ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Op.1 Sunshine Day
Op. 1 : Sunshine Day
ต่อ ต่อ ตื่นเร็วเข้า วันนี้ต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ สายแล้วนา
“อารายคับ พี่ตู่ ยังตี5อยู่เลย”
“ตี5กับผีน่ะสิ”พี่สาวของต่อเอาหมอนฟาดหน้าให้ตื่น“นี่มัน8โมงแล้ว ไม่รีบไปทำงานอีก”
“คร้าบ~ ฮ้าว~”
ต่อลุกขึ้นยืนพร้อมหาว1ที ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ แปรงฟันแล้วอาบน้ำอย่างงัวเงีย ต่อบีบสบู่เหลวแล้วถูกับคางและหนวดของเขาที่โกนหนวดที่ดูเก่ากว่า10ปีค่อยๆลากไปตามคางและหนวดที่เขาค้างไว้กว่า2วันของวันเสาร์และอาทิตย์ กวักน้ำเย็นขึ้นมาล้างหน้าให้พอรู้สึกสดชื่นต้อนรับวันใหม่ วันนี้หน้าเขายังคงหมองคล้ำพอพอกับสีผิวสันทัด คงเพราะเขามักจะว่ายน้ำเป็นประจำไม่กลัวแดดกลัวฝน ไม่สนใจที่จะดูแลตัวเองเท่าไหร่ นอกจากหนวดเคราซึ่งเคยทำให้หัวหน้าของเขาไม่ชอบหน้าตั้งแต่พบกันครั้งแรก
ผ่านไป10นาที ต่อออกมาพร้อมเสื้อเชิ้ตสีขาวลายแดงดิ่งลงมา กางเกงสีครีม เนคไทสีแดงเลือดหมู
“ผมไปแล้วนะ พี่ตู่”ต่อหยิบนมและขนมปังก้อนที่ซื้อจากเซเว่นจากในตู้เย็นก่อนจะสวมรองเท้าเพียงแค่เตะเท้าตัวเองเข้าไป
“เออ เดี๋ยวชั้นเก็บที่นอนให้เอง” พี่ตู่ ไม่ใช่พี่ชายของต่อ ไม่ใช่ญาติ แต่ว่าต่อต้องมาทำงานที่กรุงเทพ แต่การหาที่พักในกรุงเทพยากนัก โชคดีที่เพื่อนพอรู้จักคนที่อาศัยอยู่และยอมให้อยู่ด้วย เพียงถ้านายต่อยอมแชร์ค่าห้องและเงินเดือนส่วนหนึ่งเป็นค่าน้ำพักน้ำแรง ตู่ถอนหายใจที่ต้องมาเก็บห้องที่รกจากเอกสารของต่อทุกครั้ง
ตู่จัดเพียงที่นอนของต่อ แล้วก็กลับไปอ่านหนังสือพิมพ์ตามเดิม
กา~ กา~
เสียงอีกาสองตัวร้องหน้าหน้าต่างของห้องแถว
“แปลกจริง” ตู่คิดในใจ “อีกาไม่ได้มาแถวนี้นานมากแล้ว” แต่ตู่ก็ไม่ได้สนใจอะไร
..
“เฮ้อ ถึงซะที”ต่อมองจากชั้นล่างขึ้นไปถึงชั้นบน บริษัทที่เขาทำงานอยู่ หากเป็นคนอื่นคงคิดเอาว่าเป็นตึกให้บริษัทอื่นๆมาเช่าที่ทั่วๆไป ก็จริงอย่างที่เขาคิด ต่อเดินเข้าลิฟต์กดขึ้นไปชั้น8 เหมือนทุกวันที่เขาจะเจอคนที่ทำงานจากบริษัทต่างๆขึ้นลิฟต์กันแน่นเอี้ยดจนแทบไม่มีที่จะขยับตัว ถึงแม้ว่าลิฟต์จะกำหนดปริมาณคนที่จะเข้าไปอยู่ก็ตาม แต่ทุกคนต่างรู้ดีว่า คนงานสร้างให้ลิฟต์รับคนเกินได้แน่นอน พอถึงชั้นหนึ่ง ทุกคนก็ต้องออก ให้คนที่ทำงานชั้นนั้นออกมาก่อนแล้วจึงรีบอัดเข้าไปเหมือนเดิม กว่าต่อจะฝ่าสมรภูมินี้ได้ ก็ทำเอาเสื้อเปียกโชกเหมือนไปเข้าซาวน่าทั้งชุด
“งาย หวัดดีต่อ”นัท เพื่อนร่วมงานทีมเดียวกันทัก “ข้างงนอกฝนตกหรอ”
“ขำดีนี่ ”ต่อทักกลับ
“วันนี้เจ้านายเขาเรียกประชุมใหญ่ด้วย เห็นว่าจะรับคนเข้ามาเพิ่มนะ”
“หรอ แล้วพวกเราเกี่ยวไรด้วยล่ะ”
“ไม่รู้สิ ก็ลองไปดูก่อนละกัน 9โมงนะ”
“โอเค แล้วเจอกัน”
ต่อโบกมือลาขณะเดินสวนทางกัน ต่อเข้าไปนั่งที่บล็อกทำงานสี่เหลี่ยมของเขา วางแฟ้มงานเป็นตั้งกองอยู่บนงานที่ค้างคา เขาไม่เคยรู้สึกชอบกับกรอบสี่เหลี่ยมนี้เลย ต่อจึงดีใจถ้าต้องไปทำงานนอกสถานที่
กริ๊ง กริ๊ง ต่อยกหูโทรศัพท์
“สวัสดีครับ บริษัทนักสืบXครับ”
“สวัสดีครับ เอ่อ..ผม ตำรวจเอก จำได้มั้ยครับ”เสียงของตำรวจที่เขาคุ้นเคยดังผ่านทางสายโทรศัพท์
“อ้อ ครับ วันนี้มีคดีอะไรอีกล่ะ” ต่อนึกถึงคดีแปลกๆที่ตำรวจคนนี้มักจะมาขอคำปรึกษา แต่ละคดีก็ต่างกันไป
“คือ..เอ่อ..ฆาตกรรมน่ะครับ แต่ว่าผมคงต้องการคำชี้แนะจากคุณนักสืบซักหน่อย”
“ไว้เดี๋ยวผมจะไปทีหลังนะ ผมต้องประชุมงานวันนี้น่ะ” ต่อมองไปที่นาฬิกาข้อมือ เป็นเวลา8.50เดี๋ยวเขาก็ได้เวลาประชุมแล้ว
“ครับ ไม่รีบเท่าไหร่เพราะต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ถ่ายภาพและตรวจรอยเลือดต่างๆอีก ไว้มาคุยที่ร้านกาแฟใกล้ๆบริษัทก่อนก็ได้ครับ”
“เดี๋ยวสิ แล้วผมจะรู้ได้ไงว่ามันอยู่ตรงไหน ผมไปสถานที่เกิดเหตุเลยก็ได้”
“คุณนักสืบครับ คือ ตอนนี้ภรรยาและลูกของผู้ตายอยู่ในสภาพช็อกอยู่น่ะครับ และดูเหมือนไม่อยากให้ยุ่งกับผู้ตายเลย เอ่อ..หมายถึงเฉพาะภรรยานะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก คุณบอกสถานที่มา เดี๋ยวผมไปที่เกิดเหตุซัก..เอ่อ..”
“บ่ายโมงที่หมู่บ้านคีตานะครับ งานทุกอย่างคงเสร็จพอดี”
“ได้ครับ แล้วผมจะรีบไป ตอนนี้ขอตัวก่อนครับ”
“ครับ สวัสดีครับ” แกร็ก ต่อวางหูพร้อมกับถอนหายใจ งานนี้สงสัยทำเอาเหนื่อยไม่คุ้มค่าเงินเดือนอีกหรือเปล่าเนี่ย งานที่แล้วก็หยั่งกับปริศนาซ่อนเงื่อนบวกน้ำเน่าแถมมาเจอชาวบ้านกวนบาทาอีก ทำเอาขอพักงานไป3วันไปนอนให้หายไข้
“เฮ้ย ต่อ เขาจะประชุมแล้วนา”อ้อ ผู้หญิงไม่กี่คนที่ทำงานเป็นนักสืบเหมือนเขาเดินผ่านบล็อกเขาไป ต่อชายตามองตามเหมือนอยากให้รู้สึกสดชื่นขึ้นอีกซักนิดจะได้กระฉับกระเฉง ต่อยิ้มหัวเราะเบาๆในคอถึงความโง่เขลาของตัวเอง แต่ก็คงรู้ว่ารอยยิ้มนี้ปนกับความรู้สึกเสียดายด้วย
ต่อลุกขึ้นแล้วเดินไปเข้าห้องประชุมใหญ่ซึ่งบรรยากาศดูไม่ต่างกับที่เขาใช้สืบสวนผู้ต้องสงสัยเลย เข้ามาทีไรเป้นต้องเสียวสันหลังทุกที
“เอาล่ะ วันนี้เราจะมาทำงานตามนโยบายใหม่ของหัวหน้า”นักสืบจอมซึ่งเป็นตัวแทนของที่ประชุมกล่าวก่อน ดูนักสืบแต่ละคนแตกต่างกันไป บางคนก็ดูเคร่งขรึม บางคนก็ดูไม่ต่างกับฆาตกร
“เนื่องจากนักสืบอย่างพวกเรา จะวิเคราะห์หรือสืบสวนเพียงตัวคนเดียวคงจะไม่ละเอียดหรือแม่นยำพอ”
“ครั้นจะเอานักสืบมาสองคนก็กลัวจะไม่พอกับงานที่ได้รับมา”
ไม่พอกับงานหรอ ต่อคิดในใจ จะทะเลาะกันเองล่ะสิไม่ว่า เขานึกถึงเหตุการณ์ที่นักสืบเตยกับเถาเถียงกันว่าตกลงแล้วผู้ร้ายในคดีใช้อาวุธอะไรฆ่า ซึ่งต่อมารู้ทีหลังว่าสุดท้ายทั้งสองต่างก็เดาผิดกันทั้งคู่
“เอาล่ะ เราจะเชิญ วัตสันมาเลย” นักสืบกระดิกนิ้วให้เลขาเปิดประตูเชิญชายหญิงจำนวน8คนเข้ามา
“วัตสันคือผู้ช่วยนักสืบ”นักสืบจอมพูดพร้อมกระดิกนิ้วเรียกเลขาคนที่สองเอาเอกสารมาแจก“นี่คือเอกสารที่นักสืบจะบันทึกว่าจะเลือกใครเป็นวัตสันของเขาเอง”
“ผมให้เวลาหนึ่งวันที่พวกเขาจะอยู่กับพวกคุณในที่ทำงาน”นักสืบจอมลุกขึ้นมองไปยังนักสืบทุกคน
“แล้วจะให้พวกคุณเลือกในภายหลัง”แล้วนักสืบจอมก็ออกจากห้องไป
แต่งานประชุมก็ยังมีอยู่เป็นเรื่องสัพเพเหระจนถึงเที่ยง ผู้บริหารจึงออกจากที่ประชุม
ทำให้บรรยากาศโกลาหล เพราะต่างงงกับนโยบายใหม่ วัตสันต่างก็พยายามจะเข้าไปหานักสืบเพื่อทำความรู้จัก แต่นักสืบเองก็ยังกล้าๆกลัวๆทำอะไรไม่ค่อยถูก ก็เออออไปตามมารยาท มีเพียงวัตสันชายคนเดียวที่ออกจากห้องไป แต่ก็ไม่พ้นตานักสืบต่อไปได้ ต่อวิ่งตามวัตสันคนนั้นไป ต่อตบไหล่ที่วัตสันคนนั้นขณะที่เขากำลังหันหน้ามาพอดี เลยหลบมือของต่อไปหวุดหวิด ผมหยักศกลู่ไปตามแรงหลบของวัตสันคนนั้น ต่อเลยได้เห็นหน้าของวัตสันคนนั้นชัดๆ เขาดูยังหนุ่มมาก เหมือนเพิ่งเรียนปริญญาอยู่แล้วมาฝึกงานพิเศษอะไรอย่างนั้น ตาจ้องตา ต่อรู้สึกได้ว่าวัตสันคนนี้ดูล้ำลึกจนต่อมองไม่ออกว่าชายคนนี้คิดอะไรอยู่
“เดี๋ยวสิ”วัตสันคนนั้นทำหน้าสงสัย และยิ้มเล็กๆให้“คนอื่นยังอยู่ในนั้นอยู่เลย นายออกมาก่อนเลยหรอ”
“บรรยากาศมันอึดอัดนี่ครับ”วัตสันคนนั้นยิ้มให้ แต่ดูไม่ใช่การยิ้มแบบมิตรสหาย ดูเหมือนยิ้มเยาะกับสิ่งไร้สาระของพวกที่อยู่ข้างในห้องนั้น ต่อรู้และก็อดไม่ได้ที่จะพูด
“ถ้าเกิดคุณอึดอัด หรือคิดว่าไร้สาระ ผมไม่รู้นะ ก็ทนหน่อยแล้วทำตามเค้าก็ได้นี่นา”
“ไม่ล่ะ”วัตสันชายตอบพลางเดินไปกดน้ำเปล่า“แต่ก็ถูกของคุณที่รู้ว่าผมโกหก”วัตสันยิ้มแต่สีหน้าเหมือนแปลกใจว่านักสืบคนนี้รู้ทัน ทำเอาต่อไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่
“ช่างเถอะ แล้วแต่คุณเองละกัน ผมไปก่อนล่ะ”
“ไปไหนหรอครับ คุณนักสืบ”
“มีนัดกับตำรวจทำคดีน่ะ ต้องรีบไป กว่าจะไปถึงกินเวลาไปตั้งชั่วโมง”
“ตำรวจสาวหรอครับ ถึงได้รีบร้อนขนาดนั้น”วัตสันยิ้มเยาะ
“นัดกับตำรวจผู้ชายโว้ย และผมก็ไม่ใช่เกย์ด้วย ถ้าไม่มีอะไร ผมไปก่อนล่ะ” ต่อพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนจะออกไป แต่เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าวัตสันชายนั้นกำลังหัวเราะเขาอยู่ข้างหลัง
“ให้ตายสิ”ต่อพึมพำในใจ“วันนี้มันวันอะไรกันนักกันหนาเนี่ย”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น