คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : แก้แค้น(2)
“ว่าไง เจอกันอีกแล้วนะ” เสียงของใครบ้างคนที่คุ้นหูดังขึ้น ลิเลียที่ได้ยินก็ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงงงวย และมองไปรอบๆจนเห็นเข้ากับร่างๆหนึ่งซึ่งคนๆนั้นก็คือกาเบียลนั้นเอง
“นี่ฉันกลับมาที่นี่อีกแล้วหรอคะ?”ลิเลียถาม กาเบียลก็พยักหน้าตอบตอ่มาลิเลียก็ทำสีหน้าเศร้าขึ้นมากาเบียลที่พอรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเธอจึงพูดขึ้นมาว่า
“ยังเสียใจกับเรื่องของแม่เธออยู่งั้นหรอ?” ลิเลียที่ได้ยินก็ลุกขึ้นมานั่งกอดเข่าตัวเองไว้
“อืม.” เธอตอบเพียงคำสั้นๆเพราะตอนนี้เธอไม่รู้จะตอบยังไงแล้ว
“พลังที่เธอให้มาไม่เห็นจะรักษาแม่ของนั่นได้อย่างที่พูดเลยนิ” ลิเลียพูดออกมาทั้งน้ำตา กาเบียลที่ได้ยินก็ได้เดินเข้าไปนั่งข้างลิเลีย
“พลังที่ฉันให้เป็นพลังที่ใช้ในการรักษาเท่านั้น ยังไงซะตอนแรกจุดประสงค์ที่เธอต้องการพลังก็คือใช่รักษาแม่ของเธอใช่ไหมละเพราะงั้นมันถึงมีหน้าที่แค่นั้นยังไงล่ะ” กาเบียลอธิบาย ลิเลียที่ได้ยินก็ลดอารมณ์โกรธลง
“แล้วฉันจะได้พลังที่สามารถปกป้องคนสำคัญของฉันได้ยังไงละ”ลิเลียหันไปถามกาเบียล
“ฮืม… คนสำคัญใครหรือ?…”กาเบียลถามแซ่วลิเลีย เพราะคิดว่าลิเลียจะต้องแสดงท่าทีเลิ่กลั่กแน่นอน แต่ไม่เป็นไปตามที่เธอคิดเพราะลิเลียดันตอบมาแบบตรงเลยว่า
“เบรอส คนสำคัญที่สุดในชีวิตฉันอีกคน ฉันไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันแต่พออยู่ใกล้เขาแล้วมันทำให้ฉันรู้สึกสบายและอบอุ่นเป็นอย่างมาก ดังนั้นต่อให้เบรอสจะแข็งแกร่งแค่ไหนสักวันก็คงต้องได้เจอคู่ต่อสู้ที่ยากลำบากแน่นอน ฉันจึงไม่อยากที่จะเป็นตัวถ่วงของเขา และฉันต้องการพลัง”ลิเลียพูดออกมาอย่างห้าวหาญและแน่วแน่ กาเบียลที่ได้ยินก็ทำสีหน้าตกใจก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นยิ้ม
“ฮืม… เป็นความคิดที่สุดยอดจริงเลยนะ ได้สิฉันจะมอบพลังทั้งหมดให้กับเธอ แต่ก็มีเงือนไขอยู่เช่นกัน” ลิเลียที่ได้ยินกาเบียลพูดอย่างนั้นเธอจึงถามถึงเงื่อนไขทันที
“เงือนไข? ว่ามาเลยฉันยอมทำทุกอย่างอยู่แล้วเพื่อที่จะได้พลังที่สามรถปกป้องคนสำคัญของฉันได้”ลิเลียพูด
“เธอกับฉันต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน” หลังจากที่กาเบียลพูดเสร็จ ลิเลียก็ทำสีหน้าที่ดูงงๆขึ้นมา
“เออ… หมายความว่าไง?” ลิเลียถาม
“ก็หมายความว่าพวกเราจะหลอมรวมจิตวิญญาณเข้าด้วยกันไง หรือก็คือกลายเป็นคนๆเดียวกัน” กาเบียลอธิบาย ลิเลียทำหน้าครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนที่เธอหันหน้ามาและพูดว่า
“ตกลง ฉันรับข้อเสนอนี้” ลิเลียตอบ กาเบียลที่ได้ยินคำตอบของลิเลียเธอก็ยิ้มออกมาและพูดว่า
“ไม่ต้องห่วง ยังไงเป้าหมายของเราก็อันเดียวกันไม่ต้องกลัวว่าข้าจะยึดร่างเจ้าหรอก”ลิเลียที่ทำหน้าระแวงอยู่ก็ถึงกับเปลี่ยนสีหน้ามาเป็นความงงในทันที
“ฮะ หมายความว่าไง” แต่ก็ไม่ทันได้คำตอบที่ๆลิเลียอยู่ตอนนี้ได้มีแสงสว่างจาปรากฏออกมาก่อนที่สติของเธอจะดับไป
.
.
ตอนนี้ร่างกายของลิเลียก็เริ่มขยับแล้ว เบรอสที่สัมผัสได้ว่าลิเลียเริ่มขยับตัวดูเหมือนว่าเธอกำลังจะฟื้นแล้ว เบรอสจึงเดินเข้าไปดูเธออย่างใกล้ชิดด้วยความเป็นห่วง ลิเลียค่อยลืมตาขึ้นมาก่อนที่จะหันหัวมองไปรอบๆก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ตรงที่เบรอส
“เบรอส.. เบรอส!” ลิเลียไม่รอช้าเมื่อเห็นเบรอสเธอก็พุ่งเข้ากอดในทันที ทำให้เบรอสที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ล้มลงไปยังพื้นพร้อมกับลิเลียที่มากอดเขาอย่างแน่นหนา
“เจ้าเป็นอะไรของเจ้ากัน?” เบรอสถามด้วยความแปลกใจเพราะจู่ลิเลียก็พุ่งเข้ามากอดเข้าซึ่งเป็นเรื่องที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนที่ดูขี้อายอย่างลิเลียจะเข้ามากอดเข้าอย่างนี้
“ฉันแค่คิดถึง ก็มันนานแล้วนิที่ไม่ได้เจอกัน” ลิเลียพูดและคำหลังๆลิเลียพูดเบาจนเบรอสแถบไม่ได้ยินทำให้เขาต้องถามลิเลียอีกครั้งว่าพูดอะไร
“เจ้าพูดอะไรนะข้าไม่ได้ยิน” ลิเลียก็สายหัวปฏิเสธไปจากนั้นเธอก็เปลี่ยนเรื่องไปในทันที
“นี่ฉันสลบไปกี่วันงั้นหรอ” ลิเลียถาม
“ก็ ประมาณ3วันน่าจะได้” เบรอสตอบเพราะถ้าไม่เริ่มนับตั้งแต่ลิเลียสลบไปก็คงจะใช่
“สามวันเลยหรอ!” ลิเลียพูดออกมาด้วยความตกใจ เบรอสเห็นจึงถามออกไป
“ทำไมหรือ?”เบรอสถาม ลิเลียสายหัวและพูดออกมา
“ไม่มีอะไรหรอก” หลังจากที่พูดคุยกันไปเล็กน้อยก็ดูเหมือนว่าเบรอสจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“จริงสิ ข้าได้จับตัวคนที่สังหารแม่ของเจ้าไว้แล้วเจ้าจะเอายังไงกับมันต่อ” เบรอสพูด ลิเลิยก็ทำท่าทางดูจะสนใจขึ้นมา จึ้งถามเบรอสไป
“ที่ไหนหรอ?”
"ในมิติที่ข้าสร้างขึ้น"เบรอสตอบ ก่อนจะถามลิเลียกลับไปว่า
“เจ้าจะไปไหม?” ลิเลียที่ได้ยินก็ไม่รอช้าเธอตอบตกลงในทันทีที่เบรอสถาม
“ตกลง ฉันจะไป” ว่าแล้วเบรอสก็ได้เปิดประตูมิติออกมาก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปยังหลุมมิตินั้น
อ้าก!!! ช่วยด้วย!!
สิ่งแรกที่ทั้งสองมาเห็นก็คือผู้คนต่างถูกทรมารในแบบต่างๆอยู่ โดยมีลูกน้องของฮาโรวที่ดูคล้ายวิญญาณเป็นคนทรมารส่วนฮาโรวก็หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบอย่างสบายใจ
“จักรพรรดิกับพวกสวะทั้งสามอยู่ที่ไหนงั้นหรือ ฮาโรว” ฮาโรวที่ได้ยินเสียงของเบรอสเธอก็รีบลุกขึ้นมาตอนรับเบรอสอย่างรวดเร็ว
“ต้องขออภัยจริงๆ ที่ดิฉันไม่ได้ตอนรับท่านเจ้าคะ” ฮาโรวเมื่อรู้ตัวว่าตนเองไม่ได้ตอนรับเบรอสอย่างผู้รับใช้ควรทำจึงได้เอ่ยขอโทษเบรอส
“ไม่เป็นไร ส่วนคนที่ข้าถามละ” เบรอสพูดปัดจากนั้นเขาก็ถามถึงจักรพรรดิเทอเรียกับสามผู้อาวุโส
“อยู่ทางนี้เจ้าคะเชิญตามดิฉันมาได้เลยเจ้าคะ” แล้วฮาโรวก็เดินนำทั้งสองไปยังห้องทรมารอีกที่ในทันที เมื่อเดินมาถึงก็เห็นจักรพรรดิกับสามผู้อาวุโสทำท่าทีสีหน้าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก จากนั้นเบรอสก็หันไปบอกว่าคาลหนึ่งในสามผู้อาวุโสเป็นคนสั่งหารแม่ของเธอ
"คาล ชายที่มีอายุวัยกลางคนคนนั้น เป็นคนที่ฆ่าแม่เธอส่วนคนที่เหลือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดว่างแผนการนี้ เจ้าจะเขายังไงกับมัน
“ฉันจะจัดการมันเอง” ลิเลียบอกและเบรอสก็สั่งให้ฮาโรวปลดล็อกประตูเพื่อที่จะเข้าห้อง เมื่อเปิดห้องเสร็จแล้วลิเลียก็ค่อยๆเดินไปใกล้คาลอย่างช้าก่อนที่เธอจะ… ใช้เวทย์น้ำแข็งสร้างน้ำแข็งขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนที่ปล่ายแหลมของน้ำแข็งจะไปแทงยังขาและแขนจนคาลกรีดร้องดังลั่นด้วยความทรมาร ลิเลียก็ถามคาลขึ้นมาว่า
“แกฆ่าแม่ของฉันทำไม!!” ลิเลียถามอออกมาด้วยอารมณ์ที่โกรธเป็นอย่างมาก น้ำแข็งที่แทงขาและแขนของคาลก็เริ่มลุกลามขึ้นเรื่อยๆมันค่อยๆแช่แข็งทุกอย่างภายในร่างกายของคาล คาลที่โดนลิเลียทรมารเขาก็กรีดร้องด้วยความทรมารอีกครั้ง
“ข้าขอโทษ! ข้าขอโทษ!”คาลพูดประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆ ลิเลียก็ค่อยทำลายแขนขาของมันไปที่ละข้างทำให้คาลกรีดร้องขึ้นมาเรื่อยเมื่อเห็นว่าอวัยวะของตนกับลังถูตัดอยู่จากนั้นลิเลียก็สลายเวทย์น้ำแข็งไปทำให้คาลที่ถูกตัดแขนอยู่ได้รับความเจ็บปวดยิ่งขึ้นไปอีก
“อ๊า~เป็นการทรมารที่รุนแรงดีจังนะเจ้าคะ” ฮาโรวที่เห็นการทรมารของลิเลียก็รู้สึกชื่นชอบขึ้นมา เธอมองไปยังลิเลียด้วยความเร้าร้อนและฮอบหายใจอย่างรุนแรง เบรอสที่เห็นดังนั้นก็พูดขึ้นมา
“อย่าแม้แต่จะคิดฮาโรว เธอไม่ทำให้เจ้าหรอก” เบรอสพูดเสียงเย็นทำให้ฮาโรวที่ได้ยินอยู่ถึงกับเสี่ยวสันหลังวาบ
“อะ-เออ… ข้าแค่ชื่นชอบวิธีการทรมารของเธอแค่นั้นเองเจ้าคะ” ฮาโรวพยายามพูดแก่ตัว
“จริงงั้นหรือ” เบรอสถามย้ำอีกครั้ง
“จะ-เจ้าคะ” ฮาโรวตอบ และต่อมาลิเลียที่ดูเหมือนจะทนดูภาพที่เห็นไม่ไหวแล้วจึงได้่สังหารมันทิ้งในทันที ‘เฮ้อ… วิญาณหลอมรวมกันนี่ลำบากจริงๆ’ลิเลียบ่นในใจ เพราะถ้าเป็นกาเบียลในขณะที่ยังไม่หลอมรวมวิญาณเธอจะไม่ยอมปล่อยให้มันตายง่ายๆแบบนี้แน่ แต่เพราะมีวิญาณของลิเลียที่ยังคงอ่ออนต่อโลกอยู่ทำให้เมื่อหลอมรวมกันแล้วยังคงพอมีความนึกคิดของลิเลียในตอนนี้อยู่บ้าง แต่สุดท้ายยังไงเมื่อหลอมรวมวิญญาณกันแล้วก็ยังคงเป็นลิเลียอยู่ดี
“เออ… ท่านจักรพรรดิคือว่า…” ฮาโรงดูเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ไม่กล้าพูดทำให้เบรอสต้องถามกลับไป
“มีอะไรงั้นหรือ พูดมาสิ” ฮาโรวที่ราวกับรวบรวมความกล้าได้แล้วเธอจึงพูดขึ้นมาว่า
“เอลลิสบอกดิฉันว่าเธอสนใจหนึ่งในคนที่ถูกทรมารในที่นี้ เธอจึงฝากให้ดิฉันมาขอเจ้าคะ” ฮาโรวพูด
“ใครงั้นหรือ?” เบรอสถามเพราะถ้าเป็นจักรพรรดิเทอเรียหรือคาลเขาคงจะมอบให้ไม่ได้
“หญิงสาวที่ชื่อว่าสเตร่าเจ้าคะ” ฮาโรวพูด
“ได้สิ” เบรอสตอบเพราะยังไงก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับเขาอยู่แล้ว
“ยังขาดไปหนึ่งคนสินะ” เบรอสพูดเพราะจากที่เข้าสังเกตดูแล้วยังมีบางคนที่หายไปนั้นก็คือ… ตระกูลคาเวล
.
.
หลายวันผ่านไปหลังจากที่ผู้คนในพระราชวังหายตัวไปอย่างปริศนาในตอนนี้พวกเขาได้พบแล้ว แต่อยู่ในสภาพที่เป็นศพกันทุกคนยกเว้นเหล่าเชื้อพระวงค์ของจักรพรรดิที่เหลือรอดแต่ก็กลายเป็นบ้าเพราะถูกทรมารอย่างหนัก ข่าวนี้ได้แผ่สะพัดไปยังอณาจักรต่างๆทำให้อณาจักรที่เหลือได้หาข้อมูลว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ และคนที่ดูจะกังวลมากที่สุดคงไม่พ้นหัวหน้าสาขาย่อยของวิหารศักดิ์สิทธิและวิหารศักดิ์สิทธิ
“ไปตามสืบมาว่าใครเป็นคนทำแล้วมาร้ายงานให้ข้า ไป!!!” หญิงสาวผู้นำของวิหารศักดิ์สิทธิสาขาย่อยพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสียและโกรธแค้น
“สักวันข้าจะเอามันมาทรมาณให้ได้”
ความคิดเห็น