( OS ) Beach or mountain? | Minhyuk x Kihyun - นิยาย ( OS ) Beach or mountain? | Minhyuk x Kihyun : Dek-D.com - Writer
×

    ( OS ) Beach or mountain? | Minhyuk x Kihyun

    หนึ่งในโปรเจค #ฟิควิ่งผลัด

    ผู้เข้าชมรวม

    428

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    428

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    8
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 ก.ค. 61 / 12:48 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    #ฟิควิ่งผลัด

    Keyword : Choice

    #กี้กี

    เปิดเพลงที่อยู่ตรงท้ายหน้าฟังเพื่อเพิ่มอรรถรสด้วยนะคะ :))



    เป็นยังไงบ้าง?


    ทำใจได้รึยัง?


    ประโยคคำถามเหล่านั้นยังคงหลั่งไหลมาไม่หยุดหย่อน แม้ว่าเราจะแสดงสีหน้าไม่พึงพอใจออกไปก็ตาม ท่าทีเป็นห่วงและสายตาอยากรู้อยากเห็นนั้นช่างน่ารังเกียจ คนที่เป็นห่วงคนอื่นจริงๆจะถามคำถามจี้ใจดำแบบนี้อย่างนั้นหรอ ถ้านายได้มาเห็นแบบเราก็คงรู้สึกเหมือนกัน

    แต่เพราะเราไม่มีตัวเลือก เราไม่สามารถเดินหนีคำถามพวกนี้ได้เหมือนที่เรากำลังหนีความจริงอยู่ เราทำได้แค่ส่งยิ้มโง่เง่าออกไปเพื่อบอกคนพวกนั้นว่าเราไม่เป็นไร ถ้านายยืนอยู่ตรงนี้ นายคงยื่นมือใหญ่ๆของนายมาดึงมือของเราไว้ แล้วพาออกไปจากที่บ้าๆนี่

    ..


    ทำไมไม่รู้จักปฏิเสธคนอื่นบ้าง หรือแค่พูดออกไปตรงๆว่านายรู้สึกยังไงอยู่

    นายดุเรา ราวกับว่าเราเป็นเพียงเด็กคนหนึ่งที่นายเป็นผู้ปกครอง นายขมวดคิ้วพร้อมกับแสดงท่าทีไม่พอใจแทนเรา ภาพเหล่านั้นมันทำให้เรายิ้มได้แม้จะเจอสิ่งที่เลวร้ายมาก็ตาม นายยังคงเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเราเสมอ

    ..


    ขอโทษนะครับ ” 

    หนึ่งเสียงที่แทรกฝ่าวงล้อมจากผู้คนที่น่ารังเกียจเข้ามาหาเราและคว้าแขนของเราเอาไว้

    ผมกับพี่กีฮยอนมีธุระด่วน ต้องขอตัวก่อนนะครับ

    เราเดินออกมาจากที่ตรงนั้นแล้ว และที่นี่ก็ดูจะเงียบสงบดี นายคงสบายใจได้แล้วที่เราจะพ้นจากคำถามพวกนั้นเสียที

    ถ้าพี่ไม่ชอบก็แค่เดินออกมา จะไปตอบคำถามคนพวกนั้นทำไม

    ก็ไม่รู้จะทำยังไง.. นี่ อย่ามาหงุดหงิดใส่ฉันนะ จูฮอน

    หมอนั่นยืนขมวดคิ้วมุ่นท่าทีหงุดหงิดไม่พอใจ เหมือนกับนายเมื่อตอนนั้นไม่มีผิด

    มีสิทธิ์อะไรจะไปหงุดหงิดล่ะ

    ..หงุดหงิดตัวเองมากกว่า บุหรี่มวนเล็กถูกจุดขึ้นพร้อมกับควันสีเทาคลุ้งลอยละล่องไปในอากาศ จูฮอนพ่นควันไปอีกทางที่เรายืนอยู่ เพราะรู้ว่าเราไม่ชอบกลิ่นของมัน แต่ถ้านายอยู่ตรงนี้ หมอนี่คงไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะหยิบมันขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ

    หงุดหงิดทำไม?

    ที่พาพี่มางานเลี้ยงรุ่นบ้าๆนี่ ทั้งทีรู้ว่าพี่จะต้องเจอคำถามพวกนั้นไง หมอนี่ยังคงเป็นเด็กที่เอาแต่ใจและขี้หงุดหงิดเหมือนแต่ก่อนไม่เคยเปลี่ยนแม้ว่าอายุจะราวยี่สิบเจ็ดแล้วก็ตาม


    ใช่.. เด็กคนนี้เหมือนนายไปเสียทุกอย่าง


    ถ้าพี่ไม่อยากกลับเข้าไปก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวผมจะอยู่รับหน้าเอง เจ้าเด็กขี้หงุดหงิดโยนบุหรี่ในมือที่เหลือเพียงก้นไว้ก่อนจะใช้เท้าบี้ให้ไฟที่ก้นบุหรี่ดับลง แต่ขอแค่อยู่ใกล้ๆแถวนี้ก็พอ มันดึกแล้ว

    อื้อ

    ขอบคุณนะ

    จูฮอนพยักหน้าให้เราก่อนที่เด็กคนนั้นจะถูกผู้คนในงานเลี้ยงกลืนหายไป

    ..เหมือนนายทุกอย่างจริงๆ

    ..


    ยังดีที่งานเลี้ยงคราวนี้จัดใกล้ชายหาด อย่างน้อยก็มีที่ให้เรามาอยู่คนเดียวได้บ้าง ไม่เหมือนงานเลี้ยงจบคราวที่แล้วที่เรามากับนาย ในตอนนั้นไม่มีอะไรพร้อมสักอย่าง คนไม่ครบ สถานที่ก็แคบ แต่ก็แปลกดีที่เรากับนายสนุกมากๆจนเมาหัวราน้ำ กลับบ้านแทบไม่ถูก ..ไม่สิ นายไม่ได้เมา เพราะนายรอส่งเรากลับหอพัก นายไม่แตะเครื่องดื่มอะไรเลยนอกจากน้ำอัดลม จนเพื่อนๆคนอื่นในกลุ่มล้อนายว่านายไม่กล้าพอ แต่เรารู้.. เรารู้ว่านายกำลังทำหน้าที่แฟนที่ดีให้กับเราอยู่

     

    พึ่งเคยได้มายืนมองทะเลในเวลากลางคืนครั้งแรก มันสวยมากๆอย่างที่นายเคยโม้ให้เราฟังจริงๆ ภาพตรงหน้ามันทำให้เรานึกถึงวันนั้น วันที่นายชวนเราเล่นเกมส์ถามคำถามแบบเลือกตอบ เพราะเราบ่นว่าเราขี้เกียจอ่านหนังสือ ตอนแรกเราก็ไม่ได้สนใจนัก เพราะไม่มีอารมณ์จะเล่นอะไรกับใคร


    เล่นเถอะ ฉันอยากรู้จักนายให้มากขึ้น


    นายบอกกับเราแบบนี้ เราถึงได้ยอม

    เพราะเราก็อยากรู้จักนายให้มากขึ้นเหมือนกัน

    ..


    สีขาว กับ สีดำ ? นายเป็นฝ่ายถามเราก่อน

    สีขาว เราตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล

    ทำไมล่ะ?

    รู้สึกว่ามันสะอาดดีอ่ะ เห็นแล้วสบายตา แล้วก็เอามาแมทกับสีได้หลายสีด้วย

    เฮ้ย เหมือนกันเลย ฉันก็ชอบเพราะมันสบายตาดี

    จริงดิ? บังเอิญจัง

    แล้วคำตอบของเราก็ดันตรงกันไปเกือบทุกข้อจนทำให้เราอดขำกับความบังเอิญที่น่าเหลือเชื่อนี้ไม่ได้ แม้ว่าจะได้ยินเพียงแค่เสียงของนาย แต่เราก็พอจะรู้ได้ว่าแววตาของเรากับนายคงกำลังส่องประกายไม่ต่างกัน

    ข้อสุดท้ายแล้วนะ นายบอกกับเรา ในตอนนั้นเราอยากจะบอกกับนายมากๆเลยว่าขออีกข้อนึงได้ไหม แต่เราก็ไม่เอ่ยออกไป เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่านายจะรู้สึกเหมือนกับเรารึเปล่า

    ทะเล กับ ภูเขา

    โหย ใช้คำถามจิตวิทยาเลยหรอ

    นายหัวเราะ แค่อยากรู้เฉยๆ ไม่มีจิตวิทยาอะไรหรอก

    เราเงียบไปสักพักนึง เพราะในหัวกำลังคิดว่าตัวเลือกไหนกัน ที่จะทำให้คำตอบของเราตรงกันอีกครั้ง มันบ้ามากใช่ไหมล่ะ.. ในตอนนั้นเราก็คิดแบบนั้น

      ภูเขา

    เกินคาดแฮะ

    ทำไมถึงทำเสียงแบบนั้นล่ะ นั่นคือความคิดแรกหลังจากเราได้ยินเสียงพูดแผ่วเบาเหมือนกำลังบ่นกับตัวเองของนาย

    นายเลือกอะไร?

    ทะเล

    อ่า.. รู้แบบนี้น่าจะเลือกทะเล... ทำไมมินฮยอกถึงเลือกทะเลอ่ะ?

    ฉันรู้สึกว่าเวลาที่เท้าของฉันสัมผัสกับน้ำทะเล มันเหมือนได้ทิ้งความเครียดทั้งหมดที่มีอยู่ ให้อารมณ์แบบที่ๆอยู่แล้วสบายใจน่ะ

    พูดแล้วเห็นภาพเลย สิ้นเสียงของเรานายก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง

     ไม่รู้ว่านายรู้ตัวรึเปล่า แต่ว่าการที่นายมีปฏิกิริยาตอบรับผู้ฟังแบบนี้มันมีเสน่ห์มากเลยนะ

    ทำไมถึงเลือกภูเขาล่ะ? นึกว่าแบบกีฮยอนน่าจะชอบที่สบายๆซะอีก

    จริงๆเราก็ไม่ได้ชอบภูเขาหรอก แต่เพราะเรากลัวทะเลอ่ะ

    หืม .. ทำไมล่ะ บอกได้รึเปล่า ? การถามแบบที่ถนอมน้ำใจอีกฝ่ายนี่ก็ด้วย

    มันกว้างใหญ่ แล้วก็ลึก.. เวลาเห็นแล้วหัวของเราจะคิดตลอดเลยว่าข้างใต้นั้นจะมีอะไรอยู่บ้าง แล้วมันก็ดูเงียบเหงามากๆด้วย ถ้าให้ต้องไปยืนที่ทะเลคนเดียวเราคงเป็นบ้าแน่ๆ ทั้งที่เราพูดเยอะมากๆ และมันเป็นสิ่งที่นายชอบด้วย แต่นายก็ยังรับฟังเป็นผู้ฟังที่ดี

    งั้นก็อย่าไปคนเดียวสิ นายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เหมือนกำลังจะเล่นมุกกวนประสาทเราอยู่


    แต่กลับไม่ใช่


    ไปกับฉัน ฉันจะเป็นคนดูแลกีฮยอนเอง

    เลี่ยนชะมัด.. แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรายิ้มให้กับประโยคเลี่ยนๆนี่จนเมื่อยแก้มไปหมด

     

    นายทำให้เรากลายเป็นคนบ้าอย่างเต็มตัว เพราะเราดันตกหลุมรักนายจากการเล่นเกมส์ถามตอบในระยะเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

    ..


    หลังจากนั้นไม่นานเราก็ตกลงคบกัน ในหนึ่งวันเราใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ด้วยกัน ทำอะไรเหมือนกับที่คนเป็นแฟนทั่วไปทำกัน แต่น่าแปลก ที่เราไม่เคยมีเรื่องให้ทะเลาะกันเลยสักครั้งเดียว อาจเพราะเรามีหลายสิ่งที่เหมือนกัน และอาจเพราะทุกครั้งที่เราต้องเลือกอะไรสักอย่าง เราจะสร้างคำถามขึ้นมาเหมือนในวันนั้น


    ก๋วยเตี๋ยว หรือ ข้าวผัด


    ถ้าคำตอบของเราไม่ตรงกัน เราจะเป่ายิ้งฉุบกันราวกับเด็กประถม แต่มันก็ทำให้ความสัมพันธ์ของเราเป็นได้ด้วยดี จนใครๆก็ต่างบอกว่าคู่ของเราน่ะน่าอิจฉา


    อืม.. เราเองก็คิดแบบนั้นนะ เพราะเราก็ยังอิจฉาตัวเองในตอนนั้นเลย

    ..


    ท้องทะเลด้านหน้านั้นช่างดูแสนไกล คลื่นลูกเล็กเคลื่อนตัวเข้าหาฝั่ง ความเย็นเฉียบสัมผัสที่ปลายเท้าจนรู้สึกจั้กจี้ เหมือนมือของเราที่สัมผัสกันครั้งแรก นายเป็นฝ่ายจับมือของเราก่อน ก่อนที่นิ้วมือของเราจะค่อยๆสอดประสานกันเหมือนคลื่นที่ค่อยๆจับตัวกันแล้วเคลื่อนเข้าหาชายฝั่ง  ท้องฟ้าที่สะท้อนอยู่บนผืนน้ำ เหมือนกับเงาสะท้อนของเราในแววตาของนาย เมื่อพระอาทิตย์บอกลาเคลื่อนตัวเข้าใกล้ผืนน้ำ ท้องฟ้าที่โอบอุ้มท้องทะเลเอาไว้ก็ค่อยๆมืดลง กลายเป็นความมืดมิดพร้อมกับอากาศรอบกายที่เริ่มเย็นเฉียบผิดกับสัมผัสอุ่นที่ริมฝีปาก ในตอนที่อากาศในร่างกายแทบถูกช่วงชิงไปทั้งหมดพร้อมกับสัมผัสวาบหวิวที่นายมอบให้ มันราวกับว่าเราทั้งสองกำลังจมดิ่งลงไปในมหาสมุทร

    แต่เราไม่กลัวหรอก

    เพราะนายคือเหตุผลที่ทำให้ครั้งนึงเราเคยชอบทะเล

    ..


    ถ้าวันนึงฉันไม่อยู่ นายจะอยู่ได้ไหม?


    เราละจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้า หันสบนัยน์ดวงตาที่นายชอบใช้มองเราอยู่เสมอ อยู่ๆทุกอย่างรอบตัวก็เงียบสงัด บรรยากาศรอบตัวน่าอึดอัดจนรู้สึกหายใจติดขัด ไม่รู้ว่าเรากำลังแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปนายถึงใช้นิ้วชี้จิ้มที่ระหว่างคิ้วของเราตามมาด้วยเสียงหัวเราะ

    ทำไมต้องทำหน้าเครียดแบบนั้นด้วยล่ะ

    ไม่มีตัวเลือกหรอ ? เราถามกลับ

    นายส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ นั่นทำให้เราเงียบไปอีกครั้ง

    ฉันอยู่ไม่ได้หรอก เราพูดออกไปตามตรง

    อะไรกัน ต้องอยู่ได้สิ

    ก็เรานึกภาพตอนที่เราไม่มีนายอยู่ไม่ออก

    แล้วก่อนหน้านี้นายอยู่ยังไงล่ะ?

    นี่ เลิกพูดเหมือนว่านายกำลังจะบอกเลิกเราได้ไหม เราไม่ชอบ

    นั่นเป็นครั้งแรกที่เราหงุดหงิดใส่นาย เราหันกลับมาสนใจอย่างอื่น พยายามทำหูทวนลมไม่ฟังคำพูดของนายหลังจากนั้น และพยายามสะกดกลั้นก้อนน้ำที่เอ่ออยู่ในดวงตาไม่ให้มันไหลออกมาเหมือนเด็ก


    กีฮยอน .. ขอโทษ ฉันแค่อยากลองถามเฉยๆ

    นายเข้ามากอดเราจากด้านหลัง ซุกหน้าของนายลงที่ไหล่ของเราพร้อมกับประโยคขอโทษหลายต่อหลายครั้ง ใช้นิ้วมือที่เรียวยาวกว่าเราเกือบหนึ่งเท่าเช็ดน้ำตาของเรา พร่ำบอกกับเราว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องคิดมาก จนเรายอมเชื่อและปล่อยให้คำพูดในวันนั้นจางหายไปกับกาลเวลา

    ..


    พี่กีฮยอน..

    น้ำเสียงของปลายสายสั่นเครือจนแทบฟังไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังพูดว่าอะไร

    มีอะไรรึเปล่าจูฮอน

    พี่.. ปลายสายเงียบไปสักครู่หนึ่งเหมือนกำลังพยายามกลั้นก้อนสะอื้นเอาไว้

    พี่เขาเสียแล้ว ฮึก.. พี่.. พี่เขาจากไปแล้ว

    ห้ะ? หมายความว่ายังไง? ความเย็นเฉียบเริ่มเกาะที่ปลายนิ้วมือ รู้สึกชาทั่วกรอบหน้า

    พี่เขาโดนรถชน แถวๆหน้าที่ทำงาน ฮึก.. ตอนแรกอาการโคม่า แต่..


    าพทุกอย่างพร่ามัวพร้อมกับสมองที่ไม่รับรู้อะไรได้อีก ร่างกายเหมือนกับคนแรงที่หมดแรงจะยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง เข่าสองข้างทรุดลงกับพื้นพร้อมเค้กวันครบรอบเจ็ดปีในมือที่พึ่งได้รับมากระแทกลงอย่างไม่สนว่าสภาพข้างในจะเป็นอย่างไร ไม่มีน้ำตา ไม่มีเสียงสะอื้นหรือร่ำไห้ มีเพียงความเจ็บปวดในหัวใจเหมือนโดนแทงเข้าไปลึกจนทะลุถึงอีกฝั่ง


    วันที่คนบนฟ้ามาพานายไป เราไม่มีสิทธิ์ได้เลือกเลยด้วยซ้ำ


    เราไม่มีสิทธิ์เลือกให้กลายเป็นชีวิตของเราแทน


    เราไม่มีสิทธ์แม้กระทั่งการกล่าวคำบอกลาครั้งสุดท้าย

    ..


    ถ้าครั้งนึงนายเคยเป็นท้องทะเลของเรา วันนี้ขอได้ไหม ขอให้นายโอบอุ้มเราไว้ แล้วพาเราไปยังที่ๆนายอยู่

    ให้น้ำทะเลเย็นเฉียบเหล่านี้เช็ดน้ำตาของเราเหมือนกับนิ้วมือของนายในวันนั้น

    ให้มันโอบกอดเราและสัมผัสเราเหมือนกับที่นายเคยทำ

    ครั้งนี้เราจะยอมให้นายมาแย่งชิงอากาศของเราไปให้หมด

    ช่วยพาเราดำดิ่งลงไปในท้องทะเลลึกกับนาย

    เราไม่กลัวหรอก.. เราไม่กลัวมันอีกต่อไปแล้ว

    เพราะสิ่งที่เรากลัวที่สุดในตอนนี้

    คือการใช้ชีวิตต่อไปโดยที่ไม่มีนาย

    ..


    ถ้าวันนึงฉันไม่อยู่ นายจะอยู่ได้ไหม?

    ไม่..


    ฉันอยากให้นายอยู่ต่อไปนะ

    เราอยู่ไม่ได้ นายจะให้เราอยู่ต่อไปยังไง


    มันอาจจะดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย

    ไม่หรอก ไม่เลย..


    แต่ฉันอยากให้นายอยู่ต่อไป เพื่อพบว่ายังมีใครที่รักและดูแลนายได้ดีไม่แพ้กับฉัน

    แต่เรารักนาย


    กีฮยอน .. ความรักน่ะ มันไม่ได้เกิดขึ้นได้กับแค่คนๆเดียวหรอกนะ ก็เหมือนกับความสุขนั่นแหละ

    มันไม่เหมือนกันหรอก นายจะไปรู้อะไร


    นายมีความสุขได้โดยที่ไม่มีฉัน เชื่อฉันสิ


    ..

    ..

    เพดานสีขาวสะอาดปรากฏสู่สายตา พร้อมกับแสงจากด้านนอกที่สาดส่องเข้ามาจนต้องหลี่ตาลง กลิ่นแปลกๆและความเย็นของเครื่องปรับอากาศ สายยางเส้นยาวที่ถูกต่อเข้าที่แขนกับถุงน้ำเกลือ


    โรงพยาบาล ?


    พี่กีฮยอน เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากทางด้านซ้ายมือ

    จูฮอน.. จูฮอนรีบลุกขึ้นจากโซฟาเดินมาหาเราอย่างรีบร้อน

    พี่อย่าพึ่งขยับตัวนะ หมอนี่สั่งกับเราก่อนที่จะหันไปกดปุ่มเรียกพยายบาลที่หัวหัวเตียงของเรา

    ไม่นานพยาบาลหนึ่งคนก็เข้ามาพร้อมกับหมอ พวกเขาถามอาการของเรานิดหน่อยและบอกกับเราว่าอย่าพึ่งขยับตัวมากนัก หลังจากนั้นก็หันไปคุยกับจูฮอนแทน คงจะเป็นเรื่องรายละเอียดที่เราไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ล่ะมั้ง


    พี่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? เราถามทันทีที่จูฮอนเดินกลับมายืนข้างเตียงของเรา แต่น้องของนายกลับนิ่งเงียบไม่พูดจาใดๆ


    นี่ ฟังที่พี่พูดรึเปล่า? พี่ถามว่า..


    คำพูดทุกอย่างถูกกลืนหายไปทันทีที่เด็กคนนี้เข้ามากอดเราอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว สัมผัสเปียกชื้นที่ไหล่ของเรามันทำให้เราตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นานแล้วที่ไม่ได้เห็นเด็กคนนี้ร้องไห้ ครั้งล่าสุดก็คงจะเป็นตอนที่เราไปหานายที่โรงพยาบาล เด็กคนนี้ปล่อยน้ำตาออกมาและโผเข้ากอดเราทันทีที่เห็นหน้าของเรา แล้วเราก็ลูบหลังของน้องเบาๆเหมือนกับที่ทำอยู่ตอนนี้


    อย่าทำแบบนี้อีกได้ไหม.. อีกฝ่ายเอ่ยเสียงอู้อี้ข้างใบหู

    อย่าจากผมไปอีกคนได้ไหม ฮึก..

    จูฮอน.. คำขอนั้นทำให้เรารู้สึกจุกจนพูดไม่ออก


    ผมไม่อยากเสียคนที่ผมรักไปอีกคนแล้ว


    ไม่รู้ว่าทำไมน้ำตาของเราถึงไหลออกมาเพียงเพราะคำพูดของเด็กคนนี้

    ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองขนาดนี้

    ตอนนั้นเราคิดแค่เราต้องการจะไปหานาย เพราะเราไม่มีความสุขเลยในตอนที่ไม่มีนายอยู่ข้างๆ


    พี่ขอโทษ


    เด็กคนนี้ก็คงจะไม่อยากเสียความสุขไปเหมือนกัน

     


    แต่ฉันอยากให้นายอยู่ต่อไป เพื่อพบว่ายังมีใครที่รักและดูแลนายได้ดีไม่แพ้กับฉัน

     

      กีฮยอน .. ความรักน่ะ มันไม่ได้เกิดขึ้นได้กับแค่คนๆเดียวหรอกนะ ก็เหมือนกับความสุขนั่นแหละ

     

    นายมีความสุขได้โดยที่ไม่มีฉัน เชื่อฉันสิ


    :)


    #ฟิควิ่งผลัด 



    กี๊ดดดดดดดดด ฮืออออ เกือบส่งงานไม่ทันเดดไลน์เลยค้าบบบบ;-;

    เป็นฟิคที่งงๆหน่อย แล้วก็หน่วงๆนิดนึง หวังว่าจะถูกใจนะคะ ฮวือ

    ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ทำแบบบรรยายอย่างจริงจัง แล้วก็ครั้งแรกกับบทบรรยายของคู่กี้กี้ด้วย 

    ต้องขอบคูมผู้ใหญ่ใจดีที่ชวนเข้าร่วมโปรเจคครั้งนี้จริงๆคับ แงงงง เยิ้บๆค้าบ//กราบคูมเข็มหมุดและคูมโฮป

    T
    B

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น