ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อจักรพรรดิปีศาจต้องกลายเป็นผู้พิทักษ์(ดอง)

    ลำดับตอนที่ #14 : สูญเสียสิ่งสำคัญ

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 63


    วิหารศักดิ์สิทธิ์หรือแหล่งที่รวมเหล่าคนที่คลั่งไคล้ในพระเจ้า จนคิดว่าตนนั้นคือพระเจ้าเสียเองเหล่าคนพวกนี้มักจะมองคนที่ไม่นับถือในพระเจ้าว่าเป็นพวกคนชั้นต่ำต่อให้คนๆนั้นจะเป็นถึงกษัตริย์ก็ตาม เพราะส่วนหนึ่งคือวิหารศักดิ์สิทธิมีเหล่าคนที่แข็งแกร่งอยู่มากมายและอีกอย่างคือมีตำนานเล่าขานว่าผ่านในที่วิหารศักดิ์สิทธิตั้งอยู่ได้มีเผ่าเทพหลับใหลอยู่ที่นั้นและค่อยปกป้องวิหารศักดิ์สิทธิตลอดมา จึงทำให้หลายอาณาจักรไม่กล้าที่จะแข็งข้อกับวิหารศักดิ์สิทธิและ ณ ตอนนี้วิหารศักดิ์สิทธิน่าจะมีอำนาจเกือบมากที่สุดก็ว่าได้เป็นรองเพียงแค่ อาณาจักร ดราโกเท่านั้น

     

    .

    .

     

    เมื่อสี่วันก่อนที่เบรอสกับลิเลียจะไปซื้อบานหลังใหม่ ณ พระราชวังขององค์จักรพรรดิเทอเรีย เหล่าข้ารับใช่ในพระราชวังต่างวิ่งกันวุ้นวายราวกับจะมีงานใหญ่บางอย่างเกิดขึ้น ในขณะนั้นเองก็ได้มีรถม้าขบวนใหญ่พร้อมด้วยเหล่าคนที่ได้สวมเกราะคล้ายทหารได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าพระราชวังของจักรพรรดิเทอเรีย และได้มีคนเดินลงมาจากรถมาสามคนเหล่าทหารของอาณาจักรต่างก้มหัวลงด้วยความหวาดกลัวต้องบุคคลทั้งสามที่ลงมาจากรถม้า

     

    “เฮอะ! มีแต่พวกอ่อนแอทั้งนั้น สมแล้วที่เป็นอาณาจักรที่อ่อนแอที่สุด”ชายวัยกลางคนหนึ่งในสามคนที่เพิ่งลงมาจากรถม้าพูดขึ้นมา

     

    “เอาน่าๆ อย่าพูดอย่างนั้นเลยเดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่เอา”ชายวัยชราหนึ่งในสามคนพูดปรามชายวัยกลางคน

     

    “ฮึ! แล้วมันจะทำอะไรได้”ชายวัยกลางคนพูดอย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งสองคนที่ลงมาด้วยต่างสายหัวให้กับการกระทำของชายวัยกลางคน

     

    “เชิญพวกท่านตามกระผมมา กระผมจะเป็นคนนำทางไปหาองค์จักรพรรดิเองขอรับ”ทหารที่เคยได้เดินนำเบรอสคนนั้นได้มาต้อนรับทั้งสามคน

     

    จากนั้นทั้งสามคนพร้อมทั้งทหารผู้นำทางก็ได้เดินไปยังห้องโถงที่เบรอสเคยไปเมื่อตอนได้มาเข้าเฝ้าจักรพรรดิเทอเรียเมื่อเดินมาถึงทหารคนนั้นก็ได้เปิดประตูและพายมือเชิญทั้งสมคนเข้าไปยังภายในห้องโถงอย่างสุภาพ

     

    “ยินดีต้อนรับ พวกท่านทั้งสาม ผู้อาวุโสแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์สาขาย่อย”องค์จักรพรรดิเมื่อเห็นว่าทั้งสามได้เดินเข้ามาแล้วจึงเอ่ยต้อนรับด้วยความสุภาพ

     

    "อืม ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเจอผู้ใช่มังกรงั้นเหรอ"ชายชราถาม ชายชราคนนี้มีชื่อว่า แกรน เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของวิหารศักดิ์สิทธิ์สาขาย่อย

     

    “ใช่แล้วท่านแกรน ข้าเจอผู้ใช้มังกร”จักรพรรดิเทอเรียตอบ

     

    “คิดยังไงกับเรื่องนี้ สเตร่า”แกรนหันไปถามหญิงสาวที่ชื่อสเตร่า ซึ่งเธอก็เป็นหนึ่งใน3ผู้อาวุโสวิหารศักดิ์สิทธิ์สาขาย่อยเช่นกัน

     

    “ฉันมีความคิดว่า เราควรจะเชิญตัวคนๆนั้นมาเข้าร่วมกับเราดีกว่านะ”สเตร่าเสนอความคิด แต่จักรพรรดิเทอเรียก็พูดขัดความคิดของสเตร่าไว้

     

    “ข้าเคยเชิญแล้ว แต่เข้าก็ไม่ตอบรับคำเชิญของข้าเลยแม่แต่น้อย”จักรพรรดิเทอเรียพูด แกรนที่ได้ยินก็ทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่สักพัก

     

    “งั้นในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม้ได้ ก็ต้องใช่กำลังอย่างเดียวแล้วสินะ”แกรนพูดขึ้นมา

     

    “แล้วเราจะใช่วิธีไหนกันล่ะ เขาเป็นถึงผู้ใช่มังกรเลยนะ แค่พวกเราคงไม่ไหวหรอก”จักรพรรดิเทอเรียถาม

     

    “ฮึ! ก็ใช่คนที่สำคัญกับมันไงล่ะ ข้ารู้ว่าเจ้าสืบประวัติของเขามาแล้วใช่ไหม?”แกรนตอบและหันไปถามจักรพรรดิเทอเรียต่อ จักรพรรดิเทอเรียที่ได้ฟังคำถามของแกรนก็ทำสีหน้าลำบากขึ้นมา

     

    “อะ-เออ… ข้าหามาได้ไม่มากเท่าไหร่ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีประวัติอะไรของเธออยู่เลย ราวกับว่าจู่ๆก็โผล่มา”จักรพรรดิเทอเรียตอบ

     

    “แล้วข้อมูลที่เจ้าหามาได้ มีอะไรบ้างละ”แกรนถาม

     

    “เขานั้นอาศัยอยู่กับแม่ที่เมืองโกล์เด้น เท่านี้แหละที่ข้ารู้”จักรพรรดิตอบไปตามข้อมูลที่หามาได้

     

    “อืมแค่นั้นก็มากเกินพอแล้วล่ะ”แกรนพูด

     

    “แล้วจะเริ่มทำตามแผนกันตอนไหนล่ะ”สเตร่าถามแกรน แกรนก็ตอบสเตร่าไปว่า

     

    “ตอนนี้เลย”และในขณะนั้นเองจักรพรรดิเทอเรียก็ได้ถามออกมาด้วยความงุนงง

     

    “ฮะ! แล้วแผนการล่ะ” แกรนที่ได้ยินก็ตอบไปว่า

     

    “ก็บุกไปตรงๆแล้ว จับตัวประกันมา จากนั้นก็ข่มขู่มันแค่นั้น มันก็ไม่กล้าปฏิเสธเราแล้วล่ะ”แกรนพูดออกมาอย่างไม่หวาดกลัวต่อผู้อัญเชิญมังกรเลยแม้แต่น้อย ด้วยที่ว่าเขาเคยได้ต่อสู้กับมังกรจนเกือบจะชนะมันได้แล้วทำให้แกรนรู้พลังของมังกรดี ดังนั้นถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอย่างเช่นต้องปะทะกับมังกรจริงๆเขาก็พอจะรับมือและยื้อเวลาเอาไว้ได้พอสมควร แต่ใครจะไปรู้ว่าเบรอสไม่ใช่มังกรธรรมดา

     

    “แล้วถ้า ผิดพลาดขึ้นมาล่ะ?”จักรพรรดิถาม เพราะถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมาล่ะก็ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะไม่รอดกันแน่นอน

     

    “ไม่มีผิดพลาดหรอกเชื่อข้า ตอนนี้ข้าใหญ่สุดในที่นี้ ถ้าใครไม่ฟังคำสั่งของข้า เดี๋ยวข้าจะทำให้มันรู้เองว่าความตายจะเป็นยังไง”แกรนพูดข่มขู่ทำให้คนในบริเวณนั้นรวมถึงจักรพรรดิเทอเรียก็ไม่กล้าที่จะขัดแกรนอีกต่อไป ส่วนผู้อาวุโสอีกสองคนนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะแกรนก็เป็นผู้นำหรือหัวหน้าของพวกเขาอยู่แล้ว

     

    .

    .

     

    “เป็นไงบ้างมันอยู่หรือไม่”แกรนถามหน่วยสอดแนมที่ได้มอบหน้าที่ให้ไปตรวจสอบว่าเบรอสกับลิเลียอยู่บ้านหรือไม่

     

    “ไม่ขอรับ ในนั้นที่ข้าดูแล้วน่าจะมีเพียงแค่คนๆเดียว”หน่วยสอดแนมคนนั้นตอบ

     

    “ดีงั้นตอนนี้แหละได้เวลาแล้ว เจ้าและสเตร่าไปจัดการจับตัวมา”แกรนได้สั่งให้คาลหรือหนึ่งในสามผู้อาวุโสที่เป็นชายวัยกลางคนที่มีกล้ามเนื้ออยู่มากมาย และเสตร่าให้ไปจับตัวประกันมา ที่เขาไม่ได้สั่งให้ลูกน้องที่มีระดับต่ำกว่าสองคนนี้ไปเพราะว่าถ้าเกิดเบรอสกับลิเลียกลับมาอย่างน้อยก็สามรถใช่คนพวกนั้นยื้อเวลาได้อยู่และโอกาสสำเร็จที่จะได้ตัวประกันมาก็จะมากขึ้น

     

    “งั้นเริ่มแผลการได้ ใครขว้างฆ่าให้หมด”แกรนพูดที่พูดเช่นนี้ก็เพราะว่าบ้านที่ลิเลียอยู่เป็นหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งที่ยังพอมีsommonerอยู่กันมากพอสมควรเกรงว่าอาจจะมีพวกของลิเลียกับเบรอสเห็นแล้วเข้ามาช่วยหรือนำไปบอกลิเลียกับเบรอส ดังนั้นวิธีการที่ง่ายที่สุดในการทำให้เรื่องมันเงียบคือฆ่าซะ จากนั้นพวกคนที่เหลือก็กระจายไปตามที่ต่างๆเพื่อที่จะสังเกตการณ์ว่าเบรอสกับลิเลียกลับมาหรือยัง ส่วนสเตร่ากับคาลก็ได้มุ่งหน้าไปยังบ้านของลิเลียในทันที

     

    ตอนนี้สเตร่ากับคาลได้มาถึงยังหน้าบ้านของลิเลียเรียบร้อยแล้ว

     

    “มีทางไหนที่เข้าได้บ้าง”สเตร่าพูดขึ้นมาแต่ในขณะนั้นเองคาลก็ได้พังประตูเข้าไปแล้วเรียบร้อย

     

    “เจ้าบ้า น้ายทำอะไรน่ะ?”สเตร่าพูดขึ้นมาด้วยความโมโหเล็กน้อย ที่คาลทำอะไรโดยไม่ถามเธอเลย

     

    “ก็พังประตูไง”คาลตอบ

     

    “แล้วถ้ามันไม่ได้เหลือคนที่เราต้องการเพียงคนเดียวล่ะเจ้าจะทำยังไง แล้วถ้า…”ยังไม่ทันทีสเตร่าจะได้บ่นจบคาลก็ได้พูดขัดขึ้นมา

     

    “ช่างมันเถอะน่า”คาลว่าแล้วก็เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว

     

    “เจ้ามัน! เฮ้อ…”สเตร่าถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจจากนั้นก็ก็เดินตามคาลไป

     

    อาเรียที่ได้ยินเสียบ้างอย่างระเบิดก็เกิดความสงสัยขึ้นมาในหัว

     

    “เกิดอะไรขึ้น?”อาเรียพูด  และในจังหวะนั้นจู่ๆประตูห้องของเธอก็ถูกพังจากบางอย่าง

     

    “ใครน่ะ!?"อาเรียได้ตะโกนถามออกไป คาลได้เดินเข้ามาจะจับตัวอาเรีย อาเรียที่เห็นว่ามีคนแปลกหน้าเดินเข้ามาหาเธอและจะจับตัวเธอ อาเรียจึงได้กระโดหลบออกมาอย่างรวดเร็ว

     

    “โฮ่! คิดว่าจะเป็นคนป่วยติดเตียงเสียอีก”คาลพูดขึ้นมาด้วยความสงสัย

     

    “แล้วเจ้าเป็นใคร?”อาเรียเห็นว่าชายคนนั้นไม่ยอมตอบเธอจึงถามกลับไปอีกครั้ง

     

    “ฮึ! ข้าไม่จำเป็นต้องตอบเจ้า”และคาลจะไปจับตัวของลิเลียอีกครั้ง แต่อาเรียก็มักจะหลบได้ตลอดทำให้เขาอดทนไม่ไหวเขาจึงได้ใช่พลังเล็กน้อยในการจับตัวของอาเรีย

     

    อาเรียที่เห็นว่าคาลไม่ได้มาดีเธอจึงได้ใช่เวทมนตร์โจมตีใส่คาลทันที ทำให้คาลที่โดนเวทย์ของอาเรียอึ่งไปเล็กน้อย

     

    “เจ้าเป็นนักเวทย์ด้วยงั้นหรอ!?”คาลถามออกมาด้วยความสนใจและตื่นเต้น เพราะคนที่เป็นนักเวทย์ในโลกนี้มีไม่มากนัก การฝึกใช่พลังเวทย์นั้นยากมากเรียกได้ว่าต้องมีพรสวรรค์เท่านั้นถึงจะมีเวทมนตร์ได้

     

    “ใช่แล้ว! เจ้าต้องการอะไร?”อาเรียถามกลับไปยังคาล

     

    “หึๆ น่าสนุกดีนิ”คาลเลือกที่จะไม่ตอบอาเรียและพุ่งเข้าหาอาเรียในทันที และเปลี่ยนจาการจับตัวมาเป็นการโจมตีแทนอาเรียที่ได้เห็นว่าคาลเริ่มเอาจริงแล้วเธอจึงได้เริ่มเอาจริงบ้าง อาเรียได้ซัดเวทมนตร์น้ำแข็งอย่างเดียวกับลิเลียออกไปโจมตีคาลทันทีแต่อนุภาคที่ใช่นั้นมากกว่านั้นก็คือ หอกน้ำแข็งนั้นเอง คาลที่พุ่งเขามาโดยไม่คิดจะหลบแม้แต่น้อยเพราะเขาคิดว่าเวทย์มนต์แค่นั้นไม่สามรถทำอะไรเขาได้และเขาได้รับการโจมตีนั้นไปเต็มๆก็ถึงกับถ่อยหลังไปหลายก้าวพร้อมกับกระอักเลือดออกมา

     

    “อึก! เจ้า!!”คาลดูเหมือนจะโกรธเป็นอย่างมากจนตอนนี้เรียกได้ว่าสิติของเขาได้หลุดไปแล้ว

     

    “แฮ่ก! แฮ่ก!”อาเรียหายใจถี่เพราะว่าร่างกายของเธออ่อนแอเพราะคำสาปอยู่แล้ว ทำให้การใช้เวทย์ของเธอยิ่งทำให้อาการแย่ลงไปอีก

     

    “คาร์ก ออกมาจัดการมันซะ”คาลอัญเชิญผู้พิทักษ์ของเขาออกมาจัดการอาเรีย โดยที่ลืมไปว่าเป้าหมายของตนคืออะไร และคาร์กก็ได้โผล่ออกมามันเป็นหมีสีดำที่มีรอยสักโบราณอยู่ตามร่างกาย ได้พุ่งเข้าไปจัดการอาเรีย อาเรียที่ตอนนี้เธอไม่สามรถขยับไปไหนไม่ได้ ก็ได้ถูกหมีตัวนั้นใช้เท้าของมันตะปบไปยังอาเรียทำให้อาเรียมีบาดแผลที่ลึกเป็นอย่างมากและเหลือดไหลออกมาไม่หยุดแน่นอนว่าเธอไมรอดแน่ ในตอนสุดท้ายก่อนที่เธอจะสิ้นลมหายใจเธอได้พูดบางอย่างขึ้นมา

     

    “ละ-ลิ..ลิเลีย..มะ-แม่รักลูกนะ…”แล้วเธอก็ได้สิ้นลมหายใจ สเตร่าที่ได้ยินเสียงต่อสู้ก็ละจากการเดินสำหรวจบ้านและได้พุ่งตรงไปยังที่ๆได้ยินในทันที สิ่งที่เธอเห็นนั้นมันทำให้เธอโมโหเป็นอย่างมาก

     

    “นี่นายทำอะไรลงไป!!” คาลที่ดูจะได้สติแล้วก็ดูเหมือนจะตกใจในสิ่งที่ตัวเองทำ

     

    “ขะ-ข้า…”คาลดูเหมือนตอนนี้สติของเขาจะไม่อยู่กับตัวอีกแล้วไม่ใช่เพราะความโกรธแต่เป็นเพราะความหวาดกลัว

     

    “รีบหนี เราต้องรีบหนีเดี๋ยวนี้!!”สเตร่าที่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้เธอก็ได้บอกคาลและได้ลากตัวเขาออกจากบ้านของลิเลียอย่างรวดเร็ว เมื่อกลับมาถึงยังที่แกรนอยู่สเตร่าก็รีบพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

     

    “เราต้องรีบหนีเดี๋ยวนี้!!”หลังจากที่สเตร่าพูด ดูเหมือนว่าแกรนจะงงๆกับเรื่องที่จู่ๆสเตร่าบอกให้หนีอยู่จึงจะเอ่ยถามออกไปแต่ทว่าถูกสเตร่าพูดตัดขึ้นมาเสียก่อน

     

    “แผนของเราผิดพลาดตัวประกันตาย ตอนนี้เรารีบหนีกันก่อนดีกว่าและค่อยคิดแผนตั้งรับ”สเตร่าพูดขึ้นทำให้แกรนที่งงๆอยู่ก็พอเข้าใจขึ้นมา จึงได้สั่งให้ทุกคนถอนกำลัง

     

    “ถอนกำลังด่วน แผนการล้มเหลว”แกรนพูดผ่านทางแผนสื่อสาร

     

    ตัดมาทางด้านลิเลียที่ในตอนนี้เธอได้ซื้อของที่ต้องการเสร็จแล้วจู่ๆน้ำตาเธอก็ไหลลงมาเอง เบรอสที่เห็นดังนั้นจึงได้ถามออกไป

     

    “เจ้าเป็นอะไร?”ลิเลียราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงของเบรอส จึงไม่ได้ตอบเบรอสไป แต่ในขณะนั้นเองจู่ๆเธอก็พูดคำๆหนึ่งออกมา

     

    “ท่านแม่”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×