ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อจักรพรรดิปีศาจต้องกลายเป็นผู้พิทักษ์(ดอง)

    ลำดับตอนที่ #3 : คนแปลกหน้า

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 63


    ในเช้าวันถัดมาเบรอสเดินไปหาลิเลียที่กำลังทำอาหารอยู่เพื่อที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องต่อจากนี้ว่าจะทำยังไงต่อไปเพราะเขาไม่ได้มีความรู้ของโลกใบนี้มากนักและเขาเพียงแค่ตามลิเลียมาเพราะเขาเบื่อที่จะต้องทำอย่างเดิมซ้ำๆแล้วนั้นก็คือการยึดครองโลก

     

    “เจ้าจะทำอะไรต่อจากนี้”เมื่อเบรอสเดินมาถึงยังห้องครัวเขาก็ถามขึ้นมาทันที

     

    “อ้าวตื่นแล้วหรอเบรอส มานั่งนี่ก่อนสิข้าวเช้าจะเสร็จแล้ว”ลิเลียพูดชวนเบรอสทันทีที่เห็นโดยไม่สนใจคำถามของเบรอสเลย

     

    “ข้าถามว่าเจ้าจะเอายังไงต่อจากนี้ ทำไมเจ้าถึงไม่ตอบข้า”เบรอสถามออกมาด้วยอารมณ์ที่ดูหงุดหงิดเพราะโดนเมินคำถามของตนเอง

     

    “อะ! โทษทีๆ ต่อจากนี้น่ะหรอ? อืม…ฉันคิดว่าตอนนี้ต้องการเงินอย่างมากแต่ไม่รู้จะทำยังไงดี ถึงจะได้เป็นsommonerแล้วก็เถอะแต่ว่าต้องไปทำภารกิจที่สมาคมเนี่ยสิ ฉันไม่ค่อยมีเวลาด้วยต้องค่อยดูแลท่านแม่อย่างใกล้ชิด เพราะฉันกลัวว่าท่านแม่จะเป็นอะไรไปน่ะยิ่งตอนนี้อาการของแม่ฉันยิ่งหนักๆอยู่ด้วย”ลิเลียอธิบายถึงเรื่องต่างๆที่เป็นปัญหาของตอนนี้สำหรับเธอให้เบรอสฟัง เบรอสที่ได้ฟังก็ก้มหน้าคิดอะไรบ้างอย่างจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา

     

    “เข้าใจแล้ว เรื่องเงินเดี๋ยวฉันจัดการเองไม่ต้องห่วง”เบรอสพูดพร้อมกับไปนั่งรอยังโต๊ะอาหารเก่าๆ ลิเลียที่ได้ยินเบรอสพูดว่าจะจัดการเองก็นึกสงสัยขึ้นมาว่าเขาจะทำอะไร แต่ก็ไม่ได้ถามออกไปเพราะอาหารได้สุกก่อนเสียแล้ว

     

    หลังจากที่ทานอาหารกันเสร็จก็ได้มีคนมาเคาะประตูบ้านของลิเลียสร้างความสงสัยให้ลิเลียเป็นอย่างมากว่าใครจะมาเคาะประตูบ้านหลังเก่าของเธอ เบรอสที่สัมผัสได้อยู่ก่อนแล้วว่ามีคนมาและไม่เป็นอันตรายกับเขามากนักเขาจึงได้ปล่อยไป แต่ก็ยังไม่ประมาทเพราะคนๆนี้มาพร้อมกับเจตนาร้ายซึ่งมันทำให้เขากังวลอยู่นิดหน่อย

     

    “มาแล้วคะ! มาแล้ว!”ลิเลียรีบเดินไปเปิดประตู เพราะคนที่มาเคาะประตูอยู่นั้นจู่ๆก็เคาะแรงขึ้นเรื่อยลิเลียที่หลัวว่าบ้านจะพังเสียหายจึงรีบเดินไปเปิดประตูให้กับคนที่มาอย่างเร่งรีบ

     

    เมื่อเปิดประตูออกมาก็เห็นเป็นชายหนุ่มที่สวมชุดหรูหราพร้อมกับร้อยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าด้วยความเสแสร้งผมสีเขียวยาวถึงบ่าร่างกายดูมีมัดกล้ามเล็กน้อยแสดงว่าฝึกมาพอสมควร

     

    “ยินดีที่ได้รู้จักครับเรดี้ ลิเลีย ผมมาที่นี่เพื่อที่จะพูดคุยกับคุณ คุณพอจะมีเวลาว่างไหมครับ”ชายคนนั้นพูด พร้อมกับทำท่าหว่านเสน่ห์ใส่ลิเลีย ลิเลียที่เห็นก็ได้แต่ยืนทำหน้างงๆว่าเขาทำอะไรกัน

     

    “ค-คะ ก็ว่างอยู่พอดี งั้นเชิญคะ”ลิเลียเอ่ยชวนชายคนนั้นให้ไปคุยธุระที่ข้างในเพราะมันสะดวกกว่าที่จะอยู่ข้างนอก แต่ดูเหมือนชายคนนั้นจะแสดงสีหน้ารังเกียจขึ้นมาเพียงชั่วครูจากนั้นก็กลับมาเป็นยิ้มเสแสร้งแบบปกติ

     

    “ไม่เป็นไรครับคุยกันข้างนอกนี่แหละ แป๊บเดียวเองไม่นานหรอกครับ”ชายคนนั้นพูด

     

    “งั้นก็ได้คะ”ลิเลียพูด

     

    “เอาล่ะผมขอแนะนำตัวกันก่อนล่ะกัน ผมมีชื่อว่า กรีน เป็นบุตรชายของ เฟเดอริโก คาเวล ตระกูล คาเวล”กรีนหรือชายคนนั้นได้พูดแนะนำตัวกับลิเลียด้วยท่าทีและมารยาทของชนชั้นสูงที่ถูกฝึกมาอย่าดี

     

    “ฉันชื่อว่า ลิเลียคะ ยินดีที่ได้รู้จัก”ลิเลียนั้นแนะนำตัวอย่างธรรมดามาก ซึ่งทำให้กรีนถึงกับคิวกระตุกด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ถูกแนะนำตัวอย่างธรรมดา สำหรับขุนนางแล้วการมีทักทายนั้นเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากโดยเฉพาะตอนเจอกันครั้งแรกต้องทำให้ดีที่สุดเพราะจะได้สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น แต่สำหรับลิเลียที่เป็นเพียงสามัญชนก็ไม่ได้รู้ถึงเรื่องการทักทายพวกนี้หรอก

     

    “มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ ผมมีข้อเสนอจะมายื่นให้คุณ”กรีนได้พูดออกมาด้วยความเร่งรีบเพราะเขาไม่อยากจะอยู่ในที่กันดารนี้มากนัก ด้วยความที่เขาเป็นลูกขุนนางการที่มายังบ้านจนหลังหนึ่งถือเป็นความอัปยศอย่างมากสำหรับเขาและเขาก็รู้สึกรังเกียจที่นี้มากอีกด้วย

     

    “ข้อเสนออะไรหรอคะ?”ลิเลียถาม

     

    “ข้อเสนอที่จะทำให้คุณอยู่สบายไปทั้งชาติได้ไงครับอยากฟังไหม”กรีนพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ เขานั้นได้สืบข้อมูลมาแล้วว่าลิเลียนั้นขาดแคลนเงินเป็นอย่างมากเพราะเธอต้องเอาไปรักษาแม่ของเธอทำให้กรีนนั้นฉวยโอกาสนี้ยื่นข้อเสนอที่หน้าดึงดูดใจลิเลียมาที่สุด เพื่อให้ลิเลียรับข้อเสนอโดยง่ายนั้นเอง ที่เขาต้องทำอย่างนี้ก็เพราะพ่อของเขาได้สั่งมาว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ลิเลียมาอยู่ในตระกูลคาเวล ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาต้องทำให้สำเร็จเพราะไม่เช่นนั้นแล้วเขาอาจจะถูกลงโทษก็ได้ การลงโทษของพ่อกรีนไม่ธรรมดาจึงทำให้กรีนหวาดกลัวกับบทลงโทษของพ่อเป็นอย่างมาก

     

    “อยากคะ!”ลิเลียพูดตอบกลับอย่างรวดเร็ว

     

    “งั้นหรอครับ มันง่ายมากเพียงแค่คุณมาเข้าร่วมตระกูลผมคุณก็จะได้ทุกอย่างที่คุณอยากได้”กรีนพูด

     

    “แล้วต้องทำยังไงคะ?”ลิเลียถามออกมาด้วยความสนอกสนใจ กรีนที่ได้ยินดังนั้นก็สังเกตดูสัดส่วนและรูปร่างของลิเลีย ปรากฎว่าถูกใจเขาเป็นอย่างมากทำให้เขาอยากได้เธอมาครอบครอง เขาจึงดัดแปลงขอเสนอนิดหน่อย

     

    “คุณแค่ต้องมาเป็นภรรยาของผม หลังจากนั้นคุณก็จะได้ทุกอย่างตามที่คุณต้องการ”กรีนพูดพร้อมกับมองลิเลียด้วยสายตาที่ดูหื่นกระหาย ลิเลียที่ได้ยินอย่างนั้นก็คิดอยู่นานจนทำให้กรีนนั้นรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมา นี่เขาให้ข้อเสนอเธอขนาดนี้แล้วยังไม่เอาอีกหรอ เบรอสที่เห็นว่ามันเริ่มที่จะเกินเลยไปแล้วจึงได้เข้าไปช่วยให้ลิเลียตัดสินใจได้ง่ายขึ้นและไม่ให้ลิเลียหลงกลข้อเสนอของกรีน

     

    “ถ้าไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำแค่นั้นเจ้าไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก ข้อเสนอมันแปลกเกินไปด้วยซ้ำ ทำไมจู่ๆต้องให้เจ้าไปแต่งงานด้วยและทำไมเขาถึงต้องมาชวนเจ้าให้เขาร่วมตระกูลด้วยไม่แปลกหรอ”เบรอสเดินเขาและพูดให้ลิเลียฟัง ลิเลียที่ได้ยินก็คิดตามที่เบรอสพูด และนั่นก็จริงมันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ต้องยื่นข้อเสนอนี้กับเธอเพราะเธอเป็นแค่สามัญชนเท่านั้นแถมยังต้องให้เธอแต่งงานกับเขาด้วยอีก นั่นจึงทำให้ลิเลียคิดว่ากรีนนั้นสนใจอะไรบางอย่างจากเธอแน่นอนและไม่แน่อาจจะเป็นร่างกายเธอก็ได้ เมื่อลิเลียคิดได้ดังนั้นเธอจึงรีบไปหลบหลังเบรอสทันที

     

    “คุณเป็นใครกันครับ?”กรีนพูดด้วยรอยยิ้มเสแสร้งเช่นเดิมแต่แตกต่างกันตรงที่นำเสียงในตอนนี้ดุเหมือนคนที่สะกดข่มอารมณ์เป็นอย่างมาก

     

    “ข้าเป็นผู้พิทักษ์ของลิเลีย มีนามว่า เบรอส”เบรอสแนะนำตัว

     

    “งั้นหรอคุณเบรอส ทำไมคุณถึงต้องมาขวางทางด้วย คุณก็ควรให้เจ้านายคุณตัดสินสิ”กรีนพูดและมองเบรอสราวกับว่าเบรอสเป็นเพียงสุนัขรับใช้เท่านั้น เบรอสที่เห็นอย่างนั้นก็แอบปล่อยแรงกดดันออกมาเล็กน้อยเพื่อที่จะข่มขู่ให้รู้ว่า ไม่ควรจะมาดูถูกเขาให้มากนัก 

     

    “ข้าว่าเจ้ารีบไปดีกว่านะ ไม่อย่างนั้นข้าก็ไม่รับประกันชีวิตเจ้า”เบรอสพูดพร้อมกับปล่อยจิตสังหารออกมาเล็กน้อยแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้กรีนหวาดกลัวจนขาสั่น กรีนนั้นพยายามรวบรวมสติทั้งหมดที่เหลืออยู่เอ่ยชวนลิเลียไปยังงานเลี้ยงฉลองของตระกูลจากนั้นก็รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

     

    “งั้นเอาเป็นว่าค่อยมาคุยกันทีหลังที่งานเลี้ยงของตระกูลคาเวลในอีก3วันนะครับ เดี๋ยวผมจะส่งคนรับใช้มารับเอง”กรีนพูดเสร็จก็รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

     

    “เฮ้อ… เจ้าก็อย่าไปเชื่อคนง่ายนัก มันลำบากข้า เข้าใจไหม?"เบรอสพูด

     

    “ขะ-เข้าใจแล้วคะ”ลิเลียพูดพร้อมกับทำสีหน้าที่ดูสำนึกผิด

     

    ณ เวลานั้นเองอาเรียก็ได้เดินมายังข้างล่างบ้านพอดีทำให้ลิเลียที่เห็นก็รีบเข้าไปพยุงช่วยอาเรียทันทีด้วยความเป็นห่วง เบรอสที่เห็นอย่างนั้นก็มองดูด้วยความรู้สึกที่เห็นใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน ตัวเขานั้นไม่สามารถที่จะรักษาอาเรียได้เพราะการรักษานั้นไม่ใช่ศาตร์ที่เขาถนัดนัก แต่เขาก็มีความสามรถพอที่จะยื้อเวลาได้อยู่ แม้เขาจะมีวิธีรักษาอยู่บ้าง แต่ก็ทำไม่ได้ง่ายเพราะอาการที่อาเรียเป็นอยู่ก็คือ การโดนคำสาป แถมยังเป็นเผ่ามายาอีกด้วย 

     

    เผ่ามายาเป็นเผ่าที่ลึกลับพอสมควรการปรากฏตัวของพวกเขาแต่ละครั้งก็จะปรากฏตัวพร้อมกับจำนวนคนตายที่มากมาย เผ่ามายานั้นถนัดเรื่องการใช้คำสาปเป็นอย่างมากด้วยคำสาปของเผ่ามายา จึงทำให้เผ่าหลายเผ่าไม่กล้าไปยุ่งด้วย และการโดนเผ่ามายาสาปสำหรับคนธรรมดาก็ไม่ต้องจากตายทั้งเป็น อาเรียนั้นมีสายเลือดที่ไม่ธรรมดาอยู่จึงทำให้คำสาปนั้นไม่ทำอันตรายเธอมากนักแต่ก็พอที่จะทำให้เธอเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปอีกนาน การจะรักษาหรือแก้คำสาปได้นั้นต้องใช้ความประณีตเป็นอย่างมากเพราะถ้าผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียวนั้นหมายถึงความตายในทันที เบรอสจึงไม่อยากที่จะเสี่ยงมากนัก ด้วยสายเลือดที่อาเรียมีอยู่ตอนนี้ก็ยังช่วยต้านอยู่ได้บางจึงทำให้เบรอสไม่ได้ลงมืออะไร

     

    เบรอสที่ตอนนี้กังวลเรื่องของขุนนางที่ชื่อว่ากรีนคนนั้นขึ้นมาเขาจึงได้เรียกข้ารับใช้ของตนขึ้นมาเพื่อที่จะเอาไว้สืบข้อมูลขุนนางคนนั้นว่ามีแผนการอะไรกันแน่

     

    “ริเรียน่า ออกมา”เบรอสพูดเสร็จจู่ๆก็มีประตูมิติโผล่ออกมาจากความว่างเปล่าและได้มีบางอย่างออกมาจากประตูมิติ นั้นก็คือริเรียน่าหนึ่งในผู้รับใช้ของเบรอสนั้นเอง

     

    “ข้าริเรียน่า มาตามบัญชาของพระองค์แล้วเจ้าคะ มีอะไรให้รับใช้หรือเจ้าคะ”ริเรียน่าพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวนและมีเสน่ห์แม้จะอยู่ในร่างของจิ้งจอกก็ตาม ริเรียน่านั้นเป็นหนึ่งในผู้รับใช้ของเบรอส เธอมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากถ้าในโลกเก่าที่เบรอสเคยอยู่นั้นแถบจะไม่มีใครสู้เธอได้เลยมีเพียงแค่เหล่าผู้รับใช้ของเบรอสบางคนเท่านั้นทีพอจะปะทะยื้ดเยื่อได้สักหน่อยกับอีกสองสามคนที่เป็นผู้รับใช้ของเบรอสที่สามรถชนะเธอได้ เรียกได้ว่าเธอแทบจะแข็งแกร่งที่สุดเลยก็ว่าได้ถ้าไม่มีเบรอสกับผู้รับใช้ของเบรอสสองสามคนนั้นน่ะนะ 

     

    “ข้ามีสิ่งหนึ่งที่จะมอบหมายให้เจ้าทำ”เบรอสพูด

     

    “สิ่งใดหรือเจ้าคะ ข้าพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อท่าน”ริเรียน่าถามเบรอสพร้อมกับมองเบรอสด้วยสายตาที่ดูหยาดเยิ้ม

     

    “ช่วยไปสืบข้อมูลของตระกูลนี้ แล้วนำมาบอกข้าในวันพรุ่ง ไปได้”เบรอสพูด

     

    “ข้าจะทำให้ดีที่สุด เจ้าคะ”ริเรียน่าพูดก่อนจะหายตัวไปราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×