ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (((FATE))) ชะตาอันสิ้นสูญ

    ลำดับตอนที่ #1 : 2 ชีวิตก่อกำเนิด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27
      0
      28 มิ.ย. 49


    (((((  อันเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเฉพาะตัวของตัวละครตัวหนึ่งจากเรื่อง LIFE

    WAY ของผู้แต่งที่มีอยู่ก่อนแล้ว  จะได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขามากขึ้น โปรดติดตาม

    อ่านได้นะคร้าบบบบบ )))))


      พ.ศ.4020

         สงครามได้ก่อตัวขึ้นและจบลงในปี  4120 ความสงบสุขกลับมาอีกครั้ง หลังจาก

    ได้สังเวย ความรัก ความตาย และจิตวิญญาณ การเสียสละเหล่านี้นำมาซึ่งอิสรภาพ

    ที่ทุกคน ต้องการ


           ณ ชนเผ่าลึกลับทางตะวันออก

    เสียงเซ็งแซ่ยามราตรี ดังกระหึ่มไปทั่วอาณาบริเวณ แสงไฟที่มาจากคบเพลิงและ

    เทียนไข ส่องสว่างกลบแสงจันทร์ไปทั่วแท่นทำพิธี บทสวดมนตร์ที่ดำเนินมากว่า  3

    วันก็จำเป็นต้องดำเนินต่อไป


        ชนเผ่า มู เป็นชนเผ่าที่เรียงร้อยถ้อยคำจากสวรรค์ลงมาอวตารเป็นมนุษย์ และ

    ด้วยเหตุนี้ ทำให้เผ่ามู ไม่จำเป็นต้องมีเพศหญิง ซึ่งเทพแต่ละองค์จะถ่ายทอดพลัง

    ส่วนหนึ่งให้ และมาอวตารเป็นมนุษย์10 ปีต่อ  1 คน


       และบัดนี้ บทสวดสดุดีแห่งชีวิตก็กำลังดำเนินอยู่ และใกล้จะจบลง ซึ่งนั่นแปลว่า

    อีกหนึ่งชีวิตจะกำเนิดขึ้นที่ชนเผ่าแห่งนี้ เพียงแต่...

          
                         วิ้ง~~~~~


    แสงสว่างเจิดจ้า ปรากฎขึ้นเช่นเดิม แสงนั่นค่อยๆ จางลงพร้อมกับปรากฏร่างของ

    เด็กทารก ซึ่งมีจำนวน.....

     2 คน

         และนี่คือจุดเริ่มต้นของ ความเศร้า ความรัก และการตัดสินใจ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

    แต่เรื่องราวทั้งหมดนี้ ไม่มีใครสามารถจำมันได้อีกต่อไปแล้ว

    ......................................................

    17 ปีต่อมา

             ณ หุบเขาแห่งหนึ่ง

              "สวัสดี"  เสียงของชายหนุ่ม ที่มีผมสีแดงเพลิง นัยน์ตาสีแดงเจิดจ้า ที่สวมใส่

    ชุดเหมือนนักบวชอยู่ ทักชายหนุ่มอีกคนหนึ่งที่กำลังจ้องมองท้องฟ้ายามเช้าอย่าง

    ปล่อยอารมณ์กับสายลมและแสงตะวัน

              "สวัสดี มิคาเอล มีธุระอะไรหรือเปล่า"  ชายหนุ่มที่จ้องมองท้องฟ้าอยู่ ก็ละ

    สายตาหันมามองเด็กหนุ่มอีกคนทันที เขามีหน้าตาที่ดูดี ผมสีทองและนัยน์ตาสีทอง

    ของเขาก็ดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจ

              "ก็นิดหน่อยน่ะ...คือแบบว่า ท่าน เซลเอล เรียกตัวนายกับฉันไปพบน่ะ"

              "นายพอรู้ไหมว่าเรื่องอะไร"  เด็กหนุ่มอีกคนถามด้วยความสงสัย

              "ไม่รู้สิ ไปก่อนเถอะเดี๋ยวก็รู้เองนั่นเหละ"  สิ้นเสียง มิคาเอล ก็เริ่มเดินนำหน้า

    ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งไป

       พวกเขาเดินผ่านทุ่งหญ้าสีเขียวขจี และทุ่งดอกไม้งามสะพรั่ง ไปตลอดทางที่ขึ้นๆ

    ลงๆ แสงอาทิตย์ยามเช้ายิ่งทำให้ธรรมชาติพวกนี้ดูสดใสยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนพวกเขา

    เดินมาถึง ที่ตั้งของชนเผ่ามู ซึ่งเป็นแค่หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ในภูเขา

         พวกเขาเดินตามทางไปเรื่อยๆ โดยจะพบเจอแต่ผู้ชายเท่านั้นที่อยู่ในหมู่บ้าน และ

    มีเด็กอายุ  7 ขวบอยู่หนึ่งคน ที่กำลังวิ่งไล่จับนกสีขาวที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเวทย์มนตร์

    ของเขาเอง พวกเขาเดินผ่านเด็กไปเรื่อยๆ จนลับสายตา และหยุดเท้าที่ หน้าบ้านไม้

    เก่าๆ แห่งหนึ่ง

    ทั้งสองหันมามองหน้ากันสักพักก่อนที่ จะเปิดประตูออกไป

              "ยินดีต้อนรับคนหนุ่มทั้งสอง"  เสียงของชายแก่ดังขึ้นทันทีที่ ประตูถูกปิดลง

              "ช่างเป็นเรื่อง ที่น่าดีใจยิ่งนัก ที่หมู่บ้านของเรานั้น มีคนเพิ่มขึ้นจากเดิม  1 คน

    ซึ่งตลอดพันปีมานี่ ไม่เคยเลยที่จะมีคนเพิ่มจาก  30 คน"  ผู้เฒ่าประจำหมู่บ้าน ที่มี

    หน้าตาซูบผอม แต่เขายังคงยืนได้อย่างสง่างามพูดขึ้น


              "ท่านเรียกพวกเรามาที่นี่ทำไมหรือ ท่านเซลเอล"  มิคาเอลถามด้วยท่าทีสงสัย
    พลางมองไปที่ชายแก่

              "ไม่ต้องใจร้อน  มิคาเอล ไม่ต้องใจร้อน "  เซลเอลพูดพลางหยิบถ้วยน้ำชาที่

    อยู่แถวนั้นมาสามใบ และรินของเหลวที่อยู่ข้างในกาน้ำชาออกมาอย่างระมัดระวัง

              "น้ำชาหน่อยมั๊ย"  เซลเอล ยื่นแก้วชาสองถ้วยให้ทั้งสอง

              "ไม่ดีกว่า ข้าว่า"  มิคาเอล รีบตอบปฎิเสธในทันที

              "อย่าให้เสียน้ำใจคนแก่สิ รับไปเถอะน่า แล้วเธอจะใจเย็นขึ้น"

    ด้วยการ คะยั้นคะยอ ของชายแก่ ทำให้ทั้งสองต้องรับถ้วยชามาจากชายแก่อย่างไม่

    เต็มใจนัก ทั้งสองจิบกันคนละอึก และเริ่มตั้งคำถามต่อ

              "ท่าน เรียกพวกเรามาที่นี่ทำไมหรือ"  มิคาเอล ถาม

              "ข้าคิดว่า ท่านคงจะมีงานให้เราเช่นเดิมใช่หรือเปล่า"  ชายหนุ่มที่มากับ มิคา

    เอล ถามขึ้นบ้าง ซึ่งนั้นก็ทำให้ เซลเอล ผู้อาวุโสต้องยิ้มกริ่มด้วยท่าทีที่พอใจ

              "เจ้าฉลาดมาก ใช้ได้ๆ คืองานคราวนี้น่ะ มันเกี่ยวข้องกับชนเผ่า เปอร์เซีย" 

    ความเงียบที่น่ากระอักกระอ่วนเข้าครอบงำทั้งสามอยู่นาน จนมิคาเอล เริ่มพูดขึ้นมา

    ใหม่
             
              "เปอร์เซีย....ชนเผ่านักฆ่ารับจ้างนั่นหรือเปล่า ที่เขาว่ากันว่าเป็นสุดยอดนั่น

    น่ะนะ"

              "ใช่ เพราะฉะนั้น งานนี้เป็นงานที่อันตรายมาก.....ฉันจึงจะไม่บังคับ เพียงพวก

    เจ้าพูดว่า  ไม่  "

         เซลเอล พูดด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง ต่างจากเมื่อสักครู่อย่างกับเป็นคนละคน

    เลยทีเดียว
             
              "อืม....มันก็ขึ้นอยู่กับจุดหมายของงานให้ไปทำอะไรน่ะ"  มิคาเอลตอบเสียง

    เครียด

              "อ๋อ  ข้าอยากให้พวกเจ้าไปช่วยตัวประกันออกมาหน่อยน่ะ ถ้าได้ตัวประกัน

    แล้วก็ไม่จำเป็นต้อง ฆ่า ทั้งหมดก็ได้"

              "ถ้าเป็นอย่างนั้น....มันก็ออกจะอันตะ..."  มิคาเอล ยังพูดถึงผลได้ผลเสียไม่ทัน

    จบ ชายหนุ่มอีกคนก็พูดโพล่งขึ้นมาเสียก่อน
             
              "พวกเราตกลงทำงานนี้"


    มือของ มิคาเอล นั้นไปหยุดปากของชายหนุ่มอีกคนไม่ทันเสียแล้ว เขาคิดอยู่แล้ว

    ว่า เพื่อนเขาคนนี้ พอได้ยินเรื่องชีวงชีวิตขึ้นมา ก็จะร้อนรนหาทางยุ่งเรื่องชาวบ้าน

    เขาทุกที

               "ดีมาก!!! ข้าดีใจเหลือเกิน ที่ได้ยินคำๆ นี้ออกมากจากปากของพวกเจ้า" 
     
    ชายแก่พูดพลางทุบโต๊ะ เขารินน้ำชา เพิ่มให้คนทั้งสอง ซึ่งน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว

    ก่อนที่เขาจะล้วงมือขยุกขยิก เพื่อหาของบางอย่างในสาบเสื้อ และดูเหมือนจะเจอ

    เสียด้วย
             
              "เอ้านี่ หมายกำหนดการ และก็สถานที่ๆ พวกเจ้าต้องไป"
             
              "เดี๋ยวก่อนๆ ข้ายัง..."

              "ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็ต้องขอตัวก่อน เพื่อไปเตรียมตัว"

    และก่อนที่ มิคาเอล จะได้พูดอะไรอีก ชายหนุ่มอีกคนก็ลาก มิคาเอล ออกจากบ้าน

    ไม้หลังโทรมแล้วเดินห่างบ้านนั้นไปพอสมควร  ก่อนจะปล่อยมือที่ปิดปาก มิคาเอล

    อยู่ออก ซึ่งปากของเขาก็เริ่มออกฤทธิ์ทันทีที่เป็นอิสระ


              "ไอ้.....ฮึ่ม ถ้าฉันไม่ได้บำเพ็ญอยู่นะ นายโดนด่าไปแล้ว  ว่าแต่นายไปรับงาน

    อันตราย อย่างนั้นได้ไงฟะ"  มิคาเอลพูดพลางใส่อารมณ์เต็มที่

              "อันตราย งั้นเหรอ มิคาเอล นายคิดดูให้ดีๆ ก่อนนะแล้วค่อยพูด งานครั้งนี้มัน

    เกี่ยวกับชีวิตคนนะ"

              "ทุกทีนั่นแหละ ทุกทีนายไม่เคยคิดถึงผลได้ผลเสียก่อนเล้ย ฉันว่าถ้าหูนายดี

    น่ะนะ นายคงได้ยินใช่ไหมว่า เราต้องรับมือกับใคร"  มิคาเอล พูดพลางชี้นิ้วไปที่

    หน้าของ ชายหนุ่มอีกคน
        
              "ชนเผ่า เปอร์เซีย "  คำพูดที่คงที่ของเสียงที่ออกมา ยั่วโมโห มิคาเอล ได้ไม่

    น้อย
     
              "ใช่!!!! ชนเผ่า เปอร์เซีย เราต้องรับมือกับอ้ายพวกนี้  ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันมีเท่า

    ไหร่ ฝีมือมันเป็นยังไง ถนัดอะไรบ้าง แล้วนายก็ยังตอบรับเขาไปโดยไม่คิด"

              "นายจะให้คนที่ถูกจับไป รออีกนานเท่าไหร่กัน!!!! นายควรจะไปหาคำตอบ

    ของคำว่า ชีวิต มาใหม่นะ มันไม่ใช่แค่หายใจไปวันๆ เรามีสิ่งที่เราฝัน เรามีสิ่งที่เรา

    ต้องการ และ เรามีสิ่งที่รอให้เราค้นหามากมาย นายตีค่าของคำว่าชีวิตน้อยไปหรือ

    เปล่า มิคาเอล"  สิ้นเสียง มิคาเอล ก็อึ้งไปนิดๆ เพราะไม่คิดว่าจะเห็นเพื่อนคนนี้

    ระเบิดอารมณ์ออกมา ซึ่งไม่ค่อยจะมีให้เห็น

              ".........ก็ได้ๆ ฉันยอมนาย งั้นเอาข้อมูล มาสิเดี๋ยวฉันวางแผนให้...แต่คงต้อง

    ใช้เวลาหน่อยล่ะกัน คงใช้วิธีเดิมๆ ไม่ได้อีกแล้ว"

              "หึ....ฝากด้วยล่ะกัน มิคาเอล ผู้ปราดเปรื่อง"  ชายหนุ่มแกล้งชมนิดๆ

              "แหม ฉันชอบให้นายพูดอย่างนี้จริงแฮะ"  มิคาเอล เชิดอกขึ้น แล้วเดินนำหน้า
    ชายหนุ่ม ไปเรื่อยๆ

       ทั้งสองมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูบ้านไม้สองชั้นหลังหนึ่ง แล้วเดินเข้าไปพร้อมกัน

    เพื่อเตรียมแผนสำหรับวันพรุ่งนี้

    .......................................................................

              "แผนการณ์ ของพวกเราไปถึงไหนแล้วล่ะ ฮึ"  เสียงของชายวัยกลางคน รูป

    ร่างอ้วนท้วมดังขึ้นในห้องๆ หนึ่ง ห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามไม่ต่างกับวัง
             
              "ครับ อีกไม่นานหรอกครับ ท่านได้โปรด รออีกสักหน่อย"  ชายแก่อีกคนที่ยืน

    อยู่ข้างๆ เจ้านายของเขาที่กำลังจิบไวน์ชั้นเลิศอยู่อย่างปล่อยอารมณ์

              "ฉัน ลงทุนกับตรงนี้ไปมากอย่าให้ผิดพลาดล่ะ"
     
              "ครับท่าน"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×