ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Rampage Castle
"นั่นมันตัวอะไรวะนั่น!!??"
ชายหนุ่มอุทานออกมาในขณะที่ขับรถอยู่บนสะพานโกลเดนเกท
ทางขวาของเขาคือสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ หน้าตาเหมือนฉลามหัวค้อนมีขาที่กำลังเดินลุยน้ำเข้ามาในซานฟรานซิสโก
"ก็ไอ้ที่เขาเรียกว่า'เซลกี'ไง แต่มันสำคัญด้วยรึไง? ขับไปเร็ว!!"
ภรรยาของชายคนนั้นที่นั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับตะโกนใส่เขา
"มะ...แม่คะ นั่นตัวอะไรน่ะ?" ลูกสาวของเธอถาม
"แม่ก็ไม่รู้ลูก ไว้ค่อยคุยกันทีหลังนะ เร็วๆ อ๊า!!....."
แขนของเซลกีตัวนั้นฟาดลงมาที่สะพาน ทำให้มันขาดเป็นสองท่อน
"โว้ว!! จับไว้!!"
ผู้เป็นพ่อพยายามเบรกรถไม่ให้ตกลงไปซึ่งเขาทำสำเร็จ รถบรกพอดี อีกไม่กี่สิบเมตรพวกเขาก็ตกลงไปเป็นอาหารปลาแล้ว
"ไป ออกจากรถเร็ว"
ครอบครัวซึ่งมีด้วยกันห้าคนวิ่งออกจากรถไปทางตรงข้ามกับเซลกี
"ก๊าซซซซซ" เซลกีฟาดแขนลงบนสะพานอีกครั้ง แรงคราวนี้ทำให้พื้นที่ผู้คนวิ่งหนีตายอยู่พังลงไปส่วนนึง
"อ๊ากกก!!"
"แม่!!"
"รอก่อน ผมไปช่วยแล้ว!!"
ผู้เป็นพ่อวิ่งเข้าไปช่วยดึงภรรยาของเขา แต่แล้วสายเคเบิ้ลที่ยึดสะพานก็เริ่มฟาดลงมา
"ชายด์ พาน้องๆไปก่อนเลย!! เดี๋ยวพ่อตามไป" เขาตะโกนบอกลูกสาวกับลูกชายอีกสองคนของเขา
"แต่พ่อคะ.."
"ไปเลย!! เชื่อพ่อซะ!!"
ชายด์จูงมือน้องชายทั้งสองคนแล้ววิ่งออกไป ในใจคิดว่าเดี๋ยวพ่อกับแม่ก็ตามมา
แต่นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้เห็นพ่อกับแม่
____________
ในปี 2272 บนโลกมนุษย์ สัตว์ประหลาดยักษ์ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนที่ถูกเรียกในภายหลังว่า'เซลกี'ขึ้นจากทะเลและเข้าโจมตีฝั่งที่ซัปโปโร ญี่ปุ่น กองกำลังป้องกันตัวเองร่วมกับกองเรือสหรัฐและเครื่องบินรบจากจีนสามารถสยบมันภายใน 7 วัน แต่นั่นทำให้เมืองทุกเมืองในญี่ปุ่นเหนือราบเป็นหน้ากอง จากนั้นตัวที่สองก็ตามมาโจมตีนิวซีแลนด์ ตัวที่สามที่สิงคโปร์ ตัวที่สี่ที่ซานฟรานซิสโก และก็มาอีกเรื่อยๆ
มนุษย์จึงร่วมกันจัดตั้งกองกำลังที่มีชื่อว่า'พรีเดเตอร์'ขึ้นภายใต้แนวคิด
'ถ้าจะฆ่าปีศาจเราก็ต้องใช้ปีศาจ'
และนั่นทำให้มีการสร้างหุ่นรบขนาดยักษ์ขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับพวกเซลกีโดยเฉพาะ
'พรีเดเตอร์' ใช้คนขับหลายคนที่ต้องเขื่อมประสานประสาทกันเพื่อการส่งข้อมูลจากคนไปตัวหุ่นที่ลื่นไหล ในขณะที่เชื่อมประสานกันนักบินทุกคนจะรู้ถึงความทรงจำ ความรู้สึก แบะความคิดของคนที่เชื่อมอยู่
'พรีเดเตอร์'ยุคแรกใช้คนขับถึงสามคน จากนั้นก็ลดมาเหลือสองคน จนสุดท้าย ในปี 2280 'พรีเดเตอร์'ทั้งหมดที่ประจำการก็มีแต่ระบบขับด้วยคนเดียวทั้งหมด
'พรีเดเตอร์'มีสองรุ่นใหญ่ๆ คือรุ่นผลิตเน้นจำนวนกับรุ่นผลิตเฉพาะ เพราะ'เซลกี'มีการวิวัฒนาการจนเกินรุานอยู่บ่อยครั้ง ทำให้รุ่นผลิตเน้นจำนวนถูกระงับโครงการไป เหลือแต่รุ่นผลิตเฉพาะที่'พรีเดเตอร์'แต่ละตัวจะมีรูปแบบที่ไม่เหมือนกันทั้งดีไซน์และอาวุธ
ปัจจุบันไม่มีใครรู้ว่าเซลกีมาจากไหน แต่พวกเขารู้แค่ว่าพวกมันจะโผล่มาจากมหาสมุทรแปซิฟิกและแอตแลนติก จึงมีการตั้ง'แรมเพจแคสเซิล'ที่ๆเป็นฐานสำหรับพรีเดเตอร์ได้ประจำการขึ้นบนชายฝั่งรอบๆซึ่งมีกว่าสองร้อยฐานด้วยกัน และยังมีการตั้งโรงเรียนเพื่อฝึกนักขับพรีเดเตอร์โดยเฉพาะ แต่ถึงกระนั้น มนุษย์ก็ได้เสียประเทศแถบเอเชียตะวันออกไปเสียแล้วทั้งนิวซีแลนด์ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาะบอร์เนียว และออสเตเรีย
_____________________
_____________________
[ปี 2280 แรมเพจแคสเซิล ซานฟรานซิสโก]
"หวัดดีมอธ"
"ไงอานส์ เมื่อวานเป็นไงบ้าง"
"โห ยากมากเลยอ่ะ ต้องซ่อมปืนพลาสมาให้ยกใหญ่เลย แล้วนายล่ะ?"
"เหอะ ของฉันอ่ะนะ ได้เข้าไปปรับกังหันระบายความร้อน เกือบตกแหนะ"
เด็กหนุ่มทั้งสองทักทายกันยามเช้าด้วยบทสนทนาเกี่ยวกับการซ่อม'พรีเดเตอร์' และใช่พวกเขาคือช่างซ่อมหุ่นยักษ์พวกนี้
อานส์ เลวิช เด็กหนุ่มอายุ 20 ที่จะจากสถาบันช่างพรีเดเตอร์เท็กซัส และเพื่อนของเขา
มอธ ช็อคเกอร์ ผู้เข้าเรียนหลักสูตรพิเศษสำหรับซ่อมพรีเดเตอร์ แลยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมของเซลกีอีกด้วย
พวหเขาเดินเข้าไปในห้องที่มีนาฬิกานับถอยหลังที่มีตัวเลข 68:23.07 นั้นคือเวลาที่เซลกีตัวต่อไปจะเข้ามาโจมตี
"เอ้อ จะว่าไปสองวันก่อนนักขับชุดเก่าก็ไปประจำการที่อื่นแล้วนี่นา แล้วใครจะมาแทนล่ะ?" อานส์ถาม
"เอ้าๆพวกนาย ไม่รู้หรือไงว่าวันนี้หน่วยใหม่จะเข้ามาประจำการน่ะ" ร็อคเกอร์ โดเฮอร์ตี้ ที่อายุไล่เลี่ยกับพวกเขาเดินเช้ามากอดคอทั้งสอง
"หน่วยไหน?" มอธถามสั้นๆ
"จำไม่ได้อ่ะ เเต่เห็นว่าเป็นหน่วยผสมจากหน่วยวัลคีรี่และญี่ปุ่นน่ะ ก็เจ้าของไอ้เครื่องมุรามาสะกับมาซามุเนะที่เราซ่อมอยู่นั่นแหละ"
ร็อคเกอร์ชี้ไปยัง'พรีเดเตอร์'สองเครื่องที่ยืนอยู่บนแท่นซ่อม มีสะเก็ดไฟจากการเชื่อมตกลงมาข้างๆตัวมัน
มุรามาสะเป็น'พรีเดเตอร์' มาร์ค 9 ที่มีลักษณะสีแดงทั้งตัว ทำจากเหล็กกล้า ส่วนหัวมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมที่มีหน้าต่างคนขับที่ทำด้วยกระจกกันกระสุนติดไว้ตรงกลาง ตรงไหล่มีแท่งยื่นขึ้นมาเพื่อช่วยในการทรงตัว
ส่วนมาซามูเนะนั้นเป็นสีส้ม และเตี้ยกว่ามุรามาสะ ตรงไหล่มีเกราะพองขึ้นมาแทน และส่วหัวเป็นทรงห้าเหลี่ยม
"เอาล่ะ ไปทำงานเราต่อดีกว่า เดี๋ยวตอนเย็นๆก็ค่อยออกต้อนรับพวกเขา"
"อื้ม"
แล้วทั้งสามก็แยกย้ายไปทำงานกัน ซึ่งคือการซ่อมพรีเดเตอร์
________________________
ตกเย็น
เจ้าหน้าที่ประจำฐานทุกนายออกมาต้อนรับคอนโทรลเลอร์คนใหม่ที่จะเข้ามาประจำการ
"ยินดีต้อนรับสู่แรมเพจแคสเซิลซานฟรานซิสโก ผมเอซ แมคโครว ผู้บัญชาการประจำฐานครับ"
ชายหนุ่มที่ใส่ชุดทหารยื่นมือไปหาคอนโทรลเลอร์ที่ลงจากเฮลิคอปเตอร์มา เด็กหญิงผมสีฟ้าอ่อนในชุดวอร์มลายทหารกล่าวทักทายเขาเป็นคนแรก
"ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันเซต้า สปาร์คเคิล"
"ฉันคุโรยูกิ ไอโกะ" เด็กสาวผมสีดำ
"ฉันอิโอริ อามาเนะ" เด็กสาวผมสั้นสีชมพูพูดขึ้น
"ผมเคียวตะ คาราสุ" เด็กหนุ่มผมสีแดงกล่าวบ้าง
คอนโทรลเลอร์ทั้งสี่คนเข้าไปจับมือกับเอซ พวกเขามาจากหน่วย'ฮันเทรส'
"น่าเสียดายนะครับที่ผมติดภารกิจตอนนี้ เดี๋ยวผมให้คนพาชมรอบๆฐานแทนละกัน เฮ่ย!! ช็อคเกอร์ เลวิช โดเฮอร์ตี้"
"""ครับ!!"""
ทั้งสามรีบวิ่งมาตามคำเรียกของเอซอย่างรวดเร็ว
"เลวิชกับโดเฮอตี้พาเคียวตะกับไอโกะไปดูพรีเดเตอร์ของตัวเอง ส่วนช็อคเกอร์พาอีกสองคนไปชมฐานก่อนเลย"
"""ครับ"""
"ฉันขอตัวก่อนล่ะ"
แล้วเอซก็เดินไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ทิ้งให้ทีมช่างอยู่กับคอนโทรลเลอร์
"เอ้า มัวรออะไรอยู่ล่ะ? กลับไปทำงานต่อสิโว้ย!!! จะได้รีบเลิกงาน" มอธตะโกน
คนงานทึกคนที่มาต้อนรับต่างพากันแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง
"ขออภัยในความล่าช้า ตามผมมาเลยครับ"
_______________________
"...ตรงนั้นจะเป็นโรงเก็บพรีเดเตอร์ ซึ่งคิดว่าคงรู้จักอยู่แล้ว มุรามาสะกับมาซะมูเนะ"
"อื้ม โรงเก็บสวยดีนะ"
"ขอบคุณ"
ตอนนี้มอธอยู่กับเซต้าเพียงสองคนเนื่องจากอามาเนะเธอบ่นว่าปวดหัว มอธเลยนำทางไปห้องพักและให้เธอนอนพักผ่อน
"ว่าแต่คุณเซต้าใช่ไหมครับ ก่อนจะมาประจำการอยู่ที่นี่อยู่ที่ไหนมาก่อนเหรอครับ" มอธถาม
"ฉันเหรอ? ฉันอยู่กว่างโจวโดมน่ะ นายล่ะ? เคยไปอยู่ที่ไหนมาก่อนไหม?"
"ไม่เคยเลยครับ ผมมาประจำการที่ซานฟรานซิสโกอย่างเดียว"
"งั้นเหรอ? พวกช่างก็อย่างนี้สินะ"
ตอนนี้มอธอยู่กับเซต้าเพียงสองคนเนื่องจากอามาเนะเธอบ่นว่าปวดหัว มอธเลยนำทางไปห้องพักและให้เธอนอนพักผ่อน
"ว่าแต่คุณเซต้าใช่ไหมครับ ก่อนจะมาประจำการอยู่ที่นี่อยู่ที่ไหนมาก่อนเหรอครับ" มอธถาม
"ฉันเหรอ? ฉันอยู่กว่างโจวโดมน่ะ นายล่ะ? เคยไปอยู่ที่ไหนมาก่อนไหม?"
"ไม่เคยเลยครับ ผมมาประจำการที่ซานฟรานซิสโกอย่างเดียว"
"งั้นเหรอ? พวกช่างก็อย่างนี้สินะ" เซต้ามองตาแข็งใส่มอธ
"กว่างโจว? หนักไม่ใช่ย่อยนะนั่น แล้วพรีเดเตอร์ของคุณจะมาตอนไหนเหรอครับ ผมอยากเห็นแล้ว" มอธไม่สนแล้วถามต่อ
"นู้นไง มาแล้ว" เซต้าชี้ไปบนฟ้า
ฮ.ขนส่ง6ลำโยงสายใส่หัวไหล่ของพรีเดเตอร์กำลังเคลื่อนที่มาทางฐาน
ลำตัวสีขาวมีขีดม่วงอยู่ประปราย ส่วนหัวและห้องควบคุมที่ดูน่าเกรงขามเหมือนคนใส่แว่นกันลมและมีเขาแทงขึ้นไปสูงตรงหน้าผาก หัวไหล่ที่มีแท่งแหลมช่วยทรงตัวชี้ไปบนฟ้าดั่งหอก ส่วนขาที่ยาวต่แข็งแรง และฮ.อีกสองลำขนสิ่งที่ดูเหมือนหอกมาด้วย
"นั่นแหละ พรีเดเตอร์ของฉัน'บรินฮิลด์'(Brynhild)"
____________
"บรินฮิลด์ ทำจากไทเทเนียมล้วน สถิติฆ่าเซลกี 5 ตัว เป็นการลุยเดี่ยวไปแล้วสี่ แต่ละตัวไม่ต่ำกว่าระดับ 7"
"ใช่ และคนที่ทำทั้งหมดนั่นคือฉันเอง...อย่างนายคงไม่มีวันทำได้สินะ" เซต้าพูดใส่มอธด้วยน้ำเสียงที่เหยียดหยาม
"ก็ใช่อยู่แล้ว ผมเป็นแค่ช่างนี่..." มอธพยายามข่มใจให้เย็นเมื่อได้น้ำเสียงแบบนั้น เขาไม่รู้ว่าเธอจะยั่วโมโหเขาไปทำไมแต่ถ้าเผลอหาเรื่องไปคงจบไม่สวยแน่
"ไม่ใช่เรื่องนั้น เพราะฉันเคยอ่านประวัติของนาย มอธ ช็อคเกอร์ 'อดีต'คอนโทรลเลอร์ที่โดน'ไล่ออก'เพราะจมอยู่กับอดีตจนขับไม่ได้เลยออกมาเป็นช่าง น่าสมเพชซะจริง ขี้ขลาด ไม่สมควรทำงานในแคสเซิล ที่สำคัญไม่ควรมีรายชื่ออยู่ในคอนโทรลเลอร์สำรองด้วยซ้ำ" เซต้าจงใจพูดเน้นคำที่'อดีต'และ'ไล่ออก'ให้มอธฟัง
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยับยั้งใจได้
"ดูท่าจะสืบประวัติผมมาดีนี่...คุณไม่รู้อะไรหรอก กับเด็กรุ่นใหม่ที่เอาแต่ขับเครื่องควบคุมคนเดียว" มอธพูด
ก่อนที่ทั้งสองจะปะทะคารมกันต่อ เสียงสัญญาณฉุกเฉินก็ดังขึ้น
'อ๊อด อ๊อด อ๊อด'
'มีเซลกีเข้าโจมตีก่อนเวลา ทุกหน่วยประจำตำแหน่ง! ทีมพรีเดเตอร์เตรียมออกปฏิบัติการ!!' เสียงประกาศตามลำโพงฐานทัพดังเข้ามา
เซต้าและมอธพร้อมใจสงบศึกชั่วคราวและวิ่งออกไปยังลานปล่อยตัว
______________
ข้อมูลพรีเดเตอร์
บรินฮิลด์
มาร์ก-10
คอนโทรลเลอร์-เซต้า สปาร์คเคิล
ความสูง-260ฟุต/278ฟุต ถ้ารวมเขา
น้ำหนัก-1670 ตัน
แหล่งพลังงาน-แบตเตอร์รี่วอร์เท็กซ์ M24
อาวุธ-หอกไอออนิค
สถิติสังหารล่าสุด-เซลกีระดับ 7 6ตัว (เป็นการรวมทีมสู้ 4 ลุยเดี่ยว2)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น