ธาตุ๔_อัคคีภาค (รีไรท์)

ลำดับตอนที่ #2 : บทแรก_จลาจลสวรรค์

อัคคีภาค
บทแรก
“จลาจลสวรรค์”

                เทพวิญญูธาตุผู้ปกครองอาณาจักรสวรรค์ชั้นเวรี่อิมพ๊อดต์สิเบิลภพหรือที่รู้จักในนามสวรรค์ชั้นวีไอพีนั้นบัดนี้ได้ลงไปจุติแล้ว นั่นก็หมายความว่าสวรรค์ในขณะนี้กำลังขาดผู้นำ และจากสภาวะนี้เองทำให้เกิดเศรษฐกิจฝืดเคืองนรกไม่มาลงทุนเนื่องจากการเมืองยังไม่นิ่ง ส่งผลให้หุ้นดัชนีดาวกระจายตกต่ำ น้ำมันหมูขึ้นราคาน้ำมันตับปลามีประโยชน์ ค่าขนส่งกระโดดทีเดียวยี่สิบบาททั้งๆที่เมฆประจำทางไม่ต้องใช้น้ำมัน สร้างความเดือดร้อนให้บังเกิดแก่ประชากรสวรรค์เป็นอันมากตอนแรกๆปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ได้ทวีความรุนแรงมากเท่าไหร่คลังสวรรค์ยังพอมีเงินสำรองอุ้มธุรกิจอยู่ แต่พอนานๆไปเริ่มจะแย่เงินในคลังหมดเร็วเกินคาดเนื่องจากความหล่ะหลวมของฝ่ายบัญชี เป็นเหตุให้เศรษฐกิจยิ่งทรุดตัวหนักเข้าไปอีก สถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้อยู่นานนับเดือนจนในที่สุดบริษัทสวรรค์บางบริษัทจึงจำเป็นต้องปลดเทวดาบางส่วนออกเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย การลอยแพเทวดาชั้นผู้น้อยจึงตามมาก่อให้เกิดปัญหาการว่างงานเป็นจำนวนมาก ไม่นานม๊อบเทวดาเกิดขึ้นทุกย่อมหญ้ามีทั้งฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ต่างฝ่ายต่างใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน และจากการสัมภาษณ์ของสำนักข่าวรอยตุ๊ดเลยได้ข้อมูลว่าที่พวกเขาตีกันไม่ใช่เพื่อเรียกร้องเรื่องตกงานแต่เป็นเพราะตกงานแล้วว่างจัดต่างหาก เพราะไม่รู้จะเอาเวลาไปทำอะไรเลยตีกันเล่นๆ เป็นเหตุให้ความมั่นคงของสวรรค์ในขณะนี้ดูจะคลอนแคลง

เหล่าผู้คุมสวรรค์ต่างพยายามหาวิธีในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น บ้างก็เสนอให้ย้ายที่ตั้งสวรรค์เพราะฮัวจุ้ยไม่เหมาะสมบ้างก็ออกมาคอนเฟิร์มว่าสวรรค์ถึงคราวต้องเปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่ ซึ่งแต่ละความคิดเห็นที่เสนอมาล้วนชวนให้น่าปวดหัวยิ่งนัก แต่ยังมีความเห็นหนึ่งที่ดูจะเป็นที่สนใจของเหล่าคณะปกครองนั่นก็คือการคัดเลือกเทพผู้ปกครองสูงสุดองค์ใหม่โดยเร็วเพื่อแก้ต้นตอของปัญหาทั้งมวล ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อไม่ให้สวรรค์ชั้นอื่นขาดความมั่นใจในเสถียรภาพของสวรรค์ชั้นวีไอพี ผู้ที่จะขึ้นมาปกครองจึงต้องเป็นที่ยอมรับทั้งจากในและนอกชั้น แล้วคำถามที่ตามมาก็คือเทวดาองค์ไหนกันที่จะคู่ควรรับตำแหน่งนี้

การค้นหาผู้ปกครองสวรรค์ชั้นวีไอพียังดำเนินต่อไปท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงของสื่อมวลชนสวรรค์เกี่ยวกับความไม่ชอบธรรมในการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่ง จนในที่สุดทางสภาผู้คุมสวรรค์ชั้นวีไอพีจึงออกมาประกาศว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งอันสำคัญยิ่งนี้ต้องถึงพร้อมด้วยสมบัติอันบริบูรณ์ทั้งห้าซึ่งประกอบไปด้วย
ประการแรกเป็นที่ยอมรับแก่เทพทั้งหลาย
ประการที่สองต้องเคยผ่าฟันอุปสรรคบนโลกมนุษย์มาก่อนจนมีบุญบารมีที่สมบูรณ์พร้อม
ประการที่สามต้องมากด้วยอิทธิฤทธิ์เชี่ยวชาญวิชาอาคมเป็นที่ยำเกรงของเหล่าปีศาจ
ประการที่สี่ต้องมีดวงจิตอันบริสุทธิ์อ่อนโยนถือเอาความเมตตาเป็นหลัก
ประการสุดท้ายต้องมีความซื่อสัตย์รักเกียรติศักดิ์ศรียิ่งชีพไม่ทำให้สวรรค์ชั้นวีไอพีต้องขายหน้า

หลังจากประกาศนี้ถูกแพร่กระจายไปได้ไม่นานก็มีเหล่าเทวดาใหญ่น้อยเดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อมากรอกใบสมัคร จำนวนผู้เข้าร่วมการคัดเลือกตอนนี้มากมายยิ่งกว่าผู้เข้าประกวดรายการโชว์รายการหนึ่งบนสวรรค์ที่มีชื่อว่า เดอะโลกา เสียอีก แต่ถึงท้ายที่สุดแล้วก็ยังไม่สามารถค้นหาผู้ที่เหมาะสมได้ ทำให้เป็นที่เหนื่อยใจของสภาผู้คุมสวรรค์ชั้นวีไอพียิ่ง

“เห้อ!…ท่านเทพไร้พ่าย ข้าล่ะเหนื่อยใจยิ่งนัก” เทพองค์หนึ่งในเครื่องทรงลายไทยสีทอง กล่าวอย่างท้อใจบนบรรลังเมฆของเขาภายในห้องส่วนตัว

“เรื่องผู้ปกครองสวรรค์องค์ใหม่รึ ท่านเทพทรงธรรม” เทพเครื่องทรงสีแดงอีกองค์เอ่ยอยู่ข้างๆ ดูท่าเขาจะมีตำแหน่งต่างจากเทพองค์เมื่อครู่เพียงเล็กน้อย

“ตัวข้าเองเป็นผู้กุมอำนาจตัดสินใจสูงสุดในเรื่องนี้มีรึจะไม่ลำบากใจ” เทพทรงธรรมมองออกไปยังสวนสวรรค์ที่อยู่ไม่ไกล ความกลัดกลุ้มกองสุมหัวไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นภาษาใดๆได้

“หากท่านไม่รังเกลียดที่ข้าเป็นเพียงแม่ทัพสวรรค์ผู้ต่ำต้อย ข้าขออาสาออกตามหาเทพองค์นั้นเอง เพียงเวลาไม่เกินครึ่งวัน ท่านจะได้ผู้ที่เหมาะสม”

“ท่านพอรู้รึ ว่าเทพองค์ใดที่มีคุณสมบัติอันบริบูรณ์ทั้งห้า” เทพทรงธรรมเอ่ยอย่างสนใจ นัยน์ตาสีเหลืองอ่อนเริ่มปรากฎความหวัง

“ตอนนี้ในใจข้ามีเทพอยู่สี่องค์เหลือก็แต่การทดสอบเท่านั้น” เทพไร้พ่ายก้มหัวอย่างนอบน้อมพร้อมกับยิ้มเล็กๆที่มุมปาก

“สี่องค์เชียวรึ…พวกเขาเป็นใครกัน” ผิวนวลละเอียดหรี่ตาลง ความกังขามีมากเกินกว่าจะเก็บไว้

“อย่าได้เร่งรัดข้าน้อยเลยในตอนนี้ เพียงท่านเรียกประชุมสภาท่านก็จะพบกับคำตอบที่พึงใจ”

                เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เทพไร้พ่ายเข้าปรึกษา เทพทรงธรรมก็เรียกประชุมสภาสวรรค์เป็นการเร่งด่วน ทางด้านเทพไร้พ่ายที่เตรียมการล่วงหน้ามาเป็นอย่างดีได้ยื่นเอกสารประวัติส่วนตัวของผู้ที่เขาหมายตาต่อสภาผู้คุมสวรรค์ ไม่บ่อยครั้งนักที่เทพฝ่ายนักรบจะเข้ามายุ่งกับเรื่องการเมือง ครานี้เห็นทีสวรรค์คงจะระส่ำระสายจริงๆ

“เอกสารในมือของพวกท่านคือประวัติส่วนตัวและผลงานที่ผ่านมาของเทพทั้งสี่ ซึ่งทางฝ่ายปกครองเห็นพ้องว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสม หากไม่เป็นการเสียมารยาทจนเกินควร ข้าขอใคร่เรียนเชิญให้พวกท่านเปิดดูเพื่อพิจารณาอย่างรอบคอบต่อไป” เทพไร้พ่ายยืนกล่าวอย่างองอาจท่ามกลางสายตาของเทพฝ่ายบริหารในสภา

“ช้าก่อนท่านเทพไร้พ่าย ข้าจำได้ว่าในรัฐธรรมนูญสวรรค์ไม่มีบทบัญญัติใดที่กล่าวถึงอำนาจคัดสรรที่มาจากฝ่ายปกครอง” เทพองค์หนึ่งในสภาลุกขึ้นกล่าวคัดค้านสิทธิ์ของเทพไร้พ่ายทั้งๆที่ยังไม่ได้ชายตามองเอกสารเลยแม้แต่น้อย

“ดูก่อนท่านเทพที่เคารพ รัฐธรรมนูญที่ท่านกล่าวอ้างสามารถแก้ไขสถานการณ์ในขณะนี้ได้หรือไม่ ถ้าไม่ ข้าขอแนะนำให้ท่านนั่งลงและก้มหน้าอ่านเอกสารของข้าต่อ”เสียงหนักแน่นเปล่งออกมาก้องกังวาล ไม่มีเทพองค์ใดกล้าคัดค้านอีก พวกเขาเปิดดูเอกสารทุกหน้าอย่างละเอียดถี่ถ้วนจนกระทั่งมีคำถามจากเทพองค์หนึ่ง “ข้ามีเรื่องติดใจอยู่เล็กน้อย จริงอยู่ที่เทพทั้งสี่เป็นผู้มีฝีมือ หากแต่ประสบการณ์ยังน้อยอายุเพียงไม่กี่หมื่นปีมนุษย์ ท่านมีความมั่นใจอันใดจึงเลือกพวกเขา” เทพฝ่ายบริหารท่าทางอวุโสเอ่ยขึ้น

“ความมั่นใจในตอนนี้ยังไม่มี แต่ถ้า…พวกท่านอยากรู้จริงรึ”

                เทพไร้พ่ายท่าทางเจ้าเล่ห์ ท่าทีที่ขัดกับลักษณะนิสัยตรงไปตรงมาของเขาสร้างความงุนงงให้บังเกิดแก่เทพฝ่ายบริหารเป็นอย่างมาก เขามีแผนอันใดในการคัดเลือกเทพผู้ปกครองสูงสุด ไม่แน่การเรียกประชุมสภาของเขาในครั้งนี้อาจมีแผนการร้ายซ่อนอยู่ การปฏิวัติสามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะ หรือถ้าไม่ ใยต้องเสนอชื่อเทพถึงสี่องค์ในขณะที่ผู้ปกครองสวรรค์ขั้นวีไอพีมีเพียงตำแหน่งเดียว และถ้าสมมุติว่าเทพไร้พ่ายบริสุทธิ์ใจจริง จ้าวอัคคีเทพผู้ปกครองพญาครุฑ จ้าววารีเทพผู้ครองเมืองพญาภุชงค์ เทพวายุพัดผู้ปกป้องน่านฟ้า เทพปฐพีผู้ปกปักแผ่นดิน รายชื่อที่เสนอมาใครกันที่คู่ควร ในเมื่อไม่มีทางออกที่ดีกว่าเทพฝ่ายบริหารจึงเห็นควรให้จัดการทดสอบเทพทั้งสี่ พอสวรรค์มีมติอนุมัติ ยี่สิบปีให้หลังโลกก็ถึงคราววิบัติ…