คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : การเปลี่ยนแปลงของหัวใจดวงน้อยๆ
Part 8
“ข้าวฟ่าง อย่าดื้อกับอาปั้น รู้ไหม หืม?”ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่พูดขึ้น พลางใช้มือลูบผมเจ้าตัวน้อยเบาๆ
“คุณพ่อ.........คุณพ่อ ไม่รักข้าวฟ่างแล้วหรือฮะ......ทำไมคุณพ่อถึงต้องฝากข้าวฟ่างให้คนอื่นดูแล”เด็กน้อยทำน้ำตาคลอ
“พ่อรักข้าวฟ่างนะ แต่พ่อให้ข้าวฟ่างไปไม่ได้จริงๆ อาปั้นก็ไม่ใช่คนอื่นซะหน่อยนะ”
“ข้าวฟ่างอยู่กะอาเถอะนะ เดี๋ยวคุณพ่อก็กลับ ไปนั่งเล่นห้องอาก่อน อามีเกมส์สนุกๆเยอะแยะเลยนะ”เด็กน้อยได้แต่นั่งซึม อยู่ในอ้อมกอดของคนที่รับดูแล ในขณะที่มองผู้เป็นพ่อได้แต่เดินลับสายตาไป
“เอาละ เดี๋ยวเราไปนั่งเล่นกันที่ห้องของอานะ”เด็กน้อยพยักหน้า แต่ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้ใบหน้านั้นกลับแฝงไปด้วยความคิดอันแยบยลหมายจะกลั่นแกล้งคนที่อุ้มตนอยู่
“อาปั้นฮะ.......ข้าวฟ่างหิวข้าว”ภากรมองเด็กน้อยที่นั่งเล่นเกมส์อยู่ที่พื้นก่อนเงยหน้ามองนาฬิกา เมื่อรู้ตัวว่าเริ่มจะค่ำแล้วจึงเดินไปยังโทรศัพท์ทันที
“อยากกินอะไรละ ข้าวฟ่าง อาจะได้สั่งให้”ข้าวฟ่างทำท่าคิดก่อนที่จะตอบว่า
“ข้าวผัดฮะ”
“อืมโอเค ข้าวผัดนะ”หลังจากที่สั่งเรียบร้อย ภากรก็ล้มตัวลงนั่งเช่นเดิมแล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเด็กน้อยร้องขึ้น
“อ๊ะ!!! อาปั้นฮะ ข้าวฟ่างลืมบอกว่าข้าวฟ่างกินกุ้งไม่ได้......ข้าวฟ่างแพ้กุ้ง”เด็กน้อยตีหน้าเศร้า ทำทีท่าขอโทษว่าต้องให้ภากรลำบากโทรไปเตือนแม่ครัวอีกครั้ง(ได้ข่าวว่า หลายตอนก่อน แกยังกินข้าวต้มกุ้งอยู่เลยไม่ใช่เรอะ:Neya)
“อ๊ะ!!!”เสียงอุทานดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อข้าวฟ่างแกล้งนึกขึ้นได้อีกว่ายังต้องสั่งห้ามใส่อะไรในข้าวผัด หลายต่อหลายครั้งจนภากรเริ่มหงุดหงิด
“ข้าวฟ่าง!!!สรุปเรากินข้าวผัดจะใส่อะไรบ้างเนี่ย!!!!เอาทีเดียวเลย!!”ข้าวฟ่างเบะปากเล็กน้อย น้ำตาใสไหลคลอ
“ขอโทษะฮะ.....ฮึก......ขอโทษ ทะ ที่ ทำให้...ฮึก.....อาปั้น ลำบาก...”ภากรตกใจเมื่อเห็นเจ้าตัวดีร้องไห้รีบเข้าไปปลอบเป็นการใหญ่
“อาไม่ลำบากเลยจ๊ะ โอ๋ๆ อย่าร้อง”ข้าวฟ่างยิ้มเยาะในใจ........นี่ละน้าผู้ใหญ่ ยังไงก็แพ้น้ำตาเด็ก.....
“งั้นข้าวฟ่างขอนมอีกแก้ว แล้วก็น้ำเปล่าด้วยนะฮะ”ภากรแสยะยิ้มฝืนๆส่งให้ก่อนเดินไปที่โทรศัพท์อีกครั้ง ด้านหลังมีข้าวฟ่างแอบหัวเราะอยู่อย่างสะใจ
“อาปั้น.......ข้าวฟ่างเบื่อเกมส์แล้ว มาเล่นกับข้าวฟ่างหน่อยสิฮะ”ภากรพับหนังสือพิมพ์เก็บลง แล้วมองหน้าข้าวฟ่าง
“อย่างเล่นอะไรละ?”
“ขี่ม้าส่งเมืองฮะ!!!”
“โอเคๆ.......มา..มาขี่หลังอาสิ”ข้าวฟ่างได้ทีรีบปีนขึ้นหลังของร่างสูงที่ก้มลงคลานอยู่ ก่อนกระแทกตัวลงไปกลางหลังแรงๆ
“โอ๊ย!!!ข้าวฟ่างเบาๆหน่อย อาเจ็บ”
“ขะ ขอโทษฮะ.....ฮึก ข้าวฟ่างไม่.....ตั้งใจ”ข้าวฟ่างเบะปากเตรียมร้องอีกครั้ง ทำเอาภากรต้องรีบปลอบ แล้วตามใจให้ข้าวปั้นนั่งกระแทกหลังแรงๆจนเค้าเริ่มปวดไปตามไขสันหลัง.....
“เบื่อแล้วอะ......อาปั้น เราเล่นซ่อนแอบกันเถอะฮะ”หลังจากแกล้งให้ภากรเจ็บตัวจนพอใจแล้ว ข้าวฟ่างก็เริ่มแผนต่อไปทันที
“ห๋า!!! ไม่.......ก็ได้ๆ อย่าร้องนะ”ภากรรีบปิดปากที่จะปฎิเสธลงทันที เมื่อเห็นท่าทีร่างเล็ก........ไม่น่ามาช่วยไอ้ภัทรเลยให้ตายซิ!!!
“โอเค อาจะนับ1-10 ไปซ่อนตัวละกัน นับนะ 1 2 3.....”ข้าวฟ่างได้ที รีบเปิดประตูอย่างเบาเสียงแล้ว เล็ดลอดออกจากห้องทันที เมื่อภากรนับเสร็จก็กวาดสายตามองไปรอบๆอย่างแปลกใจ เพราะที่ซ่อนในห้องมีเพียงไม่กี่ที่เท่านั้น อย่างข้าวฟ่างไม่น่าจะซ่อนได้มิดชิดขนาดนั้น
“ข้าวฟ่าง ยู้ฮู้!!!......อยู่ไหนเนี่ย.......ข้าวฟ่าง.......ข้าวฟ่าง.....อยู่ไหนเอ่ย!?!.......เฮ้ย!!ข้าวฟ่าง ออกมาเถอะ อายอมแพ้แล้ว.......ตายหละ อย่าบอกนะว่าออกไปซ่อนข้างนอกห้อง.......ซวยละสิ ขืนใครจับตัวไปจะหาที่ไหนใช่พี่กันละฟะเนี่ย.....ไอ้เด็กตัวยุ่งเอ๋ย!!!”
////////////////////////////////////////////////////////
ตรงมุมอับมุมหนึ่งของโรงแรมอันหรูหรา เด็กน้อยหน้าตาน่ารักราวกับเนางฟ้านั่งขดตัวหลบมุมอยู่ ในมือเล็กๆนั้นกำโทรศัพท์มือถือแน่น รอคอยสัญญาณจากปลายสาย
“....Hello!!!”เสียงรับจากอีกฝากดังขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ทางด้านคนโทรรีบพูดทันที
“ฮัลโหล........นั้นโพดหรือเปล่า นี่ฟ่างนะ”
“อ้าว ฟ่างเองหรอ มีอะไร.....โทรมาหาเค้าซะแต่เช้าเลย”ข้าวฟ่างหันไปมองนาฬิกาบนโทรศัพท์ของตน แล้วก็พบว่ายังคงเป็นเวลาเพียงเจ็ดโมงเช้าของฝ่ายนั้นเอง
“ฟ่างอยากให้โพดช่วยโทรหาพ่อกันให้หน่อยซิ..........บอกว่าฟ่างโทรมาหาโพดแล้วพูดประมาณว่าพ่อกันไม่รักฟ่าง ฟ่างไม่รู้จะอยู่ทำไมอะไรประมาณนี้อะ ได้ไหม?”ปลายสายเงียบไปสักครู่ก่อนกรอกเสียงมาตามสาย
“ฟ่าง เกิดอะไรขึ้นหรอ........เรารู้นะว่าฟ่างไม่มีวันที่จะทำร้ายตัวเอง แต่ทำไมถึงต้องทำงี้”ข้าวฟ่างถอนหายใจ
“พ่อกันจะหาคนมาแทนแม่.....ฟ่างไม่ต้องการนะโพด”
“แต่ฟ่างก็รู้ว่าห้ามไม่ได้ ก็เหมือนตอนที่พวกเราเกิดนั้นแหละ.....ไม่เห็นพ่อกันกับแม่ถามเลยว่าเราอยากถูกแยกกันอย่างนี้รึเปล่า”ข้าวฟ่างน้ำตาคลอเล็กน้อย เมื่อนึกถึงฝาแฝดของตนเองที่ถูกแยกจากกันตั้งแต่พวกเค้ายังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ!!!
“ขอร้องละโพด ฟ่างไม่รู้จะทำไงแล้ว.....เค้าเป็นคนที่พ่อกันรักมาตลอด ฟ่างเคยเห็นรูปเค้าในห้องพ่อด้วย อย่างน้อยก่อนที่เค้าจะมาเป็นแม่ใหม่ ก็ขอให้ฟ่างมีเวลาทำใจหน่อยเถอะนะ”ทางปลายสายถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก
“โอเคฟ่าง.......เราจะช่วย แต่แค่หนเดียวนะ ถ้าแม่รู้เข้า เราต้องโดนลงโทษแหงๆ........เราคงโทรไปช้าหน่อยนะ โทรตอนนี้เดี๋ยวแม่จะสงสัยว่า ทำไมโทรหลายครั้ง”
“โอเค!!! อย่าลืมทำตามแผนนะ........อย่างน้อยพ่อก็ต้องห่วง มาตามหาฟ่าง คราวนี้ก็ไม่มีเวลาไปจู๋จี๋กับอาภัทรแหละ อิอิ.......บะบาย”
“ที่นี่แหละ อาภัทรก็ต้องไม่สมหวังแน่”ข้าวฟ่างพูดขึ้นอย่างหมาดหมาย รู้สึกยินดีกับแผนที่คิดขึ้นว่าต้องดำเนินไปอย่างราบรื่นแน่นอน
“นี่หนู มานั่งทำอะไรตรงนี้จ๊ะ”ชายหนุ่มรูปร่างสูงยาวถามขึ้น หากแต่กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ก็สัมผัสเข้ามายังในจมูก ทำเอาร่างเล็กถึงกับต้องเบือนหน้าหนี
“ไม่มีอะไรฮะ........คือผมกำลังจะกลับห้อง ขอตัว...”ข้าวฟ่างลุกขึ้นเตรียมเดินออกไป แต่กลับถูกคว้าข้อมือไว้
“เดี๋ยวซิ จะรีบไปไหน.......อยู่กะอาก่อนซิ ไปเล่นห้องอาก่อนนะ เดี๋ยวอาไปส่งถึงห้องเลย”ข้าวฟ่างหน้าซีดเผือด นึกกลัวอยู่ในใจ พยายามแกะมือที่จับเค้าไว้ราวกับคีมเหล็กนั้นออก
“ไม่ละฮะ เดี๋ยวพ่อจะเป็นห่วง ปล่อยผมเถอะ”
“เอาน่า ไปเล่นกับอาก่อน อามีของเล่นเยอะแยะเลยนะ”ชายหนุ่มยกร่างเล็กขึ้น ในขณะที่คนโดนอุ้มได้แต่ปัดป่าย น้ำตาไหลลงมาด้วยความกลัว
“ปล่อยผมนะ!!!ผมไม่ไป!!!”
“ไอ้เด็กนี่นิ!!!แหกปากอยู่ได้”เจ้าคนร้ายปิดปากสีสดแน่น พยายามออกเดินลัดเลาะไปตามทางที่ไม่พลุกพล่านนัก
‘ช่วยด้วย!!!ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!พ่อฮะ ข้าวฟ่างกลัว ฮึก ฮือ’ข้าวฟ่างร้องครางในใจ หากแต่ก็ไม่มีวีแววว่าใครจะมาช่วยแม้แต่น้อย
“เอาตรงนี้ละวะ....หนูน้อย อย่ากลัวเลยนะจ๊ะ หึหึ....”เมื่อมาถึงจุดที่ไร้ซึ่งคนอยู่แม้แต่น้อย ลิ้นสากก็เริ่มไล่ไปตามแก้มขาวเนียน ข้าวฟ่างสั่นสะท้านด้วยความกลัว
ลิ้นอันน่ารังเกียจนั้นเริ่มไล่ลงมายังลำคอขาวเนียน ก่อนที่เจ้าคนชั่วจะปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดด้วยมือเพียงข้างเดียว อีกข้างจับกดแขนกับขาของร่างเล็กไว้
“ปล่อยนะ!!!!ปล่อย!!! ฮือๆๆ!!!ใครก็ได้ช่วยที”
“ใครจะมาช่วยแก หึหึ เรามาสนุกกันดีกว่า”มันวาดลิ้นลงไปยังแผ่นอกขาวนวล.....
“กูนี่ไงวะ!!!”เสียงผลั่กใหญ่ดังขึ้นกลางหลังของเจ้าคนใจชั่ว ก่อนที่มันจะลงไปนอนคุดคู้ที่พื้น ข้าวฟ่างมองหน้าคนที่มาช่วยผ่านม่านน้ำตา
“อะ....อาปั้น”ภากรหันมามองร่างเล็กด้วยความสงสาร ก่อนสายตาจะเบนไปทางอีกฝ่ายที่นอนคู้ตัวอยู่แล้วกระหน่ำเท้าลงไปบนตัวมันไม่ยั้ง
“คุณภากรครับ พอแล้วครับ......เดี๋ยวมันจะตายซะก่อน ทางนี้ผมจัดการเองครับ”เสียงพนักงานคนหนึ่งดังขึ้น เรียกสติของภากร ร่างสูงจึงหยุดแล้วหันไปหาร่างเล็กที่ยังคงนั่งตัวสั่น
“ข้าวฟ่างเป็นไงบ้าง”ภากรยื่นมือออกไป หมายจะลูบหัวปลอบใจแต่ก็ต้องชักกลับ เมื่อข้าวฟ่างมีอาการผวาอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เป็นไรนะ......นี่อาปั้นเอง.......มานี่มา”ร่างสูงอ้าแขนรอให้เด็กน้อยเข้ามาหาเอง.......ข้างฟ่างค่อยๆข่มความกลัว โผเข้าสู่อกกว้าง รู้สึกถึงความอบอุ่นจนอดห้ามน้ำตาไม่อยู่
“อาปั้นๆๆๆๆๆๆ...ข้าวฟ่างกลัว ฮือ!!!!”ภากรโอบเด็กน้อยขึ้น แล้วมองไปทางพนักงานที่รวบตัวเจ้าคนใจหยาบด้วยสายตาเย็นเชียบ
“จัดการมันให้เรียบร้อย...ทำให้เหมือนอุบัติเหตุหน่อยละ.....ทางด้านหนังสือพิมพ์ ฉันจะปิดปากเอง แล้วเรื่องนี้อย่าได้แพร่งพรายละ รู้ใช่ไหม ถ้าเรื่องมันหลุดออกไปจะเป็นยังไง”พนักงานต่างๆพยักหน้าอย่างเข้าใจ........ใครที่มันบังอาจมาทำให้คนอย่างภากรนั้นโกรธขึ้นมาละก็ไม่มีจุดจบที่ดีสักคน.....
/////////////////////////////////////////////
ภากรวางข้าวฟ่างลงบนเตียงสีขาวสะอาดของเค้า ก่อนเดินลับหายไปไหนห้องน้ำ แล้วออกมาพร้อมขันน้ำและผ้าขนหนูผืนหนึ่ง
“ข้าวฟ่าง........สงบใจได้บ้างรึยังหืม?”ข้าวฟ่างจ้องมองอีกฝ่ายแล้วพยักหน้าเล็กน้อยก่อนใบหน้าจะถูกซับด้วยผ้าสีขาวสะอาดที่ชุบน้ำไว้แล้ว
“วันหลังอย่าออกไปเดินเพ่นพ่านอีกละ รู้แล้วใช่ไหมว่าโลกข้างนอกที่ไม่มีผู้ใหญ่นะ มันน่ากลัวแค่ไหน?”ข้าวฟ่างพยักหน้าอีกครั้ง
“วันหลังต้องเชื่อฟัง อารู้ไหม?เอาละถอดเสื้อสิ อาจะได้เช็ดตรงอื่น........ยังกลัวอยู่ซินะ”ภากรปล่อยมือจากเสื้อข้าวฟ่างทันที เมื่อเห็นปฎิกิริยาของร่างเล็ก
“อาบเองไหวไหม?”ข้าวฟ่างพยักหน้าอีกครั้ง ก่อนที่จะปล่อยให้ภากรอุ้มตัวเองไปยังห้องน้ำ เมื่อร่างสูงทำท่าทีว่าจะปล่อยให้เค้าอาบคนเดียว ข้าวฟ่างก็ดึงปลายชายเสื้อทันที
“อาปั้น.....อยู่ตรงนี้นะ ข้าวฟ่างกลัว”ภากรผงกหัวตกลงแล้วหันหลัง ปล่อยให้ข้าวฟ่างอาบน้ำอย่างสบายใจ
“อาสั่งให้เค้าไปซื้อชุดนอนเด็กมาให้แล้ว ตอนนี้ก็รอก่อนละกัน กินนมอุ่นไปก่อนแล้วกัน”ภากรส่งแก้วนมอุ่นๆให้ข้าวฟ่าง แล้วนั่งลงตรงหน้า
“อาปั้น อย่าบอกเรื่องนี้กับพ่อนะ........ขอร้องละ”
“ทำไมละ?”
“ข้าวฟ่างไม่อยากให้พ่อต้องเป็นห่วง.......อ๋อ โทรศัพท์ข้าวฟ่างละฮะ หยิบโทรศัพท์ของข้าวฟ่างให้หน่อย”ภากรเดินไปคุ้ยหาโทรศัพท์ในกองเสื้อผ้าก่อนยื่นให้เด็กน้อย ข้าวฟางเมื่อรับมาก็โทรไปหาใครบางคนทันที
“ฟ่างมีอะไรอะเปล่า เรากำลังจะโทรไปหาพ่อพอดี”ทางปลายสายถาม
“โพด......ไม่เอาแล้วนะ.......ฟ่างกลัวพ่อจะเป็นห่วง...”ข้าวฟ่างคิด.....แค่เค้าคิดจะทำ ดูสิผลกรรมยังติดจรวจทำเอาเค้าต้องมานั่งรู้สึกไม่ดียังงี้ หากข้าวโพดฝาแฝดของเค้าดำเนินแผนการณ์ไปแล้ว เรื่องจะยิ่งวุ่นวายขนาดไหน
“อืม......ก็ดีแล้วละฟ่าง โอเคโพดจะได้ไม่ต้องโทร มีอะไรอีกเปล่าโพดต้องไปเรียนแล้ว”
“ไม่แล้วละ......ตั้งใจเรียนนะโพด”ข้าวฟ่างวางสายไปแล้ว สายตาสงสัยของภากรปรากฏขึ้น ข้าวฟ่างจึงได้แต่กล่าวเรื่องจริงออกไป
“ตอนแรกข้าวฟ่างแค่จะแกล้งให้พ่อเป็นห่วง จะได้ไม่ต้องไปทำงาน ไม่ต้องอยู่กับอาภัทรสองคน.....ไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องอย่างนี้”ภากรเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“อยู่กับอาภัทรสองคน......เรารู้เรื่องพ่อเรากับเจ้าภัทรด้วยหรอ”ข้าวฟ่างพยักหน้า
“ข้าวฟ่างว่าอาภัทรก็น่าจะเคยบอกอาปั้นใช่ไหมฮะว่า ข้าวฟ่างอะเวลาอยู่กับพ่อกับอยู่กับอาภัทรจะไม่เหมือนกัน....แค่ข้าวฟ่างรู้ว่าพ่ออะชอบอาภัทร......ข้าวฟ่างก็เลยหาทางแกล้งอาภัทร...”
“แล้วก็แกล้งอาที่เป็นเพื่อนเจ้าภัทรด้วยซิ?”ร่างเล็กพยักหน้า
“ขอโทษฮะ”
“เฮ้อ!!เอาเถอะ วันหลังอย่าทำงี้อีกละ......อาสัญญาว่าเหตุการณ์นี่อาจะไม่เอาไปบอกพ่อเราแลกกับการทำตัวดีๆกับอา โอเคไหม?”ร่างเล็กพยักหน้าเข้าใจ ร่างสูงจึงส่งยิ้มให้
“ดีมากๆ.......โอ๊ะเสื้อคงมาส่งแล้ว เดี๋ยวอาไปเอามาให้รอแปปนะ”ข้าวฟ่างมองตามหลังคนที่เดินไปยังที่ประตูก่อนหน้าแดงขึ้น
“เราเป็นอะไรเนี่ย.......ทำไมพออาปั้นยิ้มให้อย่างงั้น แล้วรู้สึกใจเต้นจัง”ข้าวฟ่างลูบหน้าตัวเองช้าๆแล้วมองร่างสูงที่เดินกลับมา
“เป็นไรข้าวฟ่าง หน้าแดงเชียว ไข้ขึ้นหรอ.....หนาวรึเปล่า”มือหนาทาบลงมาที่หน้าผากใส
“ปะ เปล่าฮะ ขอเสื้อด้วยฮะ”ร่างเล็กรับเสื้อผ้ามาแล้วก็ต้องหยุดชะงัก
“อาปั้นหันหลังซิฮะ”
“อายอะไรของเราหืม?..........โอเคหันก็หัน”ร่างเล็กรีบแต่งตัวทันที เมื่อภากรหันหลังให้ แล้วสะกิดเบาๆให้ภากรหันมาเมื่อแต่งตัวเสร็จ
“อาปั้น ข้าวฟ่างขอนอนกับอาปั้นได้ไหมฮะ คืนนี้”
“แล้วไม่ไปนอนกับพ่อเราหรือไง”
“คุณพ่อกว่าจะเลิกงานก็ดึก อาปั้นโทรไปบอกพ่อหน่อยนะฮะว่าคืนนี้ข้าวฟ่างจะนอนกับอาปั้นเลย พ่อไม่ต้องมารับ”
“โอเคคร้าบคุณชาย........แน่ใจนะ”ร่างเล็กพยักหน้ารัว ภากรจึงกดโทรศัพท์ไปหากันติทัต พร้อมบอกเจตจำนงไปแล้วหันมาบอกโอเคกับข้าวฟ่าง ซึ่งยิ้มแก้มปริอยู่บนเตียง
“งั้นอาปิดไฟเลยนะ”ภากรพูดเมื่อตนเข้าไปอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าวฟ่างก็กระโดดขึ้นเตียง เมื่อภากรนอนลงบนเตียง ร่างเล็กก็เขยิบเข้ามาใกล้ๆ
“ตัวอาปั้นอุ่นจัง”พูดจบก็ผล็อยหลับไป ปล่อยให้อีกคนนอนหัวเราะเบาๆ
“เออดี........ยังกะมีน้องชายตัวเล็กๆเลยแฮะ ฝันดีนะข้าวฟ่าง”ภากรปิดเปลือกตาลง ปล่อยให้ค่ำคืนแห่งนิทราก้าวข้ามผ่านไป.......
...............
...............................
.....................................................To B Con.........
Neya : สวัสดีครับทุกคน เป็นไงกันบ้าง บางคนก็เปิดเทอมแล้ว บางคนก็กำลังจะเปิด อ่านนิยายแล้วอย่าลืมอ่านหนังสือเรียนกันนะ ^^
ความคิดเห็น