[Three-Shot][PG]Some Body To Love[JoKwonXGaIn] - [Three-Shot][PG]Some Body To Love[JoKwonXGaIn] นิยาย [Three-Shot][PG]Some Body To Love[JoKwonXGaIn] : Dek-D.com - Writer

    [Three-Shot][PG]Some Body To Love[JoKwonXGaIn]

    เคยมีคนบอกกับฉันว่า การจากลา คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่สำหรับฉันแล้ว .. ฉันว่า ความรัก และความผูกพันต่างหาก ที่กำลังทำให้หัวใจฉันแทบจะแตกสลาย

    ผู้เข้าชมรวม

    743

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    743

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ก.พ. 54 / 13:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เคยมีคนบอกกับฉันว่า การจากลา คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่สำหรับฉันแล้ว .. ฉันว่า ความรัก และความผูกพันต่างหาก
    ที่กำลังทำให้หัวใจฉันแทบจะแตกสลาย



    ตั้งแต่วันแรกที่เราได้พบ เราก็เป็นแค่พี่น้องกัน
    จนถึงวันนี้ แม้จะมีหลายสิ่งอย่างที่ทำให้เราเข้าใจว่าเราเป็นมากกว่านั้น ..
    แต่สุดท้ายฉันคงจะเป็นคนที่ทำใจกับการมายืนที่จุดเริ่มต้นไม่ได้

    นี่มันผ่านมาเกือบเดือนแล้วสินะ ที่เราสองคนไม่มีคำจำกัดความของความสัมพันธ์ของเรา
    ใช่.. ฉันเอง เคยคิดว่าเป็นไปแบบนี้ก็คงจะดีที่สุด จบงานแล้ว ... ก็จบกันไป
    แต่ไม่รู้ว่าทำไม ฉันถึงได้รู้สึกอึดอัด จนแทบจะหายใจไม่ออก เวลาที่เจอหน้าเขา
    และไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือโชคดี รู้อะไรไหม? .. ฉันต้องเจอเขาทุกวันเลยล่ะ

    ควอนอ่า..ฉันพยายามจะทักทายเขาแบบปกติ
    อะไรหรอครับ?เขาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงใสซื่อเหมือนเคย
    เอ่อ.. นายกินข้าวหรือยัง?
    ยัง.. ผมว่าจะขอคนในกองกินดู หิวจะแย่อยู่แล้วสีหน้าหงุดหงิดนิดๆของเขา คงพิสูจน์ได้ว่าเขาหิวจริงๆ
    ฉันค่อยๆยื่นกระติกที่ใส่ซุปกระดูกวัวให้เขา เขารับไปด้วยสีหน้างงๆ ฉันเองก็งงเหมือนกัน ว่าฉันจะตื่นแต่เช้าทำมาให้เขากินทำไม
    ฉันได้ยินว่านายไม่ค่อยสบาย ก็เลย...ไปซื้อมาให้น่ะ พอดีฉัน..ฉันไปเดินเที่ยวมา บังเอิญเห็นร้านประจำเลยซื้อมาให้ก็เท่านั้นน่ะ
    ฉันพูดอะไรออกไปล่ะนั่น ฉันยอมรับก็ได้ ว่ารู้สึกประหม่าถ้าหากจะบอกเขาว่าฉันเป็นคนทำให้เขาเอง เพราะถ้าเขารู้
    เขาก็คงคิดเหมือนฉัน และคงสงสัย ว่าที่ฉันทำ ทำไปเพราะอะไร
    ในเมื่อ .. เราสองคนไม่ได้เป็นสามีภรรยาปลอมๆในรายการนั่นแล้ว ไม่สิ ถ้าจะให้ถูก ต้องบอกว่า เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันสินะ..
    อ่า .. ขอบคุณนะนูนาเขาเดินผ่านหน้าฉันไปอีกแล้ว ควอนอ่า ทำไมนายไม่มานั่งคุยกับฉัน อ้อนฉัน ซบไหล่ฉันเหมือนที่นายเคยทำล่ะ
    หรือที่ผ่านมา .. นายเห็นเรื่องของเราเป็นเพียงแค่งาน
    ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี นี่ ซนกาอิน เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนี้นะ ให้ตายเถอะ คนที่เคยมั่นใจ แสนชิคคนนั้น หายไปไหนแล้ว
    ถ้าเพียงแค่ฉันสามารถทำเย็นชาใส่เขาเหมือนที่ฉันเคยทำได้ อย่างน้อยๆฉันคงไม่ต้องมานั่งระแวงว่าใคร .. จะเห็นน้ำตาของฉัน

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันวานเลนไทน์แล้ว ใครๆก็มีความสุขกันทั้งนั้น แล้วทำไมผู้หญิงอย่างฉันต้องมานั่งร้องไห้
      ให้คนอย่างโจควอนด้วยนะ ฉันอึดอัดเหลือเกิน ฉันไม่อยากจะต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้
      ถ้าเพียงแต่เขาบอกกับฉัน ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับฉันแม้แต่สักนิดเดียว
      .. ฉันก็พร้อมที่จะกลับไปเป็นนูนาของนาย
      ฉันค่อยๆดึงหมวกลงมาปิดหน้าให้มากกว่าเดิม ก่อนจะกระชับเสื้อโค้ชให้แน่นขึ้น
      นี่มันก็เดือนกุมภาเข้าไปแล้ว ทำไมเกาหลียังหนาวอยู่เลยนะ มือของฉันที่ถูกคลุมด้วยถึงมือไหมพรมหนา
      กลับไม่มีความอบอุ่นแม้สักนิด เพราะข้างกายของฉันไม่มีเขาให้กุมมือเหมือนที่เคยเป็น
      น้ำตาหยดใสๆไหลลงมาจากตาของฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจจะปัดมันออก
      เพราะอย่างไรก็คงไม่มีใครเห็น ดวงตาที่มีแต่ความเจ็บช้ำของฉัน ภายใต้กรอบแว่นสีชา

      ฉันเดินมาหยุดอยู่ที่ตรงนี้อีกครั้ง มองเข้าไปในร้าน ในที่ที่ฉันได้เคยยืนอยู่ ที่ที่ฉันได้เคยหัวเราะ
      และยิ้มให้กับเขา
      บอกตรงๆว่าฉันไม่ได้อยากมาที่นี่สักนิด เพียงแต่.. ขาของฉัน มันพาร่างกายที่แทบไม่เหลือหัวใจมาหยุดอยู่ตรงนี้เอง
      ราวกับว่ามันต้องการที่จะมาหาเศษเสี้ยวของหัวใจของฉันที่หล่นหายไปให้เต็มสักที

      เห็นคู่รักมากมายเขาช่างดูมีความสุข ฉันเองก็เคยมีเวลาแบบนั้นกับเขานะ
      ผู้ชายที่ทำให้คนอย่างฉันเปลี่ยนไป ไม่เป็นตัวเองอย่างที่เคย เขาเข้ามาละลายกำแพงน้ำแข็งที่ฉันสร้างเอาไว้
      แล้วมาทิ้งฉันไปให้ต้องทนหนาวอยู่อย่างนี้เหรอ


      วันนี้ครบรอบหนึ่งเดือนแล้ว ที่เราสองคนออกจากรายการ ฉันไม่อยากจะพูดถึงเหตุผล
      ที่ทำให้เราต้องออกจากรายการนั้น แต่สิ่งที่ฉันจะขอยืนยันนั้นมีเพียงแค่สิ่งเดียว .. คือฉันไม่เคยเสียใจ
      กับการที่ต้องถูกมองว่าเป็นภรรยาของโจควอน แม้แต่สักครั้งเดียว เพราะที่ผ่านมา เขาทำให้ฉันมีความสุขอย่างมากมายจริงๆ
      เคยมีคนบอกกับฉันว่า การจากลา คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่สำหรับฉันแล้ว
      .. ฉันว่า ความรัก และความผูกพันต่างหาก ที่กำลังทำให้หัวใจฉันแทบจะแตกสลาย

      ถ้าเพียงแต่ฉันคิดกับเขาแค่น้องชาย ถ้าเพียงแต่ฉันคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องงาน ถ้าเพียงแต่ฉันไม่คิดอะไร
      ถ้าเพียงแต่ฉันไม่รู้สึกอะไร ถ้าเพียงแต่ฉันไม่ต้องการจะอยู่กับเขาตลอดเวลา ถ้าเพียงแต่ฉันไม่คิดถึงเขา
      ถ้าเพียงแต่ฉันไม่รักเขา ฉันคงไม่ต้องเสียใจแบบนี้ใช่ไหม ใครก็ได้ ช่วยตอบฉันทีเถอะ
      ฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แต่ตอนนี้ฉันกำลังนั่งดูรูปเก่าๆของเราสองคนอยู่
      ว่าแล้วน้ำตาก็เริ่มไหลมากาะที่หางตาของฉัน ไร้สาระจริงๆ ฉันดูตุ๊กตาที่เขาให้ฉันและยิ่มออกมา
      ขอโทษจริงๆนะที่ฉันเคยทิ้งขว้างแก เจ้าแพนด้าน้อย ป้ายคำปฏิญาณที่เราสองคนเคยทำด้วยกันก็ยังอยู่
      ฉันยังจำวันที่เขาบอกว่ารักฉันกลางห้างนั่นได้อยู่เลย
      แหวนคู่ที่เขาอุสส่าห์ตั้งใจทำให้ฉัน ถึงแม้มันจะเหมือนกอลรัม แต่ฉันก็ยังอยากจะเก็บไว้อยู่ดี
      ดอกไม้ช่อแรกที่เขาให้ฉัน ฉันก็เรามาทำเป็นดอกไม้แห้งเก็บเอาไว้ แหวนที่เคยอยู่ที่นิ้วนางข้างขวา
      ตอนนี้มันมาอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของฉันแทน แต่ฉันไม่สามารถจะใส่ออกจากหอได้อีกต่อไป
      ดอกกุหลาบที่เขาให้ฉันในวันที่เขาร้องเพลงย้ายบ้านให้ฉันฟัง กำไรข้อมือที่เขาซื้อให้
      กระเป๋าแบรนด์เนมสองใบที่เขาซื้อด้วยเงินของตัวเอง ความทรงจำมากมายไหลเวียนเข้ามาอยู่ในหัวของฉันอีกครั้ง

      “กาอินอ่า! เมื่อไหร่เธอจะเลิกเศร้าสักที ห๊า!”เสียงโวกเวกของพี่เจอาทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
      ฉันไม่จำเป็นต้องปิดบังเรื่องอะไรกับออนนี่ทุกคน แต่เพราะพี่เจอยู่กับฉันตลอดจนฉันรู้สึกว่าพี่เขาเป็นแม่คนที่สองของฉันซะแล้วล่ะ
      “ออนนี่ ก็ฉันเศร้าหนิคะ”ฉันกำลังอ้อนพี่เจอยู่ตามประสามักเน่
      “ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับฉัน เพราะว่าฉันรักเขามากเกินกว่าที่จะต้องทนเป็นพี่น้องกับเขาแล้วค่ะ”
      “โธ่! กาอินน้อยของฉัน ทำเป็นเก่งไปงั้น ที่แท้ก็ใจเซาะจริงๆ...” แหมพี่ พี่เองก็ใจเซาะเหมือนกันแหละ
      เห็นวันดีคืนดีก็มานั่งร้องไห้แต่งเพลงห้นาเปียโนเคล้าน้ำตา แต่อย่างว่าล่ะ ฉันพูดได้แค่ในใจเท่านั้น
      “ทำไมเธอไม่ไปถามเขาให้มันจบๆไปซะล่ะ”
      “ฉันกลัว..”
      “กลัวไปแล้วได้อะไรล่ะ กาอิน เธอไม่ได้อะไรเลยจากการกลัวของเธอ เธอได้เพียงแต่ความไม่แน่ใจ
      ความสับสน ความไม่แน่ใจ และน้ำตา”
      “แล้วถ้าเขาบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับฉันแล้วฉัน...”
      “ทำไมล่ะ ถ้ามันเป็นแบบนั้นแล้วจะยังไง เธอคิดว่าการที่คนสองคนจะรักกัน คบหาดูใจกันในแบบคนรักน่ะ
      มันจะต้องเป็นยังไง พี่จะบอกให้ว่ามันคือการใจของคนทั้งสองคนนั้นจะต้องเหมือนกัน คือต่างมีความรักให้กันและกัน
      ถ้าเพียงแต่ขาดข้อนี้ไปทุกอย่างก็จบ ...”น้ำตาของฉันไหลลงมาอีกครั้ง
      “ความรักน่ะนะ มันไม่ได้มีรูปแบบเดียวสักหน่อย ความรักไม่ใช่การครอบครอง เธอมีทางให้เดินอีกตั้งหลายทาง
      อย่างแรก คือเธอยอมแพ้ ยอมรับว่าตัวเองมันไม่เริ่ดพอที่จะทำให้เขาสนใจหรือหลงรักในตัวเธอ ทั้งที่อยู่ด้วยกันมาเป็นปี..
      หรือถ้าพี่จะพูดให้ดูดีก็คือการเฝ้ามองเขาอย่างมีความสุข แม้ว่าเราจะไม่ใช่คนคนนั้นของเขาก็ตาม”
      “อย่างที่สองเธอยังคงไม่ยอมแพ้และสู้ต่อไปเพื่อให้เขาสนใจเธอ และอย่างที่สาม คนอย่างซนกาอิน
      ใช่ว่าจะหาใหม่ไม่ได้นะจ๊ะ คบคนใหม่เอาไปเย้ยโจควอนซะเลย”ฉันค่อยๆยิ้มออกมาเพราะคำพูดที่พี่เจพูดออกมา
      “เพราะฉะนั้น ไม่มีอะไรที่เธอจะต้องกลัวอีกต่อไป เพราะถ้าเขาไม่สนใจเธอ เขาเองนั่นแหละที่โง่ โง่ที่จะทิ้งเธอไป”
      “แต่พี่ค่อนข้างเชื่อนะ ว่าโจซอบังของพี่ยังมีความฉลาดอยู่บ้างน่ะ”พี่เจขยี้หัวฉันให้ยุ่งเบาๆก่อนจะเดินออกไป
      จากห้องของฉัน นั่นสินะ ฉันจะมาเสียใจอยู่ทำไม ถึงฉันจะรักเขามาก แต่ถ้าหากเขาคิดว่าฉันไม่ใช่ ฉันก็จะต้องยอมรับแต่โดยดี
      เพราะความรักที่สวยงานนั้นไม่ใช่การครอบครอง หากแต่คือการมีความสุขกับการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข


      14 กุมภา วันวาเลนไทน์ บังเอิญจริงๆที่เป็นวันหยุดของฉันและกองถ่าย เหมือนฉันจะมีความสุขนะ
      ฉันพึ่งจะวางสายจากผู้กำกับเมื่อกี้นี้ เขาบอกว่า มีซอนออนนี่ นายองออนนี่และเหล่านักแสดงทั้งหลาย พากันโดดหมด
      เห็นจะมีแค่ฉันกับโจควอนเนี่ยแหละ ที่หลงมากันอยู่แค่สองคน แต่คงไม่มีใครรู้ใช่ไหม ว่าที่ฉันมาก็เพราะว่ามันเป็นทาง
      ที่ฉันจะได้เจอหน้าเขาก็เท่านั้น
      “ทำไมเป็นแบบนี้นะ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยสักนิด แล้วนี่ฮยองยังส่งข้อความมาบอกว่ามีงานเข้ามาแทนด่วนตอนเที่ยงซะอีก”
      เขายังคงยืนบ่นอยู่กับโทรศัพท์ตัวเอง ให้ตายเถอะ
      “นายคงจะรู้สึกว่าเสียเวลาที่ต้องมาสินะ...”ฉันพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้าเขาแม้แต่สักนิด
      “ก็ไม่หรอก เพราะอย่างน้อยก็มีบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกคุ้มค่าที่จะได้มาอยู่บ้าง”ฉันหันไปมองหน้าเขาอย่างงงๆ
      “กาอินนูนา ผมอยากได้ช็อกโกแลตจัง”เขาเอาคางมาเกยที่ไหล่ของฉัน แล้วฉันก็ไม่ได้หลบแต่อย่างใด
      ฉันรู้สึกคิดถึงบรรยากาศแบบนี้จัง
      “ถ้าได้ช็อกโกแลตคิสจากสาวๆก็คงจะดี”
      “ย่า นายก็ไปหาเอาซิ ผู้หญิงที่รอให้จูบนายน่ะมีเยอะแยะไป ถ้าคิดไม่ออกก็ ไป..ไปหายัยโอบังชิลดูก็ได้
      เผื่อถ้าจะอยากให้นาย ปกติให้กันทุกปีอยู่แล้วนี่ ปีนี้ขอเป็นจูบแทนก็คงไม่เสียหายหรอกมั้ง”
      พี่หึงผมหรอ เอ... ตอนนี้เราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่ หึ”เขายิ้มออกมานิดๆ แล้วยัดกระดาษเล็กๆใส่มือฉัน
      ก่อนที่เขาจะได้เห็น ว่าน้ำตาของฉัน ไหลออกมาเพราะคำพูดของเขาตอกย้ำให้ฉันเข้าใจซะที
      ใช่! ตอนนี้เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ... เราไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ

      ฉันต้องมางานเดินแบบให้เสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่งที่ฉันเป็นพรีเซนต์เตอร์แบบกะทันหัน
      อย่าแปลกใจว่าทำไมบริษัทยักษ์ใหญ่ถึงได้ทำงานไม่เรียบร้อย ไม่รู้จักเตรียมงานให้ดี
      ที่จริงแล้วเขาเตรียมงานไว้เป็นอย่างดีแล้ว เพียงแต่ว่าพี่คยองซาน ลืมบอกฉันเท่านั้นล่ะ
      ฉันต้องรีบมาลองเสื้อผ้าแล้วฝึกเดินตั้งแต่ออกมาจากกองถ่าย ฉันยังไม่ได้กินข้าวเลย
      เพราะถ้าฉันกิน แล้วพุงมันจะออก หลังจากฉันรู้คิวการทำงานทั้งหมดแล้ว
      ถึงได้มานั่งเหม่อมองท้องฟ้าสีคุ่นอีกครั้ง สายลมแผ่วเบาพัดผ่านพาให้ต้นไม้ทั้งหลายพลิ้วไหว
      มันเป็นภาพที่ฉันมองแล้วทั้งรู้สึกดีและหดหู่ใจ ถ้าเพียงแต่สายลมหยุดพัด
      ต้นไม้ก็จะไม่ต้องผลัดใบเปลี่ยนแปลง แต่มันคงจะไม่มีวันนั้น วันที่สายลมจะหยุดอยู่กับที่
      พัดเพียงแต่รอบๆตัวของฉันแค่เพียงคนเดียว เพราะสายลม...
      ยังคงต้องพัดพานำความสุขสงบไปให้ผู้คนและสรรพสิ่งทั้งหลายอยู่เสมอ
      “อ่ะ กาแฟ แล้วนี่ขนมปัง”ฉันหันไปมองค้อนคยองซานออนนี่ที่ยื่นกาแฟกับขนมปังเจ้าโปรดของฉันมาให้
      ก่อนจะรับมันไว้ แล้วกินอย่างช้าๆ
      “นั่งเหม่ออีกแล้วนะ กาอิน”
      “ก็ฉันเหนื่อยหนิคะ เพราะพี่นั่นแหละ ฉันถึงต้องมานั่งปวดน่องอยู่เนี่ย”
      “โธ่! พี่ขอโทษ หายโกรธเถอะ!”
      “ช่างมันเถอะค่ะ”
      “คือ..ฉันจะบอกว่าคืนนี้เธอไม่มีงานแล้ว จะออกไปไหนก็ได้นะ”
      “ฉันก็อยากออกอยู่หรอก แต่ไม่รู้จะไปไหนกับใคร”
      “อ้าว...ก็”ไม่ทันที่พี่คยองซานจะได้พูดอะไรต่อโอปป้าผู้จัดการอีกคนก็เรียกเธอไป
      ฉันขี้เกียจจะนั่งเศร้าต่อแล้ว ไปซ้อมต่อดีกว่า
      ฉันถูกถามถึงโจควอนอีกแล้ว ... พิธีกรถามฉันว่าตอนนี้เป็นอะไรกับโจควอน ... ไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ
      ...ถ้าฉันตอบแบบนั้นฉันคงมีแต่แอนตี้แฟน...แต่ฉันต้องยอมรับแล้วล่ะ ว่ามันเป็นแบบนั้น
      ฉันตอบเขาไปได้เพียงแค่ว่าเป็นฝาแฝดกันตามซิทคอม แต่ฉันไม่ได้อยากเป็นพี่สาวเขาสักหน่อย
      ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบสี่ทุ่มแล้ว ฉันอยู่ในหอนั่งคุยกับนารชาออนนี่ผ่านวีดีโอคอนเฟอเร้นท์อยู่
      พี่เจอาบ่นว่าอิจฉาพี่นารชาไม่หยุด เพราะภาพที่ฉันเห็นในโทรศัพท์เนี่ยแหละ ทุกคนอาจจะไม่รู้ว่าป้าชอบกินเด็ก
      ฉันไม่รู้ว่าพี่เขาไปหลอกหนุ่มๆมาจากไหน แต่ที่แน่ๆเด็กน้อยพวกนั้นก็ยอมให้ออนนี่ล่อลวงอยู่ดี
      เด็กน้อยผู้น่าสงสาร ไม่ได้รู้ถึงความร้ายกาจของป้าเลย
      “ออนนี่ วันหลังพี่หาแฟนให้ฉันสักคนสิ เอาแบบหล่อๆ แมนๆ แล้วต้องอายุมากกว่าฉันด้วยนะ”
      “ทำมาเป็นพูด ฉันรู้หรอกหน่า ว่าเธอแอบกิ๊กกับควอนนี่อ่ะ”
      “จะบ้าหรือไงออนนี่ ฉัน..ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย เป็นแค่เพื่อนร่วมงานก็เท่านั้น”
      “ยัยเด็กโง่!”พี่เจอากับพี่นารชาว่าฉันพร้อมๆกัน
      “เชอะ ฉันไม่คุยกับพี่แล้ว ไปอยู่กับหนุ่มๆเลยไป เดี๋ยวนี้ไม่รักฉันแล้วสิ เจอของใหม่ไปหน่อย ถึงกับลืมฉันเลยหรือไง”
      ฉันไม่ปล่อยให้ออนนี่ได้พูดอะไรต่อ เพราะฉันตัดสายทิ้งไปแล้ว ไปเคลียร์กับหนุ่มน้อยเองล่ะกันน้า


      ฉันมองโทรศัพท์ในมือที่มีมิสคอลไม่ต่ำกว่าสามสิบสาย ใครโทรมานักหนา
      ญาติไม่สบายหรือไงย่ะ หงุดหงิดจริง........ โจควอน กระต่ายน้อย ... ฉันรีบโทรกลับหาควอนนี่ทันที
      ไม่รู้ว่าเขาเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าถึงได้โทรตามฉันติดๆขนาดนี้
      “ย่า โจควอน นายมีอะไร”ฉันกรอกเสียงลงไปทันทีที่เขารับสาย
      “กาอินอ่า! พี่อยู่ไหน ผมรอพี่จนจะแข็งตายอยู่แล้วนะ”เขาบ่นฉันกลับมาด้วน้ำเสียงที่แสนหงุดหงิด
      หรือบางทีฉันรู้ว่าเขากำลังน้อยใจ...
      “อะไรของนาย ฉันก็อยู่ที่หอฉันสิ”
      “นี่พี่ได้อ่านกระดาษที่ผมส่งให้ไปไหม”เสียงของเขาเย็นลงไปทันทีจนฉันรู้สึกหวั่นใจ
      “เปล่า”
      “มาหาผมที่สวนสาธารณะที่เราเจอกันครั้งแรก เดี๋ยวนี้ !”
      “ฮะ จะบ้าเหรอไง ไกลจะตาย ฉันจะไปได้ไง”
      “ไม่รู้แหละ แต่พี่ต้องมาถึงที่นี่ ภายในสิบห้านาที”
      “สิบหน้านาที จะบ้าหรือไง”เขาไม่ฟังเสียงเรียกร้องของฉันอีกต่อไป เพราะเขาวางสายไปแล้ว
      นายกล้าตัดสายฉันทิ้งเหรอโจควอน แต่ ..ฉันจะทำยังไงดี

      “กาอิน ฉันลืมบอกไป ว่าฉันโทรไปเรียกรถที่บริษัทมาให้ตั้งแต่สองทุ่มแล้วย่ะ รู้แล้วก็รีบๆไปซะ เดี๋ยวโจซอบังของฉันจะไปสบาย"
      “ขอบคุณนะคะพี่”ฉันหันไปมองพี่เจอาอย่างซึ้งใจก่อนจะรีบหยิบข้าวของที่จำเป็นติดตัวแ
      ล้วลงมาชั้นล่างของหอ
      ทันทีที่ฉันขึ้นรถมาฉันก็รีบหยิบกระดาษที่โจควอนส่งให้ขึ้นมาอ่าน
      ‘สามทุ่ม เจอกันที่โอ๊คเกดงนะ ที่รักของผม’
      ....ฉันไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกของตัวเองออกมายังไง น้ำตามันลื่นขึ้นมาที่ขอบตา
      ฉันรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะว่าฉัน .. ยังคงเป็นที่รักของโจควอนอยู่
      “โอปป้าคะ แวะซื้อช็อกโกแลตหน่อยนะคะ”

      แผ่นหลังที่แสนคุ้นเคย มือนุ่มที่ฉันเคยได้รับไออุ่นกำลังขยับขึ้นลงที่ต้นแขนเพื่อคลายความหนาว
      หัวใจของฉันเต้นเร็วขึ้นทันทีที่ได้เห็นเขาอยู่ตรงหน้า ฉันไม่รอช้าที่จะเข้าไปให้ความอบอุ่นให้เขา
      ฉันสอดมือเข้าไประหว่างสองแขนกำยำ ตอนนี้หัวใจของฉันกำลังแนบสนิทกับร่างกายของเขา
      เพื่อเติมเต็มความรู้สึกเดิมๆที่ฉันเคยรู้สึกว่ามันหายไป
      “นูนา ..”
      “นายไม่ต้องพูดอะไรหรอก นายพูดมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ฉันจะต้องเป็นคนพูดบ้างแล้วล่ะ”
      “ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะตกหลุมรักผู้ชายแบบนาย โจควอน แต่ทุกๆครั้งที่เราเจอกัน และได้อยู่ด้วยกัน
      นายก็ค่อยๆเติมใจของฉันทีล่ะนิด จากที่ไม่เคยรู้สึกอะไร ก็รู้สึกประหม่า จากที่ไม่เคยรู้สึกอายอะไร กลับต้องรู้สึกแอบเขินอยู่ในใจ”
      ฉันกระชับอ้อมกอดของเขาเข้ามา เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกอายของตัวเอง
      “จากไม่กล้าแม้แต่จะจับมือกัน กลับต้องการแค่เพียงสัมผัสจากมืออุ่นๆของนาย จากที่ไม่เจอหน้ากันแล้วไม่รู้สึกอะไร
      กลับคิดถึงต้องการจะเจอหน้า จากที่ฉันสามารถนอนหลับตาเองได้ กลับนอนไม่ได้ถ้าไม่ได้ยินเสียงของนายบอกราตรีสวัสดิ์
      จากที่ฉันไม่เคยคิดว่าไม่สามารถลืมเรื่องร้ายๆจากรักครั้งแรกของตัวเองได้ แต่ฉันกลับต้องการที่จะลบล้างมันออกไป
      เพื่อให้มีแค่เพียงที่แค่นายที่ฉันจะนึกถึง”มือของเขากำลังจับมือของฉันแน่น
      “จากที่ฉันไม่อยากจะใช้คำว่ารักกับใคร ฉันกลับต้องการที่จะบอกนายว่า ..”
      “ฉันรักนาย โจควอน รู้หรือเปล่า?”
      โจควอนหันกลับมาดึงฉันเขาไปในอ้อมกอดของเขา ฉันไม่รู้จะทำอะไรอีกต่อไป เหมือนสมองของฉันมันขาวโพลนไปหมด
      รู้สึกเหมือนกำลังจะล่องลอยเหมือนปุยนุ่น แต่กลับเหมือนมีอะไรถ่วงฉันเอาไว้ มันหนักอึ้งไปหมด
      ใบหน้าของฉันร้าวผ่าวเพราะความใกล้ของเรา ริมฝีปากของเขากำลังจะประทับที่ริมฝีปากของฉัน แต่ ..
      “เดี๋ยวก่อน!”ฉันร้องห้ามเขาเสียงหลง จนเขาผละไปแต่ยังคงไม่ยอมละอ้อมกอดไปจากร่างกายของฉัน
      “อะไรล่ะนูนา”
      “อยากกินช็อกโกแลตไหม?”เขาพยักหน้าทันที ก็วันนี้วันวาเลนไทน์หนินะ ฉันจะต้องให้ช็อกโกแลตเขาซิ
      ฉันรีบกินช็อกโกแลตเข้าไปปากของฉัน ก่อนจะประทับริมฝีปากของตัวเข้ากับรีบฝีปากของเขาอย่างรวดเร็ว
      และเขาเองก็ไม่รอช้าที่ลิ้มรสช็อกโกแลตในปากของฉัน มันช่างแสนหวานจนฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร
      เป็นความหวานจากรสช็อกโกแลตหรือลิ้นร้อนที่แทรกผ่านโพรงปากของฉัน กันแน่ ฉันไม่รู้ว่าอากาศตอนนี้อุณหภูมิเป็นอย่างไร
      ฉันรู้แค่เพียงว่าร่างกายของฉันร้อนเหมือนถูกเอาไฟมาสุม ขาของฉันแทบจะยืนไม่ได้เพราะมันไม่เหลือเรี่ยวแรงให้ทรงตัว
      ถ้าไม่เพราะเพียงอ้อมกอดเขาแล้วฉันคงจะลงไปกองกับพื้น ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้ฉันรู้สึกเบลอ
      ทั้งหมดที่เป็นเพราะความรักความอบอุ่นที่เข้าส่งผ่านมาทางริมฝีปากนี้ของเขา
      เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วนะ ฉันเองก็ไม่แน่ใจ แต่นานมากพอที่จะทำให้ฉันหายใจไม่ออกซะแล้ว
      ฉันค่อยๆผละออกจากริมฝีปากนุ่มของคนตรงหน้า เขาทำสีหน้าไม่พอใจฉันนิดหน่อย แต่พอฉันยิ้มให้เขา เขาก็ยิ้มออกมา
      “นายชอบเอาเปรียบฉันอยู่เรื่อย”
      “ผมเอาเปรียบพี่ซะที่ไหน เมื่อกี้ใครกันนะ ที่มาจูบผม”
      “เอาเถอะ ฉันไม่เห็นคนที่จูบนายเมื่อกี้หรอกนะ เพราะฉันเห็นแค่คนที่ฉันรักเท่านั้นแหละ”ฉันไม่รู้ว่ากล้าพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไง
      “พี่พูดแบบนี้ อยากให้ผมจูบอีกใช่ไหม”จะบ้าหรอ โจควอน ฉันไม่ตอบอะไรนอกจากตีแขนเขา
      เพราะเขาพยายามยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันอีกครั้ง
      “สรุปแล้ว นายให้ฉันออกมาทนสภาพอากาศที่หนาวเหน็บแบบนี้พร้อมกับนายทำไม ฮะ?”
      “เมื่อกี้พี่ยังไม่ร้อนพออีกหรือไง”
      “จะบ้าเหรอ”ฉันตีเขาอีกครั้งด้วยความเขินอาย ไปหัดพูดแบบนี้มาจากใครนะ ชางมินโอปป้า อิมซิลลอง หรือมักเน่จินอุนกันแน่
      “จะตอบดีดีไหม ไม่งั้นฉันจะกลับล่ะ”ฉันเดินหนีเขา แต่ก็โดนดึงเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอย่างแรง
      บ้าพลังเหมือนเดิม ฉันเจ็บนะ อีตาบ้า
      ตกลงเราเป็นอะไรกัน”โจควอนถามฉัน ฉันเองก็ไม่รู้จะตอบอะไรดี นอกจากมองตาเขาอย่างเดียว
      ในเมื่อฉันพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากจะพูดกับเขาไปหมดแล้ว ถ้าเขายังไม่รู้ ฉันก็คงไม่รู้จะทำอะไรแล้วเหมือนกัน
      “สำหรับผม ตั้งแต่ผมเด็กจนโต ผมตั้งใจทำทุกอย่าง ตั้งใจเป็นนักร้อง มากจนละทิ้งความรักในสมัยเรียน
      แต่พี่เข้าใจใช่ไหม ในช่วงเวลาที่พ่อแม่ผมกำลังลำบากอยู่กับงาน เพื่อส่งเงินให้ผมเรียน
      ถ้าผมจะละทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อคนที่ผมชอบแล้ว ผมคงจะกลายเป็นลูกอกตัญญู”
      ฉันได้แต่เงียบฟังเขาอย่างตั้งใจแล้วซุกหน้าของตัวเองเข้าไปในอกอุ่นของเขา ฉันเข้าใจนายแล้ว เข้าใจทุกอย่าง
      “แต่ตอนนี้ ผมสามารถซื้อบ้านให้พ่อแม่ผมได้แล้ว ทำให้พวกท่านสบายได้แล้ว ผมก็ไม่มีอะไรจะต้องห่วง
      นอกจากหัวใจของผมเอง ... ตลอดเวลาที่ไม่ได้มีพี่อยู่ข้างตัวผม ในฐานะภรรยาแล้ว
      ผมรู้สึกเหมือนชีวิตของผมขาดอะไรไปสักอย่างที่มันสำคัญมาก เป็นสิ่งพิเศษที่ผมมีแค่คนเดียวในชีวิต
      “พี่เคยถามผม ว่าทำไมไม่เคยมีคนรักเลย ผมก็คงจะตอบพี่ได้ว่า คงเพราะพระเจ้าต้องการให้ผมมาเจอกับพี่
      แค่พี่คนเดียวเท่านั้น แค่ซนกาอิน ที่ผมจะรัก
      “ควอนอ่า..”
      “ทีนี้พี่จะตอบผมได้หรือยังว่าเราเป็นอะไรกัน ..ในเมื่อเราทั้งสองคนรักกัน”
      ฉันคือคนที่รักนาย นายคือคนที่รักฉัน เราคือคนที่รักกัน...”
      “เป็นแฟนกับผมนะ ... ถึงแม้ว่าวันนี้ ผมจะยังไม่ได้ดังอะไรมาก ยังหาเงินได้ไม่เยอะ แต่ผมจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน
      ไปขอพี่จากพ่อแม่ของพี่ เก็บเงินซื้อบ้านแบบอพาร์ทเม้นท์ที่หรูๆกว้างๆสบายๆอย่างที่พี่ต้องการ
      และเก็บเงินเพื่ออนาคตที่สดใสของลูกแฝดของเรา”
      “ใครจะไปมีลูกกับนายเล่า..”
      “ก็พี่นั่นแหละ เพราะพี่เป็นแฟนของผม ตอบตกลงเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเราก็กลิ้งลงเขาไปพร้อมกันให้ตายไปเลย”
      “จะบ้าเหรอ ฮ่าๆ”ฉันได้แต่ขำกับคำพูดของเขา โจควอนก็คือโจควอนอยู่วันยังค่ำ
      “ได้ ฉันจะเป็นแฟนกับนาย แต่นายต้องสัญญากับฉัน ว่าจะรักฉันแค่คนเดียว ห้ามนอกใจฉันเป็นอันขาด ไม่งั้นนายตาย”
      “ผมจะไปรักคนอื่นได้ยังไง ก็บอกแล้วไง ว่าต้องเป็นพี่เท่านั้น ผมถึงจะรัก”ฉันมองค้อนเขาเบาๆก่อนจะกอดเขาแน่น
      จริงอย่างที่เขาพูด ฉันเองก็เหมือนกัน...
      ต่อจากนี้ ก็จะมีนายแค่คนเดียว ที่ฉันจะรักเหมือนกัน



      จบ....

      -----------------------------------------


      จบไปแล้วนะคะ สามช็อต ที่จริงลงไว้ที่บ้านตัวเล็กแล้ว
      แต่อยากเอามาฝากที่นี่ด้วย ลงที่นี่ได้ใช่ไหมคะ ฮ่าๆ

      ตอนนี้ยังขาดสเปเชี่ยลอยู่ ซึ่งเป็น Behind the sense
      ถ้าผลตอบรับจากผู้อ่านดีคงจะได้คลอดกันออกมา
      แต่ว่าคงจะต้องอีกเป็นอาทิตย์เหมือนกันค่ะ
      เพราะว่าอาทิตย์หน้าสอบแล้ว พอสบเสร็จก็ต้องเข้าค่ายต่อ

      อย่างไรก็ตาม หวังว่าทุกคนจะชอบและกดไลค์(ไม่ใช่ล่ะ)
      คอมเม้นท์ติชมกันด้วยนะคะ อย่าเป็นนักอ่านเงาที่เข้ามาและออกไปนะเออเฮอะ
      ขอบคุณทุกคนมากที่จะเข้ามาอ่าน ขอบคุณทุกคนมากที่คอมเม้นท์ค่า

      ขอบคุณธีมบทความด้วยค่ะ Dr. Fu 

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×