ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อจักรพรรดิปีศาจต้องกลายเป็นผู้พิทักษ์(ดอง)

    ลำดับตอนที่ #1 : อัญเชิญ

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 63


    ณ โลกใบหนึ่งในจักวาลอันกว้างใหญ่อันมีชื่อว่า เลเซีย เป็นโลกที่เหล่าผู้คนส่วนใหญ่ใช้ผู้พิทักษ์ในการต่อสู้หรือเรียกพวกเขาอีกชื่อหนึ่งก็คือ sommoner 

     

    ลิเลีย เด็กสาวอายุ15ปีเธอทั้งอ่อนแอและใสซื่อและเธอนั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะสามารถอัญเชิญผู้พิทักษ์และกลายเป็น sommoner ได้ความฝันของเธอคือกลายเป็นsommoner ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งนั้นเพราะว่าแม่ของเธอนั้นป่วยหนักมากและอาการเริ่มแย่ลงทุกวัน ยิ่งอาการหนักมากขึ้นเท่าไรค่าใช้จ่ายยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงอยากที่จะกลายมาเป็นsommonerเพราะเมื่อได้เป็นsommonerแล้วการหาเงินก็ไม่ใช้ปัญหาอีกต่อไปแถมอาจจะได้ส่วนลดพิเศษเฉพาะsommonerเมื่อซื้อของอีกด้วยอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่เธอนั้นอ่อนแอ

     

    sommoner(ซัมมอนเนอร์)หรือผู้อัญเชิญ การที่จะกลายเป็นsommonerได้นั้นต้องสามรถอัญเชิญอสูรได้มากกว่าหรือเท่ากับหนึ่งตัวขึ้นไปจึงจะกลายเป็นsommonerได้ แต่มีโอกาสน้อยมากที่เหล่าผู้คนจะอัญเชิญผู้พิทักษ์ได้ เพราะระหว่างที่อัญเชิญเหล่าว่าที่sommonerทั้งหลายต้องเข้าไปในมิตินั้นๆของเหล่าผู้พิทักษ์ที่ถูกคัดสันมาเหมาะสมกับความสามรถของคนนั้นๆ เมื่อทำให้ผู้พิทักษ์ยอมรับได้หรือสามรถต่อสู้กับผู้พิทักษ์ชนะได้ 

     

    เมื่อนั้นก็จะกลายเป็นsommonerทันที แต่ถ้าผ่ายแพ้หรือล้มเหลวก็จะสูญเสียการเป็นsommonerในทันที และเมื่อเกินอายุ15ปีไปแล้วการอัญเชิญผู้พิทักษ์นั้นจะเป็นไปได้ยากมากกว่าตอนอายุ15หลายเท่า มีบางทีคนที่ทำการทดสอบหลังจากอายุ15ปีเสียชีวิตจากการทดสอบก็มี ทำให้คนที่อายุมากกว่า15ปีหลายคนไม่กล้าที่จะเสียงตายและกลายเป็นคนธรรมดาไม่ก็พ่อค้ากัน นั้นจึงทำให้เหล่าsommonerมีน้อยมาก

     

    เบรอส พระเอกของเราหรือจักรพรรดิปีศาจผู้ที่ครอบครองโลกมาแล้วมากมายหลายใบจนเริ่มเบื่อหน่าย แต่แล้วจู่ๆก็มีเด็กสาวคนหนึ่งมาปรากฏตัวขึ้นมาและขอให้เขาเป็นผู้พิทักษ์ เบรอสเห็นว่าหน้าสนใจจึงตอบตกลงเด็กสาวคนนั้นไป

     

    .

    .

    .

     

     

    ณ เมืองขนาดกลางแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า โกเด้น ในอณาจักร เทอเรีย ได้มีการจัดพิธีกรรมที่เรียกว่า การบรรลุ หรือการทดสอบการเป็นsommonerนั้นเอง โดยคนส่วนมากที่มาเข้าพิธีนี้จะมีแต่คนที่อายุ15ปีบริบูรณ์ เพราะพวกเขาจะมีโอกาสมากที่สุดในการอัญเชิญผู้พิทักษ์ ณ ที่แห่งนี้มีทั้งเหล่าคนชั้นสูงที่ต้องการส่งลูกของตนเองมาอัญเชิญผู้พิทักษ์และเหล่าผู้คนชั้นสูงที่หาเด็กสามัญชนที่ดูมีพรสวรรค์เข้าตระกูลตน กับเหล่าสามัญชนที่มาส่งลูกๆของตนเองหรือไม่ก็มาดูเพื่อความบันเทิง

     

    วิธีการอันเชิญนั้นง่ายแสนง่ายนั้นก็คือการที่เพียงแค่ต้องหยดเลือดของตนลงไปยังแท่นพิธีที่มีสัญลักษณ์แปลกๆที่เป็นดาวห้าแฉกอยู่ จากนั้นประตูมิติก็จะปรากฏออกมา แต่ส่วนที่ยากที่สุดของการอัญเชิญนี้คือ การได้รับการยอมรับจากผู้พิทักษ์ที่อยู่ภายในมิติ เพราะการที่จะได้รับการยอมรับได้นั้นอาจจะได้รับการบาดเจ็บบ้างหนักสุดก็แค่สาหัส 

     

    ตัดมาทางด้านเด็กสาวคนหนึ่งเธอมีผมสีดำเงางามดวงตาสีดำ ใบหน้าของเธอดูเป็นคนที่ใสซื่อร่างกายของเธอดูจะผอมแห้งไปบ้างจากการที่ขาดสารอาหาร เธอมีนามว่า ลิเลีย ที่เธอมาในวันนี้ก็เพื่อความหวังของเธอที่จะทำให้แม่ของเธอรอด ก็คือการกลายเป็นsommonerนั่นเอง เธอนั้นเป็นเพียงสามัญชนที่บ้านแทบจะพังและขาดแคลนเงินเป็นอย่างมาก แม้จะทำงานอยู่ในร้านอาหารชื่อดังแต่ เงินที่ได้ก็แทบจะไม่พอรักษาแม่ของเธอแล้ว ดังนั้นความหวังเดียวของเธอก็คือการกลายมาเป็นsommoner 

     

    “คนต่อไป ลิเลีย ขึ้นมาเร็วๆอย่าชักช้า”ผู้ดำเนินพิธีเรียกลิเลียขึ้นไปที่แท่นพิธี ในระหว่างที่ลิเลียกำลังเดินขึ้นไปยังแท่นพิธีก็มีเสียงของใครบางคนพูดขึ้นมาว่า

     

    “ดูนั้นสิ ลิเลียหญิงสำส่อน คนนั้นน่ะ อ่อนแอขนาดนี้ยังจะขึ้นไปให้ขายหน้าอีก ไปขายบริการแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว”หญิงสาวคนหนึ่งพูด

     

    “ฮิๆ ใช่ๆ ขายบริการนั้นแหละเหมาะสำหรับยัยสำส่อนมากที่สุดแล้วฮ่าๆ”หญิงสาวอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกับคนที่กล่าวดูถูกลิเลียเป็นคนแรกพูด พร้อมกับหัวเราะออกมาและมีคำเยอะเย้ยต่างๆนาดังขึ้น ส่วนมากคนที่พูดจะเป็นเหล่าหญิงสาวชนชั้นสูงและหญิงสาวสามัญชนบ้างเป็นบางคน เพราะด้วยหน้าตาของลิเลียนั้นดีกว่าพวกเธอนั่นจึงทำให้เหล่าหญิงสาวในเมืองนี้ส่วนมากอิจฉาและคอยดูถูกและรังแกเธอมาตลอด 

     

    ลิเลียที่ได้ยินก็ทำได้เพียงกัดฟันอดทนต่อเสียงหัวเราะเยาะเย้ยและเดินไปยังแทนพิธีต่อ เมื่อเธอเดินมายังแท่นพิธีแล้วผู้นำพิธีจึงได้สั่งลิเลีย

     

    “นำมีดที่วางอยู่ตรงนั้น มากรีดตรงที่มือและหยดเลือดลงไปที่แท่นนั้นซะ”ผู้นำพิธีพูดสั่ง ลิเลียก็ยอมทำตามแต่โดยดี เธอนำมีดมากรีดตรงมือของตนเองจากนั้นก็หยดเลือดลงไปยังแท่นพิธี ผ่านไปนานหลายนาทีกลับไม่มีสิ่งใดปรากฏขึ้นเลย และนั้นทำให้คำพูดจาเยาะเย้ยดูถูกดังขึ้นมาอีกมาก

     

    “ฮ่าๆ ดูนั้นสิ บอกแล้วว่ายังไงขยะก็ยังคงเป็นขยะ”หญิงสาวคนหนึ่งพูดเสียงดังขึ้นมา

     

    “พวกเธอก็พูดเกินไปนะ”ชายคนหนึ่งพูดขึ้น

     

    “แล้วมันจริงไหมล่ะยะ!”หญิงสาวคนเดิมพูด

     

    “เออ…ก็จริงของเธอ”ชายคนเดิมเมื่อไม่รู้จะเถียงยังไงก็ได้แต่ยอมรับไปเพราะมันคือเรื่องจริง

     

    “ไม่นะ ขอร้องล่ะ อย่าทำแบบนี้สิ มันคือความหวังเดียวของฉันนะ ทำไมโลกมันช่างกลั่นแกล้งฉันขนาดนี้กัน”ลิเลียได้แต่พูดออกมาด้วยความผิดหวัง ผู้นำพิธีที่เห็นอย่างนันก็รู้สึกสงสารเล็กน้อยแต่ยังไงก็ไม่สามรถทำอะไรได้ 

     

    แต่ทว่าในขณะนั้นเองประตูมิติก็ได้ปรากฏออกมาสร้างความหวังให้กับลิเลียขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนคนที่หัวเราะเยาะลิเลียเมื่อกี้ก็เงียบไปแทนทีด้วยความตกตะลึงแทน ประตูที่ปรากฏมาต่อหน้าลิเลียนั้นเป็นสีดำทมิฬที่ดูราวกับว่าเป็นหลุมดำที่พร้อมจะดูดกลืนทุกสรรพสิ่งเข้าไปสร้างความหวาดกลัวต่อผู้ที่มองมันเป็นอย่างมาก

     

    ลิเลียที่เห็นอย่างนั้นจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เธอมีในการเข้าไปในประตูมิตินั้นซึ่งเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของเธอ เมื่อลิเลียรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เธอมีแล้วเธอจึงเดินเข้าไปยังมิติที่ปรากฏขึ้นมาทันทีท่ามกลางหลายสายตาที่มองมายังเธอด้วยความสนใจปนลุ้นละทึก

     

    เมื่อลิเลียเดินเข้ามายังประตูมิติแล้วเธอก็มาโผล่ตรงบริเวณที่เป็นห้องโถงที่กว้างใหญ่ประดับไปด้วยของล้ำค่าต่างๆมากมายและแรงกดดันประหลาดที่มีมากเสียจนลิเลียแทบจะก้าวขาไปไหนไม่ได้

     

    “เจ้าเป็นใครกันเหตุใดถึงมายังพระราชวังของข้าได้”จู่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาเสียงนั้นทั้งทรงพลังและน่าเกรงขาม

     

    “ฉะ-ฉันมีนามว่า ลิเลีย ปะ-เป็นว่าที่ผู้อัญเชิญคะ”ลิเลียรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีเพื่อที่จะพูดออกมา

     

    “ฮืม… ผู้อัญเชิญงั้นหรือ?”เสียงนั้นพูดออกมาคล้ายสงสัยกับคำว่าผู้อัญเชิญ

     

    “ผู้อัญเชิญก็คือ ผู้ที่มีผู้พิทักษ์จากต่างมิติค่อยช่วยเหลือทั้งในการต่อสู้และการใช้ชีวิต โดยการใช้วิธีอัญเชิญคะ”ลิเลียอธิบายให้เสียงปริศนาฟัง

     

    “โอ้! งั้นหรือ ฟังดูหน้าสนใจจริงๆ งั้นเจ้าก็มาที่นี่เพื่อให้ข้าเป็นผู้พิทักษ์ให้สินะ แล้วเจ้าไม่รู้หรือว่าที่นี่คือที่ไหน”เสียงปริศนาได้ถามลิเลียพร้อมกับแรงกดดันที่เพิ่ม

     

    “อะ! คือฉะ-ฉันได้เปิดประตูมิติที่แท่นอัญเชิญ แล้วจู่ๆก็มาโผล่ที่นี่คะ ฉันไม่รู้จริงๆว่าที่นี่คือที่ไหน”ลิเลียพูดออกมาด้วยความกลัวความกล้าที่เธอรวบรวมมาเริ่มที่จะหายไปเสียแล้ว

     

    “ฮืม..”เบรอสมองสำรวจลิเลียอย่างฃะเอียดว่ามีจุดประสงค์ใดแอบแฝงอยู่หรือไม่

     

    “อึก”ลิเลียทำได้เพียงแค่กลืนน้ำลายเท่านั้นเพราะเธอจะถอยไม่ได้แล้วถ้ายังไงเธอก็จะมุ่งหน้าต่อไปแม้ว่านั้นจะทำให้เธอตาย เพราะถ้าเธอกลับไปโดยที่ทำความหวังสุดท้ายของเธอไม่สำเร็จละก็ มันก็ไม่ต่างจากที่เธอต้องตายหรอกเพราะเธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

     

    “อืมๆ น่าสนใจๆ งั้นข้าจะยอมเป็นผู้พิทักษ์ของเจ้าก็ได้”เสียงปริศนาพูด

     

    “ขะ-ขอร้องละคะ ช่วยยอมเป็น- เอ๋!”ลิเลียที่กำลังจะเอ่ยขอร้องไห้เสียงปริศนาเป็นผู้พิทักษ์ของเธออยู่นั้น ต้องหยุดชะงักไปเพราะจู่ๆเสียงปริศนาก็ยอมกลายมาเป็นผู้พิทักษ์ของเธออย่างง่ายดายโดยไม่เรียกร้องอะไร

     

    “วะ-ว่าไงนะคะ”ลิเลียถามย้ำอีกครั้งเพราะเผื่อเธอจะหูแววไป

     

    “ข้าบอกว่าข้าจะเป็นผู้พิทักษ์ให้เจ้าไง”เสียงปริศนาพูดออกมาคล้ายกับว่าจะเริ่มรำคาญ

     

    “ทำไมละ?”ลิเลียถามออกมาด้วยความสงสัย

     

    “ข้าแค่เบื่อ”เสียงปริศนาตอบกลับมา

     

    “แล้วทีนี้ต้องทำไงต่อ”เสียงปริศนาพูดขึ้น

     

    “แค่ดื่มเลือดของฉันที่อยู่ตรงฝ่ามือเองคะ จากนั้นก็เสร็จพิธีแล้ว”ลิเลียอธิบาย

     

    “งั้นหรือ”และแล้วที่มาของเสียงปริศนานั้นก็ก็เดินออกมาจากที่ไหนสักแห่ง สิ่งนั้นมีรูปร่างคล้ายมนุษย์เป็นอย่างมากมีผมสีดำและในตาที่คลายกับมีหมู่ดาวอยู่ภายในนั้นมากมายเรียกได้ว่าถ้าเป็นมนุษย์แบบจริงๆ อาจจะยากที่จะหาชายใดมาเทียบได้ในความหล่อเหล่าแตกต่างกับมนุษย์ตรงที่มีเขาขนาดใหญ่คล่ายเขากวางอยู่บนหัวและมีปีกคล้ายค้างค้าวขนาดใหญ่อยู่ข้างหลังหลายคู่

     

    “ยื่นมือมาสิ”ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าของลิเลียพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปขอมือลิเลีย ลิเลียที่กำลังตกตะลึงอยู่เมื่อได้ยินเสียงของชายคนนั้นก็ได้สติขึ้นมา

     

    “อะ! คะ"ลิเลียที่ได้สติจึงรีบยื่นมือให้ชายคนนั้นทันทีเพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจเสียก่อน เมื่อชายคนนั้นได้จับมือลิเลียแล้วเขาก็ไม่รอช้าเลียไปที่แผลที่มีเลือดไหลออกมาอยู่ของลิเลียทันที 

     

    “อะ!?”ลิเลียที่เห็นอย่างนั้นก็สะดุ้งตกใจและรีบดึงมือกลับทันที

     

    “ทำอะไรของเจ้ากัน ข้าก็ทำตามที่เจ้าบอกไง ดึงมือกลับทำไม”ชายคนนั้นถามออกมาด้วยท่าทางที่ดูหงุดหงิด

     

    “ขะ-ขอโทษคะ”ลิเลียรีบขอโทษทันทีเป็นเธอเองที่ผิดเพราะเธอเป็นคนบอกเขาแท้ๆว่าให้ดื่มเลือดเพื่อทำพันธสัญญาแต่เธอกลับดึงมือกลับเสียอย่างนั้น

     

    “แล้วทีนี้เราจะไปกันได้หรือยัง”ชายคนนั้นพูดขึ้นมา

     

    "คะ แต่ว่าก่อนอื่น ฉันของรู้ชื่อคุณหน่อยได้ไหมค่ะ"ลิเลียถามเพราะตั้งแต่มาที่นี่เธอก็ยังไม่ได้ถามเขาสักทีมีแต่เขาที่ถามเธอ

     

    “ฮืม… ชื่อข้างั้นหรอ? อืม… เรียกข้าว่าเบรอสละกัน”เบรอสบอกชื่อให้แกลิเลีย

     

    “คะ ท่านเบรอส”ลิเลียพูดจากนั้นทั้งสองก็เดินไปยังประตูมิติในทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×