ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยแค้นแสนรัก(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : การทำงานวันแรก

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 51


    Part 5

    หลังจากที่กันติทัตได้พาน้องข้าวฟ่างลูกชายสุดน่ารัก(แต่ภายนอก)ไปโรงเรียนเรียบร้อยแล้วเค้าก็ขับรถไปยังบริษัทของตนเองทันที

    “น้องภัทร เดี๋ยวพอเข้าบริษัทไปแล้วพี่จะพาไปทำความรู้จักกับคุณปาราตีนะ เธอเป็นเลขามือหนึ่งของพี่เลย”กันติทัตพูดแล้วถอดที่คาดเข็มขัดรถออก

    “งั้นที่ภัทรมาทำงานหน้าที่เลขาอย่างนี้ คุณปาราตีเค้าจะทำอะไรละครับ”นภัทรถามอย่างสงสัย และกลัวว่าตนเองจะเป็นสาเหตุให้คนอื่นโดนย้ายงาน

    “อ๋อ เรื่องนั้นนะหรือ......ไม่ต้องห่วงนะ คุณปานะเค้าก็ทำหน้าที่อย่างเคยนั้นแหละ เพียงอาจจะลดลงไปบ้าง ดีซะอีก เธอจะได้สบายลงหน่อย งานเลขาพี่เนี่ยหนักใช่เล่นนะ”กันติทัตบอก เดินตัวปลิวเข้าบริษัทไป

    “สวัสดีคะท่านประธาน”

    “อรุณสวัสดิ์ครับท่าน”

    เสียงทักทายระหว่างทางดังขึ้นทุกครั้งที่ร่างสูงเดินผ่านคน กันติทัตยิ้มทักทายอารมณดีให้ทุกคน ทำเอาร่างเล็กอดหมั่นไส้ไม่ได้

    “ท่าทางวันนี้พี่กันจะอารมณ์ดีเหลือเกินนะครับ”ร่างสูงหันมามองคนที่เดินตามหลังแล้วก็หัวเราะ

    “ก็คงจะอย่างนั้นแหละ”ร่างสูงแทบจะเดินฮัมเพลง ทำเอาพนักงานแปลกใจนะพฤติกรรมของประธานบริษัท ถึงจะเป็นคนยิ้มแย้มง่ายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่วันนี้แทบจะเรียกว่ายิ้มไม่หุบ ช่างน่าสงสัยเสียจริงว่าเกี่ยวพันกับร่างเล็กคนงามด้านหลังหรือเปล่า

    กันติทัตเดินจนมาถึงลิฟท์ของผู้บริหาร ทั้งสองพากันเดินเข้าไปแล้วร่างสูงก็กดปุ่มสู่ชั้นที่หมาย ซึ่งระหว่างนั้นนภัทรก็ได้แต่เงียบ สงสัยในความอารมณ์ดีเกินพอดีของอีกคน

    ติ๊ง!!!!เสียงลิฟท์มาหยุดในชั้นที่ต้องการ กันติทัตจึงก้าวเดินนำต่อไป จนถึงหน้าประตูห้องหนึ่ง เมื่อร่างสูงผลักเข้าไป ทำให้บรรดาผู้ที่กำลังทำงานอยู่นั้นได้เงยหน้าขึ้นมา พร้อมใจกันยืนทำความเคารพผู้ที่เป็นประธาน

    “ปาราตีมาหรือยัง”กันติทัตเอ่ยเสียงทุ้มถามคนที่ใกล้ตัวมากที่สุด

    “มาแล้วคะบอส”หญิงสาวตอบ

    “ดี งั้นบอกเดี๋ยวให้ไปหาผมที่ห้องด้วยนะ…….ไปกันเถอะ น้องภัทร”นภัทรพยักหน้าแล้วเดินตามร่างสูงที่เดินตัดผ่านผู้คนไปยังห้องทำงานอันหรูหราสมกับการเป็นประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ ห้องอันกว้างขวางนั้นถูกล้อมกรอบด้วยผนังกระจกเสียส่วนหนึ่ง ทำให้สามารถมองวิวของกรุงเทพได้กว้างขวาง

    นภัทรนั่งลงบนโซฟาหนังนุ่มสีดำสนิท ตามที่ร่างสูงเชิญก่อนที่กันติทัตจะนั่งลงตาม แล้วร่างเล็กก็กวาดสายตาไปมองรอบๆแล้วก็ต้องสะดุดกับโต๊ะไม้อย่างดีอีกด้านหนึ่งของห้อง เมื่อกันติทัตเห็นจึงพูดขึ้น

    “นั้นโต๊ะทำงานของน้องภัทรนะ เดี๋ยวน้องภัทรจะต้องทำงานกับพี่ข้างในนี้ ส่วนคุณปาราตีเค้าจะทำงานทางฝ่ายติดต่อแขกที่จะเข้าพบพี่ข้างนอก งานของน้องภัทรส่วนมากก็คือ เป็นเลขาติดตามตัวพี่ เขียนรายงานประชุม รับงานจากคุณปาราตีมาให้พี่เซ็น จัดตารางทำงานให้พี่.......ทำได้ไหม?”

    “ได้ครับ”ร่างบางเอ่ย ใบหน้ายิ้มแย้มหวานหยด หากแต่ภายในกลับเบ้หน้าอย่างเซ็ง เพราะต้องตัวติดกับกันติทัตตลอด

    “ขอบคุณพี่กันมากเลยนะครับที่ช่วยภัทร ไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี”นภัทรพูดเสียงหวาน แล้วไหว้ลงบนไหล่หนา แกล้งให้ริมฝีปากเฉียดแก้มสากในขณะที่ถอนตัวออกมา ทำให้ร่างสูงรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆที่รินรดบนเก้ม สีแดงระเรื่อตัดผ่านกลางหน้าคมสันนั้น

    “พี่กันเป็นอะไรรึเปล่าครับ หน้าแดงๆ ไม่สบายหรือเปล่า”นภัทรค่อยๆยื่นมือบางไปสัมผัสหน้าผากของกันติทัต ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ทำท่าเหมือนจะดูอาการ ทำเอาหน้าที่แดงอยุ่แล้วยิ่งแดงเข้าไปใหญ่

    “พะ พี่ไม่ได้เป็นไรหรอกนะ......คือ....เอ่อ”นภัทรมองใบหน้าเขินอายนั้นอย่างพอใจ รู้ว่าร่างสูงคงจะเขินอายตัวเองไม่น้อย

    ก๊อกๆๆๆ!!!เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ทั้งสองคนสะดุ้งแล้วถอยห่างออกจากกัน กันติทัตกระแอมไอเรียกสติก่อนพูดอนุญาตให้คนเคาะเข้ามา

    “อรุณสวัสดิ์คะ บอส เรียกดิฉันหรือคะ”หญิงสาวหน้าตาสวยคมเดินเข้ามาด้วยท่าทางสุขุมมั่นใจ เหมาะกับการเป็นเลขา เธอมอไปทางนภัทรก่อนจะยิ้มหวานส่งให้

    “คุณปามาพอดีเลย นี่คุณนภัทร ที่ผมเคยบอกให้คุณคอยดูแลฝึกงานให้หน่อย น้องภัทรนี่คุณปาราตีที่พี่เคยพูดถึงไงละ”

    “สวัสดีคะ คุณนภัทร”หญิงสาวยื่นมือเรียวของเธอส่งให้นภัทร ใบหน้ายังคงยิ้มแย้มเช่นเดิม

    “สวัสดีครับคุณปาราตี ฝากตัวด้วยนะครับ”นภัทรจับมือของเธอแล้วส่งยิ้มให้เช่นกัน

    “งั้นดิฉันต้องขอตัวคุณนภัทรไปก่อนนะคะ บอส”กันติทัตพยักหน้า หญิงสาวจึงเดินนำหน้าอีกคนไปยังประตูห้อง นภัทรเดินตามหลังร่างเพรียวบางของปาราตีไปแต่ก็ต้องชะงัก หันกลับมาเมื่อร่างสูงจับข้อมือเข้าเอาไว้

    “ตั้งใจทำงานนะครับ น้องภัทร”ชายหนุ่มพูด พลางส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้

    “ครับ พี่กันก็เหมือนกัน”ชายหนุ่มส่งรอยยิ้มไปให้ แล้วหันหลังจากมา แอบเบ้หน้าใส่อีกตั้งหาก

    ‘แหงะ น่าขนลุกชะมัด’

    “คุณนภัทรคะ ดิฉันจะแยกให้นะคะว่างานไหนของดิฉัน งานไหนที่คุณนภัทรต้องทำบ้าง”หญิงสาวเดินมายังโต๊ะทำงานหน้าห้องประธานที่หล่อนนั่งเป็นประจำ พลางคว้าเอกสารมาเปิดดู

    “เอ่อ......เรียกผมว่าภัทรก็ได้ครับ คุณปาราตี เรียกคุณแล้วยังไงไม่รู้ ผมอายุน้อยกว่าด้วย”ปาราตีมองชายหนุ่มที่ยืนยิ้มให้เธอก่อนจะพยักหน้า

    “โอเคคะ แต่ขอเปลี่ยนเป็นน้องนภัทรละกันนะคะ จะได้เรียกไม่ซ้ำบอส”หญิงสาวยิ้มคล้ายจะแซว ทำเอาร่างบางหน้าแดงขึ้นมานิดๆเหมือนเด็กถูกจับได้ว่าทำผิดลงไป

    “งั้นผมของเรียกว่าพี่ปาละกันนะครับ ได้ไหม”

    “ได้สิคะ จะได้ดูเป็นกันเอง งั้นมาว่าเรื่องงานกันต่อเลยนะคะ.........งานของน้องนภัทรคือ คอยเช็คว่าวันไหนบอสต้องทำอะไรบ้าง เข้าไปจดผลการประชุมของบอส เอาเอกสารไปให้บอสเซ็น เรียนรู้การบริหารกับบอส แล้วก็สุดท้าย คือ ทำตามที่บอสสั่งนั้นแหละคะ”นภัทรยิ้มแหย เมื่อคิดว่าตัวเองต้องตัวติดกับกันติทัตตลอดเวลา

    “ไม่เป็นไรหรอกคะ บอสเป็นคนใจดี ยิ่งกับน้องนภัทรยิ่งน่าจะใจดีมากกว่าเดิมด้วย”

    ‘ผมไม่ได้ห่วงเรื่องนั้นหรอกครับพี่ปา’นภัทรคิดในใจ

    “แล้วนี่ผมมาแย่งงานพี่ปาหรือเปล่าครับเนี่ย”

    “อ๋อไม่หรอกคะ ดีซะอีก เพราะพี่ก็กำลังกังวลๆอยู่เลยว่า ช่วงนี้บอสต้องไปทำงานต่างจังหวัดบ่อย ถ้าต้องไป พี่เองก็เป็นห่วงที่บ้าน ไม่อยากให้ลูกสาวอยู่กับพ่อเค้าแค่สองคนด้วย มีหวังได้กินกันแต่มาม่ากันแน่”

    “พี่ปาแต่งงานแล้วหรือครับ ยังสาวอยู่เลย”

    “แหมน้องภัทรนี่ละก็ อย่ามาชมพี่หน่อยเลย ฮิฮิ”ปาราตีพานภัทรมาเรียนรู้งานต่างๆที่โต๊ะของเธอ นภัทรก็พยายามอย่างดี ถือว่ายิงนัดเดียวได้นกสองตัวมาแก้แค้นแล้วยังได้ฝึกงานอีกด้วย

    //////////////////////////////////////////////////////////////////////

    “ไงน้องภัทร คุณปา เรียนรู้งานกันไปถึงไหนแล้วละ”ชายหนุ่มหญิงสาวที่นั่งเรียนรู้งานกันอยู่นั้นเงยหน้าคนที่มายืนใกล้โต๊ะ

    “ไปได้เยอะแล้วละคะ น้องนภัทรเค้าเรียนรู้งานเร็วมาก แหมบอสเนี่ยช่างหาคนดีจังนะคะ”

    “ไม่หรอกครับ เพราะพี่ปาสอนดีมากกว่า ว่าแต่พี่กันมีอะไรหรือเปล่าครับ”

    “อ๋อ คือพี่เห็นว่าเที่ยงกว่าแล้ว ก็เลยจะให้พักกินข้าวกันก่อน ไม่งั้นจะแย่กันนะ”

    “ตายแล้ว เที่ยงกว่าแล้วหรือคะ ไม่ทันสังเกต งั้นดิฉันขอตัวไปทานข้าวก่อนนะคะ น้องนภัทรเดี๋ยวเจอกันตอนบ่ายโมงครึ่งละกันนะคะ”หญิงสาวขอตัวลาทั้งสองก่อนเดินจากไป กันติทัตจึงหันมามองร่างเล็กที่กำลังเก็บของอยู่

    “น้องภัทรกับคุณปาสนิทกันเร็วจังนะครับ”นภัทรเงยหน้ามองอีกคนแล้วก็เข้าใจบางอย่าง

    ‘หึงละสิ’นภัทรยืนขึ้นแล้วคล้องแขนอีกคนแน่น

    “พี่กันพาภัทรไปกินข้าวหน่อยสิครับ ไม่รู้ว่าที่นี่เค้ามีอะไรให้ทานบ้าง พี่กันแนะนำให้ภัทรหน่อยนะครับ”

    “อืม ก็ได้ครับ”ชายหนุ่มยิ้มหน้าบาน แล้วค่อยพากันออกไปยังลานจอดรถทันที

    “อ้าวแล้วเราไม่กินกันที่ห้องอาหารบริษัทหรือครับ”นภัทรถามพลางคาดเข็มขัดรถไว้

    “อ๋อ วันนี้เป็นวันแรกที่น้องภัทรมาทำงาน พี่เลยจะพาไปหาของกินอร่อยๆแถวนี้ก่อน ในห้องอาหารนะกินเมื่อไหร่ก็ได้ จริงไหม”นภัทรพยักหน้าเข้าใจ
    กันติทัตพาร่างเล็กมายังร้านอาหารไทยแห่งนี้

    นภัทรกวาดสายตามองไปรอบๆ การตกแต่งที่ดูเป็นไทยปนล้านนานั้นช่างเข้ากันได้อย่างลงตัว กันติทัตหันไปบอกพนักงานร้านถึงโต๊ะที่สั่งจองเอาไว้ พนักงานสาวจึงพาทั้งสองคนไปยังมุมสงบของร้าน ที่ถูกรายล้อมไปด้วยไม้พรรณนาเขียวขจี ฟากหนึ่งนั้นเป็นสายธารน้ำตกไหลลงมาไม่ขาดสาย ข้างล่างมีบรรดาปลาหลากหลายพันธุ์ว่ายวนกันอยู่ดูเพลินตายิ่งนัก 

    “น้องภัทรชอบบรรยากาศที่นี่ไหมครับ”กันติทัตถามระหว่างที่นภัทรมองเหล่าปลาน้อยที่ว่ายวนไปมา

    “ชอบครับ ที่นี่เค้าตกแต่งดีนะครับ”นภัทรชมด้วยใจจริง

    “พี่ก็ชอบที่นี่เหมือนกัน ยังพาข้าวฟ่างกับคุณแม่มาทานกันบ่อยๆเลย”กันติทัตมัวแต่มองเมนูเลยไม่ได้สังเกตท่าทางของนภัทรเมื่อกล่าวถึงบุตรชายของตนเอง

    ชั่วเวลาผ่านไปไม่นาน อาหรมากมายหลายอย่างได้ถูกวางเรียงรายอยู่ตรงหน้า ทำให้นภัทรอดที่จะพูดไม่ได้

    “พี่กันครับ เราสั่งอาหารกันเยอะเกินไปรึเปล่า ผมว่าเรากินกันไม่หมดหรอกนะครับ”

    “อืม จริงด้วยสินะ พี่มัวแต่กลัวว่าน้องภัทรจะกินไม่อิ่มเลยสั่งมาเยอะไปหน่อย”

    ‘น่าเกลียดที่สุด เคยนึกถึงคนที่เค้าไม่มีอะไรจะกินบ้างไหมเนี่ย’นภัทรแอบค่อนขอดในใจ รู้สึกยิ่งไม่ชอบใจในตัวชายหนุ่มยิ่งขึ้น

    “งั้นน้องภัทรจะทานอะไรบ้างละครับ อันไหนที่น้องภัทรไม่ชอบทานพี่จะได้ส่งให้เค้าห่อไปให้พวกลูกน้องที่บ้านทานกัน

    นภัทรมองหน้าอีกคนอย่างประหลาดใจ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ส่งให้ก็ได้แต่ก้มหน้า แล้ว ชี้อาหารที่ไม่ทาน ส่วนกันติทัตก็รีบเรียกพนักงานให้นำอาหารเหล่านั้นไปห่อทันที

    “อย่าว่าพี่งกเลยนะ พี่เห็นตอนนี้มีคนอดอยากเยอะ เราก็ควรจะกินแบบไม่ฟุ่มเฟือยใช่ม้า เมื่อเราสั่งมาเยอะ รู้ว่าทานไม่หมดก็ควรห่อกลับ น้องภัทรคิดแบบพี่ไหมครับ”นภัทรพยักหน้าแล้วอดที่จะส่งยิ้มแบบจริงใจให้ไม่ได้

    “ครับ ผมก็ว่างั้นแหละ”นภัทรตอบรับ ในใจเริ่มมองกันติทัตดีขึ้นานิดนึง.......นิดนึงจริงๆ

    “น้องภัทรครับ ชิมนี่สิ อันนี้ก็อร่อยนะ”

    “พอแล้วครับพี่กัน......แค่ที่พี่กันส่งมาที่จานเนี่ย ภัทรก็กินไม่ไหวแล้วละครับ”นภัทรมองที่จานตัวเองที่มีกับข้าวหลายอย่างว่าอยู่ ทำเอากันติทัตได้แต่เขินที่ทำเกินไป

    “อ้าวหรอ.....พี่เห็นภัทรตัวผอมเลยให้กินเยอะๆนะ”

    “ตัวผมก็ได้อ้วนเป็นตุ่ม ไม่มีกล้าคบด้วยหรอกครับ”

    “พี่ขอคบเองก็ได้นิ”

    “เมื่อกี้พี่กันพูดอะไรนะครับ!!”ร่างบางถามเมื่อได้ยินอะไรแว่วๆ

    “อะ เอ่อ ไม่มีอะไรหรอก ภัทรรีบกินดีกว่านะ เดี๋ยวเราต้องไปเรียนรู้งานอยากคุณปานี่”

    “ก็ได้ครับ”นภัทรกินต่ออย่างไม่สนใจ ทำเอากันติทัตถอนหายใจเฮือกอย่างโล่งใจ

    ‘เกือบไปแล้วไหมละ ถ้าน้องภัทรได้ยินจะทำไงเล่า ไอ้ปากเฮงซวย’กันติทัตได้แต่นึกด่าปากตัวเองแล้วก็ก้มลงทานอาหารต่อไป

    หากแต่ทั้งสองคนกลับไม่ได้รู้เลยว่า การกินอาหารของพวกเค้าได้ถูกใครบางคนจับตามองอยู่ คนที่จับตามองอยู่นั้นได้แต่สงสัยถึงพฤติกรรมของคนรู้จักที่นั่งอยู่บนโต๊ะนั้น หมายใจว่าคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อจะรู้ถึงความผิดปกติที่ร่างนั้นได้แสดงออกมา

    เวลาล่วงเลยผ่านไป ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจากสีฟ้าสดใสกลายเป็นสีแดงฉานของพระอาทิตย์ยามเย็น นภัทรเรียนรู้งานจากปาราตีจนเหนื่อยอ่อน พอปาราตีบอกว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อน เค้าก็รู้โห่ร้องยินดีอยู่ในใจ อยากจะกลับบ้านไวๆ ถ้าไม่ติดว่าโดนกันติทัตเรียกเข้าไปพบในห้องประธานบริษัท

    “พี่กันมีอะไรหรือเปล่าครับ ถ้าไม่มีภัทรจะได้กลับบ้าน”นภัทรถามขึ้นอย่างเรียบๆ แม้ในใจจะรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกรั้งเอาไว้

    “อ๋อ.....พี่ว่าจะพาเรากลับพร้อมกันนะ เมื่อเช้าก็มารถพี่ ไม่ได้เอารถมาเองจะกลับลำบาก”

    “เอ่อ .....จะดีเหรอครับ”

    “อืม ดีสิ พี่จะแวะไปรับข้าวฟ่างแล้ว เราไปหาอะไรกินกันเลยก็ดีนะ เดี๋ยวพี่จะได้บอกที่บ้านว่าไม่ต้องเตรียมอาหารไว้เผื่อ”นภัทรได้แต่พยักหน้าตกลง ถึงแม้ว่าจะแหยงๆเมื่อต้องมาเจอเด็กอย่างข้าวฟ่างอีก

    ///////////////////////////////////////////////////////////

    “คุณพ่อฮะ!!!!!”ร่างเล็กของข้าวฟ่างกระโดดเข้าโถมร่างสูงของผู้เป็นบิดาแล้วจับขาไว้แน่น กันติทัตได้แต่อมยิ้มขำๆ ก่อนจะอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมา ทางฝ่ายข้าวฟ่างเมื่อเห็นใครบางคนที่อยู่ข้างหลังกันติทัตก็ได้ตีสีหน้าไม่ชอบใจแล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้ายิ้มแย้มทันที แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของนภัทรไปได้

    “สวัสดีครับ....อาภัทร”เด็กน้อยตียิ้มหวานส่งให้ แต่นภัทรรู้ว่ามันออกแนวข่มขู่เสียมากกว่า

    “สวัสดีจ๊ะ ข้าวฟ่างเจอกันอีกแล้วนะ”

    “นั้นสิฮะ.....เจอกันได้ทั้งวัน อาภัทรเนี่ยตัวติดกับคุณพ่อจังนะฮะ”

    “ก็งั้นแหละจ๊ะ พ่อข้าวฟ่างนะ อาบอกว่าจะกลับเองๆก็ไม่ให้กลับ บอกว่าให้อยู่กินข้าวด้วยกันก่อน”เด็กน้อยขบปากเล็กน้อย ก่อนหันไปมองเชิงถามพ่อว่านภัทรพูดจริงหรือเปล่า

    “วันนี้อาภัทรจะไปกินข้าวกับเราด้วยนะ ดีใจไหม”กันติทัตถามเด็กน้อย

    “แล้วเราไม่กลับไปกินข้าวกับคุณย่าสามคนหรอฮะ”เด็กน้อยตีหน้าสงสัย แต่คำพูดคล้ายจะบอกกลายๆว่ามันเป็นเวลาครอบครัวคนนอกไม่เกี่ยว!!!!

    “พ่อโทรไปบอกคุณย่าแล้ว คุณย่าบอกว่าให้พวกเรากินกันไปเถอะ ท่านอยากทานอยู่ที่บ้านมากกว่า งั้นเราไปหาร้านอาหารกินกันดีกว่าเนอะ ข้าวฟ่าง”

    “ฮะ คุณพ่อ”ข้าวฟ่างได้แต่รับคำอย่างหน้าชื่นตาบาน แต่ภายในขุ่นเคืองใม่ใช่น้อย

    นภัทรมองตาวาวๆคล้ายเสือของตัวน้อยในอ้อมแขนร่างสูงก็ได้แต่ถอนหายใจ.......เอาวะ สู้กันสักตั้ง ดูสิระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ใครมันจะไปชนะ

    ทางฝ่ายข้าวฟ่างก็ได้แต่จ้องนภัทรเขม็ง คิดในใจ......ถ้าหวังจะมายุ่งกับคุณพ่อข้ามศพ ข้าวฟ่างคนนี้ไปก่อนเถอะ ให้มันรู้ไปสิ มารยาเด็กจะสู้มารยาผู้ใหญ่ไม่ได้

    ส่วนกันติทัต ผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเกิดศึกทางด้านหลังของตนก็ได้อมยิ้มปลาบปลื้มใจ เมื่อเห็นว่า......ลูกของเค้ากับนภัทรมีแววเข้ากันได้ดีเหลือเกิน(ตรงไหนวะ!!!!/Neya)

    ......

    ..............

    ...........................

    ........................................To....B...Con 

    Neya : สวัสดีครับ!!! คงมีหลายๆคนถามว่าทำไมมาต่อช้าจัง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ บางคนอาจไม่รู้ เพราะเพิ่งอ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก คือ เราเรียนอยู่ต่างจังหวัด แล้วอยู่นู้น เราก็ไม่มีเวลามาลงฟิคเลย เพราะไม่มีคอมและอื่นๆ จะกลับมาบ้านช่วง ศุกร์เสาร์อาทิตย์ดังนั้น คงมาลงประมาณ อาทิตย์และ ตอนสองตอน(แล้วแต่ช่วง) ยังไงก็ขอขอบคุณที่คอยอ่าน คอยถามหากันนะครับ บะบาย เม้นกันเยอะๆนะ^^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×