คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ง้องอน
ตอนที่ 6 : ง้องอน
ยาสุพยายามตั้งสติแล้วรวบรวมสัมปชัญญะที่ตกกระจายเก็บใส่สมองให้ครบถ้วนก่อนจะตาลีตาเหลือกวิ่งตามโฮชิโนะขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านหมายจะด่าและถามไถ่เรื่องราวความน่าสะพรึงกลัวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ให้รู้ดำรู้แดง อีกนัยหนึ่งหมายถึง...ตัวสยองขวัญที่มอดไหม้ไปกับกองไฟแล้วนั่นมันคืออะไรกันแน่! ชายหนุ่มกรีดร้องในใจแบบระทึกขวัญเกินจะกล่าว
ทว่า เมื่อเปิดประตูห้องนอนเข้าไป เขาก็พบว่าหญิงสาวกำลังนั่งหน้ามุ่ยกอดหมอนอยู่ที่พื้น ยาสุชะงักไปครู่หนึ่ง พอเห็นท่าทีงอนตุ๊บป่องของอีกฝ่ายแล้วเขาก็ทำอะไรไม่ถูกเอาเสียเลย แขนข้างที่ขาดบัดนี้งอกขึ้นมาใหม่เรียบร้อยแล้ว ยาสุแอบดูอย่างโล่งอกก่อนจะตรงเข้าไปนั่งข้างๆโฮชิโนะ แต่ก็ยังเว้นระยะห่างไว้พอสมควรเนื่องจากยังไม่ไว้วางใจ เกิดเธอคลุ้มคลั่งขึ้นมาในหลายๆความหมายเขาจะได้เผ่นหนีอย่างทันท่วงที
"ฉันขอโทษที่พูดจาแรงไป"
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างสำนึกผิดกับการที่ไล่หญิงสาวออกไปจากบ้านราวกับหมูกับหมา
"โฮชิโนะไม่ไปไหนหรอก โฮชิโนะจะอยู่กับเจ้าชาย"
เธอพูดแล้วเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ ยาสุถอนหายใจเฮือกใหญ่ อยู่ก็อยู่ได้แต่ใครจะรับรองความปลอดภัยให้เธอ วันดีคืนดีโดนแม่จับเอาไปขาย โดนพ่อจับเอาไปกิน ฉันมิต้องรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตเหรอ แต่จะพูดไปก็ดูไม่ดีกับพ่อและแม่ของเขาเท่าไรนัก
"ฉันก็แค่ไม่อยากให้เธอต้องเจอเหตุการณ์น่ากลัวๆหลังจากนี้"
ชายหนุ่มพยายามบอกเป็นนัยๆ แม้ความเป็นจริงแล้วอาจเป็นเขาเองก็ได้ที่ต้องเจอกับเหตุการณ์น่ากลัว...ใครจะไปรู้
"โฮชิโนะไม่กลัวหรอก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็จะอยู่กับเจ้าชาย"
น้ำเสียงมั่นใจของเงือกสาวทำเอายาสุรู้สึกปลาบปลื้มเล็กน้อยกับการที่มีคนมาอยู่เคียงข้าง แม้ว่าจะไม่ใช่คนจริงๆก็เถอะ
"แต่เธอเองก็ผิดนะ ฉันอุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ให้ออกไปเพ่นพ่าน ดันโดนพ่อแม่จับได้ซะงั้น"
"โฮชิโนะไม่ได้ตั้งใจนะ รู้สึกว่าผิวแห้งเกินไปจะไม่ดี ก็เลยแอบออกไปเข้าห้องน้ำ"
เธอบอกเหตุผลที่สมควรจะให้อภัยแต่ก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเห็นใจเสียเท่าไร
"โฮชิโนะนั่งรอเจ้าชายตั้งนาน ไม่คิดว่าการไปโรงเรียนของเจ้าชายจะยาวนานขนาดนี้ เจ้าชายนั่นแหละผิดที่ปล่อยให้โฮชิโนะรอนานจนทนไม่ไหว"
เธอโบ้ยความผิดพลางทำปากมู่ทู่ ยาสุแทบอยากจะฟันศอกยัยเงือกบ๊องนี่เสียหนึ่งที แต่ก็ต้องอดทนกับคำว่าสุภาพบุรุษของตนซึ่งมีอยู่น้อยนิดให้ถึงที่สุด
"ก็ได้ๆ ฉันผิดเองก็ได้ งั้นเธอก็เตรียมใจไว้เลยละกันว่า ต่อไปนี้ฉันจะต้องไปโรงเรียนอาทิตย์ละห้าถึงหกวัน ตั้งแต่เช้าจนเย็น ถ้าเธอรอไม่ได้ก็กลับลงทะเลไป"
"ไม่ค่ะ...โฮชิโนะรอได้" เธอกระชากเสียงเล็กน้อยด้วยความมั่นใจ ชายผิวคล้ำหัวเราะร่วนราวกับเอ็นดู ท่าทางแม่ดาวทะเลนี่ยังคงงอนเขาอยู่สินะ
"ไม่เอาน่า อย่างอนสิ เอางี้...พรุ่งนี้อยากกินอะไรล่ะ เดี๋ยวฉันจะซื้อมาฝาก"
"งั้นปลาทอง...!" หญิงสาวหันควับมาหาเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ยาสุจึงรีบเอามือไปยันหน้าเธอไว้ทันที
"ยกเว้นปลาทองเว้ย" ชายหนุ่มคำรามพร้อมนึกถึงวีรกรรมของยัยเงือกโฉดที่หม่ำปลาทองสุดที่รักของเขาไปเมื่อก่อนหน้านี้ คิดแล้วยังสะเทือนใจไม่หาย
"งั้นอะไรก็ได้ก๊ะ" โฮชิโนะพูดเสียงอู้อี้เพราะโดนมือยันแก้มเอาไว้ เธอส่งสายตาออดอ้อนออเซาะน้ำตาคลอจนน่าสงสาร ชายผิวคล้ำบ่ายหน้าไปมองทางอื่นก่อนจะปล่อยมือแล้วหัวเราะในลำคอ เฮ้อ...ไม่ว่าจะพูดจะทำอะไรก็ไล่ยัยนี่กลับลงทะเลไม่ได้เสียที ไม่สิ...แล้วทำไมเขาถึงต้องมานั่งง้อยัยนี่ด้วยล่ะ
...................
"เออใช่ เมื่อครู่...แขนเธอมันมีหน้าโผล่ออกมาแล้ววิ่งพรวดพราดมาหาฉันด้วยล่ะ" ยาสุเอ่ยเพราะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ให้ตายสิ...นี่เราลืมเรื่องสยองขวัญสั่นประสาทเมื่อสักครู่นี้ไปได้อย่างไรนะ แม่เงือกสาวหันมาพลางหัวเราะแหะๆเมื่อได้ทราบเรื่อง
"ก็โฮชิโนะเป็นเงือกสายพันธุ์ดาวทะเลนี่ค่ะ ถ้ามีอะไรขาดออกจากตัวก็สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ แถมส่วนที่ขาดก็ยังสามารถงอกกลายเป็นโฮชิโนะอีกคนได้ด้วย" เธอพูดราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร แต่ยาสุกลับทำหน้าเหวอไปแล้ว แค่ยัยนี่คนเดียวเขาก็แทบจะหัวใจวายตายอยู่แล้ว ขืนมียัยโฮชิโนะอีกหลายๆคน เขาต้องเอาหินถ่วงคอลงอ่าวโตเกียวแน่ๆ ไม่สิ...จะถ่วงตัวเองทำไม จับยัยนี่ถ่วงเสียเลยดีกว่า!
"แล้วเจ้าชายกำจัดโฮชิโนะน้อยนั่นอย่างไรคะ" เธอเอ่ยถามอย่างใคร่รู้
"ก็เตะเข้ากองไฟไป แต่เธอ เอ้ย...มันน่ะอึดชะมัดวิ่งออกมาหาฉันได้อีกทั้งๆที่ไฟท่วมไปหมด"
"อะไรกัน! ป่าเถื่อนที่สุด ทำไมทำกับโฮชิโนะน้อยอย่างนั้นล่ะคะ" เงือกสาวโพล่งขึ้นเชิงคร่ำครวญ ทำให้ยาสุรู้สึกสำนึกผิดขึ้นมา หรือเราจะโหดร้ายเกิดไป การฆ่าผู้หญิงโดยการเตะเข้ากองไฟเนี่ยมัน...ถึงจะมีแต่หัวกับมือก็เถอะ
"เจ้าชายต้องเอาไปราดน้ำมันก่อนสิค่ะจะได้ตายทีเดียว ถ้าไม่ราดน้ำมันก็จะไม่ตายในทีเดียวแถมวิ่งพล่านไปทั่ว" หญิงสาวบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ในขณะที่ชายหนุ่มหันไปอ้าปากค้าง วิธีของเธอมันซาดิสต์วิตถารกว่าฉันอีกไม่ใช่หรือไง
"อ...อ๋อเหรอ...ขอโทษนะ" เขาตอบรับแม้ใจจริงไม่ได้คิดว่าวิธีที่เงือกสาวบอกเป็นวิธีที่ถูกเลยแม้แต่น้อย
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ โฮชิโนะไม่โกรธเจ้าชายหรอก" เธอพูดพลางเข้ามาซบไหล่ยาสุที่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจพิกล เขาเอนกายพิงขอบเตียง พระจันทร์เริ่มทอแสงนวลละออในยามค่ำ ตัดกับฟ้าสีน้ำเงินอย่างลงตัว มีหญิงสาวซบไหล่เคียงข้าง แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้สร้างความโรแมนติกให้ชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย ในใจของเขาก็ครุ่นคิดแต่เพียงว่า...เขาจะต้องไม่ทำให้ยัยเงือกปีศาจนี่งอนหรืออะไรก็ตามจนต้องตัดแขนตัวเองอีกเป็นอันขาดเพื่อความปลอดภัยแก่ชีวิตของเขาเอง
ไม่อยากนึกภาพโฮชิโนะหลายสิบคนตอนวิ่งตามเขาเลยจริงๆ ยาสุภาวนากับแสงจันทร์ ในขณะที่เงือกสาวกลับดูมีความสุขดีกับไหล่แข็งๆของเขา
...................
ไม่รู้ว่ายาสุเผลอหลับไปตอนไหน แต่เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลาเช้าเสียแล้ว เขาค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วบิดกายไปมาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ถนัดนักเพราะหญิงสาวคนเดิมยังคงนอนซบไหล่เขาอยู่ ยัยเงือกบ้านี่ก็ได้ทีหลับซบไหล่เขาตลอดคืนเลยนะ ชายหนุ่มคิดพลางดันหัวเธอออกไปเบาๆ แต่ก็ต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มที่นอนพริ้มตาอย่างน่ารักน่าชัง
"ยาสุตื่นหรือยัง ไปโรงเรียนได้แล้ว!"
ปึงๆๆ เสียงเคาะประตูดังตามมาหลังเสียงเรียกของมารดา เขาสะดุ้งเล็กน้อย พลางลุกไปเปิดประตูห้องให้มารดาที่กระหน่ำเคาะราวกับไม่กลัวเจ็บมืออย่างงัวเงีย ทันทีที่ประตูเปิดออก ผู้เป็นแม่ก็ชะเง้อคอมองดูเงือกสาวที่นอนหลับใหลภายในห้องอย่างสนอกสนใจ ก่อนเอ่ยถามเขาว่า
"เมื่อคืนแกมีอะไรกับโฮชิโนะหรือเปล่า"
คำถามนั้นทำให้ยาสุตื่นเต็มตาแล้วรีบโวยวายกลับไปทันที
"จะไปมีได้ไงล่ะครับ!"
"เอ้า...ทำไมไม่มีซะล่ะ เผื่อมันมีลูกเป็นครึ่งคนครึ่งปลา เราก็จะได้ขายหลายๆต่อ ไม่รู้จะออกเป็นตัวหรือไข่นะเนี่ย" คำพูดของผู้เป็นแม่ดูทีเล่นทีจริงแต่ก็ทำเอายาสุถึงกับน้ำตาซึม ความคิดของผู้เป็นมารดา ทำไมถึงได้โหดร้ายกับลูกชายได้ขนาดนี้ ทีตอนแรกห้ามเรามีแฟน พอได้ของแปลกกลับยุยงซะงั้น จะออกเป็นไข่หรือตัวก็ช่างหัวมันเถอะครับแม่!
"เอาเถอะ แกรีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวสาย"
ผู้เป็นแม่เอ่ยพลางเดินจากไป เขาถอนหายใจอย่างหน่ายๆ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้ที่ราว ก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป สักพักหนึ่งเงือกสาวก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นพลางมองดูยาสุซึ่งอาบน้ำเสร็จแล้ว เขากำลังแต่งชุดนักเรียนตัวเดิมเหมือนที่เธอเห็นเมื่อวาน เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีกรมท่า หญิงสาวจึงเอ่ยถามอย่างงัวเงีย
"เจ้าชายจะไปโรงเรียนแล้วเหรอค่ะ"
"ใช่! เธอก็อยู่ในบ้านดีๆ อย่าสร้างความวุ่นวายในบ้านฉันละกัน" ชายหนุ่มย้ำแล้วหันมาทำหน้าดุใส่หญิงสาวอย่างเอาจริงเอาจัง ที่จริงอยากจะเสริมให้ระวังตัวจากพ่อกับแม่ของเขาด้วย แต่คิดว่าโฮชิโนะน่าจะป้องกันตัวเองได้จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ
"โฮชิโนะสัญญาว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายในบ้านของเจ้าชายค่ะ จะคิดเสียว่าเป็นบ้านของตัวเอง" เธอพูดด้วยความมั่นใจ ยาสุถึงกับยิ้มมุมปากสีหน้าเจื่อนๆ เฮ้ย...คำว่า คิดเสียว่าเป็นบ้านของตัวเอง มันน่าจะเป็นคำพูดของฉันไม่ใช่หรือไงฟะ แถมฉันยังไม่เคยพูดออกไปด้วยซ้ำ แต่เอาเถอะ...เขาไม่มีเวลามาเถียงกับยัยเงือกนี่แล้ว
"ฉันไปล่ะ" ยาสุบอกลาก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องนอนไป ทิ้งให้โฮชิโนะแอบยิ้มแป้นแล้นอยู่คนเดียวราวกับมีแผนการร้าย
+
+
ความคิดเห็น