คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ยินดีที่ได้รู้จัก!!!.....แผนการณ์ก้าวหน้า...
Part 3
“อุ๊ยตาย!!!คุณหญิงดูนั้นสิคะ คุณหญิงมนัสวีร์พาใครมาออกงานด้วยก็ไม่รู้ งามจริงๆเลยคะ”
“นั้นสิคะ คุณน้อง งามแท้”เสียงซุบซิบดังขึ้นตลอดระยะทางที่ร่างโปร่งบางเดินผ่าน ทำเอาเจ้าของหัวข้อนั้นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
‘เฮ้อ!!!! คิดผิดรึเปล่านะที่ตามแม่มางานนี่’
“เป็นอะไรตาภัทร......ตั้งแต่เข้างานมา แม่เห็นเราถอนหายใจหลายรอบแล้ว เหนื่อยหรือจ๊ะ?”นภัทรส่ายหัวพลางส่งรอยยิ้มหวานๆกลับไปให้ผู้เป็นมารดา
“เปล่าครับแม่ แค่ภัทร.........อึดอัด”นภัทรพูดตอนท้ายอ่อยๆ
“หึหึ.....ลูกไม่ค่อยได้มางานแบบนี้บ่อยๆ ไม่แปลกที่จะอึดอัด........แต่ดูสิ เห็นไหมมีแต่คนมองลูกแม่ด้วยสายตาชื่นชมทั้งนั้น”คุณหญิงมนัสวีร์กวาดสายตามองไปรอบๆอย่างปลาบปลื้ม หากแต่นภัทรไม่คิดเช่นนั้น
‘สายตาน่าขนลุกละสิไม่ว่า’ร่างบางแอบค่อนขอดในใจ เมื่อเห็นบรรดาสายตาสาวๆหนุ่มๆ(?)มองเค้าแบบเป็นประกายวิบวับๆ
“สวัสดีคะ คุณพี่ สบายดีหรือคะ แล้วนี่พาใครมาด้วยละคะเนี่ย”นภัทรหันหน้าไปมองเสียงแหลมแสบแก้วหูข้างตัวที่ทักทายมารดาแล้วก็ต้องรีบยิ้มให้ตามมารยาท
“สวัสดีจ๊ะ นี่ลูกชายของพี่เองจ๊ะ เพิ่งกลับจากอังกฤษ”
“ต๊าย!!!!ลูกชายหรือคะเนี่ย แหม!!!หน้าตาช่างน่ารักน่าชัง งามเหมือนคุณพี่เลยนะคะเนี่ย”นภัทรขมวดคิ้วเรียว
’.......เหมือนแม่......แม่เราเป็นคนสวย มาบอกว่าเราหน้าเหมือนแม่ ก็หาว่าเราหน้าสวยอะสิ!!!!’
“แหม คุณน้องละก็”นภัทรเบนหน้าหนีอย่างเซ็งๆ ชักรู้สึกอยากกลับบ้านมาตะหงิดๆ แล้วก็มีเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจดังขึ้นยิ่งกว่าเคย ทำให้นภัทรต้องหันหน้าไปทางประตูทางเข้าด้วยความอยากรู้
แสงแฟลชเป็นประกายวูบวาบจนหน้าเวียนหัว แต่คนที่ถูกถ่ายนั้นกลับเฉยราวกับว่าชีวิตนี้ไม่มีสิ่งใดทำลายเค้าลงได้ บรรดาหญิงสาวต่างมองอย่างเคลิบเคลิ้มเมื่อชายหนุ่มร่างกายสูง กำยำ ในชุดสูทสีดำเดินผ่าน ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพศิลป์บรรจงปั้นนั้นแย้มยิ้มทักทายผู้คนในงานด้วยน้ำเสียงทุ้มแต่กลับนุ่มนวลไพเราะยิ่งนัก
นภัทรมองคนที่เดินเข้ามาก็ต้องกำมือแน่น ใบหน้าหวานดูเรียบสนิทแต่ในแววตาเรียวสวยสีน้ำตาลเข้มกลับลุกโชนไปด้วยไฟแค้น แล้วรอยยิ้มก็ต้องกระตุกขึ้นเล็กน้อยเพียงมุมปาก
“แหม!!พ่อกันเนี่ย ยิ่งโตเป็นหนุ่มยิ่งหล่อนะเนี่ย”คุณหญิงมนัสวีร์เอ่ยขึ้น
“แม่รู้จักเค้าด้วยหรือครับ”นภัทรถามมารดาอย่างสงสัย
“อ้าว!!!คงจะจำไม่ได้ละสิ ก็ตอนเราเด็กๆนะ ยังเล่นกับเค้าออกบ่อย เดินตามพ่อกันกับตาวิชญ์ต้อยๆ”ชายหนุ่มอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้
“ผมนะหรือครับ?”
“จ๊ะ”นภัทรรู้สึกไม่ชอบใจเลย เมื่อรู้ว่าตนเคยสนิทคนที่ตัวเองโกรธแค้นมาก่อนถึงแม้จะจำไม่ได้ก็เถอะ.......แต่นี่ก็ช่างเป็นการเปิดโอกาสที่จะทำให้เค้าแก้แค้นแทนคนรักได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
“สวัสดีครับ คุณป้าวีร์”เสียงทุ้มเอ่ยกล่าวขึ้น นภัทรทองคนตรงหน้านิ่งๆ เห็นสายตาอบอุ่นส่งมาให้เค้าและมารดาก็นึกขุ่นเคืองใจยิ่งนัก
“สวัสดีจ๊ะ หลานกัน.....ไม่เจอกันนาน หล่อไม่เปลี่ยนเลยนะจ๊ะ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ คุณป้า......นี่คงเป็น้องภัทรซินะครับ......ไม่เจอกันนาน หน้าตายังน่ารักเหมือนตอนเด็กๆเลย”นภัทรเลิกคิ้วอย่างสงสัย เพราะตั้งแต่กลับมามีแต่คนบอกว่าหน้าตาเค้าเปลี่ยนไป มีแต่ร่างสูงตรงหน้าเท่านั้นที่พูดแตกต่างออกไป
“งั้นหรอจ๊ะ....แหม หลานกันช่างจดจำเก่งดีแท้”
“ไม่หรอกครับ........แต่น้องภัทรคงจำพี่กันคนนี้ไม่ได้ซินะครับ”ร่างบางปราดสายตาไม่พอใจให้แวบเดียวก่อนเปลี่ยนเป็นสายตาเย็นชาเหมือนเคย
“ตายแล้ว ตาภัทร พี่เข้าทักทายทำไมไม่รู้จักไหว้จ๊ะ”คุณหญิงมนัสวีร์ตีเบาๆที่แขน
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณป้า”
“คุณแม่พูดถูกแล้วละครับ.....สวัสดีครับคุณกันติทัต”ชายหนุ่มยกมือไหว้แล้วแย้มยิ้มหวานให้แต่มันช่างดูเย็นชายิ่งนัก เมื่อดวงตาคู่สวยไม่ได้ยิ้มไปด้วยสักนิด
กันติทัตมองรอยยิ้มหวานตรงหน้าอย่างหลงใหล ดวงใจเหมือนจะเต้นแรงขึ้น จนอยากคว้าร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด แต่ด้วยมารยาทนั้นเค้าจึงได้แต่รับไหว้แล้วส่งยิ้มกลับไปให้ โดยหารู้ไม่ว่า นภัทรมองดวงตาคู่นั้นแล้วก็รู้ว่าร่างสูงมีความปรารถนาในตนเอง จึงคิดแผนบางอย่างขึ้นได้อย่างฉับพลัน
“หนุ่มๆคงมีอะไรจะคุยเยอะสินะ งั้นป้าขอตัวก่อนนะจ๊ะ จะไปคุยกับคุณหญิงลักษณาตรงนู้น หลานกันฝากน้องด้วยนะจ๊ะ”กันติทัตตอบรับ ก่อนที่คุณหญิงมนัสวีร์จะเดินหายไปในฝูงชน
“น้องภัทรครับ พี่ว่าเราเดินไปตรงมุมนู้นดีกว่านะครับ ตรงนี้คนมาก คงคุยกันไม่สะดวก”ร่างบางฉีกยิ้มยั่วยวนก่อนแตะมือลงบนลำแขนแกร่งช้าๆ ร่างสูงมองอย่างสงสัยเมื่อยู่ๆร่างบางก็จับแขนของเค้า
“คนเยอะเหลือเกิน ภัทรเดินไม่ถนัดหวังว่าคุณกันติทัตคงไม่ว่านะครับ ถ้าจะขอแตะแขนสักหน่อย”ร่างบางแกล้งทำหน้าขอโทษที่แตะแขนแกร่งนั้น แต่เจ้าของแขนกลับยิ้มให้แล้วจับมือเรียวบางมาวางให้เต็มลำแขน
“ไม่ว่าหรอกครับน้องภัทร.........ทำไมไม่เรีกพี่ว่าพี่กันเหมือนเมื่อก่อนละครับ”
‘แล้วทำไมต้องเรียกฟะ!!!’นภัทรนึกในใจ
“ภัทรไม่กล้าหรอกครับ ตอนนี้เราก็โตๆกันแล้ว จะให้มาเรียกแบบตอนเด็กๆได้งอย่างไร”
“พี่ว่าเรียกพี่กันดีกว่านะครับ เรียกชื่อเต็มแล้วรู้สึกแปลกๆ”
“ก็ได้ครับ........พี่กัน”ร่างสูงยิ้มกว้างเมื่อร่างบางเรียกชื่อเค้าดังที่เคยเป็นตอนเด็กๆ
“แล้วนี่ครอบครัวเจ้าวิชญ์สบายดีกันไหมละ น้องภัทร”
“เอ๋!!!.......สบายดีครับ
.รู้ด้วยหรือครับว่าพี่วิชญ์แต่งงานแล้ว”
“แล้วทำไมจะไม่รู้ละ น้องภัทร.....คงไม่รู้สินะว่าพี่กับเจ้าวิชญ์นะเพื่อนสนิทกันเลย ที่สมัยก่อนช่วงม.ปลายเจ้าวิชญ์มันไม่ค่อยกลับไปนอนบ้านก็เพราะมันไปนอนเล่นกับพี่ที่บ้านไง เพิ่งจะมาห่างๆกันตอนที่เจ้าวิชญ์แต่งงานนั้นแหละ รู้ไหม”ร่างบางพยักหน้าเข้าใจพลางนึกย้อนไปเมื่อตอนเค้าอายุประมาณ7-8 ขวบที่มักไม่ค่อยเห็นพี่ชายอยู่ติดบ้านเท่าไหร่
“พอจำได้ลางๆครับ”
“จำไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก เราห่างกับพวกพี่ต้อง 10 ปีนี่น่า”ร่างสูงลูบผมนภัทรเบาๆอย่างเอ็นดู แต่นภัทรกลับถอยตัวห่างอย่างนึกรังเกียจ แต่ไม่ได้สีหน้าออกมา
“อืม แล้วนี่เรียนจบหรือยังละ”กันติทัตได้แต่ถามแก้เก้อ ร่างบางจึงรีบตอบเพื่อเอาความน่าเอ็นดูกลับคืน
“จบแล้วครับ แต่ต้องกลับไปรับปริญญาที่อังกฤษช่วงต้นปีหน้านะครับ”ร่างบางเอ่ย
“งั้นหรือ แล้วน้องภัทรเรียนอะไรมาหรือครับ”
“บริหารครับ
.ที่กลับมาก่อนเนี่ยกะจะมาฝึกงานนะครับ........แต่ไม่อยากไปฝึกกับคุณพ่อกลัวว่าจะดูเป็นเด็กเส้น ก็เลยกำลังจะหาที่ทำงานอยู่แต่ไม่รู้จะได้หรือเปล่า”นภัทรทำท่าทางหนักใจ พร้อมสังเกตท่าทางคนตรงหน้าด้วย
“หรือครับ เรียนบริหาร งั้นลองมาช่วยงานพี่ไหมละครับ........ลองฝึกเป็นเลขาก่อนดูว่างานบริหารมันมีอะไรบ้าง ทำยังไงบ้าง พอรู้มากแล้วค่อยมาลองฝึกการบริหารกับพี่ดู”นภัทรแอบยิ้มเมื่อแผนของตนดำเนินไปด้วยดี
“แต่ว่า..........พี่กันคงลำบากแย่ ต้องมาคอยดูแลเด็กอย่างภัทร”
“ไม่หรอกภัทร น้องภัทรก็เป็นเหมือนน้องพี่เหมือนกัน อย่างเกรงใจเลย”นภัทรยิ้มหวานส่งไปให้แล้วไหว้ร่างสูง
“ขอบคุณพี่กันมาเลยนะครับที่ให้โอกาสภัทร.......แล้วอย่างนี้จะให้ภัทรเริ่มงานเมื่อไหร่ละครับ”
“อืม...น้องภัทรสะดวกช่วงไหนละครับ มะรืนนี้สะดวกไหม”
“สะดวกครับ”
“งั้นพี่ว่าน้องภัทรไปพูดกับคุณลุงคุณป้าให้เข้าใจตรงกันก่อนนะครับ แล้วมะรืนนี้พี่จะมารับ”
“อุ๊ย!!!!รบกวนพี่กันแย่ เดี๋ยวภัทรขับรถไปเองก็ได้ครับ”ร่างบางรีบบอกปฏิเสธ เพราะเค้าไม่อยากมานั่งเจอร่างสูงตั้งแต่เช้าหรอก
“ได้ไงครับน้องภัทร.......ได้ข่าวว่าเราไปอยู่นู่นตั้งนาน จำทางได้หรือครับ ไม่เอาหรอกพี่เป็นห่วง เดี๋ยวพี่ไปรับนั้นแหละ”
‘แล้วรถที่บ้านฉันไม่มีให้ไปส่งหรือไงหะ!!!’นภัทรยังคงยิ้มหวานในขณะที่คิดในใจ
“ก็ได้ครับ”
“ว่าแต่เบอร์น้องนภัทรนี่เบอร์อะไรหรือครับ พี่จะได้เอาไว้ติดต่อ”
“อ๋อ เบอร์xxx-xxxxxxxครับ”ร่างบางบอกเบอร์ไปในขณะที่ร่างสูงรับเมมลงมือถือทันที
“อือ แล้วไว้พี่จะโทรไปนะ”
‘ไม่ต้องโทรก็ได้ ไม่อยากรับ แค่คุยกันตรงนี้ก็รู้สึกแย่แหละ’
“ไงหนุ่มๆ คุยกันท่าทางสนุกเชียว......หลานกันป้าคงต้องขอตัวก่อนนะจ๊ะ ดึกแล้ว น้องเพิ่งกลับมาไม่กี่วันยังคงไม่ชินเท่าไหร่”
“อ๋อครับ.......งั้นสวัสดีครับคุณป้าวีร์”ร่างสูงรีบยกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่า
“จ๊ะ ฝากทักทายคุณหญิงกษมาด้วยนะจ๊ะ”
“ครับ คุณแม่คงเสียดายที่ไม่มาวันนี้ ไม่งั้นคงได้พบกันแล้ว......กลับดีๆนะ น้องภัทร”
“ครับ สวัสดีครับพี่กัน”นภัทรไหว้ร่างสูงพร้อมแย้มยิ้มหวานให้อีกครั้ง ก่อนจะเดินหันหลังจูงมารดาออกจากงาน กันติทัตมองร่างเล็กจนสุดสายตาอย่างอาลัยอาวรณ์แล้วเดินออกจากงานไปเช่นกัน
/////////////////////////////////////////////////////////
“คุณแม่กำลังทำอะไรอยู่หรือครับ”นภัทรถามขึ้น เมื่อเค้าเห็นมารดากำลังนั่งดูอะไรบางอย่างอยู่
“แม่ดูอัลบั้มนะลูก.......นี่ไง เจอแล้ว.......ต๊าย!!!จริงด้วย นภัทรตอนนี้เหมือนเมื่อตอนเด็กๆเลย แม่ก็ไม่ทันสังเกต พ่อกันเนี่ยช่างจำดีจริง”นภัทรทรุดนั่งลงข้างๆมารดา แล้วมองรูปตัวเองตอนเด็กๆ.......จะว่าเหมือนก็คงใช่ เพียงแต่ตอนนี้เค้าผอมกว่า แก้มก็ไม่เจ้าเนื้อเท่าตอนเด็ก
“แม่ว่าเราตอนช่วงม.ต้นม.ปลายมากกว่าที่ดูแปลกจะตาย ใส่แว่นซะหนาเตอะ แถมผมก็รองทรงเสียอีก”
“โธ่แม่ครับ ก็ภัทรเรียนร.ด.นี่ จะให้ไว้รากไทรเหมือนตอนนี้ก็ไม่ได้”มารดาหัวเราะชอบใจพลางปิดปากหาว
“แม่ง่วงแล้วละ......แม่ขึ้นไปก่อนนะ เราก็อย่านอนดึกให้มากละ”นภัทรรับคำก่อนนั่งเปิดดูอัลบั้มดูต่อ
“เฮ้!!!ภัทรดูอะไรอยู่นะ”
“อ้วพี่วิชญ์ ยังไม่นอนอีกหรือ”
“อ๋อ พอดีพี่ลงมาเอาของนะ อ้าวนี่เจ้ากันนี่หว่า ให้ตายเหอะ ไม่ว่าตอนไหนมันก็หล่อสู้พี่ไม่ได้จริงๆ”
“แหวะ!!!หลงตัวเองจังพี่วิชญ์ ว่าแต่ ทำไมภัทรไม่เคยเห็นจำได้เลยว่าพี่กับเค้าเป็นเพื่อนกัน”
“ก็แกยังเด็กจะไปจำได้ไงเล่า.......ช่วงหลังๆนี่พี่ก็ไม่ค่อยได้เจอมันด้วย เห็นมันยุ่งๆเรื่องเมียเรื่องลูกมันอยู่เลยไม่อยากไปรบกวน”
“เห!!!เค้ามีลูกมีเมียแล้วหรือ พี่วิชญ์”
“อืม แต่หย่ากันแล้วละ ลูกก็อยู่กับมัน ทำไมหรอ”
“เปล่าครับ”ร่างบางกำมือแน่น ด้วยรู้สึกเหมือนกับว่ากันติทัตได้หลอกลวงอดีตคนรักของเค้า มีลูกแล้วยังมาทำให้ขจารินช้ำใจจนตายอีก
“งั้นพี่ขึ้นไปนอนก่อนะ”
“ครับพี่วิชญ์ หลับฝันดีนะครับ”นภัทรฝืนยิ้มส่งให้พี่ชายแล้วก้มมองรูปอีกครั้ง
ร่างบางมองรูปใครบางคนตอนเด็กซึ่งก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไหร่ เพียงแค่ดูอ่อนวัยกว่าเท่านั้นอีกครั้งด้วยความเคียดแค้นแล้วเบือนหน้าหนีอย่างไม่สนใจ วางอัลบั้มลงกับโต๊ะ
“ไม่เห็น่าสนใจเรื่องในอดีตเลย.......สนใจสิ่งที่เราต้องทำในปัจจุบันเสียดีกว่า”นภัทรพูดกับตัวเอง พร้อมเดินขึ้นห้องนอนของเค้าไป
ทางฝ่ายกันติทัตนั้น เมื่อเดินเข้ามาสู่คฤหาสถ์หลังใหญ่โตของเค้านั้นก็รีบมุ่งตรงไปยังห้องนอนชั้นสองทันที เสียงประตูห้องเปิดขึ้น ทำให้เด็กน้อยตากลมโตสีดำสนิทเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ
“คุณพ่อ!!!....กลับมาหรอฮะ”ร่างเล็กค่อยๆปีนลงจากเตียงใหญ่วิ่งตรงเข้ามากอดผู้เป็นบิดาแน่น กันติทัตโบกมือให้พี่เลี้ยงสาวออกไปก่อนแล้วจึงอุ้มเจ้าตัวเล็กมานั่งบนเตียง
“ว่าไงครับ ข้าวฟ่าง ดึกแล้วยังไม่นอนอีกหรือ”มือใหญ่ลูบผมนุ่มสีดำเป็นประกายเบาๆ เด็กน้อยฉีกยิ้มหวาน
“รอคุณพ่ออยู่ฮะ ข้าวฟ่างยังไม่ได้จูบคุณพ่อก่อนนอนเลย”
“นั้นสินะ งั้นจูบเร็ว แล้วรีบเข้านอนซะ พรุ่งนี้ต้องไปร.ร. แต่เช้าอีก”ปากบางสีแดงสดค่อยๆบรรจงจูบลงที่แก้มสาก แล้วยื่นพวงแก้มขาวดูนุ่มนิ่มให้ฝ่ายบิดาได้สูดกลิ่นหอมเข้าไป
“ราตรีสวัสดิ์ฮะพ่อ”
“ราตรีสวัสดิ์ ข้าวฟ่าง”เด็กน้อยค่อยๆปิดตาลง แต่มือยังคงจับมือร่างสูงแน่น กันติทัตจึงรอให้ร่างเล็กหลับก่อนจึงค่อยๆดึงมืออกแล้วเดินไปห้องมารดา
“แม่ครับ ผมกลับมาแล้วครับ”กันติทัตเอ่ยพลางหอมแก้มมารดาแผ่วเบา
“ว่าไงตากัน ทำไมกลับซะดึกละ”
“เผอิญเจอคุณป้าวีร์นะครับ........อืมแม่รู้รึยังครับว่าลูกชายคนเล็กคุณป้าเค้ากลับมาแล้วนะครับ”
“อ๋อ หนูภัทรนะหรือ แหมไม่เจอกันตั้งนาน เป็นอย่างไรบ้างละ”
“ก็เหมือนเดิมครับ เค้ายังดูใสๆน่ารักเหมือนเดิม”ร่างสูงพูดพร้อมกับระบายรอยยิ้มไปทั้งหน้า
“งั้นหรือ ตากัน........แม่รู้นะว่าเราคิดอะไรอยู่ แม่ขอร้องละนะ ถ้าหนูภัทรเค้าไม่ได้เป็นอย่างนั้น อย่าดึงเค้าให้มาอยู่กับลูกได้ไหม....แม่กลัวมองหน้าคุณหญิงมนัสวีร์ไม่ติด”กันติทัตถอนหายใจก่อนพยักหน้าตกลง
“ครับแม่ ถ้าน้องภัทรเค้าไม่เคยคิดกับผมเกินพี่ชาย กันก็จะเป็นแค่พี่ชายกับเค้า”ร่างสูงร่ำลาผู้เป็นมารดาก่อนจะเดินออกไป คุณหญิงกษมาได้แต่ถอนใจ
“ตากันเอ๋ย............แม่ไม่รู้จะช่วยเรายังไงจริงๆ”
กันติทัตเดินตรงต่อมาที่ยังห้องของเค้า เมื่อเข้าไปนห้องจึงค่อยๆถอดสูทและเน็คไทออก แล้วหยิบกรอบรูปๆหนึ่งขึ้นมามองอย่างหวงแหน
“ไม่เปลี่ยนจริงๆ ทั้งที่โตขนาดนี้แล้วแท้ๆ ทำไมพี่ยังคิดกับเราเกินเลยคำว่าน้องอีกนะ นภัทร”ร่างสูงพูดอย่างปวดใจ มองใบหน้ายิ้มแย้มของร่างเล็กในรูปก็อดไม่ได้ที่จุมพิตลงแผ่วเบาแล้ววางกรอบรูปนั้นลง หยิบอีกกรอบรูปขึ้นมาแทน
........
....................
.....................................
...............................................To...B....Con........
Neya : เหอ เหอ มีข่าวจะบอก จันทร์นี่เปิดซัมเมอร์แล้วอะ ต้องกลับหอ คิดว่าคงมาต่อถี่ไม่ได้ ขอขอบคุณกับทุกคอมเม้นต์นะครับ ขอบคุณที่เชียร์ จะพยายามเอามาลงครับ คอมเม้นกันเยอะๆนะ^^
ความคิดเห็น