ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พรหมลิขิต...เส้นทางรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : คู่หมั้น

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 49


    + + + + + Egg e egg egg + + + + + + เ
    สียงสุนัขหอน (ไก่ย่ะ) เฮ้ย ! ไก่ขัน

    ~ เช้าวันนี้อากาศแจ่มใจในวันอาทิตย์ที่แสนสุขของฉันเต็มไปด้วยเสียงสุนัข (เฮ้ย ! ไก่ๆ ) เอ้อ ไก่ที่เป็นเสียงปลุกช่วยแทนนาฬิกาตัวเก่าที่ถ่านหมดไป ~

    "รายงานข่าวด่วนค่ะ ดาราหนุ่มสุดฮอดในขณะนี้ที่ตกเป็นข่าว ได้ออกมาบอกกับผู้สื่อข่าวของเราว่าในวันนี้ช่วงตอนบ่ายจะมีการเปิดแถลงข่าวเกี่ยวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้สาวๆ หลายคนได้หายสงสัยในตัวเฟรช เราจะติดตามรายละเอียดมาให้ทราบในช่วงบ่ายค่ะ และขอเชิญทุกทานกลับสู้ทางสถานีตามปกติค่ะ" เสียงของผู้สื่อข่าวในโทรทัศน์

    "นี่นุ่นแม่รู้สึกว่าจะเป็นข่าวใหญ่เลยนะ ฝ่ายโน้นเขาคงจะวุ่นวายกันจะตาย แต่ทางฝ่ายเรายังสุขสบายอยู่เลยไม่รู้สึกจะเดือดร้อนเลยหรือไง" แม่ถามด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายเมื่อผู้สื่อข่าวกล่าวจบ

    "ช่างเขาซิแม่" ฉันตอบอย่างหน้าตาเฉย

    "แต่แม่ไม่ค่อยสบายใจเลยนะ"

    "แหม แม่ก็อย่าคิดมากซิค่ะ"

    "แต่แม่เป็นห่วงลูกนะ"

    "หนูโตแล้วนะค่ะ"

    "ใครว่าลูกโตแล้วล่ะ แฟนก็ยังไม่มีจะว่าตัวเองโตงั้นเหรอ" (จึก ! แทงใจดำ)

    "แม่อย่าพูดแทงใจหนูซิ"

    "ก็มันจริงนี่นา"

    "มันก็ใช่อยู่ล่ะ เฮ้ย ! "

    ก็จริงอย่าที่แม่บอกนั้นแหละ ฉันเป็นสวยน้อยน่ารักที่โชคร้ายที่สุดในโลกเลย ก็ตั้งแต่เกิดมานะไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนผ่านเข้าในชีวิตของฉันเลยซักที เฮ้ย ! คิดแล้วก็เศร้า

    "…นุ่น…" แม่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงความรู้สึกเป็นห่วงแล้วก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่น ฉันก็เลยเดินตามไปเพราะสงสัยกับน้ำเสียงที่แม่เรียกชื่อตัวเองแบบนั้น

    "มีอะไรหรือป่าวค่ะแม่" ฉันถามด้วยความสงสัย

    "มานั่งข้างๆ แม่ซิ"

    "ค่ะ" ฉันนั่งลงข้างๆ แม่ที่นั่งอยู่บนโซฟา ฉันโน้นตัวลงหนุนบนตักแม่เบาๆ ก่อนที่แม่จะใช้มือสัมผัสเส้นผมของฉันอย่างแผ่วเบา เช่นกัน

    "ถ้าแม่จะบอกว่า..แม่..ได้หาคู่หมั้นไว้ให้ลูกก่อนแล้วเนี่ย ลูกจะโกรธแม่ไหม"

    "ฮะ แม่ว่าอารายนะคะ" ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วเงยหน้ามองแม่อย่างอารมณ์ฉุนนิดๆๆ

    "เออ…แม่คิดว่าตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ลูกควรจะได้รับรู้เอาไว้ แม่ได้หมายหมั้นหนูไว้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้ว แม่รู้ว่าแม่อาจจะเอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อย แต่แม่ก็ต้องการให้ลูกได้มีคนที่ดีๆ ดูแลลูกในอนาคตก่อนที่แม่จะไม่มีวัน…"

    แม่พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าซะจนฉันคิดว่าในวันพรุ่งนี้แม่จะไม่อยู่ซะแล้ว

    "แม่หมายความว่ายังไงค่ะ แม่พูดอย่างกับว่าแม่จะ….."

    คำต่อไปฉันไม่กล้าที่จะพูดออกมาหรอว่า ตายน่ะ (แล้วจะบอกทำไมเล่า) เอ้อ…ลืมไป

    "อะ ป่าวจ๊ะแม่พูดว่าไงหรอ" ว้าย ! แม่ทำไมแม่น้ำตาไหลออกมายังงั้นล่ะ

    "แม่ แม่เป็นไร" ฉันพูดพร้อมกับกอดแม่แน่น

    "ป่าวนิ" แม่ปฏิเสธอย่างหน้าตาเฉย แต่ก็ยังแกล้งน้ำตาไหล

    "แต่แม่ยังน้ำตาไหลอยู่เลยนะ"

    "อะ ว้าย ! แม่ขอโทษจ๊ะ"
    แม่พูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาเบาๆ ที่ไหลอาบแก้ม

    "แม่ ถ้าหนูทำตามที่แม่บอก แม่จะต้องอยู่กับหนูไปนานๆ นะ"

    ฉันพูดแล้วน้ำตาก็ไหลออกเฉยๆ เลย

    "จ๊ะ แม่สัญญา ตกลงแล้วนะว่าลูกจะทำตามที่แม่บอก" (สรุปเองเลย)

    แม่ตอบตกลงพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ฉัน

    "แต่ว่าหนูขอเวลาทำความรู้จักกันก่อนได้ไหมค่ะ" ฉันต่อลอง

    "ได้ซิจ๊ะ แต่หนูต้องช่วยแม่นะ"

    แต่แม่ก็ยังไม่วายมาต่อลองฉันอีก และฉันก็รู้แล้วด้วยว่าแม่ฉันได้นิสัยนี้มาจากไหน เฮ้อ ! คิดแล้วก็กลุ้ม

    "ฮะ แม่ว่าอารายนะคะ" ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วเงยหน้ามองแม่อย่างอารมณ์ฉุนนิดๆๆ

    "เออ…แม่คิดว่าตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ลูกควรจะได้รับรู้เอาไว้ แม่ได้หมายหมั้นหนูไว้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้ว แม่รู้ว่าแม่อาจจะเอาแต่ใจตัวเองมากไปหน่อย แต่แม่ก็ต้องการให้ลูกได้มีคนที่ดีๆ ดูแลลูกในอนาคตก่อนที่แม่จะไม่มีวัน…"

    แม่พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าซะจนฉันคิดว่าในวันพรุ่งนี้แม่จะไม่อยู่ซะแล้ว

    "แม่หมายความว่ายังไงค่ะ แม่พูดอย่างกับว่าแม่จะ….."

    คำต่อไปฉันไม่กล้าที่จะพูดออกมาหรอว่า ตายน่ะ (แล้วจะบอกทำไมเล่า) เอ้อ…ลืมไป

    "อะ ป่าวจ๊ะแม่พูดว่าไงหรอ" ว้าย ! แม่ทำไมแม่น้ำตาไหลออกมายังงั้นล่ะ

    "แม่ แม่เป็นไร" ฉันพูดพร้อมกับกอดแม่แน่น

    "ป่าวนิ" แม่ปฏิเสธอย่างหน้าตาเฉย แต่ก็ยังแกล้งน้ำตาไหล

    "แต่แม่ยังน้ำตาไหลอยู่เลยนะ"

    "อะ ว้าย ! แม่ขอโทษจ๊ะ"
    แม่พูดพร้อมกับเช็ดน้ำตาเบาๆ ที่ไหลอาบแก้ม

    "แม่ ถ้าหนูทำตามที่แม่บอก แม่จะต้องอยู่กับหนูไปนานๆ นะ"

    ฉันพูดแล้วน้ำตาก็ไหลออกเฉยๆ เลย

    "จ๊ะ แม่สัญญา ตกลงแล้วนะว่าลูกจะทำตามที่แม่บอก" (สรุปเองเลย)

    แม่ตอบตกลงพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ฉัน

    "แต่ว่าหนูขอเวลาทำความรู้จักกันก่อนได้ไหมค่ะ" ฉันต่อลอง

    "ได้ซิจ๊ะ แต่หนูต้องช่วยแม่นะ"

    แต่แม่ก็ยังไม่วายมาต่อลองฉันอีก และฉันก็รู้แล้วด้วยว่าแม่ฉันได้นิสัยนี้มาจากไหน เฮ้อ ! คิดแล้วก็กลุ้ม

    "ถ้าช่วยได้ก็จะช่วยค่ะ" ฉันตอบแม่อย่างหน้าตาเฉย

    "โธ่เอ้ย ! ลูกพูดแบบนี้แม่ไม่มั่นใจเลยนะ" แม่พูดอย่างน้อยใจ

    "งั้นก็ตกลงก็ได้ค่ะ แล้วอย่าลืมสัญญานะค่ะ"

    "จริงเหรอ โธ่ลูกรักของแม่ แม่ดีใจที่สุดเลย ตกลงแม่จะทำตามที่ลูกบอกนะ แต่ลูกก็อย่าลืมที่บอกกับแม่ไว้แล้วกัน เพราะแม่ไม่รู้ว่าอาการของแม่อาจจะกำเริบขึ้นมาหรือป่าวนะ"

    แม่โอบกอดฉัน แล้วลูบหัวฉันเบาๆ อย่างเอ็นดู
     (แต่มันแปลกๆ นะนุ่น: คนแต่ง) ยุ่งน่าคนเค้ากำลังอ่อนให้ก่อนในตอนนี้ แต่อย่าให้ฉันได้ทีบ้างแล้วกันนะแม่

    " แม่หนูรั กแม่นะ แม่ต้องไม่เป็นไรแน่ๆ แม่ต้องอยู่กับหนูนานๆ นะค่ะ" ฉันออดอ้อน

    "จ๊ะ แม่ก็รักนุ่น -_< "

    "โธ่เอ้ย ! ลูกพูดแบบนี้แม่ไม่มั่นใจเลยนะ" แม่พูดอย่างน้อยใจ

    "งั้นก็ตกลงก็ได้ค่ะ แล้วอย่าลืมสัญญานะค่ะ"

    "จริงเหรอ โธ่ลูกรักของแม่ แม่ดีใจที่สุดเลย ตกลงแม่จะทำตามที่ลูกบอกนะ แต่ลูกก็อย่าลืมที่บอกกับแม่ไว้แล้วกัน เพราะแม่ไม่รู้ว่าอาการของแม่อาจจะกำเริบขึ้นมาหรือป่าวนะ"

    แม่โอบกอดฉัน แล้วลูบหัวฉันเบาๆ อย่างเอ็นดู
     (แต่มันแปลกๆ นะนุ่น: คนแต่ง) ยุ่งน่าคนเค้ากำลังอ่อนให้ก่อนในตอนนี้ แต่อย่าให้ฉันได้ทีบ้างแล้วกันนะแม่

    " แม่หนูรั กแม่นะ แม่ต้องไม่เป็นไรแน่ๆ แม่ต้องอยู่กับหนูนานๆ นะค่ะ" ฉันออดอ้อน

    "จ๊ะ แม่ก็รักนุ่น -_< "

    (เจ้าเล่ห์จังนะ หลอกได้แม้กระทั้งลูกตัวเอง) อย่ามายุ่งซิ ไปไกลๆ เลย (เชอะ)

    "แต่ว่าที่บอกว่าโรคนะ หมายความว่าไงคะ แม่มีโรคประจำตัวด้วยเหรอคะ"

    ฉันถามแบบสงสัยสุดๆ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมานานแรมปี ก็ไม่เคยเห็นแม่เป็นโรคอะไรซักที แต่ถ้าอย่างมากก็เป็นไข้หวัดธรรมดานี่นา -_-?? : ฉันคิด

    ฉันถามแบบสงสัยสุดๆ เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมานานแรมปี ก็ไม่เคยเห็นแม่เป็นโรคอะไรซักที แต่ถ้าอย่างมากก็เป็นไข้หวัดธรรมดานี่นา -_-?? : ฉันคิด

    ว่าแล้วไง แล้วเราจะเป็นโรคอารายดีเนี่ย คิดซิคิด : แม่คิด

    "เออ..แม่เป็นโรคหัวใจนะจ๊ะ" แม่บอกอย่างนั้น

    "หา ! O_O แล้วแม่ไปหาหมอหรือยัง" ฉันถามด้วยความตกใจแบบสุดๆ
    " ไปแล้วจ๊ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ แม่มียาแล้วด้วย"

    "ค่ะ แต่ก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี ไปหาหมอหน่อยก่อนดีกว่านะ"

    "ไม่เป็นไร แม่เพิ่งไปเมื่อวานนี้เองไปบ่อยๆ เดี๋ยวหมอเขาเบื่อหน้าแม่แย่เลย"

    "เหรอคะ"

    "แม่ว่าเราไปทำอาหารกันดีกว่านะ" แม่เสนอ

    "เออ..แม่แน่ใจนะว่าจะไม่ให้หนูพาแม่ไปหาหมอนะ"

    "จ๊ะ เราไปกันทำอาหารกันดีกว่านะ"

    "ค่ะ ^_^"

    ~ ฉันตอบตกลงพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้แม่และหลังจากนั้นเราก็ช่วยกันทำอาหารให้พ่อและน้องทาน (จะกินได้ไหม) ฉันจะใส่ยาพิษให้เธอกินถ้าขืนยังพูดนอกเรื่องอีก

    (ไม่ยุ่งก็ได้เจ้าคะ) รีบแต่งต่าซิยะ (เจ้าคะ) ~

    + + + + + + + + เมื่อนำอาหารมาวางที่โต๊ะอาหาร + + + + + +
    "โอ้โห ! O_O O_O" นิคอุทานออกมา
    "เป็นไงน่ากินไหม" แม่ถาม
    "พี่ก็ช่วยทำนะ" ทำไมทำหน้าง่อยล่ะ เมื่อก็ยังยิ้มอยู่เลย ???
    "กินได้อะ ป่าวก็ไม่รู้" นิคแย้ง
    "อ้าว ! พูดงี้ก็สวยซิ"
    "ป่าว หล่อต่างหาก" ^_^Y เก็กหล่อ ก๊ากๆๆๆ (จะตายเหรอยัยบ้า : นุ่น)
    "หยุด ทะเลาะกันซักทีพ่อหิวข้าวแล้ว"
    (แฮะๆ ขอบคุณค่ะที่ช่วยขี้เกียจสันหาคำมาด่า)

    ฝ่ายคู่หมั้นชาย (คู่หมั้นของนุ่น)
    "หาาา ว่างัยนะแม่" นี่เสียงชายหนุ่มที่โชคร้าย (ว่าไงนะ : นุ่น)
    "ฉันเป็นผู้จัดการยะ"
    "แต่เออ…ผู้จัดการทำไมไม่ปรึกษากันก่อนละครับ" เฟรชบ่น
    "หรือแกอยากตกเป็นข่าวบ่อยๆ จนสื่อมวลชนออกมาประจาน"
    "แม่ทำไมต้องมีคู่หมั้นด้วยล่ะ" (ไม่เข้าใจเลยจริงๆๆ)
    "ก็จะได้ไม่มีข่าวเรื่องชู้สาวไงก็บอกแล้วนิ"
    "แล้วมีทางอื่นนอกจากทางนี้ไหม"
    "ไม่มี" ผู้จัดการยื่นคำขาด
    "แต่…"
    "ห้ามแต่ คิดซะว่าทำเพื่อบริษัทและชื่อเสียงของเธอนะช่วยหน่อยไม่ได้เหรอ"
    "แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วย ไอ้เฟรมก็ได้นิ"
    "ก็เฟรมไม่ได้ตกเป็นข่าวบ่อยๆ เหมือนแกนะซิ"
    "หมดกันชีวิตช่วงวัยวุ่นของฉัน" เฟรชบ่นกับตัวเอง
    "ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวเพื่อนฉันเธอเป็นเด็กน่ารักนะ"
    เฮ้อ ! อยากหายตัวได้จัง : เฟรชคิด
    "เป็นอันว่าแกตกลงนะ" พูดเองเออเองเลย
    "แต่..อะ ก็ได้" เฟรชยอมแต่โดยดี (ต่อไปเราจะเป็นไงบ้างนา)

    โปรดติดตามตอนไป

    ~ ฉันตอบตกลงพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้แม่และหลังจากนั้นเราก็ช่วยกันทำอาหารให้พ่อและน้องทาน (จะกินได้ไหม) ฉันจะใส่ยาพิษให้เธอกินถ้าขืนยังพูดนอกเรื่องอีก

    (ไม่ยุ่งก็ได้เจ้าคะ) รีบแต่งต่าซิยะ (เจ้าคะ) ~

    + + + + + + + + เมื่อนำอาหารมาวางที่โต๊ะอาหาร + + + + + +
    "โอ้โห ! O_O O_O" นิคอุทานออกมา
    "เป็นไงน่ากินไหม" แม่ถาม
    "พี่ก็ช่วยทำนะ" ทำไมทำหน้าง่อยล่ะ เมื่อก็ยังยิ้มอยู่เลย ???
    "กินได้อะ ป่าวก็ไม่รู้" นิคแย้ง
    "อ้าว ! พูดงี้ก็สวยซิ"
    "ป่าว หล่อต่างหาก" ^_^Y เก็กหล่อ ก๊ากๆๆๆ (จะตายเหรอยัยบ้า : นุ่น)
    "หยุด ทะเลาะกันซักทีพ่อหิวข้าวแล้ว"
    (แฮะๆ ขอบคุณค่ะที่ช่วยขี้เกียจสันหาคำมาด่า)

    ฝ่ายคู่หมั้นชาย (คู่หมั้นของนุ่น)
    "หาาา ว่างัยนะแม่" นี่เสียงชายหนุ่มที่โชคร้าย (ว่าไงนะ : นุ่น)
    "ฉันเป็นผู้จัดการยะ"
    "แต่เออ…ผู้จัดการทำไมไม่ปรึกษากันก่อนละครับ" เฟรชบ่น
    "หรือแกอยากตกเป็นข่าวบ่อยๆ จนสื่อมวลชนออกมาประจาน"
    "แม่ทำไมต้องมีคู่หมั้นด้วยล่ะ" (ไม่เข้าใจเลยจริงๆๆ)
    "ก็จะได้ไม่มีข่าวเรื่องชู้สาวไงก็บอกแล้วนิ"
    "แล้วมีทางอื่นนอกจากทางนี้ไหม"
    "ไม่มี" ผู้จัดการยื่นคำขาด
    "แต่…"
    "ห้ามแต่ คิดซะว่าทำเพื่อบริษัทและชื่อเสียงของเธอนะช่วยหน่อยไม่ได้เหรอ"
    "แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วย ไอ้เฟรมก็ได้นิ"
    "ก็เฟรมไม่ได้ตกเป็นข่าวบ่อยๆ เหมือนแกนะซิ"
    "หมดกันชีวิตช่วงวัยวุ่นของฉัน" เฟรชบ่นกับตัวเอง
    "ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวเพื่อนฉันเธอเป็นเด็กน่ารักนะ"
    เฮ้อ ! อยากหายตัวได้จัง : เฟรชคิด
    "เป็นอันว่าแกตกลงนะ" พูดเองเออเองเลย
    "แต่..อะ ก็ได้" เฟรชยอมแต่โดยดี (ต่อไปเราจะเป็นไงบ้างนา)

    โปรดติดตามตอนไป

    "ค่ะ แต่ก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี ไปหาหมอหน่อยก่อนดีกว่านะ"

    "ไม่เป็นไร แม่เพิ่งไปเมื่อวานนี้เองไปบ่อยๆ เดี๋ยวหมอเขาเบื่อหน้าแม่แย่เลย"

    "เหรอคะ"

    "แม่ว่าเราไปทำอาหารกันดีกว่านะ" แม่เสนอ

    "เออ..แม่แน่ใจนะว่าจะไม่ให้หนูพาแม่ไปหาหมอนะ"

    "จ๊ะ เราไปกันทำอาหารกันดีกว่านะ"

    "ค่ะ ^_^"

    ~ ฉันตอบตกลงพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้แม่และหลังจากนั้นเราก็ช่วยกันทำอาหารให้พ่อและน้องทาน (จะกินได้ไหม) ฉันจะใส่ยาพิษให้เธอกินถ้าขืนยังพูดนอกเรื่องอีก

    (ไม่ยุ่งก็ได้เจ้าคะ) รีบแต่งต่าซิยะ (เจ้าคะ) ~

    + + + + + + + + เมื่อนำอาหารมาวางที่โต๊ะอาหาร + + + + + +
    "โอ้โห ! O_O O_O" นิคอุทานออกมา
    "เป็นไงน่ากินไหม" แม่ถาม
    "พี่ก็ช่วยทำนะ" ทำไมทำหน้าง่อยล่ะ เมื่อก็ยังยิ้มอยู่เลย ???
    "กินได้อะ ป่าวก็ไม่รู้" นิคแย้ง
    "อ้าว ! พูดงี้ก็สวยซิ"
    "ป่าว หล่อต่างหาก" ^_^Y เก็กหล่อ ก๊ากๆๆๆ (จะตายเหรอยัยบ้า : นุ่น)
    "หยุด ทะเลาะกันซักทีพ่อหิวข้าวแล้ว"
    (แฮะๆ ขอบคุณค่ะที่ช่วยขี้เกียจสันหาคำมาด่า)

    ฝ่ายคู่หมั้นชาย (คู่หมั้นของนุ่น)
    "หาาา ว่างัยนะแม่" นี่เสียงชายหนุ่มที่โชคร้าย (ว่าไงนะ : นุ่น)
    "ฉันเป็นผู้จัดการยะ"
    "แต่เออ…ผู้จัดการทำไมไม่ปรึกษากันก่อนละครับ" เฟรชบ่น
    "หรือแกอยากตกเป็นข่าวบ่อยๆ จนสื่อมวลชนออกมาประจาน"
    "แม่ทำไมต้องมีคู่หมั้นด้วยล่ะ" (ไม่เข้าใจเลยจริงๆๆ)
    "ก็จะได้ไม่มีข่าวเรื่องชู้สาวไงก็บอกแล้วนิ"
    "แล้วมีทางอื่นนอกจากทางนี้ไหม"
    "ไม่มี" ผู้จัดการยื่นคำขาด
    "แต่…"
    "ห้ามแต่ คิดซะว่าทำเพื่อบริษัทและชื่อเสียงของเธอนะช่วยหน่อยไม่ได้เหรอ"
    "แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วย ไอ้เฟรมก็ได้นิ"
    "ก็เฟรมไม่ได้ตกเป็นข่าวบ่อยๆ เหมือนแกนะซิ"
    "หมดกันชีวิตช่วงวัยวุ่นของฉัน" เฟรชบ่นกับตัวเอง
    "ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวเพื่อนฉันเธอเป็นเด็กน่ารักนะ"
    เฮ้อ ! อยากหายตัวได้จัง : เฟรชคิด
    "เป็นอันว่าแกตกลงนะ" พูดเองเออเองเลย
    "แต่..อะ ก็ได้" เฟรชยอมแต่โดยดี (ต่อไปเราจะเป็นไงบ้างนา)

    โปรดติดตามตอนไป

    ~ ฉันตอบตกลงพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้แม่และหลังจากนั้นเราก็ช่วยกันทำอาหารให้พ่อและน้องทาน (จะกินได้ไหม) ฉันจะใส่ยาพิษให้เธอกินถ้าขืนยังพูดนอกเรื่องอีก

    (ไม่ยุ่งก็ได้เจ้าคะ) รีบแต่งต่าซิยะ (เจ้าคะ) ~

    + + + + + + + + เมื่อนำอาหารมาวางที่โต๊ะอาหาร + + + + + +
    "โอ้โห ! O_O O_O" นิคอุทานออกมา
    "เป็นไงน่ากินไหม" แม่ถาม
    "พี่ก็ช่วยทำนะ" ทำไมทำหน้าง่อยล่ะ เมื่อก็ยังยิ้มอยู่เลย ???
    "กินได้อะ ป่าวก็ไม่รู้" นิคแย้ง
    "อ้าว ! พูดงี้ก็สวยซิ"
    "ป่าว หล่อต่างหาก" ^_^Y เก็กหล่อ ก๊ากๆๆๆ (จะตายเหรอยัยบ้า : นุ่น)
    "หยุด ทะเลาะกันซักทีพ่อหิวข้าวแล้ว"
    (แฮะๆ ขอบคุณค่ะที่ช่วยขี้เกียจสันหาคำมาด่า)

    ฝ่ายคู่หมั้นชาย (คู่หมั้นของนุ่น)
    "หาาา ว่างัยนะแม่" นี่เสียงชายหนุ่มที่โชคร้าย (ว่าไงนะ : นุ่น)
    "ฉันเป็นผู้จัดการยะ"
    "แต่เออ…ผู้จัดการทำไมไม่ปรึกษากันก่อนละครับ" เฟรชบ่น
    "หรือแกอยากตกเป็นข่าวบ่อยๆ จนสื่อมวลชนออกมาประจาน"
    "แม่ทำไมต้องมีคู่หมั้นด้วยล่ะ" (ไม่เข้าใจเลยจริงๆๆ)
    "ก็จะได้ไม่มีข่าวเรื่องชู้สาวไงก็บอกแล้วนิ"
    "แล้วมีทางอื่นนอกจากทางนี้ไหม"
    "ไม่มี" ผู้จัดการยื่นคำขาด
    "แต่…"
    "ห้ามแต่ คิดซะว่าทำเพื่อบริษัทและชื่อเสียงของเธอนะช่วยหน่อยไม่ได้เหรอ"
    "แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วย ไอ้เฟรมก็ได้นิ"
    "ก็เฟรมไม่ได้ตกเป็นข่าวบ่อยๆ เหมือนแกนะซิ"
    "หมดกันชีวิตช่วงวัยวุ่นของฉัน" เฟรชบ่นกับตัวเอง
    "ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวเพื่อนฉันเธอเป็นเด็กน่ารักนะ"
    เฮ้อ ! อยากหายตัวได้จัง : เฟรชคิด
    "เป็นอันว่าแกตกลงนะ" พูดเองเออเองเลย
    "แต่..อะ ก็ได้" เฟรชยอมแต่โดยดี (ต่อไปเราจะเป็นไงบ้างนา)

    โปรดติดตามตอนไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×