คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความฝัน.....และจุดเริ่มต้นความวุ่นวาย
Part 4
“พี่วิชญ์!!!!ฮึก......พี่วิชญ์ ใจร้าย ทิ้งภัทรไปไหนก็ไม่รู้ ฮึก ภัทรจะฟ้องคุณแม่ ฮึก ฮือๆ......ภัทรกลัว ฮึก ใครก็ได้มาพาภัทรกลับบ้านที ฮึก”เด็กน้อยร่างเล็กเช็ดน้ำตาใสลวกๆ น้ำเสียงยังคงสะอื้นเป็นพัก มองไปรอบๆที่มืดมิดอย่างทำอะไรไม่ถูก
สวบ!!!! เสียงบางอย่างเดินผ่านพุ่มไม้ทำเอาร่างเล็กสะดุ้งเฮือก แล้วกรีดร้องออกมาดังๆเมื่อสิ่งนั้นจับตัวเค้าไว้แน่น เด็กน้อยพยายามดันตัวออกจากสิ่งนั้น
“ไม่นะ!!!ปล่อย ปล่อยภัทรนะ!!!ภัทรกลัวแล้ว!!!”
“น้องภัทร!!!น้องภัทรครับ ทำใจดีๆไว้ก่อน......นี่พี่กันเอง”เด็กน้อยหยุดดิ้นทันที แล้วหันไปมองเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่กำลังยิ้มละไมให้
“พี่กัน.....ฮือ!!!! พี่กัน ภัทรกลัว!!!”สองแขนของเด็กน้อยรีบโอบรอบคอเด็กหนุ่มทันทีก่อนปล่อยโฮออกมา กันติทัตได้แต่ลูบหัวปลอบใจ
“โอ๋ๆไม่ต้องกลัวแล้วนะ คนเก่ง พี่กันอยู่นี่แล้ว”กันติทัตบรรจงหอมแก้มนิ่มนั้นแผ่วเบา พลางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาร่างที่อุ้มอยู่เบาๆอย่างรักใคร่
“นภัทร!!!!”เสียงทุ้มแปร่งๆแบบคนเพิ่งแตกหนุ่มทำให้คนที่กำลังปลอบกันอยู่นั้นหันกลับไปมองทันที
“หายไปไหนมา!!!พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้นั่งรอ ทำไมไม่รู้จักรอ เห็นไหมคนอื่นเค้าลำบากแค่ไหน!!!”เสียงตวาดดังลั่นทำเอาเจ้าตัวเล็กถึงกับน้ำตาร่วงอีกรอบ
“ก็...ก็......ฮึก....พี่วิชญ์......ฮึก ไม่มาสักที......ฮึก ภัทร นึกว่า......พี่ ฮึก วิชญ์ทิ้งภัทรแล้ว ฮึก”
“พอเถอะวิชญ์ น้องภัทรเค้าไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ที่จริงนายก็ผิด บอกแล้วไงว่าอย่าปล่อยน้องเค้าให้อยู่คนเดียว”กันติทัตหันไปดุนราวิชญ์เสียงเขียว ส่งสายตาโกรธเคืองที่ปรกติไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักส่งให้คนที่ทิ้งน้อง
“เฮ้ย ฉันไปห้องน้ำแปปเดียวนะเว้ย!!!”
“แล้วจูงน้องไปด้วยไม่ได้หรือไง”
“เอ่อ......พี่กันฮะ อย่าดุพี่วิชญ์เลยนะฮะ ภัทรผิดเอง”กันติทัตหันมามองร่างเล็กก่อนถอนหายใจ
“โอเคๆ ถ้าน้องภัทรไม่ขอไว้นะแก ฮึ่ม น่าดู”พูดจบร่างสูงก็อุ้มเจ้าตัวเล็กไปเล่นต่อ ในขณะที่นราวิชญ์ได้แต่ส่ายหัว
“สรุปใครเป็นพี่เจ้าภัทรกันแน่วะเนี่ย หวง ห่วงยังกะอะไรดี”
“พี่กันฮะ ขอบคุณนะฮะที่ตามหาภัทรเจอ”กันติทัตแย้มยิ้มก่อนดึงร่างเล็กมากอดแน่น
“จำไว้นะ ภัทร ไม่ว่าเมื่อไหร่พี่ก็จะหาภัทรเจอเสมอแหละ”
.......................................................
..........................
........
กริ๊งๆๆๆ!!!!เสียงนาฬิกาปลุกเจ้ากรรมดังขึ้น ทำให้ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นที่ละนิด แล้วกวาดตามองไปรอบห้องอย่างงงๆ
“ที่นี่...........อ๋อ ใช่ เมืองไทยนี่น่า หาวววว”นภัทรลุกขึ้นจากเตียง เดินสะโหลสะเหลเข้าห้องน้ำไปก่อนจะออกมาในชุดผ้าขนหนูผืนยาวพันรอบเอว
“ว่าแต่ เมื่อกี้ทำไมถึงฝันอย่างนั้นนะ”นภัทรพูดพร้อมเปิดตู้ไม้สักหลังใหญ่หยิบเสื้อแขนกุดสีชพูอ่อนคอเต่ามาใส่พร้อมกับกางเกงผ้าบางสีขาว
“สงสัยเมื่อคืนเราไปดูรูปพวกนั้นแหงๆ ให้ตายเหอะ.......ใครจะไปยอมรับ สมัยก่อนสนิทก็สนิทไปสิ ตอนนี้นายต้องคิดแต่เรื่องรินรู้ไหมภัทร”นภัทรตบแก้มตัวเองเรียกสติสตังแล้วเดินลงไปข้างล่างเพื่อจัดการขั้นต่อไปของเค้า
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพ่อ คุณแม่”นภัทรนั่งลงบนโต๊ะอาหารหินอ่อนพลางยิ้มอ่อนหวานส่งไปให้ผู้ที่นั่งทานอยู่ก่อนแล้ว
“ไง เจ้าภัทร เริ่มชินกับเวลาแล้วหรือ”นายเดชพนต์ทักลูกชายคนเล็กด้วยรอยยิ้มแล้วตักอาหารเข้าปากอีกคำ
“ครับ คุณพ่อ.........แล้วพี่วิชญ์ พี่สา แล้วก็พวกเด็กๆละครับ”
“พากันไปส่งที่ร.ร.นะจ๊ะ ภัทรก็กินข้าวเถอะนะลูก”คุณหญิงมนัสวีร์รีบหันไปสั่งให้คนรับใช้สาวตักข้าวต้มกุ้งกลิ่นหอมให้นภัทรทันที
“เอ่อ คุณพ่อ คุณแม่ครับ ภัทร มีเรื่องจะขอนะครับ”
“หืม มีอะไรรึตาภัทร”คุณหญิงมนัสวีร์ถามขึ้น
“ภัทร อยากไปฝึกงานกับพี่กันนะครับ.......พี่กันเค้าชวนภัทรให้ไปเป็นเลขา จะได้ไหมครับ”
“อืม ก็ได้อยู่หรอก.......ว่าแต่ทำไมไม่มาฝึกบริษัทเราละ”นายเดชพนต์ถาม แล้วยกน้ำขึ้นดื่ม
“ภัทรไม่อยากให้ใครเค้ามาพูดนะครับว่าภัทรเข้ามาบริษัทแบบเด็กเส้น ไม่มีประสบการณ์มาก่อนก็มาช่วยพ่อบริหารซะแล้ว”
“งั้นก็ตามใจแกละกัน แล้วนี่จะไปทำงานวันไหนละ”
“พรุ่งนี้ครับ”
“พรุ่งนี้!!!!.....อะไรกัน ลูกเพิ่งกลับมา แม่ยังไม่ทันได้อยู่คุยจนชื่นใจเลย ไม่เห็นต้องรีบทำงานเลยนิหน่า”นภัทรได้แต่ยิ้มแหยส่งไปให้บิดาช่วยเมื่อเห็นผู้เป็นมารดาจะไม่ยอมให้ตนไปทำงาน
“นี่คุณหญิง เจ้าภัทรมันก็ทำถูกแล้วนะ มัวแต่อยู่บ้านหรือเที่ยวเล่นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร หัดออกไปหาประสบการณ์อย่างนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอไง”คุณหญิงมนัสวีร์ก็ได้แต่ทำหน้างอ
“แหม วันๆคุณก็ทำแต่งาน ลูกคนโตก็ทำแต่งาน ยังจะลูกคนเล็กของดิฉันวันๆก็ทำแต่งานไปอีกคนหรือไงคะ......รู้บ้างหรือเปล่าว่าดิฉันนะเหงาแค่ไหน”
“เฮ้อ คุณนี่ก็ เอาน่า ผมสัญญา ผมจะทำงานให้น้อยลงก็ได้ หลังจากเจ้าภัทรมันเข้าไปทำงานแล้ว”คุณหญิงมนัสวีร์แย้มยิ้มหวานอย่างสุขใจ ทำเอานภัทรได้แต่ขำ ไม่ว่าเมื่อไหร่พ่อก็สู้แม่ไม่ได้สักที.....
ฟ้าใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง เสียงนกร้องดังขึ้นแผ่วๆ ในขณะที่ร่างหนาของใครบางคนค่อยๆรูดเนคไทสีเข้มขึ้น บานประตูก็เปิดออก
“คุณพ่อฮะ.......เสร็จหรือยังฮะ คุณย่าบอกว่าให้ข้าวฟ่างมาตามคุณพ่อลงไปกินข้าวฮะ”กันติทัตมองเด็กน้อยในชุดนักเรียนเอกชานชื่อดังที่กำลังยิ้มให้เค้าตรงบานประตู ก็อดไม่ได้ที่จะดึงเจ้าตัวเล็กขึ้นมาอุ้ม
“เสร็จแล้วครับคุณลูก....ว่าแต่วันนี้มีอะไรเป็นข้าวเช้าเอ่ย?”กันติทัตฝังหน้าลงบนพวงแก้มน้อย ทำให้ข้าวฟ่างได้แต่หัวเราะคิกคัก
“ข้าวผัดทะเลฮะ กุ้งตัวโต๊ โต!!!”
“หึหึ โตมากขนาดนั้นเชียว ปะ ลงไปกินกันดีกว่าเนาะ”ข้าวฟ่างพยักหน้าพลางฉีกยิ้มกว้าง
“ข้าวฟ่างครับวันนี้เราจะมีคนติดรถไปด้วย ข้าวฟ่างให้ไปด้วยไหมครับ”กันติทัตถามเด็กน้อยที่กำลังนั่งดื่มนมแก้วใหญ่ คุณหญิงกษมาจึงมองด้วยความสงสัย
“ใครรึตากัน”
“อ๋อ น้องภัทรนะครับแม่ เผอิญวันนี้น้องเค้าจะไปทำงานกับผมวันแรกก็เลยว่าจะรับน้องเค้าไปด้วยกัน ทางผ่านไปร.ร.ข้าวฟ่างอยู่แล้วด้วย”คุณหญิงกษมาพยักหน้าเข้าใจ ในขณะที่เด็กน้อยขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วก็คลายลง พยักหน้าตกลงให้บิดาแทน
ปิ๊งป๊อง!!!เสียงกดออดหน้าบ้านทำให้สมาชิกในบ้านธัญญวิสุทธิกุลต่างเงยหน้าจากโต๊ะอาหาร
“ใครมารึ พี่นวล”คุณหญิงมนัสวีร์ถามขึ้นหลังจากป้านวลรับโทรศัพท์ติดต่อจากเจ้าพลว่าใครมาหา
“คุณกันติทัตมาคะ บอกว่าจะมารับคุณหนูนภัทรไปทำงานด้วยกันนะคะ”
“อ้าว!!!เจ้ากันมาหรือเนี่ย งั้นเดี๋ยวผมออกไปรับหน้าหน่อยนะครับ ไม่ได้เจอมันมาตั้งนานแล้ว”นราวิชญ์ลุกออกจากโต๊ะอาหาร ทางฝ่ายร่างบางที่กันติทัตมาเฝ้ารอได้แต่เช็ดปากช้าๆ สายตาเย็นชามองเหลือบไปทางที่พี่ชายเดินไป
“อิ่มแล้วหรือ ตาภัทร”คุณหญิงมนัสวีร์ถามเมื่อเห็นลูกชายดื่มน้ำ
“ครับ ไม่อยากให้พี่กันรอนานด้วย”
“อืม ก็ดีลูก”ยังไม่ทันที่นภัทรจะก้าวเดินออกจากห้องอาหารร่างสูงหนาสองร่างก็เดินพูดคุยกันเข้ามา
“สวัสดีครับคุณลุงเดช คุณป้าวีร์”ชายหนุ่มยกมือไหว้ผู้เป็นใหญ่ทั้งสองก่อนหันไปทางนภัทรและสุณิสา
“สวัสดีครับคุณสาไม่เจอกันนานนะครับ”ชายหนุ่มพูด หญิงสาวยิ้มละไมให้ก่อนพูดสวัสดีกลับไป
“อรุณสวัสดิ์ครับน้องภัทร”นภัทรมองชายหนุ่มแล้วฝืนฉีกยิ้มให้
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่กัน”
“เอ้า ข้าวฟ่างสวัสดีผู้ใหญ่สิลูก”ชายหนุ่มดันหลังเจ้าตัวน้อยที่เกาะอยู่ที่ขาให้ไหว้ผู้ใหญ่ตรงหัวโต๊ะ
“สวัสดีฮะ คุณตาคุณยาย”เด็กน้อยฉีกยิ้มให้ ทำเอาผู้ใหญ่ทั้งสองต่างยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู
“สวัสดีฮะคุณอา เอ่อ อาสา”เด็กน้อยเอ่ยติดขัดเพราะไม่รู้ชื่อหญิงสาว เมื่อบิดากระซิบบอกจึงเอ่ยต่อได้
“สวัสดีครับอา.....ภัทร”นภัทรรับไหว้เด็กน้อย หากแต่เค้ารู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้กับเด็กคนนี้.........รู้สึกเหมือนเด็กคนนี้ปล่อยรังสีบางอย่างกับตนเอง
“อ้าว เด็กๆทั้งคุณอากันหน่อยเร็วลูก”เด็กน้อยที่นั่งอยู่บนโต๊ะรีบไหว้คนที่ส่งยิ้มมาให้ทันที
“สวัสดีฮะ/คะ...อากัน”
“สวัสดีจ๊ะเด็กๆ.....ชื่ออะไรกันบ้างเนี่ย หืม วิชญ์?”
“ลูกชายคนโตฉันชื่อ น้ำค้าง ส่วนลูกสาวฉันชื่อน้ำผึ้ง.........อายุก็พอๆกับข้าวฟ่างลูกแกแหละ”
“ข้าวฟ่างครับ ไปคุยเล่นกับน้ำค้างน้ำผึ้งก่อนนะ เดี๋ยวพ่อจะไปคุยกับพวกคุณอาวิชญ์ก่อน”เด็กน้อยเจ้าของบ้านทั้งสองไม่รอช้าให้เด็กน้อยผู้มาเยือนตกลงรีบพากันจับมือเด็กน้อยกันคนละข้างแล้วพาออกไปที่สวนทันที
นภัทรมองหลานๆเดินออกไปด้วยความเป็นห่วง กลัวเด็กน้อยข้าวฟ่างจะโดนแกล้ง ก็ตาน้ำค้างยิ่งชอบแกล้งคนจะตาย จึงรีบแอบหลบตามดูด้วยทันที ปล่อยให้พวกผู้ใหญ่คุยกันต่อไป
“นายชื่อข้าวฟ่างใช่ปะ อายุเท่าไหร่อะ”น้ำค้างถามขึ้น
“8 ขวบ ทำไม”ข้าวฟ่างตอบน้ำเสียงราบเรียบ ผิดกับเมื่อครู่ทำให้คนแอบฟังถึงกับสงสัยในพฤติกรรม
“เฮ้ย!!!เท่ากันเลยนิ งั้นมาเป็นเพื่อนกัน”ข้าวฟ่างมองเด็กหนุ่มอีกคนก่อนพยักหน้าแกนๆ
“ก็ได้...........แต่เราเป็นเพื่อนกับพวกนายแล้วใช่ว่าเราจะยอมรับอานายมาเป็นแม่เราหรอกนะ”คำพูดของข้าวฟ่างทำเอานภัทรถึงกับอึ้ง...
“ห๋า!!พี่ข้าวฟ่างพูดอะไรอาภัทรเป็นผู้ชายจะเป็นแม่พี่ได้ไง”น้ำผึ้งถามด้วยความสงสัย
“เป็นได้ ถ้าพ่อเราอยากให้เป็น เรารู้นะว่าพ่อเราก็อยาก แต่เราไม่อยากมีแม่ใหม่ เพราะงั้นเข้าใจเราใช่มะ”
“โอเคๆ........เราก็ไม่ค่อยเข้าใจอะนะ แต่ แยกกันระหว่างเรื่องเพื่อนกับเรื่องอา เราจะไม่เอามาปนกัน”น้ำค้างพูดขึ้น ข้าวฟ่างจึงยิ้มออก
“ดีมาก.......งั้นเราไปเล่นกันเถอะ ระหว่างรอคุณพ่อคุยกับพวกคุณตาคุณยาย”เด็กพากันออกไปเล่นที่สวนกว้าง มีแต่นภัทรที่ยืนถอนหายใจแรง
“แล้วเราจะแก้แค้นสำเร็จไหมเนี่ย เฮ้อ......”นภัทรพอเข้าใจแล้วถึงรังสีแปลกๆที่ข้าวฟ่างส่งมาหมายความว่าไง แต่เค้าไม่นึกว่า ข้าวฟ่างจะเป็นเด็กสองบุคลิกเหมือนเค้านี่สิ.......ให้ตายเถอะ เด็กประเภทนี่รับมือยากที่สุดเลยนะเนี่ย
“ไงน้องภัทรมายืนทำอะไรตรงนี้หรือ หืม”กันติทัตที่เพิ่งร่ำลาผู้เป็นประมุขใหญ่แห่งบ้านนี่ถามขึ้น เมื่อเห็นร่างเล็กยืนทอดถอนหายใจ
“เปล่าครับ นี่เราจะไปกันได้หรือยังครับ”
“อืม ไปกันได้แล้วละ เดี๋ยวข้าวฟ่างจะไปเข้าเรียนไม่ทัน แล้วข้าวฟ่างละ”
“อยู่ที่สวนกับน้ำค้างน้ำผึ้งนะครับ เดี๋ยวภัทรไปตามให้”
“ไม่ต้องหรอก เดินไปพร้อมกันก็ได้”นภัทรมองอีกคนที่ส่งรอยยิ้มมาให้ หากแต่เค้าไม่มีอารมณ์จะยิ้มตอบจึงได้แต่เดินออกมาห่างๆ
“ข้าวฟ่างๆ......ถึงเวลาต้องไปร.ร.แล้วนะ”กันติทัตเรียกลูกน้อย ข้าวฟ่างจึงหันไปมองก่อนส่งยิ้มจริงใจส่งให้เพื่อนตัวน้อยของเค้าอีกสองคน
“งั้นเราไปก่อนนะ น้ำค้าง น้ำผึ้ง ไว้จะมาใหม่”
“อืม บะบาย”เด็กน้อยทั้งสองโบกมือลา
“สวัสดีฮ/คะ อากัน อาภัทร....ตั้งใจทำงานนะฮะ/คะ”นภัทรเข้าไปหอมแก้มหลายทั้งสองก่อนเดินจากมา เค้าร่ำลาพ่อแม่แล้วเดินตามกันติทัตที่อุ้มข้าวฟ่างอยู่มาที่รถ
“น้องภัทรนั่งข้างหน้าละกันครับ”นภัทรพยักหน้าเข้าใจแล้วก็ต้องรู้สึกถึงไอรัศมีบางอย่างได้หลังก็ได้แต่เห็นรอยยิ้มหวานจากข้าวฟ่างแต่กลับดูน่าอึดอัดใจเหลือเกิน
“ข้าวฟ่างถึงโรเงรียนแล้วลูก ลงได้แล้ว”
“ฮะ สวัสดีฮะพ่อ........อาภัทร ไปแล้วนะฮะ”ข้าวฟ่างกระโดดลงจากรถทันที
“วันนี้ข้าวฟ่างมาแปลก ปรกติต้องหอมแก้มก่อนลงนิน่า”ชายหนุ่มพูดขึ้นอย่างสงสัย
“แกคงเริ่มโตแล้วมั่งครับ เลยอายไม่กล้าหอมต่อหน้าคนอื่น”นภัทรพูดทั้งที่พอจะรู้ว่าสาเหตุคงไม่พ้นตัวเอง
“วันนี้น้องภัทรก็ดูเงียบๆนะครับ ไม่สบายหรือเปล่า”
“อะ....เอ่อ......เปล่าครับ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”นภัทรยิ้มหวานให้
‘แต่อย่ามายุ่ง ฉันจะเป็นไงมันก็เรื่องของฉัน’นภัทรแอบต่อในใจ
กันติทัตได้แต่ยิ้มแย้ม รู้สึกว่าวันนี้มีความสุขเหลือเกิน ทั้งได้เจอเพื่อนเก่า ได้เจอคนที่เคยแอบชอบ ขอให้วันที่มีความสุขอย่างนี้คงอยู่ตลอดไปก็คงจะดี...........แต่ชีวิตนี้ไม่มีใครที่มีความสุขตลอดไปหรอกนะ กันติทัตเอ๋ย หึหึ
.........
...................
...............................To B Con.....
Neya : มาต่อกันอีกตอนแล้วนะครับ ขอขอบคุณทุกคอมเม้นต์ รู้สึกดีใจมากๆเลยครับกับทุกคอมเม้น มองแล้วคงมาต่อได้เฉพาะช่วงวันหยุดจริงนั้นแหละ แต่ไม่ต้องกลัวมาต่อแน่ครับ เม้นกันเยอะๆ เป็นกำลังใจด้วยนะครับ บาย
ความคิดเห็น