รวีวิทย์ชิดตะวัน
ผมใช้ชีวิตไม่เอาไหน เลยถูกเนรเทศจากเชียงใหม่ไปกระบี่ ต้องบะลูบะลี่บี้ตามพี่ชิตไปปลูกลำไย โทษทีครับ ผมรีบจนพูดไม่เป็นภาษา เอาเป็นว่า บะลูบะลี่บี้ แปลว่า ต้องทำทุกอย่างให้เสร็จเร็ว ๆ ก็แล้วกันนะครับ
ผู้เข้าชมรวม
1,691
ผู้เข้าชมเดือนนี้
24
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ไล่ออกจากบ้านเลยเหรอ”
“ไม่ได้ไล่ แต่จะให้ไปอยู่ที่อื่น”
“งง แล้วมันต่างกันยังไง”
“พ่อกับแม่จะให้วีไปอยู่กระบี่ ถึงเวลาแล้วที่วีควรจะมีงานทำ”
“กระบี่!”
“ใช่ พ่อกับแม่ไปคุยกับคุณชิตมาแล้ว เขาต้องการคนช่วยงานพอดี”
“ชิตไหน?”
“ชิตวัน เจ้านายเก่าพ่อ”
“ไม่ไปหรอก ไกล”
รวีวิทย์ยืนยันหนักแน่น ไม่มีทางย้ายจากเชียงใหม่ไปอยู่กระบี่ ไม่มีทาง! "
"รวีวิทย์" บัณฑิตจบใหม่ แต่ไร้ซึ้งอนาคต เพราะเรียนจบด้วยเกรดเฉลี่ยต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
เวลาทั้งหมดใช้ไปกับการเที่ยวเตร่ เสเพลดื่มเหล้าจนพ่อแม่ทนไม่ไหว
บุพการียื่นคำขาด หากสามเดือนต่อจากนี้ยังตกงาน ก็ต้องกลับมาดูแลสมบัติชิ้นสุดท้ายที่มี
นั่นคือการพลิกฟื้นสวนลำไยที่ทำกำไรน้อยลงทุกปี ให้กลับมามีรายได้ดีดังเดิม
แน่นอนว่าคนอย่างรวีวิทย์ไม่มีทางได้งานทำตามกำหนด เขาจึงต้องหอบผ้าผ่อน ย้ายจากเชียงใหม่ไปอยู่กระบี่
แต่แทนที่จะได้ใกล้ชิดทะเล ให้สาสมกับเป็นเมืองแห่งทะเลใต้ เขากลับต้องจมปลักอยู่ในสวนลำไย
สถานที่ซึ่งไร้สิ่งจรรโลงใจและแต่กลายเป็นแหล่งการเรียนรู้ โดยมีครูผู้สอนหลักสูตรการทำสวนลำไยนามว่า "ชิตวัน"
ผู้ชายคนนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสติไม่ตกกะปิ เอ้ย! ปกติ คนดีที่ไหนปลูกลำไยที่ภาคใต้ มีแต่คนปลูกที่ภาคเหนือทั้งนั้น
แต่ช่างเถอะ ในเมื่อเอาความหวังของพ่อแม่มาไกลถึงนี่ก็ลองดูสักตั้ง
ต่อไปชีวิตจะเป็นยังไงไม่รู้ จะปลูกลำไยรอดไหมก็มิอาจทราบได้
แต่ที่รู้ ๆ คือพ่อแม่สบายใจ... เมื่อลูกชายอยู่ในการดูแลของชิตวัน
ผลงานอื่นๆ ของ NavindaBac ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ NavindaBac
ความคิดเห็น