คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : งานเลี้ยงตระกูลคาเวล(1)
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับเร่งเวล เวลาได้ผ่านมา3วันแล้วและวันนี้ก็เป็นวันที่3วันที่งานเลี้ยงของตระกูลคาเวลถูกจัดขึ้นมาเพื่อฉลองอะไรบางอย่าง แต่ยังคงเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาจัดงานเลี้ยงเพราะงานเลี้ยงของตระกูลคาเวลจะถูกจัดขึ้นในตอนเย็นของวันนี้ ดังนั้นเบรอสจึงได้มานั่งยังข้างล่างของบ้านที่เป็นห้องรับแขกแบบโทรมๆ เพื่อที่จะอ่านหนังสือที่มีอยู่แทบจะน้อยนิดภายในบ้านหลังนี้ เขาได้อ่านถึงข้อมูลคล่าวๆของตระกูลคาเวลเพื่อเสริมความรู้เล็กน้อย
ตระกูลคาเวลนั้นเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงหนึ่งในสามตระกูลขุนนางที่มีอำนาจมากที่สุดในทวีปเทอเรียแห่งนี้ ตระกูลคาเวลนั้นมีเมืองขนาดใหญ่อยู่เมืองหนึ่งและถูกแบ่งย่อยเป็นเมืองเล็กอีกมากมาย อย่างเช่นเมืองโกลเด้นแห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในเมืองย่อยของเมืองคาเวลที่ตระกูลคาเวลปกครองอยู่
เมื่อเบรอสอ่านไปได้สักพักลิเลียก็ได้เดินเข้ามายังห้องรับแขกและเดินตรงมายังเบรอส เบรอสที่สังเกตเห็นว่าลิเลียเดินมาหาตนด้วยท่าทางที่เหมือนอย่างจะพูดอะไรบางอย่างจึงได้เอ่ยถามขึ้นมา
“มีอะไรงั้นหรือ?”เบรอสถามลิเลีย
“ฉันแค่อยากจะคุยอะไรเล็กน้อยกับนายหน่อย”ลิเลียตอบพร้อมกับเดินไปนั่งข้างๆเบรอส
“อยากคุยเรื่องอะไรละ”เบรอสถามออกมาโดยที่ตายังมองหนังสืออยู่
“ก่อนหน้านี้นายทำอะไรมางั้นหรอและว่านายเป็นอะไรกันแน่?”ลิเลียถาม เบรอสที่ได้ยินคำถามนี้ของลิเลียก็พับหนังสือแล้วนำไปวางข้างๆตัว
“ฉันนะหรอ? ก็แค่ยืดครองโลกอื่น ๆไปวันๆ ส่วนที่ว่าเป็นอะไรนั้นฉันก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร บ้างครั้งก็ไรซึ่งตัวตนบางครั้งก็ราวกลับปีศาจผู้บ้าคลั่ง”เบรอสตอบ และที่เบรอสพูดว่า บ้างครั้งก็ไรซึ่งตัวตนบางครั่งก็ราวกลับปีศาจผู้บ้าคลั่ง ต้องย้อนไปก่อนหน้าที่เบรอสจะยืดโลกจนถึงตอนที่เบื้อก่อน ในตอนนั้นเบรอสถูกเรียกราวกับเป็นพระเจ้าของเหล่าปีศาจทั่งหลายที่กระหายในสงคราม ทำให้ทั้งผู้คนจากเผ่าต่างๆ ต่างขนานนามเขาว่า ปีศาจกระหายเลือดหรือจอมปีศาจผู้บ้าคลั่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายร้อยหรือหลายพัน หลายหมื่นปี
เหล่าลูกหลานของหลายๆเผ่าต่างก็ลืมเลือนเรื่องราวของเขาทั้งหมดทำให้เขาราวกับไม่มีตัวตนอยู่อีกเลย จนกระทั่งเขาได้ยึดครองโลกและได้ก่อสงครามขึ้นมาอีก ทำให้ชื่อของเขากลับมาอีกครั้งจนถึงตอนนี้ และอาจจะไม่มีอีกต่อไปแล้วก็ได้ ลิเลียที่ได้ยินคำพูดของเบรอสก็รู้สึกงงงวยขึ้นมาจึงได้ถามเบรอสออกไป
“หมายความว่ายังไงกัน ไอที่ว่า บ้างครั้งก็ไรซึ่งตัวตนบางครั่งก็ราวกลับปีศาจผู้บ้าคลั่ง นั่นน่ะ”ลิเลียถาม
“ข้าบอกให้เท่านี้แหละที่เหลือเจ้าก็ลองคิดดูเอาเอง”เบรอสพูดจากนั้นก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อจากนั้นก็ถามลิเลียไปว่า
“แล้วเจ้าและแม่ของเจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าและแม่ของเจ้าเป็นคนของโลกใบนี้อย่างแน่นอน เพราะสายเลือดของพวกเจ้าทั้งสอง เป็นอะไรที่หายากเป็นอย่างมากในจักวาลแห่งนี้”เบรอสถามลิเลีย
“สายเลือดคืออะไร?”ลิเลียถามออกมาพร้อมแสดงสีหน้าและท่าทีที่ดูสงสัย
“เจ้าไม่รู้หรือว่าพวกเจ้ามาจากไหนและเป็นสายเลือดของอะไร”เบรอสถามอีกครั้ง
“ฉันไม่รู้ตั้งแต่ฉันเกิดมาฉันก็อยู่ที่นี่แล้ว”ลิเลียพูด
“อืม…งั้นหรือ”เบรอสพูดเพียงแค่นี้จากนั้นก็ไปอ่านหนังสือต่อทันทีลิเลียที่เห็นว่าเบรอสไม่สนใจตนเองก็พูดขึ้นมาด้วยความอารมณ์เสีย
“แล้ว เรื่องสายเลือดล่ะนายยังไม่ได้บอกฉันเลย”ลิเลียถามออกมา แต่เบรอสก็ไม่ได้สนใจและอ่านหนังสือต่อไป ทำให้ลิเลียเดินออกไปด้วยความไม่พอใจ
หลังจากที่ลิเลียได้เดินออกไปแล้วริเรียน่าก็ได้โผล่ออกมาจากความว่างเปล่าเบรอสที่สัมผัสได้ว่าริเรียน่าได้มาแล้วจึงได้ถามถึงเรื่องที่ให้ไปสืบมาทันที
“ว่ามา”เบรอสพูดสั่นๆ
“จากที่ดิฉันได้ไปสืบมา ดูเหมือนว่าพวกมันจะร่วมมือกันกับพวกปีศาจจากอีกทวีปหนึ่งของโลกใบนี้ หาคนที่แข็งแกร่งมาเป็นพวกและรอคอยวันที่จะได้ยึดครองอณาจักรแห่งนี้อยู่ ส่วนที่พวกนั้นได้ตามมารังควานท่านลิเลียก็เพราะว่าพวกมันนั้นต้องการตัวคนที่สามรถอัญเชิญมังกรได้เจ้าคะ”ริเรียน่ารายงานเรื่องที่ได้ไปสืบมาให้เบรอสได้ฟัง เบรอสก็ก้มหน้าครุ่นคิดสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา
“ขอบคุณ ทำได้ดีมาก”เบรอสพูดขอบคุณริเรียน่าที่สามรถหาข้อมูลได้ขนาดนี้ภายในเวลาไม่กี่วัน และดูเหมือนริเรียน่าจะดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับคำชมของเบรอส
“อ๊า~ท่านเบรอสพูดขอบคุณข้าด้วยล่ะ ฮิๆฮึๆ”ริเรียน่าราวกับคนบ้าและโรคจิตในเวลาเดียวกันหลังจากที่ได้รับคำชมของเบรอส เบรอสที่เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมาแล้วก็หันไปอ่านหนังสือต่อ
เวลาได้ผ่านมาถึงตอนเย็น ตอนนี้ก็ได้มีรถม้าได้มาจอดยังหน้าบ้านของลิเลียจากนั้นก็ได้มีคนเดินมายังหน้าบ้านของลิเลียที่มีเบรอสกับลิเลียยืนอยู่
“ท่านลิเลียใช่ไหมคะ ส่วนท่านนี้คือ..”หญิงรับใช้คนที่เดินมาได้ถามลิเลียพร้อมกับมองไปยังเบรอสด้วยแววตาที่ดูหลงใหลในตัวเบรอส
“ใช่คะ ส่วนคนนี้คือผู้พิทักษ์ของฉันเองคะ แล้วเราจะไปกันเลยไหมคะ”ลิเลียถามออกมาทันทีเมื่อเห็นว่าหญิงรับใช้คนนั้นมองเบรอสนานเกินไปแล้ว
“คะ แต่ก่อนหน้านั้นดิฉันจะพาท่านทั้งสองไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อน”หญิงรับใช้คนนั้นพูดโดยที่สายตายังคงมองเบรอสอยู่ จากนั้นทั้งสองก็เดินขึ้นไปยังรถม้าส่วนหญิงรับใช้ก็ได้ไปนั่งข้างๆคนขับรถม้า เพราะมันเป็นธรรมเนียมตามปกติอยู่แล้วสำหรับคนรับใช้ที่ไม่ควรนั่งในรถม้ากับแขกหรือเจ้านาย
จากนั้นทั้งสองก็ได้มาถึงยังร้านขายเสื้อผ้า
“เชิญเลือกซื้อได้ตามสบายเลยเจ้าคะ เพราะนายท่านของดิฉันได้สั่งเอาไว้แล้ว”หญิงรับใช้พูด
ทั้งสองใช้เวลาในการเดินดูชุดอยู่นานพอสมควรจนไปสะดุดตาเข้ากับชุดบางอย่างที่ดูสวยงามเป็นอย่างมากนั้นก็คือชุดสูทกับชุดราตรีที่ตั้งอยู่คู่กัน ชุดสูทจะเป็นสีดำล้วนทั้งกางเกงและเสื้อ ส่วนชุดราตรีจะเป็นสีน้ำเงินประดับด้วยเพชรเล็กน้อยตามบริเวณต่างๆ ทั้งสองเห็นดังนั้นจึงได้เลือกชุดนี้เป็นชุดที่จะใส่ไปในงาน
เมื่อทั้งสองได้ใส่ชุดนี้แล้วเหล่าผู้คนที่อยู่ในร้านต่างมองพวกเขาทั้งสองด้วยความหลงใหลเป็นอย่างมากด้วยความหล่อเหล่าของเบรอสที่มีมากอยู่เป็นทุนเดิมแล้วยิ่งใส่ชุดสูทที่ดูดีเข้าไปอีกจึงทำให้ดูดีขึ้นไปอีกขั้น ส่วนลิเลียหน้าตาของเธอก็สวยอยู่แล้วเป็นทุนเดิมเช่นกันเมื่อได้สวมชุดราตรีที่ได้เลือกไว้ก็ทำให้เธอมีเสน่ห์มากและดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก
เบรอสที่เห็นว่าหญิงรับใช้ที่มารับเขายืนมองเขาตาค้างก็ได้เรียกสติของเธอกลับมา
“เจ้าน่ะ จะพาพวกข้าไปได้หรือยัง”เบรอสพูด
“อะ! คะงั้นไปกันเลยนะคะ”หญิงรับใช้คนนั้นพูดโดยที่ไม่ลืมที่จะหันมามองเบรอสเป็นระยะๆ
จากนั้นทั้งสองก็ได้เดินทางต่อไปยังตระกูลเบรอสทันที
ความคิดเห็น