ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อจักรพรรดิปีศาจต้องกลายเป็นผู้พิทักษ์(ดอง)

    ลำดับตอนที่ #2 : เผ่าสวรรค์

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 63


    ภายนอกมิติที่ลิเลียได้เดินเข้าไปผู้คนที่ได้มาร่วมพิธีและรับชมพิธีอยู่ได้มองไปยังมิตินั้นอย่างใจจดใจจ่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างและลิเลียจะเป็นอย่างไรบ้างจะผ่านหรือจะล้มเหลวกัน และในขณะนั้นเองประตูมิติก็เกิดการสั่นไหวจากนั้นก็มีคนหนึ่งคนและสิ่งมีชีวิตบางอย่างออกมาจากมิติ

     

    หลายคนที่เห็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างหลังลิเลียก็ต่างตกตะลึงกันจนตาค้างลิเลียที่สังเกตเห็นว่าทุกคนได้มองมายังข้างหลังของตน ด้วยความสงสัยเธอจึงหันไปมองยังข้างหลังของตัวเอง เมื่อเธอได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างหลังของเธอก็ทำให้เธอตกตะลึงไปอีกคน มันคือมังกรนั้นเองแถมเป็นตัวที่มีขนาดใหญ่อีกด้วยมันมีสีดำทมิฬรอบๆตัวของมันจะมีระอองและแสงเล็กๆลอยอยู่รอบๆตลอด

     

    “ตกใจอะไรกัน นี่ข้าเองเจ้าจำไม่ได้แล้วหรือ”เบรอสหรือมังกรตัวนั้นได้เอ่ยถามลิเลีย

     

    “ท่านเบรอสหรอ?”ลิเลียหลังจากที่ได้ยินมังกรตัวนั้นพูดก็ได้สติขึ้นมาและถามออกไป

     

    “ใช่ และไม่ต้องเรียกข้าว่าท่าน เรียกข้าตามปกติเถอะ"เบรอสตอบลิเลีย

     

    และจากนั้นมังกรที่มีขนาดใหญ่ตัวนั้นก็ได้เรืองแสงขึ้นมาและร่างกายก็ค่อยๆหดเล็กลงจนเทียบเท่าได้กับขนาดของคน เบรอสที่กลายร่างเป็นคนแล้วก็หันไปถามลิเลียโดยที่ไม่สนใจสายตาของเหล่าผู้คนในพิธีเลยแม้แต่น้อย

     

    “แล้วทีนี้ทำไงต่อ หรือข้าต้องรอเจ้าพิธีแปลกๆนั้นอีก?”เบรอสถามลิเลีย

     

    “คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะครั้งนี้เป็นครั้งแรกของฉัน”ลิเลียเอ่ยตอบเบรอส

     

    “งั้นก็ไปบ้านเจ้ากัน ข้าไม่ค่อยชอบการเป็นที่ดึงดูดสายตาอยู่เช่นนี้มากนัก”เบรอสพูดพร้อมกับแผ่อารมณ์ที่ดูเหมือนจะเริ่มหงุดหงิดออกมา ลิเลียที่สัมผัสได้ว่าเบรอสเริ่มมีอาการทีดูจะหงุดหงิดแล้วรีบพาเบรอสเดินออกไปในทันที  ในล่ะหว่างที่ทั้งสองเดินออกไปจากพิธีก็มีสายตาของเหล่าตระกูลผู้มีอำนาจทั้งหลายได้มองไปยังลิเลียและเบรอสด้วยความสนใจ และมีความรู้สึกที่อยากพาลิเลียไปยังตระกูลของตน ตระกูลทั้งหมดจึงได้สั่งให้ลูกน้องของตนเองไปสืบเสาะหาขอมูลของลิเลีย

     

    .

    .

    .

     

    ก่อนที่หน้านั้นไม่กี่นาทีในห้องโถงขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่ถูกประดับไปด้วยสิ่งของมากมายที่ดูหรูหราและดูหน้าเกรงขามภายในนั้นจะมีบัลลังค์ขนาดใหญ่อยู่ตรงสุดทางเดินของห้องโถงแห่งนี้ และภายในนั้นก็ได้มีสิ่งมีชีวิตตนหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายคนหนังอยู่นั่งอยู่และสิ่งมีชีวิตตนนั้นก็ได้มองไปยังวงเวทย์ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าด้วยความเบื่อหน่าย

     

    “เฮ้อ… ไม่มีอะไรที่ทำให้ข้าสนใจได้อีกแล้วหรือไง มันก็ผ่านมาเกือบหมื่นปีแล้วสินะที่ข้าได้อยู่อย่างเบื่อหน่ายเช่นนี้”สิ่งมีชีวิตตนนั้นก็คือเบรอสนั้นเองเขาได้พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจและหงุดหงิด

     

    ในขณะนั้นเองก็ได้มีบ้างอย่างโผล่ออกมาจากความว่างเปล่าทำให้เบรอสหันไปสนใจในทันที

     

    “ฮืม…. สิ่งได้กันที่สามรถมายังมิติที่ข้าสร้างขึ้นมาได้”เบรอสพูดออกมาด้วยความสนใจแววตาที่ดูเบื่อหน่ายเมื่อกี้กลับกลายเป็นแววตาที่ดูตื่นเต้นไปเสียแล้ว

     

    ผ่านไปไม่นานก็มีบ้างอย่างโผล่ออกมาสิ่งนั้นก็คือลิเลียนั้นเอง เบรอสที่มองเห็นว่าเป็นมนุษย์ออกมาจากมิตินั้นเขาก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาเพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีมนุษย์ธรรมดาจะมาที่นี้ได้เบรอสจึงได้ถามออกไป

     

    “เจ้าเป็นใครกันเหตุใดถึงมายังพระราชวังของข้าได้”เบรอสได้ถามออกไปโดยใส่แรงกดดันไปเล็กน้อยเพื่อทดสอบว่ามนุษย์คนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ดูเหมือนว่าจะทำให้เบรอสผิดหวังเพราะมนุษย์คนนั้นไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเลย แถมยังอ่อนแอมากอีกด้วย

     

    “ฉะ-ฉันมีนามว่า ลิเลีย ปะ-เป็นว่าที่ผู้อัญเชิญคะ”มนุษย์คนนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นกลัว หลังจากที่ทั้งสองได้พูดคุยกันทำให้เบรอสรู้สึกสนใจขึ้นมาหลังจากนั้นทั้งสองจึงได้ตกลงและทำพัธสัญญากัน (ตามตอนที่หนึ่ง)

     

    .

    .

     

    ตัดมาทางด้านปัจจุบันขณะนี้เบรอสกับลิเลียก็ได้เดินมาถึงยังบ้านของลิเลียแล้วเรียบร้อยซึ่งมันดูไม่ต่างจากรังหนูเลยแม้แต่น้อยเป็นบ้านสองชั้นที่ไม่ใหญ่มากและดูทรุดโทรมเป็นอย่างมากอีกด้วยเหมือนมันพร้อมที่จะพังได้ทุกเมื่อ

     

    “ต้องขอโทษด้วยคะที่บ้านของฉันมันดูไม่ดีมากนัก”ลิเลียหันไปขอโทษเบรอส เพราะเธอกลัวว่าเบรอสนั้นจะผิดหวังในตัวเธอ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเบรอสนั้นไม่ได้แสดงอาการผิดหวังหรืออะไรออกมาแม้แต่น้อยเขาทำแค่ยืนมองเฉยๆ

     

    “ไม่เป็นไรหรอก ข้าสามรถอยู่ได้ทุกทีที่สามรถอยู่ได้ ข้าไม่ใช่คนที่จะสนใจเรื่องเล็กน้อยแค่นี้”เบรอสพูดแต่ในจังหวะนั้นเองหลังคาบ้านบ้างส่วนก็ได้พังลงมา

     

    โคร้ม!!!!

     

    “แต่ปรับปรุงสักหน่อยก็น่าจะดี”เบรอสพูดแนะนำสักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าบ้านทรุดโทรมเต็มที่แล้วพร้อมที่จะพังลงมาทุกเมื่อ เขาอยู่มาตั้งหมื่นๆปีแล้วจะมาตายเพราะบ้านถล่มงั้นหรอไม่มีทางเขาไม่ยอมหรอก

     

    “ค-คะ”ลิเลียได้แต่รับฟังเท่านั้นเพราะเธอในตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้หรอก ตอนนี้เธอไม่มีเงินเหลือเลยแม่แต่น้อย เบรอสที่สังเกตเห็นว่าลิเลียมีท่าทีแปลกๆดูเหมือนจะกำลังเศร้าและสิ้นหวังกับอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้ถามออกไป

     

    “เป็นอะไรงั้นหรือ”เบรอสถาม

     

    “ไม่มีอะไรหรอกเจ้าคะ อะ! จริงสิพาท่านไปพบแม่ของฉันดีกว่าแม่ของฉันจะได้ดีใจและอาการอาจจะดีขึ้นก็ได้”ว่าแล้วลิเลียก็เดินนำเข้าไปในบ้านทันที ในระหว่างที่เดินกันอยู่นั้นเบรอสก็ได้ไปสะดุดตากับรูปภาพรูปหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางขึ้นบันใดไปยังชั้นสองของบ้าน 

     

    “เป็นอะไรไปหรอ?”ลิเลียหลังจากที่สัมผัสได้ว่าจู่ๆเบรอสก็หยุดเดินทำให้เธอต้องหันหน้ามาถามด้วยความสงสัย

     

    “ไม่มีอะไรหรอก ไปหาแม่ของเจ้ากันต่อเถอะ”เบรอสบอกและเดินต่อทันที ‘นั้นมีนใครกันทำไมเราถึงได้รู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยเจอมาก่อน’เบรอสคิดในใจ

     

    ไม่นานก็มาถึงยังห้องของแม่ของลิเลีย ลิเลียเธอได้เคาะประตูก่อนจากนั้นเธอจึงเดินเข้าไป

     

    “แม่คะ หนูทำสำเร็จแล้วคะ”ลิเลียได้เดินไปนั่งยังข้างๆเตียงที่มีหญิงสาววัยกลางคนนอนอยู่

     

    “อืม… ลิเลียหรอลูก”หญิงคนนั้นพูดออกมาหลังจากที่พึ่งตื่นด้วยเสียงของลิเลีย

     

    “ใช่คะแม่หนูเอง หนูทำสำเร็จแล้วนะคะ”ลิเลียพูดออกมาทั้งน้ำตา น้ำตานี่ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจแต่คือความดีใจที่เธอได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เธอตั้งเป้าไว้ได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว

     

    “ดีใจด้วยนะลูก”หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับแสดงรอยยิ้มออกมา

     

    “แม่คะ หนูได้พาผู้พิทักษ์ของหนูมาด้วยและจะแนะนำให้แม่รู้จัก นี่คือผู้พิทักษ์ของหนูคะ เขามีชื่อว่าเบรอส”ลิเลียได้ลากเบรอสมาใกล้ๆแม่ของเธอ เมื่อแม่ของลิเลียได้ยินดังนั้นก็แนะนำตัวกับเบรอสตามมารยาท

     

    “ฉันมีชื่อว่าอาเรียคะ ยินดีที่ได้รู้จักคะ คุณเบรอส”อาเรียหรือแม่ของลิเลียพูดด้วยท่าทางสุภาพ

     

    “เช่นกัน”เบรอสทักทายแบบสั่นๆตามฉบับของเขา

     

    “อะ! ได้เวลาทำอาหารแล้วนิ งั้นหนูขอไปเตรียมอาหารก่อนนะคะเชิญทั้งสองคนคุยกันตามสบายคะ”ว่าแล้วลิเลียก็เดินลงไปยังข้างล่างเพื่อเตรียมอาหาร

     

    “คุณคงได้เห็นภาพที่อยู่ทางขึ้นบรรใดนั้นแล้วสินะคะ”จู่ๆอาเรียก็ถามเบรอสราวกับว่ารู้ว่าเบรอสจะถามอะไร

     

    “มันคือถามอะไรกันทำไมข้าถึงรู้สึกคุ้นเคยกับมัน ช่วยบอกข้าหน่อยได้ไหม”เบรอสถามอาเรีย 

     

    “ข้าบอกท่านได้แค่ว่า มันเป็นเรื่องในอดีตของท่านที่ได้เจอกับคนที่อยู่ในรูปนั้นและภายในรูปนั้นได้มีเสี้ยวของจิตวิญญาณของคนในรูปอยู่ด้วยจึงทำให้คุณรู้สึกคุ้นเคยนั้นเอง”อาเรียอธิบายออกมา

     

    “เจ้ารู้ไดยังไง?”เบรอสถามอาเรียด้วยความสงสัยว่าเธอรู้เรื่องนั้นได้ยังไงเพราะไม่มีทางที่คนธรรมดาจะรู้เรื่องของเขาได้ได้ดังนั้นเขาจึงอยากรู้ว่าอาเรียไปรู้จากที่ไหนมา

     

    “มันเป็นคำทำนายที่สืบทอดมาจากตระกูลของข้า ว่าวันหนึ่งจะมีชายผู้เป็นต้นกำเนิดทุกสรรพสิ่งมายังโลกใบนี้พร้อมกับราชินีผู้เป็นเจ้าแห่งสรรพสิ่งเช่นกันที่จะตื่นขึ้น และในคำทำนายนั้นมันได้บอกคนที่มีลักษณะเหมือนคุณไว้ ฉันรู้เพียงเท่านี้”อาเรียได้อธิบายให้เบรอสฟัง เมื่ออาเรียได้บอกว่าเธอบอกเขาได้เพียงเท่านี้เขาจึงไม่อยากจะซักเบรอสไม่อยากถามเธอมากนักเพราะถึงถามยังไงดูแล้วคนแบบอาเรียก็ไม่ยอมบอกง่ายๆหรอกละดูเหมือนว่าเธอจะไม่รู้จริงๆ

     

    “งั้นหรือ ข้าขอตัวไปดูลิเลียก่อนเผื่อเธอจะขาดอะไรไปข้าจะได้หามาให้และอาจจะช่วยอะไรได้บาง”เบรอสว่าแล้วและกำลังจะเดินออกไปแต่ถูกอาเรียพูดขัดจังหวะขึ้นมา ทำให้เบรอสต้องหยุดและรับฟัง

     

    “เดี๋ยวก่อนคุณเบรอส”อาเรียเรียกเบรอส

     

    “มีอะไรงั้นหรือ”เบรอสถามกลับไปด้วยความสงสัยว่าเหตุใดเธอจึงเรียกเขา

     

    “ฉันขอฝากลิเลียไว้กับคุณด้วยดูแลเธอให้ดีล่ะ และค่อยปกป้องเธอแทนฉันด้วยคะ ได้โปรด”อาเรียพูดขอร้องเบรอส

     

    “ข้าทำแน่นอน เพราะมันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว”ว่าแล้วเบรอสก็เดินออกไปจากห้อง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×