ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อจักรพรรดิปีศาจต้องกลายเป็นผู้พิทักษ์(ดอง)

    ลำดับตอนที่ #20 : นักฆ่า(2)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 63


     

    ………ต่อ

    เวลาผ่านไปไม่นานก็ได้มีคนบุกเข้ามายังภายในบ้านของลิเลียโรสที่แอบอยู่ในเงามืดก็ปรากฏออกมา เมื่อพวกนักฆ่าเห็นก็ตกใจเพราะว่าโรสสามารถรอดจากเวทย์มนต์ตรวจจับของพวกมันได้แต่ด้วยความเป็นนักฆ่ามืออาชีพพวกมันจึงสมารถเปลี่ยนอารมณ์กลับมาได้อย่างรวดเร็ว

     

    “โฮ่… ใช่ได้นะเนี้ย ชักน่าสนุกขึ้นมาแล้วสิ ฮิๆ” โรสพูดพร้อมกับทำหน้าที่ดูโรคจิตออกมา โรสจะมีลักษณะอีกอย่างหนึ่งคือเมื่ออยู่ในการต่อสู้เธอก็จะแสดงสัญชาตญาณดิบของเธอออกมาจนดูเหมือนจะเป็นคนละคนกับตอนก่อนหน้านี้เลย

     

    มาทางด้านลิเลียที่ตอนนี้เธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่กย่างสบายใจนักฆ่าพวกนั้นเมื่อมันเห็นลิเลียประมาทอยู่มันจึงพุ่งเข้าไปโจมตีทันทีโดยที่หารู้ไหมว่าฝ่ายตัวมันเองนั่นแหละที่ประมาท ลิเลียเพียงแค่กระดิกนิ้วหนึ่งทีนักฆ่าคนที่พุ่งเข้าไปก็กลายเป็นน้ำแข็งไปอย่างรวดเร็ว

     

    “อ่านแอ่กันจังเลยนะคะ” ลิเลียพูดพร้อมกับยิ้มออกมาและเก็บหนังสือว่างลงบนพื้น

     

    “แบบนี้ก็ไม่ได้ทดสอบฝีมือกันพอดีสิคะ” ลิเลียพูดพร้อมกับแสยะยิ้มออกมาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาไม่ใช่แค่ความสามารถของลิเลียที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวนิสัยของเธอก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันจากคนที่ใสซื่อบริสุทธิราวกับนางฟ้ากลายมาเป็นโหดเหี้ยมอำมหิตราวกับซาตานอาจเป็นเพราะการหลอมรวมวิญญาณกับกาเบียลผู้ที่เคยต่อสู้เคียงบาเคียงไหลกับเบรอสมานับล้านๆศพจึงทำให้เธอค่อยเปลี่ยนอุปนิสัยไปที่ละน้อยแต่ก็ยังคงเหลืออุปนิสัยของลิเลียอยู่บ้าง

     

    และทางด้านเบรอสตอนนี้เขาได้มายืนรอใครบางคนอยู่และในขณะนั้นเองก็ได้มีคนออกมาจากเงามืดคนๆนั้นก็คือหัวหน้าหน่วยของเหล่านักฆ่าจากวิหารนั้นเองผู้มีระดับเวทย์ถึงระดับ ราชาจอมเวทย์ และเป็นsummoner แร้งค์ A อีกต่างหาก

     

    “นายสินะ ที่เป็นคนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในอาณาจักรเทอเรียแห่งนี้” หน้า่หน่วยของเหล่านักฆ่าจากวิหารพูดขึ้น เขาสวมใส่ชุดสีดำปิดบังร่างกายจนมองไม่เห็นว่าเป็นใครและมีรูปลักษณ์เป็นอย่างไร แต่จากเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของชายวัยกลางคนทำให้เบรอสเดาได้ว่าต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ต่อสู้อยู่พอสมควรแน่นอนดังนั้นเขาจะไม่ประมาท

     

    “ใช่เป็นข้าเอง และเจ้าคงจะเป็นหน้าหน่วยของเหล่านักฆ่าจากวิหารสินะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อ…คลาก สินะ” ทันทีที่เบรอสพูดชื่อของนักฆ่าคนนั้นหัวหน้านักฆ่าหรือคลากก็ทำสีหน้าตกใจขึ้นมา

     

    “กะ-แก! รู้ชื่อฉันได้ยังไง”คลากถามออกมาด้วยความตกใจเพราะโดยปกติแล้วไม่มีใครที่จะรู้จักชื่อเขามากนักนอกจากเหล่าผู้อาวุโสของวิหาร

     

    “ฮึ! ข้าไม่บอกเจ้าหรอก”เบรอสตอบ ทำให้หัวหน้านักฆ่าหรือคลากรู้สึกโมโหขึ้นมาเพราะดูเหมือนเขาจะถูกหยามหน้าเป็นอย่างมาก

     

    “งั้นฉันจะจัดการแก และให้แกปริปากออกมาเอง” คลากพูดเสร็จก็พุ่งเข้าโจมตีเบรอสอย่างรวดเร็วโดยใช้เวทย์เสริมพลังของร่างกายเมื่อหมัดของคลากกำลังจะโนหน้าของเบรอส แต่ทว่าในขณะนั้นเองก็ราวกับมีบางสิ่งมาปัดป้องหมัดของคลากไว้ทำให้ทิศทางของหมัดเปลี่ยนไปโดนต้นไม้ข้างแทน ต้นไม้และดินรอบ ๆถึงกับปลิวหายไปจนไม่เหลือซาก

     

    “ฮืม… ก็ถือว่าใช่ได้นิดหน่อยละนะ” เบรอสพูด แต่คลากเมื่อการโจมตีรอบแรกไม่ได้ผลเขาจึงได้อัญเชิญผู้พิทักษ์ของเขาออกมาเพราะตอนนี้เขาจะสู้แบบสุดกำลังแล้ว คลากพุ่งเข้าไปโจมตีเบรอสอย่างรวดเร็วพร้อมกับผู้พิทักษ์ ผู้พิทักษ์ของคลากมีลักษณะคล้ายเสื้อมีขนาดใหญ่มีสายฟ้ารอมรอบร่างกายเอาไว้สายฟ้าที่อยู่รอบ ๆก็ถึงกับทำให้พื้นดินที่มันยืนอยู่แหลกละเอียดจนไม่เหลือซาก ทั้งสองผสานกันโจมตีเบรอสกันอย่างลงตัวสามรถทำให้เบรอสถ่อยหลังไปได้สองสามก้าวเลยทีเดียว

     

    “อืมๆ แรงดีหนิ งั้นข้าจะเริ่มละนะ"เบรอสพูด พร้อมกับเริ่มใช้พลังหนึ่งในสิบของเขาออกมาแรงกดดันรอบ ๆตัวก็เริ่มทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คลากที่รับรู้ถึงแรงกดดันของเบรอสก็ถึงกับเหงื่อตกทันทีพร้อมกับทรุดเข่าลงไปเพราะทนแรงกดได้ไม่ไหว

     

    “อะไรกัน ข้ายังไม่ได้ใช้พลังเลยนะ ไม่ไหวซะแล้วเหรอ” เบรอสพูด คลากที่ได้ยินคำดูถูกของเบรอสก็รู้สึกโมโหขึ้นมามากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะแรกกดดันที่ตนโดนอยู่ทำให้คลากขยับตัวไม่ได้

     

    “เอาเถอะ ฝั่งนู้นก็เสร็จกันแล้ว เลิกเล่นกันแค่นี้ดีกว่า” เบรอสพูดก่อนที่จะชูมือขึ้นและวงเวทย์ก็ปรากฏออกมา พื้นดินรอบ ๆที่คลากอยู่กลายเป็นสีดำสนิดและค่อยๆดูดเขาไปพร้อมกับผู้พิทักษ์ของเขา

     

    “เฮ้ย!! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!! ปล่อยข้าไป!! ได้โปรดข้ายอมทำทุกอย่าง! ได้โปรด! อ้าก!!!”และแล้วร่างกายของคลากและผู้พิทักษ์ก็ได้ถูกหลุมสีดำดูดกลือนไป หลุมสีดำนั้นเป็นเวทย์มนต์ที่คล้ายกับเวทย์ประตูมิติ มันคือประตูเชื่อมระหว่างเบรอสกับสัตว์เลี้ยงของเขาและคลากที่ถูกดูดไปในหลุมดำนั้นก็จะกลายเป็นอาหารของสัตว์เลี้ยงของเขา 

     

    เมื่อเบรอสจัดการธุระเสร็จแล้วก็กลับไปยังบ้านในทันที พบว่าตอนนี้โรสกับลิเลียได้มานั่งคุยกันอย่างสบายใจเฉิบแล้วส่วนศพที่เหลือก็ถูกลิเลียแช่แข็งและทำให้แตกจนไม่เหลือซากแล้ว

     

    “เป็นไง พอใช้ได้ไหม” เบรอสถามทั้งสองคน

     

    “ก็ไม่เท่าไหร่” โรสตอบ

     

    “เช่นกัน” ลิเลียตอบก่อนที่จะหันหน้ามามองเบรอสอย่างมีเลศนัย เบรอสที่เห็นดังนั้นจึงถามออกไปว่า

     

    “มีอะไรเหรอ” เบรอสถาม ลิเลียลุกขึ้นเดินเขามาหาเบรอสก่อนที่จะบอกเบรอสว่า

     

    “ไปเดินเล่นกันฉันมีอะไรจะคุยด้วย” ลิเลียพูดเสร็จก็เดินออกไป เบรอสทำหน้างงๆแต่ก็เดินตามออกไป โรสที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มออกมาอีกคน

     

    “มีอะไรหรือทำไม่ถึงเรียกข้าออกมาเดินเล่นด้วย” เบรอสถาม

     

    “ไม่มีอะไรหรอกแค่อยากจะอยู่กับนายกันสองต่อสองก็เท่านั้น” ลิเลียพูดพร้อมกับหน้าที่เริ่มแดงขึ้นมา

     

    “เหรอ” เบรอสตอบ ทุกอย่างเงียบไปสักพักก่อนที่ลิเลียจะพูดออกมาทำลายความเงียบ

     

    “นี่ นายเคยบอกว่านายจะอยู่กับฉันตลอดไปใช่ไหม” จู่ ๆลิเลียก็พูดเรื่องนี้ออกมาเบรอสได้ยันก็รู้สึกงงเล็กน้อยแต่เขาก็เคยพูดเอาไว้จริง

     

    “ใช่ ข้าเคยพูดเอาไว้ทำไมหรือ” เบรอสตอบตามตรง

     

    “ถ้าเกิดนายอยู่กับฉันตลอดไปจริง ๆ ฉันก็คงไม่ได้แต่งงานสักทีน่ะสิ” ลิเลียพูดขึ้นมาทำให้เบรสอก็ยิ่งทำสีหน้าไม่เข้าใจขึ้นมาอีก

     

    “ทำไมล่ะ หรือจะให้ข้าทิ้งสัญญานั้นกัน” เบรอสพูด ลิเลียที่ได้ยินก็รีบหันมาตอบอย่างรวดเร็ว

     

    “ไม่! สิ่งที่ฉันจะหมายถึงก็คือ ถ้าฉันอยู่กับนายตลอดไปจริง ๆผู้ชายที่ไหนจะมาจีบฉันกันละ ดังนั้นนายต้องรับผิดชอบฉันโดยการ…”ลิเลียพูดพร้อมกับก้มหน้าลงตำแต่ก็ยังเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเธออยู่

     

    “โดยการ?” เบรอสถาม

     

    “มาเป็น… คะ-คนระ-รักของฉัน"ลิเลียพูดออกมาด้วยเสียงที่เบาหวิวแต่มีหรือเบรอสจะไม่ได้ยินเขายิ้มออกมา เขาคิดว่าจะแกล้งสักหน่อยก็คงดี

     

    “อะไรนะ” เบรอสถามอีกครั้ง

     

    “มาเป็นคะ-คนรักของฉัน” ลิเลียตอบดังขึ้นมาอีกแต่เบรอสก็ยังคงแกล้งต่อไป

     

    “เจ้าพูดอะไรกัน ข้าไม่ได้ยินเลย” เบรอสพูด ลิเลียที่ได้ยินดังนั้นก็ดูดหายใจเข้าปอดให้ลึกๆและตะโกนออกมาว่า

     

    “มาเป็นคนรักของฉันซะ!! พอใจนายหรือยัง”ลิเลียที่รู้ว่าโดนแกล้งแล้วก็ถามขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ

     

    “ฮึๆ เจ้านี่เวลาโกรธ ดูน่ารักเสียจริง” เบรอสพูด ลิเลียที่ได้ยินก็เปลี่ยนจากอารมณ์โกรธกลายมาเป็นเขินอายแทน

     

    “ถะ-ถึงชมฉันไปก็ไม่ยกโทษให้หรอกนะ” ลิเลียตอยทั้งที่หน้ายังคงแดงก่ำอยู่ เบอรสที่เห็นอย่างนั้นจึงนำมือจับคงของลิเลียและเสยคางของเธอขึ้นมา ลิเลียที่เห็นว่าเบรอสทำแบบนี้ก็รู้สึกงุนงงขึ้นมา แต่ก่อนที่ลิเลียจะได้ถามอะไร เบรอสก็นำปากของเขาไปประกบกับปากของลิเลียหรือพูดตรง ๆก็คือจูบนั้นเอง 

     

    “แล้วทีนี่จะยกโทษให้ได้หรือยัง” เบรอสพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ลิเลียที่ตอนนี้กำลังเหม่อลอยก็ได้สติขึ้นมาพร้อมกับหน้าที่ขึ้นสีกลายเป็นสีแดงเข้ม

     

    “คะ-ครั้งนี้จะยกโทษให้ละกัน ตาบ้า” ลิเลียพูด

     

    “แล้วคำตอบล่ะ” ลิเลียถามเบรอส

     

    “คำตอบของข้าก็จูบเมื่อกี้ไงหรือมันไม่ชัดเจนพอ งั้นจะให้อีกรอบก็ได้นะ” เบรอสพูดแกล้งลิเลียเล่นจนทำให้ลิเลียอายมากขึ้นไปอีก

     

    “พอแล้ว!” ลิเลียพูดและเดินเข้าไปในบ้านทันที

     

     

    *ช่วงนี้ผมอาจจะลงไม่ค่อยบ่อยนะครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะตันครับคิดไม่ออกจริงๆ ส่วนที่สองก็การบ้านเยอะจนขี้เกียจเลย และผมก็ม.6 แล้วเลยต้องมาปวดหัวกับการเลือกมหาลัยอีกว่าจะเข้าไหนดีและเงินจะพอไหมและจะสอบเข้าได้ไหมอะไรอีกมากมายจนทำให้ผมเริ่มเคียดมากขึ้นบ้านผมก็ไม่ได้รวยด้วย และต้องหาเวลาพักผ่อนบ้างนานๆทีจะมาเขียนนิยาย ถ้าวันไหนสมองโล่งก็จะได้เยอะวันไหนเคียดๆหน่อยก็จะเขียนได้น้อยจนบ้างครั้งไม่เขียนเลย 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×