คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter II : Why me ?
Chapter II : Why me ?
“กริ๊ง!!!!!! ปับ!”
“ฮ้าว~ แกรก แกรก”
เสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้าของวันใหม่ ชายในชุดนอนสีฟ้ากางเกงเทา บิดขี้เกียจอย่างช้าๆ
อ้ำลุกจากเตียง อาบน้ำแปรงฟัน เปลี่ยนชุด อย่างใจเย็น เขาไม่ต้องรีบจากเสียงของพ่อแม่ที่จะเรียกให้รีบไปโรงเรียน เพราะเขาก็อยู่ตัวคนเดียวมาตลอดอยู่แล้ว เด็กชายอายุ15ปี ร่างสูง หยิบขนมปังไส้สังขยาที่ซื้อจากเซเว่นแล้วเดินไปโรงเรียน
เขาไม่ขึ้นรถเมล์ไปเรียนแม้ว่าเขาต้องใช้เวลา30นาทีในการเดินไปถึงโรงเรียน เพราะรถเมล์สายนั้นเป็นสายที่พวกนักเรียนเกเรที่ชอบแกล้งเขาขึ้นประจำ มีครั้งหนึ่งที่แกล้งผลักเขาตกจากรถโดยที่แขนของอ้ำเกือบโดนล้อหลังของรถทับ คนบนรถเมล์ก็ไม่ได้สนใจแม้แต่ทีท่าที่จะช่วยเค้ารวมถึงคนขับที่คิดแต่จะรีบไปรับผู้โดยสารหาเงินให้ได้เยอะ
ณ ห้องเรียน
“เฮ้ย ไอ้เด็กกำพร้านั่นมาแล้วว่ะ”ต้น หัวโจกประจำโรงเรียนพูดกับเพื่อนๆในกลุ่ม
“งั้นไปเล่นมันเลยมะ”เก่งถาม
“เอาเดะ”ต้นนำทีมไปหาอ้ำที่กำลังจะนั่ง
“เฮ้ย ว่าไงวะ ไอ้เด็กกำพร้า”ต้นทัก อ้ำไม่ตอบเพราะรู้ว่ายังไงกลุ่มหัวโจกนี้ก็จะต้องมารังแกตามเคย
“วันนี้ไม่ค่อยมีตังค์เลยว่ะ”เก่งพูดข้างหู“ขอตังค์หน่อยเด๊ะ”
“ไม่มี”อ้ำรู้ว่าพวกนี้จะต้องมาเอาเงินไปจึงไม่พกมา เพราะเงินที่ได้จากน้าจะต้องใช้อย่างประหยัดที่สุด ไม่ใช่ด้วยความตระหนี่ของเขาเอง แต่เป็นความตระหนี่ของน้าอ้ำที่ให้เงินไว้ใช้เดือนละ100บาท เขาพยายามจะหางานพิเศษทำแต่ก็โดนปฏิเสธมาตลอด บ้างว่าอายุไม่ถึง บ้างว่าเป็นแค่เด็กเรียนหนังสือไม่ต้องมาทำงาน พูดเรื่องพ่อแม่และน้าให้ฟังก็ไม่มีใครเชื่อ เพราะหน้าฉากนั้น น้าจัน น้าของอ้ำอยู่ในสังคมไฮโซคุยเรื่องบริจาคซึ่งไม่เคยมีจริง ช่วยเหลือผู้ยากไร้ซึ่งไม่เคยจ่ายซักแดง รวมถึงพูดบ่นเรื่องอ้ำว่าหมดทางเยียวยาบ้าง เกเรบ้าง ทำให้เขาลำบากใจบ้างถึงขนาดที่เพื่อนของน้าสนับสนุนให้ส่งเข้าโรงเรียนดัดสันดาน แต่ก็ไม่ส่งไปเพราะแสร้งว่า เขาทำไม่ลง
“นี่แกไม่มีเงินเลยงั้นเหรอวะ”ต้นกระชากคอเสื้ออ้ำ
“กูไม่เชื่อว่ะ”เก่งหยิบกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋ากางเกงของอ้ำขึ้นมาดู“เอ่อ
จริงของเอ็ง”
“งั้น
”ต้นส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมแก๊ง“มาดูซิว่า ถ้าไม่มีเงินให้เราแล้วจะเป็นยังไง”
ต้นและเพื่อนในแก๊งจับอ้ำกระชากเสื้อผ้าออกพยายามจะแก้ผ้าอ้ำ
“ยะ
หยุดนะ!!”อ้ำพยายามดิ้นหนีแต่แรงของนักเรียนแสบทั้ง5คนแรงเกินกว่าที่แรงเดียวของเขาจะต้านทานได้ แต่แล้วคุณครูประจำชั้นก็เข้ามา
“นี่พวกเธอทำอะไรกัน”ครูมิ้นต์เข้ามาห้ามพวกนักเรียนไว้
“นี่มันห้องเรียนนะ เลิกเล่นอะไรไร้สาระได้แล้ว”
“หึ ฝากไว้ก่อนเถอะ ถุย!”ต้นหัวเราะพลางถุยน้ำลายใส่ผู้แพ้อย่างอ้ำ ถ้าไม่ได้ครูมิ้นต์ไว้ก็คงแย่ไปแล้ว ครูมิ้นต์เป็นครูเพียงคนเดียวที่เขาชื่นชมนับถือเพราะหลายๆครั้งที่พวกเด็กแสบแกล้ง ครูมิ้นต์ก็จะคอยห้ามปรามเสมอ รวมถึงขอให้คนทั้งห้องเห็นใจเด็กกำพร้าอย่างอ้ำและอย่ารังแก ขนาดที่ว่าเวลาอ้ำมีปัญหาจากน้าหรือคนรอบข้าง ครูมิ้นต์ก็คอยปลอบใจและให้กำลังใจเสมอ แต่อย่างไรก็ตาม มนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์ ก็มีกลุ่มที่ยากที่จะดัดสันดานได้อยู่ดีและยังคงรังแกอ้ำหรือด่าทออ้ำอย่างเคย เช่นกลุ่มของต้น เขารู้ว่าเพื่อนในห้องไม่ใช่ไม่อยากช่วยอ้ำ แต่ไม่กล้าหือกับต้นซะมากกว่า อ้ำคิดอยู่เสมอว่า ที่พวกนี้ไม่ช่วยเขาเพราะ พวกเขาอ่อนแอ
“เอาล่ะ จบชั่วโมงเรียนเพียงเท่านี้”ครูมิ้นต์เก็บของแล้วออกจากห้องไป
“อ้ำว่างมั้ย”ชาติ นักเรียนชายคนหนึ่งถามขึ้น
“อะ
เอ่อ
ว่าง”อ้ำงงกับคำถามที่ชาติถาม เพราะแต่เดิมแค่ได้เห็นหน้า อ้ำก็มีความสุขอยู่แล้ว ใช่ ชาติเป็นคนรักคนแรกของอ้ำ
“เลิกเรียนเจอกันที่โรงยิมหน่อยสิ”
“อะ
อื้ม”อ้ำพยักหน้า ไม่แปลกใจที่ชาติให้ไปรอที่โรงยิมเพราะชาติเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลอยู่แล้ว ตอนเย็นจึงมีซ้อมที่โรงยิม แต่ทว่า วันนี้ไม่มีซ้อมบาสนี่นา อ้ำคิด ชาติต้องมีเหตุผลบางอย่างจึงเรียกเขาไปที่นั่นเป็นแน่ อย่างไรก็ตาม อ้ำแอบดีใจและเหมือนคิดไปเองว่าชาติให้ความสำคัญกับเขา เขาอาจชอบอ้ำก็เป็นได้
ณ โรงยิม
“อ้าว อ้ำ มาเร็วจังนะ”ชาติทักอ้ำที่มารอก่อนแล้ว อันที่จริงอ้ำมารอก่อนตั้งแต่10นาทีก่อนแล้ว
“แล้วมีอะไรจะพูดหรอ”อ้ำตัดบททันทีก่อนที่เขาจะเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่
“คือว่า
”ว่าแล้วชาติก็เข้าไปสวมกอดอ้ำ
“เฮ้ย แก
”อ้ำพยายามดิ้นและผละมือชาติออกแต่ชาติกอดแน่น
“เราชอบนายนะ” คำพูดนี้ทำให้อ้ำหยุดทันที
“นะ
นายเป็น
”อ้ำได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ แต่แล้วชาติลากอ้ำมาที่ห้องน้ำของโรงยิมทันที และก็บรรเลงจูบอ้ำอย่างไม่ทันให้อ้ำตั้งตัว
“อะ
อื้อ”เสียงอื้ออึงในลำคอของอ้ำบ่งบอกว่าอ้ำรู้สึกดีแค่ไหน
“ชั้นรู้ตั้งแต่ที่นายมองชั้นแล้วล่ะ”ชาติพูดขึ้น“ว่านายชอบชั้นมาก”
“อะ
อืม”อ้ำพยักหน้าที่แดงก่ำ
“ถ้างั้นนายก็ต้องชอบนี่น่ะสิ”แล้วชาติก็ไซ้คออ้ำจนอ้ำร้องครางออกมา แต่แล้ว
แชะ!!!
แสงแฟลชกระทบหน้าของอ้ำ
“ฮ่าฮ่าฮ่า วี้วดวิ้ว นี่นอกจากกำพร้าแล้ว แกยังเป็นเกย์อีกหรอเนี่ย”ต้นที่ถือกล้องถ่ายรูปอยู่หัวเราะสะใจกับการรังแก
“นี่นาย
”อ้ำกำลังจะหนีแต่ว่า ชาติจับมืออ้ำแล้วล็อกกุญแจมือกับชักโครก
“อะไรกัน”ชาติแสยะยิ้ม “ยังไม่เสร็จเลยนะ”
“นี่ หรือว่า
”อ้ำกำลังจะพูดแต่ถูกชาติปิดปากซะก่อน
“ชั้นแค่อยากรู้ว่าแกชอบชั้นจริงรึเปล่า แต่ก็นะ คนอย่างชั้นมันไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกันเหมือนอย่างแกซะหน่อย” ชาติพูดพลางหัวเราะสะใจที่ตนหลอกอ้ำสำเร็จ จากชายที่ตนรักมากที่สุดคนนึงตอนนี้เป็นดั่งปีศาจที่จะทรมานจิตใจอ้ำอย่างไม่มีวันสิ้นสุด อ้ำรู้สึกกลัว แต่แล้วความกลัวกลับเป็นความโกรธ และกลายเป็นความแค้น อ้ำพยายามกระชากล็อกให้หลุด
“นี่มันสำหรับตำรวจใช้น่ะ ไม่หลุดง่ายๆหรอก”แล้วชาติก็จัดการถอดเสื้อผ้าของอ้ำออก
“อะ
อย่า”อ้ำพูดเช่นนี้แม้ว่าจะโดนอีกมือของชาติปิดปากไว้อยู่
“ถ่ายให้ดีล่ะ ต้น”ชาติหลังจากถอดเสื้อผ้าอ้ำออกแล้ว ก็เอาเสื้อของอ้ำมัดปากอ้ำไว้ไม่ให้ร้อง แล้วจึงจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออกเพื่อกันไม่ให้หลังเสร็จกิจจะเปรอะเปื้อน
ท่ามกลางความสนุกสนานของต้นที่ถ่ายวีดิโอไว้ และชาติที่สนุกกับการย่ำยีหัวใจของชายที่รักเขา กลับเป็นนรกที่เหมือนยาวนานสำหรับอ้ำ
ระหว่างเดินทางจะกลับบ้าน อ้ำได้แต่คิดตลอดทาง ทำไมต้องเป็นเขา ทำไมเขาต้องโชคร้ายถึงขนาดนี้ ทำไมต้องมีชีวิตท่ามกลางสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ด้วย
อ้ำกลับมาที่ซอยแถวๆบ้าน บ้านที่ดูหรูหราใหญ่โต แต่ว่าจริงๆแล้ว ไม่ใช่บ้านแสนสุขเลยซักนิดเดียวสำหรับเขา อ้ำคิดได้ว่าวันนี้เป็นวันสิ้นเดือน นั่นคือ อ้ำต้องไปขอเงิน100บาทจากน้าจันเพื่อใช้ในเดือนถัดไป เขาจึงเดินไปหาน้าจันที่อยู่ระแวกนั้น
“ชั้นไม่มีให้แกหรอก”น้าพูดอย่างหน้าตาเฉย
ปกติน้าจันก็จะให้อย่างไม่เต็มใจอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้กลับไม่ให้ แล้วเขาจะมีอะไรกิน
“แต่ผมต้องใช้เงิน”
“ก็ไปหาเองซี่ ทำไมไม่รู้จักทำงานซะบ้าง จะกินบ้านกินเมืองหรือไง”
“ผมไปขอสมัครงานแล้วครับ แต่เขาไม่รับ”
“นั่นสินะ คนอย่างแก เขารับก็แปลกแล้วล่ะ ไร้พ่อแม่สั่งสอนเลี้ยงดู ขอชาวบ้านกิน”
อ้ำเก็บความรู้สึกเอาไว้ข้างใน เย็นไว้เย็นไว้
“งั้นแกก็ไปขอเงินจากพ่อแม่แกซี่ อ๊ะลืมไป แกไม่มีพ่อมีแม่นี่นา แต่ก็นะ เด็กอย่างแกอยู่ไปก็รกโลกเค้าเปล่าๆ”
เย็นไว้
“ก็แค่อดตายจะไปคิดอะไรมาก คนอย่างแกแค่นี้มันก็บุญพอสำหรับแกแล้ว”
“มีอีกเรื่องนึงที่พ่อแม่ฝากมาครับ”
“หือ”น้าจันหยุดทันที
“พ่อแม่ผมดูเหมือนจะฝากพินัยกรรมเรื่องทรัพย์สมบัติให้น้าด้วยครับ”
ได้ยินว่าพินัยกรรม สิ่งที่น้าจันคิดมีเพียงอย่างเดียวก็คือ เงิน เงินเท่านั้นที่ชั้นอยากได้ น้าจันคิด
“แล้วทำไมแกไม่ใช้เงินนั่นเลี้ยงตัวเองล่ะ”น้าจันถามเพื่อความชัวร์กลัวว่าอ้ำจะอำเล่น
“ในพินัยกรรมระบุชัดว่า ต้องให้น้าเท่านั้นครับ เพียงแค่น้าเซ็น ทุกอย่างก็เป็นของน้า”อ้ำพูดอย่างสงบ
“นี่แกคิดว่าชั้นจะเอาเงินนี้มาช่วยแกน่ะสิ”น้าจันยังคงไม่เชื่อ
“นั่นขึ้นอยู่กับความเมตตาของน้าจันเองครับ”อ้ำพูดพลางที่น้าจันยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ราวกับว่ายังไงชั้นก็ไม่มีวันให้แกหรอก เจ้าเด็กโง่
“งั้นเอามาให้ชั้น”
“มันอยู่ที่ห้องใต้ดินของบ้านผมครับ”อ้ำพูด“น้าต้องไปด้วยตนเอง”
“อืม”น้าจันคิดไตร่ตรองซักพัก แต่เพราะเรื่องทรัพย์สินมหาศาลของพ่อแม่อ้ำ“ตกลง”
“งั้นไปกันเลยครับ”อ้ำพาน้าจันมาที่บ้านของตน
น้าจันผู้โลภไปตามที่หลานชายตนได้บอกไว้ ทั้งสองลงมาที่ชั้นใต้ดินของบ้าน มันเป็นห้องที่มืดจนแทบมองไม่เห็น
“น้าต้องเซ็นตรงนี้และนี่ครับ”อ้ำยื่นกระดาษ2แผ่นมาวางไว้ที่โต๊ะที่ฝุ่นเกาะเต็มไปหมด พร้อมยื่นปากกาให้น้าจัน น้าจันรีบเซ็นโดยทันที
“ขอบใจ ไอ้หนู”น้าจันรับพินัยกรรมเก็บกระเป๋ากางเกงตน“แต่อย่าคิดว่าชั้นจะ
.”
ปึ้ก!!!!!
ขณะที่น้าจันละสายตาจากอ้ำ อ้ำหยิบค้อนแล้วฟาดไปที่ศีรษะของน้าจันเต็มๆ น้าจันพยายามจะควบคุมสติและร้องขอความช่วยเหลือ แต่อ้ำก็ฟาดเข้าที่ท้ายทอยอีกครั้งหนึ่ง สติของน้าจันก็ค่อยๆเลือนรางลง
เลือนราง
..
2วันต่อมา
“ว่าไง ไอ้เด็กกำพร้า”ต้นและเพื่อนในแก๊งเข้ามาเหมือนเคย
“หรือควรจะเรียกว่า ไอ้เกย์ดี ฮ่าฮ่าฮ่า”เพื่อนๆในแก๊งหัวเราะชอบใจ
“เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องวันนี้”อ้ำพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแล้วหันมามองที่ต้นด้วยสายตาที่ไม่ใช่ความหวาดกลัว แต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่าอ้ำคิดอะไรอยู่
“เย็นนี้ไปบ้านชั้น แล้วมาต่อรองกัน”อ้ำยื่นที่อยู่ให้ต้น
“พาเพื่อนแกมาด้วยก็ได้”แล้วอ้ำก็ออกจากห้องเรียนไป
“อะไรของมันวะ”ต้นทำหน้าสงสัย
“สงสัยมันติดใจไอ้ชาติมั้ง เลยอยากได้เมิง ฮ่าฮ่า”เก่งล้อต้นจนต้นตบหัวไปทีนึง
“หึ อย่างมันจะทำไรกรูได้ ไปด้วยกันหมดนี่ล่ะ เย็นนี้”ต้นบอกเพื่อนร่วมแก๊งอีก4คน
“อืม แต่ว่าไป ไอ้ชาติก็ไม่ได้มาเรียนตั้งแต่เมื่อวานนา มันโดดหรอวะ”เพื่อนอีกคนถาม
“ไม่รู้สิ”ต้นตอบ
ตัดฉากมาที่อ้ำกำลังเดินที่ระเบียงไปที่ห้องพักครู เคาะประตูก่อนที่จะเข้าไปหาครูมิ้นต์
“ครูครับ วันนี้น้าจันติดธุระเกี่ยวกับเรื่องพ่อแม่ผม และผมต้องไปด้วย จึงจะขอใบลาน่ะครับ”อ้ำยื่นกระดาษที่มีลายเซ็นของน้าจันอยู่ให้ครูมิ้นต์ ครูมิ้นต์ไม่ได้สงสัยอะไรเพราะว่าเขาเข้าใจเรื่องของอ้ำดี รวมทั้งเรื่องพ่อแม่ของเขาด้วยแม้เขาจะไม่รู้ถึงความชั่วช้าของน้าจันก็ตามเถอะ
“ได้จ้ะ”ครูมิ้นต์หยิบใบลาที่ลิ้นชักโต๊ะครูแล้วเซ็นให้“เผื่อถ้ายามขอดูใบนะ”
“ขอบคุณมากครับ”อ้ำยิ้มให้ครูก่อนที่จะเดินออกไป ครูมิ้นต์รู้สึกโล่งใจที่อ้ำยังยิ้มได้แม้ต้องเจออุปสรรคต่างๆมากมาย แต่หารู้ไม่ว่าครูมิ้นต์ได้ทำผิดพลาดครั้งใหญ่แล้ว
เย็นวันนั้น ต้นและเพื่อนร่วมแก๊งไปยังบ้านของอ้ำ
“มากันแล้วเรอะ”อ้ำออกมาทักที่หน้าประตู
“มีไรก็ว่ามา”ต้นเข้ามาในบ้าน แถมยังไม่ถอดรองเท้าทำให้บ้านเลอะฝุ่นเป็นรอยเท้าตามทาง
“มานั่งต่อรองกันก่อน”อ้ำพาไปที่โต๊ะกินข้าวโต๊ะใหญ่
“เอาน้ำไรมั้ย”อ้ำถาม
“มีน้ำแดงมั้ย??”เก่งถามอย่างไม่เกรงใจ
“มี”อ้ำหยิบมาพร้อมแก้วอีก6ใบ
“มานั่งใจเย็นๆแล้วต่อรองกัน”อ้ำเทน้ำแดงใส่แก้วแต่ละแก้วแล้วส่งให้แต่ละคน
ทุกคนดื่มจนหมดยกเว้นต้นที่ยังลังเลที่อ้ำทำอย่างนี้ เขาสงสัยว่าอ้ำจะแก้แค้นอะไรหรือไม่ แต่เมื่ออ้ำก็ดื่มเหมือนกัน ถ้าจะเกิดก็คงเกิดหมดทุกคน คงไม่มีใครเอาตัวเองมาเสี่ยงขนาดนั้น ต้นจึงดื่มตาม
“ทีนี้”อ้ำถอนหายใจ“ชั้นอยากให้พวกนายเลิกรังแกชั้นซะที จะได้มั้ย”อ้ำพูดอย่างจริงจัง
“ถ้าจะให้ทำอย่างนั้น”ต้นตอบทันที“นายต้องเป็นข้ารับใช้พวกเรา”
“ใช่ๆ”เก่งเสริม“และต้องส่งเงินมาให้พวกเราทุกๆวันด้วย”
“ก็ได้”อ้ำตอบทันที ทั้ง5คนถึงกับอึ้งในคำตอบของอ้ำ ไม่นึกว่าจะตกลงได้ง่ายอย่างนี้ แต่ก็แอบสะใจและขำในความโง่ของอ้ำ ไอ้บ้าเอ๊ย ต่อให้แกเป็นข้ารับใช้หรือให้เงิน ชั้นก็ยังจะแกล้งแกอยู่วันยันค่ำ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะนายมันอ่อนแอน่ะสิ อ่อนซะจนต้องแกล้งให้สะใจกันไปข้างนึงเลย
“ตกลงกันง่ายดีนี่”ต้นพูดขึ้นพร้อมขำในความโง่ของอ้ำ
“งั้นก็เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เตรียมใจให้ดีล่ะ ไอ้เด็กกำพร้า
..”ต้นรู้สึกเวียนหัว ตาเริ่มพร่า ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น เพื่อนอีก4คนก็มีอาการเช่นเดียวกัน ต้นล้มตึงกับพื้น ขณะที่สติเลือนรางลง
“ออกฤทธิ์ตามที่คิดจริงๆแหละ”
แล้วทุกอย่างก็มืดลง
..
“อะ..อือ”ต้นลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงของโลหะกระทบกัน ขณะที่พยายามรวบรวมสติให้อยู่ เขาจึงได้รู้ว่า เขาเปลือยอยู่และถูกตรึงกับเตียงไม้ที่มีโซ่ล่ามแขนขาไว้แน่น เขาพยายามหันซ้ายขวาว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ก็เจอแต่เพื่อนอีก4คนที่อยู่ในสภาพเดียวกัน และอีกคน คนที่เขารู้จักดี“ชะ
ชาติ”ต้นพูดออกมาอย่างไม่เชื่อตาตัวเอง เพราะทั้งตัวของชาติ มีรอยกรีดเต็มไปหมด เหมือนถูกใครเฉือนเนื้อไปอย่างนั้น
“ตื่นแล้วเหรอ”อ้ำเข้ามาหาต้นด้วยรอยยิ้ม แต่ไม่ใช่รอยยิ้มของคนที่มีความสุข แต่เป็นรอยยิ้มของปีศาจที่ตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
“กะ
แกทำอะไร”ต้นพยายามพูด
“ตลอด15ปีที่ผ่านมา”อ้ำเริ่มพูด
“ชั้นได้แต่ทุกข์อยู่กับความโชคร้ายของตนเอง ทำไมต้องเป็นชั้น ทำไมชั้นต้องกำพร้า มีน้าที่ชั่วช้า ต้องถูกรังแกต่างๆมากมาย และไม่มีใครที่จะสนใจใยดีชั้น”อ้ำหยุดพูดซักพักเพราะคำพูดเหล่านั้นเกือบทำให้เขาต้องร้องไห้กับความน่าเวทนาของตนเอง
“แต่แล้ว”อ้ำหันมามองต้นด้วยสายตาเยือกเย็น
“ชั้นก็รู้ว่า ชั้นเกิดมาเพื่อที่จะตัดสินชะตากรรม”อ้ำมองต้นเยือกเย็นกว่าเดิมถึงกับทำให้ต้นขยาดโดยไม่รู้ตัว“ตัดสินพวกมนุษย์ชั่วช้าอย่างพวกนาย”
“มนุษย์น่ะ มีความต้องการหลายๆอย่าง แต่มีอย่างนึงที่เหมือนกัน”อ้ำพูดไปเดินราวกับกำลังแสดงละครเวที“ต้องการอยู่เหนือผู้อื่น”
“เพราะอะไรน่ะเหรอ หึหึ”
“เพราะพวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่อ่อนแอ อ่อนแอซะอย่างกับหมาน้อยไร้เขี้ยว”
“แต่ก็พยายามผยองให้เหมือนกับราชสีห์”
“เพื่อปิดบังความอ่อนแอของตน นั่นก็คือความกลัวไงล่ะ”
“ความกลัวว่าซักวันคนจะรู้ถึงความอ่อนแอของตน และก็จะมารังแก มาเอารัดเอาเปรียบ”
“จึงต้องแสดงตัวออกมาว่า ชั้นเก่งชั้นมีอำนาจ”
“ก็แค่ปกปิดความอ่อนแอ”อ้ำหันมามองต้นอีกที
“แล้วชั้นจะสอนพวกนาย”อ้ำหยิบมีดพกขึ้นมา
“ให้รู้ว่าความกลัวเป็นยังไง”ฉัวะ!!! อ๊ากก!!!!
อ้ำฟันมีดไปที่หน้าอกของต้น เลืดสีแดงกระฉูดไม่มาก แต่ไหลลงมาอาบทั่วกายท่อนล่าง
เสียงร้องของต้นทำให้คนอื่นตื่นขึ้นมา และเห็นสภาพของตน รวมถึงของต้น ความกลัวเริ่มซึมออกมาทั่วร่างทันที อ้ำก้มลงเลียเลือดตามรอยที่ตนฟันไปเมื่อกี๊
“รู้สึกมั้ย”อ้ำพูด“รู้สึกถึงความกลัวมั้ยล่ะ”
“แก!!!”ต้นพยายามดิ้นแต่โซ่นั้นแข็งซะจนไม่มีวันหลุดได้
“ดิ้นมากนะ”อ้ำผละออกจากต้นเพราะรู้ว่าถ้าเขาจะฆ่าตอนนี้ มันคงไม่สะใจพอสำหรับเขา
“มันช่างดีจริงๆแหละ”อ้ำยิ้มคนเดียว
“ทำไมนายไม่สลบไป!!”ต้นถามด้วยความสงสัย“นายก็กินน้ำเหมือนพวกเรานี่!!”
“ก็จริงๆอยู่ที่เรากินน้ำแบบเดียวกัน”อ้ำพูดและยิ้ม
“แต่ชั้นไม่ได้ดื่มที่เดียวกับที่พวกนายดื่มกันนี่นา”
“ชั้นทายานอนหลับแบบรุนแรงไว้ที่ขอบแก้วไว้ แต่มีอยู่แค่บริเวณที่ชั้นไม่ได้ทา”
“ชั้นเท่านั้นที่รู้ว่าตำแหน่งไหน แต่ยังไงก็เสี่ยงกับความโชคดีของพวกนาย”อ้ำขำ
“แต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างชั้นนะ”อ้ำยิ้ม
“นี่แหละคือชั้นล่ะ”อ้ำแสยะยิ้ม เป็นครั้งแรกที่เขาแสยะยิ้มน่ากลัวขนาดนี้ หากจะให้บรรยายคงเป็นเช่นเดียวกับการที่ปีศาจสนุกสนานกับการทรมานเหล่ามนุษย์ผู้ไม่มีทางจะสู้
“งั้นมาเริ่มการกันเลยแล้วกัน”อ้ำเดินมาที่เพื่อนร่วมแก๊ง
“พี”อ้ำยิ้ม แต่พีเองไม่ใช่อย่างนั้นเลย กลับกลัวจนขนลุกไปหมด
“นายอยู่ในแก๊งก็จริง แต่นายก็ไม่เคยแกล้งชั้นมากเหมือนคนอื่นๆ ดังนั้น”
ฉึก!!!! มีดทะลุอกพีไปถึงขั่วหัวใจ
“ชั้นให้แกตายเป็นคนแรกเลยละกัน”อ้ำถอนมีดออก เลือดไหลออกมาตามเป็นคลั่ก ร่างของพีชักกระตุกซักพักตามการทำงานของเส้นประสาทแล้วก็แน่นิ่งไป
“แก!!!!!”เก่งพยายามจะดิ้นให้หลุด
“อ๊ะ แกรอไปก่อนนะ”อ้ำยิ้มให้“นายอยู่3อันดับแรกน่ะ”แล้วอ้ำก็เดินไปที่เพื่อนอีกคนหนึ่งพูดพึมพำให้ฟัง แล้วก็ทำแบบเดียวกัน แล้วเดินไปหาอีกคนแต่คนนี้คงแกล้งอ้ำไว้เยอะเพราะอ้ำแทงยังจุดที่ไม่สำคัญหลายที่ อ้ำแทงไปประมาณ60แผล จึงหยุด แม้ว่านักเรียนคนนั้นจะยังไม่ตาย น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลออกมาอาบแก้ม ชะลงมาที่รอยแทงที่เกิด สิ่งที่ต้องการสำหรับเขาไม่ใช่การมีชีวิตรอด แต่เหมือนส่งสายตาขอร้องให้
ฆ่าเขาที ซึ่ง
“อยากให้ฆ่างั้นเหรอ”อ้ำยิ้มถาม เพื่อนคนนั้นพยักหน้า
“งั้น ชั้นจะสงเคราะห์ให้”ฉึก!!!! อ้ำแทงที่ขั้วหัวใจเพื่อดับชีวิตเพื่อนคนนั้นลง สีหน้าของเพื่อนกลับมีรอยยิ้มเล็กน้อยราวกับว่าดีใจที่อ้ำปล่อยตนไป ปล่อยให้เขาไม่ทรมานจากความเจ็บปวดต่อไป
“นี่แค่วอร์มอัพน่ะ”อ้ำยิ้มมาที่ต้น ทำให้รู้ได้ว่า อ้ำจะต้องฆ่าเขาเป็นคนสุดท้ายแน่
“เอาล่ะ คราวนี้ใครเป็นคนถัดไปดี”อ้ำหันมาที่เก่งและมองที่ชาติซึ่งสติเขาเองก็เริ่มเลือนรางจากเมื่อวานอยู่แล้ว
“เห็นทีนายก็เต็มที่แล้วนะ ชาติ”อ้ำเดินไปที่ชาติ
“งั้นเล่นกับนายก่อนก็ได้”อ้ำพูดจบก็เข้ามากอดไซ้คอชาติทันที
ชาติร้องครางออกมาไม่ใช่ความเสียวของการไซ้คอ แต่เป็นเพราะรอยแผลที่คอจากการฟาดแส้เมื่อวานของอ้ำ แล้วอ้ำก็เลื่อนมาที่ลำท่อนของชาติและเริ่มรูดขึ้นรูดลง
“อะ
อา”ชาติร้องครางออกมา
“นายชอบมั้ยล่ะ ชาติ”อ้ำไซ้คอชาติไม่หยุด พลางมือคอยสาวไปเรื่อยๆจน
“อะ
อ๊า!!”ชาติร้องออกมาพร้อมกับแรงกระตุกของลำท่อนตน แต่เพียงไม่นานนัก
ฉัวะ!!!! อ้ำถือมีดที่อยู่ในมือขวาอยู่แล้วให้มั่นแล้วก็จัดการเฉือนลำท่อนเนนื้อนั้นทันที เลือดพุ่งเป็นสายออกมาพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนของชาติ อ้ำฟังเสียงนั้นราวกับว่าเป็นเสียงบรรเลงเพลงที่เขาชื่นชอบ แล้วเขาก็จัดการเฉือนพวงข้างใต้อีกที เลือดยิ่งพุ่งออกมามากกว่าเดิม ชาติร้องออกมาสุดเสียงเคล้ากับน้ำตาแห่งความเจ็บปวดที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย ตาแทบจะถลนออกมา และในที่สุด เสียงก็เบาลงจนเงียบไป อ้ำตรวจดูชีพจรว่ายังเต้นหรือไม่
“ว้า แย่จัง”อ้ำทำหน้าเสียดาย“ดันตายซะก่อนละ”อ้ำจูบที่ปากของชาติเบาๆก่อนที่จะผละออกแล้วเฉือนเนื้อกระพุ้งแก้มออกมากินสดๆ เพราะอะดรีนาลีนหลั่งและเพิ่งตายไปทำให้เนื้อยังมีแรงกระตุกระริกๆ เมื่อเข้าปากจึงรู้สึกตุบๆเหมือนกุ้งเต้นปานนั้น เลือดชุ่มเต็มปากของอ้ำ แต่ดูเหมือนเลือดของชาติจะหวานราวกับน้ำแดงที่เขาเพิ่งกินไปเมื่อตอนเย็น
“เอาล่ะ ถึงตานายแล้ว เก่ง”อ้ำเดินมาทางเก่ง แต่คราวนี้เขาวางมีดลงที่โต๊ะที่ฝุ่นเกาะมาก
“ปล่อยชั้นไปเถอะ ปล่อยชั้นไป”เก่งพยายามดิ้นเพราะเขารู้ชะตากรรมของเขาดี
“อยากให้ปล่อยงั้นเหรอ”อ้ำมองที่ลูกตาที่มีแต่น้ำตาคลอเบ้าไปหมด เพราะความกลัว กลัวที่จะทรมาน แต่ก็กลัวที่จะตายด้วย
“ชะ..ใช่ ฮึก ปล่อยชั้นไปเถอะ”เก่งพูดปนร้องไห้
“ได้”อ้ำยิ้มให้ แล้วหันหลังไปหยิบด้ามไม้ขึ้นมา แต่มันไม่ใช่ด้ามไม้ล้วนๆ แต่มีหัวขวานอยู่ที่ปลายด้วย
“จะ..จะทำอะไร”
ฉัวะ!!!!เสียงของขวานเฉาะเข้าที่ขาขวา เลือดพุ่งออกมาราวกับท่อน้ำแตก เสียงร้องของเก่งโหยหวนราวกับลูกวัวที่กำลังถูกเชือด ไม่ทันที่เลือดจะหมดตัว อ้ำฟันที่ขาซ้าย แขนซ้าย และแขนขวาทันที ทำให้เลือดไหลออกมาเต็มไปหมด และลำตัวหล่นลงพื้น เก่งพยายามตะเกียกตะกายหนี เขารู้ว่าถ้าหากเขาไม่หนี อ้ำจะต้องทำให้เขาเจ็บปวดมากกว่านี้เป็นแน่
“แค่นี้คงไม่ตายหรอก”อ้ำเหยียบที่หลังของเก่งเพื่อไม่ให้เก่งหนี แล้วเอื้อมมือขวามาจิกผมเก่งให้เชิดคอขึ้นจากนั้น จึงใช้มีดคว้านลูกตาซ้ายของเก่งออกมา ลูกตากลิ้งกับพื้น เสียงของเก่งเบาลง ไม่ใช่เพราะสติเลอะเลือน แต่เพราะกล่องเสียงที่รับการเปล่งที่หลอดลมรับหน้าที่จนแหบไปหมด ภาพที่เห็นแม้แต่ต้นก็กลัวจนตัวสั่น ต่อจากนั้น อ้ำจับเก่งนอนหงาย อ้ำเบื่อที่จะเล่นกับเก่งแล้วจึงแทงที่อกของเก่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เลือดก็พุ่งออกมาตามแรงดึงของมีด เก่งดิ้นซักพักจึงแน่นิ่งไป อ้ำเลียเลือดที่หน้าอกของเก่งปานน้ำแดง ราวกับเลือดอุ่นๆแพร่ซาบซ่านไปทั่วร่างกายของอ้ำ อุ่นดั่งกองฟืน ซาบซ่านเหมือนโซดา หวานปานน้ำผึ้ง นี่คือรสชาติของเลือด อ้ำสายตาราวกับปีศาจที่ได้ลิ้มลองรสชาติของเลือดแล้วติดใจ เลือด!!!อยากได้เลือดอีก!!!! อ้ำหันมาทางต้น นี่แหละ ไคลแม็กซ์ของคืนนี้
“ตานายแล้วล่ะ ต้น”อ้ำยิ้มอย่างที่บอกไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับต้น
“ยะ
อย่า อ๊าก!!!”ต้นร้องทันทีที่อ้ำเอามีดมาแทงที่ขาซ้าย
“ชั้นจะไม่ควักลูกตานายหรอก จะได้เห็นสิ่งที่ชั้นทำไง”อ้ำแสยะ
คืนนั้นย้อมไปด้วยสีเลือด เสียงของเหล่าลูกแกะน้อยไม่มีวันเล็ดลอดไปจากโรงเชือดแห่งนี้
“อ๊ะ อ้ำ สวัสดีจ้ะ”ครูมิ้นต์ทักอ้ำที่บังเอิญผ่านมาที่ระเบียง
“อ่า สวัสดีครับ คุณครู”อ้ำตอบด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้ดูมีความสุขจังนะ”ครูมิ้นต์เริ่มคุย
“ครูครับ ผมตัดสินใจแล้ว”
“เอ๋”
“ผมจะเข้าแพทย์ให้ได้ครับ”
“ทำไมหรอจ๊ะ”
“ผมจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้รู้ว่า ผมไม่ใช่เด็กที่อ่อนแอ ต่อให้ผมกำพร้าหรือถูกรังแก ผมจะสู้ต่อไปครับ และจะช่วยเหลือผู้อื่นให้ถึงที่สุดครับ”
“ครูดีใจจริงที่เธอพูดเช่นนี้”ครูมิ้นต์ตบไหล่เบาๆ“ดีใจที่เธอจะช่วยเหลือคนอื่น”
“แล้วครูจะคอยฟังข่าวดีนะ”
“ครับ”
“เอ้า สายแล้ว ไปเข้าห้องเร็วสิ”
“ครับ”อ้ำไหว้ครูครั้งหนึ่งก่อนดินจากไป จากรอยยิ้มเปลี่ยนเป็นแสยะ
ช่วยเหลืองั้นเหรอ ใช่
อย่างที่ต้นได้เจอไง
ความคิดเห็น