านนทำเอารู้สึกว่ามันเคยตกนรกยังไงอย่างงั้น 

    เอฟอยากจะเอ่ยปากขัดสักเล็กน้อย แต่ก็ถูกท่าทีที่ดูจริงจังของเพื่อนของเขาข่มเอาไว้ จนเอฟต้องกัดฟันเถี่ยงไม่ออกกับคำพูดของเพื่อนชายทั้งสอง 

    ไอ้ก้องมันเป็นเด็กหัวหมอ ถ้ามันจะพูดอะไรที่ดูฉลาดแบบนั้นขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก แต่ไอ้เจ้านนเนี้ยสิ สมองก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร แค่อาศัยว่ามีประสบการณ์มากกว่าแล้วพูดขึ้นมาแบบนี้เนี้ย โคตรจะน่าหงุดหงิดเลย! 

    เขาคิดเช่นนั้นในใจก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทั้งที่พวกเขาสามคน รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนัก แต่ทำไมมันถึงได้ดูมั่นใจกับคำพูดตัวเองขนาดนั้นกันนะ แต่หากพิจารณาดูแล้วที่พวกเขาพูดออกมาได้คงเพราะไม่เคยอกหักแน่นอน

    “คร้าบๆ .. เรื่องแบบนั้นได้ยินมาจนเอียนแล้ว ขืนปล่อยให้พวกแกพูดต่อหูฉันคงได้พังแน่ๆ(-_-*)”

     

    “แล้วนี้จะเปิดเทอมแล้ว ตั้งจะว่าจะคุยกันหรือเปล่าล่ะ?-”

    “หึ.. ดูไม่ออกหรือไงครับคุณ นน ดูท่าแล้วเจ้าเอฟมันคงตั้งใจว่าจะไม่คุยกับเธออีกเลยชัวร์ ถามแปลกๆ ไม่สมกับที่เป็นผู้ชาญการเลยนะ”

    “พูดอะไรของแกน่ะ”

    ก้องยิ้มออกมาแล้วทำสีหน้าพึงพอใจราวกับภาคภูมิใจในชัยชนะ แล้วตอบกลับมาโดยทิ้งคำถามไว้ให้กับนน นนที่รู้ตัวว่าพูดเรื่องที่ทำให้ดูไม่ฉลาดขึ้นมาหน่อย จึงรีบทำท่าเหมือนไม่รู้เรื่องแล้วดึงหน้านิ่งหวังหักหน้าไอ้ก้องในทันที 

    ส่วนก้องที่นานๆทีจะได้พูดเรื่องที่ตัวเองไม่ค่อยถนัด ก็ถือโอกาสโชว์ความสามารถในการพูดอย่างเอาจริงเอาจังขึ้นมา

    “อย่างน้อยต้องขอขอบใจที่พวกนายยังอยู่นะ ถ้าหลังจากนี้พวกนายย้ายไปเรียนที่อื่นล่ะก็ ฉันตายชัวร์เลย”

    เอฟรู้สึกซาบซึ้งที่เขายังมีเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้คอยอยู่ด้วย การพูดคุยครั้งนี้ทำให้เขาใจเย็นลงได้มาก หากเทียบกับช่วงเวลาที่นอนจิตตกอยู่บ้านหลังโดนปฏิเสธ

    “อย่าพูดอะไรที่ลดคุณค่าตัวเองลงสิคร๊าบ.. ไอ้เอฟ-อกหัก”

    “ขอล่ะถ้าเปิดเทอมแล้วอย่าเรียกฉันด้วยชื่อแบบนั้นนะ ไม่งั้นได้อายบ้านแตกแน่”

    เอฟรี่ตาลงแล้วทำคอตกเล็กน้อยพลางเอ่ยปากพูดออกมาโดยหวังว่าจะไม่โดนเรียกด้วยแบบนั้นอีก

    ก้องรู้จักกับเอฟมาตั้งแต่ประถม เพราะแบบนี้สองคนนี้ถึงได้เป็นที่ปรึกษาที่ดีต่อกันเสมอไม่ว่าจะในสถานะการณ์แบบไหนก็ตาม นนที่เห็นดังนั้นจึงได้แต่นั่งมองอยู่เฉยๆ 

    “คร็าบๆๆ ไอ้เอฟ-อกหัก ถ้าเรียกแบบนี้จะได้มี อ อ่าง สามตัวในชื่อไปเลยนะ เท่ดีออก ”

    “ไม่เท่โว๊ย ถ้าอยากเท่ก็ใช่เองสิ”

    ก้องยิ้มระรื่นแล้วพูดต่อ เอฟจึงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แผวเบา ก้องที่ไม่อยากเถี่ยงอะไรต่อจึงได้แต่เกาหัวแล้วเอ่ยปากพูด “อืม,อ่า”เพียงอย่างเดียว 

    “อืม.. อันที่จริงฉันก็กะไว้แล้วแหละว่าแกจะต้องแห่วแน่ๆ หน้าตาน่ากลัวแบบแกไม่มีใครเข้าอยากได้เป็นแฟนหรอก”

    “เมื่อตะกี้แกว่าไงนะ-- ไอ้นน..” 

    เอฟถูกพูดแทงใจดำใส่ทำเอาขอบตาเขากระตุก เอฟฝืนยิ้มแบบเฝื่อนๆ ในแบบของคนที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาจึงทำได้แต่เงียบปากแบบคนไร้ทางไปต่อก็เท่านั้น

      

    หลังจากนั้นเอฟก็ได้พูดคุยกับเพื่อนของเขาในร้านคาเฟ่นั่นพอสมควร หลังจากนี้เพียงไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะเริ่มเปิดภาคเรียนแล้ว พวกเขาทั้งสามคนตัดสินใจเรียนต่อ ม.4 โรงเรียนเดิม  เช่นเดียวกันกับคนที่หักอกเอฟไปไม่นานนี้ด้วย 

    เอฟคิดว่าจะลองลืมเธอให้ได้สักนิด หากทำได้บ้างล่ะก็อาจจะสามารถทำอะไรสักอย่างที่สามารถผลักดันตัวเองในตอนนี้ขึ้นมาจากหลุมพรางทางความรักก็ได้  เพราะหากเขาต้องเผชิญอยู่กับสถานการณ์นี้ไปอีกสามปีล่ะก็ เขาคงได้ตายด้านทั้งหัวใจแน่ๆ (=^=")

    ลึกๆ แล้วเอฟไม่ได้อยากลืมเธอเลย แต่หากว่าไม่ลองทำตามคำแนะนำของเพื่อนดู ก็คงเป็นการเสียมารยาท  แถมอีกอย่างเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ด้วย ดังนั้นคงมีแต่ต้องฝืนทำเท่านั้น  แต่จะทำน่ะมันไม่ง่าย แค่คิดว่าจะทำก็ยังลำบากใจเลย 

    ถ้ามีอะไรที่เขาทำได้บ้างก็คงจะดี อะไรที่ช่วยเหลือเขาได้ อะไรที่ทำให้เขาหายปวดหัวและปวดใจกับเรื่องของเธอได้มากกว่านี้ จะเช่าแฟนก็คงจะไม่ใช่เรื่องหากไม่ใช่ในญี่ปุ่นหรือในเรื่อง **“kanojo okarishimus” 

    **‘สะดุดรักยัยแฟนเช่า’ อนิเมะและมังงะแนวโชเน็นชื่อดังของญี่ปุ่น

    ยิ่งเป็นสังคมไทยล่ะก็ คงจะได้ประนามว่าเป็นพวก ‘ขายบริการ’ หรืออะไรทำนองนี้แน่ แต่ขายที่ว่าก็ไม่ได้หมายถึง ‘ขายตัว’ เสียหน่อย อาชีพที่ขายบริการก็มีอยู่ถ่มไปไม่ใช่รึยังไง 

    ไม่ว่าจะเด็กเสริฟกาแฟหรือคนเปิดประตูโรงแรม พวกนี้ก็เป็นงานบริการเหมือนกันแท้ๆ

     

    เอฟคิดวนไปไกลถึงเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับบทสนธนาในตอนนี้เลย เมื่อเขารู้สึกตัว เขาก็คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง 

    จะฝืนกลับไปจีบใหม่ดีไหม? แต่หากจะทำอย่างนั้นก็คงมีแต่ต้องรอให้เขาเลิกกัน.. ไม่ซิ คิดแบบนี้มันมีแต่พวกหวังผลประโยชน์คิดกันนี้หว่า

     

    เขาคิดวนซ้ำอยู่เช่นนั้นขณะที่บทสนธนาของเขาและเพื่อนๆกำลังดำเนินไปในร้านคาเฟ่ที่ขณะที่ภายในร้านเริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่เขากลับบ้านกลับบ้าน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×