คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : คราวเคราะห์ของนภัทร
Part 9
“เฮ้อ!!!”เสียงทอดถอนหายใจของคนข้างเคียง ทำให้นภัทรที่นั่งมองวิวนอกรถอยู่หันมามองด้วยความสงสัย
“ถอนหายใจทำไมหรือครับ พี่กัน”
“พี่แค่.....สงสารลูกนะ......ข้าวฟ่างคงเสียใจแย่เลยที่พี่ไม่ค่อยได้เอาใจใส่เค้าอย่างนี้”นภัทรแอบเบะปาก เมื่อนึกถึงปีศาจตัวน้อยอย่างข้าวฟ่าง......
พี่กันเอ๋ย ช่างตามลูกตัวเองไม่ทันเสียเลย......แต่นิสัยอย่างนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้รินต้องเสียใจจนฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ......หรือว่าเค้ากำลังโดนกันติทัตหลอกด้วยท่าทางใจดีอยู่กันนะ.......แต่น่าจะไม่ จากการที่ทำงานด้วยกันมาหลายอาทิตย์ กันติทัตค่อนข้างเป็นคนที่ไม่ชอบเอาเปรียบใคร แถมยังเป็นสุภาพบุรุษสุดๆ!!
“แต่พี่นะ......ทำเรื่องที่ผิดกับข้าวฟ่างไว้จนไม่น่าให้อภัย.....แล้วยังชอบปล่อยให้เค้าต้องเหงาบ่อยๆอีก”นภัทรขมวดคิ้ว......ทำเรื่องผิดกับข้าวฟ่าง? เรื่องอะไรกันนะ?
“เรื่องข้าวฟ่าง พี่กันไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะครับ........เจ้าปั้น เพื่อนภัทรนะ เค้าค่อนข้างเข้ากับพวกเด็กๆได้ดี เพราะงั้น ข้าวฟ่างคงไม่เหงาหรอกครับ”
“แต่มันก็รบกวนปั้นเค้านะ.......งานก็ต้องทำ ยังต้องมาดูแลข้าวฟ่างให้อีก”
“ไม่หรอกคับ ปั้นเค้ารักเด็ก”นภัทรปลอบ.........แต่อย่าหลงกลข้าวฟ่างละปั้น เฮ้อ........
งานเลี้ยงก่อนการประชุมในวันรุ่งขึ้นนั้นจัดได้สวยงามสมกับการที่ผู้บริหารใหญ่ทั้งหลายถูกเชิญมาเข้าร่วม เสียงกรูกันเข้ามาของบรรดานักข่าวพร้อมกับแสงแฟลชทำเอา นภัทรถึงกับต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย ส่วนกันติทัตกลับเฉยเพราะเค้ามักโดนอย่างนี้ประจำอยู่แล้ว
“คุณกันติทัตครับได้ข่าวว่างานนี้คุณลงมาจัดการเลยหรือครับ!!!”
“ไม่ทราบว่าข่าวที่ว่าคุณควงสาวไฮโซคนดังเป็นจริงหรือเปล่าคะ”
“มีข่าวว่าคุณไปโรงพยาบาลบ่อยๆ ไม่ทราบว่าไปทำไมหรือคะ”
เสียงมหาชนหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย นภัทรรู้สึกอึดอัดไม่น้อยกับบรรดาลูกตาหลายคู่ที่มองมายังเค้าที่อยู่ได้หลัง เหมือนทางฝ่ายร่างหนาข้างหน้าจะพอรู้จึงหันมากระซิบให้เค้าเดินเข้าไปก่อน แล้วหันไปแย้มยิ้มตอบคำถามนักข่าว
“เฮ้อ!!!!ไม่ไหวๆ.......ไม่ชอบงานอย่างนี้เลย”นภัทรหยิบเครื่องดื่มแก้วหนึ่งพร้อมกับเดินออกมาตรงสระว่ายน้ำข้างๆแทน เมื่อเค้าเริ่มจะเมาคนแล้วเดินไม่ไหว มองไปทางกันติทัตเองก็กำลังอยู่กับการเจรจากับผู้บริหารคนอื่น เค้าจึงเดินออกมาเงียบๆโดยไม่ได้บอก
ร่างบางเหม่อมองดวงจันทร์กลมโตที่สะท้อนอยู่บนผืนน้ำ พลางขบคิดเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับกันติทัตต่อจากเมื่อเค้าคิดในรถ
“นายกันติทัตเป็นคนยังไงแน่นะ......เค้าหลอกรินจริงหรือ......แล้วเค้าทำอะไรกับข้าวฟ่างไว้นะ เฮ้อ!!!มีแต่เรื่องที่ไม่รู้ทั้งนั้นเลย”นภัทรถอนหายใจ แล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อมีเงาหนึ่งทาบลงมาตรงหน้าเค้าพอดี
“สวัสดีครับ.....เมาคนหรือครับคุณ”ชายหนุ่มคนนึ่งยิ้มทักทาย นภัทรได้แต่พยักหน้าส่งๆให้
“งั้นผมขอนั่งเป็นเพื่อนนะครับ”นภัทรเหลือบมองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ แต่ยังไม่ทันเอ่ยปากผู้ชายคนนั้นก็นั่งลงข้างๆเค้าซะแล้ว
“ผมเห็นคุณเดินไปมาตั้งแต่อยู่ในงานแล้ว........มาคนเดียวหรือครับ”ชายหนุ่มถาม พลางเลื่อนมือมาทาบกับมือของนภัทรที่วางไว้อยู่ก่อนแล้ว นภัทรมองด้วยความไม่พอใจก่อนสะบัดมืออก
“เปล่าครับ.....มากับเจ้านาย......ป่านนี้เค้าคงตามหาตัวแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”นภัทรรีบออกตัวเมื่อเห็นท่าทางไม่ดีของอีกคน แต่เมื่อเค้าลุกขึ้นอีกฝ่ายกับฉุดเค้าลงมานั่งอีกคราจนร่างบางตกไปอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งนั้น
“อย่าเพิ่งสิครับ แหม!!!มานั่งเป็นเพื่อนผมก่อนสิ”
“นี่คุณ!!!!ปล่อยผมนะ!!ไม่งั้นผมร้องเรียกคนแน่!!”นภัทรตวาด พยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดนั้น
“คุณไม่กลัวอายหรือไง.....คนจะคิดยังไงครับที่ถูกผู้ชายกอดอย่างนี้”
“ผมไม่กลัวหรอกนะ บอกให้ปล่อย......ช่ว อุ๊บ!!!”ผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งได้ถูกยัดเข้ามาที่ปากของร่างบาง มือทั้งสองโดนมัดไขว้ไว้ทางด้านหลัง ร่างกายถูกผลักให้นอนลงบนเก้าอี้อาบแดดก่อนเจ้าคนหยาบช้านั้นจะคร่อมทับไว้อีกที
“ตรงนี้มันมุมอับ อย่าหวังเลยว่าใครจะมาช่วยได้......ผมอุตส่าห์เข้ามาคุยดีๆไม่ชอบก็ต้องกำลังกันบ้างละ หึหึ”นภัทรพยายามดิ้นรนหาทางออก แต่ก็ต้องจนปัญญา นึกเจ็บใจตัวเองที่เดินออกมาจากงานอย่างนี้
มือหยาบเริ่มคลายเน็คไทที่ร่างบางใส่มาออก พลางปลดกระดุมเม็ดบนออก เผยให้เห็นผิวขาวสวย เจ้าคนเลวละเลงลิ้นลงบนไหปลาร้าเบาๆ นภัทรสลัดตัวเองออกด้วยความขยะแขยง ก่อนไหล่จะโดนยึดไว้แน่น
“ดิ้นไปเท่านั้นแหละคุณ.....อย่าขัดขืนให้ผมหงุดหงิดดีกว่า”มันยิ้มเหี้ยมส่งให้ มือก็ส่งลงไปในเสื้อที่ถูกคลายออก
นภัทรส่งเสียงอู้อี้ก่อนจะยกขาขึ้นช้าๆ ไม่ให้เจ้าคนเลวได้รู้ตัวก่อนถีบลงไปกลางส่วนยุทธศาสตร์ มันร้องโหยหวน รีบลงไปนอนคู้ตัวด้วยความเจ็บปวด นภัทรรีบลุกขึ้นทันที พยายามออกวิ่งเพื่อไปตรงที่มีคน ก่อนจะหันไปเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มวิ่งตามมา
“คิดว่าจะหนีพ้นเรอะ!!!......คิดว่าจะไปหาคนช่วยได้เรอะไง!!!พ่อกูนะใหญ่ขนาดไม่มีใครกล้าช่วยมึงหรอก!!”มันคำรามใส่หูร่างบางเมื่อมันกลับมาคว้าได้อีกครั้ง......นภัทรเจ็บจนน้ำตาไหลเมื่อถูกดึงผมแรงๆ ภาวนาให้ใครก็ได้มาช่วยเค้าที
‘ใครก็ได้ ช่วยด้วย พระเจ้า!!!.......พี่กัน!!!’ร่างบางเบิกตาด้วยความดีใจเมื่อเห็นร่างหนาที่กำลังเดินตามหาเค้าเดินมาทางนี้พอดี
“น้องภัทร!!!อยู่ไหนนะ?!?”หากแต่เมื่อเดินมาใกล้ ตัวของเค้าก็ถูกลากเข้ามายังหลังต้นไม้ใหญ่ กันติทัตจึงมองไม่เห็นแม้แต่น้อย เจ้าคนชั่วหัวเราะในลำคอ
“ไม่มีทางหรอกน่า ต้นไม้ใหญ่เนี่ยมันบังแกมิด ใครเค้าจะรู้ว่าพวกเราอยู่กันตรงนี้ ที่นี้แหละจะเป็นสวรรค์ของฉันกับแก หึหึ”มันเริ่มต้นละเลงลิ้นลงบนแผ่นออกเนียนอีกครั้ง อีกมือแกะเข็มขัดของร่างบางออก แล้วดึงกางเกงสีดำสนิทลง ขาขาวปรากฏให้เห็นในสายตา มันลูบไล้ด้วยความหื่นกระหาย ร่างบางได้แต่ร่ำร้องในใจ......พี่กัน!!!!
ฝ่ายร่างสูงที่เดินตามหาอีกคนนั้น ได้แต่สงสัยว่าคนที่เค้าตามหานั้นได้หายไปไหน เมื่อครู่ยังเห็นอยู่ด้านหลังเค้าอยู่เลย เห็นหน้าซีดๆ จำได้ว่าเจ้าวิชญ์มันเคยบอกว่านภัทรเมาคนง่าย กะว่าจะไปลาพวกผู้บริหารคนอื่นเพื่อกลับ พอหันมาอีกที ร่างบางก็หายไปเสียแล้ว เดินหาทั่วงานก็ไม่เจอ ลองมาหาที่สระน้ำข้างงานนี่ก็ไม่เจออีก.....แต่เมื่อกี้แวบๆเหมือนจะเห็นคนอยู่ พอเดินมาใกล้ๆกลับไม่มี
“พี่กัน.......”ร่างหนาหันขวับ เหมือนได้ยินเสียงนภัทรลอยมาตามลม....จิตใจของเค้าเริ่มรุ่มร้อน กลัว กลัวเหลือเกินว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับนภัทร ทันใดนั้นก็เหมือนมีแสงอะไรบางอย่างสว่างขึ้น แสงนั้นเป็นแสงสีเหลืองนวลตาเหมือนแสงหิ่งห้อยแต่ไม่น่าใช่มันวนเวียนไปรอบๆร่างสูง
“แสงอะไรเนี่ย?”ร่างสูงจ้องมันอย่างแปลกใจก่อนคำพูดบางอย่างจะวนเวียนเข้ามาในหัว
‘พี่กัน รู้ไหม......ถ้ารินตายไปแล้ว รินอยากเป็นหิ่งห้อย......เค้าคนนั้นจะได้มองรินตลอด เพราะเค้านะชอบหิ่งห้อยมากๆเลยละ’เสียงหวานของหญิงสาวคนหนึ่งย้ำอย่างหนักแน่นในความทรงจำของเค้า กันติทัตมองแสงนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา
“ริน.......นั้นรินหรือ”แสงนั้นเหมือนจะหยุดชะงักชั่วครู่ ก่อนบินผ่านไป กันติทัตรีบวิ่งตามทันที!!
“ฮึก.....อึก อื้ออออ!!”ร่างบางเบี่ยงหลบสัมผัสเปียกชื้นตรงแก้มไปมา ร่างสูงที่คร่อมอยู่ยังหัวเราะเบาๆอย่างหื่นกระหาย ชั้นในที่แนบอยู่กับร่างกายเกือบทุกปลดอยู่หลายครา หากไม่โดนร่างบางเบี่ยงหลบ ท่าทางของเจ้าคนชั่วยังคงสนุกกับการเล่นวนเวียนอยู่แถวต้นขานวลนั้นเป็นหนักหนา หารู้ไม่ว่าอันตรายเริ่มคืบคลานมา
กันติทัตค่อยๆแหวกพุ่มไม้ด้านหลัง เผยเห็นร่างบางที่หันหน้ามาประจันกับเค้าพอดี สภาพที่นภัทรกำลังโดนอยู่นั้นทำเอากันติทัตเกือบช็อคในตอนแรก หากแต่เค้าก็มีสติพอทีจะบอกให้ร่างบางเงียบไว้ ก่อนคว้าก้อนหินก้อนใหญ่ทุ่มใส่หัวคนที่กำลังจะทำร้ายร่างบางทันที!!!!!
“อ๊าก!!!”เสียงของมันดังคำรามก่อนจะฟุบลงไป กันติทัตรีบเดินเข้าไปหาร่างบางที่นั่งตัวสั่น น้ำตาไหลพราก พลางปลดผ้าที่พันแขนและอุดปากไว้ออก
ทันทีพันธนาการได้หลุดร่วงไป นภัทรรีบคว้ากันติทัตมากอดเสียแน่น ลำตัวยังคงสั่นไม่หยุด
“พี่กัน......พี่กัน ฮึก พี่กัน”กันติทัตลูบผมร่างบางด้วยความสงสาร แล้วช่วยร่างบางแต่งตัวเสียใหม่ หันไปมองเจ้าตัวต้นเหตุอย่างโกรธแค้น
“รอแปปนะน้องภัทร เดี๋ยวพี่จัดการอะไรก่อน แล้วเราจะกลับบ้านกัน”นภัทรพยักหน้าเข้าใจ มองกันติทัตที่จับเจ้าคนเลวถอดเสื้อผ้าเสียหมด ก่อนผูกมันไว้กับต้นไม้ใหญ่ พร้อมถ่ายรูปลงมือถือเอาไว้ เสร็จแล้วก็ต่อยมันไปอีกหลายมัด เรียกได้ว่าฟื้นขึ้นมาคงถึงกับหยอดน้ำข้าวต้มเป็นแน่
“พี่จะเอารูปมันไปลงเว็ปพวกไฮโซนะ มันจะได้ไม่มีหน้ามากล้าทำงี้อีก”กันติทัตอธิบายเมื่อนภัทรทำหน้าสงสัย
“กลับกันนะ....ไม่ต้องกลัวแล้วนะ พี่อยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวนะน้องภัทร”นภัทรหลับตาลงรับอ้อมกอดอบอุ่นที่ได้มา...
‘ไม่ต้องกลัวนะน้องภัทร......ไม่ว่าน้องภัทรจะหลงไปอยู่ไหน พี่ก็จะตามหาเราให้เจอเอง ไม่ต้องกลัวนะ’เสียงทุ่มอบอุ่นที่เคยได้ยินเมื่อนานแสนนาน ซ้อนทับกับปัจจุบัน นภัทรยกมือขึ้นโอบอีกคนกลับ....ขอบคุณครับพี่กัน...
“How gentle is the rain, that falls softly on the meadow. Birds high up on the trees, serenade the clouds with their melodies”เสียงเพลงจากโทรศัพท์ของนภัทรดังขึ้นแผ่วๆ ร่างบางที่น่งเหม่ออยู่ในรถจึงค่อยๆหยิบขึ้นมาดู
“ว่าไงหรือปั้น”
“มึงเป็นไรเปล่า ทำไมเสียงดูเหี่ยวๆ”
“เปล่า แค่......เหนื่อยนิดหน่อยนะ มีอะไรหรือ”
“วันนี้ข้าวฟ่างบอกว่าจะนอนห้องฉัน บอกพี่กันว่าไม่ต้องมารับนะ”
“อืม มีแค่นี้ใช่ไหม”
“เออ.......งั้นเจอกันพรุ่งนี้ละกัน กูจะพาข้าวฟ่างเข้านอนแล้ว”
“อืม บาย”นภัทรปิดโทรศัพท์ลง มองไปที่ร่างสูงเล็กน้อย
“พี่กันครับ.........ข้าวฟ่างบอกว่าจะนอนกับปั้นนะครับ ไม่ต้องไปรับ”
“อืม หรอ.......แล้วเราเป็นไงบ้าง ค่อยยังชั่วหรือยัง”
“ไม่เป็นไรแล้วครับ.......ขอบคุณนะครับที่ไปช่วยผม”กันติทัตเอื้อมมือไปลูบผมร่างบาง พลางส่งยิ้มอ่อนโยนให้
“พี่ต้องช่วยเราอยู่แล้ว.............น้องภัทรอาจจำไม่ได้ แต่ตอนเด็ก น้องภัทรนะชอบหลงทางบ่อยเลยรู้ไหม...พี่กับเจ้าวิชญ์ต้องคอยตามหาประจำ จนพี่รู้สึกว่าการคอยดูแลน้องภัทรหนะเป็นหน้าที่สำคัญของพี่เชียวหละ”
“หรอครับ......แต่คราวนี้คงแย่ที่สุด....มัน...น่ากลัวจริงๆ..”นภัทรบีบแขนตัวเองเบาๆ รู้สึกขยะแขยงสัมผัสนั้นไม่หาย
“อย่าไปคิดถึงมันเลยนะ”พูดจบต่างคนต่างก็เงียบจนกระทั่งเลี้ยวเข้าโรงแรมไป ทั้งคู่เดินกลับมายังห้องห้องนภัทร ก่อนนภัทรจะเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง ปิดประตูห้องอย่างหงอยๆ
ร่างบางค่อยๆปลดเสื้อผ้าออก มองรอยที่ถูกกระทำอย่างขยะแขยง ถูไปมาอย่างรังเกียจ ก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป
“ออกซิ.......ทำไมไม่ออกนะ ฮึก....ขยะแขยง ฮึก....บ้าที่สุด”ร่างบางพยายามใช้สบู่ถูแรงๆจนยิ่งแดงขึ้น สักพักเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น ร่างบางจึงค่อยๆใส่เสื้อคลุมแล้วเดินออกมาเปิด
“พี่มาอยู่เป็นเพื่อนนะ.......วันนี้ข้าวฟ่างก็ไม่อยู่ ไม่มีคนคุยด้วยเลย ขอพี่เข้าไปหน่อยได้ไหม”นภัทรมองร่างสูงในชุดเสื้อผ้าบางสบายอย่างงงๆก่อนเขยิบให้ร่างสูงเข้าไปได้
“งั้นภัทรไปใส่เสื้อผ้าก่อนนะครับ”นภัทรเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำแล้วออกมาอีกครั้งในชุดนอนสีน้ำเงินเข้ม เห็นร่างสูงกำลังนั่งขะมักขะเม้นทำบางอย่างอยู่จึงชะเง้อคอมองด้วยความสงสัย
“พี่กัน ทำอะไรนะครับ”ร่างสูงเงยหน้าส่งยิ้มให้
“ต้มมาม่านะ.......อยู่ในงานไม่ค่อยได้กินอะไรเท่าไหร่ ภัทรมากินด้วยกันซิ พี่อุตส่าห์ซื้อแบบบิ๊กโบลว์มาตั้งหลายกระป๋อง
นภัทรนั่งลงข้างร่างสูง รับถ้วยมาม่าชามใหญ่มาอย่างงงๆ ร่างสูงเห็นอย่างนั้นจึงเลิกคิ้วเป็นเชิงถามร่างบางจึงเปิดปากขึ้น
“เอ่อ.....พี่กันไปซื้อมาม่ามาเหรอครับ”
“อืม...เซเว่นแถวโรงแรมนะ.......นี่มันก็ดึกแล้ว พี่เห็นว่าห้องอาหารโรงแรมไม่เปิดแล้ว รูมเซอร์วิสก็หมดเวลาส่งแล้วก็เลยออกไปซื้อนะ.......ข้าวกล่องเค้าก็เก็บไปหมดแล้วพี่เลยได้แต่ซื้อมาม่ามานะ กินได้ไหม”นภัทรพยักหน้า พลางส่งเส้นมาม่าเข้าปาก ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย จนท้องของร่างบางเริ่มประท้วงขึ้นมา
“น่าอายจริงๆเลย”นภัทรหน้าแดงก่ำ ในขณะที่กันติทัตหัวเราะร่า
“อย่าคิดมากๆ......กินให้หมดละ จะได้นอนสบายท้อง”นภัทรจึงทานส่วนที่เหลือจนหมดแล้วทิ้งชามกระดาษลงในถัง แล้วเดินมานั่งข้างอีกฝ่ายที่ยังคงนั่งทานไปดูทีวีไป ร่างบางมองคนตรงหน้าเล็กน้อยพลางอิงลงไปที่ไหล่หนา......ขอสักวันละกันที่เค้าจะอ่อนแอปล่อยให้ คนๆนี้..........ดูแลเค้าสักหน่อย........ร่างสูงหันมามองพลางยิ้ม
“ง่วงรึยัง......ไปนอนเถอะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้านะ”
“ครับ”ร่างบางปีนขึ้นเตียงอย่างว่าง่าย ห่มผ้าไว้ แต่ตายังคงเหม่อมองร่างสูงอย่างใจลอย จนอีกฝ่ายรู้สึกได้ลุกขึ้นมานั่งข้างๆ
“ตอนภัทรเด็กๆ.....ชอบงอแงไม่ยอมนอน......เจ้าวิชญ์ก็เลยชอบโยนหน้าที่กล่อมเด็กดื้ออย่างเรามาให้พี่ เวลาพี่มาค้างที่บ้านเรา.....รู้ไหมว่าพี่กล่อมยังไง?”นภัทรส่ายหัวไปมา กันติทัตจึงจับมือร่างบางไว้ข้าง อีกข้างลูบหัวเบาๆ
“พี่จะให้เรานอนตักแล้วก็ทำอย่างนี้.......พลางเล่านิทานให้ฟัง แล้วเราก็จะหลับ........บางทีพี่ยังเคยเอาไว้วิธีนี่ไปใช้กับข้าวฟ่างเลย”เสียงเล่าความหลังทุ้มๆ ทำเอาร่างบางถึงกับเคลิ้มเล็กน้อย ความอบอุ่นเข้าไปถึงจิตใจ
“พี่กันเนี่ย น่าจะเปลี่ยนอาชีพจากนักธุรกิจเป็นพี่เลี้ยงเด็กนะครับ......ท่าทางจะรุ่ง”กันติทัตหัวเราะในลำคอ
“พี่นะยังทำได้อีกหลายอย่าง.....ภัทรไม่รู้เองต่างหาก”นภัทรหัวใจเต้นเล็กน้อย เมื่อเพิ่งสังเกตว่ากันติทัตเปลี่ยนการเรียกเค้าเสียใหม่
“พี่กันไม่เรียกผมว่าน้องภัทรแล้วหรือครับ”กันติทัตชะงักแปปนึงแล้วเอ่ยปากถาม
“อยากให้เรียกน้องภัทรเหมือนเดิมหรอ?”นภัทรส่ายหน้า
“เปล่าครับ เรียกอย่างนี้ก็ได้”ร่างสูงยิ้มบางๆ พลางเปล่งเสียงร้องเพลงนุ่มออกมาเบาๆ
“I lie awake at night
See things in black and white
I've only got you inside my mind
You know you have made me blind
I lie awake and pray
That you will look my way
I have all this longing in my heart
I knew it right from the start
*Oh my pretty pretty boy I love you
Like I never ever loved no one before you
Pretty pretty boy of mine
Just tell me you love me too
Oh my pretty pretty boy
I need you
Oh my pretty pretty boy I do
Let me inside
Make me stay right beside you
I used to write your name
And put it in a frame
And sometime I think I hear you call
Right from my bedroom wall
You stay a little while
And touch me with your smile
And what can I say to make you mine
To reach out for you in time
*
Oh pretty boy
Say you love me too
* ”
เสียงร้องนุ่มพาให้ร่างบางหลับตาลงช้าๆ ลมหายใจเริ่มสงบนิ่ง กันติทัตมองร่างบางที่ผล็อยหลับไปอย่างเอ็นดู แล้วจูบหน้าผากมนนั้น สอดตัวลงไปในผ้าห่ม ขอฉวยโอกาสกอดร่างบางหลวม กระซิบเสียงผ่านสายลม
“ราตรีสวัสดิ์ครับ เด็กดีของพี่”ราวกลับเสียงนั้นส่งเข้ามาในโสตประสาท ร่างบางคลี่ยิ้มหวาน พลางเบียดตัวเข้าหาความอบอุ่นตรงหน้า กันติทัตหลับตาลง ปล่อยให้ค่ำคืนอันแสนหวานยังคงดำเนินไปอีกนาน.....
......
.....................
..........................................
..........................................................To B Con..........
Neya : สวัสดีครับ ไม่ได้มาต่อนาน ขอโทษด้วย เป็นเพราะเปิดเทอม มันยุ่งกับการรับน้อง เรื่องเรียน ไม่ค่อยได้กลับบ้าน เลยไม่รู้จะเอามาต่อยังไง ลืมกันรึยังเนี่ย อย่าเพิ่งลืมกันเลยนะ ขอบคุณทุกท่านที่เม้นให้ อ่านจบแล้วอย่าลืมเม้นกันนะครับ^^
ความคิดเห็น